ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Arjoe) First Love...Is Only You

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 : เพื่อนใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 54


    ��
    ����������� "อรุณสวัสดิ์ค่ะแม่ อรุณสวัสดิ์โจ" เอเรียลทักทาย เดินเข้ามาในห้องครัว วางกระเป๋าบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่ แล้วลงนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับโจ ที่กำลังนั่งทานอาหารเช้าอยู่

    "อรุณสวัสดิ์จ๊ะ" นางเหม่ยหันมายิ้ม ขณะยืนทำความสะอาดเคาน์เตอร์ครัว หลังทำอาหารเช้าเสร็จ

    "อรุณสวัสดิ์ เอเรียล" โจตอบ หลังวางแก้วนมที่ดื่มหมดแล้ว

    เมื่อคืนหลับสบายดีไหม เอเรียลถามโจ พร้อมเริ่มหยิบขนมปังมาบิดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ปาก

    ครับ หลับสบายดี โจยิ้ม

    อืม เอเรียลพยักหน้าตอบรับ ขณะดื่มนมในแก้ว

    โจทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว จึงนั่งเท้าคางกับโต๊ะ แล้วมองเธอทาน��

    แม่คะ แล้วพ่อล่ะ เอเรียลหันไปถามแม่ เมื่อไม่เห็นพ่อของเธอ

    นางเหม่ยหลังจากทำความเสร็จ ก็เดินมาที่โต๊ะอาหาร แล้วนั่งลงเก้าอี้ข้างโจ

    พ่อออกไปตั้งแต่เช้าแล้วจ๊ะ เห็นว่าวันนี้งานค่อนข้างยุ่ง ต้องเข้าไปดูงานในบริษัทก่อน และยังต้องออกไปดูแลที่ไซด์งานอีก นางเหม่ยตอบ แล้วเริ่มทานอาหารเช้า

    เหรอคะ

    ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พ่อของเธองานยุ่งมาก ตั้งแต่ ลุงจาง ผู้ช่วยของพ่อเกิดอุบัติเหตุต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล พ่อต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้า กว่าจะกลับก็ดึกมาก จนไม่ค่อยมีเวลาได้คุยกันนัก มีเพียงเมื่อวานที่โจมาพ่อจึงกลับบ้านเร็ว

    พ่อเปิดบริษัทรับออกแบบและก่อสร้าง แม่เป็นแม่บ้านคอยดูแลพ่อและเธอ พ่อแม่ของเธอต้องเหนื่อยมาก ๆ โดยเฉพาะพ่อ ที่ต้องรับผิดชอบดูแลบริษัท ทั้งด้านบริหาร การเงิน และยังต้องไปดูตามไซด์งานต่าง ๆ�ยิ่งตอนนี้บริษัทกำลังเติบโตมากขึ้น พอขาดผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ ก็ต้องทำเองทุกอย่าง เธอถึงได้ตัดสินใจเรียนบริหารการเงินหวังว่าเมื่อเรียนจบแล้ว จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อได้บ้าง และตอนนี้เธอก็เหลืออีกเพียงปีเดียวเท่านั้นก็จะจบปริญญาตรีแล้ว

    แม่คะ หนูคงต้องไปแล้ว วันนี้เปิดเทอมวันแรกหนูไม่อยากไปสาย นัดกับเพื่อน ๆ เอาไว้ด้วย

    จ๊ะ

    ไปเถอะโจ เอเรียลพยักหน้าให้เขา แล้วลุกขึ้นหยิบกระเป๋า

    ไปก่อนนะครับ น้าเหม่ย โจลุกขึ้นจากที่นั่ง ยิ้มให้นางเหม่ย

    จ๊ะ

    เอเรียลและโจ เดินออกมาที่หน้าประตู เพื่อสวมรองเท้า

    เตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้วใช่ไหม นางเหม่ยเดินตามออกมาถาม

    เรียบร้อยแล้วครับ โจสวมรองเท้าเสร็จแล้วหันมายิ้มให้นางเหม่ย

    หลังสวมรองเท้าเรียบร้อยเอเรียลเปิดประตูกำลังจะก้าวออกไป

    ดีจ๊ะ โจ น้าฝากดูแลเอเรียลด้วยนะ นางเหม่ยยิ้มให้โจ

    ครับ น้าเหม่ย

    แม่คะ หนูไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ เอเรียลหันกลับมาพูดอย่างงอน ๆ หนูโตจนอยู่มหาวิทยาลัยปีสุดท้ายแล้วด้วย

    จ๊ะ ใช่ ๆ ลูกของแม่เป็นสาวแล้ว นางเหม่ยหัวเราะ พูดหยอกล้อลูกสาว

    เราไปนะคะ เอเรียลยิ้มให้แม่ ก่อนเดินออกไปกับโจ

    จ๊ะ กลับกันเร็ว ๆ นะ จะได้มาทานอาหารค่ำด้วยกัน นางเหม่ยมองตามทั้งสองคนเดินออกไปด้วยความเอ็นดู

    ค่ะ เสียงของเอเรียลตะโกนกลับมา

    …………………………………….

