คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 : คำสารภาพของเพื่อน
“เอเรียล เธอจะไปหาโจที่คณะวิศวะเหรอ” เรนนี่ถาม ขณะที่พวกเธอกำลังเก็บหนังสือใส่กระเป๋า หลังหมดชั่วโมงเรียนสุดท้ายของวัน
“อื้ม โจบอกว่าจะกลับช้าหน่อย ฉันก็เลยจะไปนั่งอ่านหนังสือรอเขาที่นั่น” เอเรียลปิดกระเป๋า หลังเก็บของเรียบร้อย
“ทำไมโจต้องให้เธอกลับบ้านพร้อมเขาทุกวันด้วย เธอไม่ใช่เด็กแล้วนะ นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นเพื่อน ฉันคงคิดว่าพวกเธอเป็นแฟนกันมากกว่า ถามจริง ๆ นะ สองเดือนมานี้ มีวันไหนที่เธอกลับบ้านคนเดียวบ้าง” เอลล่ามองด้วยความสงสัย
“ไม่มี” เอเรียลตอบอย่างไม่ต้องคิด
เรนนี่และเอลล่าหันมามองหน้ากันโดยอัตโนมัติ แอบสงสัยว่าทำไม โจกับเอเรียลต้องทำตัวติดกันยังกับแฝด
“คงเพราะแม่ชอบบอกให้เขาดูแลฉันก็ได้ เขาเลยไม่อยากให้ฉันกลับบ้านคนเดียว เวลาจะออกไปไหนเขาถึงได้ตามไปด้วยทุกที โดยเฉพาะช่วงกลางคืน ฉันเคยแอบเดินออกไปซื้อของคนเดียว มันก็ไม่ไกลมาก แต่เขาก็ตามฉันไปจนได้ แต่ก็ดีนะอย่างน้อยก็ไม่มีใครมายุ่งกับฉัน เพราะคิดว่าโจเป็นแฟนฉัน เขายังเป็นเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิดเลย” เอเรียลอธิบายยิ้ม ๆ
“แล้วโจไม่เคยไปไหนกับใครเลยเหรอ” เอลล่าพยายามถามต่อ
“ก็ไปกับอลันและอีธานไง” เอเรียลตอบอย่างไร้เดียงสา
“ฉันหมายถึงผู้หญิงน่ะ” เอลล่าพยายามเน้น
“ไม่นะ ฉันไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง ตั้งแต่เขาย้ายมา” เอเรียลตอบ แล้วจ้องมองเพื่อนทั้งสองคน“นี่พวกเธอ...คงไม่หาว่าเขาเป็นเกย์อีกใช่ไหม”
“ไม่หรอก เขาก็ดูไม่เป็นอย่างนั้น แต่แปลกนะ เรื่องผู้หญิงที่เขาเคยชอบมันก็หลายปีแล้วนี่นา ทำไมเขายังไม่ลืมอีกนะ อยากรู้จังว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร” เอลล่ารู้สึกคลางแคลงใจอยู่บางอย่าง
��������������� “นั่นสิ เขายอมรับกับฉันนะ ว่ายังลืมเธอคนนั้นไม่ได้” เรนนี่รีบสนับสนุน เพราะนั่นเป็นสาเหตุที่เขาไม่ยอมสนใจผู้หญิงคนไหน แม้แต่เธอ
“เขาบอกเธอเหรอ” เอลล่าถาม
“อื้ม ก็วันที่ไปดูหนังไง” เรนนี่พยักหน้า และเริ่มหันไปมองรอบ ๆ ห้อง ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครแล้ว นอกจากพวกเธอ “ฉันว่า...พวกเราไปกันเถอะ คนอื่นไปกันหมดแล้ว”
