คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 3 : PARTY
Chapter.3 PARTY
เวลาล่วงเข้าวันที่สอง ซึ่งวันนี้เหมือนจะเป็นวันของติช่า
เนื่องจากปิยะรัฐได้จัดการตระเตรียมงานไว้อย่างเสร็จสรรพตั้งแต่ค่ำเมื่อวาน
ทำให้บรรยากาศดูเรื่อยๆไม่ฉุกละหุก เหลือเพียงตกแต่งเล็กน้อยก่อนงานจะเริ่มในช่วงเย็นที่สระว่ายน้ำริมคอนโด
เพราะที่นี่มีทั้งสระว่ายน้ำบนดาดฟ้าแบบส่วนตัวเงียบๆ
หรือจะเป็นสระว่ายน้ำด้านล่างที่คนรักการปาร์ตี้จะมาสังสรรค์ก็แล้วแต่จะเลือก
และใครๆก็ย่อมรู้ว่าตอนเช้า...ควรเป็นเวลาเริ่มวันใหม่ที่แสนสดใสกับโอวัลติน
ไม่ใช่การมายืนเถียงนั่งด่าหาเรื่องทะเลาะกัน...ใช่มั้ย
“เฮ้ย
ทำไมปัญหาเยอะอย่างนี้วะ”
“รับไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ดิวะ”ทั้งน้ำทิพย์และศิรินที่เพิ่งลงมาได้ยินเสียงคุ้นหูก่อนที่ทั้งคู่จะมองหน้ากันแล้วสาวเท้าไปหาต้นเสียงที่ดังมาจากสวนที่ถูกจัดให้เป็นสถานที่พักผ่อนด้านหลังของคอนโด
ซึ่งเป็นทางผ่านไปที่ล็อบบี้โรงแรมพอดี
“ทำอะไรกันน่ะ”เสียงที่ดังมาแต่ไกลของน้ำทิพย์ทำให้ทั้งคู่แยกจากกันคนละก้าวโดยอัตโนมัติ
“ไม่มีอะไรค่ะ แค่ซ้อมบทการแสดงกันเฉยๆ”น้ำหวานเองที่เป็นฝ่ายตอบ
เพราะตอนนี้จีน่ากำลังตกอยู่ในสภาวะโดนจ้องโดยสายตาคาดคั้นจับผิดของเมนเทอร์บี
“การแสดง? การแสดงอะไรคะ บอกพี่คริสซิ”ศิรินเอ่ยถามด้วยความประณีประนอม
ไม่ใช่ไม่รู้ว่าน้ำทิพย์นั้นเป็นคนใจร้อนพูดตรงแถมเก็บอารมณ์ได้ไม่มากก็ระเบิดลง
เธอจึงยื่นมือเข้ามาช่วยเด็กๆแต่ก็ถามถึงเหตุผลไปด้วย
“รับน้องที่มหา’ลัยของจีน่าเองค่ะ”ถึงคนถามจะตั้งท่าคิดชั่วครู่ แต่ทว่าคนที่ถามต่อกลับเป็นเจ้าของดวงตาคมที่จับผิดมาตั้งแต่ต้น
“ไหน
ต่อบทเมื่อกี้ให้พี่ฟังอีกรอบหน่อยสิ จะได้ช่วยดูการแสดง
ถ้ามันเฟค...จะได้ช่วยกันแก้”ศิรินเห็นท่าไม่ดีจึงรีบชวนน้ำทิพย์ออกมาเพราะเธอเองก็ใช่ว่าจะดูไม่ออกว่าเด็กทั้งสองคนนี้มีปัญหากัน
“ไม่ได้หรอกคริส
คริสก็รู้ว่าถ้าใครมีปัญหาทะเลาะกันระหว่างสามเดือนนี้จะต้องโดนถอดออกจากพรีเซ็นเตอร์สินค้าคนละหนึ่งรายการ
เมื่อวานพี่เต้ก็บอก...”แม้ตอนนี้จะยังไม่ได้โดนถอดแต่หน้าก็ถอดสีไปเรียบร้อยแล้วสำหรับทั้งคู่...ก็แหม
เงินค่าตัวพรีเซนเตอร์มันบาทสองบาทที่ไหน!!!
“เดี๋ยวคริสพาไปเลี้ยงข้าวข้างนอกเลยเอ้า
นะบี...เห็นแก่ลูกทีมคริสเหอะ”เมื่อได้ยินคำว่า ‘เลี้ยงข้าวข้างนอก’ ก็ทำเอาจอมจับผิดหูผึ่ง ก่อนจะแสร้งยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา
“อืม
บีว่าจะสายแล้ว
ไปกินข้าวกันเถอะคริสเดี๋ยวไม่ทันมื้อเช้า...”แม้จะเบี่ยงประเด็นแต่ก็ไม่วายหันไปพูดกับสองสาวที่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก
“อย่าตามมาช้าล่ะ...เดี๋ยวจะโดนพี่เต้ว่าเอา”แม้ว่าก่อนหน้านี้ความสามัคคีจะเป็นศูนย์
แต่บัดนี้กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความสมานฉันท์ทั้งจีน่าและน้ำหวาน
“ค่ะ/ค่ะ!!!”
หลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแต่ละคนก็แยกย้ายกันไปทำงาน
แต่คนที่ว่างงานอย่างน้ำทิพย์ ศิรินและเฌอมาลย์ กลับไม่ได้อยู่ที่คอนโด ตรงข้ามกับลิลลี่และเจสซี่ที่สนุกกับการพักผ่อนภายในคอนโดตัวเองเป็นอย่างยิ่ง
“คริสเลี้ยงข้าวตามสัญญาแล้วกัน”ศิรินพูดพลางตรวจเช็คโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ให้พร้อมสำหรับมื้ออาหาร
บีพยักหน้าโดยที่คริสไม่รู้เลยว่าภายใต้ใบหน้าอารมณ์ดีแบบเด็กสามขวบที่ผู้ใหญ่เลี้ยงไอศกรีมนั้นแฝงไปด้วยรอยยิ้มสุนัขจิ้งจอก...
