ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Arjoe) First Love...Is Only You

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7 : กลับไทจุงอีกครั้ง

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 54


    ช่วงปิดเทอมโจและเอเรียลใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับบ้าน ช่วยนางเหม่ยทำงานบ้าน เล่นเกม อ่านหนังสือ ในวันที่นายเหลียงไม่ได้ไปทำงาน พวกเขาก็จะออกไปทานอาหารนอกบ้านด้วยกัน หรือไม่ก็ทำอาหารทานกันในบ้าน หลังจากผู้ช่วยของนายเหลียงหายเป็นปกติแล้วก็กลับมาทำงาน นายเหลียงจึงมีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น

    ก่อนเปิดเทอมหนึ่งสัปดาห์ โจต้องการขอกลับไปดูแลบ้านที่ไทจุง นายเหลียงเห็นว่าครอบครัวของเขาไม่ได้ไปไทจุง บ้านเกิดของพวกเขานานแล้ว ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ไทเป จึงตัดสินใจขับรถพาโจกลับไทจุงพร้อมกับครอบครัว โดยแวะทานอาหารและซื้อของระหว่างทาง

    กว่าสามทุ่มเมื่อรถแล่นมาจอดที่หน้าบ้าน เอเรียลเดินลงจากรถมองไปที่บ้านฝั่งตรงกันข้าม ที่เคยเป็นบ้านของครอบครัวเธอ มันยังคงสภาพเหมือนเมื่อก่อนที่เคยอยู่ เพียงแต่ตอนนี้ถูกขายให้คนอื่นไปแล้ว หลังจากครอบครัวของเธอย้ายไปอยู่ไทเป

    คิดถึงบ้านเก่าของเราเหรอลูก นางเหม่ยเดินมาโอบเอวลูกสาว มองไปทางบ้านหลังนั้นเช่นกัน

    ค่ะ เอเรียลพยักหน้า

    จริง ๆ แม่ก็เสียดายนะ พวกเราอยู่กันมาตั้งแต่ลูกยังไม่เกิดเลย แต่ตอนนั้นเราไม่มีเงินมากพอที่จะเก็บบ้านหลังนี้เอาไว้จริง ๆ นางเหม่ยมองด้วยความเสียดาย

    หนูเข้าใจค่ะ เอเรียลหันมายิ้มให้แม่ของเธอ

    เข้าบ้านกันเถอะครับ โจเชื้อเชิญให้ทุกคนเข้าบ้านหลังจากไขกุญแจเปิด แล้วเริ่มเดินมาขนของที่รถ

    พวกเขาจึงช่วยกันขนของเข้าไปในบ้าน โจเดินนำทุกคนขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้าน แล้วจัดแจงให้พ่อแม่ของเอเรียลพักที่ห้องพ่อของเขา และเดินนำเอเรียลไปห้องที่อยู่ใกล้ ๆ

    คุณพักห้องนี้ก็แล้วกัน ส่วนผมจะพักที่ห้องตรงข้าม โจเปิดประตูห้องให้เธอ

    แต่นี่เป็นห้องของคุณนะ ฉันไปพักห้องนั้นก็ได้ เอเรียลรีบปฏิเสธ

    ผมว่าคุณพักห้องนี้น่าจะสะดวกกว่านะ ห้องนั้นปกติไม่ค่อยได้ใช้ ถึงพ่อจะจ้างคนมาดูแลทำความสะอาดบ้านทุกสัปดาห์ก็เถอะ แต่ว่าในห้องมันไม่ค่อยมีอะไร แม้แต่เตียง โจบอก

    ไม่เป็นไร ฉันนอนได้ เอเรียลยิ้ม กำลังจะเดินไปห้องตรงข้าม

    เอเรียล โจดึงแขนของเธอเอาไว้ เธอหันมามองเขา ผมอยากให้คุณพักห้องนี้ เพราะถ้าผมปล่อยให้คุณไปพักห้องนั้น ผมคงนอนไม่หลับแน่ ๆ คุณเข้าใจไหม

    เอเรียลจ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่งจึงพยักหน้า เธอรู้ เขากลัวว่าเธอจะนอนหลับไม่สบาย ถ้าไปนอนในห้องนั้น ส่วนตัวเองกลับนอนหลับสบายอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ เขาก็คงไม่สบายใจจนนอนไม่หลับแน่ ๆ

