ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เข้าสู่เกม
� �"ยินดีต้อนรับเข้าสู่เกม freedom of lives online นะค่ะท่านสามารถที่จะลงทะเบียนเพื่อเริ่มเล่นเกมได้เลยหรือท่านสามมารถสอบถามข้อมูลเบื้องต้นของเกมได้นะค่ะ"�
� � �เสียงของ npc สาวดังขึ้นมาหลังจากที่อาร์ตได้ตัดสินใจเข้ามาในเกมซึ่งบรรยากาศรอบตัวตอนนี้เป็นสีขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา
� �"แล้วในเรื่องความต่างของเวลาเป็นเท่าไหร่หรอครับ"�
� � ถึงเขาจะใจร้อนแค่ไหนก็ตามแต่อาร์ตก็ยังไม่ลืมถามเรื่องที่สำคัญต่อการเล่นเกม
� �"ในเรื่องของเวลานะค่ะ วันจันท์ถึงศุกร์ตั้งแต่สองทุ่มถึงหกโมงเช้าหนึ่งชั่วโมงในโลกจริงเท่ากับในเกมหนึ่งอาทิตย์ค่ะ ตั้งแต่หกโมงเช้าถึงสองทุ่มหนึ่งชั่วโมงในโลกจริงเท่าในเกมสองชั่วโมงค่ะและในวันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดอื่นๆนะค่ะตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงสิบโมงเช้าหนึ่งชั่วโมงในโลกจริงเท่ากับหนึ่งอาทิตย์ในเกมค่ะและสิบโมงเช้าถึงหกโมงเย็นหนึ่งชั่วโมงในโลกจริงเท่ากับหนึ่งวันในเกมค่ะ"
� � เสียงเดิมตอบกลับมาทำให้อาร์ตยิ้มเผล่ทันที�
� �'แบบนี้ต้องเล่นทั้งวันทั้งคืน ฮ่า ฮ่า ฮ่า'
� �"แต่เพื่อความปลอดภัยของร่างกายถ้าออนไลน์นานเกมไประบบของเกมจะทำการตัดการเชื่อมต่อให้อัตโนมัตินะค่ะ"�
� � npc สาวพูดออกมาเหมือนจะรู้ทันความคิดของอาร์ตพร้อมกับหัวเราะคิกคักเมื่อได้เห็นอาร์ตทำหน้าเซงสุดขีด
� �"ถ้างั้นผมขอลงทะเบียนเพื่อเล่นเกมเลยนะครับ"�
� � เมื่ออาร์ตพูดจบก็มีตารางปรากฎขึ้นมาตรงหน้า ซึ่งบนตารางมีรูปใบหน้าของเขาอยู่
� �"คุณสามารถปรับเปลี่ยนหน้าตาของคุณเองได้นะคะแต่จะไม่สามารถเปลี่ยนจากความเป็นจริงได้เกินสิบเปอเซนนะค่ะ ส่วนด้านล่างจะเปนค่าสถานะพื้นฐานของคุณซึ่งจะประกอบไปด้วย ร่างกาย จิตใจ และโชคค่ะ ร่างกายก็คือพลังโจมตี ป้องกันรวมถึงพลังชีวิตและความเร็วด้วย จิตใจก็คือพลังพิเศษต่างๆเช่นพลังเวทย์มนต์ค่ะ ในส่วนของโชคก็จะเป็นค่าที่ทำให้มีโอกาสได้รับไอเทมมากขึ้นรวมถึงการโจมตีโดนจุดตายของคู่ต่อสู้ด้วย ซึ่งค่าต่างๆนี้จะเพิ่มขึ้นเองตามการกระทำของผู้เล่นนะคะ ถ้างั้นเชิญตั้งชื่อตัวละครของคุณได้เลยค่ะ"
� �"อาร์ต"
� �
� � อาร์ตใช้ชื่อของเขาลงไปในเกมเลยซึ่งเหตุผลก็คือเขาขี้เกียจคิดชื่อนั่นเองส่วนใบหน้านั้นอาร์ตก็ไม่ได้ปรับแต่งอะไรเลย เดิมทีอาร์ตก็เป็นคนที่หน้าตาดีอยู่แล้วซึ่งก็เคยมีพวกแมวมองมาทาบทามเหมือนกันแต่เขาไม่ได้สนใจอะไรก็เลยบอกปัดไปตลอด
� �"ระบบได้ทำการลงทะเบียนให้กับผู้เล่นอาร์ตแล้วนะคะ ขอให้สนุกกับเกมค่ะ"
� �
� � พอสิ้นเสียงทุกอย่างรอบตัวของอาร์ตก็มืดสนิท
� �"ลาสแกจะเปนใครชั้นไม่สนหรอกแต่ชั้นจะหาแกให้เจอให้ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
� � �ทันใดนั้นรอบตัวของอาร์ตก็กลายมาเป็นทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตาด้านหลังของเขาเป็นฉากหลังที่มีภูเขาสูงที่ส่วนยอดปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำส่วนด้านหน้านั้นเป็นประตูขนาดใหญ่ซึ่งรายล้อมไปด้วยผู้เล่นคนอื่นๆมากหน้าหลายตามีทั้งคนที่ใส่ชุดเกราะขนาดใหญ่บางคนใส่ชุดเหมือนจอมยุทธ บางคนก็ใส่แค่เสื้อผ้าขาดๆ บางคนก็มีผ้าคลุมปิดหน้าปิดตา ซึ่งทุกคนนั้นกำลังจ้องมองมาที่อาร์ตเป็นเพราะว่าเจ้าตัวได้เดินเข้าไปยืนประจันหน้ากับคนเหล่านั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วและได้ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคิดจะทำต่อหน้าบุคคลที่ดูเก่งกาจเหล่านี้ทั้งที่ตัวเองพึ่งจะเข้าเกมมาได้ไม่ถึงนาที
� �
� � "เห้ย มีใครรู้จักไอ้คนที่ชื่อลาสมั่งว่ะ"
�
� � �อาร์ตตะโกนออกมาเสียงดังทำให้คนเหล่านั้นมองหน้ากันก่อนที่คนในชุดเกราะที่มีลำตัวสูงใหญ่กว่าสองเมตรเดินออกมาประจันหน้ากับอาร์ต
� � "ไอ้หนูอย่ามาทำกร่างแถวนี้ ดูจากการแต่งตัวแล้วคงพึ่งเล่นได้ไม่นานสิท่าถึงไม่รู้จักพวกเราสมาพันธ์สิงโตครองฟ้า"
� � �
� � �ชายคนนั้นพูดขึ้นพลางเรียกเอาอาวุธซึ่งหน้าตาเหมือนง้าวออกมาปักไว้ที่ข้างตัว
� � "ข้าจะให้โอกาสเจ้าครั้งเดียว จงก้มลงมากราบขอขมาให้พวกข้าไว้ชีวิตเจ้าซะ"
� � ชายคนนั้นยื่นเท้าออกมาพร้อมกับชี้หน้ามาที่อาร์ตซึ่งอาร์ตก็ได้แต่ถอนหายใจ
� � "ไอ้หมีควาย ชั้นก็แค่ถามหาคนเองนะอย่าอารมร้อนนักสิ"
� � �อาร์ตยังคงทำหน้ายียวนกวนประสาทได้เป็นที่สุด ส่วนคนที่ถูกเรียกว่าหมีควายนั้นได้ขาดสติไปแล้วง้าวที่แต่เดิมปักอยู่ที่พื้นถูกยกขึ้นเตรียมจะฟาดลงมาใส่คนปากดีตรงหน้า
� � "หมีควายนี่มันมีแต่แรงจริงๆ"
� � อาร์ตสบถออกมาพลางกระโดดถอยหลังหลบง้าวที่ฟาดลงมาได้อย่างหวุดหวิด
