คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Revive Of Undead (ท่วงทำนองปลุกวิญญาณ) (1)
5. Revive Of Undead (ท่วงทำนองปลุกวิญญาณ)(1)
“นายเป็นใครกันแน่”เดลอาเซียเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจเพราะชื่อที่ฟีมัสบอก
“ก็บอกแล้วไงฉันชื่อ ฟีมัส”ฟีมัสย้ำชื่ออีกครั้งแต่เดลอาเซียกลับยั้วขึ้นมาแทน
“แกเป็นใครกัน.....บังอาจเอานามของเทพมาตั้งเป็นชื่อตัวเองเชียวรึ”เดลอาเซียแทบบ้าขึ้นมาทันที โดยไม่รู้ว่าที่ยืนข้างหน้าเขานั้นและเทพ แต่ฟีมัสก็ยังยืนดูอาการที่เกิดขึ้นกับเดลอาเซียอย่างพอใจเพราะอย่างน้อยก็มีคนนับถือเขา
“หรอออ”ฟีมัสแกล้งลากเสียงอย่างกวนประสาท
“แกกกก”เดลอาเซียเริ่มบ้าหนักเข้าไปใหญ่
“ใจเย็นก่อนครับคุณเดลอาเซีย”โคเซียเข้ามาห้ามแต่ไร้ผลเพราะเขาถูกเดลอาเซียต่อยซะหน้าหงาย
“BOOM”เดลอาเซียร้องตะโกนอย่างแสบแก้วหูก่อนที่จะมีระเบิดพุ่งมาข้างหน้าฟีมัส ทำให้ต้องกระโดดหลบออกมาทันที แต่ก็ยังโดนระเบิดบ้างทำเอาแขนซ้ายถูกไฟลวกจนใช้การไม่ได้เพราะเปลวไฟที่พุ่งออกมานับสิบเมตรทำให้แขนโดนเผาไปเต็มๆ
“โอ้ย”ฟีมัสร้องอย่างเจ็บปวด
“นี่ไงล่ะบังอาจลบหลู่เทพ ฮ่าๆๆๆๆ”เดลอาเซียหัวเราะอย่างบ้าสุดๆ แต่พอเห็นสิ่งที่เกิดกับฟีมัสก็ถึงกับอึ่งกิมกี่“นาย....มันตัวอะไรกัน”
“แหมจะลบหลู่ตัวเองมันผิดด้วยหรอ”ฟีมัสเอ่ยขึ้นในร่างเทพทำเอาเดลอาเซียและโคเซียอ้าปากหวอ
“ถึงนายจะเป็นเทพหรืออะไรก็ตามแต่บังอาจมาบุกเอดาเฟียเท่ากับว่ามาหาเรื่อง”โคเซียพุ่งเข้าหาฟีมัสโดยไม่สนใจเดลอาเซียซึ่งพอเดลอาเซียหันไปมองโคเซียทันใดนั้นตัวโคเซียเองก็ล้มคว้ำลงทันที
“คุณเดล.....”โคเซียเอ่ยด้วยสีหน้ายากลำบาก
“นายกล้าลบหลู่เทพหรอ”เดลอาเซียพูดพลางคุกเข่าตรงหน้าฟีมัส
“ท่านต้องการอะไร”
“ฉันขอแค่ผลึกคอนเทรส”ฟีมัสเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเงียบสงบพร้อมกับสลายพลังลง
“ผลึกคอนเทรสอยู่ด้านหลังประตูนี่ครับ”เดลอาเซียชี้ไปยังประตูที่อยู่ทางขวาฟีมัส ซึ่งทำเอาสีหน้าของโคเซียเริ่มซีดทันที
“คุณเดลครับ คุณก็รู้ว่าผลึกนี้มัน”โคเซียพยามยามห้ามปรามแต่ก็ต้องสะอึกเมื่อเห็นแววตาของเดลอาเซียที่จ้องมายังเขาอย่างโหดเหี้ยม
“ขอบใจ”ฟีมัสเอ่ยขึ้นพลางเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปแต่ทว่าภาพเบื้องหน้า.....
