ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BeeCris/บีคริส] Deepens But Faraway

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 3 : PARTY

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 60


    Chapter.3 PARTY

              เวลาล่วงเข้าวันที่สอง ซึ่งวันนี้เหมือนจะเป็นวันของติช่า เนื่องจากปิยะรัฐได้จัดการตระเตรียมงานไว้อย่างเสร็จสรรพตั้งแต่ค่ำเมื่อวาน ทำให้บรรยากาศดูเรื่อยๆไม่ฉุกละหุก เหลือเพียงตกแต่งเล็กน้อยก่อนงานจะเริ่มในช่วงเย็นที่สระว่ายน้ำริมคอนโด เพราะที่นี่มีทั้งสระว่ายน้ำบนดาดฟ้าแบบส่วนตัวเงียบๆ หรือจะเป็นสระว่ายน้ำด้านล่างที่คนรักการปาร์ตี้จะมาสังสรรค์ก็แล้วแต่จะเลือก

              และใครๆก็ย่อมรู้ว่าตอนเช้า...ควรเป็นเวลาเริ่มวันใหม่ที่แสนสดใสกับโอวัลติน ไม่ใช่การมายืนเถียงนั่งด่าหาเรื่องทะเลาะกัน...ใช่มั้ย

    “เฮ้ย ทำไมปัญหาเยอะอย่างนี้วะ”

              “รับไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ดิวะ”ทั้งน้ำทิพย์และศิรินที่เพิ่งลงมาได้ยินเสียงคุ้นหูก่อนที่ทั้งคู่จะมองหน้ากันแล้วสาวเท้าไปหาต้นเสียงที่ดังมาจากสวนที่ถูกจัดให้เป็นสถานที่พักผ่อนด้านหลังของคอนโด ซึ่งเป็นทางผ่านไปที่ล็อบบี้โรงแรมพอดี

              “ทำอะไรกันน่ะ”เสียงที่ดังมาแต่ไกลของน้ำทิพย์ทำให้ทั้งคู่แยกจากกันคนละก้าวโดยอัตโนมัติ

              “ไม่มีอะไรค่ะ แค่ซ้อมบทการแสดงกันเฉยๆ”น้ำหวานเองที่เป็นฝ่ายตอบ เพราะตอนนี้จีน่ากำลังตกอยู่ในสภาวะโดนจ้องโดยสายตาคาดคั้นจับผิดของเมนเทอร์บี

              “การแสดง? การแสดงอะไรคะ บอกพี่คริสซิ”ศิรินเอ่ยถามด้วยความประณีประนอม ไม่ใช่ไม่รู้ว่าน้ำทิพย์นั้นเป็นคนใจร้อนพูดตรงแถมเก็บอารมณ์ได้ไม่มากก็ระเบิดลง เธอจึงยื่นมือเข้ามาช่วยเด็กๆแต่ก็ถามถึงเหตุผลไปด้วย

              “รับน้องที่มหาลัยของจีน่าเองค่ะ”ถึงคนถามจะตั้งท่าคิดชั่วครู่ แต่ทว่าคนที่ถามต่อกลับเป็นเจ้าของดวงตาคมที่จับผิดมาตั้งแต่ต้น

              “ไหน ต่อบทเมื่อกี้ให้พี่ฟังอีกรอบหน่อยสิ จะได้ช่วยดูการแสดง ถ้ามันเฟค...จะได้ช่วยกันแก้”ศิรินเห็นท่าไม่ดีจึงรีบชวนน้ำทิพย์ออกมาเพราะเธอเองก็ใช่ว่าจะดูไม่ออกว่าเด็กทั้งสองคนนี้มีปัญหากัน

              “ไม่ได้หรอกคริส คริสก็รู้ว่าถ้าใครมีปัญหาทะเลาะกันระหว่างสามเดือนนี้จะต้องโดนถอดออกจากพรีเซ็นเตอร์สินค้าคนละหนึ่งรายการ เมื่อวานพี่เต้ก็บอก...”แม้ตอนนี้จะยังไม่ได้โดนถอดแต่หน้าก็ถอดสีไปเรียบร้อยแล้วสำหรับทั้งคู่...ก็แหม เงินค่าตัวพรีเซนเตอร์มันบาทสองบาทที่ไหน!!!

              “เดี๋ยวคริสพาไปเลี้ยงข้าวข้างนอกเลยเอ้า นะบี...เห็นแก่ลูกทีมคริสเหอะ”เมื่อได้ยินคำว่า เลี้ยงข้าวข้างนอกก็ทำเอาจอมจับผิดหูผึ่ง ก่อนจะแสร้งยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา

              “อืม บีว่าจะสายแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะคริสเดี๋ยวไม่ทันมื้อเช้า...”แม้จะเบี่ยงประเด็นแต่ก็ไม่วายหันไปพูดกับสองสาวที่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก

              “อย่าตามมาช้าล่ะ...เดี๋ยวจะโดนพี่เต้ว่าเอา”แม้ว่าก่อนหน้านี้ความสามัคคีจะเป็นศูนย์ แต่บัดนี้กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความสมานฉันท์ทั้งจีน่าและน้ำหวาน

              “ค่ะ/ค่ะ!!!

     

              หลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแต่ละคนก็แยกย้ายกันไปทำงาน แต่คนที่ว่างงานอย่างน้ำทิพย์ ศิรินและเฌอมาลย์ กลับไม่ได้อยู่ที่คอนโด ตรงข้ามกับลิลลี่และเจสซี่ที่สนุกกับการพักผ่อนภายในคอนโดตัวเองเป็นอย่างยิ่ง

              “คริสเลี้ยงข้าวตามสัญญาแล้วกัน”ศิรินพูดพลางตรวจเช็คโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ให้พร้อมสำหรับมื้ออาหาร บีพยักหน้าโดยที่คริสไม่รู้เลยว่าภายใต้ใบหน้าอารมณ์ดีแบบเด็กสามขวบที่ผู้ใหญ่เลี้ยงไอศกรีมนั้นแฝงไปด้วยรอยยิ้มสุนัขจิ้งจอก...

