คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : รัตติกาลที่ 2 : ห้องซ่อม . . . .
รัตติกาลที่ 2 : ห้องซ่อม . . . .
“ คุณหวังครับ “
“ คะ . . . ครับ “ หวังกระพริบตาถี่ พยายามดึงสติตัวเองกลับมา
“ วันนี้มีอะไรให้ผมช่วย กรุณาบอกผมมาเถอะครับ “
“ คือว่า คือ เอ่อ . . . ผม “
เถ้าแก่เงี่ยหูฟัง พอสังเกตเห็นหวังเงียบไปอีก เขาส่ายหน้าแล้วจึงตัดสินใจพูดต่อ “ ทุกคนที่เดินทางมาที่นี่ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีปัญหา ทุกคนล้วนต้องการที่พึ่งและกำลังใจ ต่างคนต่างวาระ แต่ละคนย่อมมีเรื่องที่ไม่อาจแก้ไขเองได้ ผมมีหน้าที่คอยรับฟังให้คำปรึกษา และรับอาสาเป็นธุระจัดการให้โดยไม่มีผิดพลาด ครั้งก่อนคุณก็รู้นี่ครับ . . . คุณหวัง แต่หากคุณยังนั่งเงียบอยู่อย่างนี้ ผมก็คงไม่อาจล่วงรู้ความคิดคุณและคงช่วยอะไรคุณไม่ได้เลย . . . . เชื่อใจผมสิครับ “ เถ้าแก่ตัดบทอย่างเบื่อระอา เวลาแต่ละวินาทีของเขามีค่า หากปล่อยทิ้งไว้แบบนี้คงไม่ได้การเป็นแน่
หวังพยักหน้ารับเล็กน้อย
“ ถะ . . . เถ้าแก่ แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกันนะครับ “ เขาพูดตะกุกตะกักด้วยความร้อนรน
“ ที่ว่าไม่เหมือนกัน มันคืออะไรครับ คุณต้องการจะให้ผมช่วยอะไรล่ะ คุณจะเอาอะไรมาให้ผมซ่อม ลองบอกมาสิครับ เผื่อผมจะมีหนทางช่วยคุณได้ “ เถ้าแก่จ้องหน้าเขาแบบจริงจัง สายตาอ่อนโยนเมื่อครู่เริ่มเปลี่ยนไป
ยิ่งได้เห็นแววตาแบบนั้น อาการประหม่าของหวังก็ยิ่งมีมากขึ้น ความเข้มข้นของมันรุนแรงจนคนรอบกายรู้สึกได้
“ ผมยะ . . . อยากให้เถ้าแก่ ชะ. . . ช่วยซ่อม ละ. . . ลูกชาย พะ. . . ผมให้ที “
“ อะไรนะ . . . เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ !!!? ” เถ้าแก่ร้องเสียงหลงด้วยความตกใจอย่างลืมตัว เขาทะลึ่งพรวดลุกขึ้นยืนจ้องสีหน้าของแขกคืนนี้อย่างชั่งใจเหมือนไม่แน่ใจในหูตัวเองนัก
“ มะ ไม่ได้หรือครับ พะ. . . ผมคิดอยู่แล้ว พะ. . . ผมมันบ้าไปเอง “ หวังกล่าวโทษตัวเอง
หลังจากนั้นทุกอย่างกลับสู่ความเงียบอีกครั้ง ไม่มีเสียงพูดจา สงบจนดูน่ากลัว หวังก้มหัวลงพยายามเหลือบสายตามองหน้าของคนที่ยืนจ้องเขาอยู่ ดูเหมือนคราวนี้กลายเป็นเถ้าแก่ที่ต้องใช้ความคิดอย่างหนักแทน
