ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักซาดิสส์ของคุณกิมฮวย

    ลำดับตอนที่ #21 : คำถามของสฟิงค์

    • อัปเดตล่าสุด 15 ส.ค. 48




       ซากปฏิมากรรมฮิปโปโปเตมัสในน้ำแข็ง   สะท้อนประกายเจือจางของแสงจันทรา   แสงจันทร์ดุจคมมีดเบาบางกรีดหัวใจของคนให้หนาวเหน็บ



    เงาของมันทอดยาวลงบนพื้นหิมะซึ่งปกคลุมลงอย่างแผ่วเบาบนผิวน้ำแข็งของผืนธาร  รอยแฉลบไถลเป็นแนวยาว  ทอดไกลออกไปทางทิศเหนือ   ณ  ที่ซึ่งเงาดำอีกเงาแล่นฉวัดเฉวียนด้วยเครื่องทุ่นแรงบนผิวหิมะ



    หลังจากที่ผมอาศัยโดยสารฮิปโปเคราะห์ร้ายซึ่งคงทอดร่างแข็งตายอยู่กลางแม่น้ำแล้ว    ผมก็เปลี่ยนมาใช้สกีกระดูกฮิปโป  ซึ่งเลาะจากซี่โครงคู่ที่สามของมัน



    เพื่อไปให้ถึงกิซ่าภายในเวลา   ผมต้องเร่งสปีดตนเองขึ้นอีก   อุปกรณ์เสริมถูกติดตั้งที่ปลายของสกี    เปลวเพลิงสีน้ำเงินพวยพุ่งอย่างรุนแรงทำให้มันกลายเป็นเจ็ทสกี



    เสียงคมของกระดูกเสียดสีกับน้ำแข็งปาดกรุยทางเป็นเส้นสาย  ถ้าผมจำไม่ผิด   มีหมีโพล่าเคราะห์ร้าย    เสือซีต้าอายุสั้น และช้างแมมมอทงี่เง่า  นอนขวางทางและโดนปาดไส้ไหลไปสองสามราย



          ยามเช้าใกล้เข้ามาเต็มที  ขณะที่ผมต้องซิ่งสปีดนรกแข่งกับเวลา   โอ   ไม่นะ  หิมะและน้ำแข็งเริ่มละลาย    ภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยความขาวโพลนกำลังจะถูกแทนที่ด้วยทุ่งหญ้าสะวันน่า



    ทันใด  พาหนะผมก็สะดุดม้าลายหนึ่งตัว   มันตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงงพร้อมกับสลัดหิมะออกจากแผงคอ  ทว่าไม่สามารถทำได้เพราะคอกับหัวของมันแยกออกจากกันเรียบร้อยแล้ว      ผมล้มกลิ้งโค่โล่และม้วนตัวไปกับฝุ่นหิมะตกลงไปกลางวงม้าลายซึ่งกำลังแตกตื่นจากอาคันตุกะต่างสปีชีส์



           เออ  ได้การหล่ะ   ............   ผมยิ้มอย่างชั่วร้ายท่ามกลางฝูงม้าลายที่วิ่งหัวหกก้นขวิดชนกันไปทั่ว   พวกมันเงียบไปชั่วขณะเมื่อสัมผัสกลิ่นไอปีศาจร้ายจากผม   ผมฉีกยิ้มอย่างมีสเน่ห์ก่อนเดินเข้าไปใกล้ม้าลายตัวที่ใกล้ที่สุด.............







    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------









      \"เร็วเข้าอีกเซ่\"   เสียงตะโกนอย่างเมามันส์   ผนวกกับเสียงแส้เพียะ ๆ  ตวัดปลายคม ๆ ของมันลงกลางหลังเสือเขี้ยวดาบที่หิวโหยจำนวนหนึ่ง



       ม้าลายซึ่งถูกผูกลำตัวเข้าไว้ด้วยกันเป็นฝูง   วิ่งหนีตายอย่างไม่คิดชีวิต    ป่าทั้งป่าราบเป็นหน้ากลอง  เพื่อเคลียร์ให้ราชรถ  ของผม

