ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิปลาส - วิปริต -โรคจิต

    ลำดับตอนที่ #6 : ห้อง 302 (อีกครั้ง)

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 48


    พยายามสูดลมหายใจลึก ๆ ก่อนอ่านนะครับ   ถ้าพบว่ารับไม่ได้ให้รีบปิดทันทีล่ะกัน   ผมกลัวคุณช๊อคตายคาคอมเสียก่อน



    (ปล. พยายามลดความรุนแรงของข้อความและเนื้อหาลงมามากแล้วนะครับ >,<)









    ความมืดสลัวขยายตัวลงคลี่คลุมบริเวณสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่เรียกว่าห้อง   หลังจากแหล่งกำเนิดไฟเพียงสิ่งเดียวกลางเพดานได้ดับลงหลังจากที่มือชื้นเหงื่อกดลงบนสวิทช์ของมัน  



    ผมยืนจ้องมองร่างยาวซึ่งนอนเหยียดอยู่บนเตียงเล็กด้วยหัวใจเต้นระทึก   ความตื่นเต้นที่พุ่งขึ้นมาจนใบหน้าผมร้อนวูบวาบและใบหูอื้อจนกระทั่งแทบไม่ได้ยินเสียงหายใจลึกแผ่วเบาของร่างนั้น   แสงจากไฟเบื้องนอกเพียงรางเลือนส่องลอดรอยตะเข็บของผ้าม่านติดหน้าต่างลงบนใบหน้ายามหลับใหลนั้น  ผิวซีดขาวและความผ่ายผอมที่ปรากฏ  รวมทั้งความกังวลคร่ำเครียดเหนือหว่างคิ้วของเขา   ไม่ทำให้ผมลดสายตาแห่งความหลงใหลต่อเขาได้เลยแม้แต่น้อย



    ผมค่อย ๆ คุกเข่าลงบนพื้นเย็นเฉียบข้างเตียง  และโน้มตัวเพื่อจ้องมองใบหน้านั้นใกล้ ๆ   ความน่ารักน่าชังของเขายามนิทรา  เหมือนเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้ริมฝีปากบางโน้มลงใกล้เรื่อย ๆ  และฝากรอยไว้บนผิวแก้มตอบนั้นเพียงบางเบา  กลิ่นหอมกรุ่นแชมพูจากเรือนผมยุ่งนั้นเรียกให้จมูกของผมลงไปซุกไซ้ลิ้มชิมรสชาติใบหูอ่อนนุ่มด้วยปลายลิ้นตวัดเบา



    ร่างของเขายังคงนิ่งสนิท   ดูท่าสัมผัสเปี่ยมความหลงใหลของผมนี้ยังไม่อาจปลุกให้เขาฟื้นจากฤทธิ์ของสารเคมีบางตัวได้    มือซุกซนของผมจึงเริ่มรุกล้ำเข้าสู่ผิวเนื้ออ่อนบางภายใต้เนื้อผ้า  เสื้อยืดสีเข้มของเขาจึงถูกเลิกขึ้นเพื่อให้มือของผมทำงานได้สะดวก   นิ้วยาวระไล่เลี่ยไปตามผิว  และสัมผัสอกแน่นอันมียอดเป็นก้อนเล็กของเด็กหนุ่มยังไม่แตกพาน  



    ผมบดขยี้  คลึงเคล้า   กดเค้นอย่างเมามันในอารมณ์ต่อร่างสิ้นสมประดี  เนื้อแน่น ๆ นั้นดีดสะท้อนแรงจนผมลืมตัวขยำลงไปบนยอดอกสุดแรง   เสียงครางอือเบา ๆ จากในลำคอของอีกฝ่าย  ทำให้ต้องสะดุ้งสุดตัว  เรียกสติกลับคืน  ผมรีบดึงมือออกจากร่างส่วนบนซึ่งถูกเลิกเสื้อโชว์หุ่นงาม ๆ ของอีกฝ่าย  และถอยออกมาห่างเพื่อหลบซ่อนในเงามืด  