    ขอบคุณนะ เอเรียลรู้ว่าเขามักเสียสละให้เธอได้เสมอ เขาเป็นสุภาพบุรุษจริง ๆ

    คุณพักผ่อนเถอะ หลับฝันดีนะ โจยิ้มให้ ก่อนเดินไปเปิดประตู เข้าไปในห้องฝั่งตรงข้าม

    เอเรียลเดินเข้าไปในห้องของโจแล้วปิดประตู เธอเดินเอากระเป๋าไปวางบนโต๊ะ แล้วมองไปรอบห้องอย่างคุ้นเคย ห้องนี้ยังคงเหมือนเมื่อก่อน ที่เธอมักเข้ามาบ่อย ๆ ตั้งแต่เล็กจนโต ทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

    หลังจากอาบน้ำเสร็จ เอเรียลเดินมานั่งเล่นที่โต๊ะในห้องของโจ หยิบอัลบั้มรูปที่วางอยู่บนชั้นมาไล่เปิดดู ภาพส่วนใหญ่เป็นภาพของโจกับครอบครัว และภาพที่ถ่ายคู่กับเธอตั้งแต่เด็ก ๆ มีอยู่ภาพหนึ่งเป็นภาพที่โจและเธอถ่ายคู่กันตอนหกขวบที่สวนสนุก ซึ่งมันเหมือนมีรอยกดของปากกาที่ด้านหลังภาพ เธอจึงดึงออกมาจากอัลบั้ม แล้วพลิกดูด้านหลังที่เขียนว่า

    ผมยังจำคำสัญญาที่ให้ไว้ได้เสมอ และวันหนึ่ง

    ผมจะทำให้มันเป็นจริง หวังว่า คุณคงไม่ลืมสัญญานั้นนะ

    เอเรียลอ่านคำเหล่านั้นซ้ำไปซ้ำมาด้วยความสงสัย เธอจำได้ว่า ภาพนี้เป็นภาพตอนที่ครอบครัวของเธอและโจ ไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกัน วันนั้น พ่อแม่ของเธอและโจพาไปเล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ มากมาย แต่คำสัญญานั้นคืออะไร สิ่งที่โจเขียนไว้หลังภาพนี้มันเกี่ยวกับเธอหรือเปล่า เธอพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออก อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอคงยังเด็กเกินไป

    คงไม่ได้หมายถึงฉันหรอกมั้ง เอเรียพูดกับตัวเอง ใส่รูปนั้นกลับไปตามเดิม แล้วเปิดหน้าถัดไปเรื่อย ๆ

    เอเรียลหยุดมองที่ภาพ ๆ หนึ่ง เดาว่าน่าจะเป็นช่วงที่โจอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว เป็นภาพที่โจถ่ายคู่กับผู้หญิงคนหนึ่งดูสวยมาก ๆ ผู้หญิงคนนั้นยืนเกาะแขนของโจเหมือนพวกเขาจะสนิทกันมาก เธอหยุดมองภาพนั้นอยู่นาน รู้สึกแปลก ๆ ที่ได้เห็นโจสนิทกับผู้หญิงคนอื่นในช่วงที่เธอไม่ได้อยู่ไทจุง

    ผู้หญิงคนนี้จะเป็นแฟนของโจหรือเปล่านะ เอเรียลพึมพำด้วยความสงสัย

    เธอปิดอัลบั้มนั้นลง และหันไปเห็นกรอบรูปที่คว่ำอยู่บนโต๊ะ จึงหยิบขึ้นมาดู มีอยู่สองภาพใส่ไว้ด้วยกัน ภาพหนึ่งเป็นภาพที่เธอถ่ายคู่กับโจที่หน้าบ้านก่อนเธอย้ายไปไทเป ส่วนอีกภาพเป็นภาพที่เธอถ่ายกับโจและไมค์ตอนอยู่ ม.ปลาย ตอนนั้นเธอกับไมค์ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน สายตาของเธอหยุดมองที่ใบหน้าของไมค์ ใช้ปลายนิ้วไล้ไปมาที่ภาพของเขา น้ำใส ๆ หยอดลงที่กระจกกรอบรูปภาพนั้น

    ไมค์ ตอนนี้คุณทำอะไรอยู่ คุณยังรักฉันอยู่หรือเปล่า คุณลืมฉันแล้วใช่มั๊ย เอเรียลพูดเบา ๆ กับตัวเอง น้ำตาไหลลงบนแก้มช้า ๆ เธอกอดกรอบรูปนั้นแล้วก้มหน้าร้องไห้เบา ๆ ด้วยความเจ็บปวดในหัวใจ

    ................................................