ไร้ผลึกคอนเทรส แตกลับมีสุนัขตัวใหญ่พอๆกับเฟนเรียอยู่ถึงห้าตัว
“นี่มัน”ฟีมัสรู้ทันทีว่าถูกหลอกแต่ช้าแล้วตอนนี้ประตูได้ปิดหมดแถมยังได้ลงอาคมผนึกปิดตายไว้อีกด้วย และแน่นอนมันเป็นการยากที่จะออกไปง่ายๆ เพราะอาคม
“คงรู้แล้วสินะครับว่าถูกหลอก จงภูมิใจเถอะครับที่ได้ตายเพราะผมท่านเป็นเทพองค์แรกเลยนะครับที่ได้ตายไปพร้อมกับ DEATH TRAP(กับดักมรณะ) ของผม”เดลอาเซียพูดอยู่ด้านหร้าประตูด้วยสีหน้าพึงพอใจ แต่ฟีมัสเริ่มวิตกขึ้นมาทันทีเพราะเพดานได้เปิดออกมาพร้อมกับอสูรนับสิบได้ตกลงมาพร้อมกับเหล่าผู้ควบคุม
“แกกกกก”ฟีมัสร้องอย่างเจ็บแค้นก่อนจะหยิบดาบขึ้นมาแทงแรดมีปีกตัวหนึ่งที่บินมาจะโจมตีเขาทะลุไปด้านหลังพร้อมกับฟาดดาบตัดปีกมันขาดในพริบตา
.......................................
“บลาส.....เก่งขึ้นเยอะเลยนี่”เฟดีมาเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแต่บลาสกระโดดออกมาราวกับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะสายฟ้าขนาดใหญ่ได้พุ่งลงมาเร็วจี้ตรงที่เขายืนจ่อคอเฟดีมาอย่างรวดเร็ว
“แหมถ้าไม่พัฒนาผมก็โดนท่านฆ่าตายสิครับ”บลาสยิ้มให้เฟดีมา
“นั่นสินะ”เฟดีมาลองคิดตามคำพูดของของบลาส
“แต่ว่า.....ยังไม่หายอีกหรอไอ้นั่นนะ”บลาสพูดขึ้นลอยๆ ทำเอาเฟดีมาสะอึกไปบ้างแต่ก็ยังไม่แสดงท่าทีตอบโต้ใดๆ กลับไป
“วิงออฝเฟรม”เฟดีมาเริ่มเปิดฉากร่ายเวท ทำใหเกิดปีกเพลิงมหาศาลวนรอบตัวบลาสแต่บลาสก็สามารถหลบได้หมดแต่ว่ากลับเกิดสิ่ผิดปกติขึ้นจู่ๆ ก็เกิดพายุขึ้นรอบตัวเขาและปีกเพลิงพัดเอาปีกทั้งหมดเข้ามาเผาร่างของบลาส
“วอเตอร์อินเช็ค”บลาสร่ายเวทสวนอย่างรวดเร็วพร้อมกับม่านน้ำมาคุ้มกันเขาจากไฟทั้งหมดที่เฟดีมาได้ยิงเวทมาใส่
“ธันเดอร์ สตอรม”บลาสร่ายเวทต่อพร้อมกับพายุสายฟ้าตรึงร่างของเฟดีมาไว้ซึ่งบลาสก็เห็นโอกาสอันดีนี้ก็ไม่หยุดเอาไว้จึงสั่งสิ่งที่บลาสแอบเข้าไว้ข้างหลังเฟดีมาทันที
“เอาเลยเจ้าหนู”
ตูมมมมมม
เสียงระเบิดดังกึงก้องปราสาทเมื่อพายุสายฟ้าของธันเดอร์ริกกระหน่ำลงไปยังเฟดีมาถึงเขาจะสร้างเกราะป้องกันเอาไว้แต่ก็ไม่อาจจะต้านพลังอันมหาศาลได้ทำให้เขาสลบไปทันทีเมื่อโดนไฟฟ้าแรงสูงช็อตเอาอย่างแรง
แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นข้างหน้าบลาสทำเอาบลาสร้องออกมาไม่เป็นภาษาเฟดีมาลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับชกหมัดเปล่าๆใส่ธันเดอร์ริกจนสลายไป
“บ้าน่า”บลาสทำหน้าไม่เชื่อทันทีแต่ก็ไม่คิดว่าเรื่องจริง
“ใช่บ้า”เฟดีมาตอบอย่างยียวนพร้อมกับพื้นที่บลาสเหยีบอยู่ระเบิดตูมทำเอาบลาสโดดออกมาแทบไม่ทัน
