คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : แม่มดแห่งกระท่อมร้าง
ตอนที่ 3 แม่มดแห่งกระท่อมร้าง
“จ้ะ...เข้ามาข้างในก่อนสิ”
“ค่ะ” เด็กหญิงพยักหน้ารับอย่างหวาดๆ เนื่องด้วยอยู่ต่อหน้าผู้ที่ได้ชื่อว่า... ‘แม่มดแห่งกระท่อมร้าง’ ก่อนจะเดินตามหญิงชราไป
แม้ภายนอกกระท่อมจะดูทรุดโทรม ทว่าเมื่อเข้ามาภายในกลับดูแตกต่างจากสภาพภายนอกโดยสิ้นเชิง ผนังที่แม้จะเป็นไม้แต่ก็ถูกตกแต่งด้วยสีน้ำตาลอ่อนๆที่ทาทับไปกับกรอบรูปสีน้ำตาลเข้มที่ประดับรูปวาดแสนสวยไม่ต่ำกว่า 6-7 รูปที่ส่วนใหญ่จะเป็นภาพวาดของธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่...แต่แล้วก็สะดุดกับภาพๆหนึ่งซึ่งเป็นภาพวาดอย่างเละๆที่ต่อให้ยืนกลับหัวแล้วเขย่าตัวไปด้วยยังมองไม่เห็นความสวย (โปรดจินตนาการตาม) ...แล้วหญิงชราที่นิยมสะสมภาพวาดสวยงามจะเก็บภาพเช่นนี้หรือ...เมื่อเกิดความสงสัยเด็กน้อยก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“นั่นภาพอะไรคะ...ไม่เห็นสวยเลย”เมื่อได้ฟังคำถามหญิงชราก็แย้มรอยยิ้มแล้วทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาที่ไม่น่าจะมีในกระท่อมนี้เลย ก่อนจะเอ่ยว่า
“ภาพๆนั้นที่หนูบอกว่าไม่สวยน่ะ จะสวยรึไม่สวยก็ไม่สำคัญหรอกจ้ะ ...เหตุผลที่ได้มันมาหรือเจตนาของผู้ให้ต่างหากที่สำคัญ...เพียงแค่เรานึกถึงเจตนาอันดีของผู้ให้ของสิ่งนั้น ไม่ว่าของชิ้นไหนก็สวยงามทั้งนั้น...เพราะมันเป็นของที่มอบให้จากใจ”เด็กหญิงตัวน้อยพยายามทำหน้าให้เหมือนเข้าใจสิ่งที่หญิงชราพูดให้มากที่สุด ทว่าทำอย่างไรก็ไม่เหมือน ดังนั้นการทำหน้าให้อินโนเซนส์ที่สุดจึงเป็นทางออกที่ดี...
“ซักวันหนึ่งหนูจะเข้าใจจ้ะ...จะเอาขนมไหม”พูดจบก็เปลี่ยนเรื่องทันใด เด็กหญิงพยักหน้ารับอย่างยินดี แล้วหญิงชราก็เสกให้จานขนมหอมกรุ่นลอยมาพร้อมๆกับแก้วน้ำ 2 ใบ
“แล้วใครเป็นคนให้ภาพนั้นมาหรอคะ...”เด็กน้อยซิลเวียร์วกกลับมาเรื่องเดิม
“หลานชายของฉันจ้ะ...ในรูปนี้ไง”ภาพเด็กผู้ชายอายุพอๆกับเด็กน้อยถูกยื่นมาให้ เด็กผู้ชายในรูปยืนยิ้มแฉ่งชนิดเห็นฟังครบ 32 ซี่ เส้นผมสีน้ำเงินเข้มส่องประกายสะท้อนกับแสงแดด แม้ดวงหน้าจะติดน่ารักแต่นัยน์ตาคู่นั้นกลับแฝงความดื้อรั้นไว้ลึกๆ
“อายุเท่าหนูไหมคะ”เสียงใสร้องถาม
“ก็พอๆกันแหละจ้ะ...”
“อ่า...เค้าคงอารมณ์ดีมากนะคะ...ยิ้มซะปากแทบฉีกเลยอ้ะ”หญิงชราหัวเราะรับ
“ก็แค่ ‘ดูเหมือนจะอารมณ์ดี’ เท่านั้นแหละจ้ะ” และแม้จะไม่เข้าใจแต่เด็กหญิงก็พยักหน้า
รับ
......................................