    เดินทางได้โดยสะดวก    สารถีเขี้ยวดาบหันกลับมาแยกเขี้ยวด้วยความไม่ชอบใจ   ผมเพียงแค่ลงแส้หนักมืออีกหน่อย  มันก็กลับไปทำหน้าที่ของมัน    การไล่ล่าสู่ความตาย





      



           หิมะตกอีกครั้ง   ผลึกน้ำแข็งเล็ก ๆ ลอยฟูฟ่องจากสวรรค์  เสมือนปีกของเทวทูตอ้อมโอบกล่อมดวงวิญญาณ  ฝูงม้าลาย  ซึ่งตายจากการล่า   ความเหนื่อยอ่อนและบอบช้ำจากการถูกผูกมัดไว้ติดกัน  ทำให้มันตกเป็นเหยื่อสารถีจำเป็นของผมในที่สุด



    โครงกระดูก  ซึ่งมีเลือดและเศษเนื้อติดอยู่เล็กน้อย   บัดนี้กลับเย็นชืดและขาวโพลนลงด้วยของขวัญจากสวรรค์ที่ถูกส่งลงมาปกคลุมโลกมนุษย์



    ดาวระยิบระยับส่องแสงพราวบนฟากฟ้าดูราวกับหยาดเพชรน้ำหนึ่ง   เสือเขี้ยวดาบแหงนมองฟ้า   มันกำลังมองหาดาวม้าลายอยู่รึป่าวนะ

    มันอาจจะจินตนาการอยู่ก็ได้   ว่าดาวม้าลายคงมีแต่อาหารให้มันกินจนอิ่มแปร้   ใครจะไปรู้หล่ะ



    แต่ทว่า  ผมเริ่มเหนื่อยแล้ว    คงจะต้องพักสักทีหลังจากเดินทางติดต่อกันมาสองวันสองคืน    เหลืออีกยี่สิบสี่ชั่วโมง   กับระยะทางไม่กี่ร้อยกิโลเมตร    ผมเชื่อว่าผมต้องไปทันแน่   ถ้าหากเจอม้าลายอีกฝูงน่ะนะ



    เอาเถอะ  เรื่องของอนาคตไว้คิดพรุ่งนี้หล่ะกัน   ขอเวลาเข้าสู่นิทรารมณ์แสนสราญจะดีกว่า



    ดาวตกอีกแล้ว    เสือบางตัวมองตาม   มันคงจะอธิษฐานให้มีกินในวันถัดไป



    แต่ผมคงไม่ขออะไรมาก   คงขอแค่เพียง  ประชากรโลกมีจำนวนเพียงพอให้ฆ่าก็พอแล้วหล่ะ



    ความมืดและความง่วงงุนที่คลุมสติและดวงตา  ขับไล่ความคิดเพ้อเจ้อ   แล้วส่งผมเข้าสู่การพักผ่อนเพียงชั่วครู่



    เก็บแรงและพลัง   สะสมจากจินตนาการ  สะเก็ดไฟแห่งความฝัน  เพื่อสู้ชีวิตต่อไปในยามรุ่งอรุณ.....





    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





            ให้ตายสิ!!!   ด่านตรวจคนเข้าเมืองไม่ยอมให้ผมพาฝูงน้องผู้น่ารักเข้าไปในเขตตัวเมือง   ผมเลยต้องสั่งให้น้อง ๆ จัดการรุมกินโต๊ะ  ซะเกลี้ยงสำนักงาน  



    .....ก็คงจะต้องแสดงความเสียใจกับประชาชนที่บังเอิญไปใช้บริการในวันนั้นด้วย   ว่าง ๆ จะทำบุญไปให้นะครับ....



