ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Accident of Love รักฉบับนี้...แค่อุบัติเหตุ

    ลำดับตอนที่ #3 : Acquaintance

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ย. 54


     

      สวนสนุก

         กรี๊ดดดดดดดด >O<”

          ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมฉันถึงกรี๊ดอย่างนี้ ตอนนี้ฉันอยู่สวนสนุกยังไงล่ะ เพียงแค่รถไฟเหาะขึ้นไปสูงๆเพื่อเตรียมตัวสตาทฉันก็กรี๊ดด้วยความกวาดเสียว ทุกคนหันมามองพร้อมทำสายตาประมาณว่า อีนี่มันบ้าหรือเปล่าใส่ฉัน ทำไมล่ะก็คนมันตื่นเต้นนี่ T^T

         เธอจะรีบไปไหนฮะ อายคนจะตายชัก –_–^

         ถ้านายอายนักก็ไปนั่งที่อื่นดิ จะมานั่งข้างฉันทำไม ไปเลยไป –V–

         นี่แม่คุณ ที่ได้มาเล่นฟรีนี่เพราะใครฮะ ไม่ใช่เพราะฉันเหรอ คิลเล่อร์ผลักหัวฉันแรงๆ ฉันจะอ๊วกก่อนได้เล่นรถไฟเหาะก็เพราะนายนี่แหละชิ

         นายชวนฉันเองนี่...กรี๊ดดดดดดดดด ><” รถไฟเหาะไหลไปตามรางก่อนที่ฉันจะพูดจบ เหมือนตับไตไส้พุงฉันจะทะลักออกมาทางปากซะให้ได้ กรี๊ดดดดดด 

         หลังจากนั้นฉันกับคิลเลอร์ก็เล่นเครื่องเล่นอีกนานาชนิด ทุกอย่างที่เล่นแซบๆทั้งนั้นขอบอก จนในที่สุดฉันก็มายืนอ๊วกอยู่นี่ ไม่น่าเลยฉัน ข้าวเช้าที่เพิ่งกินไปออกมาหมดเลย เสียดายอ่ะ (คิลเล่อร์เลี้ยง แฮะๆ)

         นี่น้ำ เอาไปบ้วนปาก

         ขอบใจฉันรับน้ำมาบ้วนปากแล้วดื่มไปจนหมดขวด สดชื่อนขึ้นเยอะเลย

         บอกแล้วไงว่าให้เล่นเบาๆบ้างก็ได้ สุดท้ายก็มาอ๊วก ให้ตายเถอะ

         ก็มันสนุกนี่นา >_<”

          ช่างเถอะ ไปกินข้าวเที่ยงดีกว่า ฉันหิวจนไส้กิ่วแล้ว

         คิลเลอร์พูดพร้อมเอาผ้าเช็ดหน้าของเขามาซับเหงื่อให้ฉัน ดีๆๆ ตอนนี้ฉันเหงื่อไหลไคลย้อยไปทั้งตัวเลย ตั้งแต่วิ่งตามโจรนั่นแล้ว แอบเหม็นสาบตัวเองนะ .,

          เราสองคนกินข้าวในสวนสนุกนี่แหละ ได้พัหเหนื่อยบ้างก็ดีเหมือนกันแหะ ฉันเล่นเครื่องเล่นเสียวยๆต่อกันตั้งหลายสามชั่วโมงแหนะ

         มาเชลส์

         อะไรค่ะพี่ชาย

         อย่าแปลกใจที่ฉันเรียกคิลเล่อร์ว่าพี่ นายนี่แก่กว่าฉันตั้งปีนึงแหนะ เค้าเรียนวิศวะปีสี่ที่มหาวิทยาลัยรัฐในกรุงเทพนี่แหละ เป็นรุ่นน้องของพี่ทีชด้วย แต่พวกเค้าไม่รู้จักกันหรอกนะ

         อย่าเรียกฉันพี่ชาย ก็บอกแล้วไง

         แล้วไงต่ออ่ะค่ะพี่คิลเลอร์^^”

         ช่างเธอเถอะนะ =_= ซอสเลอะปากเธออ่ะ

         ทำไมไม่รีบบอกล่ะ เสียภาพพจน์คนสวยหมด เอาทิชชู่มาให้หน่อย

         เธอเนี่ยน้า

         คิลเลอร์ดึงทิชชู่แต่ไม่ได้เอามาให้ฉัน เค้าเช็ดซอสที่เปื้อนออกให้ น่ารักจริงๆเลย เหมือนพี่ทีชเลย แต่ก่อนพี่ก็ดูแลฉันดีอย่างนี้แหละ

