ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [MHA : Kacchako] The Unexpected

    ลำดับตอนที่ #7 : 6th Hero

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 452
      59
      14 มิ.ย. 64

    B
    E
    R
    L
    I
    N
     


    6th Hero

     

     


              ตอนแรกคิดไว้ว่าจะแจกโดนัทให้เพื่อนๆ ตั้งแต่เมื่อวาน แต่เพราะโคดะคุงกับโทโคยามิคุงขึ้นห้องนอนไปก่อนเลยเปลี่ยนใจเก็บไว้แจกวันนี้ตอนกลางวันแทน ใช่! สำหรับฉันแล้วกินของอร่อยๆ ทั้งทีก็ต้องอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาด้วยสิดีที่สุด!

              “ทุกคน~”  ฉันหยิบกล่องโดนัทขึ้นมาวางบนโต๊ะ  “เมื่อวานฉันกับทสึยุจังไปซื้อโดนัทมา มีพอสำหรับทุกคนเลย มากินด้วยกันเถอะ~”

              “นี่แหละเวลาที่รอคอย!

    คามินาริคุงที่บ่นอยากกินแต่ก็ต้องแห้วตั้งแต่เมื่อวานแทบจะวิ่งมาตะครุบโดนัททันที ในขณะที่เพื่อนคนอื่นค่อยๆ ทยอยมามุงที่โต๊ะเรื่อยๆ

    “คุณอุรารากะซื้อมาเยอะขนาดนี้เชียวเหรอครับ? แพงน่าดูเลยนะ”

    “มันลดราคาสำหรับนักเรียน ไม่แพงหรอกเดกุคุง”

    “อ๋อ แล้วที่เหลือจะเอาไปให้ใครเหรอครับ?”  เขาถามจบก็กัดโดนัทหลังจากเลือกชิ้นที่ชอบได้แล้ว

    “เอาไปให้ห้องบีกล่องหนึ่ง ส่วนอีกกล่องให้ครูน่ะ”

    “แต่ถ้าพวกห้องบีไม่รับนี่แย่เลยนะ”  มิเนตะคุงออกความเห็นบ้างพลางหยิบโดนัทรสบลูเบอร์รี่ไป

    “ห้องบีคงไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก อย่างน้อยฉันก็คิดว่าคุณเคนโดคนหนึ่งที่ไม่ปฏิเสธ”  ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องนี้แล้ว งั้นเอาโดนัทไปให้ห้องบีเลยละกัน  “ทสึยุจัง พวกเราเอาโดนัทไปให้ห้องบีกันเถอะ ทุกคนกินกันไปก่อนเลยนะเดี๋ยวฉันมา~”

    “อุรารากะ อะซุย ขอบคุณอีกครั้งนะ~”

    “ใช่~ โดนัทอร่อยมากเลย~”

    ดีจัง เห็นพวกเขากินแล้วมีความสุข ฉันก็พลอยมีความสุขไปด้วยนะ!

     


    ฉันกับทสึยุจังมาหยุดยืนหน้าประตูห้องบีแล้ว และมิทันไร ประตูก็เลื่อนออกกว้างอย่างรวดเร็วพร้อมด้วยร่างที่คุ้นเคยประจันหน้าเราทั้งสองคน

    “เอ๊ะๆๆ??~ เด็กห้องเอเหรอเนี่ย~ มิทราบว่าอะไรดลใจถึงกล้าบุกมาถิ่นห้องบีกันแค่สองคนหาๆๆ??”

    โมโนมะคุงยังคงพูดด้วยน้ำเสียงยียวนเหมือนทุกครั้งที่เจอหน้าเด็กห้องเอ เอาเข้าจริงๆ ฉันไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไรถึงได้ยิ้มกว้างพลางยื่นกล่องโดนัทให้

    “เมื่อวานฉันกับทสึยุจังไปร้านโดนัทเลยซื้อมาฝากเพื่อนๆ ห้องบีด้วย เอาไปแบ่งกันกินนะ~”

    โมโนมะคุงมองหน้าพวกเราสลับกับกล่องโดนัทแล้วระเบิดหัวเราะออกมา  “นี่ๆๆ~ ฉันรู้นะ มันเป็นแผนของห้องเอใช่ไหม!! คิดจะหลอกให้ตายใจว่าห้องเออยากเป็นพันธมิตรกับห้องบีเลยส่งพวกเธอให้นำของกำนัลจอมปลอมมามอบให้สินะ~!! เสียใจด้วย!! กับดักที่พวกเธอวางไว้ใช้ไม่ได้ผลแล้ว ฮ่าๆๆๆ~!!!