“เอ้
คริส แต่บีว่า...เราเพิ่งทานข้าวเช้ากันมาเองนี่
บียังอิ่มอยู่เลย...”เมื่อมาถึงห้างสรรพสินค้าไม่นาน บีก็เริ่มแสดงละครที่ตัวเองรับหน้าที่เป็นทั้งคนเขียนบทและนักแสดงเองอย่างคล่องปาก
“อ้าว
แล้วเอายังไงอ่ะบี...กลับก่อนเหรอ”คริสถามแบบงงๆ
อันนี้ไม่เข้าใจว่าถ้าจะทักว่าไม่หิวตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบเข้าห้างแล้วจะมาเพื่อ...
“บ้าเหรอคริส
นี่รู้จักป่ะเซฟเวิร์ลเซฟไลฟ์อ่ะ
ประหยัดพลังงานช่วยชาติมาแล้วต้องเอาให้คุ้มดิ”แถไถแบบแมนๆเกรียนๆแถมภาพพจน์ดีๆ สไตล์คนบีบีของแท้
“หรือว่าไปกินอย่างอื่นเบาๆแทนดี...ไอติมมะ”ข้อเสนอของคริสทำให้คนตัวสูงที่ขยันคำนวณเรื่องผลประโยชน์เลิกคิ้วแบบไม่เห็นด้วยอย่างแรง
“ได้ไงคริส
เลี้ยงข้าวคือเลี้ยงข้าว...มาเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นงี้บีขาดทุนสิ”ยังไม่ทันที่คนหมวยๆจะได้ตอบอะไรคนบีๆก็มีแฟนคลับเข้ามาหาทั้งคู่ด้วยท่าทีตื่นเต้นสุดๆ
“พี่คริสพี่บี
มาด้วยกันด้วยอ่ะ”คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าเอ่ยนำขึ้นก่อนมีลูกคู่รับเรียบร้อย
“หูยยยย”รับด้วยเสียงที่เหมือนจะลากยาวไปสะพานพุทธ
“ขอลายเซ็นได้มั้ยคะ”แม้คริสจะมีท่าทางงงๆกับอาการดี๊ด๊าของแฟนคลับแต่ก็ยอมถ่ายรูปด้วยเหมือนอย่างเคย
จนเหล่าเอฟซี ‘บีคริส’ อดที่จะกรี๊ดกร๊าดกับความ
#ศิรินทำจากอะไรทำไมน่ารัก และความ #พี่บีคนแมน
ไม่ได้เลยจริงๆ
“เอ่อน้องพี่ถามอะไรหน่อยสิ...”คริสถามสีหน้ายังมึนพร้อมชูรูปคู่ของเธอและน้ำทิพย์ที่เกิดจากการตัดต่อที่เป๊ะปังอลังเรียลเวอร์ที่ทีมงานเอฟซีนั้นปริ้นพกติดตัวมาราวกับรู้ล่วงหน้าว่าต้องเจอพวกเธอแน่ๆ
“บีคริสคืออะไรอ่ะไหนเล่าให้ฟังซิ”ทั้งแฟนคลับและน้ำทิพย์เองที่ยืนเซ็นลายเซ็นอยู่สตั้นไป
3 วิ ก่อนที่ทั้งหมดจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน
บีพยักหน้าเป็นเชิงบอกทุกคนว่า
‘เดี๋ยวพี่เล่าเอง’ ก่อนที่จะเอ่ยปากบอกให้น้องๆที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษารีบกลับไปเรียน
“ตั้งใจเรียนนะจ๊ะสาวๆ”คำหวานก็มาท่าทางก็มี
ขยิบตาส่งให้ใจละลายกันไปหนึ่งทีพร้อมมีเสียงกรี๊ดกลับเบาๆว่า...
“เขาหล่ออ่ะแก
ผัวช้านนนน...”และอะไรอีกก็ไม่รู้ที่คนบีๆไม่ได้สนใจแล้วเพราะยังหยุดขำกับท่าทางไม่รู้เรื่องรู้ราวของศิรินไม่ได้...
“นี่คริส
ถามจริง...ไม่รู้จริงดิ”หน้าหมวยๆงุยแทบจะทันทีที่ได้ยินคำถาม
“ไม่รู้ดิ
ถ้ารู้จะถามมั้ยล่ะ”
“ฮ่าๆ..โอ๊ย
คือยังไงดี...ที่บีเคยบอกตั้งแต่ตอนก่อนที่เราจะถ่ายอิมเมจว่าเราเป็นคู่จิ้นอ่ะ...จำได้ป้ะ”น้ำทิพย์พยายามอธิบายอ้อมๆ
ขณะเดินเตร่ไปแถวร้านอาหารอิตาเลี่ยน
“คู่จิ้น...แบบ
คือ...เป็นแฟนกันไรงี้เหรอ”ศิรินแทบกัดลิ้นตัวเองเพราะรู้ว่าประเด็นคำถามนี้บีคงไม่ยอมเลิกราง่ายๆ
แถมส่งยิ้มโชว์เขี้ยวมหาเสน่ห์...มันเป็นเขี้ยวมหาเสน่ห์จริงๆนะ
เมียรักเมียหลง...ไรท์ก็หลง
เดี๋ยวๆ
“อื้ม
เอาง่ายๆคือเค้าเห็นว่าเคมีเราเข้ากันดี...น่าเป็นแฟนกันน่ะ”แม้จะเดินอยู่ข้างๆกันแต่ด้วยความสูงของน้ำทิพย์ทำให้เห็นได้ง่ายๆเลยว่าตอนนี้ใบหน้าของคนตัวเล็กนั้นแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุก
น่ารักชิบ...
