ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Arjoe) First Love...Is Only You

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 9 : ฝึกงาน...และชายแปลกหน้า

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ค. 54


    เช้าวันแรกของการฝึกงาน เอเรียลตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวแต่เช้า ไม่อยากไปสายตั้งแต่วันแรก เธอหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้อง และเห็นประตูห้องของโจเปิดอยู่ จึงมองไปด้านใน โจกำลังยืนก้มหน้าก้มตาติดกระดุมเสื้อ และเริ่มหยิบเนกไทขึ้นมาผูก

     

    ก๊อก ๆ เอเรียลเคาะที่ประตูเบา ๆ

     

    เข้ามาสิครับ โจก้มหน้าก้มตา ยังคงยุ่งอยู่กับการผูกเนกไท

     

    คุณยังแต่งตัวไม่เสร็จเหรอ เอเรียลเดินเข้ามาในห้อง วางกระเป๋าบนชั้นหนังสือ

     

    เกือบแล้วล่ะ ขอเวลาแป๊บหนึ่งนะ

     

    เอเรียลเห็นท่าทางเขากำลังสับสนว่าจะผูกยังไง จึงเดินไปหยุดยืนหน้าเขา

     

    ให้ฉันช่วยนะ ไม่งั้นเราคงสายกันแน่ๆ เอเรียลยิ้มหวาน จับมือของเขาออกจากเนกไท แล้วผูกให้แทน

     

    โจมองลงที่เธอ และพึ่งสังเกตว่า วันนี้เธอดูสวยงามมาก ๆ ด้วยชุดแซคสีชมพูเข้ารูป กับเสื้อคลุมสีขาว แต่งหน้าอ่อน ๆ ริมฝีปากของเธอแดงระเรื่อดูน่ามอง จนเขาแทบละสายตาไม่ได้

     

    เอาล่ะเรียบร้อย คุณหล่อแล้วล่ะ เอเรียลยิ้ม เมื่อจัดเนกไทให้เข้าที่ เงยหน้าขึ้นมองเขา

     

    ขอบคุณครับ โจยิ้ม แต่กลับนึกอยากแกล้งเธอเล่น ผมไม่เคยรู้ว่าคุณผูกมันเป็นด้วย จะฝึกไว้เป็นภรรยาที่ดีของใครเหรอ

     

    แล้วฉันผูกให้ใครอยู่ล่ะ เอเรียลยิ้มหวาน เอามือวางที่อกของเขาแผ่วเบา

     

    คำตอบกับรอยยิ้มนั้น เล่นเอาโจยืนตัวแข็งทื่อ เขาสบตากับเธอประมาณว่าพูดจริงหรือเปล่า แต่เธอกลับก็ระเบิดหัวเราะออกมา

     

    ฉันล้อเล่นน่ะ เราลงไปทานอาหารเช้ากันเถอะ เอเรียลอมยิ้มที่ได้แกล้งเขากลับ ก่อนเดินออกไป

     

    ล้อเล่นเหรอ?” โจบ่นเบา ๆ กับตัวเอง ยกมือลูบหน้าอกไปมาตรงที่เธอพึ่งสัมผัส จังหวะการเต้นของหัวใจรุนแรงมาขึ้น  แต่เธอเพียงบอกว่าล้อเล่น เขาส่ายหน้าไปมา ก่อนเดินตามออกไป

     

    ...........................................

     

    ณ ตึกสำนักงานของตระกูลวู เป็นตึกแฝดสูงตระหง่านอยู่ในย่านธุรกิจของไทเป ตึกแรกเป็นกลุ่มธุรกิจด้านการเงินและการลงทุน ถัดไปเป็นตึกในกลุ่มธุรกิจด้านออกแบบก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งยังเป็นออฟฟิสให้เช่า อีกด้วย ชั้นล่าง ๆ ของตัวอาคารจะเชื่ยมติดกัน ใช้เป็นที่จอดรถและทางเข้าออกของทั้งสองตึก

     

    โจและเอเรียลเดินเข้าไปที่ชั้นล่างของตึก แล้วแยกกันเข้าลิฟท์คนละฝั่ง เพื่อไปยังชั้นที่พวกเขาต้องไปรายงานตัวสำหรับฝึกงาน

     