              “เอ้ คริส แต่บีว่า...เราเพิ่งทานข้าวเช้ากันมาเองนี่ บียังอิ่มอยู่เลย...”เมื่อมาถึงห้างสรรพสินค้าไม่นาน บีก็เริ่มแสดงละครที่ตัวเองรับหน้าที่เป็นทั้งคนเขียนบทและนักแสดงเองอย่างคล่องปาก

              “อ้าว แล้วเอายังไงอ่ะบี...กลับก่อนเหรอ”คริสถามแบบงงๆ อันนี้ไม่เข้าใจว่าถ้าจะทักว่าไม่หิวตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบเข้าห้างแล้วจะมาเพื่อ...

              “บ้าเหรอคริส นี่รู้จักป่ะเซฟเวิร์ลเซฟไลฟ์อ่ะ ประหยัดพลังงานช่วยชาติมาแล้วต้องเอาให้คุ้มดิ”แถไถแบบแมนๆเกรียนๆแถมภาพพจน์ดีๆ สไตล์คนบีบีของแท้

              “หรือว่าไปกินอย่างอื่นเบาๆแทนดี...ไอติมมะ”ข้อเสนอของคริสทำให้คนตัวสูงที่ขยันคำนวณเรื่องผลประโยชน์เลิกคิ้วแบบไม่เห็นด้วยอย่างแรง

              “ได้ไงคริส เลี้ยงข้าวคือเลี้ยงข้าว...มาเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นงี้บีขาดทุนสิ”ยังไม่ทันที่คนหมวยๆจะได้ตอบอะไรคนบีๆก็มีแฟนคลับเข้ามาหาทั้งคู่ด้วยท่าทีตื่นเต้นสุดๆ

              “พี่คริสพี่บี มาด้วยกันด้วยอ่ะ”คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าเอ่ยนำขึ้นก่อนมีลูกคู่รับเรียบร้อย

              “หูยยยย”รับด้วยเสียงที่เหมือนจะลากยาวไปสะพานพุทธ

              “ขอลายเซ็นได้มั้ยคะ”แม้คริสจะมีท่าทางงงๆกับอาการดี๊ด๊าของแฟนคลับแต่ก็ยอมถ่ายรูปด้วยเหมือนอย่างเคย จนเหล่าเอฟซี บีคริสอดที่จะกรี๊ดกร๊าดกับความ #ศิรินทำจากอะไรทำไมน่ารัก และความ #พี่บีคนแมน ไม่ได้เลยจริงๆ

    “เอ่อน้องพี่ถามอะไรหน่อยสิ...”คริสถามสีหน้ายังมึนพร้อมชูรูปคู่ของเธอและน้ำทิพย์ที่เกิดจากการตัดต่อที่เป๊ะปังอลังเรียลเวอร์ที่ทีมงานเอฟซีนั้นปริ้นพกติดตัวมาราวกับรู้ล่วงหน้าว่าต้องเจอพวกเธอแน่ๆ

              “บีคริสคืออะไรอ่ะไหนเล่าให้ฟังซิ”ทั้งแฟนคลับและน้ำทิพย์เองที่ยืนเซ็นลายเซ็นอยู่สตั้นไป 3 วิ ก่อนที่ทั้งหมดจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน

              บีพยักหน้าเป็นเชิงบอกทุกคนว่า เดี๋ยวพี่เล่าเองก่อนที่จะเอ่ยปากบอกให้น้องๆที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษารีบกลับไปเรียน

              “ตั้งใจเรียนนะจ๊ะสาวๆ”คำหวานก็มาท่าทางก็มี ขยิบตาส่งให้ใจละลายกันไปหนึ่งทีพร้อมมีเสียงกรี๊ดกลับเบาๆว่า...

              “เขาหล่ออ่ะแก ผัวช้านนนน...”และอะไรอีกก็ไม่รู้ที่คนบีๆไม่ได้สนใจแล้วเพราะยังหยุดขำกับท่าทางไม่รู้เรื่องรู้ราวของศิรินไม่ได้...

              “นี่คริส ถามจริง...ไม่รู้จริงดิ”หน้าหมวยๆงุยแทบจะทันทีที่ได้ยินคำถาม

              “ไม่รู้ดิ ถ้ารู้จะถามมั้ยล่ะ”

              “ฮ่าๆ..โอ๊ย คือยังไงดี...ที่บีเคยบอกตั้งแต่ตอนก่อนที่เราจะถ่ายอิมเมจว่าเราเป็นคู่จิ้นอ่ะ...จำได้ป้ะ”น้ำทิพย์พยายามอธิบายอ้อมๆ ขณะเดินเตร่ไปแถวร้านอาหารอิตาเลี่ยน

              “คู่จิ้น...แบบ คือ...เป็นแฟนกันไรงี้เหรอ”ศิรินแทบกัดลิ้นตัวเองเพราะรู้ว่าประเด็นคำถามนี้บีคงไม่ยอมเลิกราง่ายๆ แถมส่งยิ้มโชว์เขี้ยวมหาเสน่ห์...มันเป็นเขี้ยวมหาเสน่ห์จริงๆนะ เมียรักเมียหลง...ไรท์ก็หลง

    เดี๋ยวๆ

              “อื้ม เอาง่ายๆคือเค้าเห็นว่าเคมีเราเข้ากันดี...น่าเป็นแฟนกันน่ะ”แม้จะเดินอยู่ข้างๆกันแต่ด้วยความสูงของน้ำทิพย์ทำให้เห็นได้ง่ายๆเลยว่าตอนนี้ใบหน้าของคนตัวเล็กนั้นแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุก

    น่ารักชิบ...

