ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BeeCris/บีคริส] Deepens But Faraway

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 6 : SWEET DREAM

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 60


    Chapter 6 SWEET DREAM

    ไอ้เด็กแว้นหัวโจกยิ่งสีหน้าไม่ค่อยดีเมื่อเพื่อนหายไปอยู่ฝั่งคนแพ้จนเกือบหมดภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จนตอนนี้เหลือเพื่อนอีกแค่สองคนนับรวมตัวเองเป็นสาม

              “ทำไมน้ำมันมันยังไม่หมดอีกวะ”ตอนนี้ก็เหลือสองแล้วเพราะอีกคนเพิ่งเตรียมจะแข่งกับเหยี่ยวนรกคันนั้น...

              “แม่ง รถคันนี้ที่เค้าว่าเป็นหนึ่งในมอ'ไซค์ที่แพงที่สุดในโลกป้ะวะ”

              “เออ กูก็ว่าคุ้นๆ”

              “เอ้า คุยกันอยู่นั่นแหละ เร็วๆดิวะ”น้ำทิพย์กลับมาประจำจุดสตาร์ทอีกครั้ง ทำให้ลูกสมุนที่คุยกับไอ้ผมสับปะรดอยู่ต้องค่อยๆเลื่อนรถตนเองเข้าไปแข่งอย่างเลี่ยงไม่ได้

    และจบที่คนสุดท้าย...

              “อย่าหวังจะกินหมูผมนะเพ่ ไทเกอร์ของผมมันไม่ธรรมดานะ มันกัดมาหลายร้อยศพ สยบมาหมดย่านนี้แล้ว เครื่องแรงยิ่งกว่า.....”เด็กหนุ่มว่าพลางลูบมือที่ตัวถังอย่างทะนุถนอม

              “...คริส อีกเดี๋ยวบีจะไปถึงละนะ รอก่อนนะอย่าเพิ่งกลับ แต่อย่าให้พี่หวานเจี๊ยบกลับก่อนนะบีเป็นห่วง”เจ้าของทรงผมสับปะรดอ้าปากค้าง

    นี่ที่พล่ามข่มขวัญไปคือไม่ได้ฟังเลย?

              “อ่ะพูดเสร็จยังเร็วๆพี่จะรีบไปรับแฟนละ”วัยรุ่นหัวโจกสบตาคู่คมสีน้ำตาลอย่างไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ต้องบิดเร่งเครื่องเมื่อเห็นว่าสก๊อยอีกคนกำลังจะโยนผ้า

              “แล้วมาดู...ว่าเสือกับเหยี่ยวอะไรเจ๋งกว่ากัน”พูดจบผ้าก็ถูกล่อยจากมือเด็กสาวพร้อมๆกับที่รถสองคันทะยานออกไป การแข่งนี้ใช้ระยะทางในแต่ละรอบประมาณ 100 เมตร ซึ่งน้ำทิพย์สามารถชนะได้อย่างขาดลอยเหมือนเคย

              ร่างสูงตั้งท่าจะบิดจากไปเพราะมีเวลาเหลืออีกไม่ถึงชั่วโมงแต่ก่อนหน้านั้นเด็กหนุ่มหัวสับปะรดก็ตะโกนถามด้วยความคับข้องใจ

              “เพ่ ทำไมรถพี่มันอึดจังวะ เครื่องลิตรกว่าไม่ใช่เหรอ”น้ำทิพย์หรี่ตาก่อนจะตอบคลายความสงสัย ถือซะว่าสงเคราะห์เด็กน้อยที่ยังอ่อนประสบการณ์

              “เครื่องเดิมอ่ะใช่ ลิตรกว่า...แต่พี่กลัวมันไม่สะใจว่ะ เลยไปยกเครื่องมา 3 ลิตร แข่งยี่สิบคนเหลือๆ...เก็ตนะ ไปล่ะ”ร่างสูงโบกมือก่อนที่จะหายลับไปพร้อมรถคันงาม ทำให้เหล่าชายวัยรุ่นนั้นเสียดายและเสียหน้าไม่น้อย

     

