ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ☆ อนาเทอร์เลีย..โรงเรียนมหาเวทย์ ☆

    ลำดับตอนที่ #14 : หนทางที่เลือก

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 53


    ตอนที่ 13 หนทางที่เลือก

     

    Half moon Hospital, 7.46 .

     

                    ตื่นแล้วหรอเสียงทักจากลาเวนดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำเอาซิลเวียร์สะดุ้งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะกล่าวตอบ

     

                    อรุณสวัสดิ์พลางกวาดมองไปรอบห้องซึ่งมีเพื่อน   ๆทุกคนของเธอนอนอยู่..เอ่อ..อาจจะยกเว้นที.เค.ที่นอนกลิ้งไปมาบนพื้นในสภาพเหมือนคนขาดอากาศหายใจ (?) ที่ซาโอรุเกือบจะเดินเหยียบเพราะนึกว่าเป็นผ้าแช็ดเท้า

     

                    อารินกับซาโอรุไม่อยู่หรอ?”

     

                    อืม..สองคนนั้นออกไปไหนแต่เช้าไม่รู้คนเดียวในห้องที่ตื่นอยู่ตอบ วันนี้เดี๋ยวก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว..ช่วงบ่ายๆก็เตรียมตัวกลับได้

     

                    จะกลับอนาเทอร์เลียแล้วสินะหญิงสาวบนเตียงพึมพำเบาๆ ประมาณ 4-5 วันที่พวกเธอออกมานอกโรงเรียนโดยที่ยังไม่ได้ทันเรียนด้วยซ้ำ ให้ตายสิ!เสียค่าเทอมฟรีๆเลยนะเนี่ย

     

                    ซิลเวียร์พักอยู่ที่โรงพยาบาลเพียงแค่คืนเดียวเพราะไม่มีอาการหนักมาก เพียงแค่ใช้พลังมากไปจึงเกิดอาการอ่อนเพลียเท่านั้น และไม่มีบาดแผลภายนอกใดๆนอกจากแผลถลอกเล็กๆน้อยๆ

     

                    นี่ ลาเวน..” คนป่วยพูดกับลาเวนเบาๆ

     

                    ว่าไง..”

     

                    ดูเหมือนว่าเนเลียตามล่าตัวฉันจริงๆนะ..ฉัน..ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดีน้ำเสียงของซิลเวียร์แฝงด้วยกระแสของความสับสนและกังวลใจ คิ้วของเธอขมวดเข้าหากัน

     

                    นั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องเลือกแล้วล่ะ

     

                    ไม่รู้สิ..” เสียงของหญิงสาวตอบอย่างแผ่วเบา เธอก็แค่กังวลแล้วก็สงสัย เนเลียจะต้องการตัวเธอไปทำไม? แล้วถ้าหากสิ่งที่หล่อนต้องการคืออะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับเธอแล้วตามล่าอยู่แบบนี้ คนรอบข้างก็ต้องมาคอยช่วยเหลือและปกป้องแบบนี้น่ะหรอ..คราวนี้โชคดีที่เนเลียยังไม่ได้เอาจริง รวมถึงพวกลาเวนมาช่วยไว้ได้ทัน..แล้วคราวหน้าล่ะ เธอจะโชคดีแบบนี้หรือเปล่า

     

                    ไม่ต้องกังวลไปหรอก ถ้าเรารู้ว่าสิ่งที่หล่อนต้องการคืออะไรก็อาจจะพอทำอะไรได้บ้างก็ได้

     

                    ต่อให้รู้มันก็อาจจะ..ไม่มีทางทำอะไรได้เอาอีกแล้ว..ความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกเศร้าหมอง ไม่สิ..อะไรบางอย่างในตัวเธอต่างหากที่กำลังโศกเศร้า..อะไรกันเนี่ย!

