ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าชายของหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 11 ส.ค. 49


    3

     

    (ความคิดของลลิตา)

                  
     
    การสอบผ่านไปได้โดยดีเพราะพี่เรที่เอาแต่คอยมานั่งจ้ำจี้จ้ำไชแบบแทบไม่ได้ขาด มีอยู่เพียงวันสองวัน ช่วงที่พี่เรกับพี่เอกทำหน้าที่เป็นคนขับรถชั่วคราวให้กับฉันเท่านั้น ที่พี่เรไม่ได้มาคุมฉัน แต่ฉันก็เป็นเด็กดีนะ ที่ตั้งใจอ่านหนังสือโดยที่ไม่ต้องมีใครบอก

                  
     
    หลังสอบเสร็จ ฉันก็เริ่มวุ่นวายอยู่กับงานกิจกรรมที่จะมีในอีกไม่กี่วันข้างหน้า งานโรงเรียนทำให้ฉันต้องกลับบ้านเย็นๆตลอด และพี่เรก็ช่างดีแสนดีที่รอฉันเสมอไม่ว่ามันจะฉันจะกลับบ้านช้าแค่ไหน

                   
    วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ฉันกับเพื่อนช่วยกันนั่งเป่าลูกโป่งจนลมแทบหมดปอด ฉันอยู่กับเพื่อนๆอีกราวๆสี่ห้าคนที่เป่าลูกโป่งกันเป็นบ้าเป็นหลัง

                                   
    "เหลืออีกกี่ลูกล่ะเนี่ย"  ฉันครางเมื่อเห็นจำนวนลูกโป่งที่ยังเหลืออีกหนึ่งถุงใหญ่ๆ

                                   
    "เป่าๆไปเถอะน่า เดี๋ยวก็หมด"  เฟิร์น  เพื่อนสนิทของฉันยัดลูกโป่งอีกใบใส่มือของฉัน

                                   
    "ถ้าเหนื่อยก็พักแป๊บก็ได้นะ"  โจ ผู้ชายเพียงคนเดียวที่มีน้ำใจมาช่วยพวกผู้หญิงอย่างเราๆทำงานเอ่ยขึ้น  ส่วนผู้ชายคนอื่นๆน่ะเหรอ เฮอะ! ก็เผ่นกลับบ้านกันหมดเลยน่ะสิ แย่ที่สุด!

                                   
    "ก็ไม่ได้เหนื่อยหรอก"  ฉันพูดพลางคอก็ชะเง้อออกไปนอกหน้าต่าง "แค่เป็นห่วงพี่เรเฉยๆ นี่ก็จะทุ่มนึงแล้วด้วย พี่เรรอต้าเงกแล้วแน่ๆ"

                   
    แพรวที่กำลังใช้ผ้าตกแต่งประตูและหน้าต่าง เมื่อได้ยินประโยคนี้ของฉันก็รีบหันมาแซวทันที

                                   
    "แหมๆๆ นึกว่าจะห่วงอะไร ที่แท้ก็ห่วงอาจารย์รูปหล่อคนนั้นนั่นเอง"

                                   
    "ต้าปิ๊งอาจารย์คนนั้นจริงๆน่ะเหรอ อายุห่างกันตั้งเกือบสิบปีเชียวนา"  เฟิร์นว่า "ที่จริงแล้ว พี่ชายสองคนนั่นที่เคยมารับต้าเมื่อสัปดาห์ก่อนสอบน่ะก็หล่อไม่เบานะ อายุก็ไล่ๆกันดีด้วย ต้าเลิกชอบอาจารย์คนนั้นแล้วหันมาชอบคนใดคนหนึ่งในสองคนนั่นไม่ดีกว่าเหรอ"

                                   
    "ต้าชอบของต้าแบบนี้ล่ะน่า"  ฉันย่นจมูก  ให้เป็นแฟนกับพี่รัน ฉันว่าคบกันได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องตีกันตายเพราะเรื่องปาก ส่วนพี่เอก..แค่คิดก็ขำแล้ว เพราะผู้ชายเจ้าชู้เป็นผู้ชายจำพวกที่ฉันจะไม่เข้าใกล้แน่นอน แต่ถ้าเป็นพี่เป็นเพื่อนก็แล้วไป

                                   
    "นี่ต้า ไม่ลองมองคนแถวนี้มั่งหรือไง"  แพรวตะโกนลงมาจากเก้าอี้ที่เธอยืนเพื่อตกแต่งประตู "มีคนแอบชอบต้าอยู่นะ ต้าจะไม่เห็นใจเขาบ้างหรือไง"

                                   
    "ใครจะมาชอบต้า"  ฉันหัวเราะ "เราไม่ได้สวยซักหน่อย นี่ขนาดอยู่โรงเรียนนี้มาห้าปีแล้ว ยังไม่เห็นมีผู้ชายคนไหนเข้ามาจีบสักคน"