              “คริส ยืนรอมาครึ่งชั่วโมงละนะ ไปเถอะ”ผู้จัดการสาวประเภทสองร้องเรียกศิรินที่ยืนถ่วงเวลาอยู่กับแฟนคลับกว่าชั่วโมงนึงแล้ว คุยกันไปเรื่อยเปื่อยถึงจะอยากกลับไปนอนเต็มที

              “อีกแป๊บนะ พี่หวานรีบก็กลับไปก่อนก็ได้”สาวหมวยพยายามยื้อจนสุดแต่ก็ต้องพ่ายแพ้เหตุผลของผู้จัดการประจำตัวที่มีงานของดาราคนอื่นต่อ บวกกับมีผู้จัดการคนไหนทิ้งดาราในสังกัดตัวเองให้กลับเองกันล่ะ

              “คริสหลับก่อนก็ได้นะ วันนี้มาแปลกปกติเห็นต้องสลบทันทีที่หัวถึงหมอนสติชนี่ไม่ใช่เหรอ”หวานเจี๊ยบถามเมื่อเห็นว่าคริสพยายามมองออกไปนอกกระจกตลอดเวลา

              “คริสยังไม่ง่วงเลย”

    เอี๊ยดดด

              “โอ๊ย เบรกกะทันหันแบบนี้ได้ไงเนี่ย”หล่อนหันไปโวยวายทันทีที่คนขับรถเหยียบเบรกราวกับมีตัวอะไรบางอย่างตัดหน้ารถ

              “เอ่อ...ขอโทษจริงๆครับ...ตะ แต่...”ไม่ทันที่ชายวัยกลางคนจะกล่าวอะไรต่อก็มีเสียงเคาะกระจกข้างๆฝั่งที่ศิรินนั่ง

              มือเรียวเอื้อมไปเปิดด้วยรู้อยู่แล้วว่าคงเป็นคนตัวสูงที่ทำให้เธอชะเง้อคอรอว่าเมื่อไหร่เขาจะมาเสียที

              “ไงคริส...กลับกันยัง”ร่างสูงที่นั่งคร่อมบิ๊กไบท์คันงามอยู่ถอดหมวกกันน็อคแล้วปาดเหงื่อน้อยๆด้วยท่วงท่าที่เต็มไปด้วยความเซ็กซี่ สาวประเภทสองอย่างหวานเจี๊ยบยังต้องอุทาน ขุ่นพระก่อนที่หล่อนจะอนุญาตให้ดาราสาวในสังกัดลงจากรถได้และยังกำชับให้บีดูแลคนตัวเล็กดีๆ

              “เดี๋ยวคริส...”เสียงนุ่มเรียกศิรินที่เพิ่งลงจากรถตู้คันดำ มือเรียวภายใต้ถุงมือเปิดนิ้วขยับมาถอดเสื้อหนังของตัวเองออกก่อนสวมทับบนอาภรณ์สุดเย้ายวนของอีกฝ่าย

              ศิรินเลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัยอย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่คนตัวสูงไม่ยอมพูดอะไร มือก็รูดซิบและติดกระดุมบนอย่างแน่นหนา ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นกระโปรงริ้วๆที่แค่มองก็เห็นไปถึงซับในสั้นตัวจิ๋ว ดีแค่ไหนที่มันเป็นสีดำ

              “หวง”คำสั้นๆที่หลุดออกจากปากคนหน้างอก็ทำเอาศิรินหลุดขำ ก่อนที่คนตัวเล็กจะพูดทีเล่นทีจริง

              “คริสว่าคริสเคยใส่น้อยกว่านี้อีกนะ”ร่างสูงพ่นลมหายใจเหยียดยาว ดวงตาสีน้ำตาลคมดุนั่นหันมาสบเข้ากับดวงตาเล็กๆอย่างจริงจัง

              “ตอนนั้นกับตอนนี้ไม่เหมือนกัน ตอนนั้นเฉยๆ...ตอนนี้หวง หวงมาก...ไม่อยากให้ใครเห็น”ท่าทางกระชับเสื้อจนแน่นนั้นยืนยันความหวงของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี

              “อื้ม รู้แล้วน่า...เอาไว้คราวหน้าจะพยายามไม่แต่งโป๊ก็แล้วกัน...แล้วนี่ นั่งซะเต็มเบาะขนาดนี้จะให้คริสนั่งยังไงล่ะ”น้ำทิพย์ยักไหล่ ความจริงแล้วบิ๊กไบค์มันไม่ได้เกิดมาเพื่อให้คนสองคนมานั่งซ้อนกันหรอกนะหนูน้อย

              “นั่งนี่...”ร่างสูงขยับตัวเพิ่มที่ว่างระหว่างตนเองกับแฮนด์รถ คนตัวเล็กมองการกระทำนั้นก่อนอ้าปากค้าง

              “ทะ..ทำไมไม่ให้คริสนั่งหลัง...คะ คริสไม่ตกหรอกน่า”คนตัวเล็กเอ่ยตะกุกตะกัก การอยู่ในวงแขนคนตัวสูงไปตลอดทางกลับคอนโดไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่สำหรับเธอ

              “ไม่ได้หรอก อีกอย่างนะ...มีวิธีนี้วิธีเดียวที่คริสจะนั่งไปด้วยได้ จะกลับมั้ยคะ”ปลายประโยคคล้ายเสียงกระซิบที่ลอยผ่านหูแดงๆของศิริน เจ้าตัวนั้นก็คงต้องยอมแต่โดยดี

              “ให้สาวนั่งบ่อยล่ะสิ.....จัดท่าจัดทางซะคล่องเชียว”เมื่อเอาขาสั้นๆของตนเองขึ้นมาได้แล้วก็บ่นงึมงำกับตัวเองแต่น้ำทิพย์ก็หูดีได้ยินอีกจนได้

              “คริสรู้มั้ย คริสคือผู้หญิงคนแรกของบีที่ได้นั่งรถคันนี้นะ”ใบหน้าคมที่ยื่นมาข้างๆแก้มใสนั้นแสดงความจริงจังอย่างเห็นได้ชัด

    “...”

              “บีพูดจริงนะ ทุกคำที่พูดกับคริส...เป็นความจริงทั้งหมด”ร่างสูงยังคงพูดไปเรื่อยๆ ก่อนเอื้อมมือซ้ายไปด้านหลังเพื่อหยิบหมวกกันน็อคสีดำสุดเท่ เธอคิดว่ามันไม่เหมาะกับศิรินหรอก แต่ก็มีติดรถไว้อย่างนั้นเอง อย่างน้อยก็ดีที่วันนี้มีโอกาสได้ใช้

              “ใส่หมวกด้วย ปลอดภัยไว้ก่อน”ถึงแม้จะบอกคนอื่น แต่ตัวเองก็ไม่ค่อยชอบใส่หมวกนักหรอก ร่างสูงบอกให้คนที่เขินอยู่หันมาแล้วค่อยๆใส่หมวกนิรภัยให้อย่างอ่อนโยน

              แต่หลังจากใส่เสร็จเรียบร้อย มือเรียวภายใต้ถุงมือสีดำนั้นก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนยังคงวางอยู่บนหมวกที่อยู่ในระดับสายตาเช่นเดียวกับดวงตาคมสีน้ำตาลคู่เดิมที่จ้องนิ่งเข้ามาในดวงตาเล็กๆราวจะสื่อสารบางสิ่ง

    บางสิ่งที่มีแค่ดวงตาและหัวใจที่รับรู้

              “บีอยากบอกว่า...บีอยากเป็นคนคนนั้นของคริสจริงๆนะ”

              “...”

              “เวลาสั้นๆที่เราอยู่ด้วยกันแทบทุกวันมันทำให้บีรู้สึกดีมากๆ”

              “...”

              “บีเป็นตัวเองมากที่สุดเวลาอยู่กับคริส และบีก็ชอบตัวเองตอนอยู่กับคริสที่สุด”

              “...”

