ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟีมัส ฟีเลซัค

    ลำดับตอนที่ #4 : บุกนครเอดาเฟีย

    • อัปเดตล่าสุด 27 ม.ค. 49


    4. บุกนครเอดาเฟีย

     

                สรุปคือนายจะเอาไอ้ผลึกนั่นนะหรอคูสลินถามขึ้นอีกขณะที่กำลังเลือกหาที่พักกันอยู่

                ใช่อีกสองก้อนก็ครบแล้วฟีมัสตอบอย่างยิ้มแย้ม

                เราจะไปลุยกันก่อนเลยไหมล่ะโครเซ่เอ่ยขึ้นมา

                อย่าดีกว่าวันนี้เราเจออะไรกันมามากพอแล้ว ถึงฉันจะรู้จักพวกนายไม่ถึงวัน แต่ฉันเชื่อใจพวกนายนะฟีมัสตอบด้วยสีหน้าเงียบสงบและคำพูดนี้ทำให้ทั้งสามเชื่อใจเขาได้อีกนาน

               

                                          .....................................

     

                โอ้สบายอะไรอย่างนี้คูสลินร้องขึ้นอย่างสบายตัวเมื่อเขากระโดดลงไปนอนบนเตียงของโรงแรมที่พวกเขามาพัก แล้วมันจะไม่ให้ไมสบายได้ไงล่ะ นี่มันโรงแรม 5 ดาวที่มีชื่อที่สุดในเอดาเฟียนี่นา

                หลังจากเหนื่อยมานาน แบบนี้สิเรียกว่าสวรรค์คูสลินเริ่มเพ้อ

                ไม่คิดว่ามันจะสบายแบบนี้คูสลินเริ่มเพ้อหนักขึ้น

                คูสลินทั้งสามตะโกนลั่นเพื่อให้คูสลินหยุดเพ้อเนื่องจากรำคาญ แต่ว่า......

                นี่ล่ะการพักผ่อนที่ดีของชีวิตคูสลินก็ยังเพ้อต่อไป

                ฟีมัส สรุปเราะเข้าไปเอดาเฟียกันตอนไหนโครเซ่เริ่มถามฟีมัสเป็นคนแรก และปล่อยให้คูสลินเพ้อไปคนเดียวแต่พอเสียงของโครเซ่ถามฟีมัสดังขึ้นคูสลินก็หยุดเพ้อทันที

                นั่นสิบลาสร่วมผสมโรงเข้าอีกคน

                เอาสักสิบโมงไหมฟีมัสยิ้มขึ้นพร้อมกับบอกว่าจะไปตอนไหนทำเอาทุกคนหน้าถอดสีไปเหมือนกัน

                นี่นาย......คิดจะลองฝีมือกับพวก 5 ขุนพลปีศาจหรอบลาสเอ่ยเสียงสั่นเพราะ 5 ขุนพลปีศาจเป็นสิ่งที่อันตรายแบบสุดๆ เพราะพวกมันได้ชื่อว่ามีฝีมือเหนือมนุษย์

                แบบนี้น่าลองแหะ 5 ขุนพลปีศาจกับมนุษย์จุติเทพสู้กันชักอยากลองแล้วแฮะฟีมัสยิ้มขึ้นมาอย่างเยือกเย็นทำเอาทั้งสามเริ่มทำสีหน้าไม่ค่อยดีขึ้นมา

     

                                                  .................................

     

                ในที่สุดเวลาที่ฟีมัสรอคอยก็มาถึง......10 โมงเช้า เวลาที่ประวัติศาตร์เอดาเฟียต้องจารึก ชายสี่คนกำลังจะเข้าไปฉกสิ่งที่เรียกว่าสัญลักษณ์แห่งภาคกลางออกมาจากนครเอดาเฟีย......

                หยุดเดียวนี้พวกเจ้าเป็นใครจะเข้ามาทำอะไรนายทหารเฝ้าประตูคนหนึ่งร้องทักทั้งสี่เอาไว้

                จะตอบว่าไงบลาสกระแซะเข้ามาถามฟีมัส

                ว่าไงดีอ่ะ เอ่อมา.....ขโมยสัญลักษณ์แห่งภาคกลางละกันฟีมัสยิ้มให้กับนายทหารคนนั้นก่อนที่เขาจะล้มลงไปเพราะฟีมัสใช้พลังทำลายประตูทางเข้าจนปลิวไปเกือบสิบเมตรพร้อมกับพุ่งตัวเข้าไปในปราสาทอันยิ่งใหญ่ของเอดาเฟีย.......