    ผมลัดเลาะไปตามแถบพื้นที่เกษตรกรรมของอียิปต์   เพื่อเลี่ยงจากการปะทะกองกำลังปราบจลาจลของรัฐบาล    แต่ว่าพวกเขี้ยวโง้งนี่มานจะแวะบ่อยอะไรนักหนา  เดี๋ยวก็แวะกินวัว  เดี๋ยวก็แวะกินไก่    เฮอะ ดีนะยังไม่กินคนเข้า    สงสัยคงอิ่มจากด่านเมื่อกี้มาแล้ว



    \"ตายห่ะ    ในปากแกมีอะไรวะนั่น\"     ผมตกใจมากพอสมควรเมื่อพบซากเสื้อผ้าของผู้เคราะห์ร้ายติดตามเขี้ยวของตัวจ่าฝูง



    \"ฆ่าแค่คนเดียวทำแป๊ะอะไร   มันก็มาล้างแค้นอ่ะดิ   ทำไมไม่ล้างหมู่บ้านไปเลยวะ\"  ผมสบัดแส้ด้วยความฉุนเฉียว  เนื่องจากไม่ต้องการตามล้างตามเช็ดเหยื่ออ่อน ๆ แบบนั้น  



    ตอนนี้เวลาเหลืออีก   5  ชั่วโมง   ขณะที่ปิรามิดซึ่งผมอุตส่าห์พาฝูงน้อง ๆ  บุกบั่นผ่านทะเลทรายมาซะไกลอยู่ตรงหน้า



    เหอเหอ  มาก่อนเวลาซะอีก  ก็ดี  จะได้มีเวลาเตรียมวางแผนบุกจู่โจมไอ้เลวนิรนาม









    ------------------------------------------------------------------------------------------------





    \"ปิ้งป่อง   มิสตี นมาแล้วค่ะ\"     ผมเคาะประตูกลหินขนาดหนาและหนักด้วยบาทาอย่างรุนแรง     ก้อนหินบางส่วนร่วงหล่นลงมาเนื่องด้วยความทรุดโทรมของโบราณสถาน   ทว่าประตูศิลาซึ่งปิดสนิทนั้นยังไม่เปิดต้อนรับแขกพิเศษเลยแม้แต่น้อย



    \"จะให้ผมเข้าไปดี ๆ มั้ยครับ    ระเบิดที่ผมเล่นตอนอยู่ไนจีเรียยังเหลืออีกสองสามลูกนะครับ\"   ผมป้องปากตะโกนเข้าไป  หวังให้เสียงผ่านร่องรอยแตกร้าวของปิรามิด  เข้าถึงห้องชั้นในที่นิรนามอยู่      ถ้าจำเป็น   ผมคงต้องฝังทั้งคู่ไว้ในซากหิน    แต่ตอนนี้ยังไม่มีความจำเป็นใด ๆ  เนื่องจากอินเตอร์คอมในดวงตาเห็นจริง**  ได้เผยให้เห็นภาพของผู้เหย้าซึ่งรอต้อนรับอยู่ในห้องเก็บพระศพฟาโรห์



    \"สวัสดีครับ  คุณปริศนา   ต่อให้คุณถีบให้ตาย   ก็เข้ามาไม่ได้หรอกครับ   ถึงแม้ว่าคุณจะใช้ขีปนาวุธใด ๆ   ที่นี่ก็ได้ติดตั้งแพทริออตมิสไซล์  ไว้ต้อนรับอย่างเต็มที่แล้ว



    คุณเป็นผู้กล่าวจากปากเองว่า   จะดำเนินตามเกมส์ที่ผมตั้งไว้    



    ผมจะเล่าอะไรดี ๆ ให้ฟังหล่ะกัน   ก่อนอื่น  คุณคงเห็นรูปปั้นสฟิงค์เบื้องหน้าของปิรามิดแห่งนี้     ตามตำนานเทพปกรณัมของกรีก   สฟิงค์ได้ทำหน้าที่เฝ้าหุบเขาแห่งหนึ่ง   มันจะคอยถามปัญหากับนักเดินทางที่ผ่านมันไปมา    หากว่าผู้นั้นตอบถูก   ย่อมสามารถผ่านไปได้   แต่หากว่าตอบผิดความตายย่อมเป็นหนทางเดียวที่เหมาะสมสำหรับคนโง่เง่า



    เรามาลองย้อนประวัติศาสตร์กันเล่น ๆ ดีมั้ยครับ   ผมว่าคุณต้องเห็นด้วยแน่ ๆ   หากว่าผมจะให้สฟิงค์เบื้องหน้าของคุณทดสอบความรู้สักหน่อย\"