พวกเธอรีบพากันออกจากชั้นเรียน ลงลิฟท์มาชั้นล่างกำลังจะเดินออกจากตึกคณะบริหาร
����������� “หูเก่อ คุณมาทำอะไรที่นี่เหรอ” เอลล่าถาม เมื่อเห็นเขายืนอยู่ที่หน้าตึก
��������������� “ผมมารอพวกคุณ” หูเก่อตอบด้วยรอยยิ้ม
��������������� “มีอะไรเหรอ ฉันคิดว่า ช่วงนี้คุณกำลังยุ่งอยู่ซะอีก” เรนนี่ถาม
��������������� “ก็ยุ่งนะ แต่วันนี้ผมอยากชวนพวกคุณไปทานมื้อค่ำด้วยกัน ได้ไหม” หูเก่อถามยิ้ม ๆ
��������������� “แปลกจัง มีอะไรพิเศษหรือเปล่า” เอเรียลสงสัย
��������������� “วันนี้ วันเกิดผม” หูเก่อยิ้มมองไปที่เอเรียล
��������������� “อะไรนะ วันเกิดคุณเหรอ” ทั้งสามคนถามขึ้นพร้อมกัน
��������������� “ทำไมคุณไม่บอกก่อนล่ะ เราไม่ได้เตรียมอะไรให้คุณเลย” เอลล่าถามด้วยสีหน้าตกใจ
��������������� “ไม่ต้องหรอก แค่พวกคุณไปทานมื้อค่ำด้วยก็พอแล้ว พวกคุณว่างกันหรือเปล่า”
��������������� “สำหรับวันพิเศษของคุณ พวกเราก็ต้องว่างอยู่แล้ว ใช่ไหม” เอลล่าตอบ และหันไปมองเพื่อนทั้งสอง พวกเธอพยักหน้า
��������������� “แต่ฉันต้องบอกโจก่อน ฉันนัดเขาไว้ว่าจะกลับพร้อมกัน” เอเรียลบอกด้วยสีหน้ากังวล
��������������� “โทรชวนเขาไปกับเราด้วยสิ” เรนนี่แนะนำ
��������������� “อื้ม ฉันจะลองดู” เอเรียลหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า กดเบอร์โทรออกหาโจ “โจ ฉันเองนะ คุณทำงานเสร็จหรือยัง” เอเรียลพูดเมื่อโจรับสาย
��������������� “(ยังเลย แต่ก็ใกล้แล้วล่ะ คุณบอกจะมาที่คณะผมไม่ใช่เหรอ)” โจถามจากในสาย
��������������� “ฉันคงไม่ได้ไปที่คณะคุณแล้วล่ะ แต่ฉันจะชวนคุณออกไปทานมื้อค่ำกับเพื่อน ๆ วันนี้เป็นวันเกิดของหูเก่อ พวกเราอยากชวนคุณไปด้วย” เอเรียลตอบ แต่โจกลับเงียบไปครู่หนึ่ง
��������������� “(ผมคงไปไม่ได้หรอก คุณไปกับเพื่อน ๆ เถอะ ผมยังต้องทำงานต่อ เสร็จแล้วก็จะกลับบ้านเลย)”
��������������� “คุณจะไม่ไปกับเราจริง ๆ เหรอ เราไปรอคุณที่คณะก็ได้นะ” เอเรียลบอกอีกครั้ง
��������������� “(อย่าเลย เดี๋ยวจะนานเกินไป คุณไปเถอะ แล้วอย่ากลับบ้านดึกนักล่ะ เข้าใจไหม)”
��������������� “โอเค ถ้าอย่างนั้นฝากบอกแม่ด้วย ไว้เจอกันที่บ้านนะ” เอเรียลตอบ
��������������� “โอเค บาย...” โจตอบ แล้ววางสายไป