                                   
    "ไม่รู้จริงๆหรือแกล้งไม่รู้กันแน่ต้า"  แอ๋ม เพื่อนอีกคนที่นั่งเป่าลูกโป่งอยู่ด้วยกันเปิดปากขึ้นมาบ้าง "มีผู้ชายตั้งหลายคนที่อยากเข้ามาจีบเธอ แต่ทุกคนพอเจอกับอาจารย์คนนั้นเป็นต้องถอยทุกราย"

                                   
    "หมายความว่าไง" ฉันเริ่มงง  พี่เรมาเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ

                                   
    "ก็สายตาเธอเวลาที่มองอาจารย์คนนั้นน่ะ ตรงไปตรงมาจะตาย มองปุ๊บก็รู้ว่าต้ารักอาจารย์คนนั้น แล้วท่าทางของต้ากับเขาคนนั้นก็ดูเหมือนคนรักกันจะตาย แต่ละคนก็เลยถอยกันเป็นแถบเพราะคิดว่าต้ามีแฟนอยู่แล้วน่ะสิ"

                                   
    "บ้าน่า"  ฉันร้อง  "ถ้าแค่นั้นทำให้เลิกล้มความตั้งใจที่จะมาจีบเราล่ะก็ ก็ให้เลิกไปเลย ขี้ขลาดชะมัด"

                   
    ฉันเห็นแพรวกับแอ๋มยักคิ้วแผล่บให้กัน แต่ฉันไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร เฟิร์นหัวเราะคิกคัก ส่วนโจก้มหน้านิ่ง...แล้วนี่ทุกคนเป็นอะไรกันไปหมดนะ

                   
    แม้ฉันจะสงสัย แต่ฉันก็ขี้เกียจจะถาม พักนี้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าโดนปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ พอถามหนักๆเข้าก็ชอบทำเป็นพูดเล่นเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย จนถึงตอนนี้ ฉันก็เลยไม่อยากจะรู้แล้ว

                   
    ทำงานกันไปหยอกล้อกันไปจนกระทั่งฟ้ามืดลงเรื่อยๆ ฉันไม่รู้เรื่องเวลาเลยจนกระทั่งเฟิร์นสะกิดฉันให้มองไปที่ประตูห้อง

                                   
    "พี่เร!"  ฉันอุทานออกมา ไม่ได้ตกใจที่เห็นพี่เร แต่ตกใจที่ลืมเวลาแล้วปล่อยให้พี่เรต้องยืนรอเงกเสียมากกว่า

                   
    ฉันลุกขึ้นไปหาพี่เรด้วยรอยยิ้มแหยๆ ส่วนเพื่อนๆคนอื่นต่างก็ทำความเคารพพี่เรอย่างเรียบร้อย

                   
    พี่เรดูท่าทางไม่ได้โกรธอะไร ออกแนวเหนื่อยเสียมากกว่า

                                   
    "จะกลับหรือยังล่ะเรา นี่สองทุ่มแล้วนะ" พี่เรถาม

                                  
     
    "ขอโทษค่ะพี่เร ต้าลืมดูเวลาไปเลย" 

                                   
    "ไม่เป็นไรหรอก"  พี่เรหัวเราะ "ที่ขึ้นมาไม่ได้ขึ้นมาเร่งอะไรหรอก แค่มาดูเฉยๆ  ว่าแต่..พวกเราอยู่ดึกขนาดนี้โรงเรียนอนุญาตด้วยเหรอ"

                                   
    "ไม่รู้สิคะ ก็แค่มีอาจารย์มาเตือนๆ แต่ก็ไม่เห็นว่าอะไรเลย"

                   
    ฉันคิดว่าฉันคงต้องกลับเสียที ถึงพี่เรจะพูดว่าไม่ได้เร่งอะไร แต่ฉันก็เกรงใจพี่เร พรุ่งนี้พี่เรก็ต้องทำงานแต่เช้าเสียด้วย แถมยังต้องมาส่งฉันที่โรงเรียนอีก...เฮ้อ.. ทำไมพี่เรถึงใจดีกับฉันแบบนี้นะ

                                   
    "เพื่อนๆ เดี๋ยวเราขอกลับก่อนแล้วกันนะ" 

                                   
    "โอเคจ้ะ พรุ่งนี้เจอกัน"  แพรวโบกมือบ๊ายบาย

                                   
    "พวกเราก็จะกลับแล้วล่ะ อีกแป๊บเดียวแหละ ต้ากลับไปเถอะ"  แอ๋มเสริม อ๊ะๆ ฉันแอบเห็นนะ ว่าแอ๋มมองพี่เรตาแป๋วเชียว ทำให้ฉันแอบยืดว่ามีพี่ชายหล่อๆมารับถึงโรงเรียน...ถึงแม้ว่าจะคุ้นเคยมากขนาดนี้แล้วก็ตามทีเถอะ