    ทันใด   รูปปั้นสฟิงค์ก็ขยับราวกับมีชีวิต   เศษหินและทรายที่ทับถมบนร่างของมันหลุดออกจากร่างกาย  เผยให้เห็นข้อต่อโลหะและสายไฟอันประกอบให้เป็นไซบอร์กขนาดใหญ่โตมโหฬาร      



    \"สำหรับคำถามแรก   คุณจะรอดไปได้มั้ย\"    ไม่ทันขาดคำของนิรนาม   สฟิงค์เปิดฉากโจมตีทันที  ปีกกว้างใหญ่ของมันพัดเอาฝุ่นทรายคละคลุ้งเป็นพายุทราย  เพื่อบดบังทัศนวิสัย  แล้วโฉบลงจากแท่นเพื่อโจมตีปริศนาด้วยความเร็วปานสายฟ้า



    ฝูงเสือเขี้ยวดาบแตกกระเจิง  เมื่อกรงเล็กโลหะของสฟิงค์ปักจิกเข้าไปในซากของพวกมันหนึ่งตัว   ปริศนาหายตัวไปอย่างลึกลับ



    ตาอินฟราเรดของสฟิงค์  สแกนจับคลื่นความร้อนของเขา   ทว่า  จำนวนของสมุนปริศนามีมากจนเกินไป  และรบกวนการทำงานของการตรวจจับ



    ลำแสงวาบจากเบื้องหลังของสฟิงค์  คลื่นความร้อนพลังสูงของปืนพลาสม่าเฉียดร่างไปเพียงนิดเดียว



    \"ว้า  แย่จัง  พลาดไปได้\"     ผมทิ้งปืนพลาสม่ากับพื้นและถอดสลักน้อยหน่า  ไว้ข้าง ๆ ปืนนั้น   พร้อมกับที่กลิ้งตัวหลบการโฉบโจมตีของมันอย่างรวดเร็ว



    บึ้ม!!!    ปืนพลาสม่าระเบิดอย่างรุนแรง   พลังงานของมันกระแทกให้สฟิงค์บนอากาศเอียงกระเท่เร่  เสียการทรงตัวแล้วต้องร่อนลงกับพื้น



    ผมดีดตัวปราด  และปีนขึ้นไปที่ส่วนหัวของสฟิงค์ซึ่งกำลังเสียหลัก    พร้อมกับเอาบางอย่างยัดปากของมัน





    \"รอดครับ   เป็นคำตอบสุดท้าย\"    ผมยักคิ้วเยาะเย้ยนิรนามผู้เฝ้ามองอย่างโกรธแค้นจากภายในอินเตอร์คอมพ์  โดยฉากหลังของผมคือสฟิงค์ซึ่งถูกแรงระเบิดจากภายในฉีกกระชากร่างกายเป็นชิ้น ๆ  เศษซากโลหะสะท้อนกระกายเพลิงสีส้มดูบาดตา



    \"คุณตอบถูก   เชิญ\"    นิรนามรักษากฏเป็นอย่างดี      ประตูกลหินเลื่อนขึ้นมาช้า ๆ   ความมืดมิดยากหยั่งถึงภายใน  ยิ่งท้าทายผมเป็นอย่างยิ่ง     เท้าที่ผมก้าวเข้าไป   อาจจะเป็นก้าวแรกแห่งความตาย  หรือเป็นก้าวแรกแห่งการผจญภัยไม่มีที่สิ้นสุดก็เป็นได้   อย่างไรก็ตาม   ผมได้ละทิ้งแสงสว่างเบื้องนอกไปเสียแล้ว   ประตูกลค่อย ๆ เลื่อนลงมาปิดกั้นผมกับความร้อนระอุของทะเลทรายโดยสิ้นเชิง  





    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------  



    \"ไม่ได้ทำความสะอาดมากี่ปีแล้วครับ\"   ผมเอ่ยปากลอย ๆ ถามภูติผีปีศาจแถว ๆ นั้น   กลิ่นอับชื้น   แสงเรือง ๆ จากฟอสฟอรัสของซากสัตว์บางชนิดดูน่าขยะแขยงจริง ๆ