��������������� “เขายังทำงานไม่เสร็จ คงไปกับเราไม่ได้” เอเรียลหันมาบอกเพื่อน ๆ ที่กำลังยืนรออยู่
��������������� “ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็ไปกันเถอะ วันนี้ผมเอารถมา จะไปส่งพวกคุณเอง”
��������������� พวกเขาทั้งสี่ไปทานอาหารค่ำในร้านอาหารสไตล์เกาหลี เป็นร้านประจำที่พวกเขาชอบไปทานกัน เพราะติดใจในบรรยากาศที่ดูสบาย ๆ ไม่แออัด ที่สำคัญรสชาติยังอร่อยมาก ๆ ด้วย พวกเขานั่งพูดคุยกันไปขณะทานอาหารกันอย่างเพลิดเพลินสนุกสนาน จนแทบไม่ได้ดูเวลา กว่าจะออกจากร้าน ขับรถไปส่งเรนนี่และเอลล่า ก็ทำให้มาส่งเอเรียลที่บ้านเป็นคนสุดท้าย ก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว เขาจอดรถที่หน้าบ้านของเธอ
��������������� “ขอบคุณที่มาส่ง ขับกลับดี ๆ นะ” เอเรียลยิ้มให้เขา ก่อนลงจากรถ เดินไปเปิดประตูรั้ว
��������������� “เอเรียล” หูเก่อลงจากรถ แล้วเดินตามมา
��������������� “อะไรเหรอ”
��������������� “ผมมีอะไรอยากบอกคุณ” หูเก่อยิ้ม เขาตัดสินใจว่าวันนี้ควรจะบอกกับเธอซะที
��������������� “อะไรคะ” เอเรียลถามอย่างแปลกใจ
��������������� “คือว่าผม” หูเก่อพยายามจะพูด แต่ก็ลังเลไปชั่วขณะ “ผมชอบคุณ”
��������������� “หูเก่อ” เอเรียลอึ้ง “แต่คุณก็รู้ ว่าฉันมีแฟนอยู่แล้ว”�
��������������� “ผมรู้ แต่คุณเคยบอกว่าจะเริ่มต้นอีกครั้ง ผมจะรอจนกว่าคุณจะลืมเขา ผมชอบคุณจริง ๆ นะ ให้โอกาสผมบ้างได้ไหม เอเรียล” หูเก่อพูดสีหน้าจริงจัง
��������������� “แต่...” เอเรียลไม่รู้จะพูดยังไง
แล้วประตูหน้าบ้านก็ถูกเปิดออก เอเรียลและหูเก่อจึงหันไปมอง นางเหม่ยเดินออกมาทางพวกเขา
��������������� “อ้าว เอเรียล แม่ได้ยินเสียงรถ ก็เลยออกมาดู” นางเหม่ยยิ้มให้เอเรียล แล้วหันไปมองผู้ชายที่ยืนอยู่กับลูกสาวของเธอ
��������������� “หูเก่อคะ นี่แม่ของฉัน” เอเรียลแนะนำแม่ของเธอกับเขา “แม่คะ นี่หูเก่อ รุ่นพี่คณะแพทย์ที่มหาวิทยาลัยค่ะ”
��������������� “สวัสดีครับคุณน้า” หูเก่อโค้งทักทายอย่างสุภาพ ก่อนเงยหน้ายิ้มให้นางเหม่ย
��������������� “สวัสดีจ๊ะ ตรงนี้อากาศเย็น เข้าไปในบ้านก่อนไหม” นางเหม่ยยิ้มอย่างใจดี