    อรุณสวัสดิ์ค่ะแม่ เอเรียลทักทายเมื่อเดินเข้ามาในห้องครัว เห็นแม่ของเธอนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะอาหาร วันนี้เธอตื่นสายไปหน่อย

    อรุณสวัสดิ์จ๊ะ มาทานอาหารเช้าสิ นางเหม่ยเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์ยิ้มให้เอเรียล

    พ่อกับโจล่ะคะ เอเรียลนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับแม่ของเธอ แล้วเริ่มทานอาหารเช้า

    พอทานอาหารเช้าเสร็จ ก็พากันเดินออกไปข้างนอก คงไปทักทายเพื่อนบ้านเก่า ๆ แถวนี้ เดี๋ยวก็คงกลับ นางเหม่ยตอบยังคงอ่านหนังสือพิมพ์ในมือ ว่าแต่ โจให้ลูกพักที่ห้องของเขาแทนเหรอจ๊ะ เธอเงยหน้าขึ้นมาถามลูกสาวอีกครั้ง

    ค่ะแม่ เขาบอกว่าอีกห้องไม่มีเตียง เลยให้หนูพักห้องของเขาแทน เอเรียลตอบ

    โจช่างดีกับลูกจริง ๆ นะ นี่ถ้าเขาเป็นลูกชายแม่จริง ๆ ก็ดีน่ะสิ ลูกจะได้มีพี่ชายที่หล่อและใจดี น่าเสียดายที่แม่ไม่มีลูกชายเลยสักคน นางเหม่ยมีสีหน้าผิดหวัง เธอมองเอเรียลที่กำลังทานอาหารสักพัก แล้วยิ้ม เอเรียล ถ้าเรียนจบ แล้วคิดจะแต่งงาน ลูกต้องหาแฟนที่ดีแบบโจนะ จะได้มีความสุข และแม่ก็อยากได้ลูกเขยแบบโจด้วย

    นางเหม่ยเอ็นดูโจมากจริง ๆ เพราะเขาเป็นเด็กดี อ่อนน้อมกับผู้ใหญ่ แถมยังดูแลเอาใจใส่เอเรียลเป็นอย่างดี แต่เสียดายที่เอเรียลกับโจโตมาด้วยกัน สนิทกันเกินไป จนเป็นแค่เพื่อนสนิทกันเท่านั้น และเอเรียลก็ยังคงรักไมค์อยู่อีกด้วย

    แม่คะ หนูยังไม่ได้คิดเรื่องนี้หรอก หนูยังเรียนไม่จบด้วย เอเรียลพูดงอน ๆ

    นางเหม่ยหัวเราะเบา ๆ ก่อนก้มอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ หลังทานอาหารเช้า เอเรียลเก็บจานและแก้วไปล้างจนเสร็จเรียบร้อย

