ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BeeCris/บีคริส] Deepens But Faraway

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : THE HOTTEST GUY

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 59


    Chapter.1 THE HOTTEST GUY

              “พี่บี...”เสียงหวานแสดงความออดอ้อนปะปนมาตามสายทำให้ผู้จัดหนุ่มรู้ว่าน้ำทิพย์ไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ทว่าเขาก็ได้ยินเสียงน้ำทิพย์ปรามลอยมาเช่นกัน แต่ช่างเป็นการปรามที่...

              “จุ๊ๆไม่เอาไม่ซนนะคะ ขอพี่ทำงานก่อน เดี๋ยวจะกลับมาให้รางวัลวันหลังนะ”และเสียงดัง “จุ๊บ” ที่แทรกสายมายิ่งทวีความไม่พอใจให้เต้มากขึ้น

              “ว่าไงคะพี่เต้”และอีกอย่างก็คือ ไอ้น้ำเสียงอารมณ์ดีไร้ความทุกข์ร้อนใจนั่นมันอะไร!!!

              “ลืมไปรึไงว่าวันนี้วันอะไร...”เขาทวนความจำเธอเป็นคำถามอย่างอดกลั้น พลางนับหนึ่งถึงสิบในใจ

              “อืม...วันอังคารค่ะ”อาจเป็นเพราะน้ำทิพย์คงเพิ่งตื่นบวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังอยู่ในกระแสเลือดไม่น้อย ทำเอาปิยะรัฐแทบต้องกุมขมับ

     

    เหอะ!!! ไอ้มาดนางพญาด่านิ่งจนติ่งคริสเจ็บแทนมันก็มีแค่ในรายการเท่านั้นแหละ!!!

     

              “บี...”เขาสะกดความเดือดดาลที่เริ่มปะทุขึ้นมาอีกหนแล้วกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเนิบๆ

              “วันนี้เป็นวันที่คุณต้องย้ายเข้ามาอยู่ในคอนโดฯของรายการนะ”ทายาทบริษัทกันตนารู้สึกได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาถนัดเลยสักนิด...ไอ้การสะกดกลั้นอารมณ์เนี่ย

              “อ้อ...จริงด้วยสิ ขอบคุณที่โทรมาเตือนนะคะ”แม้ว่าน้ำเสียงที่ปลายสายจะแสดงความกระตือรือร้นขึ้นมาบ้าง แต่มันก็น้อยเกินไป...ปิยะรัฐจึงตัดสินใจขั้นเด็ดขาด

     

    แม้ว่าตอนแรกจะปราณีแล้วก็เถอะ...

     

    แต่ทำตัวแบบนี้มันไม่ไหวจริงๆว่ะ

     

              “พี่ขอเตือนไว้ก่อนเลยนะ อย่าริอ่านพาผู้หญิงหรือบรรดากิ๊กของบีขึ้นคอนโดฯของรายการเชียว เพราะถ้าภาพลักษณ์ของบีเสียหาย...คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

              “...”ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง

              “บีรู้ค่ะ...และบีก็มีความเป็น Professional มากพอที่จะรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง...”

              “ขอบคุณที่รู้หน้าที่ของตัวเอง และบีควรรู้ไว้อีกอย่างว่า...ตอนนี้ทุกคนได้ย้ายเข้ามาในคอนโดหมดแล้ว...เหลือแค่คนเดียว คงไม่ต้องให้พี่บอกใช่มั้ย...ว่าใคร”น้ำทิพย์รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาบ้างกับคำจิกกัดของอีกฝ่าย ต่อให้เป็นเจ้านายก็เถอะ

              “น้ำทิพย์รับบัญชา...จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละเพคะ”แล้วนางแบบสาวก็กดวางสายทันทีโดยไม่ให้อีกฝ่ายได้พูดอะไรสวนกลับมาอีก

     ยอมรับเลย...กวนตีน

     

     