              “บีว่า...ไปหากาแฟกินกันเหอะ”เจ้าของร่างสูงเดินนำไปที่ร้านกาแฟสไตล์ฮิปสเตอร์ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านนัก เนื่องจากวันนี้เป็นวันจันทร์มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ก็เข้างานกันหมดเรียบร้อย

              “เอ่อ...อื้อ”ศิรินไม่รู้ตัวเลยว่าร่างสูงที่เดินมาด้วยกันจะมีลูกไม้อะไรมาชวนเธอนั่งดื่มกาแฟ รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ต้องหาทางออกจากสภาวะ เขินของตัวเองให้ได้ก่อนจึงตามน้ำไป

              “ดาร์ค เอสเปรสโซ่ เย็น ไม่ฟองนม แก้วกลางค่ะ คริสล่ะ...”ที่สั่งก่อนไม่ใช่ว่าร่างสูงจอมเจ้าแผนการณ์คนนี้เร่งรีบอยากไปที่อื่นเสียเต็มประดา แต่เพราะต้องการเก็บรายละเอียดให้ถี่ถ้วนต่างหาก....

              “คาปูชิโน่ปั่นเย็น หวานน้อย ไม่ครีม ไม่วิป แก้วกลางค่ะ”น้ำทิพย์แสร้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด แต่กลับเลือกที่สมุดโน้ตแล้วบันทึกข้อมูลสำคัญอย่างแรกลงไป

    “คาปูชิโน่ปั่น เย็น หวานน้อย ไม่ครีม ไม่วิป แก้วกลาง”*กาแฟแก้วแรกของเดทแรก : )

    ช่างกล้านะคะน้ำทิพย์...เดทแรก!!!

              “คริสชอบคาปูชิโน่เหรอ”บีถามขึ้นหลังจากทั้งคู่เลือกนั่งลงตรงมุมในของร้านที่ไม่ค่อยสะดุดตาคนที่เดินผ่านมากนัก แม้ว่าส่วนสูงนางแบบของน้ำทิพย์กับเสื้อยืดเอวลอยสีขาวที่เจ้าตัวชอบจับมาแมทซ์กับกางเกงยืนขาขาดๆเซอร์ๆจะทำให้เธอดูเด่นมากก็ตาม

              “อื้ม คริสว่ามันพอดีดี...คริสชอบอะไรที่พอดีๆ”บีกระตุกยิ้มมุมปาก...พลาดซะแล้วศิริน

              “แล้วบีนี่พอดีกับคริสมั้ยอ่ะ”ร่างเล็กหันขวับมาที่ผู้พูดโดยอัตโนมัติ พอดีกับที่พนักงานสาวเสิร์ฟของร้านนำกาแฟมาเสิร์ฟพอดี

              “ขอบคุณค่ะ อ้อน้องคะ พี่ขอบัตเตอร์บราวน์นี่อีกที่นะ”นอกจากน้ำทิพย์จะโยนอ้อยใส่แฟนคลับและหยอดศิรินแล้ว....รอยยิ้มโชว์เขี้ยวเมื่อครู่ก็ทำเอาพนักงานสาวหน้าขึ้นสีอีกด้วย

    จ่ะ...พ่อคนหล่อ

              “ว่าไง...”ร่างสูงทวงคำตอบเมื่อเห็นคนถูกถามนั่งเงียบปนอึ้งนิดๆ

              “บี...”

              “หืม?”

              “นี่ไม่ได้จีบช่ะ”น้ำทิพย์ยิ้มน้อยๆพลางส่ายหน้า คนตัวเล็กก็มีสีหน้าโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด

              “หยอดขนาดนี้ยังไม่รู้อีกเหรอว่าจีบ”

              “...”ศิรินก็สตั้นสิคะรออะไร

              “บี...คริสมีแฟนแล้วนะ”น้ำทิพย์โปรยยิ้มใส่พนักงานเสิร์ฟอีกครั้งเมื่อบัตเตอร์บราวน์นี่ของโปรดมาเสิร์ฟถึงโต๊ะ อากัปกิริยาของน้องพนักงานก็เป็นดังเดิม แต่เอาเถอะ...

    ใครเห็นน้ำทิพย์ยิ้มให้ในระยะรัศมี 30 เซนติเมตรไม่เขินก็ให้มันรู้ไป

    เอมคนแมนผู้เป็นแฟนหมีน้ำก็พ่ายแพ้ให้แก่ความผัวนี้...

              “อย่ามา...คริส บีรู้จากอัพว่าคริสเลิกกับเซนต์ไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน”สาวหมวยขมวดคิ้วเรียวเข้าหากันโดยฉับพลัน

    พลาดให้อัพรู้ไปได้ยังไง...

              “เอาน่าคริส สบายๆไม่เครียด..บีจีบก็เหมือนปกตินี่แหละการทำให้คนที่เราสนใจอึดอัด ไม่ใช่สไตล์การจีบของน้ำทิพย์ โอเค้”พูดจบก็ยกแก้วเอสเปรสโซ่ขึ้นมาดื่มพร้อมชิมเค้ก

              “รสชาติเหมือนเดิมเลยแฮะ”พูดด้วยความปลื้มปริ่มพร้อมสีหน้าฟินเฟ่อร์แบบฉบับน้ำทิพย์ตามด้วยการถ่ายรูปอวดของกินกับเมียๆโดยการโพสต์ลงไอจีแบบรัวๆ

              “...”แต่คนตัวสูงก็ต้องเลิกคิ้วเมื่อเห็นคริสเงียบไปนาน

              “เฮ้คริส โอเคป้ะเนี่ย...”