                   
    ฉันโบกมือส่งท้ายแล้วก็จับมือพี่เรอย่างถือสิทธิ์ พี่เรมองฉันนิ่งๆคล้ายกับจะระอา...ฉันไม่รู้ว่าพี่เรคิดอะไรอยู่ แต่พี่เรก็หัวเราะเบาๆออกมาแล้วก็พาฉันเดินไปด้วยกัน

                   

                   


    งานโรงเรียนมาถึง ฉันมาโรงเรียนแต่เช้าเพื่อเตรียมงานก่อน เกมส์ที่พี่เอกแนะนำมา ฉันหวังว่ามันคงจะสนุกเพราะว่าฉันไม่อยากให้เกมส์มันแป้ก แล้วก็ไม่มีใครที่อยากจะเข้ามาร่วมกิจกรรมที่ห้องฉันจัดขึ้น

                   
    ผู้คนคึกคักตั้งแต่แปดโมงครึ่ง หลังจากที่เพลงชาติและการสวดมนต์ผ่านพ้นไป ฉันเองอยู่ดูแลซุ้มเกมส์กับเฟิร์น แอ๋ม แล้วก็แพรว  ส่วนโจน่ะ โน่น ต้องไปขึ้นแท่นโดนปืนฉีดน้ำเปียกมะล่อกมะแล่กกับเพื่อนผู้ชายอีกสามสี่คนซึ่งล้วนแล้วแต่ถูกคัดมาว่าหน้าตาดีๆทั้งนั้น

                   
    และมันก็สนุกสุดๆ เพราะมีเหล่านักเรียนหญิงให้ความสนใจกันมากมาย โจเองก็ป๊อบในหมู่รุ่นน้องอยู่ไม่เบา เพราะเขานอกจากจะหน้าตาดีแล้ว ยังเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนอีกด้วย ส่วนโก้  ทีน และ ป๋อง อีกสามหนุ่มป๊อบประจำห้องก็ไม่ได้น้อยหน้าโจ เพราะทีนเป็นนักกีฬาฟุตบอลเหมือนกัน ส่วนโก้กับป๋องเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอล  ที่จริงแล้วสี่คนนี้เป็นเพื่อนก๊วนเดียวกันที่แยกกันไม่ค่อยออก ป๊อบในหมู่สาวๆพอๆกับที่เพื่อนๆในห้องรู้กันว่าสี่คนนี้น่ะ มันหน้าม่อขนาดไหน

                   
    ลงท้าย ห้องของเราก็เหมือนห้องจำอวดพิลึก นำทีมโดยสี่หนุ่มป๊อบประจำห้องที่นอกจากจะเปียกแล้ว ยังขาวว่อกไปด้วยแป้งที่ละลายอยู่ในน้ำ  ทั้งสี่โดนแกล้งก็จริง แต่บางครั้งหากเป็นเพื่อนหรือใครที่คุ้นเคยกัน สี่คนนี้ก็มักจะลงมาเล่นวิ่งไล่จับให้คนอื่นๆพลอยเปียกเละเทะไปด้วย เรียกว่าได้ทั้งเสียงหัวเราะแล้วก็ได้ทั้งเงิน

                   
    หึหึ ก็เล่นเกมส์รอบหนึ่ง ต้องเสียเงิน 5 บาท นี่นา อย่างน้อยก็ต้องทำเงินเข้าห้องบ้างล่ะ เอาไว้ใช้จ่ายในตอนปีใหม่ ฮิฮิ

                   
    ช่วงบ่าย คนก็เริ่มซาลง ฉันกับเพื่อนๆพากันไปกินข้าว หลังจากที่หาเวลาปลีกตัวมาไม่ได้เลย แต่ถึงจะหิว พวกเราก็สนุกสนานกันมาก และพอท้องอิ่ม พวกเราก็กลับมาที่ห้องเรียนเพื่อประจำซุ้มต่อ

                   
    ทันทีที่ฉันเข้ามาในห้อง ฉันก็เห็นใครบางคนที่ฉันคุ้นเคย แต่...เขาทั้งสองก็ไม่น่าจะมาอยู่ตรงนี้นี่นา

                                   
    "พี่รันพี่เอก มาได้ยังไงกันคะเนี่ย"   ฉันร้องขึ้น

                   
    ไม่ต้องสงสัย ตอนนี้แทนที่คนจะมุ่งเล่นเกมส์ ก็กลายเป็นนักเรียนสาวๆมุงดูหนุ่มนักศึกษาสุดหล่อสองคนไปเสียอย่างนั้น 

                                   
    "ก็มาหาน้องต้าน่ะสิครับ"  พี่เอกตอบยิ้มๆ "ท่าทางครึกครื้นดีนะครับน้องต้า"

                                   
    "เกมส์ของพี่เอกเจ๋งมากค่ะ มีแต่คงสนใจกันทั้งนั้นเลย"  ฉันตอบ "ว่าแต่..คิดยังไงถึงมาคะ"