         นายมีน้องสาวมั้ย

         ฉันมีน้องสาวอยู่แล้วตั้งสามคนแหนะ

         ว้าว *O* งั้นครอบครัวนายก็มีพี่น้องตั้งสี่คนเหรอ

         เปล่าๆ ห้าคนต่างหาก ฉันมีพี่ชายอีกคนน่ะ

         วิเศษไปเลย ฉันอยากมีพี่อ่ะ เป็นลูกสาวคนเดียว เหงามากT^T”    

         แต่พวกเพื่อนฉันบอกว่าเป็นลูกคนเดียวอ่ะดีแล้ว ไม่ต้องแบ่งสมบัติกับใคร แต่ฉันว่ามันไม่ดีเลย ถ้ามีพี่หรือน้องก็จะคอยปรึกษากันได้ แต่ก่อนกับพี่ทีชก็สนิทนะ แต่พอพี่มีแฟนแล้วพี่ไม่สนใจฉันเลยอ่ะT^T

         ก็ไหนเธอบอกว่ามีพี่อยู่นี่ ที่เธอมาพักด้วยไง

         ลูกพี่ลูกน้องฉันอ่ะ ไม่ใช่พี่จริงๆหรอก แต่ก่อนก็สนิทกันนะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่เลย ฉันไม่ได้เจอพี่มาตั้งสามปีแหนะ จนกระทั่งเมื่อคืน

         เป็นลูกสาวเดียวแหละดีแล้ว จะได้ไม่ต้องแบ่งสมบัติกับคนอื่นไง

          พูดเหมือนเพื่อนฉันเดะ –_–

         กินข้าวเสร็จแล้วไปทะเลมั้ย

         ได้ด้วยเหรอ O.O”

         ฉันเงยหน้าขึ้นมาจากจานข้าวรีบถาม เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เสียงชัตเตอร์ดัง ไม่ทันแล้ว TT อีตาคิลเลอร์ถ่ายภาพหลุดฉัน อยากจะบอกว่านี่ก็ไปกลายรูปแล้วนะ ทั้งหลุด ทั้งไม่หลุด หรือถ่ายคู่กัน คิลเลอร์ชอบถ่ายรูปมากเลยล่ะ แต่จะดีมากเลยนะถ้าไม่ถ่ายภาพหลุดน่ะ –_–^

         “เลิกถ่ายภาพหลุดๆฉันซักทีเหอะ”

         ^_^

         ยิ้มแบบนี้หมายความว่ายังไงๆตูก็จะถ่ายสินะ –_–

         “แล้วนี่นายจะพาฉันไปทะเลจริงๆๆๆเหรอ”

         “ฉันไม่เคยพูดเล่น ^^

         กินข้าวเสร็จฉันก็ออกมาจากสวนสนุกทันที อยากเล่นต่อนะ แต่เสียดายข้าวที่เพิ่งกินลงไป มันคงทยอยกันไหลออกมาทางปากแน่ แหยะ ทุเรศจังอ่ะ –_– ตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนรถได้เกือบๆสองชั่วโมงแล้วล่ะ เหมือนว่าฉันจะได้กลิ่นทะเลแล้ว

         ใช่ เรามาทะเลกันจริงๆ ไม่อยากจะเชื่อเลย ฉันตื่นเต้นนิดหน่อย เออ...ความจริงตื่นเต้นมากเลยต่างหากล่ะ ฉันไม่ได้มาทะเลก็คงจะสิบปีได้แล้วมั้ง! บ้านฉันอยู่ภาคเหนือนี่ จะให้มาทะเลทุกปีคงไม่ไหวหรอกนะ

         “เธอมาทะเลครั้งล่าสุดตอนไหนเชลส์” แหม เชลส์ เรียกซะสนิทสนมเชียงนะ ว่าแต่เรื่องมาทะเลนี่ต้องโกหกซะหน่อยแล้ว

         “เมื่อปีก่อนคิล ฉันเรียกคิลเลอร์สั้นๆบ้าง นั่นทำให้เค้าหัวเราะนิดหน่อย ทำไมยะ นายยังเรียกฉันเชลส์เฉยๆได้เลย

          “เวลาคนอื่นเรียกชื่อฉันสั่นๆไม่มีใครเรียกว่าคิลหรอกนะ”