              “อ้อ...แพรวคะ พี่ต้องไปก่อนนะ รายการเรียกแล้ว”น้ำทิพย์หันมาพูดกับหญิงสาวอีกคนในห้องที่ยังนั่งงัวเงียอยู่บนเตียงกว้าง

              “พี่บีอยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอค้าแพรวยังไม่หายคิดถึงเลย”แพรวกอดน้ำทิพย์อย่างสนิทสนม หากใครมาเห็นพฤติกรรมของทั้งคู่ตอนนี้ก็บอกได้เลยว่าสองคนนี้คงต้องผ่าน ‘อะไรๆ’ ด้วยกันมามาก

              “ฮื่อ พี่บอกว่ายังไงคะ~”น้ำทิพย์มักจะท้วงด้วยคำนี้เสมอ ยามที่ใครๆงอแงกับตน ซึ่ง ‘ใครๆ’ ในที่นี้เหมารวมถึง กิ๊ก แฟนเก็บ แฟนแอบทั้งหลายทุกคน ไม่ได้เจาะจงเฉพาะคนใดคนหนึ่ง แต่ทุกคนก็ยอมทำตามแต่โดยดี

              “พี่ไปจริงๆแล้วนะ เจอกันค่ะ”แพรวโบกมือลาหญิงสาวร่างสูงที่เดินออกไป แต่หัวใจก็หน่วงๆแปลกๆ ทั้งที่บอกตัวเองมาเสมอว่าเป็นคนที่เขาใช้ระบายอารมณ์ก็ดีแค่ไหน...แต่มันก็อดที่จะคิดไม่ได้อยู่ดี

     บางที...ชีวิตแบบนี้อาจจะไม่เหมาะกับเธอ

     

     

              เมื่อเห็นร่างเพรียวบางของน้ำทิพย์ลากกระเป๋าเดินทางสีดำมาอย่างใจเย็นเสียเหลือเกิน ปิยะรัฐก็รู้สึกไม่พอใจกับความชิลล์ของเธออีกครั้ง

              “พี่เต้คะ ขอคีย์การ์ดห้องบีด้วยค่ะ”น้ำทิพย์ว่าพลางถอดแว่นกันแดดเคลือบปรอทแบบที่มักจะเห็นเธอใส่อยู่เสมอ แต่ปิยะรัฐกลับยิ้มเย็นแสดงอาการไม่ทุกข์ร้อนบ้าง

              “อ้าว...สงสัย จะอยู่ที่คริสล่ะมั้ง อืม...คงงั้นแหละ”เพียงเท่านี้ น้ำทิพย์ก็รับรู้ได้ว่า...

    โดนเล่นซะแล้ว...

     

              น้ำทิพย์เพียงเลิกคิ้วก่อนจะเดินไปที่ลิฟต์อย่างไม่สนใจผู้จัดหนุ่ม เพราะรู้มาแล้วว่า ชั้นของเมนเทอร์นั้นคือชั้นที่สิบสาม ห้อง 135 และคนรายงานก็หนีไม่พ้นสายข่าวหูไวตาไวปากไวอย่างติช่า แชมป์เดอะเฟซลูกรัก ที่ทั้งสกิลการพูดและการเผือกเรียกได้ว่า...มาเต็ม

              ขายาวๆพาร่างสูงมาหยุดอยู่ที่หน้าประตู เธอรู้ดีว่ารูมเมทของเธอเป็นใคร...

     

    ศิริน หอวัง

     

    คนที่เธอเคยเขี่ยน้ำหวาน ลูกทีมของหล่อนตกรอบ...

    คนที่เธอเคยค่อนขอดกวาง ลูกทีมคนโปรดของหล่อนว่า...บ้าน

    คนที่เธอเคยยืนด่า 2 ชั่วโมงรวด...

     

    น้ำทิพย์กลืนน้ำลายเพราะเริ่มรู้สึกว่าลำคอแห้งผากขึ้นมาซะดื้อๆ...

     

    ไม่ได้กลัวน่า...