     

                    ชีวิตไม่ใช่ข้อสอบซะหน่อย..”ชายหนุ่มพูดแล้วหยุดไป ซิลเวียร์เงยหน้าขึ้นสบกับนัยน์ตาสีเทาเป็นเชิงสงสัย ไม่ใช่ข้อสอบที่มีตัวเลือกให้ตอบแค่ A B C D แล้วต้องเลือกเพียงข้อที่ถูกเท่านั้นถึงจะได้คะแนน..แต่เป็นชีวิตที่สามารถสร้างตัวเลือกขึ้นมาได้ไม่จำกัด แล้วสำหรับฉัน..ไม่ว่าจะเลือกตัวเลือกไหน ถ้าหากเป็นสิ่งที่เราเลือกเอง..มันจะเป็นข้อที่ถูกที่สุดเสมอคนพูดมีท่าทาง..เหมือนจะเขินแต่ก็กลับมานิ่งเป็นมนุษย์ก้อนหินเหมือนเดิมในเวลาอันรวดเร็ว

     

                    ก็พูดอะไรดีๆเป็นเหมือนกันนี่นาใบหน้าของหญิงสาวที่ดูกังวลเมื่อครู่ผ่อนคลายลง ก่อนจะยิ้มขึ้นอีกครั้งแล้วกล่าวว่า

     

                    แต่คราวหลังช่วยเปรียบเทียบอะไรที่ไม่ใช่ข้อสอบได้ไหม? ขนาดมันมีแค่ 4 ตัวเลือกฉันยังตอบไม่ค่อยจะถูกเลย

     

                    คนถูกขอร้องเพียงแค่หัวเราะเบาๆ

     ........................................................

     

                    ถนนเมืองฮาฟมูน, 7.12 .

     

                    บรรยากาศยามเช้าบนถนนสายหลักของเมืองคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่เดินสวนกันไปมา บางคนก็เร่งรีบ แต่บางคนก็เดินอย่างสบายๆ แสงอาทิตย์ยามเช้าก็ยังไม่ร้อนมาก ร้านค้าหลายร้านเริ่มทยอยเปิด ทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร ร้านหนังสือ รวมถึงร้านขนมปังอบใหม่ๆที่ส่งกลิ่นหอมของเนยและเครื่องเทศไปทั่วจนบางคนอดไม่ไหวต้องเดินเข้าไปในร้าน

     

                    หม่าม้า~เค้าอยากกินหนมปังอ่า เสียงของเด็กน้อยดังขึ้นข้างหูของหญิงสาวผู้เดินเข้าไปในร้านขนมปังคนหนึ่ง

     

                    โอ๊ๆเดี๋ยวแม่ซื้อให้..จะบ้าหรอยะ!ใครเป็นแม่นายไม่ทราบเสียงอารินผู้เกือบเขวตามมุกดังขึ้น

     

                    ฮือๆมาม่าใจร้ายไม่ยอมซื้อขนมปังให้เค้า”..ซาโอรุ..ผู้สมมุติตนเป็นเด็กน้อยทำแก้มป่องเลียนแบบเด็ก ยกมือขึ้นกอดอก แถมยังแกล้งเปลี่ยนสำเนียงหม่าม้าเป็น มาม่าอีกต่างหาก

     

                    อารินมองคนสวมวิญญาณเด็กกะทันหันอย่างอึ้งๆ กล้าจริงนะนายและก่อนที่เส้นประสาทที่เท้าของอารินจะได้ทำงาน เสียงเจ้าของร้านสาวก็ดังขึ้น

     

                    ว่าไงจ้ะเด็กน้อย จะเอาขนมปังอะไรดีจ้ะเจ้าหล่อนถามยิ้มๆ จนอารินถึงกับเกือบจะกุมขมับ ยังอุตส่าห์จะรับมุกอีกแน่ะ

     

