คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : หนทางที่เลือก
ตอนที่ 13 หนทางที่เลือก
Half moon Hospital, 7.46 น.
“ตื่นแล้วหรอ” เสียงทักจากลาเวนดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำเอาซิลเวียร์สะดุ้งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะกล่าวตอบ
”อรุณสวัสดิ์” พลางกวาดมองไปรอบห้องซึ่งมีเพื่อน ๆทุกคนของเธอนอนอยู่..เอ่อ..อาจจะยกเว้นที.เค.ที่นอนกลิ้งไปมาบนพื้นในสภาพเหมือนคนขาดอากาศหายใจ (?) ที่ซาโอรุเกือบจะเดินเหยียบเพราะนึกว่าเป็นผ้าแช็ดเท้า
“อารินกับซาโอรุไม่อยู่หรอ?”
“อืม..สองคนนั้นออกไปไหนแต่เช้าไม่รู้”คนเดียวในห้องที่ตื่นอยู่ตอบ “วันนี้เดี๋ยวก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว..ช่วงบ่ายๆก็เตรียมตัวกลับได้”
“จะกลับอนาเทอร์เลียแล้วสินะ”หญิงสาวบนเตียงพึมพำเบาๆ ประมาณ 4-5 วันที่พวกเธอออกมานอกโรงเรียนโดยที่ยังไม่ได้ทันเรียนด้วยซ้ำ ให้ตายสิ!เสียค่าเทอมฟรีๆเลยนะเนี่ย
ซิลเวียร์พักอยู่ที่โรงพยาบาลเพียงแค่คืนเดียวเพราะไม่มีอาการหนักมาก เพียงแค่ใช้พลังมากไปจึงเกิดอาการอ่อนเพลียเท่านั้น และไม่มีบาดแผลภายนอกใดๆนอกจากแผลถลอกเล็กๆน้อยๆ
“นี่ ลาเวน..” คนป่วยพูดกับลาเวนเบาๆ
“ว่าไง..”
“ดูเหมือนว่าเนเลียตามล่าตัวฉันจริงๆนะ..ฉัน..ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี” น้ำเสียงของซิลเวียร์แฝงด้วยกระแสของความสับสนและกังวลใจ คิ้วของเธอขมวดเข้าหากัน
“นั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องเลือกแล้วล่ะ”
“ไม่รู้สิ..” เสียงของหญิงสาวตอบอย่างแผ่วเบา เธอก็แค่กังวลแล้วก็สงสัย เนเลียจะต้องการตัวเธอไปทำไม? แล้วถ้าหากสิ่งที่หล่อนต้องการคืออะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับเธอแล้วตามล่าอยู่แบบนี้ คนรอบข้างก็ต้องมาคอยช่วยเหลือและปกป้องแบบนี้น่ะหรอ..คราวนี้โชคดีที่เนเลียยังไม่ได้เอาจริง รวมถึงพวกลาเวนมาช่วยไว้ได้ทัน..แล้วคราวหน้าล่ะ เธอจะโชคดีแบบนี้หรือเปล่า
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก ถ้าเรารู้ว่าสิ่งที่หล่อนต้องการคืออะไรก็อาจจะพอทำอะไรได้บ้างก็ได้”
“ต่อให้รู้มันก็อาจจะ..ไม่มีทางทำอะไรได้” เอาอีกแล้ว..ความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกเศร้าหมอง ไม่สิ..อะไรบางอย่างในตัวเธอต่างหากที่กำลังโศกเศร้า..อะไรกันเนี่ย!