     

              ร่างสูงยืดกายก่อนจะกดออดหน้าประตู ท่วงท่าสง่าราวนางพญากลับมาพร้อมความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม เสียงใสเจื้อยแจ้วเรียกชื่ออีกฝ่ายที่อยู่ด้านในให้เปิดประตู...

    ...

    นาที...

    ...

    10 นาที...

    ...

    20 นาที...

    ...

              มาดนางพญาถูกลบออกไปตั้งแต่เมื่อ 10 นาทีก่อน ดูเหมือนอาจจะไม่มีคนอยู่...แต่ทว่าน้ำทิพย์ก็รู้ว่าศิรินอยู่ในนั้น...

              ก็ทั้งเสียงโทรทัศน์ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนเป็นเสียงเพลง กลิ่นอาหารที่ลอยออกมากับไอเย็นของเครื่องปรับอากาศ แน่นอนว่าศิรินต้องอยู่ข้างใน

              อะไรก็ไม่พีคเท่ากับการเอาคีย์การ์ดของเธอเข้าไปด้วย...จนตอนนี้นางพญาผึ้งสุดสวยยังหาทางเข้าห้องไม่ได้...

              “อ้าวพี่บี วายยูซิทเฮีย ทำไมไม่เข้าไปคะ”เสียงทักอย่างงงๆของติช่าไม่ได้ช่วยให้น้ำทิพย์หลุดจากความเซ็ง ร่างสูงทำหน้าบูดก่อนจะลุกขึ้นจากกระเป๋าเดินทางที่กลายร่างไปเป็นที่นั่งชั่วคราว

              “ก็พี่คริสน่ะสิ ไม่รู้อะไรของเค้า เรียกก็ไม่เปิด...คีย์การ์ดพี่ก็เอาไป เนี่ยติช่า ยูช่วยพี่ทีสิ”ติช่าเบิกตาแล้วทำท่าชี้นิ้วมาที่ตัวเอง

     

     

              “ช่าช่วยพี่ได้แค่นี้จริงๆ ขอโทษนะคะพี่บี”บังเอิญว่าน้ำทิพย์โชคดี ที่ห้องของติช่าอยู่ตรงกับห้องของเธอกับศิรินพอดี ความคิดพิเรนทร์ๆผุดขึ้นมาในหัวแทบจะทันทีที่รู้ว่าระเบียงของคอนโดฯแห่งนี้คอนข้างเซฟพอสมควร

              “เอ่อ...พี่บีจะทำจริงเหรอคะ”มะปรางถามแบบกล้าๆกลัวๆเนื่องด้วยตัวเองไม่ค่อยสนิทกับเมนเทอร์คนนี้มากนัก แถมท่าทางน้ำทิพย์ไม่น่าจะเป็นคนทำเรื่องเสี่ยงคอหักเป็นปลาทูแม่กลองแบบนี้เลย...

              “ห่วงพี่เหรอ...”ไม่ว่าเปล่า ร่างสูงกลับหันมายิ้มโชว์เขี้ยวเล็กๆอันเป็นสัญลักษณ์การหว่านเสน่ห์ของเจ้าตัวจนมะปรางถึงกับหน้าแดง

              “อะแฮ่มๆ”ลูกสาวสุดรักรีบกระแอมขัดจังหวะเพราะกลัวว่ามะปรางจะหลงคารมและลมปากแม่บีซะก่อน แถมยังเอาร่างเล็กๆ(อย่างน้อยก็เล็กกว่าสองคนที่เหลือ)เข้ามาบังมะปราง พลางทำปากขมุบขมิบแต่ไม่ออกเสียงให้น้ำทิพย์เห็นเพียงคนเดียวว่า...

     

    ของช่า

     

              น้ำทิพย์เลิกคิ้วสูงเป็นเชิงล้อเลียนแต่ก็ไม่พูดอะไร เธอเพียงยักไหล่แล้วหันไปสนใจผ้าม่านที่ถูกนำมามัดสำหรับปีนขึ้นห้องศิริน(ที่เป็นห้องตัวเองด้วย) ร่างสูงที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอดูจะมั่นใจในศักยภาพของร่างกายตัวเองมากพอสมควร

     

    ณ จุดจุดนี้ บอกเลยว่า...