บัดนี้เด็กหญิงตัวน้อยเสียงใสคนเดิมไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จากซิลเวียร์ โรวาเรส ก็เปลี่ยนเป็น..ซิลเวียร์ โซมาเลนซ์ จากเด็กน้อยผู้ร่าเริงกลายเป็นเด็กสาวผู้เจนกับการใช้ชีวิตเพียงลำพัง...อย่างโดดเดี่ยว
ซิลเวียร์มองแปลงดอกไม้แสนสวยหน้ากระท่อมที่มีผีเสื้อบินว่อนไปทั่วเพื่อดูดน้ำหวานพลางมองย้อนมายังตนเอง ...ผีเสื้อดูดน้ำหวานเพื่อเป็นอาหารให้ตัวเอง ในขณะเดียวกันผีเสื้อก็เป็นตัวสำคัญที่ช่วยผสมเกสรให้แก่ดอกไม้...
...อยู่อย่างพึ่งพากัน ?
แม้ดอกไม้จะไร้จิตใจ..แม้ผีเสื้อจะไร้ซึ่งสติปัญญาเฉกเช่นมนุษย์
...แล้วมนุษย์เองล่ะ ?
ทั้งที่มีปัญญา ทว่ามนุษย์บางพวกกลับใช้ปัญญาในการทำสิ่งเลวร้าย...ขณะเดียวกันมนุษย์บางพวกก็ใช้ปัญญาในการช่วยเหลือพวกพ้อง
หรือสิ่งที่เรียกว่าปัญญาจะเป็นดาบสองคม
ดาบคมกริบที่พร้อมจะฟาดฟันศัตรู...ขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะหันคมดาบเข้าใส่ผู้เป็นเจ้าของเช่นกัน
ซิลเวียร์ โซมาเลนซ์นึกถึงคำกล่าวคำหนึ่งของหญิงชราเจ้าของกระท่อม...เจ้าของนาม เฮร่า โฮราเดีย
“แม้ปัญญาจะเป็นดาบสองคม...แต่มนุษย์ก็ขาดปัญญาไม่ได้หรอก
เพราะมนุษย์ที่ไร้ปัญญาก็ไม่ต่างอะไรกับนักรบที่ไร้ดาบ...เมื่อไร้ดาบไว้ต่อสู้กับศัตรูนักรบผู้นั้นก็ต้องพ่ายแพ้ไป”
ก่อนที่เสียงๆหนึ่งจะดังขึ้นขัดความคิดของเด็กสาว
"นั่น...ซิลเวียร์หรอจ้ะ"
เด็กสาวสะดุ้งตกใจ
...........................
ห้องนอนของซิลเวียร์ -- คฤหาสน์โซมาเลนซ์
"เฮ้อ...เหนื่อยจังเล้ย"
เด็กสาวร้องออกมาเมื่อนึกถึงการเรียนกับคุณพี่เลี้ยงสาวสวยระเบียบจัด นอกจากจะต้องท่องจำเรื่องประวัติศาสตร์แล้ว ก็ยังต้องฝึกการใช้เวทย์มนต์ต่างๆจนแทบกระอักเลือด ต่อด้วยวิชานันทนาการทั่วๆไปอย่าง ดนตรี บัลเล่ต์ ไปจนถึงการฝึกกริยามารยาท ก่อนจะตบท้ายการเรียนประจำวันด้วยคำติเตียนเล็กๆปนขู่ของอาจารย์สาว
ให้ตายสิ! ช่างเป็นพี่เลี้ยงมหาประลัยจริงๆ
แถมวันนี้กว่ากล่อม เฮร่า โฮราเดีย คุณยายเจ้าของกระท่อมให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่นี่ได้ก็ทำเอาหมดพลังจนแทบจะลากสังขารตัวเองขึ้นมาบนห้องนี่ไม่ไหวเสียด้วยซ้ำ ก็คุณยายเธอช่างเป็นคนที่รักกระท่อมหลังนั้นมากเสียเหลือเกิน จนเธอต้องงัดเอาลูกไม้มากล่อมสารพัดจนลูกไม้แทบจะหมดต้น
แต่สุดท้ายเธอก็ทำสำเร็จแล้วนี่นา
คิดดังนั้นเด็กสาวก็ขดตัวลงนอน แล้วซุกหัวลงกับหมอน...ปล่อยให้เสียงไปไม้หวีดหวิวด้านนอกขับกล่อมแทนเพลงกล่อม
ความคิดเห็น