ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3 : จดหมายสีทอง
บทที่ 3
ณ รัฐเมอร์สัน อาณาจักรสีขาว
เอลิเชียร์ ลอเลนจ์ซีเด็กสาวอายุสิบแปดผู้ครอบครองดวงตาสีเขียวน้ำทะเลอันเป็นเอกลักษณ์ เส้นผมสีทองยาวถึงกลางหลังสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นเงางาม โดยรวมถือว่าหน้าตาไร้ที่ติถ้าไม่มีร่องรอยของความหงุดหงิดระคนยุ่งยากใจราวกับญาติตาย
"สรุปว่า...ลูกจะไปไหม มหา'ลัยเซนต์เอเธนส์เชียวนะ อีกอย่าง ปีนี้ลูกก็อายุครบสิบแปดแล้ว ลูกไม่ต้องจำศีลทุกๆฤดูฝนแล้วนี่"อลิซเซ่ หรือก็คือผู้เป็นแม่บุญธรรมของเธอพูดด้วยเสียงตื่นเต้น
เอลิเชียร์กุมขมับอย่างเหนื่อยอ่อน มองจดหมายสีขาวขลิบทองในมือ จดหมายฉบับนี้ถูกส่งมาตอนกลางฤดูฝนที่ผ่านมา
เธอเป็นเผ่าพันธ์ุสีขาวธาตุไฟ ที่จะต้องใช้เวลาจำศีลทุกๆฤดูฝนจนกว่าอายุจะครบสิบแปด จึงจะมีพลังมากพอที่จะใช่ชีวิตอยู่กับน้ำที่เป็นขั้วตรงข้ามของตน
เธออ่านจดหมายในมืออีกครั้ง กระดาษเปล่าเต็มไปด้วยตัวอักษรสีทองข้อความในกระดาษเนื้อดีประมาณว่า
'แกอยู่ในโกลด์ลิสต์ของมหาลัย จงมาเรียนต่อที่นี่ซะดีๆ ฉันรู้ว่าแกจน ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องค่าเทอม เราจะมีทุนให้แกเอง มิชะนั้นแกจะต้องมีอันเป็นไป'
ใช่ ในจดหมายมันเขียนสุภาพกว่านี้เยอะ แต่เธอกลับแปลความได้อย่างนี้
"เรียนฟรีด้วยนะลูก น่าสนใจออก"คลีรีออส พ่อบุญธรรมของเธอพูดอย่างกระตือรือร้น ใบหน้าเหมือนจะแปะไว้ด้วยคำว่า 'ของฟรี' ตัวโตๆ
เอลิเชียร์ยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก เธอเป็นแค่สามัญชนธรรมดา ฐานะค่อนข้างดีแต่ก็ไม่ถึงกับรวย "ไม่รู้ละ ยังไงหนูก็ไม่ไป" เธอพูดด้วยเสียงหนักแน่น
"โธ่ ลูก โอกาสดีๆแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะหาง่ายๆนะ"คลีรีออสเอ่ยอย่างอ่อนใจต่อลูกสาวบุญธรรมของตน
"ใช่ ถูกของพ่อ อีกอย่าง เซนต์เอเธนส์นะ เป็นมหา'ลัยอันดับหนึ่งของเผ่าพันธุ์เราเลยนะลูก ค่าเทอมก็ไม่ใช่ถูกๆ คนที่ได้เรียนที่นั่นนะ มีแต่พวกลูกคุณหนูกันทั้งนั้น โอกาสแบบนี้ไม่ได้หากันง่ายๆนะลูก"อลิซเซ่เสริม