    เอเรียลและโจเดินทางไปมหาวิทยาลัย ด้วยการเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าสถานีที่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน ไปลงสถานีที่ใกล้กับมหาวิทยาลัย และเดินต่อไปอีกประมาณ 1 ป้ายรถเมล์ก็ถึงมหาวิทยาลัย

    มหาวิทยาลัยเทียนหมิงอวี้ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไทเป ใกล้ย่านธุรกิจ และห้างสรรพสินค้าต่างๆ มากมาย เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของไทเป ในด้านคุณภาพของการเรียนการสอน และนักศึกษาที่จบออกไป จึงต้องมีการสอบแข่งขัน เพื่อคัดเลือกนักศึกษาเป็นพิเศษ นักศึกษาที่เข้าเรียนที่นี่ได้ ต้องมีผลการเรียนที่ดีพอเท่านั้น อีกทั้งยังมีคณะดัง ๆ ให้เลือกมากมาก เช่น คณะแพทย์ศาสตร์ วิศวะกรรม สถาปัตยกรรม บริหาร

    โจ ทำไมคุณถึงเลือกเรียนวิศวะฯ ล่ะ ฉันคิดว่าคุณจะเรียนแพทย์เหมือนพ่อของคุณซะอีก เอเรียลถามขณะที่พวกเขาเดินเข้ามหาวิทยาลัยด้วยกัน

    อืม...คงเป็นเพราะ...ผู้ชายส่วนใหญ่คิดว่ามันเท่ห์มั๊ง โจแกล้งพูดยิ้ม ๆ ผมล้อเล่นน่ะ จริง ๆ แล้วผมไม่เคยคิดที่จะเรียนแพทย์ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ อยากเรียนวิศวะฯ มากกว่า ไม่รู้สิ มันคงเพราะผมชอบที่จะเห็นอะไรเป็นรูปเป็นร่างในแบบที่ต้องการมั๊ง แล้วคุณล่ะ ทำไมถึงเลือกบริหารการเงิน ผมคิดว่าคุณจะเลือกเรียนพยาบาลซะอีก คุณเหมาะจะเป็นพยาบาลนะ โจออกความคิดเห็น เพราะเอเรียลเป็นผู้หญิงที่ฉลาด อ่อนโยน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เธอจึงเหมาะสมที่จะเป็นพยาบาลมาก ๆ ในความคิดของเขา

    คุณคิดว่าอย่างนั้นเหรอ เอเรียลยิ้ม

    อืม โจยิ้มพยักหน้าตอบรับ

    แต่ฉันซุ่มซ่ามมาก ๆ คุณก็รู้ ฉันไม่เหมาะกับพยาบาลหรอก คนไข้คงจะไม่รอดก็ได้ ถ้าฉันไปเป็นพยาบาล เอเรียลหัวเราะ

    ไม่ขนาดนั้นหรอก โจหัวเราะไปกับเธอด้วยเช่นกัน ถึงคุณจะชอบสะดุดนู้นสะดุดนี่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่เลวร้ายขนาดทำให้ใครตายหรอก

    นั่นเป็นคำชมหรือเปล่า เอเรียลแกล้งเม้มริมฝีปากหันไปจ้องหน้าเขา

    ฮ่า ๆๆ โจหัวเราะออกมาอีกครั้ง และเอเรียลก็ยิ้มให้เขา

    จริง ๆ แล้ว ที่เลือกเรียนบริหารการเงิน เพราะฉันอยากช่วยแบ่งเบางานในบริษัทของพ่อมากกว่า อย่างน้อยพ่อจะได้ไม่เหนื่อยมาก เอเรียลพูดจริงจังมากขึ้น

    เอเรียลและโจ เดินพูดคุยกันมาเรื่อย ๆ จนถึงตึกอำนวยการ เอเรียลเห็นหญิงสาวสองคนยืนอยู่ที่ด้านหน้าของตึก พวกเธอยิ้มและโบกมือให้