     

    น้ำทิพย์ไม่ได้มาเล่นๆนะคะ...

     

              “ไม่สตรองจริงทำไม่ได้นะเนี่ย”ติช่าพูดอย่างเสียวๆในขณะที่มือก็จับผ้าม่านอย่างระวัง มีมะปรางคอยดูและคอยรับเผื่อว่าเมนเทอร์ขายาวคนดีจะตกลงมาซะก่อน ติช่ายอมรับเลยว่าไม่อยากเห็นสภาพพี่บีของเธอในลุคปลาทูแม่กลอง

              ไม่นานน้ำทิพย์ก็ใช้ขายาวๆของตนเองตวัดข้ามระเบียงเหล็กสีน้ำตาลได้สำเร็จ นี่แหละประโยชน์ของการมีขายาว...

     

    50% มาอัพแล้วน้า~

                  เสียงกุกกักด้านนอกประตูระเบียงที่ถูกปิดด้วยม่านทำให้ศิรินรู้สึกประหลาดใจและไม่นาน เจ้าของส่วนสูง 169 เซนติเมตรก็พาร่างของตนมาที่หน้าประตูบานเลื่อน แต่ก็ไม่ได้เปิด เธอนิ่งอยู่ครู่หนึ่งอย่างลังเล...

                “อาจจะเป็นแมว...”ศิรินรำพึงกับตนเอง ใจนึงก็กลัวว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงของใครที่หลุดมาจากห้องอื่นๆ และอาจจะซนจนตกระเบียง (จิตใจดีก็งี้อ่ะ) อีกใจก็กลัวว่าจะเป็นอะไร ‘อย่างอื่น’ แต่ก็เปิดประตูออกไปดูอยู่ดี

     

    อาจจะลืมนึกไปว่า...คอนโดนี้ยังไม่เปิดให้ลูกค้ามาอยู่

     

    และไม่มีใครในรายการ เอาสัตว์มาเลี้ยงซักคน...

     

    ...ล่ะมั้ง...

                “ไงคริส”พอเปิดออกไปปุ๊บก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นคนขายาวที่เป็นต้นเสียงกำลังยืนส่งยิ้มอย่างยียวน มองปราดเดียวก็รู้ว่าหล่อนคงรอเธอเปิดประตูอยู่แล้ว

                “ไงบี”เอาสิ กวนมากวนกลับไม่โกงค่ะ

                “บีขอเข้าไปหน่อยนะคริส”ขอเพียงปากแต่ไม่รอให้เจ้าของร่างเล็กกว่าอนุญาต น้ำทิพย์แทรกกายเข้ามาทันทีอย่างถือสิทธิ์ เธอดอนท์แคร์อยู่แล้วเพราะห้องนี้มันก็เป็นห้องเธอเหมือนกัน

                “ทำไมคริสไม่เปิดประตูให้บี”คนขายาวว่าพลางเดินไปที่ประตูเพื่อเอากระเป๋าที่ตนทิ้งไว้หน้าห้องเข้ามาเก็บให้เข้าที่เข้าทาง

                “อ้าวเหรอ คริสไม่ได้ยินสงสัยเสียงเพลงมันดัง”น้ำทิพย์ถอนหายใจ พยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจ พักหลังมานี้รู้สึกว่าคริสกวนมากขึ้น

     

    ไม่รู้ติดมาจากใคร...

     

                “งั้นขอคีย์การ์ดบีหน่อยสิ”สาวหน้าหมวยส่งคีย์การ์ดให้อย่างจำยอม ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะไม่ให้ แม้ว่าใจจะหมั่นไส้คนตัวสูงก็เหอะ มันเป็นอารมณ์หมั่นไส้ล้วนๆที่ไม่มีหึงหวงปนแม้แต่น้อย...