    ฉันยิ้มแห้งหลังจากได้ฟังเรื่องที่โมโนมะคุงคิดเป็นตุเป็นตะ  “คือว่านะโดนัทมันก็แค่ลดราคา–”

    “อ้าวๆๆ~!! ก็บอกแล้วไงว่ารู้ทัน ยัดเยียดแบบนี้เนี่ยแสดงว่าใส่ยาพิษลงไปด้วยใช่ไหม!!? หวังจะลอบฆ่าห้องบีด้วยใช่ไหมล่ะ!! ห้องเอนี่ร้ายนัก คิดว่าพวกเราโง่รึไงหาๆ!!?”

    “ไปกันใหญ่แล้ว”  ทสึยุจังเอ่ย

    “อะไรๆ~!! เจ็บใจเหรอ เห็นฉันจับไต๋ได้เลยเจ็บใจสินะ ฮ่าๆ–!!

    “พอได้แล้ว!!!

    เสียงโมโนมะคุงขาดห้วงลงหลังจากโดนกำปั้นยักษ์ของคุณเคนโดฟาดท้ายทอยจนล้มไปนอนกองบนพื้น ฉันกับทสึยุจังพร้อมใจกันเบิกตากว้าง ยืนตัวเกร็งอย่างไม่รู้จะช่วยยังไง

    ขอโทษนะคุณอุรารากะ คุณอะซุย ช่วงนี้โมโนมะเขาสติสตังไม่ค่อยดี เลยอาจทำอะไรแปลกๆ ไปบ้าง”

    ช่วงนี้งั้นเหรอ? ช่วงนี้ของคุณเคนโดนี่มันนานขนาดไหนกัน?

    “พวกเราซื้อโดนัทมาฝากเพื่อนๆ ห้องบี ถ้าไม่รังเกียจ–”

    “ไม่รังเกียจแน่นอนคุณอะซุย ขอบคุณมากๆ เลยนะ”  คุณเคนโดว่าพลางรับกล่องโดนัทไป

    “งั้นกินให้อร่อยนะ~”  ฉันพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินกลับห้องไปกับทสึยุจัง โดยมิวายต้องแอบมองร่างโมโนมะคุงที่สลบเหมือดไปแล้ว กำปั้นยักษ์นั่นดูท่าจะมีอานุภาพทำลายล้างสูงไม่ใช่เล่นเลยนะ

     


    เมื่อกลับมาถึงห้องแล้วนับจำนวนโดนัทในกล่องปรากฏว่ายังเหลืออยู่พอตัว ฉันกวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อเช็คว่ามีใครในที่นี้ยังไม่ได้กินไหม แต่เพื่อนๆ ก็อยู่กันเกือบครบ เพราะงั้นน่าจะเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในห้องตอนนี้

    อ๊ะ! รู้แล้ว“คิริชิมะคุง”

    “หืม?”

    ฉันเดินไปหาคิริชิมะคุงที่กำลังเคี้ยวโดนัทตุ้ยๆ  “บาคุโกคุงอยู่ไหนเหรอ?”

    เขาเงยหน้านึก  “เออนั่นสิ บาคุโกอยู่ไหนวะคามินาริ?”

    “ไม่เห็นตั้งแต่พักกลางวันแล้วนะ นายรู้ไหมเซโระ?”

    “ไม่รู้เหมือนกัน”

    แม้แต่เพื่อนในกลุ่มก็ยังไม่รู้ ถ้างั้นเก็บโดนัทไว้ให้เขาตอนเย็นแทนละกัน

    “อุรารากะ”

    “หืม? ว่าไงเหรอโทโดโรกิคุง?”

    “ฉันเห็นบาคุโกนะ”

    “จริงเหรอ! ที่ไหน?”

    “ล่าสุด ข้างสนามฟุตบอล”

    “งั้นเหรอ ขอบคุณนะ!”  ฉันเดินไปหยิบโดนัททั้งสองกล่องแล้วออกนอกห้องไปอย่างรวดเร็ว ไม่ได้หยุดรอคามินาริคุงที่ร้องอยากกินโดนัทอีกชิ้น แม้จะอยากบอกว่าไม่ต้องห่วงเพราะยังไงก็เหลือเฟือให้กินเพิ่มอยู่แล้วก็ตาม

     


    ฉันลงจากอาคารมาที่ข้างสนามฟุตบอลพลางมองหาบาคุโกคุง นักเรียนบริเวณนี้ไม่เยอะเท่าไหร่น่าจะหาตัวได้ไม่ยาก ซึ่งไม่กี่วินาทีต่อมาฉันก็เจอบาคุโกคุงจริงๆ ถึงได้ตะโกนเรียกไว้ก่อนที่เขาจะเดินไปไกลมากกว่านี้

    “บาคุโกคุง!