"แต่ หนู ไม่ ไป!!"เธอย้ำแต่ละคำด้วยเสียงหนักแน่น "หนูมีเหตุผล"
"เหตุผลอะไรของลูก"คลีรีออสกับอลิซเซ่แทบจะประสานเสียงกัน
"หนึ่ง ที่นั่นเป็นโรงเรียนประจำ และแม่ก็รู่ว่าหนูเกลียดการอยู่ร่วมห้องกับคนแปลกหน้ามากขนาดไหน สอง เซนต์เอเธนส์อะไรนั่นมันอยู่ตั้งรัฐซีซิส ห่างออกไปเกือสามเสนไมล์"
"พ่อกับแม่ก็มีเหตุผล!"คลีรีออสกับอลิซเซ่ประสานเสียงกันอีกครั้ง
"หนึ่ง การเรียนโรงเรียนประจำจะทำให้ลูกมีความรับผิดชอบมากขึ้น สอง ถ้าลูกไม่ไปก็ถือว่าไม่รักษาน้ำใจของทางมหา'ลัย สาม มหา'ลัยที่รัฐเราก็ไม่ค่อยมีเหมือนกันถึงจะมีก็ไร้คุณภาพ"อลิซเซ่สาธยายออกมารวดเดียวจนเอลิเชียร์หน้าง้ำลงทันตา
"และสาม มันเรียนฟรี"คลีรีออสเสริมก่อนจะคลียิ้มกว้าง
"โธ่ พ่อ ระหว่างของฟรีกับความสุขของลูกพ่อจะเลือกอะไร"เอลิเชียร์จ้องหน้าผู้เป็นพ่ออย่างเอาเป็นเอาตาย
"ของฟรีแน่นอน"คลีรีออสตอบ
"พ่อ!!"
"โธ่ ล้อเล่นน่า อย่าคิดมากสิ"คลีรีออสหัวเราะขันๆ
"ไม่รู้ละ ยังไงหนูก็ไม่ไป!!"เธอประกาศกร้าวก่อนจะเดินปึงปังขึ้นห้องไป
คลีรีออสกับอลิซเซ่มองหน้ากันแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
"บ้ดซบ" เอลิเชียร์นอนกลิ้งไปบนเตียงไม้เก่าคร่ำคร่าด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดเกินจะบรรยาย เธอพลิกตัวไปมาอย่างว้าวุ่นก่อนจะนึกย้อนอดีตไปถึงสมัยยังเป็นเด็กกพำพร้าในบ้านอุปการะที่รัฐฟรอดฮิวส์
มาดามลินคอร์น พี่เลี้ยงในบ้านอุปการะเด็กกำพร้าที่เธอเคยอยู่เล่าว่า เธอถูกนำมาทิ้งไว้หน้าบ้านอุปการะเมื่อสิบหกปีสองเดือนก่อน ตอนนั้นเธอเป็นเด็กสองขวบตัวกระจ้อยร่อย จนกระทั่งอายุได้สิบแปดปีเต็ม ถึงมีอลิซเซ่กับคลีรีออสมารับอุปการะต่อ
แต่ไม่รู้ทำไม เธอถึงไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับสิบแปดปีที่แล้วมา มันไม่ใช่ว่าเธอแค่ลืมมันไป แต่ไม่มีความทรงจำอะไรเลยต่างหาก
คิดมาถึงตอนนี้เธอก็ขมวดคิ้วมุ่น พลิกตัวไปเป็นท่านอนหงาย
'พรึ่บ!!'