                    ฮะๆ เอาอันนี้ 6 ชิ้นนะ..ไปฝากพวกนั้นด้วยซาโอรุกลับคืนสู่โหมดปกติเมื่ออารินทำท่าจะเข้ามาเตะเขาไม่วินาทีใดก็วินาทีหนึ่ง แล้วเมื่อซื้อเสร็จ ทั้งคู่ก็เดินออกมาจากร้านขนมปังแล้วเดินไปยังร้านคอฟฟี่ชอปข้างๆ ซึ่งมัน..แปลกกว่าร้านอื่นๆนิดหน่อยตรงที่ลักษณะของร้านจะคล้ายกับบ้านต้นไม้ แต่ก็ดูเหมือนจะมีลูกค้าเดินเข้าไปในร้านอยู่หลายคนทีเดียว

     

                    วันนี้ซาโอรุดูจะตื่นเต้นกับการเดินชมเมืองเป็นพิเศษ นัยน์ตาสีน้ำตาลทอประกายสดใส ซาโอรุเป็นคนตัวสูง ถึงแม้จะมีร่างที่บางกว่าผู้ชายคนอื่นๆเล็กน้อย รอยยิ้มหวานที่มักชวนให้คนมองถึงกับหลงไปชั่วขณะ..(หลงทางเรอะ?)

     

    และเมื่ออารินเดินเข้าไปในร้านก็พบสิ่งที่เป็นจุดเรียกลูกค้าของที่นี่..เพราะร้านอยู่สูงกว่าบ้านเรือนและร้านอื่นๆทำให้สามารถมองเห็นบรรยากาศ รวมถึงดวงอาทิตย์ยามเช้าทอประกายเจิดจ้าได้ชัดเจน

     

                    กาแฟได้แล้วค่ะสาวเสริฟเดินเข้ามาพร้อมแก้วกาแฟหอมกรุ่น 2 แก้ว

     

                    ซาโอรุยกกาแฟขึ้นดื่ม วันนี้ต้องกลับโรงเรียนแล้วหรอ

     

                    หือ..ท่าทางเสียใจมากเลยนะที่จะได้กลับหญิงสาวตอบ พลางใช้มือทัดเส้นผมสีฟ้าของเธอที่หู แต่ก็ดูเหมือนมันจะร่วงลงมาอีกครั้ง

     

    นัยน์ตาสีน้ำตาลของซาโอรุจ้องมองหญิงสาว เธอเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถาม

     

    ถึงตอนเด็กๆเธอจะไว้ผมยาว..แต่ว่าเธอไว้ผมสั้นแบบนี้ก็น่ารักดีนะแล้วอารินก็หัวเราะตอบ แต่ฉันเนี่ย..ไว้ทรงไหนก็ดูดีเนอะอาริน

     

                    แค่กๆคนฟังถึงกลับสำลักกาแฟ

     

                    อะไรกันๆสำลักความหล่อฉันหรือยังไงก่อนที่ใบหน้าหวานจะยิ้มหราใส่คนกำลังสำลักกาแฟอย่างเอาเป็นเอาตาย


     ......................................................

     

    เอ้าๆขึ้นรถได้แล้วรถม้าสองคันจอดอยู่หน้าโรงพยาบาลเพื่อรอรับซิลเวียร์และเพื่อนๆ ซิลเวียร์ อาริน เอริเคทและบีราเคิลขึ้นคันแรก ส่วนพวกผู้ชายขึ้นคันหลัง

     

    ออกรถได้เลยค่ะซิลเวียร์ซึ่งขึ้นเป็นคนสุดท้ายบอกกับคนขับ แล้วรถก็ค่อยๆเคลื่อนตัวออก ในขณะที่รถม้าคันหลังก็เคลื่อนตามเช่นเดียวกัน

     

    นั่น..เฟริวหรือเปล่าเอเลนที่นั่งอยู่บนรถคันหลังพูดขึ้นเมื่อสังเกตเห็นคนคุ้นเคยวิ่งตามมา ช่วยจอดรถก่อนครับแล้วรถก็หยุดนิ่ง และดูเหมือนรถอีกคันก็หยุดลงด้วย เฟริววิ่งมาหาเอเลน พลางหายใจอย่างถี่ๆ

     

    คุณเฟริวมีอะไรหรอครับ

     