    เอเรียล ทางนี้ เสียงพวกเธอตะโกนเรียก เอเรียลจึงรีบเดินไปทางพวกเธอ โดยโจเดินตามไปติด ๆ

    ทำไมเธอมาช้าจังล่ะ หญิงผมยาวเดินเข้ามาจับมือของเอเรียล

    ขอโทษนะ พวกเธอมารอนานแล้วเหรอ เอเรียลยิ้มให้พวกเธอ

    ก็สักพักหนึ่งแล้วล่ะ หญิงผมสั้นบอก และมองมาที่โจอย่างสงสัย ที่เขาเดินมาหยุดยืนข้างเอเรียล นี่เขา... แฟนของเธอที่เคยบอกเราเหรอ หญิงผมสั้นหันไปถามเอเรียล

    ไม่ใช่หรอก เขาเป็นเพื่อนสนิทของฉันตั้งแต่เด็ก ๆ น่ะ เอเรียลรีบตอบ โจ นี่เรนนี่และเอลล่า เป็นเพื่อนสนิทของฉัน พวกเราเรียนคณะเดียวกัน� และนี่โจ พึ่งย้ายมาจากไทจุง จะมาเรียนคณะวิศวะฯ ปีสุดท้ายที่นี่ เอเรียลแนะนำโจกับเพื่อนสาวทั้งสอง

    ยินดีที่ได้รู้จักคุณทั้งสอง โจยิ้มให้สองสาว

    ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน ฉันเรนนี่ เรนนี่สาวผมยาวยิ้มหวานให้เขา

    ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน ฉันเอลล่า เอลล่าสาวผมสั้นยิ้ม

    ฉันนึกว่าแฟนเธอกลับมาแล้วซะอีก เรนนี่กระซิบกับเอเรียล สายตามองไปที่โจ

    สักครู่ เสียงสัญญาณเตือนให้เข้าเรียนก็ดังขึ้น พวกเขาจึงหันมามองหน้ากัน

    ผมต้องรีบไปยื่นเอกสาร ขอตัวก่อนนะ โจยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับเรนนี่และเอลล่า ไปนะเอเรียล เจอกันหลังเลิกเรียน โจหันมาบอกเอเรียล

    อื้ม แล้วเจอกัน ฝ่ายทะเบียนนักศึกษาอยู่ชั้นสองซ้ายมือนะ ส่วนตึกคณะของคุณจะอยู่ด้านหลัง เอเรียลแนะนำ เพราะโจพึ่งย้ายมาใหม่ เธอจึงตั้งใจนัดกับเพื่อน ๆ ที่หน้าตึกนี้

    ขอบคุณเอเรียล ไปนะ บาย... โจบอกลาแล้วเดินเข้าไปในตึก

    เราก็รีบไปกันเถอะ เอเรียลหันไปบอกเรนนี่และเอลล่า

    พวกเธอทั้งสามจึงรีบเร่งเดินไปทางคณะของตัวเอง เพื่อเข้าชั้นเรียนในชั่วโมงแรก

    .................................................

    ณ ห้องเรียนคณะวิศวะกรรมศาสตร์ปีที่สี่

    สวัสดีนักศึกษาทุกคน วันนี้เปิดเทอมวันแรก และปีนี้เป็นปีสุดท้ายแล้ว อาจารย์อยากให้พวกคุณทุกคนตั้งใจเรียนให้มาก ๆ พยายามเก็บเกี่ยวความรู้ที่อาจารย์ทุกท่านได้สอนไป อาจารย์อยากเห็นทุกคนจบออกไปพร้อม ๆ กัน โดยมีผลการเรียนที่ดี จะได้เข้าทำงานในบริษัทที่ทุกคนต่างคาดหวังไว้ อาจารย์กล่าวกับนักศึกษาที่ด้านหน้าชั้นเรียน ทุกคนก็ตั้งใจฟังที่อาจารย์ได้กล่าวเช่นกัน ��เอาล่ะก่อนจะเริ่มเรียน วันนี้อาจารย์อยากแนะนำเพื่อนใหม่ให้ทุกคนได้รู้จัก เขาพึ่งย้ายมาเรียนปีสุดท้ายกับเรา

    อาจารย์หันไปมองโจที่ยืนคอยอยู่หน้าประตู ก่อนหน้านี้โจไปที่ฝ่ายทะเบียนและพบกับอาจารย์ท่านนี้พอดี อาจารย์จึงให้เขาเดินตามมารออยู่ที่หน้าประตู