    เอเรียลกดลิฟท์ไปชั้นสิบเก้า แล้วล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพาย เมื่อได้ยินเสียงข้อความเข้า มันเป็นข้อความจากเรนนี่ แจ้งว่าได้รออยู่ที่แผนกบริหารการเงินพร้อมกับเอลล่าแล้ว  เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก เธอรีบร้อนใส่โทรศัพท์ลงกระเป๋าสะพายพร้อมเดินออกจากลิฟท์ เลยไม่ทันมองว่ามีคนเดินสวนเข้ามา จึงชนกันกระเป๋าสะพายของเธอและมีซองเอกสารตกลงที่พื้น เธอรีบก้มลงกระเป๋าสะพายขึ้น และยื่นซองเอกสารส่งคืนให้เจ้าของในทันที

     

    ขอโทษนะคะ ฉันไม่ทันระวังจริง ๆ เอเรียลโค้ง ก่อนเงยหน้าขึ้นมอง และพึ่งสังเกตว่าคนตรงหน้าเป็นผู้ชาย หน้าตา ท่าทางของเขาดูดีราวกับดารา

     

    ผู้ชายคนนั้นรับซองเอกสารคืนไป และหยุดยืนมองเธอนิ่ง  “ไม่..ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ผิดเหมือนกัน คุณไม่ได้เจ็บตรงไหนใช่ไหมครับ” เขามองดูและยิ้มให้เธอ

     

    ไม่ค่ะ ฉันไม่เป็นไร ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ เอเรียลยิ้ม โค้งให้เขาอีกครั้ง ก่อนรีบเดินออกจากลิฟท์ไป

     

    เอ่อ...คุณครับ เขาชะโงกออกจากลิฟท์พยายามจะเรียก แต่ไม่ทันเพราะเธอเดินหายไปเสียแล้ว

     

    เขามองกระเป๋าสตางค์ในมือที่เพิ่งเก็บขึ้นจากพื้น ที่มันคงหล่นในช่วงที่เธอกำลังรีบร้อน ความจริงเขาอยากจะวิ่งตามเอาไปคืนให้ แต่ตอนนี้เขากำลังรีบเกินไปที่จะทำแบบนั้น เขากดลิฟท์ไปชั้นบน และเปิดกระเป๋าหยิบบัตรขึ้นมาดู “เอเรียล หลิน” เขาเงยหน้าขึ้นด้วยรอยยิ้ม เมื่อนึกถึงที่เธอยิ้มให้เมื่อสักครู่ รู้สึกประทับใจในรอยยิ้มสดใสน่ารักนั้น   

     

    ไม่รู้เธอมาทำอะไรที่นี่นะ ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย  แต่ยังไงผมคงได้พบคุณอีกแน่ ด้วยสิ่งนี้ เขาพูดกับตัวเองมองดูบัตรและกระเป๋าสตางค์ของเธอ เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก เขาก็รีบเดินออกจากลิฟท์ไปทันที

     

    เอเรียล เอลล่า และเรนนี่ เข้าไปรายงานตัวเพื่อฝึกงาน พวกเธอพบกับหัวหน้าแผนกบริหารการเงิน ซึ่งเป็นชายวัยสี่สิบกว่าชื่อ โทนี่ และผู้ช่วยของเขา เป็นหญิงวัยสามสิบกว่าชื่อ มาเรีย  ทั้งสองเป็นผู้ใหญ่ที่ท่าทางใจดี  มาเรียพาพวกเธอไปที่โต๊ะทำงานที่จัดไว้โซนหน้าห้องของผู้จัดการ ซึ่งมีโต๊ะและอุปกรณ์ในการทำงานอยู่สี่ชุด แยกออกต่างหากจากพนักงานของบริษัทที่อยู่อีกฟากหนึ่งของแผนก ส่วนโต๊ะทำงานของมาเรียที่เป็นผู้ช่วยฯ ตั้งอยู่หน้าห้องผู้จัดการ หันหน้าเข้าหาโต๊ะทำงานของพวกเธอพอดี เว้นระยะห่างกว้าง ไว้สำหรับทางเดินและเครื่องใช้สำนักงาน

     

    เอลล่าและเรนนี่ เลือกที่นั่งสองโต๊ะหน้า ส่วนเอเรียลนั่งอยู่หลังเรนนี่ เพราะโต๊ะด้านหลังเอลล่า  มีของจัดวางอยู่เป็นระเบียบ แสดงว่าเป็นที่นั่งของคนอื่นอยู่แล้ว พวกเธอเลยไม่กล้าเข้าไปนั่ง