“บีว่า...ไปหากาแฟกินกันเหอะ”เจ้าของร่างสูงเดินนำไปที่ร้านกาแฟสไตล์ฮิปสเตอร์ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านนัก
เนื่องจากวันนี้เป็นวันจันทร์มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ก็เข้างานกันหมดเรียบร้อย
“เอ่อ...อื้อ”ศิรินไม่รู้ตัวเลยว่าร่างสูงที่เดินมาด้วยกันจะมีลูกไม้อะไรมาชวนเธอนั่งดื่มกาแฟ
รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ต้องหาทางออกจากสภาวะ ‘เขิน’
ของตัวเองให้ได้ก่อนจึงตามน้ำไป
“ดาร์ค
เอสเปรสโซ่ เย็น ไม่ฟองนม แก้วกลางค่ะ คริสล่ะ...”ที่สั่งก่อนไม่ใช่ว่าร่างสูงจอมเจ้าแผนการณ์คนนี้เร่งรีบอยากไปที่อื่นเสียเต็มประดา
แต่เพราะต้องการเก็บรายละเอียดให้ถี่ถ้วนต่างหาก....
“คาปูชิโน่ปั่นเย็น
หวานน้อย ไม่ครีม ไม่วิป แก้วกลางค่ะ”น้ำทิพย์แสร้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด
แต่กลับเลือกที่สมุดโน้ตแล้วบันทึกข้อมูลสำคัญอย่างแรกลงไป
“คาปูชิโน่ปั่น
เย็น หวานน้อย ไม่ครีม ไม่วิป แก้วกลาง”*กาแฟแก้วแรกของเดทแรก : )
ช่างกล้านะคะน้ำทิพย์...เดทแรก!!!
“คริสชอบคาปูชิโน่เหรอ”บีถามขึ้นหลังจากทั้งคู่เลือกนั่งลงตรงมุมในของร้านที่ไม่ค่อยสะดุดตาคนที่เดินผ่านมากนัก
แม้ว่าส่วนสูงนางแบบของน้ำทิพย์กับเสื้อยืดเอวลอยสีขาวที่เจ้าตัวชอบจับมาแมทซ์กับกางเกงยืนขาขาดๆเซอร์ๆจะทำให้เธอดูเด่นมากก็ตาม
“อื้ม
คริสว่ามันพอดีดี...คริสชอบอะไรที่พอดีๆ”บีกระตุกยิ้มมุมปาก...พลาดซะแล้วศิริน
“แล้วบีนี่พอดีกับคริสมั้ยอ่ะ”ร่างเล็กหันขวับมาที่ผู้พูดโดยอัตโนมัติ
พอดีกับที่พนักงานสาวเสิร์ฟของร้านนำกาแฟมาเสิร์ฟพอดี
“ขอบคุณค่ะ
อ้อน้องคะ พี่ขอบัตเตอร์บราวน์นี่อีกที่นะ”นอกจากน้ำทิพย์จะโยนอ้อยใส่แฟนคลับและหยอดศิรินแล้ว....รอยยิ้มโชว์เขี้ยวเมื่อครู่ก็ทำเอาพนักงานสาวหน้าขึ้นสีอีกด้วย
จ่ะ...พ่อคนหล่อ
“ว่าไง...”ร่างสูงทวงคำตอบเมื่อเห็นคนถูกถามนั่งเงียบปนอึ้งนิดๆ
“บี...”
“หืม?”
“นี่ไม่ได้จีบช่ะ”น้ำทิพย์ยิ้มน้อยๆพลางส่ายหน้า
คนตัวเล็กก็มีสีหน้าโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด
“หยอดขนาดนี้ยังไม่รู้อีกเหรอว่าจีบ”
“...”ศิรินก็สตั้นสิคะรออะไร
“บี...คริสมีแฟนแล้วนะ”น้ำทิพย์โปรยยิ้มใส่พนักงานเสิร์ฟอีกครั้งเมื่อบัตเตอร์บราวน์นี่ของโปรดมาเสิร์ฟถึงโต๊ะ
อากัปกิริยาของน้องพนักงานก็เป็นดังเดิม แต่เอาเถอะ...
ใครเห็นน้ำทิพย์ยิ้มให้ในระยะรัศมี
30
เซนติเมตรไม่เขินก็ให้มันรู้ไป
เอมคนแมนผู้เป็นแฟนหมีน้ำก็พ่ายแพ้ให้แก่ความผัวนี้...
“อย่ามา...คริส
บีรู้จากอัพว่าคริสเลิกกับเซนต์ไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน”สาวหมวยขมวดคิ้วเรียวเข้าหากันโดยฉับพลัน
พลาดให้อัพรู้ไปได้ยังไง...
“เอาน่าคริส
สบายๆไม่เครียด..บีจีบก็เหมือนปกตินี่แหละการทำให้คนที่เราสนใจอึดอัด
ไม่ใช่สไตล์การจีบของน้ำทิพย์ โอเค้”พูดจบก็ยกแก้วเอสเปรสโซ่ขึ้นมาดื่มพร้อมชิมเค้ก
“รสชาติเหมือนเดิมเลยแฮะ”พูดด้วยความปลื้มปริ่มพร้อมสีหน้าฟินเฟ่อร์แบบฉบับน้ำทิพย์ตามด้วยการถ่ายรูปอวดของกินกับเมียๆโดยการโพสต์ลงไอจีแบบรัวๆ
“...”แต่คนตัวสูงก็ต้องเลิกคิ้วเมื่อเห็นคริสเงียบไปนาน
“เฮ้คริส
โอเคป้ะเนี่ย...”