จู่ๆภาพภาพหนึ่งก็ลอยเข้ามาในหัว เป็นภาพที่ค่อนข้างเลือนรางเธอ พ่อ แม่ นั่งคุยอยู่กับคนแปลกหน้าสองคน เป็นหญิงอายุราวยี่สิบเจ็ด ผมสีบลอนด์ทอง ดวงตาสีฟ้า กับชายหนุ่มอายุราวกันกับหญิงผมบลอนด์ ผมสีน้ำตาล ดวงตาสีมรกต กระจ่างใสราวกับน้ำ
แต่ใช่ เธอหลับตาอยู่ เลยไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเธอเอง
แสงสว่างสีขาวประกายโอบล้อมตัวเธออยู่ มันเรืองแสงสีขาวสวยจนทำให้ห้องนอนเล็กๆสว่างจ้าขึ้นทันตา แสงสีทองสว่างวาบ พาดผ่านเพดานห้อง เกิดเป็นภาพที่สวยงามจับตา
แสงสว่างสีขาวประกายโอบล้อมตัวเธออยู่ มันเรืองแสงสีขาวสวยจนทำให้ห้องนอนเล็กๆสว่างจ้าขึ้นทันตา แสงสีทองสว่างวาบ พาดผ่านเพดานห้อง เกิดเป็นภาพที่สวยงามจับตา
เอลิเชียร์สะดุ้งเฮือก ความปวดศรีษะพุ่งพล่านออกมา เธอยกสองมือกุมหัวด้วยความเจ็บปวด กลิ้งหล่นลงจากเตียงลงไปบนพื้นไม้แข็งกระด้าง
"เอลลี่!!"เสียงหวานใสของมารดาดังขึ้น เธอสะดุ้งเฮือก ความเจ็บปวดทั้งหมดพลันมลายหายไปพร้อมกับแสงสีทอง
"เอลลี่!!"อลิซเซ่ตบประตูแรงๆหลายที เอลิเชียร์ยันตัวลุกขึ้น สะบัดหัวหลายทีก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้อง
"มีคนมาหาลูกแน่ะ เห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากมหา'ลัยน่ะ"อลิซเซ่พูดด้วยเสียงตื่นเต้นก่อนจะลากแขนเธอลงไป
บางทีเธอก็คิดว่า...แม่เธอน่าจะเป็นเพื่อนกับเธอมากกว่าที่จะเป็นมารดา
เธอเดินลงมาถึงชั้นล่าง เปิดประตูห้องรับแขกไป ภาพตรงหน้าทำเอาเธออึ้งกิมกี่ไปหลายวินาที หญิงอายุราวยี่สิบเจ็ด ผมสีบลอนด์ทอง ดวงตาสีฟ้าสวย กับชายรุ่นราวคราวเดียวกับหญิงผมบลอนด์ ผมสีน้ำตาล ดวงตาสีมรกตกระจ่างใส
ความรู้สึกเดจาวูอย่างรุนแรงพลันบังเกิดขึ้น เธอกระพริบตาถี่ๆหลายรอบ
ภาพตรงหน้าเป็นภาพเหตุการณ์เดียวกันกับที่วาบเข้ามาในหัวเธอตอนอยู่ในห้องนอน
"สวัสดีจะ ฉันชื่อไมอาน่า พาร์คเกอร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของมหาวิทยาลัยเซนต์เอเธนส์ ส่วนคนนี้เป็นเพื่อนสนิทฉันเอง ซี แฮ็กกินส์"หญิงสาวยิ้มกว้างก่อนจะเดินมาจับมือเธอแล้วเขย่าๆ
"ขอโทษที่มาโดยไม่บอกกล่าว เราส่งจดหมายมาแจ้งคุณแล้วเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาต่อ"ไมอาน่าพูดต่อ "มหา'ลัยเซนต์เอเธนส์เป็นมหา'ลัยอันดับหนึ่งของเผ่าพันธ์ุแสงสว่าง มหา'ลัยเราเพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อีกทั้งยังมีอาหารสามมื้อแบบบุฟเฟ่ต์ เทคโนโลยีทางด้านการเรียนการสอนของเราก้าวล้ำที่สุดในอาณาจักร..."