         เพล้ง! หน้าแตกอย่างแรง เผลอปล่อยไก่ไปจนได้ฉัน อับอายแก่วงตระกูลจริงๆ T//T

           “เวลาคนอื่นเรียกชื่อฉันสั้นๆก็ไม่มีใครเรียกว่าเชลส์เหมือนกันแหละ”

          “เหรออออออ”

         นี่ นายทำเสียงแบบนี้หมายความว่าไงฮะ ไม่เชื่อก็บอกมาดีๆเถอะย่ะ ไม่ต้องประชด –^–

          “แล้ว...”คิลเลอร์ทำหน้าทะเล้นใส่ฉัน พูดไม่ออกเลยอ่ะ น่ารักเกินไปแล้วนะยะ “แล้วคนอื่นเรียกชื่อเล่นนายว่าไงล่ะ”

         “ก็...บางคนก็เรียกโดม บางคนก็เรียกนิชคุณ บางคนก็เรียก...”

         “พอ! พอเลยย่ะ ฉันไม่เชื่อนายหรอก”

         “เอ๋า เธอนี่ ฉันจะโกหกเธอไปทำไมล่ะ =.=

          “ถ้าใครเชื่อนายก็โง่เต็มทนแล้วย่ะ”

          “ฮ่าๆๆๆ คนอื่นเรียกฉันว่าไงก็ช่างเถอะ แต่ถ้าเธออยากเรียกฉันว่าคิลก็ได้^^

          คิลเลอร์ยิ้มพิมพ์ใจให้ฉันจนใจฉันแทบจะละลาย ผู้ชายคนนี้หล่อโคตร ถ้าเรียนจบแล้วไม่มีงานทำฉันแนะนำให้นายไปเป็นดาราเลยนะ รับรอง ดัง!!

          “แต่ฉันอยากรู้นี่ว่าคนอื่นๆเค้าจะเรียกชื่อนายว่าไง”

          “ก็บอกแล้วไงว่าช่างเถอะ ว่าแต่เธอล่ะ คนอื่นเค้าเรียกเธอว่าไง คิกๆ”

          ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะไอ้บ้า นายตั้งใจจะหักหน้าฉันใช่มั้ยล่ะ คนอื่นเวลาจะเรียกชื่อฉันสั้นๆก็เรียกเชลส์นั่นแหละ ชิ แต่ตอนนี้ฉันคงต้องเอาสีข้างแถก่อนล่ะ

          “เรียกอั้ม หรือไม่ก็แพนเค้ก บางทีก็เรียกว่ายุนอานะ”    

          “มุกนี้ซ้ำนะ^_^

           กรี๊ดดดด เวลาพูดหักหน้าคนอื่นอย่ายิ้มได้มั้ย มันน่าอายเว้ย –O–^

           “เรียกฉันว่าเชลส์นั่นแหละ พอใจยังล่ะ –_–^

          “คิกๆๆ ระหว่างที่เราคุยกันเนี่ย เราถึงทะเลแล้วนะเซลส์”

          ฉันมองไปข้างทางก็พบว่าเรามาถึงทะเลแล้วจริงๆ *O* คิลเลอร์เปิดหลังคารถออกทำให้รับลมทะเลได้เต็มที่ ข้างทางเต็มไปด้วยต้นสน คิดถึงจริงๆ ทะเลลลลลล

         ฉันลงจากรถทันทีที่รถดับสนิท เพราะถอดรองเท้าถึงสัมผัสได้ถึงทรายหยาบๆ ถ้าฉันเล่นน้ำตอนนี้จะเป็นไรมั้ยนะ

          “แดดแรงขนาดนี้เล่นน้ำไม่ได้นะ เดี๋ยวไม่สบายเอา”

          ความฝันของฉันพังทลายลงไป TT ถ้าเล่นน้ำไม่ได้แล้วนายจะพาฉันมาทำไมฮะ TOT ฉันมองคิลเลอร์อย่างอ้อนวอน ฉันสำรวจสภาพเค้าคิลเลอร์แกะกระดุมเสื้อเซิ๊ตออก เปิดให้เห็นเสื้อกล้ามสีขาวข้างใน ที่ปกปิดบอดี้สุดเพอร์เฟกเอาไว้ ส่วนกางเกงก็พับขาขึ้นจนถึงเข่า ลมแรงๆพัดผมเขาปลิวไสว ทำไมถึงดูดีจังแฮะ

          “เล่นน้ำนิดหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้งคิล”

          “ไม่ได้^_^

          ถึงจะยิ้มก็เถอะ แต่น้ำเสียงแบบนั้นมันสั่งกันชัดๆ!!