    แม่คะ หนูไปเดินเล่นข้างนอกหน่อยนะคะ เอเรียลเดินมาบอกแม่ของเธอ

    จ๊ะ แล้วรีบกลับนะ

    ค่ะ เอเรียลตอบรับ

    เอเรียลเดินไปหยิบรองเท้าผ้าใบมาสวมก่อนเดินออกจากบ้านไป เธอเดินเล่นไปเรื่อย ๆ ในหมู่บ้าน จนไปถึงสนามเด็กเล่นแล้วเดินไปนั่งที่ชิงช้า ใช้เท้ายันพื้นเพื่อแกว่งชิงช้าไปมาเบา ๆ มองสำรวจรอบ ๆ ที่นี่เคยเป็นที่ที่เธอ โจ และไมค์ มักจะแวะเข้ามานั่งคุยกันประจำระหว่างกลับบ้าน ถึงบ้านของไมค์จะอยู่ไกลจากที่นี่ แต่ไมค์มักจะมาเที่ยวที่บ้านของโจหรือเธอบ่อย ๆ ตอนที่เธอเริ่มเป็นแฟนกับไมค์ เขาก็มาส่งเธอที่บ้านทุกวัน บางวันก็จะมานั่งที่ชิงช้านี้ โดยไมค์จะยืนอยู่ด้านหลังคอยแกว่งชิงช้าให้ ���เอเรียลหลับตาลงนึกถึงเสียงหัวเราะ รอยยิ้มแห่งความสุข ที่พวกเขาเคยมีร่วมกัน ภาพของเธอและไมค์ที่พูดคุยหยอกล้อกัน ผุดขึ้นในสมองของเธอ แล้วน้ำตาก็เริ่มไหลลงบนแก้มช้า ๆ คอของเธอเริ่มตีบตัน พยายามที่จะกลั้นไม่ให้ร้องไห้ออกมา แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ยิ่งคิดถึงเขา หัวใจของเธอก็ยิ่งเจ็บปวด เธออยากจะลืมทุกอย่างเกี่ยวกับเขา แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้

    เอเรียล มานั่งอยู่นี่เอง เสียงของโจดังมาจากด้านหลัง เธอรีบก้มหน้าใช้มือปาดน้ำตาบนแก้ม น้าเหม่ยบอกว่าคุณออกมาเดินเล่น ผมเลยตามออกมาดู โจเดินมานั่งลงที่ชิงช้าด้านข้างของเธอ รู้สึกผิดสังเกตุที่เห็นเธอนั่งก้มหน้า จึงพยายามจ้องมองเธอ เอเรียล คุณร้องไห้เหรอ

    เปล่านี่ แค่ฝุ่นมันเข้าตานิดหน่อย เอเรียลเงยหน้าหันมาพยายามยิ้มให้เขา

    โจมองเธอ แต่ไม่ได้พูดอะไร เขาพอจะเดาออกว่าเธอคงจะคิดถึงไมค์ เมื่อกลับมาสถานที่และบรรยากาศเก่า ๆ แบบนี้

    แล้วคุณไปไหนมาเหรอ เอเรียลหันมาถาม

    แวะไปทักทายคุณลุงคุณป้าข้างบ้านกับน้าเหลียงมาน่ะ โจตอบ เอเรียลพยักหน้าเล็กน้อย แล้วมองไปข้างหน้า

    พวกเราไม่ได้มานั่งที่นี่ด้วยกันนานแล้วนะ เอเรียลหลับตาพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหันมายิ้มให้เขา ตอนที่ฉันไม่อยู่ คุณมานั่งที่นี่บ้างหรือเปล่า

    ไม่เลย แค่เดินผ่านเฉย ๆ เท่านั้น โจตอบ

    ทำไมล่ะ เอเรียลจ้องหน้าของเขา

    เพราะมานั่งที่นี่ทีไร มันทำให้รู้สึกเหงาทุกที พอไม่มีคุณก็รู้สึกเหมือนขาดบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญในชีวิตไป โจมองไปด้านหน้าด้วยความรู้สึกเหงา ๆ

    นั่นสินะ ตอนไปจากที่นี่ ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน เวลาไม่มีคุณอยู่ใกล้ ๆ คอยดูแล คอยปลอบใจ ฉันแทบทำอะไรไม่เป็นเลยจริง ๆ เอเรียลยิ้มเมื่อนึกถึงตอนนั้น พอกลับมาเจอกันอีกครั้ง คุณก็ยังคอยดูแลฉันอีก ระวังนะ คุณจะหาแฟนไม่ได้ เอเรียลหัวเราะเบา ๆ

    ทำไมล่ะ โจจ้องมองเธอด้วยสีหน้าจริงจัง

    ก็ถ้าฉันเกิดชินกับการมีคุณอยู่ใกล้ ๆ แล้วไม่อยากให้คุณมีแฟนขึ้นมา คุณอาจจะต้องขึ้นคานเลยก็ได้นะ เอเรียลยิ้ม แกล้งพูดหยอกล้อ เขายิ้มกับคำพูดของเธอ