     

    ช่วงเที่ยง ทั้งสามคนนั่งทานอาหารอยู่ในร้านที่อยู่ชั้นสองของตึก เมื่อทานเสร็จเอเรียลเปิดกระเป๋าถือ ควานหาของที่อยู่ด้านในไปมาอยู่หลายครั้ง

     

    “เป็นอะไรเอเรียล ทำไมหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนั้น” เรนนี่ถาม เพราะเห็นเอเรียลเหมือนหาอะไรในกระเป๋าถือไม่เจอ

     

    “ก็กระเป๋าสตางค์น่ะ ไม่รู้หายไปไหน” เอเรียลถอดใจวางกระเป๋าลง

     

    “ลืมไว้ที่บ้านหรือเปล่า เดี๋ยวฉันจ่ายให้ก็ได้ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า” เอลล่าหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาหยิบแบงก์ด้านใน

     

    “ขอบใจนะ แต่ฉันไม่ได้ลืม เมื่อเช้าฉันยังหยิบมันออกมาเลย แต่ก็ไม่รู้ไปตกที่ไหนหรือเปล่า เงินในนั้นไม่ได้เยอะหรอกนะ พวกบัตรต่าง ๆ ในนั้นซิ หายไปต้องแย่แน่เลย”

     

    “ลองนึกดูดี ๆ ซิว่าไปทำตกที่ไหน” เอลล่าบอก หันไปจ่ายเงินกับพนักงานร้าน

     

    เอเรียลนั่งนึก “เอ๊ะ ในลิฟท์ สงสัยตอนที่ชนกับผู้ชายคนนั้นแน่ ๆ เลย เขาจะเก็บไปหรือเปล่านะ แต่ก็น่าจะมาคืนฉันนี่นา หรือว่าคนอื่นจะเก็บไป”

     

    “หรือเขาเก็บไป แล้วเอาไปใช้เอง ก็เลยทิ้งกระเป๋าไปแล้ว” เรนนี่สมมติ

     

    “คงไม่นะ ท่าทางเขาก็ดูดี หน้าตาก็ดี แต่งตัวก็ดี จะเอาไปทำไมกับเงินเท่านั้น”

     

    “ก็ไม่แน่หรอกนะ คนเดี๋ยวนี้วัดกันด้วยสายตาไม่ได้หรอก เป็นขโมยขโจรก็ถมไป” เอลล่าพูดตามสมมติฐานของตัวเอง

     

    “เฮ้อ...แล้วฉันต้องทำยังไงดีล่ะ แย่จัง”

     

    “ช่วงบ่ายเธอก็ลองขอคุณโทนี่ ไปแจ้งความก่อนซิ ถึงไม่ได้คืนแต่ก็ต้องทำบัตรพวกนั้นใหม่อยู่ดี” เรนนี่ออกความเห็น

     

    “แต่วันนี้เพิ่งมาวันแรกเองนะ ฉันไม่กล้าหรอก ไว้พรุ่งนี้เช้าฉันค่อยไปกันทำงานแล้วกัน เฮ้อ..ทำไมฉันถึงสะเพร้าอย่างนี้นะ”

     

    เอเรียลกลับเข้าไปทำงานด้วยอารมย์เซ็ง ๆ เมื่อคิดว่าอาจจะต้องเบียดบังเวลาทำงานได้  ซึ่งมันไม่ดีกับผลการฝึกงานของตัวเองเท่าไรนัก  หลังเลิกงาน เรนนี่และเอลล่าต้องรีบกลับไปทำธุระที่บ้านก่อน เอเรียลเห็นว่าโจจะกลับช้า จึงอาสาช่วยงานมาเรียต่อ เพื่อเป็นการคร่าเวลา กว่าหนึ่งทุ่ม เอเรียลเดินออกจากออฟฟิศ ไปหยุดรออยู่หน้าลิฟท์ เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก เธอรอให้คนที่อยู่ด้านในได้เดินออกมาก่อน

     

    “คุณครับ” ผู้ชายที่เดินออกจากลิฟท์เรียก เมื่อเดินสวนออกมาและสามารถจำเธอได้ในทันที

     

    “คุณคนเมื่อเช้า”

     

    “คุณเอเรียลหลิน ใช่ไหมครับ” เขาถามอย่างสุภาพ

     