“อ่อ..โอเค”ร่างเล็กเกาหัวตัวเองแก้เก้อแล้วแสร้งดื่มคาปูชิโน่ของตัวเองต่อไป
“คริสชิมเค้กดู
อร่อยนะ”แม้จะเขินๆแต่ศิรินก็ยอมอ้าปากชิมเค้กที่อีกฝ่ายป้อนแต่โดยดี
“ฮึ้ยยย
อร่อยอ่ะ”บีคิดว่าบีเห็นดาวระยิบระยับในตาของคริสเหมือนกับที่เห็นในโดราเอมอนตอนที่โนบิตะเห็นของวิเศษดีๆน่ะนะ
“ร้านนี้บีมากินบ่อยอ่ะ
ที่จริงน้ำแครอทปั่นผสมสตรอเบอร์รี่ก็อร่อยนะ”เมื่อเห็นอีกฝ่ายตาลุกวาวก็อดที่จะอมยิ้มกับความเป็นเด็กของยัยหมวยที่อายุมากกว่าไม่ได้
“มีน้ำอะไรอีกอ่ะๆ
แนะนำหน่อยสิ คริสชอบมากๆ”บีทำท่าคิดก่อนจะตอบแบบฉบับคนบีๆ
“ฮืม...บลูเบอร์รี่โยเกิร์ตก็ดีนะ”
“หืม...โยเกิร์ตของโปรด...”เสร็จโจร..น้ำทิพย์บันทึกข้อมูลที่สองลงในเครื่องก่อนจะหันมาตอบต่ออย่างคนอารมณ์ดี
“น้ำทิพย์ก็อร่อยนะ
สนใจมั้ยคะ”
“ก็น่า..เอ๊ะ! บี!!!”
สรุปคือวันนี้ทั้งวันของศิรินหมดไปกับการเดินห้างกับน้ำทิพย์
โดยที่ตอนเที่ยงก็ได้ไปฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นของโปรดคนบีบีเค้า
หลังจากนั้นคนตัวสูงก็ชวนเธอไปช็อปปิ้งด้วยเหตุผลที่ฟังขึ้นมากๆ ว่า ‘บีไม่ได้ช็อปนานแล้ว คริสต้องไปเป็นเพื่อนบี...’ มันมาพร้อมรอยยิ้มโชว์เขี้ยวมหาเสน่ห์ตามเคย
จากนั้นบีก็พาคริสเข้าออกร้านรองเท้า กระเป๋าและเครื่องประดับเป็นว่าเล่น เพียงแต่เมื่อกลับถึงคอนโด
กลับเป็นฝ่ายคริสที่ได้กระเป๋าและรองเท้ามาสะสมเพิ่มในตู้เสื้อผ้า....
และคนที่หมดเงินไปหกหลักกลับเป็นคนตัวสูงที่เดินตามเข้ามาแทน
“ความจริงบีไม่เห็นมีความจำเป็นต้องซื้อให้คริสมากมายขนาดนี้เลยนี่นา...”น้ำทิพย์เกือบหลุดขำกับท่าทางเหมือนเสียดายเงินของคริส
ทั้งที่จริงๆแล้วตอนเลือกซื้อของนั้นตาลุกวาวยิ่งกว่าแมงมุมลายตัวนั้นอีก
โดยเฉพาะอะไรที่เป็นรุ่นลิมิเต็ดหรือคอลเลคชั่นใหม่
ส่วนป๋าน้ำทิพย์น่ะเหรอ...ได้มาแค่กระเป๋าสตางค์รุ่นท็อปของ
CELINE
ราคาแค่หมื่นนิดๆ...
อีกแสนกว่าๆก็หมดไปกับคนตัวเล็กที่นั่งชื่นชมคอลเลคชั่นใหม่อยู่ข้างๆนี่แหละ!!!
“บอกแล้วไง...ว่าจะจีบ”
“จะจีบมันให้แค่ของแบบนี้ได้ด้วยเหรอ”บีคิดว่าอย่างน้อยคริสก็เริ่มกล้าที่จะเล่นกับความรู้สึกตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว
“ใครบอกจะให้แค่ของ...ยังไม่ทันไรก็ด่วนตัดสินซะแล้วนะคุณศิริน”ทั้งสองจ้องตากันอยู่นาน
เหมือนเป็นการเล่นเกมกันกลายๆว่าใครตกหลุมรักก่อนคนนั้นแพ้...
“พี่บี.../พี่คริสค๊า~”เสียงลากยาวของเจสซี่และลิลลี่ที่ดังทะลุประตูเข้ามาทำให้ทั้งคู่ต้องยุติเกมจ้องตาเพียงเท่านั้น
“งั้นบีออกไปเปิดประตูนะ”เมนเทอร์สาวออกไปเปิดประตูไม่นานก็กลับเข้ามาชวนคริสไปปาร์ตี้ที่ด้านล่างของคอนโด
ซึ่งดูเหมือนว่างานจะเริ่มไปได้นิดหน่อย พวกเด็กๆก็เริ่มชิมแอลกอฮอล์แต่หัววัน
เพราะบีได้ยินมาว่ามีบาร์เทนเดอร์ที่เป็นหญิงสาวซึ่งมีข่าวมาหนาหูว่าเลือกเครื่องดื่มได้รู้ใจนักดื่มที่สุดมาเติมสีสันในปาร์ตี้นี้ด้วย
ทั้งบีและคริสเลือกที่จะไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะรู้ดีว่าถึงตอนกลับมาก็คงมีกลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งไปทั่วเป็นแน่
แถมชุดในตอนนี้ก็ไม่ได้น่าเกลียดหรือเต็มยศจนเกินไป
ระหว่างที่ลงลิฟต์
น้ำทิพย์รู้สึกว่าคนตัวเล็กมีท่าทีกังวลจึงเอ่ยปากถามอย่างเสียมิได้
“คริสมีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่า...”
