ตำนานกระบี่.....ปฏิญาณหงส์มังกร
สูงส่งต่ำต้อย ยากไร้ควบคุม ชะตากำหนด ยากนักจักฝืน....
ผู้เข้าชมรวม
685
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
อ๊า กก กกกก.....เสียงหวีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดขั้วหัวใจ หญิงสาวหลายจากชายป่าทางตอนเหนือของวังหลวง เทียนกังนางในผู้มีวิทยายุทธ์สูงที่สุดของตำหนักพระมเหสีอุ้มห่อผ้าที่ปัก ลายหงส์โอบมังกรอย่างวิจิตรไว้ในอ้อมแขน
ใน ห่อผ้านั่นปรากฎทารกน้อยคน หนึ่งกำลังหลับไหลในห้วงนิทรา ราวกับนอน อยู่บนเปลไกว ไร้ซึ่งวี่แววตื่นตระหนกแต่อย่างใด ขณะที่ร่างกายของนางในผู้นั่นอาบชุ่มไปด้วยเลือดประหนึ่งสวมอาภรณ์สีชาดก็มิ ปาน
“ขอ ทรงอดทนไว้เพคะองค์ชาย เทียนกังยอมถวายชีวิตเพื่อให้พระองค์ปลอดภัย”เทียนกังสาวงามวัยยี่สิบเศษพูด พร้อมกับเร่งฝีเท้าด้วยกำลังทั้งหมดที่นมี ณ ขณะจิตนั้นนางคิดเพียงว่าจะมีทางใดที่นำโอรสน้อยไปสู่ที่ที่ปลอดภัยอันตราย ที่รุดตามเข้ามาดุจเงาตามตัว จนกระทั่งรักษาระยะห่างกับกลุ่มคนลึกลับได้ นางหยุดสายตา ณ คอกพักม้าของโรงเตี๊ยมทางด้านตะวันตกของเมือง ด้วยสภาพของตนในตอนนี้หากจะรักษา ชีวิตตนเองไว้ยังลำบาก แต่ที่ยอมมิได้คือชีวิตน้อยๆ อันมีค่ายิ่งในอ้อมกอดของตน แต่แล้วก็ปรากฏความหวัง เมื่อสังเกตุเห็นเกวียนสินค้าที่ประดับธงจากหมู่ตึกหยกขาว ที่ขึ้นชื่อว่ามียอดยุทธ์ชั้นแนวหน้าในยุทธภพอยู๋ไม่น้อย จึงนำทารกน้อยใส่ไว้ในเกวียนสินค้าของหมู่ตึกหยกขาว ในใจได้แต่หวังให้เด็กน้อยที่ไม่รู้ทุกร้อนในห่อผ้านี้ ได้มีโอกาสเติบใหญ่ซ้ำยังอาจดวงดีได้เป็นศิษสำนักใหญ่อย่างหมู่ตึกหยกขาว
จาก นั้นเทียนกังก็ใช้ผ้าขาวคลุมสินค้าในเกวียนนั้น มาห่อแสร้งประหนึ่งเป็นทารกนั่น พร้อมกับพยุงร่างอันอ่อนแรงของตน กระโจนไปยังอีกทิศทางหนึ่งเพื่อล่อ อันตรายให้ห่างราชโอรสมากที่สุด.....