��������������� “ขอบคุณครับคุณน้า แต่ดึกมากแล้ว ไม่รบกวนดีกว่าครับ” หูเก่อปฏิเสธอย่างสุภาพ “ผมคงต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ ลาล่ะครับคุณน้า” เขาโค้งให้แม่ของเธออีกครั้งด้วยรอยยิ้ม
��������������� “จ๊ะ ขับรถกลับดี ๆ นะ” นางเหม่ยยิ้มให้เขา
��������������� “ครับคุณ
��������������� “ค่ะ แล้วเจอกัน” เอเรียลตอบ ก่อนเขาเดินไปขึ้นรถและขับออกไป
��������������� “เขาจีบลูกเหรอจ๊ะ” นางเหม่ยหันมาถามยิ้ม ๆ ด้วยความอยากรู้
��������������� “เราเป็นเพื่อนกันค่ะแม่ แล้วพ่อกับโจล่ะคะ” เอเรียลรีบตอบ พยายามเปลี่ยนเรื่องทันที
นางเหม่ยมองหน้าลูกสาว รู้ว่าเอเรียลพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่พูดอะไร
��������������� “พ่อนอนไปแล้วจ๊ะ ส่วนโจก็คงนอนไปแล้วเหมือนกัน” นางเหม่ยตอบ
��������������� “แล้วทำไมแม่ยังไม่นอนอีกล่ะคะ แม่ไม่ต้องรอหนูก็ได้” เอเรียลโอบไหล่แม่ของเธอ ให้หันเดินเข้าบ้าน
��������������� “เห็นว่าลูกไปกับเพื่อน ๆ จะกลับดึก โจก็ไม่ได้ไปด้วย แม่ก็เลยเป็นห่วง กลับคนเดียวดึก ๆ มันจะอันตราย” นางเหม่ยรู้สึกเหมือนมีใครมองอยู่ จึงแหงนหน้าขึ้นไปมองที่ชั้นบนของบ้าน เห็นเงาของโจยืนอยู่ที่หน้าต่างในห้องของเขา โดยไม่ได้เปิดไฟ เธอรู้ว่าโจก็คงเป็นห่วงเอเรียลเช่นกัน
��������������� “ขอโทษนะคะที่ทำให้แม่เป็นห่วง แต่ก็ขอบคุณแม่ด้วยนะคะ” เอเรียลกล่าวยิ้ม ๆ เมื่อเดินเข้ามาในบ้านแล้ว
เอเรียลรู้สึกอยากจะขอบคุณแม่ของเธอจริง ๆ อย่างน้อยก็ช่วยได้ทันเวลาพอดี เธอยังไม่ทันตั้งตัวและไม่อยากตอบอะไรหูเก่อตอนนี้ กลัวจะทำร้ายจิตใจเขา และไม่อยากเสียเพื่อนที่ดีอย่างเขาไป
��������������� “ไม่เป็นไรจ๊ะ ไปอาบน้ำ แล้วพักผ่อนเถอะจ๊ะ” นางเหม่ยยิ้มให้ลูกสาวอย่างอ่อนโยน
��������������� “ค่ะแม่ ราตรีสวัสดิ์นะคะ” เอเรียลหอมแก้มแม่ของเธอ แล้วเดินขึ้นบันไดไป
��������������� โจยังคงยืนอยู่ในห้อง ได้ยินได้เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นหน้าบ้าน เพราะตั้งแต่กลับมา หลังทำอะไรเสร็จเรียบร้อย เขาก็มารออยู่ที่หน้าต่างจนเธอกลับมา และเห็นหูเก่อสารภาพกับเธอ เขามองดูด้วยความเจ็บใจตัวเอง ทำไมเขาไม่เคยกล้าที่จะทำแบบนั้นบ้าง อย่างน้อยก็ไม่ต้องอึดอัดใจอยู่อย่างนี้
.................................................