“ชีวิตไม่ใช่ข้อสอบซะหน่อย..”ชายหนุ่มพูดแล้วหยุดไป ซิลเวียร์เงยหน้าขึ้นสบกับนัยน์ตาสีเทาเป็นเชิงสงสัย “ไม่ใช่ข้อสอบที่มีตัวเลือกให้ตอบแค่ A B C D แล้วต้องเลือกเพียงข้อที่ถูกเท่านั้นถึงจะได้คะแนน..แต่เป็นชีวิตที่สามารถสร้างตัวเลือกขึ้นมาได้ไม่จำกัด แล้วสำหรับฉัน..ไม่ว่าจะเลือกตัวเลือกไหน ถ้าหากเป็นสิ่งที่เราเลือกเอง..มันจะเป็นข้อที่ถูกที่สุดเสมอ” คนพูดมีท่าทาง..เหมือนจะเขินแต่ก็กลับมานิ่งเป็นมนุษย์ก้อนหินเหมือนเดิมในเวลาอันรวดเร็ว
“ก็พูดอะไรดีๆเป็นเหมือนกันนี่นา” ใบหน้าของหญิงสาวที่ดูกังวลเมื่อครู่ผ่อนคลายลง ก่อนจะยิ้มขึ้นอีกครั้งแล้วกล่าวว่า
“แต่คราวหลังช่วยเปรียบเทียบอะไรที่ไม่ใช่ข้อสอบได้ไหม? ขนาดมันมีแค่ 4 ตัวเลือกฉันยังตอบไม่ค่อยจะถูกเลย”
คนถูกขอร้องเพียงแค่หัวเราะเบาๆ
ถนนเมืองฮาฟมูน, 7.12 น.
บรรยากาศยามเช้าบนถนนสายหลักของเมืองคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่เดินสวนกันไปมา บางคนก็เร่งรีบ แต่บางคนก็เดินอย่างสบายๆ แสงอาทิตย์ยามเช้าก็ยังไม่ร้อนมาก ร้านค้าหลายร้านเริ่มทยอยเปิด ทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร ร้านหนังสือ รวมถึงร้านขนมปังอบใหม่ๆที่ส่งกลิ่นหอมของเนยและเครื่องเทศไปทั่วจนบางคนอดไม่ไหวต้องเดินเข้าไปในร้าน
“หม่าม้า~เค้าอยากกินหนมปังอ่า” เสียงของเด็กน้อยดังขึ้นข้างหูของหญิงสาวผู้เดินเข้าไปในร้านขนมปังคนหนึ่ง
“โอ๊ๆเดี๋ยวแม่ซื้อให้..จะบ้าหรอยะ!ใครเป็นแม่นายไม่ทราบ” เสียงอารินผู้เกือบเขวตามมุกดังขึ้น
“ฮือๆมาม่าใจร้ายไม่ยอมซื้อขนมปังให้เค้า”..ซาโอรุ..ผู้สมมุติตนเป็นเด็กน้อยทำแก้มป่องเลียนแบบเด็ก ยกมือขึ้นกอดอก แถมยังแกล้งเปลี่ยนสำเนียง ‘หม่าม้า’ เป็น ‘มาม่า’ อีกต่างหาก
อารินมองคนสวมวิญญาณเด็กกะทันหันอย่างอึ้งๆ ‘กล้าจริงนะนาย’ และก่อนที่เส้นประสาทที่เท้าของอารินจะได้ทำงาน เสียงเจ้าของร้านสาวก็ดังขึ้น
“ว่าไงจ้ะเด็กน้อย จะเอาขนมปังอะไรดีจ้ะ” เจ้าหล่อนถามยิ้มๆ จนอารินถึงกับเกือบจะกุมขมับ ‘ยังอุตส่าห์จะรับมุกอีกแน่ะ’
“ฮะๆ เอาอันนี้ 6 ชิ้นนะ..ไปฝากพวกนั้นด้วย” ซาโอรุกลับคืนสู่โหมดปกติเมื่ออารินทำท่าจะเข้ามาเตะเขาไม่วินาทีใดก็วินาทีหนึ่ง แล้วเมื่อซื้อเสร็จ ทั้งคู่ก็เดินออกมาจากร้านขนมปังแล้วเดินไปยังร้านคอฟฟี่ชอปข้างๆ ซึ่งมัน..แปลกกว่าร้านอื่นๆนิดหน่อยตรงที่ลักษณะของร้านจะคล้ายกับบ้านต้นไม้ แต่ก็ดูเหมือนจะมีลูกค้าเดินเข้าไปในร้านอยู่หลายคนทีเดียว
วันนี้ซาโอรุดูจะตื่นเต้นกับการเดินชมเมืองเป็นพิเศษ นัยน์ตาสีน้ำตาลทอประกายสดใส ซาโอรุเป็นคนตัวสูง ถึงแม้จะมีร่างที่บางกว่าผู้ชายคนอื่นๆเล็กน้อย รอยยิ้มหวานที่มักชวนให้คนมองถึงกับหลงไปชั่วขณะ..(หลงทางเรอะ?)