    ผมจะไม่มีใครก็ได้ ถ้าคุณต้องการ เอเรียล ผมจะดูแลปกป้องคุณตลอดไป โจยิ้ม ทุกคำกลั่นออกมาจากใจของเขาจริง ๆ

    ขอบคุณโจ แต่ฉันเห็นแก่ตัวกับคุณแบบนั้นไม่ได้หรอก คุณต้องมีชีวิตของคุณเอง ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ ฉันคิดว่า ฉันดูแลตัวเองได้แล้วล่ะ เอเรียลยิ้ม

    คำพูดของเธอสะกดให้เขานิ่งไป มันเหมือนมีดที่บาดลึกเข้าไปในจิตใจของเขา เธอเพียงแค่ล้อเล่นกับเขาแค่นั้นเองหรือ สิ่งที่เขาพยายามพูด เธอไม่รู้เลยจริง ๆ หรือว่าหมายถึงอะไร

    ฉันว่า เรากลับกันเถอะ เดี๋ยวพ่อกับแม่จะเป็นห่วง

    โจพยักหน้าตอบแล้วลุกขึ้นยืน เอเรียลลุกขึ้นเดิน แต่ก็สะดุดเชือกรองเท้าของตัวเองจนเกือบล้มลงไปทั้งตัว โชคดีที่โจคว้าเอวเธอไว้ได้ทัน เขาพยุงเธอให้ลุกขึ้นยืน

    เป็นอะไรมั๊ย เจ็บที่ไหนหรือเปล่า โจพยายามมองหา ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า

    ไม่นี่ ฉันไม่ได้เป็นอะไร ขอบคุณนะ เอเรียลยิ้ม

    โจก้มลงมอง เห็นเชือกรองเท้าของเธอหลุด จึงนั่งลงเพื่อผูกเชือกรองเท้าให้เธอ

    โจ ไม่ต้องหรอก ให้ฉันทำเอง เอเรียลพยายามจะก้มลงไปผูกเอง แต่ไม่ทัน เพราะเขาผูกเชือกรองเท้าเกือบเสร็จแล้ว

    โอเค เรียบร้อยแล้ว โจพูด กำลังจะลุกขึ้น แต่สายตาของเขาก็เห็นรอยถลอกที่หัวเข่าของเธอ ที่เริ่มมีเลือดซึมออกมา คุณมีแผล เจ็บหรือเปล่า โจเงยหน้าถาม

    ไม่ แค่นิดหน่อยเอง เอเรียลตอบ

    เธอไม่อยากให้เขาเป็นห่วง เพราะพึ่งจะบอกเขาไปว่าสามารถดูแลตัวเองได้ แต่ไม่ทันไรก็ทำให้เขาเป็นห่วงซะแล้ว ถึงตอนนี้จะเริ่มรู้สึกแสบแผลนิดหน่อยก็ตาม

    แน่ใจนะ โจลุกขึ้นยืน จ้องมองเธอ

    อื้ม เราไปกันเถอะ เอเรียลพยักหน้ายิ้ม ๆ

    เธอดึงแขนของโจให้เริ่มออกเดินอีกครั้ง จนกลับถึงบ้านเธอก็กลับขึ้นไปบนห้อง เพื่อใช้น้ำล้างแผลที่เข่า แล้วเดินมานั่งบนปลายเตียง ใช้ผ้าแห้งซับน้ำออกจากแผล ตอนนี้หัวเข่าทั้งแสบ และตึงมาก ๆ

    เอเรียล โจเรียกจากหน้าประตูห้องที่เปิดอยู่ เขาเดินเข้ามาในห้องพร้อมกล่องยาเล็ก ๆ ในมือ นั่งคลุกเข่าลงกับพื้นด้านหน้าเธอ แล้วหยิบน้ำยาทำความสะอาดกับสำสีออกมาจากกล่อง จะแสบนิดหน่อยนะ

    โจเริ่มทำความสะอาดแผลให้เธอ เขายิ้มเมื่อเหลือบขึ้นมามอง และเห็นเธอนิ่วหน้านิดหน่อย

    ฉันเป็นภาระของคุณอีกแล้ว เอเรียลก้มมองโจ ที่กำลังเริ่มใส่ยาให้เธอ คุณเคยทำแบบนี้ให้ผู้หญิงคนอื่นบ้างหรือเปล่า