"เอ่อ...ขอโทษที่ขัดจังหวะ"เอลิเชียร์ยกมือปรามหญิงตรงหน้า "คือว่า หนูไม่ได้ เอ่อ...ไม่ค่อยอยากจะเอ่อ...ไปเรียนต่อที่ มหา'ลัยคุณ...นะคะ"
"อ้าว อย่างนั้นหรอกเหรอ"ไมอาน่าทำสีหน้าแปลกใจ
"คะ"เอลิเชียร์หลบสายตาน่าอึดอัดจากไมอาน่า
"ทำไมละ"ไมอาน่าถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจสุดๆ
"หนูคิดว่า...หนูไม่เหมาะสมกับมหา'ลัยคุณ"เธอพูดอย่างปอดแหก
"งั้นหรอกเหรอ..."ไมอาน่าหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด "หนูยังไม่ได้ลองเลยนะจ๊ะ"
"ใช่ ลูกยังไม่ได้ลองเลยบางที ลูกอาจชอบมันก็ได้"คลีรีออสย้ำ
"แม่เห็นด้วย" อลิซเซ่เสริม
"ถ้ามันยุ่งยากขนาดนั้นก็ไม่ต้องเรียนหรอกคะ" เอลิเชียร์ชิงพูดขึ้นมาก่อนเธอจะใจอ่อนเอาได้
"งั้นฉันขอคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว...ได้ไหมจ๊ะ" ไมอาน่าหันมายิ้มบางๆให้
"ใช่ ลูกยังไม่ได้ลองเลยบางที ลูกอาจชอบมันก็ได้"คลีรีออสย้ำ
"แม่เห็นด้วย" อลิซเซ่เสริม
"ถ้ามันยุ่งยากขนาดนั้นก็ไม่ต้องเรียนหรอกคะ" เอลิเชียร์ชิงพูดขึ้นมาก่อนเธอจะใจอ่อนเอาได้
"งั้นฉันขอคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว...ได้ไหมจ๊ะ" ไมอาน่าหันมายิ้มบางๆให้
"ได้คะ คุณพาร์คเกอร์ นานขนาดไหนก็ได้คะ ขอแค่คุณเอายัยเด็กหัวดื้อของฉันไปเรียนต่อให้ได้ก็พอคะ"อลิซเซ่ชิงพูดก่อนที่เธอจะได้เอ่ยปาก
"อะไรนะคะ หนูไม่..."เอลิเชียร์พูดไม่ทันจบคำอลิซเซ่ คลีรีออส กับซีก็ออกจากห้องไปเสียแล้ว
"เอาละ เจรจากันได้เสียที"ไมอาน่ายิ้มกว้างแบบนักธุรกิจ "ถ้าฉันมีขอเสนอให้เธอ เธอจะยอมไปกับพวกเรา ยอมเรียนที่เซนต์เอเธนส์ไหม"
เอลิเชียร์ขมวดคิ้วมุ่น "อะไรนะคะ"
"เรื่องพ่อกับแม่ตัวจริงของเธอนะ"ไมอาน่ายิ้มบางๆ
"คุณรู้จักพ่อแม่ตัวจริงของหนูเหรอ"เอลิเชียร์เบิกตากว้าง ความดีใจเอ่อล้น เธอแทบจะกรีดร้องเสียงดังลั่น
"รู้จัก ไม่มากก็น้อยละ"
"งั้น...คุณต้องการที่จะให้หนูไปกับคุณ"เอลิเชียร์เลิกคิ้วขึ้น "แล้วหนูจะได้เจอแม่ตัวจริงของหนู...ใช่ไหม??"