หลังเลิกเรียน เอเรียล เรนนี่ และเอลล่า กำลังจะเดินออกจากคณะเพื่อกลับบ้าน ก็เจอหูเก่อยืนอยู่ที่หน้าตึกพอดี เอลล่ารีบเดินเข้าไปทัก โดยเรนนี่และเอเรียลเดินตามไปติด ๆ
“คุณมาทำอะไรที่นี่ มารอพวกเราเหรอ” เอลล่าหยุดยืนหน้าเขา ยิ้มอย่างร่าเริง
“อื้ม ใช่” หูเก่อพยักหน้าขรึม ๆ
สายตาของเขามองไปที่เอเรียล ที่ยืนอยู่ด้านหลังของเอลล่าและเรนนี่ สองสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่สารภาพไป เอเรียลก็พยายามหลบเขามาโดยตลอด เธอพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยกับเขา มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจมาก ๆ ไม่รู้ว่าเธอคิดยังไงกับเขากันแน่ วันนี้เขาจึงตัดสินใจมารอเพื่อพูดคุยกับเธอ แต่ถึงยังไงเขาก็เตรียมใจมาบ้างแล้ว เพราะถ้าเธอคิดแบบเดียวกับเขา ก็คงไม่หลบแบบนี้
“เอเรียล คุณพอมีเวลาสักครู่หนึ่งไหม ผมอยากคุยกับคุณ” หูเก่อถาม
เรนนี่และเอลล่าหันมองหน้ากันอย่างงง ๆ และหันไปมองเอเรียลที่ยืนอยู่ข้างหลังด้วยความสงสัย
“ได้ไหม” หูเก่อถามอีกครั้งอย่างขอร้อง
เอเรียลมองหูเก่ออย่างชั่งใจ ตั้งแต่วันนั้น เธอพยายามทบทวนสิ่งที่เขาพูดหลายต่อหลายครั้ง แต่คำตอบที่ได้ก็คือ เขาเป็นเพียงเพื่อนที่ดีสำหรับเธอเท่านั้น อีกอย่าง เขาเป็นผู้ชายที่เอลล่าชอบ เธอไม่อยากทำให้เพื่อนรักต้องเสียใจ สองสัปดาห์ที่ผ่านมาจึงไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้เอลล่ากับเรนนี่ฟัง แต่ตอนนี้เธอไม่ควรจะหลบหน้าเขาอีก อย่างน้อยการบอกเขาไปตรง ๆ ก็คงไม่ต้องอึดอัดกันแบบนี้� ���
“ได้สิ” เอเรียลพยักหน้าตอบรับเขา ก่อนพูดกับเอลล่าและเรนนี่ “พวกเธอกลับไปกันก่อนนะ ตอนนี้โจคงอยู่หน้ามหาวิทยาลัยแล้ว บอกเขาด้วยว่า ฉันมีธุระนิดหน่อยเดี๋ยวจะรีบตามออกไป ขอบใจนะ แล้วเจอกัน” เอเรียลพูดอย่างรวดเร็ว โบกมือให้เพื่อนทั้งสอง แล้วเดินออกไปกับหูเก่อ
เอลล่าและเรนนี่มองตามทั้งสองคนไปอย่าง งง ๆ
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ” เรนนี่หันมาถามเอลล่า
“ไม่รู้สิ” เอลล่าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนั้นเช่นกัน “เรนนี่ เราไปบอกโจกันก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวเขาจะห่วงว่าทำไมเอเรียลยังไม่ออกไปอีก”
“อื้ม ไปสิ” เรนนี่พยักหน้า
ทั้งสองคนรีบเร่งเดินออกไปทางหน้าประตูมหาวิทยาลัย เห็นโจ อลันและอีธาน ยืนมองมาที่พวกเธอ จึงเดินเข้าไปหาพวกเขา
“แล้วเอเรียลล่ะ ไม่ได้มาด้วยเหรอ” อีธานถาม สายตาพยายามมองหาเอเรียล
ระยะหลังมานี้ อีธานและอลันสนิทกับพวกเธอมากขึ้น เพราะพวกเขามักมารอเอเรียลเป็นเพื่อนโจบ่อย ๆ หรือไม่ เอเรียลก็จะไปนั่งรอกลับบ้านพร้อมโจ ที่คณะของพวกเขา �อีธานจึงไม่เขินอายอีก เวลาอยู่ต่อหน้าเอเรียล และเขาก็ทำใจได้แล้ว ตั้งแต่รู้ว่าโจแอบชอบเธอเช่นกัน
“เอเรียล บอกให้พวกเรากลับกันก่อน และฝากมาบอกโจว่า ขอทำธุระนิดหน่อย แล้วเดี๋ยวจะรีบตามออกมา” เอลล่าหันไปบอกโจ เขาพยักหน้ารับรู้และไม่ได้พูดอะไร
“ถ้าอย่างนั้น เรากลับกันก่อนดีไหม วันนี้ฉันต้องไปช่วยแม่ที่ร้านอาหาร” เรนนี่หันไปถามเอลล่า
“ผมเองก็คงต้องขอตัวกลับก่อนเหมือนกัน ยังมีรายงานค้างอยู่เลย อีธานจะกลับเลยไหม” อลันหันไปถามอีธาน
“อืม ไปสิ โจขอโทษนะ พวกเราคงอยู่รอเป็นเพื่อนไม่ได้แล้ว” อีธานตบไหล่โจเบา ๆ
“ไม่เป็นไร ผมรอเอเรียลคนเดียวได้ พวกคุณกลับไปกันก่อนเถอะ” โจหันไปยิ้มให้อีธานและคนอื่น ๆ �
“เรนนี่ เธอกลับไปกับอลันและอีธานก่อนเถอะนะ บ้านเธออยู่ใกล้หอพักของพวกเขาไม่ใช่เหรอ ส่วนฉันจะรอเอเรียลเป็นเพื่อนโจก่อน” เอลล่าบอก แต่จริง ๆ แล้ว เธออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมากกว่า
“ก็ได้ งั้นพวกเราไปก่อนนะ” เรนนี่พูดกับเอลล่า ก่อนหันไปลาโจ “ไปก่อนนะ โจ บาย...”