              “อ่อ..โอเค”ร่างเล็กเกาหัวตัวเองแก้เก้อแล้วแสร้งดื่มคาปูชิโน่ของตัวเองต่อไป

              “คริสชิมเค้กดู อร่อยนะ”แม้จะเขินๆแต่ศิรินก็ยอมอ้าปากชิมเค้กที่อีกฝ่ายป้อนแต่โดยดี

              “ฮึ้ยยย อร่อยอ่ะ”บีคิดว่าบีเห็นดาวระยิบระยับในตาของคริสเหมือนกับที่เห็นในโดราเอมอนตอนที่โนบิตะเห็นของวิเศษดีๆน่ะนะ

              “ร้านนี้บีมากินบ่อยอ่ะ ที่จริงน้ำแครอทปั่นผสมสตรอเบอร์รี่ก็อร่อยนะ”เมื่อเห็นอีกฝ่ายตาลุกวาวก็อดที่จะอมยิ้มกับความเป็นเด็กของยัยหมวยที่อายุมากกว่าไม่ได้

              “มีน้ำอะไรอีกอ่ะๆ แนะนำหน่อยสิ คริสชอบมากๆ”บีทำท่าคิดก่อนจะตอบแบบฉบับคนบีๆ

              “ฮืม...บลูเบอร์รี่โยเกิร์ตก็ดีนะ”

              “หืม...โยเกิร์ตของโปรด...”เสร็จโจร..น้ำทิพย์บันทึกข้อมูลที่สองลงในเครื่องก่อนจะหันมาตอบต่ออย่างคนอารมณ์ดี

              “น้ำทิพย์ก็อร่อยนะ สนใจมั้ยคะ”

              “ก็น่า..เอ๊ะ! บี!!!

              สรุปคือวันนี้ทั้งวันของศิรินหมดไปกับการเดินห้างกับน้ำทิพย์ โดยที่ตอนเที่ยงก็ได้ไปฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นของโปรดคนบีบีเค้า หลังจากนั้นคนตัวสูงก็ชวนเธอไปช็อปปิ้งด้วยเหตุผลที่ฟังขึ้นมากๆ ว่า บีไม่ได้ช็อปนานแล้ว คริสต้องไปเป็นเพื่อนบี...มันมาพร้อมรอยยิ้มโชว์เขี้ยวมหาเสน่ห์ตามเคย จากนั้นบีก็พาคริสเข้าออกร้านรองเท้า กระเป๋าและเครื่องประดับเป็นว่าเล่น เพียงแต่เมื่อกลับถึงคอนโด กลับเป็นฝ่ายคริสที่ได้กระเป๋าและรองเท้ามาสะสมเพิ่มในตู้เสื้อผ้า....

    และคนที่หมดเงินไปหกหลักกลับเป็นคนตัวสูงที่เดินตามเข้ามาแทน

              “ความจริงบีไม่เห็นมีความจำเป็นต้องซื้อให้คริสมากมายขนาดนี้เลยนี่นา...”น้ำทิพย์เกือบหลุดขำกับท่าทางเหมือนเสียดายเงินของคริส ทั้งที่จริงๆแล้วตอนเลือกซื้อของนั้นตาลุกวาวยิ่งกว่าแมงมุมลายตัวนั้นอีก โดยเฉพาะอะไรที่เป็นรุ่นลิมิเต็ดหรือคอลเลคชั่นใหม่

    ส่วนป๋าน้ำทิพย์น่ะเหรอ...ได้มาแค่กระเป๋าสตางค์รุ่นท็อปของ CELINE ราคาแค่หมื่นนิดๆ...

    อีกแสนกว่าๆก็หมดไปกับคนตัวเล็กที่นั่งชื่นชมคอลเลคชั่นใหม่อยู่ข้างๆนี่แหละ!!!

              “บอกแล้วไง...ว่าจะจีบ”

              “จะจีบมันให้แค่ของแบบนี้ได้ด้วยเหรอ”บีคิดว่าอย่างน้อยคริสก็เริ่มกล้าที่จะเล่นกับความรู้สึกตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว

              “ใครบอกจะให้แค่ของ...ยังไม่ทันไรก็ด่วนตัดสินซะแล้วนะคุณศิริน”ทั้งสองจ้องตากันอยู่นาน เหมือนเป็นการเล่นเกมกันกลายๆว่าใครตกหลุมรักก่อนคนนั้นแพ้...

              “พี่บี.../พี่คริสค๊า~”เสียงลากยาวของเจสซี่และลิลลี่ที่ดังทะลุประตูเข้ามาทำให้ทั้งคู่ต้องยุติเกมจ้องตาเพียงเท่านั้น

              “งั้นบีออกไปเปิดประตูนะ”เมนเทอร์สาวออกไปเปิดประตูไม่นานก็กลับเข้ามาชวนคริสไปปาร์ตี้ที่ด้านล่างของคอนโด ซึ่งดูเหมือนว่างานจะเริ่มไปได้นิดหน่อย พวกเด็กๆก็เริ่มชิมแอลกอฮอล์แต่หัววัน เพราะบีได้ยินมาว่ามีบาร์เทนเดอร์ที่เป็นหญิงสาวซึ่งมีข่าวมาหนาหูว่าเลือกเครื่องดื่มได้รู้ใจนักดื่มที่สุดมาเติมสีสันในปาร์ตี้นี้ด้วย

              ทั้งบีและคริสเลือกที่จะไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะรู้ดีว่าถึงตอนกลับมาก็คงมีกลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งไปทั่วเป็นแน่ แถมชุดในตอนนี้ก็ไม่ได้น่าเกลียดหรือเต็มยศจนเกินไป

              ระหว่างที่ลงลิฟต์ น้ำทิพย์รู้สึกว่าคนตัวเล็กมีท่าทีกังวลจึงเอ่ยปากถามอย่างเสียมิได้

              “คริสมีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่า...”