และเมื่ออารินเดินเข้าไปในร้านก็พบสิ่งที่เป็นจุดเรียกลูกค้าของที่นี่..เพราะร้านอยู่สูงกว่าบ้านเรือนและร้านอื่นๆทำให้สามารถมองเห็นบรรยากาศ รวมถึงดวงอาทิตย์ยามเช้าทอประกายเจิดจ้าได้ชัดเจน
“กาแฟได้แล้วค่ะ” สาวเสริฟเดินเข้ามาพร้อมแก้วกาแฟหอมกรุ่น 2 แก้ว
ซาโอรุยกกาแฟขึ้นดื่ม “วันนี้ต้องกลับโรงเรียนแล้วหรอ”
“หือ..ท่าทางเสียใจมากเลยนะที่จะได้กลับ” หญิงสาวตอบ พลางใช้มือทัดเส้นผมสีฟ้าของเธอที่หู แต่ก็ดูเหมือนมันจะร่วงลงมาอีกครั้ง
นัยน์ตาสีน้ำตาลของซาโอรุจ้องมองหญิงสาว เธอเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถาม
“ถึงตอนเด็กๆเธอจะไว้ผมยาว..แต่ว่าเธอไว้ผมสั้นแบบนี้ก็น่ารักดีนะ” แล้วอารินก็หัวเราะตอบ “แต่ฉันเนี่ย..ไว้ทรงไหนก็ดูดีเนอะอาริน”
“แค่กๆ” คนฟังถึงกลับสำลักกาแฟ…
“อะไรกันๆสำลักความหล่อฉันหรือยังไง” ก่อนที่ใบหน้าหวานจะยิ้มหราใส่คนกำลังสำลักกาแฟอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เอ้าๆขึ้นรถได้แล้ว” รถม้าสองคันจอดอยู่หน้าโรงพยาบาลเพื่อรอรับซิลเวียร์และเพื่อนๆ ซิลเวียร์ อาริน เอริเคทและบีราเคิลขึ้นคันแรก ส่วนพวกผู้ชายขึ้นคันหลัง
“ออกรถได้เลยค่ะ” ซิลเวียร์ซึ่งขึ้นเป็นคนสุดท้ายบอกกับคนขับ แล้วรถก็ค่อยๆเคลื่อนตัวออก ในขณะที่รถม้าคันหลังก็เคลื่อนตามเช่นเดียวกัน
“นั่น..เฟริวหรือเปล่า” เอเลนที่นั่งอยู่บนรถคันหลังพูดขึ้นเมื่อสังเกตเห็นคนคุ้นเคยวิ่งตามมา “ช่วยจอดรถก่อนครับ” แล้วรถก็หยุดนิ่ง และดูเหมือนรถอีกคันก็หยุดลงด้วย เฟริววิ่งมาหาเอเลน พลางหายใจอย่างถี่ๆ
“คุณเฟริวมีอะไรหรอครับ”
“ฉัน..แฮก..ไปด้วย” พูดจบก็กระโดดขึ้นรถหน้าตาเฉยท่ามกลางสายตางุนงงของทุกคน “เอาน่า..เดี๋ยวจะบอกเหตุผลให้ฟัง” แล้วเจ้าตัวก็ซุบซิบๆกับพวกผู้ชายในรถคันหลัง
“...ทีนี้เข้าใจแล้วใช่มะ” ทุกตัว เอ๊ย! ทุกคนพยักหน้ารับ
“เหลือเชื่อเลยนะเนี่ย” ซาโอรุบอก ในขณะที่ท่านลาเวนเพิ่งจะลืมตาขึ้นมาพลางหาววอดใหญ่..สรุปได้ว่า..มันไม่ได้ฟัง
“ลาเวน..นายไม่สนใจเลยเรอะ” เฟริวถามสีหน้าเซ็งๆ
“หืม...ผมฟัง..เฉพาะประโยคแรกน่ะ”
“ตื่นได้แล้วซิลเวียร์..”