“ คุณหวัง . . . คุณกำลังจะพูดว่า คุณต้องการขอให้ผมช่วยซ่อมวิญญาณของลูกชายคุณใช่ไหม “ เถ้าแก่พูดจบถอนหายใจยาว หันศีรษะกลับมาจ้องเขม็งไปยังใบหน้าเขาเหมือนตำรวจที่กำลังเค้นคำตอบจากผู้ต้องหา แววตาของเถ้าแก่แน่วแน่เหมือนพยายามมองทะลุเพื่อหาความจริงที่เก็บซ่อนไว้ในใจจนหวังต้องหลบสายตา
“ ชะ. . . ใช่ ละ. . . ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของผม อายุเขาได้แค่ห้าปีเท่านั้น เขากำลังน่ารัก เมียผมเธอรับไม่ได้ พะ . . . ผมเองก็ทะ. . .ทนไม่ได้เหมือนกันที่จะเสียเขาไป เขาคือทุกอย่างในชีวิตผม แต่ . . . แต่ถึงยังไงคุณคงแก้ไขอะไรไม่ได้ใช่ไหม ในเมื่อเขาตะ . . . ตายไปแล้ว ผมน่าจะรู้เรื่องนี้ดีที่สุด ผมมันโง่เอง ขอโทษด้วยที่มารบกวนให้คุณช่วยอะไรที่มันดูไร้สาระ พะ . . . ผมกลับก่อนดีกว่า . . . “ หวังพูดพลางดึงแว่นสีชาที่สวมอยู่เพียงอันเดียวออก ยกมืออีกข้างขึ้นปิดหน้า น้ำตาไหลรินเป็นสาย มันพรั่งพรูออกมาราวกับเขื่อนแตก คงเก็บความรู้สึกไว้ในใจมานานจนเกิดเป็นระเบิดลูกใหญ่ หวังแพ้ความอ่อนแอของตัวเองจนระงับไว้ไม่ได้ เขาพยายามจะขยับตัวลุกหนีจากเก้าอี้โซฟาที่นั่งอยู่
“ เดี๋ยวก่อนครับ อย่าเพิ่งไป เชิญนั่งลงก่อน “ เถ้าแก่ยกมือปราม สีหน้ายังคงครุ่นคิด คำพูดของเถ้าแก่ทำให้หวังรู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย
“ คุณหวัง คุณมั่นใจหรือครับ ความจริงแล้ว . . . ” เถ้าแก่หยุดพูด เขาปล่อยตัวเองให้ไหลลงบนเก้าอี้จนอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน เถ้าแก่เกาหัวแกรกๆ ผมที่เคยเรียบแปล้ค่อยๆกลายเป็นรังนกจนยุ่งเหยิงไปหมดทั้งหัว หมดเค้าเดิมที่เคยดูดีไปอย่างถนัดตา “ คือ . . . ความจริงแล้วคุณก็รู้ว่าผมรับซ่อมแซมทุกอย่าง ก่อนหน้าที่คุณจะตกลงอะไรก็ตาม . . . ผมขอย้อนถามคุณสักเรื่องหนึ่งก่อนได้ไหม “ หวังพยักหน้าลง ดูเขามีความหวังขึ้นแต่ยังคงซ่อนความกังวลไว้ในใจ เขายกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง เปลี่ยนท่าทีพร้อมจะฟังเถ้าแก่พูดต่อ
“ คุณหวังครับ อาจจะดูเหมือนผมอายุไม่มาก แต่ความจริงแล้วผมผ่านอะไรมามากมายเกินกว่าที่คุณคิดไว้ ผมอยากให้คุณรู้ว่าไม่ได้มีเพียงแต่คุณที่เข้ามาขอให้ผมช่วยซ่อมวิญญาณให้ “
“ แสดงว่านอกจากผมแล้วยังมีคนอื่ . . . ”