    “คะ..ค่ะ คุณรู้ชื่อฉันด้วยเหรอคะ” เอเรียลเลิกคิ้ว รู้สึก งงๆ

     

    “ขอโทษนะครับ ที่ถือวิสาสะเปิดดูกระเป๋าสตางค์ของคุณ พอดีเมื่อเช้าผมเก็บได้จะตามไปให้  ก็รีบจนไม่มีเวลาน่ะครับ”

     

    เอเรียลยิ้มเมื่อได้ยินอย่างนั้น “แสดงว่าอยู่กับคุณหรือคะ โชคดีจังที่อยู่กับคุณ คิดว่าคนอื่นเก็บไปแล้วซะอีก แล้วยังบังเอิญเจอกันอีกด้วย”

     

    “ครับ ดีใจที่ได้เจอคุณอีก แต่ว่าตอนนี้ ผมไม่เอาติดตัวมาด้วย เอาไงดี อืม... คุณเป็นพนักงานที่นี่เหรอครับ”

     

    “อ๋อ ไม่ใช่หรอกค่ะ”

     

    “แล้วผมจะเอามาคืนคุณได้ยังไงดี คุณจะมาที่นี่อีกไหมครับ” เขาจ้องมองเพื่อรอคำตอบจากเธอ

     

    เอเรียลลังเลที่จะบอกว่าตัวเองเป็นนักศึกษามาฝึกงานที่นี่ เพราะยังไงเขาก็ถือว่าเป็นคนแปลกหน้า จึงไม่กล้าจะบอกความจริง

     

    “แล้วคุณทำงานที่นี่เหรอคะ”

     

    “ครับ ผมอยู่ที่ตึกนี้แหละครับ”

     

    “ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้ฉันมารับกับคุณที่นี่ จะสะดวกไหมคะ”

     

    “ได้สิครับ อืม...แล้วจะนัดกันยังไงดีล่ะครับ”

     

    “พรุ่งนี้คุณสะดวกเวลาไหนล่ะคะ จะได้นัดว่าจะเจอกันตรงไหนดี”

     

    “อืม...พรุ่งนี้ผมมีนัดกับลูกค้าจน...ไม่แน่ใจว่ากี่โมง ถ้าคุณจะสะดวก ผมขอเบอร์ติดต่อคุณได้ไหมครับ จะได้โทรนัดกันอีกที”

     

    เอเรียลมองเขาแล้วไม่รู้จะตัดสินใจยังไง แต่ถ้าไม่ให้ก็ไม่ได้กระเป๋าคืน และก็นัดกันไม่ถูกด้วย เธอจึงหยิบกระดาษโน๊ตกับปากกาในกระเป๋าถือขึ้นมาเขียน แล้วยื่นให้ เขามองหมายเลขในกระดาษ เงยหน้าขึ้นยิ้มให้เธอ

     

    “พรุ่งนี้ค่อยเจอกันอีกทีนะคะ ตอนนี้เพื่อนของฉันคงรอด้านล่างนานแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ” เอเรียลยิ้ม

     

    “ครับ”

     

    เขายืนมองเธอเข้าลิฟท์จนปิดประตูไป จากนั้นก็ล้วงบางสิ่งออกจากกระเป๋ากางเกงด้านหลัง มันเป็นกระเป๋าสตางค์ของเธอ ที่เขาเก็บติดตัวไว้ตลอดเพื่อจะคืนให้ แต่เมื่อบังเอิญเจอกันอีกครั้งเขาก็เปลี่ยนใจไม่อยากคืนให้ง่าย ๆ เขากลัวว่าถ้าคืนไปแล้ว อาจจะไม่ได้พบเธออีก เพราะดูแล้ว เธอต่างจากผู้หญิงทั่วไปที่เคยเจอ เธอไม่มีท่าทีว่าสนใจเขาเป็นพิเศษเหมือนผู้หญิงเหล่านั้น ที่พอเจอเขาก็แทบจะให้เบอร์ได้ง่าย ๆ โดยไม่ลังเลตั้งแต่เจอกันครั้งแรก แต่เธอกลับเดินจากเขาไปง่าย ๆ เมื่อตอนเช้าโดยไม่หันมามองอีกเลย  ถึงจะเป็นการโกหกแต่อย่างน้อยตอนนี้ เขาก็มีเบอร์โทรของเธอ และสามารถได้เจอเธออีกครั้ง อย่างที่หวังไว้

     

    “ผมคงไม่ได้ทำเกินไปหรอกนะ เอเรียลหลิน” เขายิ้ม

     

    ........................................................................................