“คือบี...”คริสอึกอักไม่กล้าสบตาคนถาม
ลิฟต์คือส่วนที่อันตรายที่สุดเป็นอันดับสองของคอนโดรองลงมาจากห้องนอน
“หือ?”
“คริสว่า...อืม...ถ้าคริสเมาแล้วเกิดบีเมา...แล้ว
เราอยู่ห้องเดียวกัน...คือแบบ วันนี้...คริสขอไปนอนกับพลอย...”น้ำทิพย์เกือบกลั้นขำไม่อยู่เมื่อเห็นคนตัวเล็กที่เอานิ้วชี้จิ้มชนกันเหมือนเด็กขออนุญาตแม่ไปซื้อขนม
“อ๋อ
คริสกังวลเรื่องนี้เองน่ะเหรอ งั้น...เดี๋ยวตามบีมานี่...”บีกึ่งลากกึ่งจูงคริสออกมาจากลิฟต์
มาที่ศาลพ่อพรหมใหญ่ด้านหน้าสุดของคอนโด
แม้จะมีลูกทีมมองตามมาอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้มีใครคิดจะตามทั้งคู่ออกมาจากปาร์ตี้ที่สระว่ายน้ำ
“คริส
คราวนี้...เอาจริงจังเลยนะ”บีพูดก่อนจะจุดธูปแล้วเอ่ยคำที่ศิรินไม่คาดคิดออกมาเสียงดัง
“ข้าพเจ้า
นางสาวน้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ ขอสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ที่แห่งนี้
ว่าตลอดเวลาที่ข้าพเจ้าอยู่ร่วมกับ นางสาวศิริน หอวัง
ข้าพเจ้าจะไม่แตะต้องหรือกระทำกายทุจริตต่อนางสาวศิริน หอวัง
หากไม่ได้รับความยินยอมด้วยสติสัมปชัญญะครบถ้วน หากข้าพเจ้า
กระทำผิดต่อคำสาบานนี้...ขอให้ชีวิตของข้าพเจ้าวิบัติยุ่งเหยิงไม่มีที่สิ้นสุด
ได้รับความโกรธเกลียดและทนทุกข์จนกว่าจะสิ้นลมหายใจ สาธุ”สาบานเรียบร้อยก็ปักธูปลงในกระถางธูปทันที
การกระทำนี้เป็นอะไรที่อยู่เหนือความคาดหมายของศิรินเป็นอย่างมาก
“คนอะไรแมนชิบหาย
หล่อ...เค้าหล่อมากกกก”เสียงนักเรียนหญิงที่เดินผ่านคอนโดซึ่งหยุดดูเหตุการณ์อยู่เมื่อครู่ลอยข้ามรั้วเข้ามาถึงในคอนโด
“ปะคริส...Let’s
go to the party”พูดเสร็จก็เดินจับมือกันเข้าไปในงานโดยที่หารู้ไม่ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่ในสายตาใครบางคนตลอดเวลา
"....คนจริงซะด้วยนะ
บี”
ชื่อตอนเหมือนจะตอลแหล
เอาเป็นว่าเป็น 50% แรกละกันนะ
พี่บีคนคูลคนหล่อก็งี้อ่ะ ต้องใจความหล่อนะ555
เฮียแกเอาจริงนะ เฮียแกจีบจริงนะ
ปล.การปรับฟ้อนไม่มีผลกับแอพเพราะเรารู้ว่าส่วนมากอ่านจากแอพกัน
แต่เว็บมันอ่านง่ายกว่าเดิมนะ เพราะเราเปิดเว็บเพื่ออัพแล้วอ่านรู้สึกลายตามาก
ด้วยรัก
ไรท์
~50%~
“แหมๆ เมื่อกี้เห็นนะว่าพี่บีแอบไปไหนมา”ติช่าเดินเครื่องแซวยกใหญ่หลังจากที่น้ำทิพย์นั่งลงที่เก้าอี้บาร์ พร้อมสั่งเครื่องดื่ม
“อยากได้สก็อต
วิสกี้ เอาแบบเพียวๆเลยนะคะคนสวย”บาร์เทนเดอร์สาวเลิกคิ้วน้อยๆก่อนเอ่ยทักอย่างผู้ชำนาญการ
“ดื่มเพียวๆตั้งแต่เริ่มงานไม่ดีมั้งคะ
แนะนำเป็นโมฮิโต้เบาๆก่อนมั้ยคะคุณบี”บีไม่แสดงอาการแปลกใจที่คนตรงหน้ารู้จักเธอ แต่กลับเป็นติช่าที่สงสัยเสียแทน
“พี่บี?