    เข้ามาสิ แนะนำตัวกับเพื่อน ๆ หน่อยสิ อาจารย์กล่าว

    โจเดินเข้ามาหยุดยืนที่หน้าชั้นเรียน โค้งให้อาจารย์ก่อนหันไปยิ้มให้เพื่อนร่วมชั้น ทุกคนต่างจับจ้องมองมาที่เขา

    สวัสดีครับ ผมเจิ้งหยวนช่าง เรียกผมว่าโจก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อน ๆ ทุกคน โจกล่าวทักทาย

    พวกคุณทุกคนก็ช่วยแนะนำเพื่อนใหม่ด้วยก็แล้วกัน เอาล่ะดูซิ มีที่นั่งตรงไหนว่างบ้าง อาจารย์พยายามมองหาที่นั่งให้เขา อีธาน ด้านข้างคุณมีใครนั่งหรือเปล่า อาจารย์ถามชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งที่นั่งอยู่เกือบหลังห้อง

    ไม่มีครับ ชายหนุ่มที่ชื่ออีธานตอบ

    งั้นโจ เข้าไปนั่งกับอีธานก็แล้วกัน
    ��������� โจโค้งคำนับให้อาจารย์ ก่อนเดินเข้าไปนั่งด้านข้างของชายหนุ่มคนนั้น

    ไฮ้ ผมโจ ยินดีที่ได้รู้จัก โจยิ้ม ทักชายหนุ่มคนนั้นอย่างเป็นมิตร

    ไฮ้ ผมอีธาน ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน อีธานก็ยิ้มอย่างเป็นมิตรเช่นกัน และนี่เพื่อนสนิทของผม อลัน อีธานแนะนำชายหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่อีกด้านของเขา

    ไฮ้โจ ผมอลัน ยินดีที่ได้รู้จัก อลันชโงกหน้าจากด้านข้างของอีธาน มายิ้มให้โจ

    ยินดีที่ได้รู้จักพวกคุณ โจกล่าวกับอีธานและอลัน

    เอาล่ะ เรามาเริ่มเรียนกันเลยดีกว่านะ เสียงของอาจารย์กล่าวขึ้นจากหน้าชั้นเรียน พวกเขาจึงหันกลับไปตั้งใจที่ฟังในสิ่งที่อาจารย์เตรียมจะเริ่มบรรยาย

    ...................................................

    ในช่วงพักกลางวันของสัปดาห์ถัดมา เอเรียล เรนนี่ และเอลล่า นั่งทานอาหารในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย

    เอเรียล เขามีแฟนหรือยัง เรนนี่ถามเอเรียลที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามอย่างกระตือรือร้น

    ใครเหรอ เอเรียลเงยหน้าจากจานอาหาร ถามเรนนี่อย่างไม่แน่ใจ

    ก็โจน่ะสิ เขามีแฟนหรือยัง เรนนี่ยิ้ม ก่อนตักอาหารใส่ปาก สายตายังคงมองเอเรียลอย่างสนใจ

    อืม...ไม่รู้สิ เอเรียลตอบ ก้มหน้าทานอาหารต่อ

    ทำไมถึงไม่รู้ล่ะ เรนนี่รีบพูดทั้งอาหารเต็มปาก จึงพยายามเคี้ยวแล้วกลืนอย่างรวดเร็ว เธอเป็นเพื่อนสนิทกับเขาตั้งแต่เด็กไม่ใช่เหรอ ฉันเห็นเธอกับเขาไปกลับมหาวิทยาลัยด้วยกันทุกวันตั้งแต่เปิดเทอม เธอก็น่าจะรู้ หรือเคยเห็นแฟนของเขาบ้างสิ เรนนี่จ้องมองเอเรียลที่กำลังทานอาหาร

    โจเป็นเพื่อนสนิทของฉันก็จริง แต่ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้เขามีแฟนหรือยัง เอเรียลบอก

    หลังจากทานอาหารในจานหมด เอเรียลก็หยิบแก้วน้ำของตัวเองขึ้นมาดื่ม

    แต่...เขาไม่ได้เป็นเกย์ใช่ไหม เอลล่าอยู่ ๆ ก็ถามขึ้น

    โดยไม่ทันตั้งตัวกับคำถามของเอลล่า ก็ทำเอาเอเรียลพ่นน้ำที่กำลังดื่มอยู่ใส่หน้าของเรนนี่อย่างไม่ตั้งใจ

    เอ...เรียล... เรนนี่เอามือลูบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยน้ำ

    ทุกคนที่นั่งโต๊ะใกล้กับพวกเธอ ต่างมองมาแล้วยิ้มหัวเราะเบา ๆ รวมทั้งพวกเธอด้วย

    ขอโทษนะเรนนี่ ฉันไม่ได้ตั้งใจ เอเรียลวางแก้วน้ำลง หยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเอง เอื้อมไปเช็ดหน้าให้เรนนี่

