คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 xx การกลับมาของผู้หายสาบสูญ xx
“อ้าว ทีดัส...” เจ้าของชื่อหันควับไปยังต้นเสียง พบเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับตน ผมสีน้ำตาลเข้มยาวถึงบ่า การแต่งกายดูเรียบร้อยแต่หรูหราตามแบบฉบับองค์หญิง เดินเข้ามาอย่างไม่ถือตัวเหมือนเจ้าหญิงหรือสตรีสูงศักดิ์ทั่วๆไป “มารับเงินเดือนหรอ?”
“ขอรับองค์หญิงยูนะ...” ทีดัสกล่าวพลางน้อมตัวคำนับอย่างสุภาพผิดนิสัยทะเล้นของตน... ทว่าอีกฝ่ายกลับทำหน้ามุ่ยไม่พอใจ “บอกแล้วไงว่าไม่ต้องสุภาพ...”
“ขออภัยเป็นอย่างสูงครับ”
“นี่...บอกแล้วไงว่า...”
“ล้อเล่นน่า” ริมฝีปากของชายหนุ่มแตะพวงแก้มใสเบาๆราวทะนุถนอมยิ่งชีพ...
ถ้าไม่บอกก็คงไม่มีใครเชื่อหรอกว่าเด็กกะโปโลอย่างทีดัสจะมีแฟนเป็นถึงธิดาของจักรพรรดิประเทศนี้ “โกรธหรอ?”
“ไม่หรอก...” “แล้วไพน์ล่ะ ไม่มาด้วยกันหรอ?”
ซามูไรหนุ่มส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“เห็นว่าวันนี้งานจะยุ่งเป็นพิเศษน่ะ... เลยไปท่าเรือแต่เช้า”
“งั้นหรอ” ความกังวลปรากฏขึ้นเป็นใบหน้าเด็กสาว “...วันนี้...”
“ทำไมหรอ...วันนี้ทำไม?”
“ไม่รู้ทำไม...ถึงได้รู้สึกว่าวันนี้จะมีบางอย่างมาเยือน...” คำพูดของแฟนสาวทำให้ทีดัสรู้สึกกังวลใจไปตามๆกัน “แล้วบางอย่างที่ว่า...”
“มันไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอก...” “ฉันรู้สึกได้...”
“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไป...”
* * * * * * * * *
“เฮ้! ไอ้หนู...เรือสินค้าอีกลำเทียบท่าแล้วนะ!”
“จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ! เรน ฝากจัดการต่อด้วยนะ...” ไพน์รีบวิ่งไปยังเรือสินค้าที่เพิ่งจอดเทียบท่าได้ไม่นานหลังจากฝากภาระลำเก่าให้เพื่อนร่วมงาน...
นี่ก็ลำที่ 4 ของวันนี้แล้วนะ...จะมาทีทำไมต้องมาพ้อมๆกันด้วยเนี่ย เธอบ่นในใจ... “ขอตรวจใบรายการสินค้าด้วยค่ะ”
“เอ้า...” มือบางรับเอกสาร 3-4 แผ่น มาตรวจดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน “...เรือสินค้า SS. Liki...จำนวนคน.... ”
((โครม))
เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงเอะอะโวยวาย... เมื่อหันไปดูก็เห็นพวกลูกเรือกำลังทะเลาะกันอยู่... ให้ตายสิ ไอ้พวกนี้... มาอยู่ต่างถิ่นก็หัดทำตัวสำรวมหน่อยเซ่...คนยิ่งงานยุ่งๆอยู่ด้วย
“หยุดนะ!!” ร่างบางตะโกนพร้อมรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ “บอกให้หยุดไงเล่า!”
“อะไรห๊ะ ไอ้หนู...ตัวแค่นี้ริอาจมาห้ามงั้นเรอะ!”
“เออดิ...คนยิ่งยุ่งๆ... ดันมาทะเลาะกันอีก จะรออีกซัก 4-5ชั่วโมงก็ไม่ได้”
“สามหาว!!” หนึ่งในหมู่พวกทะเลาะกันตวาดลั่น ตอนนี้เป้าหมายของพวกเขาทั้งหมดกลายเป็นเด็กสาวผมเทาไปซะแล้ว “อยากเจอดีนักรึไง!”