ยูรู้จักชีได้ยังไง?”ตอนนี้ตาของติช่ามีแต่เครื่องหมายคำถามแทบจะจับมาเขย่าๆเทผสมรวมกันเป็นค็อกเทลอีกแก้วยังได้
แต่เมนเทอร์สาวกลับไม่ได้สนใจลูกทีมคนโปรดมากนัก ก่อนเอ่ยปากสั่งอีกครั้ง
“งั้นเอาเป็นเพียวมาร์ตินี่
ย้ำนะคะว่าเพียว สูตรดั้งเดิม
ได้ไหมคะ”บาร์เทนเดอร์คนสวยชั่งใจเล็กน้อยก่อนจะผสมค็อกเทลให้ตามที่อีกฝ่ายขอ
พลางบ่นงึมงำที่ทำให้บีต้องกลั้นขำ
“ชอบเหล้าผู้ชายเข้มๆแล้วยังสวยอีกนะคะ
จะรอดูตอนที่เมนเทอร์คนเก่งของเดอะเฟซหมดสภาพค่ะ”พูดจบก็วางแก้วค็อกเทลลงบนโต๊ะ หันไปสนใจเฌอมาลย์ที่เข้ามาสั่งค็อกเทลต่อ
“เมื่อกี้ยูถามว่าเค้าเป็นใครใช่ป้ะติช่า...”ติช่าพยักหน้าหงึกหงักด้วยความอยากรู้เป็นที่หนึ่ง
“พี่เคยคบกับเค้าเมื่อ...ประมาณสองสามปีก่อนพี่ไม่แน่ใจ”บีตอบด้วยท่าทีสบายๆชิลๆ
ผิดกับติช่าที่ยกมือทาบอก
“ขุ่นพระเดชเฉดหัวแม่วาด!!! พี่บียูสตรองมาก แต่พี่สาวคนนั้นสตรองกว่ามาก โอ้ก็อดออฟเดอะเฟซ!!!”บีมองบน...มันต้องเวอร์ขนาดนั้นเลยเหรอ
“เราจากกันด้วยดี
เราค้นพบว่ามันไม่ใช่ แล้วตอนนี้เธอเองก็มีแฟนใหม่แล้วล่ะ
เห็นว่าเป็นเจ้าของไร่องุ่นผู้ผลิตไวน์รายใหญ่แถวๆปากช่อง ท่าทางจะไปกันได้ดี”น้ำทิพย์พูดพร้อมรอยยิ้มบางๆก่อนแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์
“ว่าแต่เราเหอะ...อย่าคิดนะว่าพี่ไม่รู้ไม่เห็น
เป็นไงมะปราง...แซ่บ...มั้ย”เน้นหนักและกดเสียงต่ำที่คำว่าแซ่บเพื่อตอกย้ำความเผ็ดแซ่บของมะปราง
“โอ้วพี่บี...แซ่บ..แซ่บมากๆๆ...เค้าเป็นสามีที่
สุด....”
“สุดอะไรเหรอติช่า..”กฎข้อที่ยี่สิบสองของทีมบีว่าด้วยเรื่องการนินทา
ห้ามผู้ถูกนินทาล่วงรู้เหตุการณ์ที่กำลังตกเป็นเป้าในวงสนทนา
“เอ่อ...สุดๆๆ...สุดติ่งกระดิ่งแมวนี่แปลว่าอะไรคะพี่บี
เนี่ยช่างงมากมีคนมาถามใน ASK.fm ช่าไม่รู้จะตอบยังไง”น้ำทิพย์รู้สึกชื่นชมสกิลการแถที่เหมือนเป็นวิชามารประจำทีมบี...อีกแล้ว
ก่อนจะรีบช่วยลูกทีมอย่างสุดความสามารถ? (ไม่ใช่ที่จริงปัดให้พ้นๆตัว)
“อ๋อ
มันประมาณแบบ...ยังไงดีมะปรางอธิบายหน่อยสิ”บีคิดว่าบีบอกไปแล้วว่าเป็นคนอธิบายไม่เก่ง
“แปลว่าสุดยอดมั้ง...มันเจ๋งมากอะไรงี้รึเปล่า”น้ำทิพย์เมื่อเห็นท่าว่าตนเองคงเป็นก้างแน่แล้ว...จึงขอตัวออกมาจากบริเวณที่เด็กๆต่างเต้นกันอย่างสนุกสนาน
ทำไมไม่สนุกเลยวะ...
“อ้าวพี่บี...ทำไมมานั่งตรงนี้คนเดียวล่ะคะ”จุ๊กกู้ลูกทีมของเธอเอ่ยทัก
ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆโดยในมือยังถือแก้วเครื่องดื่มสีฟ้าสดใสอย่าง กามิกาเซ่ (kamikaze) ตามสไตล์
น้ำทิพย์ยอมรับว่าลูกทีมทุกคนนั้นมีความเหมือนเธอไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง...
แพรวคือที่หนึ่งเรื่องมารยาหญิง
อันนี้ต้องยอมรับว่ามีเหลือล้นจริงๆ...
ติช่าคือที่หนึ่งด้านการพูดตรงๆ(และการแถ)
นิสัยอาจเหมือนกันแต่การแสดงออกนี่...
จุ๊กกู้เป็นที่หนึ่งด้านขาเมา...อันนี้ต้องยกให้เค้าล่ะ
จีเป็นที่หนึ่งด้านความกวน...กวนได้ระดับพอๆกัน
ส่วนลิลลี่...
เป็นสกิลการอ้อยที่บี
น้ำทิพย์ภาคภูมิใจที่สุด!!!
ฝากฝังเทคนิคการอ้อยของพี่บีด้วยนะลิลลี่นะ...
“พี่รู้สึกเซ็งๆน่ะ
เหมือนงานนี้มันเป็นงานของติช่าแล้วก็ทุกคนมากกว่าไง”เธอยิ้มเจื่อนๆแต่จุ๊กกู้กลับส่ายหน้าเป็นเชิงเซย์โนว์เอส
(เซย์โนว์ขั้นสุดไง โนว์เอ้อ โนว์เอ่ส เก็ตป่ะ)
“พี่คริสก็อยู่นะ
ตอนนี้พี่พาลอยออกไปวาดลวดลายแข่งกับเจสซี่แล้วก็ลิลลี่พี่คริสก็เลยนั่งคน...”