     วันถัดมาตอนบ่ายสี่โมง เอเรียลได้รับโทรศัพท์นัดให้ไปเจอที่ชั้นสาม ตรงประตูก่อนถึงลานจอดรถในอีกครึ่งชั่วโมง  เธอลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะของเรนนี่แล้วกระซิบ

     

    “เดี๋ยวฉันลงไปข้างล่างแป๊บหนึ่งนะ บอกว่าฉันไปห้องน้ำก็แล้วกัน ถ้าใครถาม”

     

    “เอเรียล จะให้ฉันไปเป็นเพื่อนมั๊ย ฟังจากเธอเล่านะ ฉันว่ามันแปลกอยู่นะ” เรนนี่รู้สึกเป็นห่วงเพื่อน

     

    เอลล่าที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ ๆ จึงหันมามองเพื่อนทั้งสองคน “มีอะไรกันเหรอ”

     

    “ก็ผู้ชายที่เก็บกระเป๋าสตางค์ได้ เขาโทรมาแล้วน่ะสิ ฉันกลัวว่าจะเกิดเรื่อง เลยไม่อยากให้เอเรียลไปคนเดียว” เรนนี่ตอบ

     

    “เขานัดที่ไหนเหรอ เอเรียล” เอลล่าลุกขึ้นเดินมาสมทบด้วย

     

    “ประตูก่อนออกไปลานจอดรถชั้นสาม”

     

    “ถ้าอย่างนั้นเธอไม่ควรไปคนเดียวนะ เอเรียล มันอันตรายเกินไป อีกอย่างเขาน่าจะคืนให้เธอตั้งแต่เมื่อวาน แต่เหมือนอยากได้เบอร์เธอซะงั้น แล้วมานัดตรงลานจอดรถ โอย..ไม่อยากจะคิด ฉันไปเป็นเพื่อนเธอดีกว่า” เอลล่ารีบขันอาสา

     

    “ไม่มีอะไรมั๊ง คนในตึกก็เยอะแยะ ฉันไปคนเดียวดีกว่า ตอนนี้มันเวลางาน ถ้าพวกเธอหายไปด้วยมันจะดูไม่ดี ฉันไปไม่นานหรอก แล้วจะรีบกลับมา”

     

    เอเรียลพูดแล้วรีบเดินออกไปโดยไม่ฟังเพื่อนทั้งสองอีก  เมื่อลงมาถึงชั้นสาม เธอเดินไปทางประตู ทางออกของที่จอดรถ เห็นว่าเขายืนอยู่แถวนั้นคนเดียวและถือกระเป๋าสตางค์ของเธอไว้ในมือ เอเรียลยืนมองอยู่ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา

     

    “สวัสดีค่ะ คุณมารอนานแล้วเหรอคะ” เอเรียลยิ้มให้เมื่อเขาหันมา

     

    “สวัสดีครับ คุณเอเรียลหลิน ผมเพิ่งลงมาเหมือนกันน่ะครับ”

     

    “ค่ะ แล้ว...” เอเรียลมองไปที่กระเป๋าสตางค์ในมือของเขา  เขาจึงรู้ได้ทันทีว่าเธอหมายถึงอะไร

     

    “อ๋อครับ นี่ครับกระเป๋าสตางค์ของคุณ” เขาเห็นเธอรับไปถือเอาไว้ “ไม่เปิดดูหน่อยเหรอครับ ว่าอยู่ครบหรือเปล่า” เขาแกล้งแซว

     

    “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันเชื่อใจคุณ ไม่งั้นคุณคงไม่เอามาคืนหรอก” เอเรียลยิ้ม เมื่อคิดว่า ผู้ชายตรงหน้านี้คงรู้ว่า เธอเคยระแวงเขาในก่อนหน้านี้

     

    “แล้วคุณจะไปไหนต่อเหรอครับ ผมกำลังจะไปทำธุระข้างนอก ให้ผมไปส่งไหม”

     

    “อะ..อ๋อ ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันยังมีธุระแถวนี้ต่อ คุณไปทำธุระต่อเถอะค่ะ ฉันกำลังจะเข้าไปข้างในต่อ” เอเรียลยังยืนรอส่งเขาตามมารยาท เพราะดู ๆ แล้ว เขาก็ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร อีกอย่าง มีคนกำลังเดินมาทางที่เธอยืนอยู่ด้วย