ทว่าเธอกลับยิ้มน้อยๆที่มุมปาก มือก็จับดาบเตรียมพร้อม “จัดให้...”
* * * * * * * * *
แดดยามเที่ยงสาดส่องลงมาอาบไปทั่วบริเวณท่าเรือ ตอนนี้ยังคงมีเรือสำเภาลำใหญ่ก็ยังเข้ามาเทียบท่าอยู่เรื่อยๆ แม้จะไม่ถี่แบบเมื่อตอนเช้าก็ตาม ถึงกระนั้นไพน์ก็ยังไม่ได้หยุดพักเลยแม้นิดเดียว...
“ไพน์...เธอไปพักกินข้าวได้แล้วล่ะ...ที่เหลือฉันจัดการเอง”
“ขอบใจนะ...ฝากด้วยแล้วกัน” สาวผมเทาวางงานทั้งหมดพร้อมบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อล้าออกจากตัวไปได้บ้าง เธอเดินไปยังบริเวณที่เป็นตลาดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือนัก... ร้านอาหารมากมายเรียงกันเป็นระเบียบเรียบร้อยพร้อมสำหรับผู้สัญจรไปมาหรือแม้แต่ผู้ทำงานในบริเวณก็ตาม... แต่นั่นก็ไม่จำเป็นสำหรับไพน์ที่เตรียมข้าวกล่องเองมาจากบ้าน ขอแค่ที่นั่งทานก็พอ...
เมื่อหาที่นั่งทานได้เรียบร้อยแล้ว เธอก็จัดแจงเปิดห่อกล่องข้าวขึ้นมาดู...วันนี้อาซังก็ทำได้น่าทานอีกแล้วสิน้า...
“ขอโทษนะ ขอนั่งด้วยได้มั้ย?” จู่ๆชายหนุ่มคนหนึ่งก็ขอมานั่งด้วย ร่างบางขยับที่ให้กว้างขึ้นแทนคำตอบ “ขอบคุณนะ”
จากไพน์ที่สังเกตแล้ว คนๆนี้เป็นผู้ชาย(เออสิ) อายุราวๆอาซังได้มั้ง ผิวสีแทนเข้ม ผมสีน้ำตาลเข้มเกือบดำเซอร์ๆถูกโพกด้วยผ้าสีแดง จากสไตล์การแต่งตัวแล้วคงจะเป็นพ่อค้า มีรอยแผลเป็นทั่วร่างกาย สงสัยจะเป็นพวกชอบลุยน้ำลุยไฟ ที่สำคัญคือนัยน์ตาสีแดงเพลิงที่เหมือนกับตน...แต่นัยน์ตาของเขาฉายแววรักสนุกผิดกันอย่างสิ้นเชิง...คล้ายกับใครกันนะ...
“ข้าวกล่องน่าทานจังนะ” เขาชวนคุยขึ้นมา ร่างบางยิ้มตอบทั้งๆตะเกียบคาปาก
“ทำเองหรอ?”
“เปล่า...อาจารย์ทำให้น่ะค่ะ”
“โฮ่...อาจารย์ทำให้เลยหรอเนี่ย...” “ใช่คนเดียวกับที่สอนดาบเธอรึเปล่า?”
ไพน์พยักหน้าพร้อมยิ้มนิดๆเมื่อนึกถึงอาจารย์ของตน
“แสดงว่าอาจารย์ของเธอก็ต้องเก่งมากๆเลยล่ะสิ” “ต้องเก่งพอๆกับฉันชัวร์”
เด็กสาวทำหน้าฉงนกับประโยคที่ 2 แต่อีกฝ่ายกำลังยิ้มร่า “เห็นอย่างนี่ก็เถอะ ฉันน่ะ เคยเป็นซามูไรด้วยนะ...ความเร็วก็...”
ฉึบ!