� � "ก็ได้แค่แรงล่ะวะ"
� �
� � �อาร์ตตะโกนออกมาก่อนที่จะเตะไปที่ในหน้าของเจ้าหมีควายที่กำลังเสียการทรงตัว แต่เท้าของอาร์ตกับค้างอยู่กลางอากาศก่อนถึงหน้าของคู่ต่อสู้เพียงไม่ถึงคืบ
� � "ก็พอมีฝีมืออยู่นะ แต่น่าเสียดายที่นี่มันเป็นในเกมถ้านี่เป็นโลกจริงนายอาจจะชยะเจ้ายักษ์ไร้สมองนี่ก็ได้นะ" �
� � เสียงหนึ่งดังออกมาจากคนในกลุ่มพร้อมกับมีร่างของผู้หญิงผมยาวคนนึงก้าวออกมายืนอยู่ข้างๆเจ้าหมีควายที่ตอนนี้ลุกขึ้นมายืนพร้อมกับชี้อาวุธคู่ใจมาที่หน้าของอาร์ต
� � "แกอย่าหวังว่าจะมีชีวิตรอดเลย"
� � "หุบปากได้แล้วทอรัส"�
� � หญิงสาวคนใหม่เอ่ยขึ้นมาเสียงเบาแต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ชายร่างใหญ่นามทอรัสปักง้าวของตนเองลงที่พื้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ทำให้นายอาร์ตฉีกยิ้มขึ้นมาทันที
� � �"โอ้ ขอบคุณนะครับพี่สาวคนสวย ว่าแต่ว่าพี่เก่งจังเลยนะครับที่สั่งเจ้าหมีควายตัวนี้ได้เนี่ย มันคงเป็นสัตว์เลี้ยงของพี่ใช่มั้ยครับ เกมนี้เนี่ยออกแบบสัตว์เลี้ยงได้เหมือนคนดีนะครับ ทั้งสวยทั้งเก่งแบบนี้ผมเองก็ชักอยากจะรู้จักเป็นการส่วนตัวแล้วนะเนี่ย"�
� � �อาร์ตเดินเข้าไปหาหญิงสาวพร้อมกับยื่นมือออกไปคว้ามือของหญิงสาวขึ้นมากุมไว้ซึ่งสาวเจ้าก็กำลังหัวเราะคิกคักกับคำเหน็บแนมที่มีต่อชายข้างๆของอาร์ต ส่วนคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นสัตว์เลี้ยงนั้นกำลังยืนกำหมัดแน่ด้วยความโกรธพร้อมกับจ้องเขม็งไปยังอาร์ตซึ่งเจ้าตัวก็ได้ทำหน้ายียวนกวนประสาทใส่จนทอรัสอยากจะหยิบเอาง้าวขึ้นมาผ่าร่างของอาร์ตออกเป็นสองท่อนแต่ติดที่มีมือของหญิงสาวมาจับไหล่ไว้
� � �"นายนี่น่าสนใจดีนะ"
� � �เสียงหนึ่งดังออกมาจากกลุ่มคนที่เหลือพร้อมกับมีร่างของชายคนหนึ่งก้าวออกมาข้างหน้า
� � �"แต่ชั้นไม่สนใจผู้ชายว่ะ เสียใจด้วยนะ"
� � �"ฮ่าๆๆๆ"
� � � ชายคนนั้นหัวเราะขึ้นมาเสียงดังจนทำให้อาร์ตรู้สึกแปลกใจกับท่าทีของบุคคลตรงหน้า
� � � "นายคงจะพึ่งเข้ามาเล่นเกมเป็นวันแรกสินะ"
� � � "นาทีแรกเลยล่ะ"
� � � อาร์ตปล่อยมือจากหญิงสาวแล้วเดินมาประจันหน้ากับชายที่มาใหม่
� � � �"ชั้นชื่อเอลเซ่ ยินดีที่ได้รู้จักนะ"
� � � เอลเซ่ยื่นมือออกมาหมายจะจับมือด้วยแต่อาร์ตกับปัดออกอย่างไม่ไยดี