    ฉัน..แฮก..ไปด้วยพูดจบก็กระโดดขึ้นรถหน้าตาเฉยท่ามกลางสายตางุนงงของทุกคน เอาน่า..เดี๋ยวจะบอกเหตุผลให้ฟังแล้วเจ้าตัวก็ซุบซิบๆกับพวกผู้ชายในรถคันหลัง

     

    ...ทีนี้เข้าใจแล้วใช่มะทุกตัว เอ๊ย! ทุกคนพยักหน้ารับ

     

    เหลือเชื่อเลยนะเนี่ยซาโอรุบอก ในขณะที่ท่านลาเวนเพิ่งจะลืมตาขึ้นมาพลางหาววอดใหญ่..สรุปได้ว่า..มันไม่ได้ฟัง

     

    ลาเวน..นายไม่สนใจเลยเรอะเฟริวถามสีหน้าเซ็งๆ

     

    หืม...ผมฟัง..เฉพาะประโยคแรกน่ะ

     ...........................................................

     อนาเทอร์เลีย. เวลา 15.04 นาฬิกา

    ตื่นได้แล้วซิลเวียร์..

     

    วันนี้ไม่มีเรียนไม่ใช่หรอคะป้าเฮร่า..เจ้าตัวพูดทั้งที่ยังสะลึมสะลือเต็มที่

     

    เฮร่าอะไรของคุณคะ..ฉันชื่อเอริเคทค่ะ

     

    หา!..ซาเรีย!..

     

                    โป้ก!

     

                    โอ้ย!..ซิลเวียร์ร้องเมื่อศรีษะกระแทกเข้ากับขอบของรถเข้าเต็มรัก อารินหัวเราะคิก เธอพึมพำเบาๆว่าคุณซาเรียเจ้าขา..ขนาดในฝันยังตามมาหลอกหลอนอีกหรอคะเนี่ย..

     

                    คุณหนูเรียกดิฉันหรอคะ

     

                    ว้าก!” คุณหนูร้องเสียงหลง คะ..คุณซาเรียร้องพลางขยี้ตาอย่างตกใจ

     

                    ฟังดูเป็นคำพูดที่ฉลาดมากเลยนะคะ...เว้นเสียแต่ว่าคุณหนูจะเห็นดิฉันเป็นตระกร้าดอกไม้อาจารย์สาวพูดด้วยรอยยิ้ม

     

                    ..แบบนี้ตัวจริงไม่ผิดแน่ 

     

                    ซิลเวียร์รีบลงจากรถม้าไปรวมกับเอริเคทและคนอื่นๆ ซาเรียเดินเข้ามาหาก่อนจะพูดว่า

     

    คุณหญิงเป็นห่วงคุณมากๆเลยนะคะ..พอได้รับการติดต่อจากโรงเรียนว่าพบตัวคุณหนูแล้วก็รีบส่งดิฉันมาค่ะ

     

    ขอบคุณค่ะ..หนูไม่เป็นอะไรมากหญิงสาวพูดด้วยท่าทีที่แปลกไปจนเพื่อนๆถึงกับกระพริบตาปริบๆ น้ำเสียงฟังดูเรียบๆแต่แฝงด้วยความอ่อนโยน ใบหน้าประดับรอยยิ้มบางๆแบบ คุณหนูจริงๆ..นี่สิถึงจะเป็น โฉมหน้าของคุณหนูแห่งโซมาเลนซ์

     

    ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะกลับไปรายงานให้ว่า..อาจารย์สาวสมุดเล่มเล็กๆขึ้นมาจด หลังจากหายไปหลายวัน..ไม่มีการกระทบกระเทือนทางสมอง..