“ประมาณนี้แหละ...” มือกร้านชูข้าวปั้นขึ้น เมื่อหันไปดูในกล่องข้าวจึงรู้ว่าชายคนนี้ฉกข้าวปั้นจากกล่องไป แถมยังโยนเข้าปากได้อย่างน่าตาเฉย “อ๋ออ๊ะ”
ไพน์รู้สึกอึ้งปนขำนิดๆมากกว่าที่จะโกรธ นิสัยแบบนี้มันคล้ายๆใครกันนะ...
“ไพน์...” เสียงเรียกอันคุ้นหูทำให้เด็กสาวหันควับ และไม่ลังเลที่จะวิ่งไปหาเลยแม้แต่นิดเดียว “อาซัง!”
“มาซื้อของน่ะ...กำลังพักเที่ยงอยู่หรอ?”
“อืม”
“วันนี้เห็นเรือสินค้ามาเยอะเป็นพิเศษเลยนี่...ลำบากหน่อยนะ”
“สบายมาก ไม่เป็นอะไรหรอก”
“แต่...” จู่ๆอารอนก็หยุดพูดไป ดวงตาเบิ่งกว้างบอกถึงความตกใจสุดขีด ในสายตาเขาตอนนี้มีแต่ชายคนที่ไพน์คุยด้วยเมื่อกี้ ซึ่งตอนนี้เองเขาก็กำลังมองอารอนด้วยสายตาที่ไม่ต่างกันเลย
“...เจ็คท์...บ้าน่า....”
“รู้จักกันหรอ?” ไพน์ทำหน้าฉงนอีกครั้งเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทั้งสองฝ่าย
“ปะ...เปล่าหรอก” อดีตยอดฝีมือปฏิเสธแบบอ้ำอึ้ง “งั้นฉันกลับก่อนนะ”
“อารอน!!” ทว่าชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้นกลับเรียกชื่อได้อย่างเต็มปาก เจ้าของชื่อทำเป็นไม่สนใจยังคงเดินต่อไป “เดี๋ยวสิ รอฉันก่อน... อารอน!”
“จะหนีฉันทำไมเล่า!” มือคล้ำเอื้อมไปจับไหล่ หวังให้อีกฝ่ายหยุด
“อย่ามาแตะตัวฉัน!!” อารอนตวาดลั่นพร้อมปัดมือออกจากไหล่ตน... ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวแบบนี้เห็นได้ยากนัก แม้แต่ไพน์เองก็ตาม
“แต่...” เจ็คท์พยายามพูด ตอนนี้พวกเขาเริ่มเป็นจุดสนใจของผู้อยู่บริเวณนั้นซะแล้ว แต่ตอนนี้ทั้ง 3 กลับไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลย
“ไม่มีคำว่าแต่!! ฉันเกลียดคำนี้จากปากนายที่สุด!!” ปลายดาบที่แสนแหลมคมชี้มายังลำคอของชายผิวคล้ำ ทำให้เขาต้องชะงักลง
อาซังเป็นอะไรของเขาไปนะ? แล้วหมอนี่เป็นใครกันแน่? ถึงทำให้อาซังแสดงอารมณ์ได้ถึงขนาดนี้...
“ไพน์!!” ทีดัสวิ่งเข้ามาหาไพน์ซึ่งยืนงงมาตั้งแต่ตะกี้แล้ว “เกิดอะไรขึ้นหรอ เอะอะกันเชียว”
“ก็เนี่ยสิ อาซังเป็นอะไรไปก็ไม่รู้...พอเห็น...”
“นะ...นั่นมัน....” คราวนี้ถึงตาเด็กหนุ่มค้างบ้าง เรียวนิ้วสั่นระริกชี้ไปยังชายคู่กรณีของอารอน
“พ่อ!?!?”
“พ่อ!?!?” ทีดัสตะโกนลั่น... ดึงความสนใจของชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนทะเลาะอยู่ก่อนหน้าให้หันมาทางตน... เออใช่ ว่าแล้วว่าชายคนนี้เหมือนใคร ทั้งหน้าตาทั้งนิสัยเหมือนทีดัสไม่มีผิด... ที่แท้ก็พ่อลูกกันนี่เอง... แต่ทีดัสชอบพูดอยู่เสมอๆว่า...