    โจส่ายหน้าช้า ๆ

    จริงเหรอ รู้มั๊ยตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนเจ้าหญิงเลย ขอบคุณนะ เอเรียลยิ้มมองลงที่เขา โจปิดพลาสเตอร์ให้เธอเรียบร้อย แล้วเงยหน้าขึ้นมองเธอ

    ด้วยความยินดีครับ เจ้าหญิง โจยิ้ม แกล้งล้อเล่นกับเธอ เอเรียลหัวเราะกับคำพูดของเขา

    คุณนี่เหมือนเจ้าชายจริง ๆ นะ ถ้าใครได้แต่งงานกับคุณคงจะมีความสุขมาก ๆ เอเรียลบอก

    โจเก็บของแล้วลุกขึ้นยืนยิ้มให้เธอ

    แม่บอกให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายดี ๆ เหมือนแบบคุณ สงสัยแม่คงอยากได้ลูกชายแบบคุณ ฉันเองก็อยากมีพี่ชายแบบคุณด้วยเหมือนกัน เอเรียลบอกด้วยรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มของโจจางลงไปในทันที ดูจะผิดหวังในคำพูดนั้นของเธอ

    ผมขอเอาของไปเก็บก่อนนะ โจฝืนยิ้มให้เธอ ก่อนเดินออกไปจากห้อง

    ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่านะ เอเรียลพูดกับตัวเองมองตามเขาอย่างสับสน รู้สึกเหมือนว่า เขากำลังไม่พอใจอะไรสักอย่าง กับคำพูดของเธอ

    ..............................................

    ในช่วงที่อยู่ไทจุง พ่อแม่ของเอเรียลชอบแวะไปคุยกับเพื่อนเก่า ในละแหวกนั้นตามประสาผู้ใหญ่ ส่วนโจก็มักพาเอเรียลออกไปเดินเล่น ดูสถานที่เก่า ๆ ที่พวกเขาเคยไปด้วยกันบ่อย ๆ จนวันนี้ในช่วงเย็นพวกเขาเดินมาถึงโรงเรียนที่เคยเรียนด้วยกันตอนอยู่ ม.ปลาย จึงแวะเข้าไปเดินเล่นด้านใน และนั่งพักที่ม้านั่งยาวข้างสนามบาสเกตบอล

    เมื่อก่อนฉันชอบมานั่งดูพวกคุณเล่นบาสกันที่นี่บ่อย ๆ ตอนนั้นพวกคุณเป็นที่ชื่นชอบมากในหมู่สาว ๆ เลยนะ เอเรียลยิ้มมองไปทางสนามบาสเกตบอล โจยิ้มมองไปทางเดียวกับเธอ แต่ฉันสงสัยจัง ใครนะที่ขโมยหัวใจของคุณไปได้ จะไม่บอกฉันหน่อยเหรอ ว่าเธอเป็นใคร

    สักวัน ผมจะบอกคุณ

    คุณชอบทำตัวลึกลับจริง ๆ เอเรียลหัวเราะเบา ๆ เฮ้อ...ได้กลับมาที่นี่อีกครั้งรู้สึกดีจริง ๆ เธอสูดลมหายใจลึก

    แต่บางครั้ง คุณดูเศร้านะ คุณคงคิดถึงไมค์ใช่ไหม โจหันมามองเธอ

    คงอย่างนั้น เขาไม่ติดต่อฉันมาเกือบปีแล้ว เขาคงจำสัญญาที่ให้ไว้ไม่ได้แล้วล่ะ เอเรียลยิ้มมองตรงไปข้างหน้า มันก็แค่สัญญาที่ถูกลืม คงไม่มีความหมายสำหรับเขา ฉันกำลังคิดจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งแล้วล่ะ

    เอเรียล โจไม่แน่ใจว่าเธอฝืนใจอยู่หรือเปล่า คุณทำใจได้จริงเหรอ

    จริงสิ ก็ฉันรอเขาตามสัญญามาหลายปีแล้ว ถ้าเขาไม่เห็นความสำคัญของฉันอีก ฉันก็ไม่ควรจมอยู่กับอดีตอีกต่อไป เอเรียลหันมายิ้ม