“บาย” โจตอบ มองพวกเขาทั้งสาม เดินออกประตูมหาวิทยาลัยไป
“โจ เราไปหาที่นั่งกันก่อนดีไหม” เอลล่าเสนอ
“ไปสิ” โจพยักหน้า
พวกเขาจึงเดินไปที่ม้านั่งในสวนหย่อมใกล้กับประตูมหาวิทยาลัย ไม่นานเอเรียลและหูเก่อก็เดินออกมาพร้อมกัน ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน โจและเอลล่าลุกขึ้นจากที่นั่ง จ้องมองไปที่ทั้งคู่ด้วยความแปลกใจ จนทั้งคู่เดินเข้ามาใกล้
“ขอโทษนะที่ให้รอนาน” เอเรียลยิ้มให้โจและเอลล่า เมื่อเดินมาหยุดยืนหน้าพวกเขา
หูเก่อเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างเธอ เขายิ้มให้โจนิดหน่อยเชิงทักทาย โจก็ทักตอบเขาเช่นเดียวกัน
“ไม่เป็นไร ไม่ได้นานมากหรอก” เอลล่าตอบมองเอเรียลและหูเก่ออย่างงง ๆ ทั้งคู่ดูร่าเริงกว่าก่อนหน้านี้มาก
“แต่...เอลล่า เธอไม่ได้ไปกับเรนนี่เหรอ” เอเรียลถาม เพราะบ้านของเอลล่าอยู่ไม่ไกลจากบ้านเรนนี่นัก จึงคิดว่าเอลล่าน่าจะกลับไปกับเรนนี่แล้ว
“พอดีฉันไม่ได้รีบอะไร ก็เลยยืนรอเป็นเพื่อนโจ” เอลล่าพูดพยายามหลบสายตาของเอเรียล
“เหรอ...” เอเรียลยิ้มอย่างรู้ทัน “ถ้างั้นพวกเรากลับกันเถอะ หูเก่อ คุณช่วยไปส่งเอลล่าได้ไหม” เอเรียลหันไปถามหูเก่อด้วยรอยยิ้ม
“ได้สิ แล้วคุณกับโจล่ะให้ผมไปส่งไหม” หูเก่อถาม
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกับโจ เรากลับกันเองได้ คุณไปส่งเอลล่าเถอะ” เอเรียลยิ้ม แล้วหันทางโจ“เราก็กลับบ้านกันเถอะ”
โจพยักหน้าตอบรับ โดยไม่ได้พูดอะไร
“เราก็กลับกันเถอะเอลล่า” หูเก่อบอก เอลล่ายังคงมองเขาอย่างงง ๆ “กลับก่อนนะเอเรียล แล้วเจอกัน บาย...”�
“ไปนะเอเรียล บาย...” เอลล่ากล่าว แล้วเดินออกไปพร้อมหูเก่อ
“บาย” เอเรียลโบกมือให้ทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม ก่อนหันมามองโจอีกครั้ง เขาดูเงียบขรึมไปตั้งแต่เธอมา “คุณโกรธเหรอ ที่ฉันมาช้า” สีหน้าของเธอดูกังวล
“ไม่หรอก เราไปกันเถอ” โจตอบเรียบ ๆ จับมือของเอเรียลให้เดินไปกับเขา
เอเรียลเดินตามเขาไปเงียบ ๆ เธอรู้สึกว่าโจดูแปลกไป เหมือนมีอะไรในใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะถาม
โจจับมือของเอเรียลเดินเข้าไปในสวนสาธารณะ ข้างสถานีรถไฟฟ้าที่พวกเขาขึ้นประจำ เขาพาเธอเดินไปทางม้านั่งยาว ที่อยู่ใกล้กับสระน้ำ ปล่อยมือเธอ แล้วนั่งเอนหลังลงไปบนม้านั่งและหลับตา เอเรียลยืนมองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเดินไปนั่งข้างเขา