              “คริสคงต้องการเวลาทบทวนกับตัวเอง...คืนนี้บีจะกลับไปนอนคอนโดบีนะ”คนตัวเล็กตกใจเล็กน้อยที่ดูน้ำทิพย์จริงจังกับเรื่องระหว่างพวกเธอมากขนาดนี้ แต่เธอก็เข้าใจและพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงตอบรับ

              “ดึกแล้ว บีไปส่งคริสก่อนดีกว่า”บิ๊กไบค์คันงามเคลื่อนตัวออกช้าๆเพราะคนขับรับรู้ว่าคนตัวเล็กในอ้อมแขนนั้นเกร็งไปหมดด้วยความไม่คุ้นเคย ลมเย็นๆปะทะผิวกายทำให้ร่างสูงรู้สึกหนาวนิดๆแต่คนที่ใส่เสื้อหนังอย่างแน่นหนากลับเอนเข้ามาหาเธอเรื่อยๆจนน้ำทิพย์ต้องหยุดพักชั่วคราว

              “หนาวเหรอ”เครื่องยนต์ถูกดับลงที่ปั๊มน้ำมันเพื่อทั้งเติมน้ำมันและคลายหนาวให้คนตัวเล็กโดยการที่น้ำทิพย์ไปหาเครื่องดื่มอุ่นๆมาให้ศิรินดื่มจากร้านสะดวกซื้อ

              “งื้อ...เหมือนคริสเป็นเด็กเลย กินกาแฟแบบบีไม่ได้เหรอ”คริสทำหน้างุยทันทีเมื่อมือเรียวหยิบยื่นโกโก้ร้อนมาตรงหน้า แม้จะก็ยอมรับมาถือไว้แต่ก็ไม่ยอมดื่ม

              “หืม...นี่ดึกแล้วนะ คริสดื่มกาแฟเดี๋ยวก็นอนไม่หลับหรอก”คนตัวสูงกว่ายกกาแฟร้อนของตนเองขึ้นจิบ

              “ทีบียังกินได้เลย”มือขาวๆชี้มาที่แก้วกาแฟของคนตัวสูงที่ส่งกลิ่นหอมยั่วจมูก

              “บีต้องขับรถนี่คะ”มือข้างที่ว่างของน้ำทิพย์ถูกวางทับลงบนหัวทุยๆของอีกฝ่าย ใบหน้าคมก้มลงมาเล็กน้อยเพื่อให้สายตาของทั้งคู่อยู่ในระดับเดียวกัน

              “คริสจะดื่มก็ได้นะ...”ดวงตาเล็กๆมีประกายวิบวับ ก่อนที่คนตัวเล็กจะเอื้อมมือไปที่แก้ว...แต่ช้าไป เพราะคนตรงหน้ายกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด กาแฟอึกสุดท้ายยังไม่ถูกกลืนแต่ถูกกักไว้ที่กระพุ้งแก้ม คนตัวสูงชี้มาที่ปากตัวเองศิรินก็เข้าใจความหมาย

    ถ้าจะดื่ม...จงดื่มจากปากน้ำทิพย์นะคะ ศิริน

              “นี่คิดว่าคริสไม่กล้าเหรอ”คนตัวสูงย่นคิ้ว ก็รู้อยู่หรอกว่าคนตัวเล็กตรงหน้าเป็นคนที่ท้าไม่ได้ด้วยความอยากเอาชนะของเจ้าตัว

    นั่นล่ะค่ะที่น้ำทิพย์วอนท์...

              ริมฝีปากบางที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีจัดทาบทับลงบนเรียวปากสวยของคนตัวสูง ลิ้นเล็กตวัดรุกล้ำเข้ามาก่อน กลิ่นกาแฟหอมๆกับจูบของคนตัวเล็กทำเอาน้ำทิพย์สติแทบปลิว แต่เสือก็ยังคงเป็นเสือ ลิ้นนุ่มที่ถูกรุกเร้ากลับเป็นฝ่ายไล่ต้อนบ้าง ส่งกาแฟที่เหลือไปในปากอีกฝ่ายก่อนส่งลิ้นเข้าไปทักทายอย่างมีชั้นเชิง

              สุดท้ายคนนำก็ต้องผละออกด้วยแรงหอบหายใจของดาราสาวที่กลายเป็นขี้ผึ้งลนไฟไปในบัดดล น้ำทิพย์ยอมรับว่าไม่เคยดื่มกาแฟที่หอมและอร่อยมากเท่านี้มาก่อน

              “อร่อยมั้ยคะ”เสียงนุ่มนั้นเขวและแหบไปเล็กน้อยจากจูบหวาน ศิรินก้มหน้างุดๆแล้วรีบเดินไปรอคนตัวสูงที่รถ

              “บีไม่ได้ผิดคำพูดเลยนะ คริสจะ....”