     

    (- -)   <<  หน้าซิลเวียร์

     

    และอาจจะฉลาดกว่าเดิมเพราะสามารถมองออกว่าฉันคือซาเรีย..ไม่ใช่ตระกร้า ประโยคต่อมาแทบจะทำเอาใบหน้าประดับรอยยิ้มของคุณหนูมุ่ยลง

     

    ถ้าอย่างนั้นดิฉันกลับก่อนนะคะ

     

    ค่ะ....ตามสบายเลย

     

    ซาเรียยิ้มค่ะ..แต่ผลการเรียนเทอมนี้อย่าให้ต่ำกว่า B+ แล้วกันนะคะ..ไม่อย่างงั้นดิฉันอาจจะเผลอทำยาบางอย่างหกลงในในชามของคุณหนู”..แล้วคนพูดก็ยิ้มหวานชวนขนลุก..อย่างที่ทำเป็นประจำ ก่อนจะหันหลังกลับไปยังรถ พอดีกับรุ่นพี่ของหอวารีคนหนึ่งวิ่งมาอย่างรีบร้อน

     

    พวกเธอตรงนั้นน่ะ!”

     

    คะ

     

    พวกเธอคือเด็กที่หายไปใช่ไหม

     

    ค่ะ..ทำไมหรอคะซิลเวียร์ถาม

     

    เย็นวันนี้..ประธานหอวารีมีเรื่องจะคุยกับพวกเธอน่ะ

     

    รุ่นพี่เลนเซสหรอคะ?” เมื่อหญิงสาวถาม รุ่นพี่คนนั้นก็เลิกคิ้วสูงแต่ไม่พูดอะไร

     

    อืม..ประธานนั่นแหล่ะก่อนจะหันหลังกลับไป แต่แล้วก็หันกลับมาอีกครั้ง เพิ่งเดินทางกลับมาก็ไปพักก่อนก็ได้นะ...วันนี้วันอาทิตย์ไม่มีเรียนเหล่ารุ่นน้องพยักหน้ารับ พวกเขาออกเดินทางจากฮาฟมูนราวๆ 10 นาฬิกา (ซึ่งออกเดินทางก่อนกำหนดการที่ลาเวนวางเอาไว้ว่าบ่ายๆเล็กน้อย) และตอนนี้ก็เป็นเวลา 15 นาฬิกาโดยประมาณ

     

    ฮ้าว~เดินทางมาเหนื่อยๆก็ไปพักกันเถอะเนอะเด็กสาวผมเงินเอ่ย พลางยกมือปิดปากหาว

    เธอน่ะนอนมาตลอดทางยังจะหาวอีกหรอ?แล้วมาดคุณหนูเมื่อกี้มันหายไปไหนหมดกันฮะอารินกระเซ้ายิ้มๆ แต่คนเป็นคุณหนูทำหน้ามุ่ย

     

    อย่ายุ่งน่า..กลับห้องได้แล้ว ซิลเวียร์โบกมือไล่หยอยๆ รีบเดินไปยังห้อง แต่แล้วก็หยุดกึกเอาซะดื้อๆ มองหาคนใกล้ตัวที่สุด

     

    เอเลนๆแล้วคนถูกเรียกที่กำลังเดินก็หันกลับมา

     

    ครับ?”

     

    ทำไมเฟริวถึงมาที่นี่หรอ

     

    เอเลนยิ้ม ก็กลับมายังที่ของเขาน่ะสิครับ..แล้วต่อให้พวกผมอยากห้ามไม่ให้มาก็ไม่ได้ด้วยสิ

     

    หา?” คนถามกระพริบตาปริบๆ

     

    อย่ายุ่งน่า..กลับห้องได้แล้วครับคนสุภาพกว่าพูดเลียนแบบซิลเวียร์เพียงแต่มี ครับต่อท้าย

     

    จ้าๆ..ถามแค่นี้ก็ทำเป็นงุบงิบซิลเวียร์บ่นอุบอิบ กลับไปพักดีกว่า..

    ..................................................