"โอ๊ะ โอ๊ะ ไม่ใช่ ไม่ช่ายยยยย ฉันยังไม่ได้บอกหนูสักคำเลยนะ ว่าฉันเจอพ่อแม่ของหนูแล้ว"
"งั้นหนูไม่ไป"เอลิเชียร์ยื่นคำขาด
"แต่ฉันก็ไม่ได้บอกเหมือนกันว่าเธอจะหาพ่อแม่ของเธอไม่เจอ"ไมอาน่าส่ายนิ้วไปมาเหมือนเด็กปัญญาอ่อน
"คุณหมายความว่าอะไรกันแน่ คำพูดของคุณมัน...เข้าใจยากกว่าภาษาอียิปโบราณที่เป็นเลขฐานสองซะอีก"เธอหรี่ตาลง จ้องจับผิดสาวสวยตรงหน้า
"โธ่ เด็กน้อย ฉันก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ ก็คือว่า ถ้าเธอไปกับฉัน เธอก็อาจจะ...แค่อาจจะเจอพ่อแม่ตัวจริงของเธอไง"ไมอาน่ายิ้มแป้น
แล้วมันมีความหมายอย่างที่พูดตรงไหน !!
เอลิเชียร์ตะโกนก้องในใจ "ทำไมต้องเป็นหนูละ" เธอเอ่ยออกมา
"เพราะหนูมีสิ่งที่พวกเราไม่มี"ประกายในดวงตาของไมอาน่าหายไปครู่นึง ก่อนจะวาวโรจน์ขึ้นมาอีกครั้ง เธอคล้ายจะปกปิดอะไรไว้ แถมปกปิดได้อย่างแนบเนียบเสียด้วย
"เอาละ ถือว่าหนูตกลงที่จะไปกับฉันแล้ว อีกสามวันฉันจะมารับเธอ เตรียมตัวสอบเข้าไว้ดีๆแล้วกัน อ้อ สอบปฏิบัติน่ะนะ ไม่ต้องทนอ่านหนังสือจนตาบวมก็ได้ โกลด์ลิสต์อยา่งเธอมีสิทธิพิเศษอยู่แล้ว" ไมอาน่าตัดบท ลุกขึ้นก้าวฉับๆไปที่ประตู ทักทายอลิซเซ่กับคลีรีออสสองสามคำ ก่อนจะยิ้มให้แล้วเดินตัวปลิวออกไป
"สอบ...เข้า..."เอลิเชียร์ประมวลผลในหัวสองสามครั้งก่อนจะเข้าใจในสิ่งที่ไมอาน่าพูด "สอบเข้า!!"
ไมอาน่ากับซีเดินออกมาจากบ้านเทาว์เฮาส์สองชั้น
"เธอแน่ใจนะว่าเด็กน้อยนั่นเป็นทูตแห่งกาลเวลาจริงๆ"ไมอาน่าเอ่ยถามชายข้างกาย
"ไม่รู้สิ" ซีตอบ
"ว่าแต่นายจะไปไหนอีกไหม" ไมอาน่าเลิกคิ้วขึ้น
"ไม่"
งั้นกลีบมหา'ลัยเลยแล้วกัน ทีนี้ก็เหลือแค่รอว่าเด็กน้อยนั่นจะตัดสินใจยังไง"
"ไม่รู้สิ" ซีตอบ
"ว่าแต่นายจะไปไหนอีกไหม" ไมอาน่าเลิกคิ้วขึ้น
"ไม่"
งั้นกลีบมหา'ลัยเลยแล้วกัน ทีนี้ก็เหลือแค่รอว่าเด็กน้อยนั่นจะตัดสินใจยังไง"
"อืม"ชายหนุ่มตอบสั้นๆทำเอาไมอาน่าหัวเสียอย่างแรง
"ให้ตายเถอะ นายช่วยพูดมากๆหน่อยได้ไหม"ไมอาน่ากลอกตาไปมา
"อืม"ชายหนุ่มตอบด้วยอาการนิ่งเฉย
"บ้าเอ๊ย!!"ไมอาน่าสบถ เดินนำชายหนุ่มลิ่วๆ ทิ้งให้ซีมองเธอโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงไป
บางทีผู้หญิงก็เข้าใจยากเกินไป...
ซีหรี่ตาลงอย่างครุ่งคิดก่อนจะเดินตามร่างบางไป
ซีหรี่ตาลงอย่างครุ่งคิดก่อนจะเดินตามร่างบางไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น