    โจพยักหน้าหันไปมองทางสนามบาสอีกครั้ง ก่อนเอ่ยถามเธอ

    เอเรียล คุณเคยลืมสัญญาอะไรบ้างหรือเปล่า โจถามไม่ได้หันมาสบตากับเธอ

    เอเรียลหันมามอง พยายามคิดทบทวนว่าเคยสัญญาอะไรไว้กับใครนอกจากไมค์หรือเปล่า แต่จนตอนนี้ก็ยังนึกไม่ออก

    ไม่นี่ นอกจากไมค์แล้ว ฉันก็ไม่เคยสัญญาอะไรกับใครอีก ทำไมเหรอ จริงสิ ฉันเคยสัญญาอะไรกับคุณหรือเปล่า เอเรียลหันมาถาม เมื่อนึกถึงข้อความที่โจเขียนไว้ด้านหลังภาพในสมัยเด็กของพวกเขา

    ไม่มีอะไรหรอก โจตอบ มองขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาคิดอยู่แล้วว่าเธอต้องลืมสัญญาที่เคยพูดไว้กับเขาในตอนเด็ก แต่นั่น มันก็เป็นเรื่องสมัยเด็ก ๆ ที่คงไม่ได้จริงจังอะไร ตามประสาเด็ก ๆ มีเพียงเขาที่เก็บเอามาฝังใจอยู่คนเดียวเท่านั้น

    แล้วที่คุณเขียนไว้หลังภาพ ตอนสมัยเด็กของเรา มันหมายถึงใครเหรอ ฉันหรือเปล่า เอเรียลถามด้วยความอยากรู้

    คุณเห็นด้วยเหรอ โจไม่คิดว่าเธอจะไปพบข้อความนั้นเข้า

    ขอโทษนะ ฉันถือวิสาสะหยิบออกมาดู แล้วตกลงว่าหมายถึงใคร หรือว่าจะเป็นผู้หญิงที่คุณแอบชอบ เอเรียลมองเขาอย่างคาดคั้น

    ใช่ ผมหมายถึงผู้หญิงที่ชอบ โจพยักหน้า

    เฮ้อ ฉันนึกว่า ฉันลืมสัญญาอะไรกับคุณซะอีก เอเรียลถอนหายใจอย่างโล่งใจ

    โจมองดูด้วยความลำบากใจ เขาอยากจะบอกความจริง ว่าข้อความหลังรูปนั้น มันหมายถึงเธอคนเดียวเท่านั้น แต่เขาก็ไม่กล้าสักที เขาเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เริ่มครึ้มมากในตอนนี้

    ท่าทางฝนจะตกนะ เรารีบกลับกันก่อนเถอะ โจหันมาบอก

    นั่นสิ เอเรียลพยักหน้าเห็นด้วย เพราะฟ้าเริ่มมืดจริง ๆ

    พวกเขาเดินออกจากโรงเรียนเก่าได้ไม่นาน ฝนก็เริ่มตกลงอย่างหนัก จึงพากันวิ่งเข้าไปหลบหน้าร้านสะดวกซื้อ โจหันมามองเอเรียลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วหันไปมองรอบ ๆ ตอนนี้มีคนยืนอยู่ใกล้ ๆ พวกเขาทั้งผู้ชายและผู้หญิงหลายต่อหลายคนที่ยืนหลบฝนอยู่ แต่ผู้ชายบางคนก็หันมามองเอเรียล เพราะตอนนี้เสื้อยืดสีขาวที่เธอสวม เวลาเปียก มันดูบางแนบเนื้อจนเน้นรูปร่างของเธอ เขาจึงถอดเสื้อเชิ้ตตัวนอกมาคลุมไหล่จากด้านหน้าให้เธอ แล้วโอบไหล่เธอไว้ ถลึงตามองไปยังผู้ชายคนนั้น จนผู้ชายคนนั้นรีบหันไปทางอื่นเมื่อเห็นสายตาของโจ แต่เอเรียลที่ไม่รู้เรื่องอะไร เธอก้มมองเสื้อของโจที่คลุมอยู่บนตัว และหันไปมองมือของเขาที่กุมไหล่ของเธอไว้อย่างแปลกใจ