              “พอแล้วบี!!! คริสง่วงแล่ว”เจ้าของใบหน้าคมอมยิ้มอย่างขบขัน ดวงตาสื่อความล้อเลียนปกปิดไม่มิด ก่อนจะตวัดขายาวๆของตนเองขึ้นนั่งบนเบาะที่อีกฝ่ายนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

              “ถ้าหนาวซบบีได้เลยนะ บีชอบ”

     

              บิ๊กไบท์คันใหญ่จอดสนิทที่ลานจอดรถ น้ำทิพย์เอ่ยปากว่าอยากไปส่งแต่คนตัวเล็กกลับปฏิเสธเพราะเกรงว่าเวลาจะล่วงเลยไปนานอีกแล้วเขาจะกลับไม่ถึงคอนโดตัวเองสักที แม้ว่าจะดื่มกาแฟกันมาแล้ว แต่ใช่ว่าน้ำทิพย์จะไม่มีโอกาสง่วงเสียเมื่อไหร่

              “งั้น บีไปละ ฝันดีนะคะคริส”ดวงตาเล็กๆเมื่อยิ้มนั้นทำให้เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวยิ่งดูน่าเอ็นดูขึ้นไปอีกเมื่ออยู่ในระยะสายตาของน้ำทิพย์

              “ขับรถดีๆนะ อย่าขับไปชนใครตายล่ะ”แม้คำอวยพรจะฟังดูแปร่งๆ แต่เจ้าของนัยน์ตาคมก็ยิ้มรับโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร

              “งั้นคริสก็...นอนระวังๆนะ อย่ากลัวผีขึ้นมากลางดึกล่ะ”ต่อให้เป็นผู้หญิงที่จีบอยู่ ไอ้สัญชาตญาณความยียวนที่ติดตัวมาแต่กำเนิดของน้ำทิพย์นั้นก็ยังทำงานได้ดีเยี่ยม

              สุดท้ายก็จบที่ศิรินเบ้ปากใส่คนตัวสูงแล้วหันหลังเดินเข้าไปในคอนโด นาฬิกาข้อมือเรียบหรูบอกเวลาเที่ยงคืนกว่าๆน้ำทิพย์ก็ขับรถไปยังคอนโดตัวเอง

              ร่างสูงหมดเวลาไปกับการอาบน้ำอีกรอบและใช้เวลาไปอีกนิดหน่อยกับกองเอกสารกองย่อมๆ เนื่องมาจากไม่นานมานี้น้ำทิพย์ได้รับเลื่อนให้เป็นบรรณาธิการบริหารของสำนักพิมพ์ของแม่เธอเอง ถึงแม้จะบ่นว่าไม่ค่อยชอบงานเอกสารเท่าไหร่แต่ก็ถูกแย้งด้วยเหตุผลที่ว่างานนางแบบนักแสดงที่เจ้าตัวรักนั้นไม่ได้จีรังยั่งยืน

              “เฮ้อ”ร่างสูงถอนหานใจก่อนทิ้งตัวลงบนเตียง ตาค้างไปหน่อยเพราะกาแฟแก้วหวานเมื่อสองชั่วโมงก่อน ดวงตาคมจ้องเครื่องมือสื่อสารอย่างครุ่นคิด ใจหนึ่งก็อยากคุยกับคนที่เพิ่งแยกกันไม่นาน แต่อีกใจก็เกรงว่าจะรบกวนเวลาพักผ่อนของอีกฝ่าย

    บางที...เธอก็อยากถูกบอกฝันดีบ้างเหมือนกันนะ

     

     

              ศิรินนอนพลิกตัวไปมา แอพพลิเคชั่นสีเขียวสดถูกเปิดขึ้นมาและพิมพ์ข้อความไว้บนช่องสนทนากับใครบางคน แต่คนตัวเล็กที่นอนคนเดียวบนเตียงไม่กล้ากดส่งไป