          “งั้นเรากลับกันเถอะ เล่นน้ำไม่ได้แล้วเราจะมากันทำไม”

          อย่าดื้อสิ”

          คิลเลอร์ใช้น้ำเสียงนุ่มนวลลง ทำเอาฉันที่กำลังดื้ออยู่แทบอ่อนละทวย ฉันใจอ่อนกับคิลเลอร์ ผู้ชายที่รู้จักกันครบหนึ่งวันดีขนาดนี้ได้ไง

          “คิล~ ความจริงแล้วฉันไม่ได้มาทะซักสิบปีได้แล้วมั้ง เพราะงั้นให้ฉันเล่นน้ำทะเลเถอะนะ T_T

          ฉันทำน้ำเสียงอ้อนวอนเผื่อคิลเล่อร์จะใจอ่อน เหมือนที่ฉันใจละทวยเมื่อเค้าพูดดีๆกับฉันไงล่ะ และดูเหมือนว่าจะได้ผล คิลเลอร์ทำสหน้าลำบากใจ

          “เฮ้อ~ คงได้แค่เดินเล่นแถวชายหาดแหละ”

         “นายจะไม่ยอมลงไปเล่นน้ำจริงๆอ่ะ”

         ^_^

         “มาถึงทะเลขนาดนี้แล้วนะ”

         ^_^

         ยอมค่ะ ฉันแพ้รอยยิ้มนาย

     

         ตอนนี้เราทั้งสองมาซื้อแว่นกับหมวก แดดแรงขนาดนี้จะให้ตากแดดจังๆก็คงไม่ไหวจริงๆแหละ ความคิดที่จะเล่นน้ำทะเลของฉันหมดไปทันทีที่ผิวหนังกระทบแดดจังๆ ร้อนมากกกกกก

        “ใบนี้เท่าไหร่คะ”

        “อ๋อ ใบนี้ห้าร้อยห้าสิบเก้าบาทค่ะ”

        ห้าร้อยเก้าสิบเก้าบาท จะขายแพงไปไหนยะ ใจคิคิดจะเอากำไรซักสามเท่าเลยเหรอไง

         “สองร้อยได้ป่ะพี่”

         “ไม่ได้ค่า –_–; .ใบนี้รถได้ห้าร้อยห้าสิบบาทค่ะ”

         “โห...พี่ สองร้อยห้าสิบขาดตัวเลยอะ”

          “ไม่ได้จริงๆค่ะน้อง ^_^;; ใบนี้รถให้สุดๆห้าร้อยห้าสิบบาท รถมากกว่านี้พี่ไม่ได้อะไรเลยนะคะ”

          ไม่เชื่อย่ะ หล่อนจะบอกว่าได้กำไรจากหมวกใบนี้แค่สิบยี่สิบบาทเหรอไงฮะ เธอต้องตั้งราคามันไว้สูงเกินเท่าตัวแน่

          “คิกๆๆ”

         ใครมาหัวเราะคิกคัก เดี๋ยวแม่จับตบเลย –_–^ แต่จะเป็นใครได้ล่ะถ้าไม่ใช่อีตาคิลเลอร์ –_–++

         “หัวเราะทำไมฮะ มีอะไรน่าขำนักหนา”

         “หมวกใบละห้าร้อยห้าสิบเก้า มีที่ไหนต่อเหลือสองร้อยฮะ”

         “ทะ...ทำไมล่ะ เรื่องของฉัน นายยุ่งไรด้วย”

         คิลเลอร์ไม่สนใจคำพูดฉัน หนำซ้ำยังแย่งหมวกใบยั้ยไปแล้วเอาไปจากมือฉันอีก

         “นายจะทำอะไร”

         “ซื้อให้เธอไง เลือกแว่นสิจะได้จ่ายพร้อมกันเลย”

         “ไม่เป็นไรย่ะ ฉันจ่ายเองก็ได้”

         “ไม่เป็นไร ฉันจ่ายให้ดีกว่า”