“วันนี้ไม่มีเรียนไม่ใช่หรอคะป้าเฮร่า..”เจ้าตัวพูดทั้งที่ยังสะลึมสะลือเต็มที่
“เฮร่าอะไรของคุณคะ..ฉันชื่อเอริเคทค่ะ”
“หา!..ซาเรีย!..”
โป้ก!
“โอ้ย!..” ซิลเวียร์ร้องเมื่อศรีษะกระแทกเข้ากับขอบของรถเข้าเต็มรัก อารินหัวเราะคิก เธอพึมพำเบาๆว่า “คุณซาเรียเจ้าขา..ขนาดในฝันยังตามมาหลอกหลอนอีกหรอคะเนี่ย..”
“คุณหนูเรียกดิฉันหรอคะ”
“ว้าก!” คุณหนูร้องเสียงหลง “คะ..คุณซาเรีย” ร้องพลางขยี้ตาอย่างตกใจ
“ฟังดูเป็นคำพูดที่ฉลาดมากเลยนะคะ...เว้นเสียแต่ว่าคุณหนูจะเห็นดิฉันเป็นตระกร้าดอกไม้” อาจารย์สาวพูดด้วยรอยยิ้ม
‘..แบบนี้ตัวจริงไม่ผิดแน่’
ซิลเวียร์รีบลงจากรถม้าไปรวมกับเอริเคทและคนอื่นๆ ซาเรียเดินเข้ามาหาก่อนจะพูดว่า
“คุณหญิงเป็นห่วงคุณมากๆเลยนะคะ..พอได้รับการติดต่อจากโรงเรียนว่าพบตัวคุณหนูแล้วก็รีบส่งดิฉันมาค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ..หนูไม่เป็นอะไรมาก” หญิงสาวพูดด้วยท่าทีที่แปลกไปจนเพื่อนๆถึงกับกระพริบตาปริบๆ น้ำเสียงฟังดูเรียบๆแต่แฝงด้วยความอ่อนโยน ใบหน้าประดับรอยยิ้มบางๆแบบ ‘คุณหนู’ จริงๆ..นี่สิถึงจะเป็น ‘โฉมหน้าของคุณหนูแห่งโซมาเลนซ์’
“ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะกลับไปรายงานให้ว่า..” อาจารย์สาวสมุดเล่มเล็กๆขึ้นมาจด “หลังจากหายไปหลายวัน..ไม่มีการกระทบกระเทือนทางสมอง..”