“หนอย ก๊อด ออฝ ธันเดอร์(God Of Tunder) อันนี้ด้วยดีกว่า......ธันเดอร์ ออฝ เดธ(Tunder Of Death)”บลาสร่ายมหาเวทสายฟ้าออกมาพร้อมกันเวทแรกมีอัลฟ่าโพล่ออกมาพร้อมกับยิงเวทสายฟ้าเร็วจี้ใส่เฟดีมาแต่พอยิงเวทออกมาอัลฟ่าก็หายตัวไปพร้อมกับเวทอันที่สองที่ทำให้ท้องฟ้าแปรปวนพร้อมกับสายฟ้าขนาดใหญ่ฟาดลงมายังเขาเพื่อปลิดชีพ
“ก๊อดโฮลี่ บาเรีย”เฟดีมาร่ายเวทสุดยอดแหงการป้องกันออกมาทำให้เปลี่ยนทิศทางสายฟ้าที่ฟาดมาทำให้มันพุ่งไปยังปราสาทตะวันตกระเบิดไปครึ่งนึงทันทีแต่กลับไม่สามารถป้องกันพลังของอัลฟ่าปล่อยออกมาได้ ทั้งๆที่ม่านพลังยังอยู่ ทำให้เฟดีมาลอยทะลุกำแพงออกไปด้านนอกปราสาทและทำให้หลายคนเห็นกันชัดว่าทั้งสองกำลังต่อสู้กันอยู่อย่างดุเดือดและก็คงไม่มีใครอาจจะเข้าไปต้านการต่อสู้ครั้งนี้ได้
“ดูท่าสุดยอดการป้องกันจะกันพลังของเทพไม่ได้สินะ”บลาสเอ่ยขึ้นอย่างผู้กำชัยพลางเดินไปยังเฟดีมาที่โดนสายฟ้าช็อตไปเต็มๆ แต่เขาก็ยังลุกขึ้นมาเตรียมตัวสวนบลาสทันทีเมื่อเห็นบลาสทำท่าจะร่ายเวท
.............................................
ตูมมมมมมม
เสียงระเบิดปราสาทตะวันตกดังกึกก้องทำเอาคูสลิน โครเซ่ คอลรีนและซาเรสลอยไปตามแรงระเบิดทันทีแต่พอเสียงระเบิดหายไปทั้งสี่ก็ต้องแทบร้องจ๊ากปราสารทตะวันตกครึ่งนึงหายไปพริบตา
“เจ้าบลาสทำบ้าอะไรฟะ”คูสลินร้องอย่างเสียอารมณ์
“แต่ทำไมหมอนั่นตั้งใจยิงมาทางนี้ละ”โครเซ่ที่เพิ่งฟื้นแล้วหลุดจากการคุมตัวของซาเรสเอ่ยขึ้นพลางเดินมาข้างๆ คูสลิน
“ชิเพราะระเบิดนั่นแท้ๆ”ซาเรสเขกหัวตัวเองอย่างแรกเมื่อเห็นโครเซ่เตรียมเข้าสู้
“เอาเถอะซาเรส.....เรามีเรื่องที่ต้องไปสนใจมากกว่านี้นะ”คอลรีนพูดพลางชี้ไปยังจุดที่บลาสสู้กับเฟดีมาซึ่งตอนนี้เห็นกันชัดแล้ว
“โหสายฟ้าตะกี้ ไอ้หมอนั่นเป็นคนทำหรอ”ซาเรสร้องออกมาแทบไม่เชื่อพลางชี้ไปทางบลาสที่กำลังเดินเข้าไปหาเฟดีมาช้าๆ
“ดูท่าจะใช่ นั่นมันมหาเวทฟ้าผ่าแห่งความตายเลยนะ”คอลรีนกลืนน้ำลายเอื้อกทันทีเมื่อนึกถึงพลางการทำลายของมหาเวทเมื่อครู่มันยังทำเอาเขาประสาทเสียไม่หาย
“คูสลินจังหวะนี้แหละ”โครเซ่ถือโอกาสที่ทั้งสองกำลังคุยกันพุ่งตัวเข้าไปแต่ช้าไปซาเรสยกดาบเล่มโตขึ้นมากันเอาไว้แต่ก็เข้าแผนของโครเซ่แล้ว
“ฟอร์เซน ไอส์(Frozen ice)”คูสลินรีบร่ายเวททันทีทันใดนั้นน้ำแข็งมหาศาลก็แช่แข็งทั้งสามรวมโครเซ่ทันที
“Casket Ice(โลกศพน้ำแข็ง)”เมื่อคูสลินร่ายจบน้ำแข็งที่คุมตัวโครเซ่ก็แตกออกแต่น้ำแข็งที่เหลือกลับบีบร่างของซาเรสกับคอลรีนจนเลือดทะลักเนื่องจากแรงบีบอัดมหาศาล
