ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tha miracle of 'WHITE AREA'

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3 : จดหมายสีทอง

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ย. 56


    บทที่ 3
     
         ณ รัฐเมอร์สัน อาณาจักรสีขาว
     
         เอลิเชียร์ ลอเลนจ์ซีเด็กสาวอายุสิบแปดผู้ครอบครองดวงตาสีเขียวน้ำทะเลอันเป็นเอกลักษณ์ เส้นผมสีทองยาวถึงกลางหลังสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นเงางาม โดยรวมถือว่าหน้าตาไร้ที่ติถ้าไม่มีร่องรอยของความหงุดหงิดระคนยุ่งยากใจราวกับญาติตาย
     
         "สรุปว่า...ลูกจะไปไหม มหา'ลัยเซนต์เอเธนส์เชียวนะ อีกอย่าง ปีนี้ลูกก็อายุครบสิบแปดแล้ว ลูกไม่ต้องจำศีลทุกๆฤดูฝนแล้วนี่"อลิซเซ่ หรือก็คือผู้เป็นแม่บุญธรรมของเธอพูดด้วยเสียงตื่นเต้น
     
         เอลิเชียร์กุมขมับอย่างเหนื่อยอ่อน มองจดหมายสีขาวขลิบทองในมือ จดหมายฉบับนี้ถูกส่งมาตอนกลางฤดูฝนที่ผ่านมา
     
         เธอเป็นเผ่าพันธ์ุสีขาวธาตุไฟ ที่จะต้องใช้เวลาจำศีลทุกๆฤดูฝนจนกว่าอายุจะครบสิบแปด จึงจะมีพลังมากพอที่จะใช่ชีวิตอยู่กับน้ำที่เป็นขั้วตรงข้ามของตน
     
         เธออ่านจดหมายในมืออีกครั้ง กระดาษเปล่าเต็มไปด้วยตัวอักษรสีทองข้อความในกระดาษเนื้อดีประมาณว่า
     
         'แกอยู่ในโกลด์ลิสต์ของมหาลัย จงมาเรียนต่อที่นี่ซะดีๆ ฉันรู้ว่าแกจน ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องค่าเทอม เราจะมีทุนให้แกเอง มิชะนั้นแกจะต้องมีอันเป็นไป'
     
         ใช่ ในจดหมายมันเขียนสุภาพกว่านี้เยอะ แต่เธอกลับแปลความได้อย่างนี้
     
         "เรียนฟรีด้วยนะลูก น่าสนใจออก"คลีรีออส พ่อบุญธรรมของเธอพูดอย่างกระตือรือร้น ใบหน้าเหมือนจะแปะไว้ด้วยคำว่า 'ของฟรี' ตัวโตๆ
     
         เอลิเชียร์ยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก เธอเป็นแค่สามัญชนธรรมดา ฐานะค่อนข้างดีแต่ก็ไม่ถึงกับรวย "ไม่รู้ละ ยังไงหนูก็ไม่ไป" เธอพูดด้วยเสียงหนักแน่น
     
         "โธ่ ลูก โอกาสดีๆแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะหาง่ายๆนะ"คลีรีออสเอ่ยอย่างอ่อนใจต่อลูกสาวบุญธรรมของตน
     
         "ใช่ ถูกของพ่อ อีกอย่าง เซนต์เอเธนส์นะ เป็นมหา'ลัยอันดับหนึ่งของเผ่าพันธุ์เราเลยนะลูก ค่าเทอมก็ไม่ใช่ถูกๆ คนที่ได้เรียนที่นั่นนะ มีแต่พวกลูกคุณหนูกันทั้งนั้น โอกาสแบบนี้ไม่ได้หากันง่ายๆนะลูก"อลิซเซ่เสริม
     
         "แต่ หนู ไม่ ไป!!"เธอย้ำแต่ละคำด้วยเสียงหนักแน่น "หนูมีเหตุผล"
     
         "เหตุผลอะไรของลูก"คลีรีออสกับอลิซเซ่แทบจะประสานเสียงกัน
     
         "หนึ่ง ที่นั่นเป็นโรงเรียนประจำ และแม่ก็รู่ว่าหนูเกลียดการอยู่ร่วมห้องกับคนแปลกหน้ามากขนาดไหน สอง เซนต์เอเธนส์อะไรนั่นมันอยู่ตั้งรัฐซีซิส ห่างออกไปเกือสามเสนไมล์"
     