     

    รู้หรอกว่าที่มาช้าเพราะมัวทำอะไรอยู่...

     

                “โอ๊ะ...กลิ่นสปาเก็ตตี้นี่เอง หอมจริง...ขอให้บีซักจานสิ”น้ำทิพย์ยิ้มให้คนตัวเล็ก แต่ศิรินดูออกว่านี่มันยิ้มอ่อยชัดๆ ยิ้มแบบนี้ให้สาวทั่วเมืองแล้วยังจะมาใช้ไม้เดียวกันกับเธออีกเหรอ!!! ฝันไปเถอะแม่น้ำทิพย์

                “หมดแล้วล่ะบี บีมาช้าไป ไม่งั้นคงได้ชิมฝีมือเซนต์เค้าล่ะ”ยกชื่อเซนต์ขึ้นมาอย่างนั้นเอง ที่จริงสปาเก็ตตี้นี่ก็ทำเองนั่นแหละ แต่ก็ต้องแอบสะใจเบาๆที่สาวทรงเสน่ห์หุบยิ้มแทบไม่ทัน

                “งั้นบีขอตัวไปจัดของก่อนแล้วกัน...”ร่างสูงเดินเลี่ยงไปด้วยสีหน้าเซ็งๆ จะมาหวานแหววอะไรกันนักหนานะ ไม่เห็นรู้มาก่อนว่าน้องชายฮิมช่างเอาอกเอาใจขนาดนี้

                ถึงอย่างไร เธอคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างตนเองและฮิมคงไม่พัฒนาไปมากกว่าเพื่อนสนิท อย่างที่เธอเคยให้สัมภาษณ์ไปว่ายังไม่อยากแต่งงาน...นั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้พักนี้ทั้งเธอและฮิมเริ่มห่างๆกัน

                ไม่ทันไร โทรศัพท์มือถือเครื่องหรูของคนตัวสูงก็ส่งสัญญาณว่ามีคนติดต่อเข้ามา เธอชั่งใจเล็กน้อยเพราะกระเป๋าของเธอก็มีของไม่น้อยเหมือนกัน คงต้องใช้เวลาในการจัด แถมเบอร์โทรศัพท์ที่โทรมานั้นก็คงพอจะเดาได้ว่ามีธุระเรื่องอะไร

     

    Double Dance Club 1

    0934657890

     

                “คะ น้องพรีม...”แม้ว่าจะเหนื่อยหน่ายใจกับการรับโทรศัพท์ ทว่าน้ำทิพย์ก็ยังคงพูดจาคะขากับบรรดากิ๊กๆทั้งหลายเสมอ

     

    นี่คงเป็นอีกเสน่ห์ของเธอ...

     

                “ขอโทษจริงๆนะคะ แต่พี่เคยบอกน้องพรีมแล้วไงว่าพี่ต้องทำงาน...”น้ำทิพย์เบื่อที่ต้องคอยตอบคำถาม เธอเป็นคนชอบอะไรตรงๆและไม่ชอบอธิบาย การที่ให้เธอต้องมานั่งอธิบายอะไรซ้ำซากอาจนำมาสู่จุดจบที่...ไม่สวย

                “เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวพี่ออกไปหาก็แล้วกัน”เสียงที่เข้มขึ้นบ่งบอกความไม่สบอารมณ์ของเจ้าตัว จนศิรินที่แอบฟังอยู่ (ไหนไม่สนใจ) ถึงกับสะดุ้งเบาๆแล้วรีบถอยกรูดกลับไปที่ห้องนั่งเล่น

                เธอทำถูกแล้วที่เธอเลือกเขาแล้วทิ้งฉันไว้...มันใช่มั้ย เธอทำถูกแล้วที่รีบออกมาจากเขตแดนอารมณ์ของนางพญาสาว เพราะดูเหมือนนอกจากอารมณ์คุกรุ่มที่สามารถเหวี่ยงวีนได้ง่ายๆแล้ว วันนี้ยังเป็นวันที่ยุ่งยากที่สุดวันหนึ่งของหล่อนอีกด้วย

     

    จริงๆก็เห็นใจนะ...