              “คือบี...”คริสอึกอักไม่กล้าสบตาคนถาม ลิฟต์คือส่วนที่อันตรายที่สุดเป็นอันดับสองของคอนโดรองลงมาจากห้องนอน

              “หือ?”

              “คริสว่า...อืม...ถ้าคริสเมาแล้วเกิดบีเมา...แล้ว เราอยู่ห้องเดียวกัน...คือแบบ วันนี้...คริสขอไปนอนกับพลอย...”น้ำทิพย์เกือบกลั้นขำไม่อยู่เมื่อเห็นคนตัวเล็กที่เอานิ้วชี้จิ้มชนกันเหมือนเด็กขออนุญาตแม่ไปซื้อขนม

              “อ๋อ คริสกังวลเรื่องนี้เองน่ะเหรอ งั้น...เดี๋ยวตามบีมานี่...”บีกึ่งลากกึ่งจูงคริสออกมาจากลิฟต์ มาที่ศาลพ่อพรหมใหญ่ด้านหน้าสุดของคอนโด แม้จะมีลูกทีมมองตามมาอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้มีใครคิดจะตามทั้งคู่ออกมาจากปาร์ตี้ที่สระว่ายน้ำ

              “คริส คราวนี้...เอาจริงจังเลยนะ”บีพูดก่อนจะจุดธูปแล้วเอ่ยคำที่ศิรินไม่คาดคิดออกมาเสียงดัง

              “ข้าพเจ้า นางสาวน้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ ขอสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ที่แห่งนี้ ว่าตลอดเวลาที่ข้าพเจ้าอยู่ร่วมกับ นางสาวศิริน หอวัง ข้าพเจ้าจะไม่แตะต้องหรือกระทำกายทุจริตต่อนางสาวศิริน หอวัง หากไม่ได้รับความยินยอมด้วยสติสัมปชัญญะครบถ้วน หากข้าพเจ้า กระทำผิดต่อคำสาบานนี้...ขอให้ชีวิตของข้าพเจ้าวิบัติยุ่งเหยิงไม่มีที่สิ้นสุด ได้รับความโกรธเกลียดและทนทุกข์จนกว่าจะสิ้นลมหายใจ สาธุ”สาบานเรียบร้อยก็ปักธูปลงในกระถางธูปทันที การกระทำนี้เป็นอะไรที่อยู่เหนือความคาดหมายของศิรินเป็นอย่างมาก

              “คนอะไรแมนชิบหาย หล่อ...เค้าหล่อมากกกก”เสียงนักเรียนหญิงที่เดินผ่านคอนโดซึ่งหยุดดูเหตุการณ์อยู่เมื่อครู่ลอยข้ามรั้วเข้ามาถึงในคอนโด

              “ปะคริส...Let’s go to the party”พูดเสร็จก็เดินจับมือกันเข้าไปในงานโดยที่หารู้ไม่ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่ในสายตาใครบางคนตลอดเวลา

              "....คนจริงซะด้วยนะ บี”

     

             ชื่อตอนเหมือนจะตอลแหล

    เอาเป็นว่าเป็น 50% แรกละกันนะ

    พี่บีคนคูลคนหล่อก็งี้อ่ะ ต้องใจความหล่อนะ555

    เฮียแกเอาจริงนะ เฮียแกจีบจริงนะ

    ปล.การปรับฟ้อนไม่มีผลกับแอพเพราะเรารู้ว่าส่วนมากอ่านจากแอพกัน 

    แต่เว็บมันอ่านง่ายกว่าเดิมนะ เพราะเราเปิดเว็บเพื่ออัพแล้วอ่านรู้สึกลายตามาก

    ด้วยรัก

    ไรท์

    ~50%~

               “แหมๆ เมื่อกี้เห็นนะว่าพี่บีแอบไปไหนมา”ติช่าเดินเครื่องแซวยกใหญ่หลังจากที่น้ำทิพย์นั่งลงที่เก้าอี้บาร์ พร้อมสั่งเครื่องดื่ม

              “อยากได้สก็อต วิสกี้ เอาแบบเพียวๆเลยนะคะคนสวย”บาร์เทนเดอร์สาวเลิกคิ้วน้อยๆก่อนเอ่ยทักอย่างผู้ชำนาญการ

              “ดื่มเพียวๆตั้งแต่เริ่มงานไม่ดีมั้งคะ แนะนำเป็นโมฮิโต้เบาๆก่อนมั้ยคะคุณบี”บีไม่แสดงอาการแปลกใจที่คนตรงหน้ารู้จักเธอ แต่กลับเป็นติช่าที่สงสัยเสียแทน

              “พี่บี? ยูรู้จักชีได้ยังไง?”ตอนนี้ตาของติช่ามีแต่เครื่องหมายคำถามแทบจะจับมาเขย่าๆเทผสมรวมกันเป็นค็อกเทลอีกแก้วยังได้ แต่เมนเทอร์สาวกลับไม่ได้สนใจลูกทีมคนโปรดมากนัก ก่อนเอ่ยปากสั่งอีกครั้ง