         ฉันไม่สนใจคำพูดของคิลเลอร์ แล้วพยายามแย่งหมวกมา แต่มีเหรอผู้ชายคนนี้จะยอม เค้าไม่ยอมปล่อยมือจากหมวก ทำให้เราแย่งหมวกใบนั้นกันยกใหญ่ จนเหมือนว่าคิวเลอร์จะนึกอะไรออกจึงปล่อยมือ

         “ถ้าจะจ่ายเองก็เชิญเลยนะ แต่ถ้าเปลี่ยนใจอยากให้ฉันจ่ายให้เมื่อไหร่ก็บอกได้^^

         ทำไมบทจะง่ายมันก็ง่ายขนาดนี้วะ ช่างเถอะ ฉันเลือกแว่นตาสีชามาอันหนึ่ง พี่คนขายรับไปใส่ถุง แต่ทำไมฉันรู้สึกตะหงิดๆกับอะไรบางอย่างวะ 

         “คิกๆๆ”

          ฉึบ ฉันหันไปมองทางต้นเสียง หัวเราะคิกๆแบบนี้หมายความว่าไงยะ –_–^

           (. . ) (‘ ‘ ) ( . .)

          ไม่มี!

          (‘//’ ) (. .) ( ‘//’)

          ดูเหมือนฉันจะลืมไปจริงๆแฮะ กระเป๋าตังค์ไงล่ะ ไอ้โจรชาติชั่วนั่นมันเอาไปแล้ววว

          “คิกๆๆ”

          “ไม่เอาแล้วค่ะ”

          ฉันสะบัดหน้าแล้วรีบเดินหนีด้วยความอาย กรี๊ดๆๆๆๆ ตั้งแต่เกิดมาจาดท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยอับอายขนาดนี้มาก่อน ฉันมัน!ฉันมัน…!!

           กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด >O<

         ฉันเดินมาจนถึงชายหาดคนเดียวด้วยความอับอาย อับอายมากถึงมากที่สุด ตั้งแต่คลานออกมาจากท้องแม่นี่ถือเป็นเรื่องน่าอายขายขี้หน้าที่สุดในชีวิตฉัน แงๆๆ

         ผลุ๊บ!

        มีหมวกมาสวมอยู่บนหัวของฉันด้วยฝีมือของคนที่ทำให้ฉันขายหน้าบ่อยๆ คิดจะตบหัวแล้วลูบหลังหรือไงฮะ

        “มาเดินตากแดดแรงๆอย่างนี้ เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก”

         ฉันสำรวจคิลเลอร์ เขาสวมแว่นกันแดดสีชาสีเดียวกับที่ฉันเลือกไว้ในตอนแรก กับหมวกปีกเล็กๆ เสื้อเซิ๊ตถูกเปิดออกเผยให้เห็นเสื้อกล้ามสีขาวข้างใน ที่ปกปิดบอดี้สุดเพอร์เฟกเอาไว้ กับกางเกงที่พับขาขึ้นจนถึงเข่า นี่ฉันมาเที่ยวทะเลรอบสิบปีกับดาราเหรอเนี่ย

         “แสบตามั้ย”

         คิลเลอร์สวมแว่นกันแดดให้ฉัน ใบหน้าของเราสองคนอยู่ใกล้กันมาก นั่นทำให้ใจของฉันสั่นไม่เป็นจังหวะ ฉันมองใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของคิลเลอร์ เค้ามีเสน่จริงๆ...

         “เธอมีแฟนหรือยัง”

         “แฟนงั้นเหรอ...”

         คำว่าแฟนทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดอีกครั้ง เหมือนมีลูกดอกปักอยู่ที่อก ฉันลืมความทุกข์นั้นไปได้ตั้งครึ่งวันเลยแล้วเหรอเนี่ย เพราะคิลเลอร์แท้ๆ

         “ทำไมเธอทำหน้าเศร้าขนาดนั้นล่ะ –*–

         “ฮึก...ฮืออออ”

         “เฮ้ย เธอร้องไห้ทำไม O_O

         ฉันโผเข้ากอดคิลเลอร์อย่างน่าไม่อาย เมื่อนึกถึงผู้ชายที่ทำร้ายฉันอย่าแสนสาหัสทำให้ฉันร้องไห้ออกมาอีกครั้ง นั่นคงเป็นเพราะฉันเจ็บปวดกับเรื่องนี้มากและไม่อาจลืมมันได้ไปง่ายๆ

        ...หรือเพราะคิลเลอร์ให้ความสุขกับฉันได้มากกว่าผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าแฟนฉันกัน!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×