    ..ทว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น   เสียงหายใจเป็นจังหวะยังดังขึ้นผ่อนยาวลึกเช่นเดิม  ในขณะที่หัวใจของผมเต้นโครมครามราวจะทะลุออกมากองข้างนอกซะเดี๋ยวนี้



    ผมนิ่งรออีกครู่หนึ่ง   เพื่อรวบรวมความกล้าอีกครั้ง   สายตาผมพุ่งเป้าไปยังรอยนูนของเนื้อภายใต้กางเกงบอลขาสั้น  พร้อม ๆ กับที่ย่องร่างเข้าไปใกล้สิ่งนั้นเรื่อย ๆ    มือหยาบใหญ่ของผมค่อย ๆลงแตะสัมผัสหนั่นเนื้อจากภายนอกสัมผัสนุ่มนิ่มถ่ายทอดผ่านมือเร้าอารมณ์ของผมให้ขึ้นสูง   บางอย่างในร่างกายที่ตอบสนองตามและแข็งขันเป็นพิเศษจากความตื่นเต้นสุดขีด    มันดึงดันที่จะเยี่ยมหน้าออกมาจากที่ที่ควรอยู่ในจงได้   แต่ผมยังไม่ปล่อยมันออกมาหรอก   เพราะยิ่งนาน..  ยิ่งทรมานมากเท่าไหร่  ความสุขสมยามปลดปล่อยก็ยิ่งทะลักล้นมากเท่านั้น



    ผมลูบไล้   ให้ทุกตารางมิลลิเมตรของสิ่งนั้นผ่านนิ้วของผม   ผ้าลื่นมันของกางเกงเป็นอุปสรรคหนึ่งในสองที่กางกั้นผมจากมัน   ความแน่นน่าสัมผัสกอบกำได้เต็มไม้เต็มมือถูกข่มขืนขย่มเขย่าด้วยมือคู่ใหญ่



    แล้วผมก็ทนไม่ไหว  ความเจ็บปวดจากช่วงล่างอย่างอึดอัดเบียดตัวจนแทบจุก  จนผมต้องปลดปล่อยสิ่งนั้นของผมออกมาสู่โลกภายนอกบ้าง      



    ผมค่อย ๆ จับที่ขอบกางเกงบอลและดึงมันร่นลงมาช้า ๆ     ผมระมัดระวังที่จะไม่ทำรุนแรง    และถอดมันออกจากร่างของเขาจนได้     ก้อนกลมเต็มกำนูนเด่นอยู่ภายใต้กางเกงในบางสีขาว   ผมสัมผัสมันอีกครั้งเพื่อตักตวงความสุขให้เต็มอิ่ม



    ......มันเริ่มตอบสนองแล้ว



    กระแสเส้นเลือดที่สูบฉีดเข้าสู่เซลล์ฟองน้ำสร้างสภาพกึ่งอ่อนกึ่งแข็งแก่มัน   รูปลักษณ์และโครงร่างของมันปรากฏในสัดส่วนขยายขึ้นต่อสัมผัสจากนิ้วและสายตา



    ...ผมดึงปราการด่านสุดท้ายของมันออก  และชมความงดงามไร้ที่ติของมัน  รูปร่างที่ราวกับสลักเสลากลมกลึงน่าลูบไล้  สีจางของผิวบ่งบอกว่าผู้เป็นเจ้าของคงไม่ได้ใช้งานมันหนักนัก



    มันเงยตัวขึ้น   ค่อย ๆ ลุกทุกครั้งที่ผมดึงมือขึ้นลงบนร่างของมัน    ผมจินตนาการได้ถึงกระแสประสาทนับล้านวิ่งแล่นเข้าสู่แกนสมอง   กระทั่งส่งผลตอบสนองเป็นอาการของมันในขณะนี้