         "พ่อกับแม่ก็มีเหตุผล!"คลีรีออสกับอลิซเซ่ประสานเสียงกันอีกครั้ง
     
         "หนึ่ง การเรียนโรงเรียนประจำจะทำให้ลูกมีความรับผิดชอบมากขึ้น สอง ถ้าลูกไม่ไปก็ถือว่าไม่รักษาน้ำใจของทางมหา'ลัย สาม มหา'ลัยที่รัฐเราก็ไม่ค่อยมีเหมือนกันถึงจะมีก็ไร้คุณภาพ"อลิซเซ่สาธยายออกมารวดเดียวจนเอลิเชียร์หน้าง้ำลงทันตา
     
         "และสาม มันเรียนฟรี"คลีรีออสเสริมก่อนจะคลียิ้มกว้าง
     
         "โธ่ พ่อ ระหว่างของฟรีกับความสุขของลูกพ่อจะเลือกอะไร"เอลิเชียร์จ้องหน้าผู้เป็นพ่ออย่างเอาเป็นเอาตาย
     
         "ของฟรีแน่นอน"คลีรีออสตอบ
     
         "พ่อ!!"
     
         "โธ่ ล้อเล่นน่า อย่าคิดมากสิ"คลีรีออสหัวเราะขันๆ
     
         "ไม่รู้ละ ยังไงหนูก็ไม่ไป!!"เธอประกาศกร้าวก่อนจะเดินปึงปังขึ้นห้องไป 
     
         คลีรีออสกับอลิซเซ่มองหน้ากันแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
     
         "บ้ดซบ" เอลิเชียร์นอนกลิ้งไปบนเตียงไม้เก่าคร่ำคร่าด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดเกินจะบรรยาย เธอพลิกตัวไปมาอย่างว้าวุ่นก่อนจะนึกย้อนอดีตไปถึงสมัยยังเป็นเด็กกพำพร้าในบ้านอุปการะที่รัฐฟรอดฮิวส์
     
         มาดามลินคอร์น พี่เลี้ยงในบ้านอุปการะเด็กกำพร้าที่เธอเคยอยู่เล่าว่า เธอถูกนำมาทิ้งไว้หน้าบ้านอุปการะเมื่อสิบหกปีสองเดือนก่อน ตอนนั้นเธอเป็นเด็กสองขวบตัวกระจ้อยร่อย จนกระทั่งอายุได้สิบแปดปีเต็ม ถึงมีอลิซเซ่กับคลีรีออสมารับอุปการะต่อ
     
         แต่ไม่รู้ทำไม เธอถึงไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับสิบแปดปีที่แล้วมา มันไม่ใช่ว่าเธอแค่ลืมมันไป แต่ไม่มีความทรงจำอะไรเลยต่างหาก
     
         คิดมาถึงตอนนี้เธอก็ขมวดคิ้วมุ่น พลิกตัวไปเป็นท่านอนหงาย 
     
         'พรึ่บ!!'
     
         จู่ๆภาพภาพหนึ่งก็ลอยเข้ามาในหัว เป็นภาพที่ค่อนข้างเลือนรางเธอ พ่อ แม่ นั่งคุยอยู่กับคนแปลกหน้าสองคน เป็นหญิงอายุราวยี่สิบเจ็ด ผมสีบลอนด์ทอง ดวงตาสีฟ้า กับชายหนุ่มอายุราวกันกับหญิงผมบลอนด์ ผมสีน้ำตาล ดวงตาสีมรกต กระจ่างใสราวกับน้ำ 
     
         แต่ใช่ เธอหลับตาอยู่ เลยไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเธอเอง

         แสงสว่างสีขาวประกายโอบล้อมตัวเธออยู่ มันเรืองแสงสีขาวสวยจนทำให้ห้องนอนเล็กๆสว่างจ้าขึ้นทันตา แสงสีทองสว่างวาบ พาดผ่านเพดานห้อง เกิดเป็นภาพที่สวยงามจับตา
     
         เอลิเชียร์สะดุ้งเฮือก ความปวดศรีษะพุ่งพล่านออกมา เธอยกสองมือกุมหัวด้วยความเจ็บปวด กลิ้งหล่นลงจากเตียงลงไปบนพื้นไม้แข็งกระด้าง 
     
         "เอลลี่!!"เสียงหวานใสของมารดาดังขึ้น เธอสะดุ้งเฮือก ความเจ็บปวดทั้งหมดพลันมลายหายไปพร้อมกับแสงสีทอง
     
         "เอลลี่!!"อลิซเซ่ตบประตูแรงๆหลายที เอลิเชียร์ยันตัวลุกขึ้น สะบัดหัวหลายทีก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้อง
     
         "มีคนมาหาลูกแน่ะ เห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากมหา'ลัยน่ะ"อลิซเซ่พูดด้วยเสียงตื่นเต้นก่อนจะลากแขนเธอลงไป 
     
