ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความทรงจำสีจางๆกับความรักของสองเรา

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4... ยิ่งใกล้กันยิ่งกลั้นใจ

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.พ. 54


              นับจากวันที่หนิงแอบตามศิลป์ไปจนถึงที่บริษัทเมื่อมีเวลาว่างหนิงก็จะแวะไปหาศิลป์ที่บริษัทของเขาเสมอและวันนี้ก็เช่นกันตอนเย็นหลังจากที่หนิงทำงานเสร็จแล้วก็รีบเดินทางมาหาศิลป์ที่บริษัททันตอนที่ศิลป์กำลังจะเดินไปที่รถพอดี

                    พี่กร.... หนิงตะโกนเรียกก่อนที่ศิลป์จะก้าวพ้นประตูบริษัท

                    มาอีกแล้วเหรอคุณ นี่คือคำทักทายประจำตัวของศิลป์ทุกครั้งที่เจอหนิง

                    อ้าว!!ก็พี่กรทำงานที่นี่ไม่ไห้หนิงมาหาพี่ที่นี่แล้วจะให้ไปหาที่ไหนล่ะ...ว่าแต่รถพี่ซ่อมเสร็จแล้วเหรอหนิงไม่เห็นพี่ไปขึ้นรถเมล์แล้ว

                    อืม...ซ่อมเสร็จแล้วล่ะ แล้วนี่กินไรมายังล่ะเรา

                    แหะ…”หนิงหัวเราะแบบอายๆก่อนจะเอามือลูบท้อง ยังไม่ได้กินไรเลยพอทำงานเสร็จก็รีบนั่งรถมาที่นี่เลยกลัวพี่กรกลับไปก่อนแล้วจะไม่ได้เจอ

                    ก่อนมองอาการของหนิงแบบขำๆแกมเอ็นดูก่อนจะกล่าว ไป...อยากกินไรล่ะฉันเลี้ยงเอง

                    จริงเหรอ…” หนิงถามพร้อมกับเข้าไปเขย่าแขนศิลป์ด้วยความดีใจ

                    อืม... ศิลป์ตอบเสียงในลำคอพร้อมกับพยักหน้าก่อนจะเดินนำหนิงไปที่รถของตน

     

                    ไม่ช้าทั้งคู่ก็เดินทางมาถึงห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใกล้ๆกับที่ทำงานของศิลป์หลังจากที่ศิลป์เอารถไปจอดยังลานจอดรถแล้วเขาก็พาหนิงไปยังร้านอาหารร้านหนึ่งในห้างนั้นโดยที่ไม่ได้ทันสังเกตอาการแปลกๆของหนิงจนเมื่อทั้งคู่มานั่งที่โต๊ะเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้นแหละศิลป์ถึงสังเกตเห็น

                    เป็นอะไรไปล่ะคุณไม่ชอบร้านนี้เหรอ

                    ปล่าวค่ะ...เพียงแต่ร้านนี้เป็นร้านที่หนิงกับพี่กรชอบมาทานกันบ่อยๆ หนิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้า

                    เมื่อได้ยินดังนั้นศิลป์ก็รู้สึกผิดจึงกล่าว เราย้ายร้านกันก็ได้นะ

                    ไม่เป็นไรค่ะทานที่นี่แหละ หนิงตอบก่อนจะปรับน้ำเสียงให้ร่าเริงอีกครั้ง ว่าแต่พี่กรจะทานอะไรดีล่ะ

                    อาหารไทยฉันไม่ค่อยถนัดเท่าไรเธอสั่งให้ฉันก็แล้วกันนะ

                    แล้วหนิงก็สั่งอาหารสองสามอย่างมาทานกันโดยช่วงที่เธอกำลังเลือกอาหารอยู่นั้นทีแรกเธอจะสั่งอาหารแบบเดียวกับที่กรของเธอเคยชอบแต่แล้วก็เปลี่ยนใจไปสั่งอย่างอื่นแทน

                    เมื่ออาหารที่สั่งไว้มาเสริฟทั้งคู่ก็นั่งทานกันไปคุยกันไปอย่างถูกคอ 

                    แสดงว่าตอนเด็กคุณซนมากเลยนะเนี่ย ศิลป์พูดขึ้นมาในตอนหนึ่ง

                    ใช่...แล้วพี่กรไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็กเลยเหรอค่ะ