                                   
    "เอกมันอยากมา"  พี่รันตอบ สีหน้าพี่รันดูเซ็งๆ

                   
    ฉันนิ่วหน้า ที่จริงแล้วฉันดีใจมากกว่าที่เห็นพี่รันกับพี่เอก แต่ที่ฉันทำท่าเหมือนต่อต้านเป็นเพราะว่าฉันไม่อยากให้เพื่อนๆฉันเอาเรื่องประเภทคู่รักมาล้อฉันมากไปกว่านี้น่ะสิ

                   
    มันคงจะแปลกพิลึกถ้าต้องมีเรื่องรักสามเส้าสี่เส้ากับพี่รัน พี่เอก แล้วก็พี่เร ซึ่งมันฟังดูตลกมาก แต่เป็นตลกที่ฉันขำไม่ค่อยจะออก

                   
    ความฉุนระคนน้อยใจทำให้ฉันคิดแผนการชั่วร้ายขึ้นมาได้ ฉันยิ้มที่มุมปากอย่างถูกใจในความคิดของตัวเอง ก่อนที่จะ....


     


    (ความคิดของรัธยุทธ์)

                   
    รอยยิ้มของต้าดูผิดปกติ... นั่นเป็นความคิดที่แวบๆขึ้นมาในหัวสมองตอนที่ผมบังเอิญหันไปเจอรอยยิ้มแบบมีเลศนัยของต้า แต่ก่อนที่ผมจะทันคิดใคร่ครวญอะไร ผมและเอกก็ถูกต้อนขึ้นไปบนเวทีขนาดย่อมๆที่ตอนนี้เลอะเทอะไปด้วยน้ำและคราบแป้ง

                   
    จะปฏิเสธก็ไม่ทันเพราะพวกผมมีกันอยู่แค่สองคน แต่อีกฝ่ายมีกันเกือบยี่สิบคน ผลสุดท้าย ผมเลยได้แต่ต้องเลยตามเลยปล่อยให้เรื่องมันเป็นไป หมั่นไส้ก็แต่ไอ้เอก เพื่อนสนิทของผมที่ทำตัวหลีสาวได้คล่องจนน่าเตะ ขนาดโดนน้ำโดนแป้งเข้าไปจังเบอร์ขนาดนั้น มันยังส่งสายตาหวานฉ่ำไปให้ต้าได้ตลอดเวลา

                   
    แต่มันตลกตรงที่ว่า สาวเจ้าไม่เคยเข้าใจความหมายนั้นมากไปกว่าคำว่าน้องสาว ทำให้เอกชอบมาโอดครวญเอากับผมเสมอว่าควรจะทำอย่างไรดี เห็นมันเป็นเสือผู้หญิงอย่างนี้ก็เถอะ แต่บทจะจริงจังขึ้นมา ใจมันก็ปลาซิวดีๆนี่เอง กลัวไปสารพัดว่าต้าจะไม่รับรัก..

                   
    อืมมม จะว่าไปก็สมควรกลัวอยู่หรอก และผลกว่าเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าบ่งบอกว่ามันคงจะต้องอกหัก

                   
    สู้พยายามจะตัดใจอย่างที่ผมพยายามจะทำอยู่ในตอนนี้ยังดีเสียกว่า

                   
    ต้าหัวเราะเยาะผมขณะเดินไปส่งผมที่หน้าโรงเรียน

                                   
    "เย็นไหมล่ะพี่รัน แหม...วันนี้เท่ห์เชียวนะคะ ขาวว่อกไปทั้งตัวเลย แฟชั่นใหม่หรือเปล่า"  คนพูดลอยหน้าลอยตาจนผมอยากจะเขกหัวกลมๆนั้นสักที

                   
    ทว่าผมก็ไม่ได้พูดอะไรแบบนั้น เพียงแต่แบมือยื่นไปข้างหน้า

                   
    ต้าเลิกคิ้วขึ้นอย่างงงๆ

                                   
    "เงินไง"  ผมบอก "ค่าเหนื่อยของพี่กับเอกวันนี้"

                                   
    "เรื่อง"  ต้าแลบลิ้นใส่ผมอย่างน่ารัก...ใช่ น่ารักมาก น่ารักอย่างที่เคยสร้างความสุขให้กับผมได้เสมอ และในครั้งนี้ก็เช่นกัน

                   
    มีความสุข ที่อย่างน้อยๆเราก็ยังได้ยิ้มและหัวเราะร่วมกัน

                                   
    "วันนี้กลับกี่โมงครับน้องต้า"  เอกถามด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ผมขนลุก  เมื่อไหร่หมอนี่จะเลิกทำตัวเลี่ยนๆแบบนี้เสียทีก็ไม่รู้

                                   
    "ก็คงหกโมงค่ะพี่เอก เพราะต้าต้องช่วยเพื่อนเก็บห้องอีก"  ต้าตอบพร้อมรอยยิ้ม

                                   
    "พี่มารับไหมครับน้องต้า หกโมงนี่เย็นมากเหมือนกันนะ"