“คราวนี้ฉันไม่ยอมให้แกจับหรอก”ซาเรสพุ่งทะลุน้ำแข็งออกมาด้วยร่างเปื้อนเลือดความเร็วครั้งนี้มันเร็วพอๆ กับตอนที่แทงโครเซ่ ซึ่งทำให้โครเซ่ทำอะไรไม่ถูกเพราะถูกคอลรีนกันเอาไว้ด้วยมีดเล่มยาว
“ฟอร์เซน......เหวออออ”คูสลินร้องออกมาอย่างสติแตกเมื่อเขาเห็นซาเรสฟาดดาบเข้ามาใส่ทำเอากระโดดหลบแทบไม่ทันแต่ก็ยังโดนดาบเฉือนเนื้อที่ขาติดไปด้วยอยู่ดี
“คูสลิน!!!”โครเซ่ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นเลือดทะลักออกมาจากขอของคูสลินแต่ก็ยังขยับไปไหนไม่ได้เพราะถ้าเขาขยับก็อาจถูกคอลรีนพุ่งมาฆ่าแน่ๆ ทั้งสองเลยต้องยืนคุมเชิงกันไว้ก่อนเพราะใครขยับก่อนคือเปิดช่องโหว่ แต่ตอลรีนก็คงทนต่ออีกไม่นานเพราะคนอารมณ์ร้อนอย่างคอลรีนก็ต้องเปิดฉากโจมตีก่อนแน่ๆ
“โอย ฟรีสซิ่ง สเปียร์”คูสลินรีบร่ายเวททันทีเพื่อป้องกันความเร็วของซาเรสแต่ดูท่าซาเรสจะรู้ตัวเลยรีบพุ่งเข้ามาแต่ก็ถูกหอกน้ำแข็งนับร้อยพุ่งขึ้นมาทางพื้นแทงทะลุร่างจนเลือดกระฉูดแต่ยังไงก็ตามเรื่องแค่นี้ก็ไม่อาจจะทำให้เขาตายได้ถึงจะบาดเจ็บแบบสาหัสสุดยอดแล้วก็ตามแต่
“ซาเรส!!!”คอลรีนร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นร่างของซาเรสถูกหอกนับสิบแทงทะลุร่างจนเกือบตายซึ่งทำให้เขาขยับตัวเพื่อจะเข้าไปช่วยแต่โครเซ่ดักทางได้ก่อนจึงฟันดาบเข้าไปแต่ปาดเนื้อของคอลรีนออกมาเป็นก้อนๆ จนต้องล้มหน้าทิ่มพื้นลงไป
“คอลรีน.....นาย”ซาเรสที่กำลังจะตายเอ่ยขึ้นอย่างเจ็บใจเมื่อเห็นคอลรีนล้มลงไป
“ยังไม่ตายอีกหรอ Casket Ice”คูสลินร่ายเวทโลงศพน้ำแข็งขึ้นมาอีกรอบคราวนี้หอกนับร้อยที่ไม่ได้ปักร่างของซาเรสก็ได้รวมตัวขึ้นมาแช่แข็งพร้อมกับบีบอัดจนน้ำแข็งแตกกระจายพร้อมกับกระดูกหลายจุดที่โพล่ออกมาแถมกระดูกบางส่วนก็แหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี ซึ่งแรงบีบอัดอันมหาศาลนั้นก็ทำให้ซาเรสถึงกับสิ้นใจตายทันทีเมื่อโดนบีบอีกรอบเพราะกระดูกแหลกละเอียดจนเหลือแต่ผง
“ม่ายยยย”คอลรีนรองอย่างเจ็บปวดเมื่อเห็นซาเรสตายต่อหน้าต่อตา แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถขยับไหนได้เพราะขาซ้ายโดนดาบของโครเซ่ปาดจนเนื้อหายไปบางส่วน แต่ที่หนักสุดคือขาขวาเพราะตอนนี้ถูกเฟนเรียที่โครเซ่เรียกมางับอยู่ครึ่งขา
“ขอให้จบซะทีนะ ไอซ์ แอเรีย.......อาราเวลีส”คูสลินพูดจบก็ร่ายเวทอาณาเขตน้ำแข็งออกมาปกคลุมทั้งหมดพร้อมกับเวทเคลื่อนย้ายไปหาบลาสและยังปล่อยให้คอลรีนถูกแช่แข็งตายในนั้น
.....................................................