“ทีดัส...?” เจ็คท์ยื่นหน้าหันมามองเด็กหนุ่ม รอยยิ้มน้อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้า... “ไม่เจอ...”
“กลับมาทำไม...” คำพูดแสนเย็นชานี้บาดลึกเข้าไปถึงจิตใจคนเป็นพ่อ และสร้างความตะลึงให้กับผู้คนที่ยืนมองกันนับสิบ นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มฉายแววเกลียดชังได้อย่างชัดเจน
...เกลียดพ่อ...ทีดัสพูดแบบนี้ทุกครั้งที่พูดถึงพ่อตัวเอง...
“ขอร้องล่ะ...อย่ามายุ่งกับฉันอีกเลย” เสียงอันหนักแน่นของอารอนทำให้เจ็คท์ลังเลไปชั่วครู่นึง... ทว่าสายตาของอารอนนั้นกลับแสดงถึงสิ่งตรงกันข้ามกับคำพูดเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง...
“ไม่!!”
“อาซังอย่า!” ไพน์รีบวิ่งไปห้ามอาจารย์ของตนเมื่อเห็นว่าเขากำลังเงื้อดาบฟัน
ชายหนุ่มคู่กรณี...ทว่า...
((ปัง!!!)) ((แคร้ง!!))
เสียงแรกที่ดังนั้นทำให้ชาวบ้านแตกตื่นบ้างก็วิ่งหนี บ้างก็หลบเข้าไปในร้าน บนพื้นปรากฏดาบของอารอนพร้อมลูกกระสุนโลหะเล็กๆกลิ้งอยู่ข้างๆ... “อารอน!!”
“เป็นอะไรรึเปล่า!” ทีดัสรุดเข้ามาหาอารอนทันที มือขวาที่จับดาบเมื่อครู่สั่นระริกด้วยแรงลูกปืน...
“นูจ! ทำอะไรของนายน่ะ?” เจ็คท์ตะโกนถามชายผู้อยู่ไกลออกไปพอควรในมือขวาของชายผู้นั้นจับปืนสั้นซึ่งปากกระบอกปืนยังมีควันเขม่าโชยอยู่...แค่นี้ก็เป็นหลักฐานแสดงว่าเขาเป็นคนยิงได้แจ่มแจ้งแล้ว...
“ผมยอมให้คุณเป็นอันตรายไม่ได้หรอกนะ”เขาค่อยๆเดินเข้ามาหา แม้จะมองจากที่ไกลๆก็เห็นได้ชัดเจนเลยว่าแขนซ้ายกับขาซ้ายของเขาเป็นหุ่นยนต์ แว่นสายตาที่ใส่อยู่แสดงถึงความบกพร่องในสายตาไม่มากก็น้อย ผมยาวสีน้ำตาลถูกรวบขึ้นเพื่อความคล่องตัว สไตล์การแต่งตัวก็คล้ายๆเจ็คท์ คงเป็นเพื่อนร่วมอาชีพกัน“ก็คุณเคยช่วยชีวิตผมไว้นี่นา”
“นั่นมันก็ใช่อยู่หรอก” ทางด้านนี้ถอนหายใจยาว “แต่หัดดูจังหวะซะหน่อยสิ”
“หนอย...แก...” ทีดัสกัดฟันกรอด มือก็พลางจับด้ามดาบหมายจะเอาคืนบ้าง...ทว่า...กลับมีมือบางมากันไว้เสียก่อน...ไพน์ที่ยืนตัวค้างด้วยความตกใจเมื่อครู่เริ่มขยับแล้ว...“ทีดัสถอยไป...”
“ไม่ล่ะ...ฉันจะ...”
“บอกว่าถอยไปไงเล่า!!!” เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกกับเสียงตวาดของร่างบาง แม้จะไม่เห็นใบหน้าที่ก้มอยู่... ก็สามารถรับรู้ได้ถึงรังสีอาฆาตที่แผ่ซ่านออกมาได้เป็นอย่างดี
“นาย...เป็นคนยิงใช่มั้ย?” เธอถามทั้งๆที่รู้คำตอบ ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างง่ายดาย “ใช่...”