              สุดท้ายน้ำทิพย์ก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก่อน เธอกดส่งรูปภาพที่แต่งเล่นเอาไว้ตั้งแต่เมื่อสามสี่วันที่แล้วซึ่งไม่ได้คิดหรอกนะว่าจะได้ใช้จริงๆ

    B. sent you photo

              ศิรินตาสว่างเมื่อจู่ๆข้อความแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นราวรู้ใจเธอ แต่ก็ลังเลที่จะกดเข้าไปอ่านเพราะกลัวอีกฝ่ายรู้ว่าเธอยังไม่นอน อาจจะเป็นเพราะกาแฟ...หรือไม่ก็เป็นเพราะพื้นที่ข้างตัวมันโล่งแปลกๆ แต่นิ้วเรียวก็ขยับไปกด View โดยอัตโนมัติ

              “บีบ้า”อาการม้วนตัวเป็นก้อนกลมๆไปกับผ้าห่มของศิรินนี่คงเป็นอาการเขิน ส่วนทางฝั่งน้ำทิพย์ก็ยิ้มแก้มแทบปริที่เห็นว่าอย่างน้อย แชทของเธอก็มีคำว่า read ขึ้นมาหลังส่งไปไม่นาน

              ศิรินกดเข้าแอพพลิเคชั่นที่โหลดมานานแล้วแต่ไม่ได้ใช้สักที เล่นมั่วๆจนหาทางเข้าไปทำ Lyric card ได้แบบน้ำทิพย์ เลือกเพลงอยู่นานจนคนอีกฝ่ายเดาว่าเธอคงหลับไปแล้วจึงล้มตัวลงนอน มือก็ละจากสมาร์ทโฟนเครื่องหรูเตรียมปิดไฟนอน แต่เสียงที่เด้งแจ้งเตือนก็ทำให้คนตัวสูงเลิกคิ้ว...

    Celine sent you photo

              “เยส”น้ำทิพย์กำหมัดชูขึ้นชกลมแล้วตะโกนออกมาจนน่ากลัวว่าห้องข้างๆจะออกมาด่า ดีใจจนเนื้อเต้นที่ศิรินเปิดโอกาสให้เธอขนาดนี้ ก่อนจะมีข้อความถัดมาถูกส่งมาอีก

     

    Celine : ถ้าจะจริงจัง...บีต้องเลิกเจ้าชู้นะ

              คริสก็รู้สึกดีกับบีนะ

              เอิ่ม...

              ฝันดีนะ

     

    ฝันดีนะเหรอ...

    โอ้คุณพระเดช!!!

              “ฝันดีนะๆๆๆๆ”น้ำทิพย์ทั้งทึ้งทั้งดึงหัวตัวเองเพื่อยืนยันว่าไม่ได้ฝันไปจริงๆ ก้อนเนื้อในอกก็เต้นจังหวะแปลกๆ ร่างสูงนอนสงบจิตสงบใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกดตอบกลับไปทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายคงรอนานเสียจนอาจหลับไปแล้ว

    บีจะมีแค่คริสคนเดียว

    ยืนยันอีกครั้งว่าบีพูดความจริงกับคริสเสมอ

    ฝันดีค่ะ

    บี...คนน่ารัก

             ~~~~~

    งืมสาระไม่มีสินะตอนนี้ ไรท์เข้าใจว่าบางทีชีวิตก็ไม่ต้องการสาระ

    #ความรักก็เช่นกัน #การเรียนก็เช่นกัน TT

    ตอนนี้ไรท์สับสนเนื่องจากมีพล็อตเรื่องเด็ดๆผุดขึ้นมาในหัว

    มันเป็นเรื่องที่ไรท์อยากแต่งมากและจะแต่งแต่ไม่เอาลง...

    ไรท์เคยแต่งสองเรื่องพร้อมกันและพบว่ามันเฟลมาก

    พอแต่งเรื่องนึงได้อีกเรื่องก็หายไปทันที(ฮาา)

    จะมาอัพเรื่องนี้บ่อยๆเลยนะ


    ด้วยรัก

    ไรท์

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×