เถ้าแก่ยกมือปรามอีกครั้ง “ ใช่ . . . สำเร็จด้วยครับ แต่ฟังผมพูดให้จบก่อนนะ แล้วคุณค่อยถามหรือตัดสินใจอีกที คืออย่างนี้ . . . คุณหวังเคยซ่อมอะไรที่พังไปแล้วบ้างไหมครับ “ เถ้าแก่รอดูปฏิกิริยาเห็นเขาพยักหน้าจึงพูดต่อ “ แล้วของที่ซ่อมแซมไปก็กลับมาใช้ได้อีกครั้งหนึ่งใช่ไหม ผมอยากให้คุณเข้าใจอะไรบางอย่างก่อน ว่าถึงจะแก้ไขให้ดียังไงมันก็เป็นของที่ถูกซ่อมแซมใหม่อยู่ดี คุณหวังครับ . . . ของที่พังไปแล้ว ถึงซ่อมให้ตายก็ไม่มีวันเหมือนเดิมหรอกนะครับ ในชีวิตนี้คุณอาจจะเคยซ่อมโต๊ะหรือเก้าอี้ที่คุณรักหรือหวงแหนมาบ้าง หากขาของมันหักไปสักข้าง คุณจะทำยังไงให้มันกลับมาใช้งานได้อีกครั้งล่ะครับ คุณอาจกำลังเถียงผมอยู่ในใจว่าจะยากตรงไหน ก็แค่ออกไปหาไม้สักท่อนที่ดูเหมาะๆมาเปลี่ยนเสีย ตอกตะปูเข้าไปใหม่ หรืออาจหาเชือกมาผูกยึดติดมันไว้ให้แน่นก็ใช้ได้แล้ว แล้วยังไงครับ . . . ทุกอย่างยังเหมือนเดิมหรือเปล่า คุณเคยคิดบ้างไหมว่ามันจะกลับมาใช้งานได้อีกนานเท่าไหร่ เพราะความจริงสภาพของมันคือของเสีย เป็นของที่เคยชำรุดมาแล้วครั้งหนึ่ง การคงอยู่ของมันหายไปนับจากวันที่มันพังลง เมื่อซ่อมแซมแล้ว . . . มันจึงเป็นแค่สิ่งที่ใช้งานได้เพียงชั่วคราวเท่านั้นเช่นเดียวกันครับ หากวิญญาณของลูกชายคุณได้สูญเสียไปแล้ว การคงอยู่ก็จะไม่มีอีก และเมื่อมีการซ่อมแซมก็ไม่ได้หมายความว่าเขายังมีชีวิตอยู่กับคุณ “ เถ้าแก่จ้องหน้าหวังแล้วพูดต่อ “ อธิบายง่ายๆใหม่ดีกว่า ลูกชายคุณจะยังมีชีวิตอยู่เฉกเช่นเดียวกับโต๊ะหรือเก้าอี้ที่ซ่อมแซมใหม่ วิญญาณของเขาจะถูกเปลี่ยน คุณจะได้ลูกชายคนเดียวกลับไป แต่ผมตอบไม่ได้ว่าเขาจะอยู่กับคุณไปได้นานเท่าไหร่ เข้าใจไหมครับ ? “
หวังพยักหน้าเหมือนคนเข้าใจ เขาตั้งใจฟังสิ่งที่เถ้าแก่จะพูดต่อ สีหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความเหนื่อยล้าและความเครียดเมื่อครู่เริ่มเลือนหายไปจากใบหน้ากลายเป็นรอยยิ้มเล็กๆ ม่านตาขยายขึ้น ดวงตาเบิกโตอย่างไม่ตั้งใจ
“ แต่ก็อีกนั่นแหละ ในกรณีนี้มันค่อนข้างยากเอาการทีเดียวครับ กับการแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างเป็นค่าซ่อมแซมวิญญาณของลูกชายคุณ . . . และนี่เป็นเงื่อนไขของร้านเราครับ . . . . การแลกเปลี่ยนสิ่งที่คุณคิดว่าเท่าเทียมกัน ”
