ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิปลาส - วิปริต -โรคจิต

    ลำดับตอนที่ #1 : ห้อง 302

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ย. 48


      



         เหงื่อเม็ดเป้งไหลย้อยลงมาจากไรผมผ่านหน้าผาก   ผมจำต้องเสยเส้นผมกระเซิงซึ่งหล่นลงมาระปิดบังชิ้นงานอันต้องใช้สมาธิสูงในมือ

    เศษฟางมุ่นมัดเป็นรูปตุ๊กตามักจะบุ๋มและเปื่อยยุ่ยลงทุกครั้งที่ผมย้ำแท่งโลหะแหลมเล็กชำแรกลงในเนื้อหุ่น



    อา.....เสียงครางเบา ๆ   จากความพอใจลึกล้ำ     น่ารังเกียจจริง ๆ



    นี่ผมกำลังพอใจกับการทำร้ายผู้อื่นอยู่เหรอ   โดยเฉพาะ  ทำร้ายมัดฟางซึ่งสร้างมันขึ้นมาเองกับมือ



    ไม่สิ   ไม่ใช่    ไม่ใช่ผมอย่างแน่นอน   ผมไม่เชื่อว่าผมจะเป็นคนเช่นนี้



    ต้องเป็นเพราะมนต์ดำจากนังแม่มด    มันทำให้ผมบ้า  เสียงอันน่ารำคาญจากปากยื่นย้อยเหมือนหมูสามชั้นของนังนั่น  ทำให้ผมเสียสติ  ผมกำลังทำอะไร....ไม่   ผมต้องไม่ทำแบบนี้





    ไม่







    ต้องจิ้มเข็มลึกกว่านี้



    คว้านมันเข้าไป



    อย่า





    อย่าพลาดไปถูกหัวใจเข้า  ผมจะให้มันทรมานยิ่งกว่าตาย   มือใช่มั้ย   มืออูม ๆ สวมแหวนเพชรแพรวพราว   มือของนังหมูโสโครกที่กล้ายื่นมาตบใบหน้าสูงส่งของผม   ผมจะทำให้มันรู้สำนึก    



    ใช่   นั่นล่ะ   ค่อย ๆ กรีดลงไปทีละมิลผ่านเนื้อฟาง    ตอกเล็บมันออก    ขุดค้นความเจ็บปวดจากก้นบึ้งของหัวใจมาทีละนิ้ว...ทีละนิ้ว





    ซีดสสส์...ผมครางอีกแล้ว        เสียงครางที่น่ารังเกียจ   เสียงครางหื่นหอบ  ราวกับสุนัขเถื่อนติดสั/ด   ผมบีบเค้นลำคอของตนไม่ให้ส่งเสียงแห่งความพอใจนั้นมาขัดขวางสุนทรียรสจากงานในมือ





    แต่มันก็ยังเล็ดลอดออกมา....





    มือของนังนั่นคงเละแล้ว     ผมเปลี่ยนเป้าหมายของปลายแหลมสั่นระริกนั้น   ขาอ่อน   ใช่  ขาอ่อน   เนื้อนิ่มนวลไวต่อการสัมผัส  หวังว่าคงไม่ด้านชาแบบเดียวกับหนังหน้าของนังขมูขี



    ผมสูดลมหายใจลึกแห่งชัยชนะ  เมื่อเข็มคมกริบนั้นปักลงไปจนมิดด้าม   เจ้าของร่างคงกรีดร้องแทบเป็นแทบตาย  ดิ้นทุรนทุรายหวังจะคลายความเจ็บปวด  แต่ไม่!!!  ไม่มีวันที่ผมจะปล่อยเหยื่อในมือให้กระดิกกระเดี้ยวไปไหนเด็ดขาด



    มันต้องทรมาน   ความทรมานอยากตายแต่ไม่สมหวัง   อยากมีชีวิตอยู่ก็ไม่กล้า   เป็นคำตอบเดียวสำหรับคนที่กล้ามาดูถูกผม



    ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   ตายซะ!!!   



    ปีศาจแห่งความพยาบาทกรีดร้องในใจพร้อมกับแรงกระแทกของมือผ่านปลายโลหะสู่ร่างหุ่น  ไร้ปราณี...  



    .