    ไม่เป็นไรเอเรียล มาฉันทำเอง เรนนี่หยิบผ้าเช็ดหน้าจากมือเอเรียลมาเช็ดหน้าตัวเอง

    เอลล่า ทำไมถามแบบนั้นล่ะ โจไม่มีทางเป็นเกย์แน่ ๆ ถอนคำพูดเลยนะ เอเรียลหันมาพูดกับเอลล่าที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

    ฉันก็แค่แปลกใจเท่านั้นแหละ ที่ผู้ชายหน้าตาดีอย่างเขายังไม่มีแฟน แล้วเธอไม่เคยถามเขาบ้างเลยเหรอ เอลล่าถามต่อ

    เอเรียลนั่งคิดทบทวนว่ามีสักครั้งไหมที่ได้ถามเรื่องนี้กับโจ เธอมองเอลล่าแล้วส่ายหน้าช้า ๆ และก็เหมือนนึกอะไรออก

    แต่...ตอนอยู่ ม.ปลาย เขาเคยบอกว่าชอบผู้หญิงคนหนึ่งนะ แต่เธอก็มีแฟนแล้ว เอเรียลตอบ

    เอเรียลนึกถึงตอนที่ยังอยู่ไทจุง ตอนนั้น เธอกำลังคบอยู่กับไมค์ ทำให้เธอและโจห่างกันไปบ้าง บางครั้งโจดูเหมือนพยายามจะหลบหน้าเธอ มักจะบอกว่ามีงานต้องทำต่อบ้าง ต้องไปทำธุระบ้าง หรือบางครั้งก็บอกว่าอยากให้เธอกับไมค์ได้มีเวลาด้วยกันตามลำพังบ้าง จึงทำให้ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างเคย

    จนวันหนึ่งเธอจะไปคุยกับเขาที่บ้าน พ่อของเขาบอกว่าเขาอยู่บนห้อง เธอจึงขึ้นไปตามปกติอย่างเคย�เห็นประตูห้องเปิดอยู่ และเขานั่งอยู่บนเตียงกำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง จึงแอบเดินเข้าไปเงียบ ๆ หวังจะแกล้งให้ตกใจเล่น แต่พอเข้าไปใกล้กลับเห็นเขากำลังร้องไห้�

    เป็นอะไรโจ มีอะไรร้ายแรงเหรอ เอเรียลรีบเดินไปนั่งข้างเขา วางมือข้างหนึ่งบนมือของเขา

    โจหันมามองไม่ได้พูดอะไร เพียงพิงหัว บนไหล่ของเธอ สายตาจับจ้องอยู่ที่มือของเธอ ที่บีบมือเขาเบา ๆ

    บอกฉันได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น เอเรียลมองด้วยความห่วงใย

    ผมรักผู้หญิงคนหนึ่ง� แต่เธอเห็นผมเป็นแค่เพื่อน โจพูดเสียงเศร้า น้ำตาไหลช้า ๆ บนแก้มของเขา

    เอเรียลรู้สึกสะเทือนใจที่เพื่อนรักต้องผิดหวังกับความรัก เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าโจจะแอบรักใครมากขนาดนี้ เพราะเขาไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเลยแม้แต่ครั้งเดียว

    บอกความรู้สึกที่มีต่อเธอหรือยัง เธออาจจะคิดเหมือนกันก็ได้นะ เอเรียลถาม

    เธอมีแฟนแล้ว�เธอจะรักเขามาก ๆ เธอไม่เคยสนใจผมเลย� มัน...เจ็บปวดจริง ๆ โจตอบแค่นั้นแล้วเงียบไป

    โธ่ โจ เอเรียลโอบกอดและตบหลังของเขาเบา ๆ เธอไม่เคยเห็นน้ำตาของเขามานานมากแล้ว ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายตอนสิบขวบที่แม่ของเขาจากไป และเธอไม่รู้จะพูดหรือปลอบยังไงดี จึงทำได้แค่กอดเขาไว้ และนั่งเป็นเพื่อนเงียบ ๆ

    เอเรียล เป็นอะไรไป เรนนี่ถาม เมื่อเห็นเอเรียลเงียบไปเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