    เห็นเขาหันมาแล้วฉันจึงวิ่งไปหา ดูเหมือนว่าพวกเราจะอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนของใครคนหนึ่งดังเข้ามาในโสตประสาทก่อน


    “พี่ระวัง!!!


    ฉันชะงักฝีเท้าลงตอนเห็นลูกบอลกำลังพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว และเพราะเข้าใจสถานการณ์ได้ในทันที ฉันจึงเอื้อมมือข้างหนึ่งไปแตะลูกบอลไว้ ดีนะที่รุ่นน้องตะโกนเตือนไว้ก่อน ขืนช้ากว่านี้ไม่โดนหน้าฉันก็อาจโดนกระจกอาคารสักบานแตกก็ได้ ถือว่าโชคดีไปนะน้องๆ!

    ฉันปลดพลังแล้วก้มหยิบลูกบอล  “พี่ไม่เป็นไรจ้ะ~ ครั้งหน้าก็ระวังด้วยนะน้องๆ~”

    “ครับผม~”


    ฉันตั้งใจจะโยนลูกบอลคืนพวกรุ่นน้องแต่มันกลับถูกคว้าจากมือไปก่อน เป็นบาคุโกคุงนี่เองที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดถือลูกบอลอยู่แทน

    “บาคุโกคุง?”


    เขาละสายตาจากฉันไปยังพวกรุ่นน้องในสนาม รังสีดำมืดเริ่มแผ่อีกครั้ง แถมยังทำหน้าไม่ต่างจากปีศาจจนเดาว่าพวกรุ่นน้องคงขนลุกกันเป็นแถบไม่ต่างจากฉันในตอนนี้ สุดท้าย บาคุโกคุงก็เขวี้ยงลูกบอลกลับไปเต็มแรงพร้อมกับตะโกนลั่นสนาม


    “หัดเล่นให้มันดีๆ หน่อยสิโว้ยยย!!!


    ตู้มมม!!!!


    ฉันอ้าปากค้างพอเห็นลูกบอลระเบิดกลางอากาศจนเกิดควันปีศาจลอยคลุ้งทั่ว พวกรุ่นน้องถึงกับยืนตัวแข็งทื่อ เพิ่งจะเข้ามาอยู่ปีหนึ่งแท้ๆ แต่กลับเจอเรื่องระทึกขวัญซะได้ คงจะช็อกมาก พวกเขาโค้งให้ฉันกับบาคุโกคุงอย่างพร้อมเพรียงกันเป็นการขอโทษจากนั้นก็วิ่งป่าราบออกจากสนามไปเลย

    เดี๋ยวสิ! พี่ขอไปด้วย! ขืนอยู่ตรงนี้ต่อไปต้องตายแน่ๆ!! นี่ฉันมาทำอะไรที่นี่!!


    “มีอะไร?”  น้ำเสียงบาคุโกคุงกลับเป็นปกติ และไม่ได้ทำหน้าน่ากลัวแบบเมื่อกี้แล้ว

    ฉันทำใจดีสู้เสือพลางชูกล่องโดนัท  “เอาโดนัทมาให้!

    “ไม่กิน”  บาคุโกคุงพูดแค่นั้นก็หันหลังเดินไป


    กะไว้แล้วว่าเขาจะต้องพูดแบบนี้ แต่คนอย่างอุรารากะ โอชาโกะน่ะไม่ยอมแพ้กับอีเรื่องแค่นี้หรอก! ฉันวิ่งไปตัดหน้าบาคุโกคุงไว้พร้อมกับยืนกรานเสียงแข็ง  “ไม่ได้! ต้องกิน!

    บาคุโกคุงได้ยินก็ทำหน้ายัวะขึ้นมาเลย  “หา!? นี่เธอสั่งฉันเหรอ!

    “ไม่ได้สั่งสักหน่อย ก็แค่เชิญชวนแกมบังคับ”  ฉันจงใจเบาเสียงตรงช่วงท้าย ไม่งั้นอาจโดนระเบิดอัดหน้าได้  “ทุกคนรับโดนัทจากฉันหมดแม้แต่ห้องบี ถ้าบาคุโกคุงไม่รับก็จะเป็นคนที่ใจดำมาก!

    “หา!!?”

    “ใจดำกว่าโมโนมะคุงซะอีก เขายังรับเลยนะ!”  เอาเถอะ ถึงจะโกหกไปก็คงไม่รู้หรอก  “โมโนมะคุงรู้เข้าต้องหัวเราะเยาะแน่ๆ!