หวังยกมือขึ้นกุมขมับ เขาต้องปรับจูนสมองใหม่และใช้ความคิดอย่างหนักอีกครั้ง เพราะรู้ดีว่าการซ่อมแซมครั้งนี้ต้องแลกเปลี่ยนกับอะไรบางอย่างที่มันมีค่าพอ เมื่อ 2 ปีก่อนในคืน 15 ค่ำเป็นครั้งแรกที่เขาก้าวมาที่นี่ ตอนนั้นเขาเดินทางมาเพื่อจะซ่อมแซมร่างกายตัวเอง ร่างกายที่มีแต่โรคร้ายรวมอยู่เต็มไปหมด หวังผ่านโรงพยาบาลมาอย่างนับไม่ถ้วน เข้าออกที่นั่นที่นี่เป็นว่าเล่น เรียกได้ว่าโชกโชนในการไปหาหมออยู่ทีเดียว หวังไปรักษาตัวหลายที่ตามคำแนะนำของเพื่อนๆและคนรู้จัก สุดท้ายทุกคนก็ออกความเห็นไม่ต่างกัน บอกให้เขาพยายามทำใจและใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบ เขาเคยคิดที่จะฆ่าตัวตายให้พ้นจากความทรมาน เพราะต่อให้มีทรัพย์สมบัติมหาศาลก็ไม่สามารถฉุดเขาออกมาจากนรกนี้ได้ หากเขาตายไปลูกเมียก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่อย่างสบายจากมรดกที่เขาเหลือทิ้งไว้ แม้ใช้ทั้งชีวิตก็ไม่มีวันหมดสิ้น ก่อนหน้าที่เขาตัดสินใจจะปลิดชีวิตตัวเองพลันมีผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านมาบอกเขาเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ . . . “ ร้านรับซ่อมในคืน 15 ค่ำ “ ร้านที่รับซ่อมแซมทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิต สถานที่นั้นไม่แน่นอน หากแต่บุคคลใดที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าแล้ว ร้านนี้จะมาปรากฏอยู่เบื้องหน้าให้เห็นเอง เรื่องนี้ใครได้ฟังก็คงไม่เชื่อ คงมีแต่คนคิดว่าเป็นนิยายเป็นเรื่องโกหกที่แต่งขึ้นมาเพื่อใช้แกล้งหลอกกันเท่านั้น น่าแปลกเหลือเกิน . . . ที่เขาอยากลองเสี่ยงดวงดูสักครั้ง ไม่ว่ายังไง . . . ไฟชีวิตของเขาก็แทบไม่เหลืออยู่แล้ว ไม่เห็นต้องคิดอะไรให้มันมากมาย มีแต่ได้กับเสมอตัว ไม่ได้เสียหายอะไร แค่ลองไปดู ถ้าไม่สำเร็จก็แค่กลับมานั่งคิดเรื่องตายใหม่เท่านั้นเอง . . . .
15 ค่ำถัดมาความปรารถนาของเขาก็เป็นจริง ทุกสิ่งดูเหมือนวันนี้ ขณะที่เคลิ้มหลับไปเกือบยามสอง เหมือนมีเสียงเชื้อเชิญปลุกให้เขาต้องลุกขึ้นปลีกตัวจากที่นอนอันนุ่มสบายเดินออกมาสู่หนทางที่เงียบสงัด สายลมคล้ายจะเป็นใจ อากาศแลดูพลิ้วไหว ใบไม้แกว่งไกวเป็นทางคล้ายสัญญาณให้เดินตามไป เขาออกจากบ้านพร้อมกับความหวังริบหรี่ ค่ำคืนมืดมิดมีเพียงเงาของแสงจันทร์ฉายส่องนำทาง เดินอยู่ได้ไม่นานประตูร้านหรือคฤหาสน์นี้ก็ตั้งอยู่ตรงหน้า ตอนที่มาถึงครั้งแรกขาเขาสั่นเล็กน้อย เอาน่า . . . ลองดูสักครั้งจะเป็นไรไป ในเมื่อเขาก็ไม่เหลือวิธีไหนอีกแล้วนี่ เขาคิดพลางเคาะประตูบานใหญ่นั้น สักพักเถ้าแก่ก็ออกมาเปิดประตูให้และนำพาเขาเข้ามาสู่ห้องซ่อมแห่งนี้ ตอนนั้นเขายังจำได้ลางๆว่าเถ้าแก่ซ่อมชีวิตให้เขาใหม่โดยไม่มีโรคร้ายอีก แต่เขาลืมไปเสียแล้วว่าต้องแลกเปลี่ยนหรือสูญเสียอะไรไป รู้เพียงแต่ว่าสิ่งนั้นมันยิ่งใหญ่เหลือเกิน