                   
    ไม่ต้องเดาผมก็รู้คำตอบในเรื่องนี้ดี..นายเอกเอ๋ย  นายพลาดเสียแล้ว

                                   
    "พี่เรมารับต้าน่ะค่ะ พี่เอกไม่ต้องห่วงหรอก"

                   
    นั่นปะไร  หัวใจผมอดเจ็บจี๊ดไม่ได้ ถึงจะเตรียมตัวกับคำตอบแบบนี้เอาไว้แล้ว แต่พอได้ยินจริงๆมันก็ยังแสลงอยู่ดี

                   
    ตรงกันข้ามกับเอกที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

                                   
    "อย่างนั้นหรือครับ แหม อย่างนั้นพี่ก็หมดห่วง" ดูมันพูดเข้า

                                   
    "จะมาห่วงต้าทำไมคะ"  ต้าหัวเราะคิกคัก "โน่น ไปห่วงแฟนพี่เอกดีกว่านะคะ ต้าได้ยินมาว่าพี่เอกกำลังจีบดาวคณะเศรษฐ์อยู่ไม่ใช่หรือคะ"

                     
    หมัดน็อคของต้ามันช่างหนักหน่วง หึหึ

                                   
    "ใครบอกน้องต้าแบบนั้นครับ"  เอกท่าทางร้อนรน ตาล่อกแล่กดูตลกจนผมต้องกัดริมฝีปากตัวเองเพื่อกลั้นหัวเราะ "ไม่จริงเลยนะครับ พี่แค่.."

                                   
    "ไปเฝ้าเช้าเฝ้าเย็นที่คณะเศรษฐศาสตร์มาอาทิตย์เดียวเท่านั้นเอง!" ผมแทรกขึ้นมาหน้าตาย ไม่สนใจกับสายตาของเอกที่จ้องมาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อผม..ช่วยไม่ได้ ก็มันเรื่องจริงนี่

                   
    ต้าหัวเราะเสียงดังในขณะที่เอกทำหน้าคล้ายคนใกล้ตายเต็มที

                                   
    "น้องต้า"  เสียงเอกฟังดูน่าสงสาร "น้องต้าทำไมหัวเราะแบบนั้นล่ะครับ"

                                   
    "ก็มันตลกนี่คะ"  ต้าพูดพลางหัวเราะพลาง และเวลาต้าหัวเราะนั้น เธอชอบหัวเราะเสียงดังจนไม่เกรงใจคนรอบข้างเสียด้วย สงสัยเจ้าเอกคงชักเริ่มหมดหวังแล้วล่ะมั้ง เพราะนอกจากเธอจะไม่โกรธที่มันไปไล่จีบสาวอื่นแล้ว มันยังกลายเป็นเรื่องโจ๊กสำหรับเธอไปเสียได้ และต้าก็พูดเสริมความคิดนั้นเข้าไปอีกว่า "ต้าอยากเห็นจังว่าพี่เอกตอนไปเฝ้าจีบดาวเศรษฐ์คนนั้นจะเป็นยังไง แหม แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว"

                                   
    "งั้น ต่อไปพี่มาเฝ้าน้องต้าบ้างดีไหมครับ เผื่อน้องต้าจะใจอ่อนบ้าง"

                   
    โหเฮะ มันเล่นรุกกันซึ่งๆหน้าเลยนี่หว่า..

                   
    แต่ปรากฏว่า นอกจากต้าจะไม่ตื่นเต้นแล้ว ยังโต้กลับไปได้อย่างฉาดฉานอีกว่า

                                   
    "อย่าเลยค่ะพี่เอก ต้ารู้ว่าพี่เอกชอบล้อเล่น เพราะฉะนั้นอย่ามาแกล้งหลอกต้าเสียให้ยาก อีกอย่าง ต้าว่า อย่างพี่เอกน่ะเหมาะสมกับผู้หญิงสวยแบบเปรี้ยวๆนะคะ จะได้ปราบพี่เอกให้อยู่หมัดไปเลย โทษฐานชอบเจ้าชู้ดีนัก" 

                   
    เอกนิ่งสนิท หน้าตามันซีดเหลือสองนิ้วเพราะประโยคสุดท้ายของต้านี่แหละ ใครๆก็รู้กันทั้งนั้นว่าเจ้านี่น่ะ เสือผู้หญิงตัวจริง จีบสาวทิ้งๆขว้างๆมานักต่อนักแล้ว

                   
    พอต้ากลับเข้าไปในโรงเรียน เอกก็รีบล็อคคอผมทันที

                                   
    "อะไรอีกล่ะวะ หายใจไม่ออกนะเฟ้ย"  ผมพยายามแกะแขนเหนียวๆของมันออก

                                   
    "มึงเป็นเพื่อนภาษาอะไรวะ รู้อยู่ว่ากูชอบน้องต้า ยังมาแฉกูอย่างนี้อีก"  เอกทำเสียงขัดเคือง "ดูซิ น้องต้าเลยโกรธกูเลย"