    ผมจูบมันด้วยความรัก   ไล้เรียวปากไล่บริเวณส่วนบนของมันด้วยความใคร่  ใช้ปลายลิ้นชุ่มน้ำลายสร้างความโชกชื้นให้ทั่วเนื้อ  รสชาติจืดเจือกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสบู่  ...กลับยิ่งทำให้ผมบ้า   สัมผัสที่แข็งแกร่งขึ้นทุกอณูในทุกวินาทีจนผมต้องรวบมันไว้ในปากของผมทั้งหมด   เหมือนลิ้มรสขนมรสหวาน  ยิ่งชิมยิ่งอร่อย  ยิ่งสัมผัสกับชิวหายิ่งมันจนไม่อาจถอดใจ    ความเอร็ดชนิดที่ไม่สามารถปล่อยให้ผละอออกไปได้กำลังดีดดิ้นอยู่ในกระพุ้งแก้มของผม



    เขายังคงหลับไม่รู้เรื่อง  แต่ผมสัมผัสได้จากความเคร่งเครียดขมึงตึงแน่นของทุกมัดกล้ามเนื้อ     ท่อนขาของเขาที่งอขึ้นตั้งชั้นและบีบน่องสองข้างเข้าหากันราวจะถดถอยจากความหฤหรรษ์   ผมจึงต้องดันและค้ำยันขาทั้งสองข้างของเขาไว้ให้กางออกเป็นมุมป้านเพื่อสะดวกต่อการปฏิบัติกิจ  ปลายเท้าเหยียดเกร็งจิกแน่นลงในเนื้อเตียงระบุได้ดีถึงระดับความตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด  ที่เกิดกับแก่นกายของเขา



    กล้ามเนื้อเต้นตุบ ๆ ในปากและในกำมือขวา  บอกกับผมเป็นภาษากายว่า   บางอย่างกำลังจะมา   แต่ผมไม่สน   ผมรับเอารสชาติเค็มคาวอมหวานนั้นไว้  และกลืนกินมันลงไป   ยอดแห่งความสุข...  อย่างน้อยให้มันเป็นหนึ่งเดียวกับกายของผมก็แล้วกัน



    ..ผมถอนปากออกมา   บางอย่างที่ถูกดูดกินและเล็มจนสิ้นซึ่งคราบน้ำ  ยังคงชูชันผงาดอยู่ที่เดิมนั้น



    เขาเสร็จสมไปแล้ว  ถึงแม้จะเป็นแค่ความฝันอันพิลึกพิลั่นสำหรับเขา



    แต่ผมล่ะ   ความเจ็บปวดจากการเกร็งตัวยังไม่จางหาย  และมันก็เต้นตอดเป็นระยะราวจะเตือนให้ผมหาหนทางสักทางเพื่อระบายความกดดันนั้น   ผมจ้องไปยังอีกส่วนของร่างเขาด้วยแววตาเจ้าเล่ห์  



    ...แล้วค่ำคืน  ก็ดำเนินไปอีกครั้งด้วยจังหวะและท่วงทำนองของมัน...    

         ...ทิ้งไว้เพียงความเจ็บปวดทางกายของผู้หลับใหล....













    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------













    ผมตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมกับความปวดแปลบบริเวณบั้นท้าย     เหมือนกับเมื่อคืนที่แล้ว  ทว่าครานี้รู้สึกเบากว่า

    เกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่  ทำไมถึงเจ็บอย่างนี้   หรือว่าอาหารอะไรทำให้ท้องผูกขนาดหนัก   แต่ก็ไม่น่าจะใช่นี่นา

    ผมรั้งตัวขึ้นจากท่านอนเป็นกึ่งนอนกึ่งนั่งบนเตียงนุ่ม   การเคลื่อนไหวที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก  เพราะต้องเลี่ยงความเจ็บปวดอันจะกระทบกระเทือนส่วนอ่อนไหวนั้น



    ร่างของผมดูเหมือนโล่ง ๆ พิกล   และบางอย่างในตัวก็ดูเหมือนวางท่าผิดรูปในกางเกงใน

    ผมเบ้หน้า  เมื่อนิ้วมือของผมลูบลงไปสัมผัสได้ถึงเนื้อผ้าบางที่จับตัวแข็งเป็นปื้นจากคราบของเหลวบางชนิด