“ คุณต้องการจะนำอะไรมาแลกกับค่าซ่อมครั้งนี้หรือครับ คุณหวัง ? “ เถ้าแก่ถามย้ำอีกครั้ง
“ เถ้าแก่ . . . คุณต้องการเงินสักเท่าไหร่ ? “
“ คุณหวัง . . . คราวก่อนคุณคงจำไม่ได้ว่าคุณเคยเสนอผมอย่างนี้มาแล้ว และผมบอกปฏิเสธไปเนื่องจากทางร้านไม่ได้มีความต้องการเงินของลูกค้าเลย หากแต่มันต้องเป็นสิ่งที่เท่าเทียมกับค่าซ่อมของเขาเท่านั้น ที่คุณจำไม่ได้ไม่แปลกหรอก ใช่ . . . ใช่ . . . เพราะเมื่อใดก็ตามที่ลูกค้าสำเร็จความปรารถนาและเดินออกจากร้านนี้ไป ทุกคนจะตื่นขึ้นมาในอีกรุ่งอรุณของวันใหม่ พวกเขาจะพบว่าตัวเองอยู่ที่บ้าน ทุกอย่างจะเป็นเหมือนดั่งความฝัน ความทรงจำบางส่วนจะถูกลบออกไป ครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อคุณบรรลุข้อตกลงกับทางร้าน คุณจะลืมบางอย่างไปจนกว่าความเรียกร้องในใจคุณจะมีมาก มากพอที่ร้านจะเปิดและเชื้อเชิญคุณกลับมาอีกครั้ง คุณคงจำไม่ได้ว่าก่อนหน้านั้นคุณได้ใช้อะไรแลกเปลี่ยนกับชีวิตใหม่ของคุณ ผมจะบอกให้ฟังอีกครั้งไหมครับ ? “
“ เถ้าแก่ . . . ครั้งนั้นผมแลกด้วยอะไร ? “ หวังตื่นเต้นกับคำตอบของเถ้าแก่ ให้ตายเถอะ เขาลืมไปแล้วจริงๆนี่ สิ่งนั้นคงสำคัญกับเถ้าแก่มาก แต่สำหรับเขาคงไม่เท่าไหร่หรอก ไม่อย่างนั้น . . . เขาน่าจะกังวลและจดจำมันได้บ้าง
“ อืม . . . นั่นสินะ สิ่งที่คุณใช้แลกวันนั้นคือ . . . ชีวิตแม่ของคุณไงครับ “
“ อะไรนะ !!! มะ . . . ไม่จริง คุณโกหก !!! แม่ผมเสียไปนานแล้วนี่ “ หวังผงะถอยตัวไปข้างหลังจนตัวติดโซฟา
“ อย่ากล่าวหาผมแบบนั้นสิครับ ผมไม่ได้กล่าวเท็จกับคุณเลย เมื่อครู่คุณถามผมเอง ส่วนผมก็ทำหน้าที่แค่ตอบคำถามนั้นให้ ที่คุณคิดไปว่าแม่คุณเสียมานานแล้วนั้นเพราะความทรงจำเกี่ยวกับแม่คุณหายไป ไม่ใช่เฉพาะคุณ นั่นรวมถึงทุกคนที่คุณรู้จักด้วย ไม่แปลกอะไรหรอกครับคุณหวัง ที่ผมต้องทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้ทุกอย่างดูวุ่นวาย เมื่อคุณได้ขาย เอ้อ . . . ขอโทษครับ เมื่อคุณได้ซ่อมชีวิตตัวเองโดยแลกเปลี่ยนกับแม่ของคุณ ระบบประมวลผลในสมองของทุกคนรวมทั้งคุณจึงถูกเปลี่ยนแปลงใหม่ ทุกคนถูกเข้าใจว่าแม่คุณเสียไปตั้งนานแล้ว แต่ความเป็นจริงคือคุณได้แลกเปลี่ยนตัวท่านเมื่อสองปีก่อน คุณเป็นคนเลือกเองและผมก็ซ่อมแซมชีวิตคุณจนดีขึ้น เพราะฉะนั้นมันเป็นอะไรที่สมเหตุสมผลอยู่แล้วนี่ครับ “