     

    “เอ่อ...แล้วจะได้เจอกันอีกไหมครับ” ท่าทางเขาเหมือนลังเลที่จะถาม

     

    แต่ก่อนที่เอเรียลจะได้ตอบคนที่กำลังเดินมาก็ร้องทักเขา

     

    “จุน เตรียมตัวพร้อมหรือยัง” ชายอายุประมาณห้าสิบท่าทางภูมิฐาน เดินนำผู้ชายใส่สูทสีดำอีกสองคน ที่หิ้วกระเป๋าเอกสารตามมา

     

    “ครับ” เขาตอบกับชายสูงอายุคนนั้น แล้วหันมามองเธอ

     

    “นี่ใคร แฟนเหรอ” ชายสูงอายุคนนั้นถาม มองเอเรียลอย่างพิจารณา

     

    “ไม่ใช่ครับ” เขามองเอเรียลแล้วนึกว่าจะตอบยังไง “เราพึ่งรู้จักกัน น่าจะเป็นเพื่อน” เขายิ้ม

     

    “เหรอ งั้นจะคุยกันก็รีบหน่อยนะ เดี๋ยวไม่ทันเครื่อง  รีบขับตามไปล่ะ”

     

    ชายสูงอายุคนนั้นยิ้มให้เอเรียลนิดหนึ่ง แล้วเดินออกไปลานจอดรถกับชายใส่สูทดำสองคนนั้น เอเรียลหันกลับมามองเขาอีกครั้ง และพบว่าเขากำลังยืนมองเธออยู่

     

    “ผมชื่อ อู๋จุน นะ แล้วหวังว่าจะได้เจอคุณอีก”

     

    เขายิ้มให้เธอ แล้วเดินออกไป เอเรียลได้แต่ยืนมองตามเขาไป รู้สึกแปลก ๆ กับคำพูดและท่าทางของเขา แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าลงมานานแล้ว ก็เลยวิ่งกลับไปทางลิฟท์เพื่อขึ้นไปทำงานต่อ

     

    ...........................................................................

    ไรเตอร์ :  ต้องขอโทษเพื่อน ๆ ที่ยังตามอ่านอยู่นะคะที่หายไปนาน  แต่เกิดความผิดพลาดกับข้อมูลที่จะเอามาลงอยู่หลายครั้ง
    ครั้งแรกแต่งใกล้จบแล้ว กะว่าจะทยอยลง แต่ตัวเก็บข้อมูลก็เจ๊ง  ก็มาเริ่มใหม่อีก ที่นี้กลายเป็นโน๊ตบุ๊คที่เจ๊ง ไปกู้ข้อมูลไม่ได้อีก
     ได้ตัวใหม่มาก็จริง แต่ท้อค่ะ ก็เลยหยุดไปนาน  ตอนนี้กะว่าจะเริ่มอีกครั้งหลังจากเข้ามาดูแล้วเห็นว่ายังมีเพื่อน ๆ ตามอ่านอยู่
    และตั้งใจจะเขียนเรื่องใหม่ไปพร้อมกันด้วย   เหตุเพราะผิดหวังกับละครเรื่องหนึ่งที่เอเรียลไม่ได้เล่นทั้งที่เคยโปรโมทไปแล้ว
    และนักแสดงชายก็ถูกกำหนดรอแต่เวลาถ่ายทำ แต่เอาเข้าจริงเอเรียลยังติดงานหนังอยู่ เค้าก็เลยไม่รอเอาคนอื่นมาเป็นนางเอก
    แทนไป  หวังจะได้ดูฝีมือการแสดงของเอเรียลเรื่องนี้มาก เป็นแฟนการ์ตูนเรื่องที่เอามาทำด้วย เลยกะจะเอามาลงในแบบนิยายซะ หวังว่าเพื่อน ๆ จะติดตามอ่านบ้างนะ แต่ขอโทษที่ไม่ใช่โจเป็นพระเอก  เพราะอยากจะเป็นบ้าง มันก็แค่เรื่องแต่งอย่าถือกันเลยนะ  และยังเชียร์ โจ-เอเรียลเหมือนด้วย

    ขอบคุณคร้าบ................ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×