              “งั้นเอาเป็นเพียวมาร์ตินี่ ย้ำนะคะว่าเพียว สูตรดั้งเดิม ได้ไหมคะ”บาร์เทนเดอร์คนสวยชั่งใจเล็กน้อยก่อนจะผสมค็อกเทลให้ตามที่อีกฝ่ายขอ พลางบ่นงึมงำที่ทำให้บีต้องกลั้นขำ

              “ชอบเหล้าผู้ชายเข้มๆแล้วยังสวยอีกนะคะ จะรอดูตอนที่เมนเทอร์คนเก่งของเดอะเฟซหมดสภาพค่ะ”พูดจบก็วางแก้วค็อกเทลลงบนโต๊ะ หันไปสนใจเฌอมาลย์ที่เข้ามาสั่งค็อกเทลต่อ

              “เมื่อกี้ยูถามว่าเค้าเป็นใครใช่ป้ะติช่า...”ติช่าพยักหน้าหงึกหงักด้วยความอยากรู้เป็นที่หนึ่ง

              “พี่เคยคบกับเค้าเมื่อ...ประมาณสองสามปีก่อนพี่ไม่แน่ใจ”บีตอบด้วยท่าทีสบายๆชิลๆ ผิดกับติช่าที่ยกมือทาบอก

              “ขุ่นพระเดชเฉดหัวแม่วาด!!! พี่บียูสตรองมาก แต่พี่สาวคนนั้นสตรองกว่ามาก โอ้ก็อดออฟเดอะเฟซ!!!”บีมองบน...มันต้องเวอร์ขนาดนั้นเลยเหรอ

              “เราจากกันด้วยดี เราค้นพบว่ามันไม่ใช่ แล้วตอนนี้เธอเองก็มีแฟนใหม่แล้วล่ะ เห็นว่าเป็นเจ้าของไร่องุ่นผู้ผลิตไวน์รายใหญ่แถวๆปากช่อง ท่าทางจะไปกันได้ดี”น้ำทิพย์พูดพร้อมรอยยิ้มบางๆก่อนแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์

              “ว่าแต่เราเหอะ...อย่าคิดนะว่าพี่ไม่รู้ไม่เห็น เป็นไงมะปราง...แซ่บ...มั้ย”เน้นหนักและกดเสียงต่ำที่คำว่าแซ่บเพื่อตอกย้ำความเผ็ดแซ่บของมะปราง

              “โอ้วพี่บี...แซ่บ..แซ่บมากๆๆ...เค้าเป็นสามีที่ สุด....”

              “สุดอะไรเหรอติช่า..”กฎข้อที่ยี่สิบสองของทีมบีว่าด้วยเรื่องการนินทา ห้ามผู้ถูกนินทาล่วงรู้เหตุการณ์ที่กำลังตกเป็นเป้าในวงสนทนา

              “เอ่อ...สุดๆๆ...สุดติ่งกระดิ่งแมวนี่แปลว่าอะไรคะพี่บี เนี่ยช่างงมากมีคนมาถามใน ASK.fm ช่าไม่รู้จะตอบยังไง”น้ำทิพย์รู้สึกชื่นชมสกิลการแถที่เหมือนเป็นวิชามารประจำทีมบี...อีกแล้ว ก่อนจะรีบช่วยลูกทีมอย่างสุดความสามารถ? (ไม่ใช่ที่จริงปัดให้พ้นๆตัว)

              “อ๋อ มันประมาณแบบ...ยังไงดีมะปรางอธิบายหน่อยสิ”บีคิดว่าบีบอกไปแล้วว่าเป็นคนอธิบายไม่เก่ง

              “แปลว่าสุดยอดมั้ง...มันเจ๋งมากอะไรงี้รึเปล่า”น้ำทิพย์เมื่อเห็นท่าว่าตนเองคงเป็นก้างแน่แล้ว...จึงขอตัวออกมาจากบริเวณที่เด็กๆต่างเต้นกันอย่างสนุกสนาน

    ทำไมไม่สนุกเลยวะ...

              “อ้าวพี่บี...ทำไมมานั่งตรงนี้คนเดียวล่ะคะ”จุ๊กกู้ลูกทีมของเธอเอ่ยทัก ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆโดยในมือยังถือแก้วเครื่องดื่มสีฟ้าสดใสอย่าง กามิกาเซ่ (kamikaze) ตามสไตล์

    น้ำทิพย์ยอมรับว่าลูกทีมทุกคนนั้นมีความเหมือนเธอไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง...

    แพรวคือที่หนึ่งเรื่องมารยาหญิง อันนี้ต้องยอมรับว่ามีเหลือล้นจริงๆ...

    ติช่าคือที่หนึ่งด้านการพูดตรงๆ(และการแถ) นิสัยอาจเหมือนกันแต่การแสดงออกนี่...

    จุ๊กกู้เป็นที่หนึ่งด้านขาเมา...อันนี้ต้องยกให้เค้าล่ะ

    จีเป็นที่หนึ่งด้านความกวน...กวนได้ระดับพอๆกัน

    ส่วนลิลลี่...

    เป็นสกิลการอ้อยที่บี น้ำทิพย์ภาคภูมิใจที่สุด!!!

    ฝากฝังเทคนิคการอ้อยของพี่บีด้วยนะลิลลี่นะ...

              “พี่รู้สึกเซ็งๆน่ะ เหมือนงานนี้มันเป็นงานของติช่าแล้วก็ทุกคนมากกว่าไง”เธอยิ้มเจื่อนๆแต่จุ๊กกู้กลับส่ายหน้าเป็นเชิงเซย์โนว์เอส (เซย์โนว์ขั้นสุดไง โนว์เอ้อ โนว์เอ่ส เก็ตป่ะ)

              “พี่คริสก็อยู่นะ ตอนนี้พี่พาลอยออกไปวาดลวดลายแข่งกับเจสซี่แล้วก็ลิลลี่พี่คริสก็เลยนั่งคน...”