“ ละ. . . แล้ว คุณแม่ผมตอนนี้ท่าน . . . ”
“ จะถามว่าอยู่ที่ไหนใช่ไหม อืม! จะให้ผมพูดอย่างไรดีล่ะ เอาเป็นว่าไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมส่งเขาไปแล้ว “
“ ไปไหน ? . . . ”
“ ไปที่เดียวกับ . . . ที่คุณเลือกเดินออกมา นรกของคุณไงครับ คุณแม่คุณตอนนี้คงต้องชดใช้กรรมแทนคุณไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมด แต่มันไม่ง่ายหรอก ชีวิตของคุณตอนนั้นยังเหลืออีกประมาณสามเดือนถึงจะสิ้นบุญ ของแม่คุณเหลืออีกเป็นสิบปี แต่เมื่อคุณมาแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างที่นี่ . . . ผมเคยบอกคุณแล้วว่าเมื่อสิ้นสุดการตกลง รัตติกาลจะกลืนกินทุกสิ่งที่นำมาแลกเปลี่ยน คืนนั้นขณะที่เราตกลงกันแล้ว รัตติกาลก็กลืนกินชีวิตของแม่คุณไป เขาต้องชดใช้กรรมแทนคุณไปจนกว่าอายุขัยรวมสิ้นสุดลง คงอีกนานมากจนไม่อาจนับได้ทีเดียวครับ โกรธผมไม่ได้นะครับ . . . ในเมื่อคุณเป็นคนเลือกเอง . . . ” เถ้าแก่พูดย้ำอีกครั้ง
หวังยกมือขึ้นมากัดเล็บอย่างไม่รู้ตัว สายตาลอกแลก ความคิดเขาแตกซ่าน ความกลัวความรู้สึกผิดบาปกำลังกัดกินหัวใจอยู่ ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ทำไม? เขาทำกับผู้มีพระคุณได้อย่างไรกัน หวังเฝ้าแต่โทษตัวเองว่าทำไมตนถึงเลวได้มากถึงเพียงนี้
“ ไม่เอาน่าคุณหวัง เรื่องมันผ่านมาตั้งสองปีแล้ว ประเดี๋ยวคุณออกจากร้านนี้ไปคุณก็จะลืมมันอีก อย่าไปคิดมากเลยครับ เฮ้อ . . . แย่จริงๆ ผมไม่น่าเอาเรื่องในอดีตมาเล่าให้คุณฟังเลย แต่ถึงยังไงมันก็เป็นกฎที่ผมต้องบอกกับลูกค้าเดิมก่อนเสมอ เนื่องจากไม่อยากให้พวกเขาต้องนำสิ่งที่เคยแลกเปลี่ยนไปครั้งหนึ่งแล้วมาพูดถึงอีก ถึงเวลาแล้วกระมังครับคุณหวัง คุณจะแลกเปลี่ยนอะไรกับความปรารถนาใหม่นี้ดีครับ? อะไรที่คุณคิดว่ามันเท่าเทียมกับลูกชาย? อะไรที่คุณคิดว่าเท่าเทียมกับค่าซ่อมครั้งนี้ครับ? “ เถ้าแก่จ้องใบหน้าที่กลัวอย่างสุดขีดของเขาแล้วยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัย
ความคิดเห็น