    นี่ผมบ้าเซ็กส์ขนาดเอามาฝันเป็นตุเป็นตะและเปียกเลยหรือนี่   ไม่ได้การล่ะ  ผมคงต้องถอดมันออกและแอบเอาไปซัก  ก่อนที่ไอ้พันจะมาเจอและเอาไปเป็นหัวข้อล้อเลียนผม   ยิ่งวันก่อนเห็นมันมาคุ้ย ๆ แถว ๆ กางเกงในผมอยู่ด้วย  ดูท่าคงจ้องจับผิดเรื่องอะไรบางอย่างอยู่  



    ผมมองร่างที่หลับสนิทอยู่ยนเตียงฝั่งตรงกันข้ามอย่างไม่ไว้ใจ   คงไม่แปลกที่มันจะไม่ตื่นในเวลาเช้ามืด  เพราะส่วนมากไอ้พันมักจะเข้านอนดึกอยู่แล้ว   ผมลุกขึ้นและถอดกางเกงบอลออก   และดึงกางเกงในเปื้อนคราบนั้นตามลงมา    ในวินาทีที่ผมไม่คาดคิดว่ามันจะตื่น  ไอ้พันกลับกำลังหันหน้ามาจ้องตาแป๋วสู่สัดส่วนสงวนนั้นของผม



    \"ใหญ่ยาวดีนี่\"      ผมชักไม่แน่ใจว่านี่คือคำทักทายแรกของวันจากปากของมัน

    ผมรีบ ๆ ดึงกางเกงในออกและเอาซ่อนไว้เบื้องหลัง  ส่วนปากก็บอกปัด ๆ อย่างไม่ใส่ใจ  เนื่องด้วยคิดว่าผู้ชายด้วยกันจะไปอายอะไร



    \"เออ  ใหญ่ และยาวกว่ามึงด้วย\"



    \"กูยอมรับ   ว่าแต่  มึงซ่อนไรไว้ข้างหลังน่ะ กูเห็นนะเว้ย  กางเกงในจากค่ำคืนอันเร่าร้อนหรือไง\"



    ทำไมมันถึงทายถูก  ผมเองก็งงงันเช่นกัน   และแล้วของในมือผมก็ถูกชิงออกไปด้วยมือคู่ไวกว่าลิงของเพื่อนรูมเมท



    \"เฮ้ย  เอาคืนมา\"    ตอนนี้ร่างของเราแนบชิดกันแทบจะเป็นการกอด  ผมไม่เข้าใจ  ว่าทำไมผมต้องเขินด้วย   เมื่ออีกฝ่ายก็เป็นเพียงเพื่อนชายธรรมดา  



    แต่พันไม่ยอม  มันเล่นมุขใหม่ด้วยการโอบกอดร่างเปลือยครึ่งท่อนร่างของผมไว้  อ้อมมือขวามาตบสะบักไหล่อีกข้างของผมเบา ๆ พร้อมกับยื่นริมฝีปากมากระซิบที่หู



    \"ไม่คืนหรอก  ...เก็บไว้เป็นค่าปิดปากที่เราช่วยเก็บความลับเรื่องนายฝันเปียกให้  ตกลงมั้ย ?\"

    ถ้อยคำอ่อนโยนลงและการเปลี่ยนสรรพนามนุ่มนวลขึ้น  ผมไม่รู้ว่าทำไมผมต้องยิ้ม  และตอบรับเขาอย่างช่วยไม่ได้



    \"อืม..\"



    พันยิ้มเจ้าเล่ห์   และมุดตัวกลับลงไปในที่นอนต่อ   พร้อมกับกางเกงในสีขาวของผมชิ้นนั้นด้วย



    เฮ้อ  เพื่อนผมนี่กวนตรีนชะมัดยาดเลย......







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×