    เอเรียลสะดุ้ง หันกลับขึ้นมามองเรนนี่และเอลล่า

    สรุปว่า ตอนนี้เขาก็ยังไม่มีแฟนใช่ไหม เรนนี่ยิ้ม นัยน์ตาเป็นประกาย

    ก็น่าจะยังงั้นนะเอเรียลตอบอย่างไม่แน่ใจ ว่าแต่พวกเธอถามทำไมเหรอ

    แหม ก็ฉันว่าเขาน่าสนใจดีนี่นา และเขาก็หล่อมากด้วย เรนนี่ยิ้มหวาน ถามให้ฉันหน่อยนะ ว่าเขามีแฟนหรือยัง นะเอเรียล เรนนี่ดึงมือของเอเรียลเขย่าอย่างอ้อนวอน

    ก็ได้ ฉันจะถามให้ เอเรียลพยักหน้าอ่อนใจ

    ไง สาว ๆ เสียงของผู้ชายเรียกพวกเธอจากด้านหลัง พวกเธอหันไปมองตามเสียงนั้น

    ไฮ้ หูเก่อ เป็นไงบ้าง ตั้งแต่เปิดเทอมมา พวกเราไม่ได้เจอคุณเลยนะ เอเรียลทัก

    เขาคือ หูเก่อรุ่นพี่จากคณะแพทย์ปีที่หก พวกเธอรู้จักเขาด้วยความบังเอิญตอนอยู่ปีสอง ตอนนั้น พวกเธอทั้งสามกำลังเดินมาโรงอาหาร แต่ด้วยอากาศที่ร้อนจัด และเอเรียลก็ไม่ค่อยสบายอยู่แล้วจึงเป็นลม เรนนี่และเอลล่าพยายามพาไปห้องพยาบาลที่คณะแพทย์ หูเก่อเดินผ่านมาพอดีจึงช่วยอุ้มเอเรียลไปที่ห้องพยาบาล และช่วยปฐมพยาบาลให้ จากนั้นทั้งสี่จึงเริ่มสนิทสนมกัน

    พอดีเปิดเทอมมาก็ยุ่งเลย ต้องอยู่ในห้องแล็บตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา หูเก่อวางถาดอาหารบนโต๊ะ นั่งลงตรงข้ามกับเอลล่า แล้วเริ่มต้นทานอาหาร พวกคุณอิ่มกันแล้วเหรอ หูเก่อถาม

    ใช่ พวกเรามาได้พักใหญ่แล้วล่ะ เอลล่ายิ้มหวานแล้วเท้าคางมองเขา
    ����������
    เรียนแพทย์นี่ดูยุ่งมาก ๆ เลยสินะ โดยเฉพาะปีนี้เห็นว่าต้องทำวิจัยบ่อย ๆ เรนนี่พูด

    อื้ม หูเก่อพยักหน้าตอบรับ เขาไม่ได้พูดอะไรมากเพราะกำลังรีบเร่งทานอาหาร

    นี่ แล้วถ้าต้นเดือนหน้า ฉันจะชวนทุกคนไปดูหนังด้วยกันจะว่างไหม มันเป็นเรื่องที่ฉันอยากดูมาก ๆ ด้วย เอลล่าถาม

    วันไหนเหรอ หูเก่อเงยหน้าจากจานมองที่เอลล่า

    วันอาทิตย์ ต้นเดือนหน้านี้ ทุกคนว่างกันใช่ไหม เอลล่ามองทุกคนไปมาอย่างหาคำตอบ

    ฉันว่าง เรนนี่ตอบอย่างรวดเร็ว

    นี่เธอจะไม่คิดสักนิดเลยเหรอ เอลล่าแกล้งแซว เรนนี่กลับส่ายหน้าแล้วหัวเราะ

    คุณจะไปใช่ไหม หูเก่อถามเอเรียล

    ฉันยังไม่แน่ใจเลย แต่ฉันชวนเพื่อนไปด้วยได้ไหม เอเรียลหันไปถามเอลล่า

    ได้สิ ไปกันเยอะ ๆ ก็สนุกดี� แล้วคุณล่ะหูเก่อ จะไปกับพวกเราใช่ไหม เอลล่าถามด้วยความหวังว่าเขาจะตกลง

    อื้ม...ไปสิ วันนั้นผมยังว่าง ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงจะบอกอีกทีนะ

    ดีจัง เอลล่ายิ้มกับคำตอบของหูเก่อ เอเรียล เหลือแต่เธอที่ยังไม่แน่ใจใช่ไหม เอลล่าหันไปจ้องคาดคั้น

    ก็มันอีกตั้งหลายสัปดาห์นี่นา เอเรียลตอบ

    เธอต้องไปให้ได้นะ ฉันอยากให้เธอไปด้วยจริง ๆ เอลล่าจับมือของเอเรียล แล้วกระพริบตาถี่ ๆ อย่างน่าสงสาร จนทุกคนพากันหัวเราะ