                เอาแบบนี้จนได้โครเซ่เอามือตบหน้าผากที่นึงก่อนที่จะลากดาบด้ามโตเข้าไปในปราสาทซึ่งเขาเดินไปคนล่ะทางกับฟีมัส

                นายไปจะไหนนะบลาสร้องทักไว้

                แหมมาทั้งที เราแยกทางไปเดินเล่นนิดหน่อยไม่มีอะไรเสียหายหรอกน่าโครเซ่ตอบอย่างยิ้มแย้มเพราะคูสลินก็เห็นด้วย

                เออตามใจบลาสเอ่ยอย่างหัวเสียก่อนจะแยกตัวออกมาเพราะเขาก็อยากจะลองฝีมือกับ 5 ขุนพลปีศาจเหมือนกัน

     

                                                      ........................................

     

                จับมันไว้ทหรเอดาเฟียหลายคนร้องสั่งในทหารนับสิบวิ่งเข้าไปจับโครเซ่แต่เขาก็เพียงยกดาบนิดๆ ก็ตวัดร่างของทหารเหล่านั้นขาดเป็นสองท่อน

                ไม่มีอะไรสนุกกว่านี้แล้วหรอโครเซ่พูดอย่างเบื่อหน่าย

                งั้นแกมาเล่นกับฉันดีไหมล่ะเสียงของสายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อโครเซ่หันไปมองจึงเห็นว่าเขาใส่ชุดเกราะทั้งตัวในมือถือดาบเล่มพอๆ กับเขาและผ้าสีแดงที่ขาดไหล่ซ้ายไว้มันเป็นสัญลักษณ์ของ 5 ขุนพลปีศาจ!!!!

                นาย......ซาเรส ฟาดีมัส หนึ่งในขุนพลปีศาจสินะโครเซ่เอ่ยขึ้นราวกับรู้จักเป็นอย่างดี

                ไม่คิดเลยนะครับว่าเราจะต้องสู้กัน ราชาโครโรเซีย(นามสกุลโครเซ่) แห่งมัลลาเซียซาเรสเอ่ยอย่างสุภาพพร้อมกับวิ่งเข้ามาหาโครเซ่อย่างรวดเร็ว เร็วกว่าที่ใครจะคาดคิดไว้

                เคล้งงงงงง

                เสียงดาบทั้งสองปะทะกันดังลั่นพร้อมกับร่างของทั้งองได้หายไปจากจุดนั้น

                เคยได้ยินว่าว่าราชาโครโรเซียมีความสามารถในการใช้ดาบพอตัว แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ เกินคาดจริงๆซาเรสบุนอุบอิบพลางหลบดาบของโครเซ่ที่ฟาดกระหน่ำมาอย่างไม่หยุด

                แต่......ท่านยังก้าวข้ามไม่ได้หรอครับซาเรสยิ้มขึ้นมาพร้อมแทงเข้าไปยังจุดบอดที่โครเซ่ได้ทำไว้เพราะตอนนี้เขากำลังดึงดาบที่ติดอยู่ในพื้นออกมาทำให้การเคลื่อนไหวช่วงนั้นชะงักลงแต่ว่าเมื่อดาบของซาเรสมาถึงโครเซ่ก็เอี้ยวตัวหลบอย่างง่ายดายราวกับการแทงของซาเรสเป็นภาพสโลโมชั่นที่แทงมาอย่างช้าๆ

                อะไรกัน มองทันความเร็วของฉันหรอซาเรสร้องอย่างแปลกใจเพราะดาบของเขาได้พุ่งผ่านร่างของโครเซ่อย่างเฉียดฉิว

                ช้าเป็นเต่าเลยนี่โครเซ่เอ่ยขึ้นพลางลากดาบเข้ามาหาซาเรสอย่างรวดเร็วแต่ว่า

                ในสถิติของผม มีคนเคยทำแบบนี้ได้ครั้งเดียวและหมอนั่นก็อยู่ด้แค่5นาทีดูสิครับว่าท่านจะอยู่ถึงนั่นรึเปล่าซาเรสสะแยะยิ้มอย่างน่ากลัวพร้อมกับพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เร็วกว่าครั้งใดๆ

                ฉึก.....ดาบของซาเรสพุ่งทะลุท้องของโครเซ่ไปแต่โครเซ่ก็ยังไม่ล้มเพราะเขาหาจังหวะที่คิดว่าการเคลื่อนไหวของซาเรสจะต้องหยุดลงและมันก็คือเวลานี้.......

                หือ ไม่น่ะซาเรสร้องเสียงหลงทันทีเมื่อเห็นโครเซ่สวนดาบมาทางเขาแต่ร่างของโครเซ่กลับล้มลงกับพื้นเพราะการแทงของซาเรสก็สร้างอาการบาดเจ็บไว้มากที่เดียว

                เกือบแล้วอีกนิดเดียวถ้าท่านยังมีแรงอยู่อีกนิดผมคงตายไปแล้วซาเรสเอ่ยขึ้นมาลอยๆ พร้อมกับลากร่างโครเซ่ไปตามทางเพื่อจัดการคนอื่นๆ ต่อจะเห็นรอยเลือดที่ออกมาจากร่างขอโครเซ่เป็นทางยาวตลอดทางที่ซาเรสได้เดินผ่าน.......