“งั้นพี่ไปก่อนนะ”ร่างสูงของน้ำทิพย์ลุกพรวดโดยที่ไม่ฟังให้จบ
แม้แต่จุ๊กกู้ก็รับรู้ได้ถึงกระแสพลังงานบางอย่างที่แผ่ออกมา...
สาวผิวแทนยกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดี
แต่ไม่นานก็ต้องสะดุ้งด้วยเสียงวัตถุหนักบางอย่างตกลงไปที่สระน้ำอย่างน่ากลัว
“อะไรอีกวะเนี่ย”เธอผุดลุกขึ้นหันรีหันขวางก่อนจะรีบวิ่งตรงไปที่งาน
อย่าให้เป็นแบบที่คิดเล๊ย...
เมื่อวิ่งมาถึงริมสระก็เจอภาพที่ไม่เป็นอย่างที่จุ๊กกู้คิด...แต่มันยิ่งกว่าที่คิดอีกเฮ้ย!!!
สิ่งที่อยู่ในสระก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลิลลี่ดอกไม้ของจุ๊กกู้นั่นแหละ!!! เสื้อยืดสีขาวเปียกน้ำลู่ลงแนบสัดส่วนของลำตัว
เรื่องเสื้อแจ็คเก็ตยีนส์สีชมพูนั่นไม่ต้องพูดถึง...เหมือนเจ้าตัวจะจงใจกองมันไว้ขอบสระเรียบร้อย
นอกนั้นยังไม่หยุดอาการเต้นอย่างเมามันที่กำลังประชันกับเจสซี่ซึ่งทำท่าจะกระโดดลงมา
แต่ดีที่กวางดึงไว้ทัน...
“ลิลลี่!!! แป๊ปเดียวก็เมาขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”ใบหน้าที่เคยนวลขาวแดงก่ำ
สาวผิวแทนแอบเห็นว่าเฌอมาลย์เหลือบมองเด็กน้อยที่เต้นต่ออย่างมันค้างด้วยแววตาไม่น่าไว้ใจ
“แกก็พาลิลลี่ขึ้นไปบนห้องน้องเหอะ...”กวางเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย
แต่คงมีเพียงจุ๊กกู้ที่เห็นสัญลักษณ์การขยิบตาให้สัญญาณ ‘ห้องน้อง’ ของกวางคงแปลว่า
คืนนี้...ห้องของลิลลี่คงตกเป็นของทั้งเธอและลิลลี่
และห้องเธอก็คงโดนเคลมด้วยสิทธิ์ของกวางเช่นกัน...
“อื้ม”จุ๊กกู้เอื้อมมือไปดึงคนเมาขึ้นจากสระแล้วคลุมร่างที่เปียกปอนด้วยเสื้อแจ็คเก็ตทั้งของลิลลี่เองและแจ็คเก็ตหนังของเธอให้รอดพ้นสายตามารที่จ้องราวกับจะเขมือบลิลลี่น้อยของเธอ
ก่อนค่อยๆประคองคนเมาขึ้นห้องไป
“พี่ว่า...เจสซี่ก็น่าจะพักได้แล้วนะ”กวางเอ่ยขึ้นบ้างเพราะอาการโงนเงนของอีกฝ่ายทำให้เธอทรงตัวตามไม่ค่อยจะอยู่
จนรฐาอาสามาช่วยแต่กวางก็ปฏิเสธ...
น่ะนะ
เหตุผลก็รู้ๆกันอยู่...
หลังจากที่จุ๊กกู้กึ่งลากกึ่งแบกลิลลี่มาที่ห้อง
ร่างสูงผิวแทนก็มีอันตั้องปวดหัวอีกครั้ง...เธอรู้รหัสห้องลิลลี่งั้นเหรอ...
ก็ไม่ไง!!!
“ลิลลี่คะ...บอกรหัสห้องพี่หน่อยสิ พี่จะได้พาลิลลี่เข้าไปส่งไง”
“เจ็ดสี่เจ็ดสี่”เจ้าของร่างสูงโปร่งที่แทบยืนไม่อยู่งึมงำออกมาเบาๆแต่ก็พอจะทำให้จุ๊กกู้จับใจความได้
“ไม่บอกก็รู้ว่าใครตั้งรหัสห้อง”สาวผิวแทนค่อยๆประคองร่างปวกเปียกที่สติเลือนรางเต็มกลืนไปที่ห้องนอน
ไม่ลืมที่จะถอดรองเท้าไว้หน้าประตูเพื่อไม่ให้เกะกะห้องของสาวน้อยมากเกินไป
จุ๊กกู้นั่งจ้องใบหน้าขาวใสของเด็กน้อยที่อายุห่างจากเธอเกือบสิบปี
ความดีความชั่วทะเลาะตบตีกันอยู่ในใจ มือเรียวเอื้อมไปสัมผัสไล้ใบหน้าอ่อนเยาว์
พลันเธอก็ชักมือออกราวถูกช็อตด้วยกระแสไฟฟ้า
ทำไม่ได้หรอก...
เค้าเมา...ยังไม่ได้สติ...