    ก็ได้ ๆ ฉันจะพยายามทำตัวให้ว่าง โอเคมั๊ย เอเรียลยิ้มอย่างใจอ่อน

    โอเค ต้องอย่างนี้สิ เอลล่ายิ้มอย่างพอใจ

    ฉันว่าเราควรไปกันได้แล้วล่ะ มันจะบ่ายแล้ว เรนนี่กล่าวขึ้น เมื่อเห็นหูเก่อกำลังดื่มน้ำหลังทานอาหารเสร็จแล้ว

    พวกเขาทุกคนพยักหน้าและลุกขึ้นเดินออกไปจากโรงอาหารพร้อมกัน แยกย้ายกันไปเรียน

    .........................................................................

    เย็นวันศุกร์ หลังชั่วโมงเรียนสุดท้าย โจ อีธาน และอลัน ออกมาหน้ามหาวิทยาลัยด้วยกัน สองสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเขามักไปไหนมาไหนด้วยกัน จับกลุ่มทำงานด้วยกันในชั้นเรียนเสมอ อีธานและอลันจะคอยช่วยแนะนำโจตลอด ในมหาวิทยาลัยตั้งแต่เปิดเทอม พวกเขาจึงสนิทสนมกันมากขึ้น วันนี้อีธานและอลันก็เลยตามโจออกมา เพื่อจะได้กลับบ้านพร้อม ๆ กัน เพราะปกติพอเลิกเรียนปุ๊บ โจก็จะขอตัวออกมาทันที

    พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ ผมขอรอเพื่อนก่อน โจหันไปบอกอีธานและอลัน เมื่อถึงหน้าประตูทางออกของมหาวิทยาลัย

    เพื่อนเหรอ อลันจ้องมองอย่างไม่เชื่อ อย่าบอกนะว่าพึ่งย้ายมาได้ไม่เท่าไหร่ ก็มีแฟนแล้ว อลันแกล้งแซว ตามปกติของคนร่าเริง สนุกสนาน และชอบพูดเล่นบ่อย ๆ

    ไม่หรอก เธอเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ โจปฏิเสธเสียงเรียบ ๆ

    ไม่เป็นไร วันนี้พวกเราไม่ได้รีบกลับ ห้องพักก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่ พวกเราจะรอเป็นเพื่อนก็แล้วกัน จะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนของคุณด้วย อีธานยิ้ม และพวกเขาก็ยืนรอเป็นเพื่อนโจ

    เฮ้ อีธานดูนั่นสิ สาวคณะบริหารที่นายบอกว่า สวยน่ารัก กำลังเดินมาทางนี้แล้ว อลันมองไปทางสามสาวที่กำลังเดินมาทางที่พวกเขายืนอยู่

    อีธานและโจมองตามที่อลันบอก โจเห็นเอเรียลและเพื่อนของเธอกำลังเดินมา นั่นหมายความว่า อาจเป็นเอเรียลหรือใครคนใดคนหนึ่งก็ได้ ที่พวกเขาหมายถึง

    ใช่...เธอชื่อเอเรียล ดูสิเธอน่ารักมาก ๆ เวลาเธอยิ้มทำให้โลกทั้งโลกดูสดใสจริง ๆ อีธานยิ้ม มองอย่างเหม่อลอยไปที่เอเรียล

    รู้ไหม พวกเธอเป็นขวัญใจของหนุ่ม ๆ ในมหาวิทยาลัยเลยล่ะ โดยเฉพาะเอเรียล แต่เธอไม่ค่อยสนใจใคร เห็นว่าเธอมีแฟนแล้ว ไม่แน่ใจว่าเป็นรุ่นพี่คณะแพทย์หรือเปล่า เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ หนุ่มให้คณะเราเคยไปจีบแต่ถูกปฏิเสธ เพื่อนของเธอบอกว่า เธอมีแฟนแล้ว จึงไม่ค่อยมีใครกล้าจีบเท่าไหร่ เพราะกลัวอกหัก อลันพูดให้โจฟัง อีธานก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาแอบชอบเธอมาตั้งแต่ปีหนึ่ง จนตอนนี้ ก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะพูดกับเธอด้วยซ้ำ อลันมองอีธาน ที่เอาแต่ยืนมองเอเรียล แต่เขาทำได้แค่...ฝัน แล้วกลับไปนั่งกินแห้วย้อมใจ อลันแกล้งส่ายหน้ามองอีธานแล้วหัวเราะ�

    ส่วนโจได้แต่ยืนฟังอลันเงียบ ๆ โดยไม่ได้พูดอะไร ��

    มันไม่ตลกเลยนะ อลัน อีธานหันมามอง และวิ่งเข้าไปเตะก้นเขาอย่างรวดเร็ว

    อลันหัวเราะชอบใจเอามือถูก้นของตัวเองไปมา เมื่อถูกอีธานเตะเข้าอย่างจัง และยังวิ่งไล่เขาอยู่รอบ ๆ โจ

    ใครบอกล่ะมันตลกจะตายไป อลันยังคงแกล้งแซวอย่างเมามัน

    ไงโจ มารอเอเรียลเหรอ เรนนี่ถาม เมื่อเดินเข้ามาใกล้พวกเขา

    อีธานและอลันหยุดวิ่งไล่กัน เดินมายืนอยู่ข้างโจ มองด้วยความแปลกใจ ที่เห็นเรนนี่เข้ามาทักโจ���� เอลล่าและเอเรียลเดินตามมาติด ๆ

    พวกคุณกลับบ้านด้วยกัน ทุกวันเลยเหรอ เอลล่าถาม เพราะเห็นโจมายืนรอเอเรียลทุกวัน

    โจเพียงแต่ยิ้ม แล้วมองเอเรียลที่กำลังเดินมาหยุดตรงหน้าเขา

    รอนานไหม เอเรียลยิ้ม

    ไม่หรอก มาสิ ผมช่วยถือให้ โจพึ่งสังเกตเห็นว่า เอเรียลหอบหนังสือเล่มใหญ่สามเล่มอยู่ในมือ เขาหยิบหนังสือทั้งหมดจากมือของเธอ มาถือไว้แทน

    รู้จักพวกเธอด้วยเหรอ อลันกระซิบถาม โจพยักหน้า

    จริงสิ นี่เอเรียล เป็นเพื่อนสนิทของผม และ นี่เรนนี่ เอลล่า เป็นเพื่อนสนิทของเอเรียล� ส่วนนี่ อลัน อีธาน เป็นเพื่อนในคณะเดียวกับผม โจกล่าวกับสามสาว

    ไฮ้ ยินดีที่ได้รู้จัก อลันทักอย่างร่าเริง ยิ้มให้สามสาว

    ยินดีที่ได้รู้จัก ผม...อีธาน อีธานกล่าวอย่างอาย ๆ ยิ้มให้เอเรียลและเพื่อนของเธอ เขารู้สึกประหม่าเวลาอยู่ต่อหน้าพวกเธอ โดยเฉพาะเอเรียลที่กำลังยิ้มให้เขาเช่นกัน แก้มของเขาเริ่มแดงจนเห็นได้ชัด

    ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน สาวทั้งสามคนกล่าว

    โจ ฉันว่าเรารีบกลับกันเถอะนะ วันนี้แม่บอกให้เรารีบกลับด้วยสิ เอเรียลเอ่ยขึ้น โจพยักหน้าตอบรับ

    งั้นไปก่อนนะ ไว้เจอกันวันจันทร์ บาย โจกล่าวลากับทุกคน

    ไปนะ แล้วเจอกัน เอเรียลยิ้มให้ทุกคน ก่อนเดินออกไปพร้อมกับโจ

    ทุกคนมองตามโจและเอเรียลที่เดินไปด้วยกัน แล้วหันมองหน้ากันไปมา แปลกใจในสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา


    ���������������� ************************************************************************


    �����������������
    ���������������� เรื่องนี้อาจโพสต์ได้ช้า จริง ๆ แต่งไว้จนเกือบจบแล้ว แต่SAVE ข้อมูลไว้ใน USB ที่เดียว
    ซึ่งอยู่ ๆ มันก็เจ๊งซะงั้น ให้พี่ ๆ ช่วยกู้ข้อมูลแต่ก็ไม่สามารถกู้ได้ ไม่เหลืออะไรเลยที่อยู่ในนั้น แย่จัง
    เลยต้องแต่งใหม่ทั้งหมด บางตอนก็จำไม่ค่อยได้ อารมณ์มันไม่เหมือนเดิมด้วยสิ พอต้องทำใหม่
    กลัวว่าจะตก ๆ หล่น ๆ หรือซ้ำ�
    �����������������ขอให้สนุกกับเรื่องนี้ แล้วอย่าลืมเมนท์บ้างนะ
    จะได้นำมาแก้ไข ปรับปรุงต่อไป�


    ���������������� ขอบคุณ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×