    แสงอาทิตย์บาง ๆ  ถูกสะท้อนจากกระจกกลภายในโครงสร้างเพื่อให้ความสว่างไสวแก่สถานที่   ส าดส่องกระทบอักขระเฮียโรกริฟฟิกค์ตามผนัง   ตามประสาคนอยู่ว่าง ๆ  ผมใช้ความสามารถทางภาษาศาสตร์ลองแปลอักษรหนึ่งประโยคซึ่งแรนดอมจากร้อยพันบรรทัด



    ได้ข้อความที่แทบไม่น่าเชื่อ      \"อนูบิส  พ่อทุกสถาบัน\"



    แหม  หมดอารมณ์สำรวจต่อเลย  ผมสาวเท้าอย่างรวดเร็วเพื่อผ่านห้องอันละลานตาด้วยตัวอักษรนั้น     ทางเดินแคบ ๆ มืด ๆ ฝั่งตรงกันข้ามดูราวกับจะบีบรัดลมหายใจของโจรขุดสุสานให้ขาดห้วง



    บังเอิญผมไม่ใช่โจร........



    ถ้าดูไม่ผิด   นัยตาเห็นจริงเหนือคานประตูขยิบตาให้ผมชั่วแวบหนึ่ง  ราวกับจะเป็นกำลังใจให้ผมขับไล่(ฆ่าทิ้ง)ผู้ซึ่งยึดครองอาณาจักรหวงแหนของสมมุติเทพโดยมิได้รับอนุญาต

      

    เสียงน่าตื๊บของนิรนามดังจากช่องระบายอากาศข้าง ๆ ทางเดินอีกครั้ง  



    \"มันจะดูเสียมารยาทมากทีเดียว  หากว่าผมไม่ได้ให้การต้อนรับผู้มาเยือนอย่างถึงใจเสียก่อน  หากว่าคุณก้าวเท้าต่อไปอีกหนึ่งก้าว   ย่อมได้รับเกียรติเชิญเข้าเป็นส่วนหนึ่งของคานิวาลแห่งความตายซึ่ผงมภูมิใจที่จำนำเสนอมันเป็นอย่างยิ่ง    แต่ว่า...\"  มันลากเสียงยานได้กวนอวัยวะเบื้องล่างมากเลย



    \"ถ้าคุณมีความกล้าไม่เพียงพอ   ก้สามารถออกไปตั้งหลักได้นะครับ   ผมไม่ใจร้ายถึงขนาดฆ่าทิ้งโดยไม่เตือนหรอก\"



    หึหึ   อย่ามาขู่ให้ยาก  ผมตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว   ก้าวต่อไปของผมเหยียบหยัดลงบนพื้นอย่างไม่ลังเล  พร้อม ๆ กับเสียงกลไกโบราณขับเคลื่อนเสียดสีกันฟังแสบแก้วหู



    แสงไฟจากเบื้องบนพลันส่องสว่างมากขึ้น   คงจะเป็นเพราะการปรับมุมองศากระจกรับแสง  ให้รวมมายังจุดนี้



    \"5555+  ถ้าจะดูโชว์  จะดูมืด ๆ ได้ไง  คุณเข้าใจคิดดีนี่นิรนาม\"



    \"หัวเราะไปเถิด   รอสักครู่  แม้แต่ร้องไห้คุณคงยังไม่มีโอกาส   ถ้าหากว่า....\"



    กำแพงหินสองข้างบีบตัวเข้าหากันอย่างรวดเร็ว     ผมพยายามพุ่งปะทะไปด้านหน้าเพื่อให้พ้นจากทางออกให้เร็วที่สุด   แต่ว่าประตูหินหนัก ๆ ได้เลื่อนลงมาปิดทางทั้งสองสายเรียบร้อยแล้ว



    ผมเหงื่อแตกซิก  เมื่อผนังสองด้านเบียดอัดเข้ามาใกล้กันทุกทีและพร้อมที่จะบดขยี้สิ่งใด ๆ ก็ตามที่ขวางระหว่างมันให้เป็นผุยผง







    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------

















    to be continued





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×