                    ใช่ครับ...ผมไปเรียนที่นั้นตั้งแต่เด็กนะพอดีพ่อกับแม่ผมท่านต้องไปทำงานที่นั้นผมก็เลยต้องไปอยู่ที่นั้นตั้งแต่ตอนนั้นนี่ถ้าคุณลุงท่านไม่แก่มากแล้วคิดจะวางมือจากธุรกิจผมคงไม่ได้กลับมาเมืองไทยเร็วแบบนี้หรอก  นี่ก็เห็นว่ากำลังคิดจะขยายโรงงานอีก

                    หนิงนั่งฟังเรื่องราวของศิลป์อย่างตั้งใจแล้วก็ถามบ้างเป็นบางครั้ง  ทั้งคู่แลกเปลี่ยนเรื่องราวของกันและกันเหมือนกับคนที่รู้จักกันมานานแล้วไม่ได้พบกันนานๆได้มาเจอกันอีกครั้งต่างจึงแลกเปลี่ยนเรื่องราวของกันและกัน

     

                    เมื่อทานอาหารเสร็จศิลป์ก็ขับรถไปส่งหนิงที่หน้าบ้าน

                    นี่บ้านคุณเหรอ... ศิลป์ถามเมื่อรถมาจอดยังหน้าบ้านของหนิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

                    ใช่ค่ะ...ขอบคุณพี่กรมากเลยนะค่ะที่มาส่งวันนี้หนิงมีความสุขมากเลย หนิงกล่าวก่อนจะก้าวลงจากรถ

                    ศิลป์รอส่งหนิงจนหนิงก้าวเข้าไปในบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงขับรถจากไปเมื่อหนิงก้าวเข้ามาในบ้านแล้วคุณบังอรจึงถามขึ้น

                    ใครมาส่งเหรอลูกแม่เห็นรถไม่ใช่รถของพ่อนะนี่

                    เออ...หนิงตัดสินใจอยู่ว่าจะบอกเรื่องของศิลป์ดีไหมแต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เพื่อนนะค่ะไม่ใช่พี่นะหรอก

                    นายตั้มเหรอ ตั้มคือเพื่อนสนิทคนหนึ่งสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของหนิง 

                    ปล่าวหรอกค่ะแม่เพื่อนคนนี้แม่ไม่รู้จักหรอกค่ะหนิงเพิ่งได้รู้จักเขาไม่นานมานี้เองไว้วันหลังหนิงค่อยพามาให้รู้จักนะค่ะรับรองแม่เห็นแล้วต้องตกใจแน่ๆเลย แต่ตอนนี้หนิงขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะค่ะ หนิงพูดพร้อมกับเข้าไปหอมแก้วผู้เป็นมารดาก่อนจะเดินขึ้นบ้านไปโดยมีสายตาของนางบังอรมองตามไปอย่างดีใจที่เห็นลูกสาวกลับมาสดใสอีกครั้งหลังจากวันนั้นที่นางกับสามีได้ยินหนิงร้องไห้อยู่ในห้อง

     

                    ที่บ้านของศิลป์หลังจากที่เขาไปส่งหนิงเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาก็กลับมานั่งคิดถึงเรื่องของ หนิงอยู่ที่หน้าบ้านลุงนพจึงเข้ามาคุยด้วย

                    ลุงนพเป็นชายชราท่าทางใจดีอายุประมาณ 75 ปีแม้ท่านจะแก่มากแล้วแต่ก็ยังดูแข็งแรงดีอยู่ไม่มีเค้าของความชราเลยแม้แต่น้อย

                    นั่งคิดอะไรอยู่รึเจ้าศิลป์ลุงเห็นเรามานั่งตรงนี้อยู่ตั้งนานแล้ว

                    ลุงครับ...ลุงเคยรู้สึกกับใครแบบนี้ไหมครับ ศิลป์ถาม

                    แบบไหนล่ะ

                    รู้สึกอยากจะอยู่ใกล้ๆ  อยากจะเห็นรอยยิ้มของเธอเวลาเธอไม่มาให้เห็นหน้าเราก็คอยมองหา  แต่เวลาเธอมาอยู่ใกล้ๆเราเรากลับพยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้ทำตัวสนิทสนมกับเธอแต่เหมือนกับยิ่งพยายามห้ามใจตัวเองมากเท่าไรเรากลับยิ่งอยากอยู่ใกล้ๆเธอมากขึ้นเท่านั้น

                    เคยซิ...ลุงนพตอบก่อนจะเงียบไปพักหนึ่งเหมือนคิดอะไรจนศิลป์ต้องหันไปมอง  แล้วลุงนพก็ยิ้มให้กับศิลป์ก่อนจะตอบ ก็กับป้าของหลานไงล่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×