“ทำไมไม่หมดซะทีวะ”ฟีมัสร้องอย่างประสาทเสียเมื่อเห็นสัตว์ประหลาดนับสิบกระโดดลงมาเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้ซากศพของพวกมันกองสูงเกือบสิบเมตรแล้ว
“โฮกก~~~”สัตว์ประหลาดคล้ายสิงโตแต่มีเขางอกออกมาสามเขาพร้อมกับปีกหลายตัวบินตรงมายังฟีมัสแต่ไม่ทันไรก็ถูกวิญญาณของเขาจัดการจนหมดก่อนถึงตัวฟีมัส
“เหนื่อยจริงๆ ผนึกเก้ามังกรมายา”ฟีมัสถอนหายใจพร้อมกับร่ายเวทผนึกคราวนี้มีควันรูปมังกรเก้าตัวพุ่งออกมาจากร่างเขาและมันก็พุ่งผ่านสัตว์ประหลาดทั้งหมดพอควันหายไปก็พบว่าพวกมันถูกตรึงเอาไว้ ซึ่งฟีมัสก็ไม่รอช้าเขารีบชักดาบขึ้นมาพร้อมกับเปิดฉากล่าอสูรอย่างโหดเหี้ยมเพราะแบบนี้เขาคงไม่มีทางเลือกอะไรอีกแล้วนอกจากจะต้องฆ่าพวกมันไม่งั้นเขาเองต่างหากที่จะตายแทนพวกมัน
“หมดซะที.....”ฟีมัสเอ่ยอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อเขาฆ่าพวกมันเสร็จซึ่งตอนนี้เวทผนึกก็คลายแล้วแต่มันกลับไม่ได้คลายเพราะเขาเมื่อประตูเปิดออกเขาก็พบกับชายผมทองใส่มงกุฎมีทหารเดินตามนับร้อยแต่ที่แปลกใจที่สุดคือมงกุฎที่เขาใสนั่นแหละ
“นี่มัน....”เขากล่าวขึ้นอย่างกะตุกกะตัก
“เกิดอะไรขึ้นกับเมืองฉานนนน”ราชาแห่งเอดาเฟียร้องอย่างแสบแก้วหูเมื่อเห็นซากสัตว์ประหลาดและซากปราสาทตะวันตก
“เอ๋”ฟีมัสจ้องหน้าราชาแห่งเอดาเฟียเขม็ง
“นายคือ เคนเดีย อาเดมัส ใช่มะ”ฟีมัสถามด้วยท่าทางแปลกใจเล็กน้อย
“อืม”เขาพยักหน้า
“งั้นก็หวัดดี”ฟีมัสกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเองแต่เขาก็ต้องหยุดพูดกึกเมื่อเห็นสิ่งที่ติดอยู่ที่มงกุฎของเคนเดียมันก็คือผลึกคอนเทรสนั้นเอง
“งั้นถามนายบ้างว่านายเป็นใคร”เคนเดียวเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เอ่อลองถามหมอนั่นดูสิ”ฟีมัสพูดจบก็ชี้ไปยังเดลอาเซียกับโคเซียที่เพิ่งวิ่งมาถึง
“เดล....โค นี่มันอะไรกัน”เคนเดียถามทั้งสองด้วยสีหน้าแปลกใจแต่เดลอาเซียกลับไม่ตอบอะไรได้แต่พุ่งเข้าหาฟีมัสอย่างรวดเร็วซึ่งฟีมัสก็หลบได้แต่เขาก็ไม่ทำอะไรสวนกลับไปเพราะในใจเขาคิดเพียงแต่ว่า......เขาทำอะไรลงไป......เพื่อผลึกเพียงก้อนเดียว......ต้องทำกันขนาดนี้เลยหรอ.......