� � � �"พวกตัวผู้ชั้นไม่สน"
� � � �คำพูดของอาร์ตทำให้พวกที่เหลือเริ่มจะโวยวายออกมาจนเอลเซ่ต้องถอนหายใจ
��
� � � �"งั้นถ้าเป็นชั้นนายคงจะทำความรู้จักได้สินะ ชั้นชื่อฟ้าจ๊ะยินดีที่ได้รู้จักนะ"
� � � �กลายเป็นหญิงสาวที่เดินมากั้นระหว่างอาร์ตกับเหล่าผู้เล่นคนอื่นพร้อมกับยื่นมือออกมาด้านหน้าซึ่งเจ้าหนุ่มจอมกะล่อนก็รีบคว้ามือนั้นมาจับทันที
� � � �"ผมชื่ออาร์นะครับคุณคนสวย นอกจากสวยแล้วชื่อยังเพราะอีกนะครับเนี่ยแถมยังใจดีโอบอ้อมอารีและเก่งอีกตะหาก"
� � � �"คุณฟ้าครับผมว่าเราต้องรีบไปแล้วนะครับ"
� � � �เป็นเอลเซ่ที่เอ่ยออกมาทำให้อาร์ตไม่พอใจเป็นอย่างมากเพราะเมื่อฟ้าได้ยินก็ปล่อยมือของชายหนุ่มทิ้งไปแล้วเดินกลับไปรวมกับกลุ่มคนอื่นๆพร้อมกับทอรัสเหลือเพียงเอลเซ่ที่ยืนประจันหน้ากับอาร์ตอยู่
� � � �"จะรีบไปไหนกันว่ะ"
� � � อาร์ตทำหน้าทำตาไม่พอใจจนเอลเซ่ต้องหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง
� � � "ขำบ้าไรเนี่ยชั้นไม่ใช่ตัวตลกนะ"
� � � "โทษทีๆชั้นคุยกับนายแล้วนึกถึงคนที่ชั้นรู้จักขึ้นมาอ่ะดิ"
� � � �เอลเซ่ยื่นมือออกมาจับไหล่ของอาร์ตซึ่งก็โดนเจ้าตัวปัดทิ้งไปทันที
� � � �"หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีกนะ"
� � � �เอลเซ่พูดขึ้นมาเบาๆก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปร่วมกับกลุ่มก่อนที่ทั้งหมดจะเคลื่อนขบวนออกไปทางภูเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเมือง
� � � �"ทำไมไม่ฆ่ามันเลยล่ะครับ"
� � � �ชายที่แต่งตัวเหมือนนักบวชคนนึงเดินเข้ามาถามเอลเซ่ด้วยความสงสัยที่ว่าเอลเซ่ทนกับคำพูดและกริยาท่าทางของอาร์ตได้ยังไง
� � � �"ก็ท่าทางเค้าน่าสนุกดีนี่ครับ"
� � � �คำตอบของเอลเซ่ทำให้สมาชิกที่เหลือส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับนิสัยของชายตรงหน้า
� � � �"หมอนั่นท่าทางจะดวงกุดซะแล้ว"
� � � �กลับมาที่ด้านของอาร์ตซึ่งกำลังยืนงงกับท่าทางของเอลเซ่ที่มีต่อเขาก็ตัดสินใจที่จะลองไปเก็บเลเวลแถวนี้ดูซึ่งพอเดินไปได้ซักพักเจ้าตัวก็นึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้
�
� � � �"พวกมันลืมตอบคำถามเรานี่หว่า"
� � � �
� � � �
�
� � � �
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น