“ฉันจะฆ่าแก!!” ดวงตาสีแดงเพลิงกลายเป็นสีแดงเลือดในพริบตา ร่างบางเข้าประชิดตัวชายครึ่งหุ่นยนต์อย่างรวดเร็ว... เร็วขนาดที่สายตาของทีดัสก็มองแทบไม่ทัน...
...แล้วแบบนี้ผู้ชายคนนั้นจะไปรอดหรือ?...
สิ่งที่น่าแปลกอย่าหนึ่งก็คือไพน์ใช้แค่มือและเท้าเท่านั้น...ไม่ได้แม้แต่ชักดาบออกมาเลย... ถึงกระนั้นอีกฝ่ายโดนแต่ละทีก็คราวกระอักเลือด... “...แบบนี้มัน....”
“อย่าบอกนะว่า...” ทีดัสเริ่มเอะใจ
“ใช่แน่นอน...” อารอนสมทบ “ถ้าไม่รีบหยุดล่ะก็...มีหวังไอ้หนุ่มนั่น...”
“ไพน์!!” เด็กหนุ่มทำท่าจะวิ่งไปปราม
“อย่าลืมสิว่าตอนนี้เธอไม่มีสติน่ะ” อารอนรั้งตัวเอาไว้ “ฉันไปเอง...”
“ไพน์...” เสียงเรียกทำให้เด็กสาวชะงักหมัดทันควัน พอหันไปทางผู้เรียกก็เห็นเขาย่างก้าวเข้ามาอย่างสุขุม... และค่อยๆยื่นมือมา... อย่างใจเย็น... “กลับมาสิ...”
“ฉันไม่เป็นไรแล้วเห็นมั้ย...” เขายังคงเรียกต่อไป... “มานี่มา”
เด็กสาวชั่งใจอยู่นาน...มองนูจทีมองอารอนที...
“กลับมาหาฉันนะ...ไพน์...” มือบางปล่อยนูจทันทีที่อารอนเรียกชื่ออีกครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าวิธีการเรียกลูกสุนัขแบบนี้จะใช้ได้ผลกับไพน์ที่กำลังไร้สติ เธอวิ่งรี่เข้าไปหาอาจารย์ของตน (เสียลุกหมด )
“โอ๋ๆ เป็นเด็กดีนะ” มือหนาลูบหัวปลอบ... พอมาถึงตรงนี้ที่สถานการณ์พอจะคลี่คลายทีไร ทีดัสอดขำไม่ได้ทุกที...เด็กสาวสุดแสนเย็นชาอย่างไพน์...เมื่อสติแตกแล้วเหมือนปีศาจจะขย้ำคน... แต่วิธีทำให้ปีศาจร้ายตัวนี้สงบลงกลับ... โอ้ย...เห็นแล้วขำ
แต่ขั้นตอนที่จะให้สงบลงจริงๆน่ะมันหลังจากนี้ต่างหาก...
“เป็นเด็กดี...ขอโทษนะ...” ปึก หมัดตรงของอารอนกระแทกท้องเข้าเต็มๆ ทำให้ร่างบางสลบลงไปในทันที “เอาล่ะ...เรียบร้อย...”
“เดี๋ยวฉันไปบอกนายท่าเองว่าไพน์ขอลาครึ่งวัน” ทีดัสอาสา อย่างรู้หน้าที่
“อืม ฝากด้วยแล้วกัน”
“เดี๋ยว...” เจ็คท์เริ่มทวงบท อารอนหันควับมาตีหน้าเย็นชา “อะไร”
“แล้วหมอนี่ล่ะ?” เขาชี้ไปยังร่างที่นอนสะบักสบอมอยู่บนพื้น
“ทำไม...จะเอาเรื่องหรอ?” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ตัวเองกลับทำหน้าเอาเรื่องซะเอง “นายรู้ดีนี่ว่าควรจะทำยังไง...อีกไม่นานพวกตำรวจคงจะแห่มากันแล้ว...เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะไปจัดการเอง”
“อา...”