                                   
    "โกรธตรงไหน"  ผมสงสัย "กูเห็นต้าหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ตรงไหนที่เรียกว่าโกรธ"

                                   
    "เออ นั่นแหละ" 

                   
    โมเมเข้าไป ผมล่ะหน่าย ไอ้ครั้นจะบอกไปตามตรงว่าต้ามีคนที่ชอบอยู่แล้วมันก็ใช่เรื่อง เพราะอย่างไอ้เอก ขืนมันรู้ความจริงเข้า ข่าวไหนๆก็รั่วหมด

                                   
    "เฮ้อ  น้องต้านะน้องต้า ทำร้ายจิตใจพี่เอกได้ลงคอ"

                   
    ลิเกเข้าไป ผมส่ายหน้าอย่างนึกขัน

                   
    แต่เป็นตลกแบบที่ผมเองก็หัวเราะไม่ค่อยจะออก เพราะรู้ดีว่าความตลกแบบนี้มักมาคู่กับความเจ็บปวดในหัวใจเสมอ

                   
    เอกขับรถพาผมมาส่งที่บ้านอย่างที่เคยทำเป็นประจำ...อืมม น่าแปลก วันนี้มีรถบีเอ็มสีแดงคันเฉี่ยวจอดนิ่งสนิทอยู่หน้าบ้านผมเสียด้วย ใครมากันล่ะเนี่ย

                                   
    "สวยเป็นบ้า"  เอกตาลุกวาวเมื่อเห็นรถคันหน้า "ใครวะรัน รถแบบนี้ กูฟันธงว่าผู้หญิงว่ะ"

                                   
    "ไม่รู้" 

                   
    ผมยักไหล่ ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วก้าวออกจากรถ

                                   
    "ขอบใจมากนะที่มาส่งบ้าน"  ผมโบกมือ

                                   
    "อย่าลืมมาบอกล่ะว่ารถของสาวไหน"  เอกยักคิ้วแผล่บ...ดูมัน..เมื่อกี้ยังคร่ำครวญถึงต้าอยู่เลย ไม่ถึงชั่วโมงถัดมาก็หาเรื่องเหล่สาวใหม่อีกแล้ว

                                   
    "เออ" 

                   
    ผมเข้าบ้าน ส่วนเอกถอยรถออกไป ประตูเล็กไม่ได้ล็อคอยู่แล้ว ผมจึงเปิดเข้าไปง่ายๆ ก้าวไม่กี่ก้าวก็ถึงห้องรับแขกของบ้านแล้ว

                   
    คำตอบของเอกอยู่เบื้องหน้าผมในชุดกระโปรงแขนกุด ร่างบางบนเก้าอี้รับแขกดูปราดเปรียวเซ็กซี่ทว่า กิริยาที่พูดคุยกับป้าของเขากลับแสดงถึงความนบนอบอย่างผู้ที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี

                   
    สวย.. แต่ใครกันนะ

                                   
    "อ้อ กลับมาแล้วเหรอ ตารัน"  ป้าทักผมทันทีที่เห็นหน้าผม

                                   
    "รัน.. น้องชายของเรใช่ไหมคะ"  เสียงใสๆนั้นถามขึ้น

                   
    คนรู้จักของพี่เรเหรอเนี่ย ไม่เห็นเคยเห็นหน้ามาก่อนเลย ทั้งๆที่ผมคิดว่าผมรู้จักเพื่อนสมัยมหาลัยของพี่เรครบทุกคนเสียอีก

                                   
    "จ้ะ"  ป้าตอบรับ "รัน นี่เพื่อนตาเรเขา มารู้จักกันเสียสิ"

                                   
    "ฉัน อินทิราค่ะ เรียกสั้นๆว่าแอนก็ได้"  รอยยิ้มนั้นส่งมาให้ผม เซ็กซี่ร้ายกาจเลยล่ะ พี่เรไปมีเพื่อนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

                                   
    "ผม รันฮะ"  ผมแนะนำตัวบ้าง แต่ก็เก้อไปเมื่ออีกฝ่ายหัวเราะคิก

                                   
    "ฉันรู้แล้วล่ะค่ะ ดีใจที่ได้รู้จักนะคะรัน" 

                                   
    "ผมนึกว่าผมรู้จักเพื่อนของพี่เรหมดทุกคนแล้วเสียอีก" 

                                   
    "ฉันเป็นเพื่อนสมัยมัธยมน่ะค่ะ ไม่รู้จักก็ไม่แปลกอะไร"  เอาอีกแล้ว รอยยิ้มนั้น ที่จริงมันก็เป็นรอยยิ้มธรรมดาแบบซื่อใส แต่..ให้ตายเถอะ.. เวลาผู้หญิงคนนี้ยิ้มทีไรมันทำเอาผมใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว

                   
    สวยเกินไป  เซ็กซี่เกินไป และฉลาดเกินไป

                   
    พี่เรมีเพื่อนแบบนี้จริงๆล่ะหรือ


     


    (ความคิดของเรวิทย์)
            

                   
    ผมตกใจมากเมื่อเห็นว่ามีใครที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกที่บ้าน...