“คุณไม่สบายหรือเปล่า” เอเรียลใช้หลังมือแตะที่หน้าผากของเขา “แต่ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา”
“ไม่ได้เป็นอะไรหรอก แค่รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยเท่านั้นเอง” โจตอบ ท่าทางดูเหนื่อยอ่อน
ความจริงเขากังวลเรื่องเธอกับหูเก่อมากกว่า เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ตั้งแต่เห็นเอเรียลกับหูเก่อเดินพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แม้จะรู้ว่าตัวเองไม่ได้มีสิทธิ์อะไรในตัวเธอก็ตาม แต่พอคิดว่าเอเรียลอาจจะตกลงคบกับหูเก่อ เขาก็รู้สึกถึงความโกรธขึ้นมาทันที
“ขอโทษนะ ฉันไม่รู้ ก็เลยคุยกับหูเก่อนานไปหน่อย งั้นเรารีบกลับบ้านดีไหม คุณจะได้พักผ่อน”�
“ได้นั่งพักตรงนี้ สักครู่ก็ดีขึ้นเอง” โจบอก แล้วลืมตามองไปที่สระน้ำ “หูเก่อดูเหมือนจะชอบคุณนะ”
เอเรียลจ้องมองใบหน้าด้านข้างเขา ด้วยความประหลาดใจที่เขาดูรู้ไปทุกเรื่องของเธอ นอกจากเขาจะคอยดูแลเอาใจใส่เธอแล้ว ก็ยังช่างสังเกตคนรอบข้างของเธออีกด้วย�
“จริง ๆ สองสัปดาห์ก่อน เขาบอกชอบฉัน” เอเรียลยิ้ม
“แล้วคุณชอบเขาหรือเปล่า” โจหันมาจ้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“หูเก่อเป็นคนดีนะ รูปร่างหน้าตาก็ดี เรียนเก่ง อนาคตดี ไม่มีใครไม่ชอบเขาหรอก” เอเรียลบรรยายจากความรู้สึก
“แสดงว่าคุณตกลงคบกับเขา” โจสรุปสีหน้าเศร้าหมอง
“เปล่าหรอก เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น วันที่เขาสารภาพ ฉันตกใจมาก ๆ และพยายามทบทวนหลายครั้ง แต่ฉันก็ยังเห็นเขาเป็นแค่เพื่อน วันนี้เขาขอคุยกับฉัน เพราะฉันพยายามหลบหน้าเขา” เอเรียลยิ้ม มองไปที่สระน้ำ
“ทำไมคุณต้องหลบเขาล่ะ” โจรู้สึกสงสัย
“ก็ฉันเห็นเขาเป็นแค่เพื่อน ฉันไม่รู้จะพูดยังไงกับเขา ฉันกลัวว่าจะต้องเสียเพื่อนที่ดีอย่างเขาไป” เอเรียลตอบ
โจจ้องมองเธอ กับความรู้สังสัย ถ้าเป็นเขาสารภาพกับเธอบ้าง เธอก็จะหลบหน้าเขาด้วยไหม และนั่นคือสิ่งที่เขากลัวมาตลอด
“แล้วคุณบอกเขายังไง ถึงได้...ผมหมายถึง คุณกับเขายังหัวเราะกัน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“หูเก่อเป็นผู้ชายที่ดีนะ ถึงฉันจะปฏิเสธเขาไปตรง ๆ แต่เขาก็สามารถเข้าใจ เราตกลงเป็นเพื่อนกันตลอดไป” เอเรียลหันมายิ้ม
“มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ” โจถาม พยายามคิดว่าถ้าเป็นเขา จะทำได้แบบหูเก่อหรือเปล่า
“ฉันว่า เขาคงจะไม่ได้ชอบฉันเท่าไหร่หรอกมั๊ง” เอเรียลพยายามพูดให้ตัวเองสบายใจขึ้น
จริง ๆ แล้วเธอรู้ว่าหูเก่อเองก็คงเสียใจอยู่ไม่น้อย เพราะสายตาเศร้า ๆ ของเขาตอนที่ถูกเธอปฎิเสธ มันยังไม่ลบเลือนไปจากใจของเธอเลย แต่เธอก็ไม่อยากหลอกตัวเองและหูเก่อ ที่สำคัญเธอไม่อยากให้เอลล่าต้องเสียใจด้วย
โจมองเอเรียลที่กำลังพูดคุยให้เขาฟัง ตอนนี้เขารู้แล้วว่า เธอเองก็คงรู้สึกเสียใจเหมือนกันที่ทำร้ายจิตใจหูเก่อ ถึงเธอและหูเก่อจะพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเหมือนปกติ แต่ลึก ๆ ในใจของทั้งสองคน ก็ยังคงรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง คงต้องใช้เวลาสักพัก เพื่อให้ความสัมพันธ์แบบเพื่อนนั้น คืนกลับมาอีกครั้ง และตอนนี้เขาเองก็รู้สึกสบายใจขึ้นอย่างประหลาด
“เอเรียล เรากลับกันเถอะ ผมเริ่มหิวแล้วล่ะ” โจยิ้ม ตบท้องตัวเองเบา ๆ แล้วลุกขึ้นยืน
เอเรียลจ้องมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ทำไมเขาถึงหายไวนัก ก่อนหน้านี้เขายังดูเหนื่อย ๆ อยู่เลย แต่ตอนนี้กลับยิ้ม แล้วยังทำหน้าทะเล้นใส่เธออีก
“คุณดีขึ้นแล้วเหรอ” เอเรียลลุกขึ้นยืนจ้องหน้าของเขา
“อื้ม” โจพยักหน้าพยายามจะไม่ยิ้มออกมาอีก มันดูเหมือนเขากำลังอมยิ้ม
“แปลกจัง คุณนี่ คุ้มดีคุ้มร้ายหรือไง” เอเรียลประชดประชัน
“คุณก็ขี้สงสัยจัง ผมก็แค่ไม่อยากให้คุณเป็นห่วง” โจใช้ปลายนิ้วชี้จิ้มที่หน้าผากของเธอเบา ๆ
“ก็จริง แต่เมื่อกี้คุณยัง...” เอเรียลพยายามจะเถียง
โจรีบคว้ามือของเอเรียลให้เดินตามไปทันที เขาไม่อยากให้เธอสักถามอะไรอีก กลัวจะรู้ความจริงว่า ที่เขาเป็นแบบนี้ เพราะเขารู้สึกหวงเธอนั่นเอง
“ไปกันเถอะ” โจอมยิ้ม โดยไม่ได้หันมามองเธอ
เอเรียลมองโจที่จับมือของเธอ ให้เดินตามไปด้วยความไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้สักถามอะไรอีก พวกเขาเดินออกจากสวนสาธารณะ เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้านเหมือนอย่างเคย
�ดีใจจังจบอีกตอนหนึ่งแล้ว
ความคิดเห็น