    บาคุโกคุงขบฟัน ยีผมตัวเองแล้วตอบด้วยน้ำเสียงรำคาญ  “เออๆ! กินก็กิน!

    เยี่ยม! ตามแผนเลย!


    ฉันยกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเดินไปนั่งตรงม้านั่งข้างสนาม ถือโอกาสดูรุ่นน้องกลุ่มใหม่เตะฟุตบอลไปด้วย แต่บาคุโกคุงยังไม่เดินมานั่ง เขามัวแต่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ ฉันจึงตบม้านั่งเบาๆ เป็นสัญญาณว่าให้เขามานั่งด้วยกัน

    บาคุโกคุงเดินมาด้วยท่าทีหงุดหงิด และยังมิวายต้องนั่งเว้นระยะห่างจากฉันหนึ่งช่วง ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ได้ถือสาอะไรพร้อมกับยื่นกล่องโดนัทให้ เขาขมวดคิ้ว มองหน้าฉันเล็กน้อยก่อนจะหยิบโดนัทไปหนึ่งชิ้น ส่วนฉันก็วางกล่องไว้ตรงกลางแล้วหยิบโดนัทไปกินบ้างขณะมองพวกรุ่นน้องเตะฟุตบอลเพลินๆ

     


    บรรยากาศรอบข้างเงียบ พวกเราไม่ได้คุยอะไรกัน ดังนั้นในหัวฉันจึงคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย


    พอมองพวกรุ่นน้องที่เตะฟุตบอลเลยทำให้ฉุกคิดได้ว่าตอนนี้ฉันกับเพื่อนๆ ทุกคนเป็นรุ่นพี่ปีสองแล้วหากผ่านไปอีกปีก็จะเป็นรุ่นพี่ปีสาม หลังจากนั้นพวกเราก็จะจบการศึกษาแล้วแยกย้ายกันไป


    ไม่ชอบเลยแฮะ


    “เผลอแป๊บเดียวพวกเราก็ขึ้นปีสองแล้วเนอะ ฉันยังรู้สึกเหมือนเพิ่งสอบเข้ามาได้เมื่อวานเอง”

    “อะไร? จะระลึกความทรงจำรึไง พูดเป็นคนแก่ไปได้”

    “คนแก่ตรงไหน ถ้าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นความทรงจำดีๆ มันก็ควรค่าที่จะระลึกถึงนะ”  ฉันเหลือบมองบาคุโกคุง ไม่แน่ตอนนี้เขาอาจทำหน้าบูดอยู่ก็ได้ ทว่ามันกลับไม่ใช่อย่างที่คิด


    ดวงตาของฉันประสานเข้ากับนัยน์ตาสีแดงที่เป็นเอกลักษณ์ของบาคุโกคุงพอดิบพอดี ขณะเดียวกัน สีหน้าเขาก็ไม่ได้บึ้งตึงอย่างเคย


    ฉันหันกลับไปมองสนามแล้วขยายความ  “เอาเข้าจริงๆ ตอนแรกก็ปรับตัวยากเหมือนกันนะ ไหนจะความกดดันจากตัวเองกับคนรอบข้างอีก แถมยังต้องมาสู้กับพวกวิลเลินตั้งหลายครั้ง แต่ว่ามันก็สนุกมากเลยนะที่ได้ทำอะไรร่วมกับเพื่อนๆ ทุกคนจนถึงตอนนี้ นึกไม่ออกเลยว่าถ้าจบปีสามแล้วต้องแยกย้ายกันจะเหงาแค่ไหน เพราะแค่ปีเดียวก็ผูกพันจะแย่อยู่แล้ว


              “จบไปแล้วก็ใช่ว่าจะไม่เจอกันอีกสักหน่อย”


              สายตาของบาคุโกคุงที่มองมารู้สึกได้เลยว่าอ่อนโยนลง ราวกับว่าเขาตั้งใจฟังสิ่งที่ฉันสาธยายเมื่อครู่นี้ตลอด ทำเอาหัวใจฉันเต้นเร็วขึ้นจนอดยิ้มออกมาไม่ได้

    “นั่นสินะ! ถึงพวกเราจะจบปีสามไปแล้วก็ยังมาเจอกันได้นี่เนอะ! พนันได้เลยว่าบาคุโกคุงจะต้องคิดถึงโดนัทของฉันในวันนี้แน่ๆ!