(- -) << หน้าซิลเวียร์
“และอาจจะฉลาดกว่าเดิมเพราะสามารถมองออกว่าฉันคือซาเรีย..ไม่ใช่ตระกร้า” ประโยคต่อมาแทบจะทำเอาใบหน้าประดับรอยยิ้มของคุณหนูมุ่ยลง
“ถ้าอย่างนั้นดิฉันกลับก่อนนะคะ”
“ค่ะ..” ..ตามสบายเลย
ซาเรียยิ้ม “ค่ะ..แต่ผลการเรียนเทอมนี้อย่าให้ต่ำกว่า B+ แล้วกันนะคะ..ไม่อย่างงั้นดิฉันอาจจะเผลอทำยาบางอย่างหกลงในในชามของคุณหนู”..แล้วคนพูดก็ยิ้มหวานชวนขนลุก..อย่างที่ทำเป็นประจำ ก่อนจะหันหลังกลับไปยังรถ พอดีกับรุ่นพี่ของหอวารีคนหนึ่งวิ่งมาอย่างรีบร้อน
“พวกเธอตรงนั้นน่ะ!”
“คะ”
“พวกเธอคือเด็กที่หายไปใช่ไหม”
“ค่ะ..ทำไมหรอคะ” ซิลเวียร์ถาม
“เย็นวันนี้..ประธานหอวารีมีเรื่องจะคุยกับพวกเธอน่ะ”
“รุ่นพี่เลนเซสหรอคะ?” เมื่อหญิงสาวถาม รุ่นพี่คนนั้นก็เลิกคิ้วสูงแต่ไม่พูดอะไร
“อืม..ประธานนั่นแหล่ะ” ก่อนจะหันหลังกลับไป แต่แล้วก็หันกลับมาอีกครั้ง “เพิ่งเดินทางกลับมาก็ไปพักก่อนก็ได้นะ...วันนี้วันอาทิตย์ไม่มีเรียน” เหล่ารุ่นน้องพยักหน้ารับ พวกเขาออกเดินทางจากฮาฟมูนราวๆ 10 นาฬิกา (ซึ่งออกเดินทางก่อนกำหนดการที่ลาเวนวางเอาไว้ว่า‘บ่ายๆ’เล็กน้อย) และตอนนี้ก็เป็นเวลา 15 นาฬิกาโดยประมาณ
“ฮ้าว~เดินทางมาเหนื่อยๆก็ไปพักกันเถอะเนอะ” เด็กสาวผมเงินเอ่ย พลางยกมือปิดปากหาว
“เธอน่ะนอนมาตลอดทางยังจะหาวอีกหรอ?แล้วมาดคุณหนูเมื่อกี้มันหายไปไหนหมดกันฮะ” อารินกระเซ้ายิ้มๆ แต่คนเป็นคุณหนูทำหน้ามุ่ย
“อย่ายุ่งน่า..กลับห้องได้แล้ว” ซิลเวียร์โบกมือไล่หยอยๆ รีบเดินไปยังห้อง แต่แล้วก็หยุดกึกเอาซะดื้อๆ มองหาคนใกล้ตัวที่สุด
“เอเลนๆ” แล้วคนถูกเรียกที่กำลังเดินก็หันกลับมา
“ครับ?”
“ทำไมเฟริวถึงมาที่นี่หรอ”
เอเลนยิ้ม “ก็กลับมายังที่ของเขาน่ะสิครับ..แล้วต่อให้พวกผมอยากห้ามไม่ให้มาก็ไม่ได้ด้วยสิ”
“หา?” คนถามกระพริบตาปริบๆ
“อย่ายุ่งน่า..กลับห้องได้แล้วครับ” คนสุภาพกว่าพูดเลียนแบบซิลเวียร์เพียงแต่มี ‘ครับ’ ต่อท้าย
“จ้าๆ..ถามแค่นี้ก็ทำเป็นงุบงิบ” ซิลเวียร์บ่นอุบอิบ “กลับไปพักดีกว่า..”