                   
    สวย เปรี้ยว แบบนี้ ไม่ต้องมองรอบสองก็รู้ว่าเป็นแอน เพื่อนสนิทของผมสมัยมัธยม ผมยังจำเรื่องราวบนโต๊ะอาหารเมื่อสองสัปดาห์ก่อนได้ว่าผมช็อคแค่ไหนตอนที่รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้านี้คือแอน

                   
    แอนสมัยมัธยมเป็นสาวห้าวแบบลุยไหนลุยกัน แต่ในขณะเดียวกัน ความเป็นผู้หญิงของเธอก็มากขึ้นเรื่อยๆตามวันเวลาที่ผ่านไป ทว่าเธอก็เป็นเหมือนวัยรุ่นสาวทั่วๆไป ไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นหรือแตกต่างจากคนอื่น ซึ่งต่างกับแอนในวันนี้โดยสิ้นเชิง

                   
    เธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพูด กิริยามารยาท ตลอดจนการหัวเราะ

                   
    แต่นิสัยห้าวๆรั้นๆของแอน ทำให้ผมยอมรับเธอกลับมาเป็นเพื่อนสนิทได้โดยไม่คิดอะไรมาก

                                   
    "มาได้ไงน่ะแอน" 

                   
    คุณป้ากลับเข้าไปในครัวแล้ว ไม่รู้ว่าท่านเข้าใจอะไรบางอย่างผิดหรือเปล่า คุณลุงก็เหมือนกัน ท่าทางจะเก็บตัวอยู่ในห้องทำงาน ส่วนรัน.. เป็นคนเดียวที่นั่งตาแป๋วอยู่ตรงนี้

                                   
    "ก็มาหาเรน่ะสิ"  แอนทำเสียงจิ๊จ๊ะ "มาไม่ได้หรือไง  เรใจร้าย ไม่ยอมติดต่อแอนกลับมาบ้างเลยนะ เพื่อนกันหรือเปล่าเนี่ย"

                                   
    "เรยุ่งนี่นา งานเยอะ" 

                                   
    "แอนก็มีงานเหมือนกันนะ ยังมาหาเรได้เลย" 

                   
    อ้อ ใช่ แอนทำงานแล้วนี่นา ประมาณสัปดาห์ที่แล้วกระมัง

                                   
    "งานราชการกับงานเอกชนเหมือนกันที่ไหน"  ผมพูด "ว่าแต่แอนเถอะ มาเยี่ยมเรแค่นั้นเหรอ"

                                   
    "ไม่ได้หรือไง"

                   
    ผมยิ้มให้แอนอย่างนึกขัน ขี้งอนเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน

                                   
    "ได้สิ ว่าแต่ รู้จักรันแล้วใช่ไหม" 

                   
    และผมก็ได้รับคำตอบที่คาดเอาไว้อยู่แล้ว คนมนุษยสัมพันธ์ดีอย่างแอนคงไม่ปล่อยให้ใครในครอบครัวของผมผ่านสายตาไปได้เฉยๆ

                                   
    "แน่นอน เราเป็นเพื่อนกันแล้วเนอะ รัน"  แอนยักคิ้วแผล่บไปให้รัน

                                   
    "ฮะ"  รันหัวเราะ "เราเป็นเพื่อนกันเรียบร้อยแล้ว"

                   
    ท่าทางรันคงจะชอบแอนอยู่ไม่น้อย ก็แน่ล่ะสิ น้องชายผมมันเป็นผู้ชายนี่นา แล้วผมก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน ทำไมจะไม่รู้ว่าผู้ชายส่วนใหญ่ก็ชอบผู้หญิงแบบแอนนี่แหละ มั่นใจในตัวเอง คุยสนุก อยู่ด้วยแล้วสบายใจ

                                   
    "เรนั่นแหละ ที่ทำเหมือนไม่ได้เป็นเพื่อนกับแอนแล้ว" แอนย่นจมูกใส่ผมอย่างที่เคยทำบ่อยๆเวลาที่เธองอน

                                   
    "เรก็ยังเหมือนเดิมนั่นแหละน่า"

                                   
    "หึ เหมือนเดิม"

                   
    ผมอดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับคำพูดประชดประชันนั่น

                                   
    "สรุปแล้ว วันนี้ที่มาแค่จะมาหาเรื่องเรเท่านั้นใช่ไหม" 

                                   
    "หาเรื่อง ??"  เสียงสูงๆกับดวงตาโตๆคู่นั้นราวกับจะฉกลงมาที่ผม "แอนเนี่ยนะ หาเรื่องเร"