     

                    ห้องประธานหอวารี : ‘ไม่มีธุระด่วนกรุณาไปติดต่อห้องกรรมการนักเรียนก่อน’ 

     

    กองเอกสารสูงท่วมศรีษะอันน่าเผาทิ้งวางสุมอยู่บนโต๊ะทำงานที่มีป้ายชื่อ เลนเซส เวอร์คัสตั้งไว้อยู่ ส่วนเจ้าตัว..เอ่อ..กำลังง่วนอยู่กับการเซ็นชื่อบนเอกสาร แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่เคยมาห้องนี้มาก่อนอาจจะมองไม่เห็นแม้ศรีษะของเขาที่ถูกหนังสือบังอยู่ก็เป็นได้

     

    ร้อนโว้ย!” ประธานหนุ่มเซ็นไปก็บ่นไป มือขาวปาดเหงื่อที่ไหลลงมาและเส้นผมสีดำที่เปือกชุ่ม นัยน์ตาสีม่วงเป็นประกายมองลงไปบนใต้กองเอกสาร แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายชื่อหนึ่งที่วางอยู่ใต้กองหนังสือที่ทำเอาเขาถึงกับกัดฟันกรอดอย่างอารมณ์เสีย

     

    ไอ้ประธานบ้า! กลับมาเมื่อไหร่พ่อจะสับให้เป็นชิ้นๆเลย!”

     

    ป้ายที่เขียนว่า เฟริว  ซาร์เลส - ประธานหอวารี

     

    สายลมอ่อนๆพัดผ่านหน้าต่างห้องประธาน เอกสารใบหนึ่งปลิวปะทะใบหน้าเจ้าของห้องอย่างจัง

     

    เอกสารอนุญาตให้ เลนเซส เวอร์คัส - รองประธานหอวารีรักษาการในตำแหน่งประธานหอวารีชั่วคราว ระหว่างที่ เฟริว ซาร์เลส - ประธานหอวารีไปปฏิบัติภารกิจต่างเมือง

     

    ..แล้วท่านผู้ดำรงตำแหน่งประธานก็เกิดอาการประสาทขึ้นอีกรอบจนแทบจะเสกไฟเผาหนังสือทั้งห้องให้วอดวาย

     

     

    ..มีคนบ่นว่า.."เปิดเข้ามาดูร้อยครั้ง..ก็ไม่อัพร้อยครั้ง" - - นั่นก็เพราะว่าวิพอัพเมื่อคุณเปิดครั้งที่ 101น่ะสิคะ!

    21friend (30 เมษายน 2553 / 18:39) : ถึงกับหัวเราะค้างเลยหรอ?..แสดงว่าหงษ์เป็นพวกชอบเห็นคนอื่นไม่มีซะตากรรมนะคะเนี่ย - - แล้วก็ยินดีด้วยที่ได้อยู่หออัคคีค่า~ (ใครยังไม่ได้ทำแบบทดสอบก็ไปดูที่หน้าแรกนะคะ มีลิ้งค์ให้)

    หยกฟ้า (30 เมษายน 2553 / 07:22) : อ่า..ค่ะ ถ้าว่างจะแวะไปวิจารณ์ให้นะคะ ^^

    devil-cool (30 เมษายน 2553 / 08:46) : อัพแล้วค่า~เข้ามาดูยังเอ่ย?ถ้ามาแล้วก็เม้นต์ด้วยน้า 55+

    The Wall of Toon (5 พฤษภาคม 2553 / 10:19) : 55+ อาจจะเป็นเพราะความอ่อนหวานของเอริเคทด้วยมั้งคะที่ทำให้ไม่เหมือน..ก็เล่นหวานซะขนาดนั้นนี่นา - - เอ่อ..แต่อย่าเพิ่งหมั่นไส้ที.เค.จนบริจาคบาทาให้นะคะ..หัวของท่านสงวนไว้ให้สันหนังสือบีราเคิลคนเดียว..ฮะๆ

    คุงญิ๋ง>>ฝน ( 6 พฤษภาคม 2553 / 20:41) : ค่า~อย่าเพิ่งทิ้งกันแล้วกันน้า

    ShaDow_aLonE (7 พฤษภาคม 2553 / 16:58) : ดีใจด้วยค่ะ (แปะๆ) ในที่สุดลาเวนก็ได้พูดแล้ว~เย่!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×