ราตรีสีแดงฉานที่ผ่านพ้นไปด้วยความเงียบงัน ในที่สุดก็ปรากฏพระอาทิตย์ชักนำรุ่งอรุณสีทองออกมาจากแนวทิวเขา ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ ถึงข่าวการสิ้นพระชนม์ขององค์พระมเหสีจากในวัง ปรากฏหญิงงามวัยแรกรุ่นนางหนึ่ง คาดเดาอายุ ราวยี่สิบต้นๆ ทว่าแฝงไว้ซึ่งกลิ่นอายแห่งยอดยอดยุทธ นางคือหลี่ซุยเมี่ยนแห่งหมู่ตึกหยกขาว กระทั่งลงจากชั้นสองของโรงเตี๊ยมด้วยท่าทางของสาวงามแต่เย็นชายิ่ง หลี่ชุยเมี่ยนมุ่งตรงไปที่รถสินค้าซึ่งจัดแจงบรรทุกสิ่งของอย่างครบคลัน เพื่อนำขบวนสินค้ากลับยังหมู๋ตึกหยกขาว พลันสายตาเหลือบไปเห็นผ้าสีขาวลายวิจิตรเกรอะกรังด้วย เลือดสีแดงซึ่งบัดนี้กลายเป็นสีดำคล้ำซึ่งโอบหุ้มทารกน้อยผิวขาวหน้าตาสะอาด สะอ้านต่างกับผ้าที่ห่อร่างไว้ราวกับไม่ได้ผ่านเรื่องเลวร้ายมาเช่นเดียวกัน กันผ้าผืนนั้น ทารกน้อยได้หลับสนิทอยู่ในห้วงนิทรารมณ์
“เด็กชายผู้นี้เป็นใครหนอ ฤามารดาจะมีภัยถึงตัวจึงได้ทิ้งบุตรไว้เยี่ยงนี้ สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนักยิ่งมีข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระมเหสีอีก รีบเดินทางเถอะ ถือเสียว่าวันนี้พระพุทธองค์มอบบุตรชายที่น่ารักให้ข้าแล้ว”หลี่ซุยเหมี่ยนพูดพลางอุ้มทารกน้อยไว้ในอ้อมอกแล้วควบม้าออกจากโรงเตี๊ยมไปทันที......
ณ วังหลวง องค์จักรพรรดิทรงล้มป่วยหนักจากการหายตัวไปขององค์รัชทายาท และการสิ้นพระชนม์ลงหลังจากการสูญเสียพระมเหสีไม่นานนัก พระโอรสที่เกิดกับพระสนมหยางฮัวจึงถูกสถปนาขึ้นเป็นจักพรรดิตั้งแต่อายุ ๘ ขวบ โดยมีพระสนมหยางฮัวผู้ทรงสิริโฉมล่มเมือง ซ่งเตียนโม่วขันทีเฒ่าผู้มีแววตาประดุจพญาเยี่ยวดำรงศักดิ์เป็นลุง ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาในเรื่องบริหารงานบ้านเมือง ควบคุมขุนนาง การทหารและหน่วยอารักขาทั้งหมดนับว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในขณะนี้ ถือได้ว่ามากกว่าฮ่องเต้ที่ไม่ประสาราวกับหุ่นเชิดก็ว่าได้ หลังจากฮ่องเต้พระองค์นี้ครองราชย์พระสนมหยางฮัวผู้พยาบาทได้สั่งให้มีการ ฆ่าล้างบ้านสกุลเฝิงของอดีตพระมเหสีทันทีด้วยข้อหากบฏแผ่นดิน
๑๕ ปีต่อมา....พรรคมารกิเลนดำเหิมเกริมคิดกลืนกินยุทธภพ โดยการนำของประมุขพรรควรยุทธสูงสุง “ติวเหยี่ยนสวี่”สำเร็จวิชา ตัดฟ้าดินขั้นห้า ใช้อากาศต่างกระบี่เรียวบางคมกริบ รวดเร็วรุนแรงอยากต้านทาน จึงมีห้าสำนักตั้งตนเป็นพรรคธรรมมะเพื่อต่อต้านพรรคกิเลนดำ วังอัปสร,สำนักสกุลหมิง,วัดเผิงไหล,หอทิวากลับและหมู่ตึกหยกขาว พวกเขาเรียกตนเองว่า “ห้าสมาพันธ์กระบี่”
ผลงานอื่นๆ ของ กระบี่แดง ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ กระบี่แดง
ความคิดเห็น