     

    แต่สะใจมากกว่าไง...

     

                “บี...กลับก่อนหกโมงครึ่งนะ เค้ามีรวมตัวที่ล็อบบี้”เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลน่าหลงใหลพยักหน้ารับและส่งยิ้มให้

                “แต่ถ้าดึก...บีคงไม่ต้องนอนนอกห้องช่ะ”ส่งยิ้มทะเล้นแล้วเดินออกไป แต่ก็พลันสะดุ้งเพราะเสียงที่ตอบกลับมา

                “ก็ไม่แน่นะ บางทีบีอาจจะเข้าห้องไม่ได้ก็ได้~”แม้คำเอ่ยจะดูลอยๆแต่ก็ฟังดูน่ากลัวใช่เล่น น้ำทิพย์ไม่อยากจะปีนระเบียงอีกหรอกนะ ถึงจะออกกำลังบ่อยแต่เจอแบบนี้บ่อยๆจะไม่มีแรงไปอ่อยหญิงเอา!!!

                “คริสพูดเล่นใช่มั้ย”คนที่เดินพ้นประตูไปแล้วส่งเสียงถามกลับมา ศิรินไม่ตอบทว่ากลับหัวเราะในลำคอแบบตัวร้ายในละครไม่มีผิด

     

    แบบนี้ถึงน้ำทิพย์จะเก่งเรื่องใช้แข้งขา...แต่นานๆไปคงทำมาหากินไม่ได้แน่...

     

    นึกแล้วเสียวแปลกๆ

     

                แต่พอนึกได้ว่ามีธุระต้องรีบไปจัดการ น้ำทิพย์ก็กลับสู่ซีเรียสโหมดอีกครั้ง แล้วรีบบึ่งรถไปที่ไนท์คลับร้านประจำอย่าง Double Dance Club ทันที

                “พรีม...”เธอเรียกชื่อหญิงสาวที่นั่งยิ้มหวานรออยู่ก่อนหน้าแล้ว ก่อนจะพาร่างสูงยาวของตนเองมานั่งที่เคาท์เตอร์ที่หล่อนนั่งอยู่

                “พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะพรีม พี่บอกพรีมไปกี่รอบแล้วว่าพี่เป็นคนจริงจังกับการทำงาน พี่ไม่ต้องการให้พรีมโทรมาเวลาไหนก็ได้ที่พรีมต้องการพรีมเข้าใจมั้ย พี่ไม่ชอบตอบคำถามซ้ำซาก...”

                “แต่พี่บีต้องเข้าใจพรีมด้วยนะคะ พรีมก็เหนื่อยที่ต้องรอพี่ พรีมอยากมีความสุขกับพี่บ้าง ไม่ใช่เอะอะอะไรก็งานๆๆ ชีวิตพี่ไม่เคยมีใครสำคัญกว่างานของพี่เลยใช่มั้ยคะ”

                “ใช่...”คำนิ่งๆ เสียงนิ่งๆที่ตอกกลับทำเอาหญิงสาวแทบหน้าหงาย น้ำทิพย์เป็นคนตรงไปตรงมา ถึงจะเจ้าเล่ห์แสนกลมีแฟนเก่าแฟนเก็บเยอะแค่ไหนก็จะบอกตรงๆ

     

    อยากเลิก...ก็บอกตรงๆเช่นกัน

     

    นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม...เธอถึงเป็นที่ต้องตาต้องใจของสาวๆมากกว่าพวกผู้ชายเจ้าชู้ประตูดินพวกนั้น...