ห้องประธานหอวารี : ‘ไม่มีธุระด่วนกรุณาไปติดต่อห้องกรรมการนักเรียนก่อน’
กองเอกสารสูงท่วมศรีษะอันน่าเผาทิ้งวางสุมอยู่บนโต๊ะทำงานที่มีป้ายชื่อ ‘เลนเซส เวอร์คัส’ ตั้งไว้อยู่ ส่วนเจ้าตัว..เอ่อ..กำลังง่วนอยู่กับการเซ็นชื่อบนเอกสาร แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่เคยมาห้องนี้มาก่อนอาจจะมองไม่เห็นแม้ศรีษะของเขาที่ถูกหนังสือบังอยู่ก็เป็นได้
“ร้อนโว้ย!” ประธานหนุ่มเซ็นไปก็บ่นไป มือขาวปาดเหงื่อที่ไหลลงมาและเส้นผมสีดำที่เปือกชุ่ม นัยน์ตาสีม่วงเป็นประกายมองลงไปบนใต้กองเอกสาร แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายชื่อหนึ่งที่วางอยู่ใต้กองหนังสือที่ทำเอาเขาถึงกับกัดฟันกรอดอย่างอารมณ์เสีย
“ไอ้ประธานบ้า! กลับมาเมื่อไหร่พ่อจะสับให้เป็นชิ้นๆเลย!”
ป้ายที่เขียนว่า ‘เฟริว ซาร์เลส - ประธานหอวารี’
สายลมอ่อนๆพัดผ่านหน้าต่างห้องประธาน เอกสารใบหนึ่งปลิวปะทะใบหน้าเจ้าของห้องอย่างจัง
‘เอกสารอนุญาตให้ ‘เลนเซส เวอร์คัส - รองประธานหอวารี’รักษาการในตำแหน่งประธานหอวารีชั่วคราว ระหว่างที่ ‘เฟริว ซาร์เลส - ประธานหอวารี’ไปปฏิบัติภารกิจต่างเมือง ’
..แล้วท่านผู้ดำรงตำแหน่งประธานก็เกิดอาการประสาทขึ้นอีกรอบจนแทบจะเสกไฟเผาหนังสือทั้งห้องให้วอดวาย
..มีคนบ่นว่า.."เปิดเข้ามาดูร้อยครั้ง..ก็ไม่อัพร้อยครั้ง" - - นั่นก็เพราะว่าวิพอัพเมื่อคุณเปิดครั้งที่ 101น่ะสิคะ!
21friend (30 เมษายน 2553 / 18:39) : ถึงกับหัวเราะค้างเลยหรอ?..แสดงว่าหงษ์เป็นพวกชอบเห็นคนอื่นไม่มีซะตากรรมนะคะเนี่ย - - แล้วก็ยินดีด้วยที่ได้อยู่หออัคคีค่า~ (ใครยังไม่ได้ทำแบบทดสอบก็ไปดูที่หน้าแรกนะคะ มีลิ้งค์ให้)
หยกฟ้า (30 เมษายน 2553 / 07:22) : อ่า..ค่ะ ถ้าว่างจะแวะไปวิจารณ์ให้นะคะ ^^
devil-cool (30 เมษายน 2553 / 08:46) : อัพแล้วค่า~เข้ามาดูยังเอ่ย?ถ้ามาแล้วก็เม้นต์ด้วยน้า 55+
The Wall of Toon (5 พฤษภาคม 2553 / 10:19) : 55+ อาจจะเป็นเพราะความอ่อนหวานของเอริเคทด้วยมั้งคะที่ทำให้ไม่เหมือน..ก็เล่นหวานซะขนาดนั้นนี่นา - - เอ่อ..แต่อย่าเพิ่งหมั่นไส้ที.เค.จนบริจาคบาทาให้นะคะ..หัวของท่านสงวนไว้ให้สันหนังสือบีราเคิลคนเดียว..ฮะๆ
คุงญิ๋ง>>ฝน ( 6 พฤษภาคม 2553 / 20:41) : ค่า~อย่าเพิ่งทิ้งกันแล้วกันน้า
ShaDow_aLonE (7 พฤษภาคม 2553 / 16:58) : ดีใจด้วยค่ะ (แปะๆ) ในที่สุดลาเวนก็ได้พูดแล้ว~เย่!
ความคิดเห็น