เธอมาเพื่อเคลียร์
ไม่ใช่ ‘เคลม’
“พี่กู้”สิ่งที่ทำให้เธองงมากกว่าเดิมคงหนีไม่พ้นเสียงที่เรียกชื่อเธอพร้อมๆกับการตวัดแขนโอบรอบคอรั้งเธอไว้ไม่ให้ไปไหน
นัยน์ตาสีดำขลับที่สบมาทำเอาเธอกระจ่าง
“ลี่...ไม่ได้เมาเหรอ”ร่างบางส่ายหน้า
จ้องมองกลับมาด้วยความรู้สึกที่ยากอธิบาย
“เมาค่ะ
แต่สร่างไปได้พักนึงตั้งแต่ตอนกระโดดลงสระ”จุ๊กกู้มองอย่างคาดโทษที่ลิลลี่บังอาจมาหลอกเธอ
แต่ก็แอบโล่งใจที่ตัวเองไม่ได้เผลอทำอะไรไปมากกว่าเมื่อครู่
“เมื่อกี้...พี่กู้จะทำอะไรอ่ะคะ”สาวน้อยกระพริบตาปริบๆอย่างยั่วยวนทำเอาอีกฝ่ายต้องกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น
“เอ่อ...คือ...”
“ทำต่อสิ...”พูดจบก็เป็นฝ่ายยื่นหน้าไปประกบริมฝีปากกับอีกฝ่ายเสียเอง
แถมยังรุกเร้าเสียจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นเด็กอายุสิบสาม
“พี่ชอบลิลลี่นะ...”
“ลิลลี่ก็ชอบพี่จุ๊กกู้...”
“พี่ว่า...วันนี้ลิลลี่เมามากแล้วนะ
พักผ่อนเถอะ...”จุ๊กกู้รีบลุกจากเขตอันตราย
ไม่ได้กลัวอาการยั่วยวนของสาวน้อยตรงหน้าหรอก...กลัวใจตัวเองมากกว่า
“พี่กู้...”ลิลลี่ลากเสียงพลางซบเข้ากอดอีกฝ่าย
“คืนนี้อยู่กับลิลลี่นะคะ...”
“...”
“นะคะพี่กู้...”
“พี่ไม่อยากพรากผู้เยาว์นะลิลลี่”สาวผิวแทนเอ่ยอย่างลำบากใจ
แต่ในใจก็อยากอยู่เหมือนกันแหละ
“ไม่เป็นไรค่ะ...ลิลลี่ไม่แจ้งความหรอก”ไอ้สายตาหวานหยาดเยิ้มนั่นคืออะไร...เอาจริงดิ
โอเค...ถ้างั้นจุ๊กกู้ก็จะไม่ทนค่ะ!!!
ในขณะที่เกิดการพรากผู้เยาว์กันบนชั้นสิบสองของคอนโดนั้น...หลายคนที่ยังอยู่ในปาร์ตี้ก็เริ่มกรึ่มๆกันบ้างแล้ว
น้ำทิพย์ชวนศิรินออกไปแดนซ์บ้าง ประชันกับติช่าที่เหมือนจะคอทองแดงพอสมควร
ตอนนี้คนที่นั่งอยู่ติดกับโต๊ะก็มีเพียงมะปรางและลูกเกดที่ขอนั่งจิบค็อกเทลแบบสวยๆดีกว่าเยอะ
“เฮ่ยๆ
ไหวมั้ยเนี่ย”เฌอมาลย์ประคองรฐาเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายแทบจะคะมำลงสระอยู่รอมร่อ
“หวายเซ...”ตอบสไตล์คนมาว...เอ้ย
เมา ก่อนจะผละออกไปเต้นกับพลอยต่อทั้งๆที่อีกคนก็มีสภาพไม่ต่างกันเท่าใดนัก
“คริส..เมายัง”น้ำทิพย์เอ่ยถามขณะเต้นด้วยจังหวะเบาๆ
ที่ไม่ได้หลุดโลกแบบติช่า
“ทำไมอ่ะ
จะมอมคริสเหรอ คิคิ”โอเค เสียงหัวเราะแบบเด็กสามขวบเริ่มมาก็แปลว่าเริ่มมึนนิดๆแต่คงยังไม่ถึงกับเมา
“บีไม่ปล้ำคริสหรอกน่า
สาบานแล้วไง”ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อ เสียงของปิยะรัฐก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน
“ทุกคนครับ
ขอขัดจังหวะซักครู่...”ปิยะรัฐก้าวขึ้นมาบนเวทีถาวรเตี้ยๆของคอนโดพร้อมๆกับเสียงเพลงที่เงียบลงไป
“วันนี้ผมจะขอแนะนำคนๆนึง
ที่ทุกคนควรรู้จักนะครับ เห็นบ่นๆกันว่าอยากเจอ
เค้าคนนี้คือเจ้าของโครงการคอนโดนี้นี่เองแหละครับ!!!”เสียงปรบมือดังขึ้นแทบจะทันทีที่มีคำว่า ‘เจ้าของโครงการ’
ก่อนที่ปิยะรัฐจะเชิญใครบางคนที่สร้างความรู้สึก ‘ประทับใจไม่รู้ลืม’ ให้กับน้ำทิพย์
“คุณอนิพรณ์
เฉลิมบูรณะวงศ์ครับ”ฉับพลันที่ร่างสูงเพรียวหุ่นนางแบบของอนิพรณ์ก้าวออกมาจากฉากเวที
ก็ทำให้น้ำทิพย์แข็งทื่อไปทันที
“พี่บี...”ติช่าเขย่าแขนน้ำทิพย์แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพอสบสายตาที่มองมาเยี่ยงผู้ชนะของอนิพรณ์แล้ว...ประสาทสัมผัสของเธอก็ใช้งานไม่ได้ไปเลย
และคำพูดที่ออกมาจากปากน้ำทิพย์ก็มีแค่เพียงคำเดียว..
“แนท...”ได้แค่นี้จริงๆ...แต่ในใจก็มีประโยคยาวๆต่อออกมา
ชิบหายแล้วกู!!!
ความคิดเห็น