    โจ เอเรียลเงยหน้าขึ้นมองเขา ฉันไม่เป็นไรหรอก เอาเสื้อคืนไปเถอะ คุณเหลือแค่เสื้อกล้ามเองนะ เธอพยายามจะปลดเสื้อของเขาออก เมื่อเห็นว่าเสื้อที่โจใส่อยู่เป็นเพียงแค่เสื้อกล้ามบาง ๆ เท่านั้น

    ใส่ไว้ เอเรียล โจพยายามไม่ให้เธอปลดมันออก เขาก้มมองสบตาเธอ ด้วยสายตาดุ ๆ จนเธอต้องทำตามที่เขาบอก

    ขอบคุณนะ เอเรียลพูดเบา ๆ ก้มหน้ามองพื้นเหมือนเด็กรู้สึกผิด เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าทำอะไร

    ขอโทษนะเอเรียล โจกล่าวเมื่อเห็นเธอเงียบไป ทำให้เขารู้สึกผิดที่ดุใส่เธอ เขาก้มลงไปกระซิบที่หูของเธอ เสื้อสีขาวของคุณมันบางมากเวลาเปียกน้ำ มีบางคนแอบมองคุณอยู่รู้ไหม

    เอเรียลรู้สึกตกใจเมื่อได้ยิน เธอเปิดเสื้อของโจที่คลุมอยู่เล็กน้อย แล้วก้มลงมองก่อนรีบปิดกลับไปอีกครั้ง จริงอย่างที่เขาพูด มันดูบางมาก เธอหันไปมองผู้คนรอบ ๆ� เธอรู้แล้วว่าทำไมโจถึงต้องคลุมเสื้อและโอบไหล่เธอไว้

    ขอบคุณนะโจ เอเรียลส่งยิ้มให้เขา โจยิ้มตอบกลับมาให้เธอ

    ดูท่าทางคงไม่หยุดตกง่าย ๆ โจพูดขึ้นมองขึ้นไปบนฟ้า ไหน ๆ เราก็เปียกแล้ว อีกนิดเดียวก็จะถึงบ้าน เรากลับกันเลยดีไหม ถ้ารอก็ไม่รู้จะหยุดเมื่อไหร่

    ก็ดีเหมือนกัน รีบกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า อยู่ตรงนี้นาน ๆ ก็เริ่มหนาวแล้วล่ะ เอเรียลพยักหน้าเห็นด้วย

    โจยังโอบไหล่เอเรียล วางฝ่ามือไว้บนหัวของเธอ แล้วเริ่มวิ่งออกไปตามทางเดินพร้อมกัน จนกลับเข้าบ้าน

    ตายจริง ทำไมตากฝนกันมาอย่างนี้ล่ะ นางเหม่ยรีบเดินออกมาดู เมื่อได้ยินเสียงประตูบ้านเปิดออก เห็นโจและเอเรียลกำลังถอดรองเท้าอยู่ ทั้งสองตัวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน รีบไปอาบน้ำเลย ทั้งสองคน เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอานะ อีกสองวันมหาวิทยาลัยก็เปิดแล้ว นางเหม่ยกล่าวอย่างเป็นห่วง

    ค่ะ / ครับ เอเรียลและโจตอบพร้อมกัน แล้วรีบเดินขึ้นไปชั้นบนทันที

    นึกยังไงถึงเดินตากฝนกลับมานะ เด็กสองคนนี้นี่ นางเหม่ยพูดตามหลังทั้งสองคน ก่อนเดินไปนั่งลงข้างสามี น่าจะโทรมาบอกให้พ่อไปรับก็ได้

    เด็กสองคนนี้ คงจะชอบเล่นน้ำฝนกันมาก เมื่อก่อน ฝนตกทีไร เป็นต้องเปียกกันกลับจากโรงเรียนทุกที นายเหลียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

    นั่นสิคะ แล้วเอเรียลกับโจ ก็เป็นหวัดเกือบทุกที นางเหม่ยพูดอย่างประชดประชัน

    สงสัยคงจะคิดถึงน้ำฝนที่ไทจุง นายเหลียงแกล้งพูดล้อเล่นแล้วหัวเราะ นางเหม่ยจึงยิ้มออกมาในสิ่งที่สามีพูด

    …………………………………………………………………………………………


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×