              สีหน้าบาคุโกคุงเปลี่ยนทันทีจนฉันต้องขำพรืดออกมา เขากัดฟันกรอดแล้วหันกลับไปมองพวกรุ่นน้องตามเดิม ส่วนฉันยังยิ้มร่าก่อนจะยัดโดนัทที่เหลือเข้าปาก


              “อุรารากะ”

              อ๊ะ! หายากนะเนี่ยที่จะเรียกชื่อด้วยโทนเสียงปกติแบบนี้ ทำตัวไม่ถูกเลยแฮะ  “หืม? ว่าไงเหรอ?”

              เขาขมวดคิ้วน้อยๆ แล้วหันกลับไปกัดฟันพูด  “เธอกินเลอะ”

              “จริงเหรอ?”  ฉันยกมือป้องปากน้อยๆ จึงค่อยเช็ดครีมที่เลอะตรงมุมปาก  “ขอบคุณนะ บาคุโกคุงก็ใส่ใจคนอื่นเหมือนกันนะเนี่ย~ น่าชื่นชม~”

              “ถ้าเธอยังไม่หยุดพล่ามฉันจะระเบิดโดนัทที่เหลือให้กระจุยเลย!!

              “ฮ่าๆๆ~ ล้อเล่นๆ~”

              “เฮ้ๆๆ~ หนุ่มสาวมานั่งทำอะไรกันอยู่ตรงนี้น่ะ~”  ครูยามาดะกับครูไอซาวะนี่เอง แถมครูยามาดะยังยิ้มมีเลศนัยแบบไม่น่าไว้ใจอีกต่างหาก

              “หนวกหู!!”  บาคุโกคุงใจเย็นๆ นั่นครูเอง

              “เอกโตปลาสซึมเล่าว่าคาบก่อนหน้านี้พวกเธอสองคนยังทะเลาะกันอยู่เลย แต่คืนดีกันได้ก็ดีแล้วล่ะ~”

              ฉันยิ้มรับก่อนจะหยิบโดนัทอีกกล่องไปให้พวกครู  “ครูยามาดะ ครูไอซาวะคะ หนูกับอะซุยซื้อโดนัทมาฝากค่ะ ที่ร้านเปิดใหม่เขาลดราคาสำหรับนักเรียนพอดี รบกวนครูสองคนนำไปฝากครูคนอื่นๆ แทนพวกหนูด้วยนะคะ!

              “โอ้เยสสส~!!!”  แสบหู“ขอบคุณนะ!! สงสัยจะต้องบวกคะแนนเพิ่มซะแล้ว~”

              ฉันยกมือปรามพลางหัวเราะเล็กน้อย  “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่รับโดนัทพวกเราไปก็พอ แหะๆ~”

              “เลิกโอเวอร์ได้แล้ว”  ครูไอซาวะเตือนครูยามาดะด้วยเสียงเนือยๆ  “ขอบใจพวกเธอมากนะ รีบไปห้องเรียนเถอะ จะหมดเวลาพักแล้ว”

              “ค่ะ!”  ฉันรับคำ ยังไม่ทันจะหันไปเรียกบาคุโกคุง เขาก็มายืนอยู่ข้างๆ พร้อมกับถือกล่องโดนัทของพวกเราไว้แล้ว  “งั้นพวกเราขอตัวก่อน ทานให้อร่อยนะคะ!



              บทสนทนาจบลงแค่นั้น พวกเราแยกกับครูทั้งสองเดินกลับห้องเรียนด้วยกัน ฉันลอบมองบาคุโกคุงเล็กน้อยแล้วเผยรอยยิ้มออกมา เขาที่รู้ตัวว่าถูกแอบมองจึงขมวดคิ้วพร้อมกับถามห้วนๆ

              “มองอะไร?”


              ฉันยังไม่ได้ตอบทันที นึกไปถึงเรื่องที่พวกเราคุยกันก่อนหน้านี้จากนั้นจึงฉีกยิ้มออกมาแทน  “รู้สึกว่าบาคุโกคุงเปลี่ยนไปนะ”

              “หา!? หมายความว่ายังไง?”


              ฉันหันกลับไปมองทาง ไม่พูดอะไร ปล่อยให้ในใจเป็นตัวตอบคำถามแม้เขาจะไม่ได้ยินก็ตาม


    บาคุโกคุงเปลี่ยนไปจริงๆ นะ รู้สึกเหมือนว่าจะอ่อนโยนลง แล้วก็นุ่มนิ่มขึ้นนิดหน่อย


              …เหมือนขนมโมจิเลย




           Chit-Chat : ชอบที่สุดก็ตอนที่เจ้าคัตเขวี้ยงลูกบอลกลับไปแล้วมันระเบิดกลางอากาศนี่แหละค่ะ พอนึกภาพก็ตลกดี ฝันร้ายรับน้องปีหนึ่งมาก5555
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×