              “งั้นพี่ไปก่อนนะ”ร่างสูงของน้ำทิพย์ลุกพรวดโดยที่ไม่ฟังให้จบ แม้แต่จุ๊กกู้ก็รับรู้ได้ถึงกระแสพลังงานบางอย่างที่แผ่ออกมา...

              สาวผิวแทนยกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดี แต่ไม่นานก็ต้องสะดุ้งด้วยเสียงวัตถุหนักบางอย่างตกลงไปที่สระน้ำอย่างน่ากลัว

              “อะไรอีกวะเนี่ย”เธอผุดลุกขึ้นหันรีหันขวางก่อนจะรีบวิ่งตรงไปที่งาน

    อย่าให้เป็นแบบที่คิดเล๊ย...

    เมื่อวิ่งมาถึงริมสระก็เจอภาพที่ไม่เป็นอย่างที่จุ๊กกู้คิด...แต่มันยิ่งกว่าที่คิดอีกเฮ้ย!!!

              สิ่งที่อยู่ในสระก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลิลลี่ดอกไม้ของจุ๊กกู้นั่นแหละ!!! เสื้อยืดสีขาวเปียกน้ำลู่ลงแนบสัดส่วนของลำตัว เรื่องเสื้อแจ็คเก็ตยีนส์สีชมพูนั่นไม่ต้องพูดถึง...เหมือนเจ้าตัวจะจงใจกองมันไว้ขอบสระเรียบร้อย นอกนั้นยังไม่หยุดอาการเต้นอย่างเมามันที่กำลังประชันกับเจสซี่ซึ่งทำท่าจะกระโดดลงมา แต่ดีที่กวางดึงไว้ทัน...

              “ลิลลี่!!! แป๊ปเดียวก็เมาขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”ใบหน้าที่เคยนวลขาวแดงก่ำ สาวผิวแทนแอบเห็นว่าเฌอมาลย์เหลือบมองเด็กน้อยที่เต้นต่ออย่างมันค้างด้วยแววตาไม่น่าไว้ใจ

              “แกก็พาลิลลี่ขึ้นไปบนห้องน้องเหอะ...”กวางเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย แต่คงมีเพียงจุ๊กกู้ที่เห็นสัญลักษณ์การขยิบตาให้สัญญาณ ห้องน้องของกวางคงแปลว่า คืนนี้...ห้องของลิลลี่คงตกเป็นของทั้งเธอและลิลลี่

    และห้องเธอก็คงโดนเคลมด้วยสิทธิ์ของกวางเช่นกัน...

              “อื้ม”จุ๊กกู้เอื้อมมือไปดึงคนเมาขึ้นจากสระแล้วคลุมร่างที่เปียกปอนด้วยเสื้อแจ็คเก็ตทั้งของลิลลี่เองและแจ็คเก็ตหนังของเธอให้รอดพ้นสายตามารที่จ้องราวกับจะเขมือบลิลลี่น้อยของเธอ ก่อนค่อยๆประคองคนเมาขึ้นห้องไป

              “พี่ว่า...เจสซี่ก็น่าจะพักได้แล้วนะ”กวางเอ่ยขึ้นบ้างเพราะอาการโงนเงนของอีกฝ่ายทำให้เธอทรงตัวตามไม่ค่อยจะอยู่ จนรฐาอาสามาช่วยแต่กวางก็ปฏิเสธ...

    น่ะนะ เหตุผลก็รู้ๆกันอยู่...

              หลังจากที่จุ๊กกู้กึ่งลากกึ่งแบกลิลลี่มาที่ห้อง ร่างสูงผิวแทนก็มีอันตั้องปวดหัวอีกครั้ง...เธอรู้รหัสห้องลิลลี่งั้นเหรอ...

    ก็ไม่ไง!!!

              “ลิลลี่คะ...บอกรหัสห้องพี่หน่อยสิ พี่จะได้พาลิลลี่เข้าไปส่งไง”

              “เจ็ดสี่เจ็ดสี่”เจ้าของร่างสูงโปร่งที่แทบยืนไม่อยู่งึมงำออกมาเบาๆแต่ก็พอจะทำให้จุ๊กกู้จับใจความได้

              “ไม่บอกก็รู้ว่าใครตั้งรหัสห้อง”สาวผิวแทนค่อยๆประคองร่างปวกเปียกที่สติเลือนรางเต็มกลืนไปที่ห้องนอน ไม่ลืมที่จะถอดรองเท้าไว้หน้าประตูเพื่อไม่ให้เกะกะห้องของสาวน้อยมากเกินไป

              จุ๊กกู้นั่งจ้องใบหน้าขาวใสของเด็กน้อยที่อายุห่างจากเธอเกือบสิบปี ความดีความชั่วทะเลาะตบตีกันอยู่ในใจ มือเรียวเอื้อมไปสัมผัสไล้ใบหน้าอ่อนเยาว์ พลันเธอก็ชักมือออกราวถูกช็อตด้วยกระแสไฟฟ้า

    ทำไม่ได้หรอก...

    เค้าเมา...ยังไม่ได้สติ...