         บางทีเธอก็คิดว่า...แม่เธอน่าจะเป็นเพื่อนกับเธอมากกว่าที่จะเป็นมารดา
     
        เธอเดินลงมาถึงชั้นล่าง เปิดประตูห้องรับแขกไป ภาพตรงหน้าทำเอาเธออึ้งกิมกี่ไปหลายวินาที หญิงอายุราวยี่สิบเจ็ด ผมสีบลอนด์ทอง ดวงตาสีฟ้าสวย กับชายรุ่นราวคราวเดียวกับหญิงผมบลอนด์ ผมสีน้ำตาล ดวงตาสีมรกตกระจ่างใส
     
         ความรู้สึกเดจาวูอย่างรุนแรงพลันบังเกิดขึ้น เธอกระพริบตาถี่ๆหลายรอบ
     
         ภาพตรงหน้าเป็นภาพเหตุการณ์เดียวกันกับที่วาบเข้ามาในหัวเธอตอนอยู่ในห้องนอน
     
         "สวัสดีจะ ฉันชื่อไมอาน่า พาร์คเกอร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของมหาวิทยาลัยเซนต์เอเธนส์ ส่วนคนนี้เป็นเพื่อนสนิทฉันเอง ซี แฮ็กกินส์"หญิงสาวยิ้มกว้างก่อนจะเดินมาจับมือเธอแล้วเขย่าๆ
     
         "ขอโทษที่มาโดยไม่บอกกล่าว เราส่งจดหมายมาแจ้งคุณแล้วเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาต่อ"ไมอาน่าพูดต่อ "มหา'ลัยเซนต์เอเธนส์เป็นมหา'ลัยอันดับหนึ่งของเผ่าพันธ์ุแสงสว่าง มหา'ลัยเราเพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อีกทั้งยังมีอาหารสามมื้อแบบบุฟเฟ่ต์ เทคโนโลยีทางด้านการเรียนการสอนของเราก้าวล้ำที่สุดในอาณาจักร..."
     
         "เอ่อ...ขอโทษที่ขัดจังหวะ"เอลิเชียร์ยกมือปรามหญิงตรงหน้า "คือว่า หนูไม่ได้ เอ่อ...ไม่ค่อยอยากจะเอ่อ...ไปเรียนต่อที่ มหา'ลัยคุณ...นะคะ"
     
         "อ้าว อย่างนั้นหรอกเหรอ"ไมอาน่าทำสีหน้าแปลกใจ
     
         "คะ"เอลิเชียร์หลบสายตาน่าอึดอัดจากไมอาน่า
     
         "ทำไมละ"ไมอาน่าถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจสุดๆ
     
         "หนูคิดว่า...หนูไม่เหมาะสมกับมหา'ลัยคุณ"เธอพูดอย่างปอดแหก
     
         "งั้นหรอกเหรอ..."ไมอาน่าหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด "หนูยังไม่ได้ลองเลยนะจ๊ะ"

         "ใช่ ลูกยังไม่ได้ลองเลยบางที ลูกอาจชอบมันก็ได้"คลีรีออสย้ำ

        "แม่เห็นด้วย" อลิซเซ่เสริม

        "ถ้ามันยุ่งยากขนาดนั้นก็ไม่ต้องเรียนหรอกคะ" เอลิเชียร์ชิงพูดขึ้นมาก่อนเธอจะใจอ่อนเอาได้

        "งั้นฉันขอคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว...ได้ไหมจ๊ะ" ไมอาน่าหันมายิ้มบางๆให้
     
         "ได้คะ คุณพาร์คเกอร์ นานขนาดไหนก็ได้คะ ขอแค่คุณเอายัยเด็กหัวดื้อของฉันไปเรียนต่อให้ได้ก็พอคะ"อลิซเซ่ชิงพูดก่อนที่เธอจะได้เอ่ยปาก
     
         "อะไรนะคะ หนูไม่..."เอลิเชียร์พูดไม่ทันจบคำอลิซเซ่ คลีรีออส กับซีก็ออกจากห้องไปเสียแล้ว
     
         "เอาละ เจรจากันได้เสียที"ไมอาน่ายิ้มกว้างแบบนักธุรกิจ "ถ้าฉันมีขอเสนอให้เธอ เธอจะยอมไปกับพวกเรา ยอมเรียนที่เซนต์เอเธนส์ไหม"
     
         เอลิเชียร์ขมวดคิ้วมุ่น "อะไรนะคะ"
     
         "เรื่องพ่อกับแม่ตัวจริงของเธอนะ"ไมอาน่ายิ้มบางๆ
     
         "คุณรู้จักพ่อแม่ตัวจริงของหนูเหรอ"เอลิเชียร์เบิกตากว้าง ความดีใจเอ่อล้น เธอแทบจะกรีดร้องเสียงดังลั่น
     
         "รู้จัก ไม่มากก็น้อยละ"
     
         "งั้น...คุณต้องการที่จะให้หนูไปกับคุณ"เอลิเชียร์เลิกคิ้วขึ้น "แล้วหนูจะได้เจอแม่ตัวจริงของหนู...ใช่ไหม??"
     