“10ปีที่ผ่านมาน่ะมันยาวนานมากรู้มั้ย...” อารอนพูดเบาๆพร้อมช้อนร่างบางที่สลบไสลไม่ได้สติขึ้นให้ถนัดมือ ก่อนจะเดินจากไป
“เป็นไง...โดนเด็กผู้หญิงซัดซะขนาดนี้” เจ็คท์เห็นไปสนใจกับชายหนุ่มที่ค่อยๆลุกขึ้นอย่างยากลำบาก... “อูย...เด็กผู้หญิงหรอเนี่ย...แรงอย่างกับ...”
“ดูเหมือนจะเป็นแรงโกรธซะมากกว่านะ...”
“ท่าทางคงจะให้ความสำคัญมาก...” นูจพูดพลางปัดเศษดินที่เขลอะตัวลงพื้น
“มากกว่าที่ฉันให้กับเขาซะอีก...” ชายผิวเข้มตำหนิตัวเอง “แต่ยังไงซะ...”
“แต่ยังไงซะคุณก็รักเขา...ใช่มั้ยล่ะ”
บทสนทนาถูกขัดจังหวะลงเมื่อตำรวจประมาณ 4-5 นายวิ่งเขามา...
“คุณตำรวจเดี๋ยวผมจะอธิบายทุกอย่างให้ฟังเอง...” เจ็คท์เปิดฉากเจรจาก่อนที่พวกตำรวจจะได้พูดอะไร “แต่ช่วยพาชายคนนี้ไปทำแผลก่อนได้มั้ย?”
* * * * * * * * *
“อือ...” ร่างบางครางงัวเงีย พร้อมลืมตาขึ้น... เมื่อมองไปรอบๆพบบรรยากาศคุ้นตา...นี่ในบ้านนี่นา...แล้วมืดขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย...
“ฟื้นซะที...” ทีดัสถอนหายใจโล่งอกทันทีที่เด็กสาวรู้สึกตัว
“อ่าว...นี่ฉัน...เป็นอย่างนั้นไปอีกแล้วหรอ...”
“...ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกน่า...หมอนั่นผิดเองต่างหาก” เด็กหนุ่มปลอบ แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ไพน์สบายใจขึ้นเลย “แล้วอาซังเป็นอะไรรึเปล่า...”
“ไม่เลย...”
“แม้แต่นิดเดียว...?”
“แม้แต่นิดเดียว...กังวลมากไปรึเปล่า ไพน์” คราวนี้คนตอบกลับเป็นเจ้าตัวเสียเอง เขาเดินเข้ามานั่งใกล้เด็กสาว “เธอสลบไปก่อนจะได้ทำอะไรฉันซะอีก”
“แล้วหมอนั่น.....”
“ยังไม่ตายหรอกน่า...อย่างมากก็คงสาหัส”
“แล้วจะเป็นห่วงมันไปทำไมล่ะ?” ทีดัสนึกสงสัย
“เปล่า...ถ้ามันตายขึ้นมาก็ซวยอ่ะดิ” ร่างบางส่ายหน้า “แค่นี้ฉันจะโดนข้อหาพยายามฆ่าคนรึเปล่าก็ไม่รู้”
“ไม่ต้องห่วงหรอก....พรุ่งนี้ฉันจะไปจัดการเอง”
“ไม่ได้นะ...อาซังไม่ผิดซะหน่อย” เธอแว้งขึ้นมาทันควัน แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้า “ฉันผิดที่ไม่ระงับสติอารมณ์ให้ดีเอง....”
“ไม่!!” คราวนี้ร่างบางลุกขึ้นมานั่งพรวดพราด “ยังไงก็ไม่ยอม ก็...”
“มีเหตุผลหน่อยสิ...”
“ก็....” สายตาตำหนิทำให้เด็กสาวต้องเงียบลงอย่างช่วยไม่ได้2 b continue......
ความคิดเห็น