    เธอมาเพื่อเคลียร์ ไม่ใช่ เคลม

              “พี่กู้”สิ่งที่ทำให้เธองงมากกว่าเดิมคงหนีไม่พ้นเสียงที่เรียกชื่อเธอพร้อมๆกับการตวัดแขนโอบรอบคอรั้งเธอไว้ไม่ให้ไปไหน นัยน์ตาสีดำขลับที่สบมาทำเอาเธอกระจ่าง

              “ลี่...ไม่ได้เมาเหรอ”ร่างบางส่ายหน้า จ้องมองกลับมาด้วยความรู้สึกที่ยากอธิบาย

              “เมาค่ะ แต่สร่างไปได้พักนึงตั้งแต่ตอนกระโดดลงสระ”จุ๊กกู้มองอย่างคาดโทษที่ลิลลี่บังอาจมาหลอกเธอ แต่ก็แอบโล่งใจที่ตัวเองไม่ได้เผลอทำอะไรไปมากกว่าเมื่อครู่

              “เมื่อกี้...พี่กู้จะทำอะไรอ่ะคะ”สาวน้อยกระพริบตาปริบๆอย่างยั่วยวนทำเอาอีกฝ่ายต้องกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น

              “เอ่อ...คือ...”

              “ทำต่อสิ...”พูดจบก็เป็นฝ่ายยื่นหน้าไปประกบริมฝีปากกับอีกฝ่ายเสียเอง แถมยังรุกเร้าเสียจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นเด็กอายุสิบสาม

              “พี่ชอบลิลลี่นะ...”

              “ลิลลี่ก็ชอบพี่จุ๊กกู้...”

              “พี่ว่า...วันนี้ลิลลี่เมามากแล้วนะ พักผ่อนเถอะ...”จุ๊กกู้รีบลุกจากเขตอันตราย ไม่ได้กลัวอาการยั่วยวนของสาวน้อยตรงหน้าหรอก...กลัวใจตัวเองมากกว่า

              “พี่กู้...”ลิลลี่ลากเสียงพลางซบเข้ากอดอีกฝ่าย

              “คืนนี้อยู่กับลิลลี่นะคะ...”

              “...”

              “นะคะพี่กู้...”

              “พี่ไม่อยากพรากผู้เยาว์นะลิลลี่”สาวผิวแทนเอ่ยอย่างลำบากใจ แต่ในใจก็อยากอยู่เหมือนกันแหละ

              “ไม่เป็นไรค่ะ...ลิลลี่ไม่แจ้งความหรอก”ไอ้สายตาหวานหยาดเยิ้มนั่นคืออะไร...เอาจริงดิ

    โอเค...ถ้างั้นจุ๊กกู้ก็จะไม่ทนค่ะ!!!

     

     

     

              ในขณะที่เกิดการพรากผู้เยาว์กันบนชั้นสิบสองของคอนโดนั้น...หลายคนที่ยังอยู่ในปาร์ตี้ก็เริ่มกรึ่มๆกันบ้างแล้ว น้ำทิพย์ชวนศิรินออกไปแดนซ์บ้าง ประชันกับติช่าที่เหมือนจะคอทองแดงพอสมควร ตอนนี้คนที่นั่งอยู่ติดกับโต๊ะก็มีเพียงมะปรางและลูกเกดที่ขอนั่งจิบค็อกเทลแบบสวยๆดีกว่าเยอะ

              “เฮ่ยๆ ไหวมั้ยเนี่ย”เฌอมาลย์ประคองรฐาเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายแทบจะคะมำลงสระอยู่รอมร่อ

              “หวายเซ...”ตอบสไตล์คนมาว...เอ้ย เมา ก่อนจะผละออกไปเต้นกับพลอยต่อทั้งๆที่อีกคนก็มีสภาพไม่ต่างกันเท่าใดนัก

              “คริส..เมายัง”น้ำทิพย์เอ่ยถามขณะเต้นด้วยจังหวะเบาๆ ที่ไม่ได้หลุดโลกแบบติช่า

              “ทำไมอ่ะ จะมอมคริสเหรอ คิคิ”โอเค เสียงหัวเราะแบบเด็กสามขวบเริ่มมาก็แปลว่าเริ่มมึนนิดๆแต่คงยังไม่ถึงกับเมา

              “บีไม่ปล้ำคริสหรอกน่า สาบานแล้วไง”ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อ เสียงของปิยะรัฐก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน

              “ทุกคนครับ ขอขัดจังหวะซักครู่...”ปิยะรัฐก้าวขึ้นมาบนเวทีถาวรเตี้ยๆของคอนโดพร้อมๆกับเสียงเพลงที่เงียบลงไป

              “วันนี้ผมจะขอแนะนำคนๆนึง ที่ทุกคนควรรู้จักนะครับ เห็นบ่นๆกันว่าอยากเจอ เค้าคนนี้คือเจ้าของโครงการคอนโดนี้นี่เองแหละครับ!!!”เสียงปรบมือดังขึ้นแทบจะทันทีที่มีคำว่า เจ้าของโครงการก่อนที่ปิยะรัฐจะเชิญใครบางคนที่สร้างความรู้สึก ประทับใจไม่รู้ลืมให้กับน้ำทิพย์

              “คุณอนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ครับ”ฉับพลันที่ร่างสูงเพรียวหุ่นนางแบบของอนิพรณ์ก้าวออกมาจากฉากเวที ก็ทำให้น้ำทิพย์แข็งทื่อไปทันที

              “พี่บี...”ติช่าเขย่าแขนน้ำทิพย์แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพอสบสายตาที่มองมาเยี่ยงผู้ชนะของอนิพรณ์แล้ว...ประสาทสัมผัสของเธอก็ใช้งานไม่ได้ไปเลย

              และคำพูดที่ออกมาจากปากน้ำทิพย์ก็มีแค่เพียงคำเดียว..

              “แนท...”ได้แค่นี้จริงๆ...แต่ในใจก็มีประโยคยาวๆต่อออกมา

    ชิบหายแล้วกู!!!

     

      

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×