                                   
    "เอาล่ะๆ เรไม่อยากทะเลาะด้วยแล้ว เพราะเดี๋ยวเรต้องทำงาน เอาเป็นว่าเรขอยกธงขาวแล้วกัน แอนมีเรื่องอะไรก็พูดมาเลย"

                                   
    "ไม่มีอะไรสำคัญหรอก"  เฮ้อ.. ผมไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าเดี๋ยวนี้แอนจะกลายเป็นคนขี้น้อยใจขนาดนี้  "แอนแค่อยากนัดเลี้ยงรุ่นกันเฉยๆ แต่ครั้งนี้จะไปเลี้ยงรุ่นครั้งใหญ่กันที่ระยอง พ่อแอนมีบ้านพักตากอากาศที่นั่น"

                                   
    "วันไหนล่ะ" 

                                   
    "ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่คิดว่าอาจจะเป็น...."  แอนพูดถึงอีกสองเสาร์ข้างหน้า

                                   
    "เรคงไปไม่ได้หรอก งานเรเยอะแอนก็รู้"

                                   
    "เรก็จัดเวลาสิ ถ้าไม่จัด เรก็ไม่มีทางว่างหรอกนะ"

                   
    ที่แอนพูดมันก็จริง... แต่ว่า งานผมก็มากเกินกว่าที่จะเจียดเวลาไปต่างจังหวัดแบบนั้น ถ้าในกรุงเทพล่ะก็พอไหว ผมเองก็ใช่ว่าจะไม่อยากพักผ่อนเสียเมื่อไหร่ โดยเฉพาะจะได้พบปะเพื่อนเก่าแบบนี้ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ผมเสียดายไม่น้อย

                                   
    "ไม่ไหวหรอกแอน"

                                   
    "ใจร้ายกับเพื่อนฝูงจริงๆ" แอนบ่นกระปอดกระแปด

                                   
    "ขอโทษจริงๆแอน เรหาเวลาไม่ได้เลย"

                   
    ในที่สุด แอนก็ยอมแพ้ล่าถอยกลับไป ผมรู้ว่าเธอผิดหวังมาก แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่นา ทั้งๆที่ผมเองก็อยากไปแท้ๆ

                   
    ผมไปส่งแอนที่รถอย่างไม่สบายใจนัก ส่วนแอนนั้นท่าทางจะงอนผมหนัก เพราะเธอทำหน้างอตลอดเวลา แถมยังหุบปากเงียบ ไม่ยอมพูดกับผมสักคำ

                   
    ดังนั้น ก่อนที่แอนจะปิดประตูรถใส่หน้าผม ผมจึงฝืนรั้งประตูรถเอาไว้ก่อน

                                   
    "แอน เรขอโทษจริงๆนะ อย่าโกรธเรเลย" 

                                   
    "แอนไม่ได้โกรธเรสักหน่อย"

                                   
    "แบบนี้น่ะเหรอที่เรียกว่าไม่โกรธ" 

                   
    แอนมองหน้าผมด้วยดวงตาตัดพ้อ

                                   
    "เรรู้ไหม ตั้งแต่แอนกลับมาที่ประเทศไทย เรไม่เคยติดต่อหาแอนเลยสักครั้ง"

                   
    ผิดกระทงที่หนึ่ง ผมยอมรับแต่โดยดี

                                   
    "พอแอนมาหาเร คำที่เรพูดกับแอนคำแรก มาได้ยังไง... ทำยังกับแอนมายุ่ง มารบกวนเร"

                                   
    "เรไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น.."

                   
    ผมชักเริ่มสับสน.. ผู้หญิงตรงหน้าผมคนนี้ใช่แอนคนเดิมหรือเปล่า แอนที่ผมเคยรู้จักไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ แล้วก็ไม่อ่อนไหวแบบนี้

                                   
    "แถมพอคุยกันไม่กี่ประโยค เรก็จะไล่แอนกลับบ้านท่าเดียว"

                   
    พอถึงตรงนี้ ผมก็ยิ่งตกใจหนักขึ้นเมื่อเห็นน้ำตาของแอน

                                   
    "เรเห็นแอนเป็นอะไรกันแน่..."

                                   
    "แอนเข้าใจเรบ้างสิ  เรงานเยอะนะ การเป็นอาจารย์สอนปริญญาตรีมันไม่ได้ง่าย มันหนัก แล้วเรก็เครียดด้วย"

                                   
    "แอนก็พยายามเข้าใจเรแล้วนี่ แต่มันช่วยไม่ได้ที่แอนจะรู้สึกเสียใจไม่ใช่หรือ"

                   
    ประโยคนี้แอนไม่ได้ใช้อารมณ์พูดกับผม ผมรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณบางอย่าง มือของผมแข็งค้าง ไม่รู้ตัวเลยจนกระทั้งแอนดึงประตูปิด แล้วขับรถจากไปอย่างรวดเร็ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×