         "โอ๊ะ โอ๊ะ ไม่ใช่ ไม่ช่ายยยยย ฉันยังไม่ได้บอกหนูสักคำเลยนะ ว่าฉันเจอพ่อแม่ของหนูแล้ว"
     
         "งั้นหนูไม่ไป"เอลิเชียร์ยื่นคำขาด
     
         "แต่ฉันก็ไม่ได้บอกเหมือนกันว่าเธอจะหาพ่อแม่ของเธอไม่เจอ"ไมอาน่าส่ายนิ้วไปมาเหมือนเด็กปัญญาอ่อน
     
         "คุณหมายความว่าอะไรกันแน่ คำพูดของคุณมัน...เข้าใจยากกว่าภาษาอียิปโบราณที่เป็นเลขฐานสองซะอีก"เธอหรี่ตาลง จ้องจับผิดสาวสวยตรงหน้า
       
         "โธ่ เด็กน้อย ฉันก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ ก็คือว่า ถ้าเธอไปกับฉัน เธอก็อาจจะ...แค่อาจจะเจอพ่อแม่ตัวจริงของเธอไง"ไมอาน่ายิ้มแป้น
     
         แล้วมันมีความหมายอย่างที่พูดตรงไหน !!
     
         เอลิเชียร์ตะโกนก้องในใจ "ทำไมต้องเป็นหนูละ" เธอเอ่ยออกมา
     
         "เพราะหนูมีสิ่งที่พวกเราไม่มี"ประกายในดวงตาของไมอาน่าหายไปครู่นึง ก่อนจะวาวโรจน์ขึ้นมาอีกครั้ง เธอคล้ายจะปกปิดอะไรไว้ แถมปกปิดได้อย่างแนบเนียบเสียด้วย
     
         "เอาละ ถือว่าหนูตกลงที่จะไปกับฉันแล้ว อีกสามวันฉันจะมารับเธอ เตรียมตัวสอบเข้าไว้ดีๆแล้วกัน อ้อ สอบปฏิบัติน่ะนะ ไม่ต้องทนอ่านหนังสือจนตาบวมก็ได้ โกลด์ลิสต์อยา่งเธอมีสิทธิพิเศษอยู่แล้ว" ไมอาน่าตัดบท ลุกขึ้นก้าวฉับๆไปที่ประตู ทักทายอลิซเซ่กับคลีรีออสสองสามคำ ก่อนจะยิ้มให้แล้วเดินตัวปลิวออกไป
     
         "สอบ...เข้า..."เอลิเชียร์ประมวลผลในหัวสองสามครั้งก่อนจะเข้าใจในสิ่งที่ไมอาน่าพูด "สอบเข้า!!"
     
       
         ไมอาน่ากับซีเดินออกมาจากบ้านเทาว์เฮาส์สองชั้น 
     
         "เธอแน่ใจนะว่าเด็กน้อยนั่นเป็นทูตแห่งกาลเวลาจริงๆ"ไมอาน่าเอ่ยถามชายข้างกาย

         "ไม่รู้สิ" ซีตอบ

         "ว่าแต่นายจะไปไหนอีกไหม" ไมอาน่าเลิกคิ้วขึ้น

        "ไม่"

         งั้นกลีบมหา'ลัยเลยแล้วกัน ทีนี้ก็เหลือแค่รอว่าเด็กน้อยนั่นจะตัดสินใจยังไง"
     
         "อืม"ชายหนุ่มตอบสั้นๆทำเอาไมอาน่าหัวเสียอย่างแรง
     
         "ให้ตายเถอะ นายช่วยพูดมากๆหน่อยได้ไหม"ไมอาน่ากลอกตาไปมา
     
         "อืม"ชายหนุ่มตอบด้วยอาการนิ่งเฉย
     
         "บ้าเอ๊ย!!"ไมอาน่าสบถ เดินนำชายหนุ่มลิ่วๆ ทิ้งให้ซีมองเธอโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงไป
     
         บางทีผู้หญิงก็เข้าใจยากเกินไป...

         ซีหรี่ตาลงอย่างครุ่งคิดก่อนจะเดินตามร่างบางไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×