“BOOM”เดลอาเซียใช้เวทระเบิดอีกรอบแต่คราวนี้ฟีมัสก็จับทางได้เลยกระโดดหลบออกจากวงระเบิดได้หมดเพราะการที่จะเวทนี้ต้องบันทึกตำแหน่งเพื่อให้เวทลงจุดที่ถูต้องทำให้มันเคลื่อนย้ายไม่ได้
“บ้าน่าหลบได้”เดลอาเซียหันมามองอย่างแปลกใจแต่ก็แปลกใจยิ่งกว่าเมื่อไม่เห็นฟีมัสไม่ทำอะไร
“นายนะพอเถอะ”ฟีมัสเอ่ยขึ้นเพื่อให้เดลอาเซียหยุดแต่ก็ยังไม่หยุดทำให้จากจิตใจไม่พร้อมสู้กลับแปรเปลี่ยนเป็นจิตอาฆาตทันที
“ไฟเยอร์ อิมแพค”ฟีมัสร้อวขึ้นอย่างเหลือดอดพร้อมกับกระไฟนับร้อยพุ่งเข้าใสเดลอาเซียจนร่างถูกไฟครอกตายท่ามกลางเปลวเพลิงทันที
“ที่เหลือคงพูดรู้เรื่องนะครับ”ฟีมัสหันไปมองเคนเดียและคนอื่น ซึ่งทั้งหมดก็พยักหน้า
“แต่ฉันมีปัญหาว่ะ”เสียงคัดค้านเสียงหนึ่งดังขึ้นมาทางด้านขวาเมื่อฟีมัสหันไปดูก็ร้องออกมาแทบไม่เป็นภาษาเมื่อเห็นคนตรงหน้า......
“ฟาริล”ฟีมัสร้องออกมาอย่างตกใจและแปลกใจในเวลาเดียวกันเมื่อเห็นคนตรงหน้า
“งานเลี้ยงยังไม่เลิกเลยน่ะฟีส”ฟาริลพูดต่อแบบยียวนแต่การพูดนั้นทำให้ฟีมัสแปลกใจยิ่งขึ้นว่ามันหมายถึงอะไร
“รู้สึกว่ายังตายน้อยไปหน่อยนะ”ฟาริลหันไปมองรอบๆ ก็พบเพียงศพของเดลอาเซียที่มอดไหม้จนเหลือแต่เถ้ากระดูก
“ดังนั้นงานนี้ตายตายเพิ่มกันอีกหน่อยนะ”ฟาริลพูดจบก็ปล่อยพลังวิญญาณออกมาเป็นออร่าและเมื่อมันสัมผัสโดนร่างของทหารของเอดาเฟียพวกเขาก็ร่างถูกระเบิดไม่มีชิ้นดี
“แก ไอ้โรคจิต”ฟีมัสร้องออกมาอย่างเจ็บเมื่อเห็นความวิปลาสของฟาริล
“ฟีมัสรู้ไหมว่าฉันฆ่าพวกสวะนี่ทำไม”ฟาริลเอ่ยขึ้นจนทำให้ฟีมัสต้องคิดตามว่าทำไมและคำตอบมันก็อยู่ที่มือของฟาริล
“รึว่า.....ฟาริลอย่าใช้มันน่ะ”ฟีมัสร้องห้ามแต่ไม่ทันแล้วเพระฟาริลได้ปล่อยยันต์ที่อยู่ในมือให้ตกลงพื้นแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เตรียมตัวรับความสนุกสุดยอดได้แล้ว”ฟาริลเอ่ยอย่างกวนประสาทแต่ใบหน้าและรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นมันชวนหลอนสยองเหลือเกิน
“รีซีฟ ออฝ อันเดธ”ฟาริลเริ่มร้องเพลงเบาๆ ออกมาแต่เมื่อเสียงเพลงของฟาริลดังขึ้นยันต์ก็เริ่มมีปฏิกิริยาเพราะมันตอนนี้กำลังปล่อยไอบางอย่างออกมาคลุมศพไว้ก่อนที่ไอนั้นจะชอนไชเข้าไปในร่างของศพและบรรดาศพทั้งหลายก้ลุกขึ้นมาพร้อมกัน
“ฮ่าๆๆๆๆ จงดูให้เต็มสองตา สดับฟังทั้งสองหู นี่ล่ะกองทัพอมตะของข้า”ฟาริลร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งก่อนที่บรรดาศพทั้งหลายพุ่งเข้ามาปลิดชีพคนที่รอดชีวิตพร้อมกับเปลี่ยนเป็นซอมบี้อย่างพวกมัน
ความคิดเห็น