     

                “พี่ว่าพี่เหนื่อยว่ะ...กับการมีพรีมอยู่อ่ะ พี่รู้สึกว่าพี่ต้องใช้ความพยายามมากๆที่ต้องอดทนกับพรีม...”น้ำทิพย์เปิดประเด็นที่อยากพูดมากที่สุดออกมา แม้จะสงสารหญิงสาวที่นั่งน้ำตาคลอหน่วยอยู่บ้าง แต่ก็ไม่คิดจะเปลี่ยนใจ

     

    ความเด็ดเดี่ยว ไม่หันหลังกลับในสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้วเป็นอีกหนึ่งนิสัยของน้ำทิพย์

     

                “พี่ว่าเราน่าจะมากันสุดทางแล้ว...”ดวงตาสีหม่นที่จ้องมองมายังผู้พูดมีแววตัดพ้อ ไม่มีทีท่าว่าน้ำทิพย์จะมีเยื่อใย แม้จะเป็นการจบแบบนุ่มนวลตามสไตล์เจ้าตัว แต่พรีมก็รู้ดีว่า น้ำทิพย์ไม่ได้รักเธอแต่แรก...

                สเต็ปง่ายๆ...แค่ถูกชะตา คุยสนุก แค่นี้ก็เป็นเหตุผลให้น้ำทิพย์คบกับเธอแล้ว แม้ว่าไม่อาจอยู่ในสถานะที่เรียกอย่างเต็มปากเต็มคำว่าแฟนได้ก็ตาม

                ขนาดเบอร์เธอ...ยังบันทึกไว้ว่า Double Dance Club 1 เลย...

                “พรีมเข้าใจ...พรีมรู้มาตลอดว่ายังไง...วันนี้ก็ต้องมาถึง ขอบคุณพี่บี สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะคะ พรีมจะยังรักพี่เสมอ”น้ำทิพย์พยักหน้าแล้วหลบสายตาวิงวอนคู่นั้น มันเหมือนเป็นความน่าเบื่อหน่ายที่ต้องมานั่งบอกเลิกผู้หญิงที่คบกันมาเป็นเดือนๆเพียงเพราะว่าเป็นคนที่ไม่ใช่...

     

    แต่แม่ง...คนไม่ใช่มันก็ไม่ใช่อยู่ดีป้ะวะ

     

    คือพยายามให้ตายยังไงมันก็ไม่ใช่ไง...

     

                มันให้ความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งเหนื่อย ทั้งเสียเวลา ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ต้องคบหลายๆคนพร้อมๆกันหรอก น้ำทิพย์เคยสัญญากับตัวเองหลังจากที่ ‘เจ็บ’ มาครั้งนั้น ก็จะไม่มีทางมานั่ง ‘คนนี้จริงจัง ใจพังก็ยอม’ อีกแล้ว

     

    จะไม่มีวันยอมให้ใจพังอีกแล้ว...

     

                “เครียดเชียวนะเฮีย ดื่มหน่อยมั้ย”บาร์เทนเดอร์ที่รู้จักกันดีนามว่า ‘เพ็ชร’ เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าลูกค้าวีไอพีเจ้าประจำนั่งเซ็งเป็ดยกเล้าหลังจากที่หญิงสาวที่นั่งคุยกันอยู่เดินออกไปแล้ว

                “ไม่ดีกว่า...ต้องรีบกลับ”เจ้าของร่างสูงเพียงโปรยยิ้มก่อนจะยกมือเสยผมที่ตกลงมาปรกหน้า

                “อ่า วันนี้เมียรอที่คอนโดเหรองับ”น้ำทิพย์ชะงักทันที เสียงของศิรินลอยมาจนได้ยินก้องในโสตประสาท

     

    ก็ไม่แน่นะ บางทีบีอาจจะเข้าห้องไม่ได้ก็ได้~’

               

    ร่างสูงหันก็ไปยิ้มให้บาร์เทนเดอร์หนุ่มอย่างอารมณ์ดีขึ้นลิบลับ ก่อนจะตอบด้วยเสียงหวานแต่ฟังดูขบขันในที

    “ไม่แน่นะ...ต้องลองดู

     

     

    อย่าลืมเค้านะ #BeeCrisFaraway

    ขอโทษที่มาแก้ดึกๆจ้า

     

    ไรท์

     

     

     

     

     

     

               

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×