    น่าเสียดาย   สวรรค์พักเว้นเวลาหายใจให้แก่นังนั่นไปหนึ่งวัน  เมื่อประตูถูกเปิดกว้างพร้อมกับเงาร่างของชายหนุ่มซึ่งผมคุ้นเคย

    เพื่อนร่วมห้องของผมเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง   ขณะที่ผมรีบเก็บอุปกรณ์เข้าลิ้นชักโต๊ะอย่างรวดเร็ว



    เขาเปิดไฟจากสวิตช์ริมผนังห้อง



    \"ทำไรมืด ๆ น่ะ  ลัส  ดูดิเหงื่อออกเต็มเลย\"  พูดไม่พูดเปล่า  ผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดในมือของเพื่อนรักถูกนำมาเช็ดตามหน้าผากของผมอย่างบรรจง



    \"เปล่า ๆ   ไม่มีอะไร   พอดีอยากอยู่มืด ๆ น่ะ   ประหยัดไฟไง  เอ้อ  ประหยัดไฟช่วยชาติ  เลยไม่ได้เปิดทั้งแอร์ทั้งไฟ\"



    นายคนนี้ชื่อพันเป็นเพื่อนร่วมห้องของผมเอง  เราซี้กันขนาดกอดคอกันได้  เพราะว่าเรียนอยู่มหาลัยเดียวกันด้วย

    เขามีลักษณะขาวสูง  ตาตี่ ๆ แบบลูกหลานคนจีนทั่วไป      ถ้าจะให้ผมกัดฟันพูด  ก็คงต้องบอกว่ามันหล่อกว่าผมอยู่หน่อยนึง



    \"ไม่เอาน่า   เหงื่อแตกซกอยู่ในที่อับ ๆ แบบนี้  ถ้าเป็นหวัดขึ้นมาจะเป็นไง  ค่าหมอแพงกว่าค่าไฟเยอะ  กูเป็นห่วงมึงนะเว้ย\"



    ผมไม่สน  สายตาผมสแกนลงไปในถุงพะรุงพะรังในมือของพัน    พร้อมกับเลียริมฝีปากกระหาย  เหมือนเขาจะอ่านสายตาของผมได้



    \"เออ  กูซื้อของกินมาฝากด้วย    เมิงรู้จักป่ะ  น้ำเต้าหู้น่ะ\"



    ผมจ้องถุงน้ำสีขาวขุ่นในมือของพัน   สายตาผมส่งออกไปว่าอยากกิน



    \"ได้ได้  เดี๋ยวกูรินให้    คุณชายเชียวนะมึง  ไม่รู้จักหยิบหาเองซะบ้าง\"



    ถึงมันจะบ่นกระปอดกระแปด  แต่ผมทราบว่ามันเต็มใจช่วยเหลือผมเสมอ    ดูจากอาการที่ตั้งใจปรนนิบัติผมเป็นอย่างเดียวก็รู้แล้ว

    เท้ายาว ๆ ของร่างสูง ๆ   ก้าวเข้าไปในครัวอย่างกระฉับกระเฉง  พร้อมกับเสียงถ้วยเซรามิคกระทบกันเคร้งคร้าง



    เพียงชั่วอึดใจเดียว  เขาก็เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วควันกรุ่นสองใบ

    ผมรับถ้วยหนึ่งใบจากมือของเขา  และซดมันในทันที



    อาการร้อนลวกปากเนื่องจากความตะกละเกิน   ทำให้พันมีสีหน้าตกใจ  เขาจะเข้าไปหาน้ำเปล่ามาให้แต่ผมยกมือห้ามไว้



    \"เออ   ลัส   วันนี้มึงมีเรื่องกับยัยคุณนายถนำอะไรนั่นอีกหรือเปล่าวะ   เห็นสีหน้าไม่สู้ดี\"



    อาการนิ่งเงียบโดยที่ไม่สบตาเขาเป็นคำตอบ



    \"ไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร   แต่สู้ ๆ นะเว้ยเพื่อน  อย่างน้อยก็ยังมีกูที่อยู้ข้างมึงเสมอ\"





    อืม   ..  ผมรับคำเบา ๆ ในลำคอ        บางทีวันนี้ผมอาจจะเคร่งเครียดมากไปกับงานใหม่ล่าสุด   จึงรู้สึกมึนงงพิกล  คล้ายกับจะหลับเสียให้ได้



    \"อ้าว  ง่วงเหรอ  ง่วงก็นอนซะสิ  เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเรียนไม่ไหว\"



    ผมเดินไปล้มตัวลงบนเตียงอย่างว่าง่าย   เปลือกตาที่เคยอยู่ห่างจากกัน  บัดนี้ถึงเวลาแห่งการพักผ่อน  มันก็เลื่อนเข้าหากันตามครรลองธรรมชาติ   ผมจมสู่ห้วงนิทราโดยที่ไม่รู้เลยว่า...





    มีใครบางคนแสยะยิ้มอยู่ในเงามืด!!!







    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





    The horror will be continued...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×