     

                                                           ..................................................

     

                ธันเดอร์ สตรอมบลาสร่ายเวทพายุสายฟ้าออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อจัดการทหารของเอดาเฟียตรงหน้าให้หมดไวๆ แต่กลับมีชายผู้หนึ่ง่ายคาถาสวนออกมาทำให้พายุสายฟ้ทำอะไรแทบไม่ได้เลย

                หือ นาย.....บลาสมองไปยังชายผมแดงข้างหน้าอย่างแปลกใจเพราะที่แขนซ้ายเขาได้ผูกผ้าสีเขียวไว้คล้ายๆ กับซาเรส และที่แปลกใจที่สุดทำไมชายผู้นั้นต้องใส่หน้ากากตัวตลกมาด้วย

                คงรู้จักผมสินะครับชายคนนั้นเอ่ยอย่างอวดภูมิ เพราะเขาคิดว่าใครๆ ก็ต้องรู้จักตัวเขาเองแต่สิ่งที่บลาสพูดออกมากลับผิดคาด

                นาย.....เป็นใครกันบลาสพูดขึ้นพลางยังจ้องมายังเขาและนั่นมันทำให้เขาฉุนกึกทันที

                นี่มันไม่รู้จักฉันงั้นสิ

                อื่อแล้วน่าจะบอกไหมนี่ บอกแล้วน่าว่าไม่รู้จักบลาสเอ่ยต่อทำเอาคนตรงหน้าประสาทแทบเสีย

                คนดังๆ อย่างข้าไอ้บ้านี่กลับไม่รู้จักงั้นหรอเขาพูดออกมาอย่างหัวเสียทั้งๆ ที่พยายาเก็บอารมณ์เข้าไว้

                แหงล่ะ ใส่หน้ากากเห็นตัวตลกแบบนั้นใครจะไปรู้ฟะ ว่าใครบลาสชี้หน้าด่าทันทีเพราะมันไม่ใช่ความผิดของเขานี่

                บลาส.....ใส่หน้ากากแบบนี้คงไม่คุ้นใช่ไหมล่ะชายผู้นั่นจู่ๆ ก็เรียกชื่อบลาสออกมาทำให้บลาสเอ๊ะใจว่าเขาเป็นใครแต่พอเขาถอดหน้ากากออกมา เมื่อบลาสเห็นนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนนั้นบลาสก็ร้องเสียงหลงทันทีไม่ใช่เพราะความตกใจแต่เป็น.......ความกลัว

                ท่าน.....เฟดีมาบลาสเอ่ยเสียงสั่นพร้อมกันคุกเข่าทันที

                หึๆๆ บลาสจงตายซะเถอะเฟดีมาชี้คทามายังบลาสพร้อมกับร่ายเวทมายังร่างนี่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้า

                ลาก่อนบลาส ธันเดอร์ บีมลำแสงสายฟ้าของเฟดีมาพุ่งออกมาจากคทาอย่างรวดเร็ว แต่พอมันจะถึงร่างบลาสเขาก็หายไปจากตรงนั้นแล้ว

                ท่านเฟดีมา อย่าคิดว่าผมจะฆ่าท่านไม่ได้นะครับบลาสเอ่ยออกมาอย่างน่ากลัวพร้อมกีบมีดสั้นเล่มเล็กจ่อตรงคอของเฟดีมา

     

                                                                .............................

     

                หือ ท่านเฟดีมาก็อยู่ด้วยหรอคูสลินร้องอย่างแปลกใจเมื่อรู้สึกถึงพลังวิญญาณของเฟดีมา แต่ขณะที่เขากำลังวิ่งอยู่นั้นก็ต้องหยุดวิ่งทันทีเมื่อมีชายผมทองชี้โด่ชี้เด่มาขวางเขาไว้ และที่น่ากลัวที่สุดของเขาคือผ้าสีดำสนิทแบบเดียวกับเฟดีมา และซาเรส

                นาย.....รู้จักเฟดีมาได้ไงชายผู้นั่นถามคูสลินอย่างไม่ไว้ใจอีกอย่างนายเป็นใคร

                เอ่อ ผมชื่อ คูสลิน วีเดลครับ แล้วที่มานี่ก็คือจะมาขโมยผลึกคอนเทรสที่อยู่ห้องโถงกลาง พอบอกได้ไหมว่าอยู่ไหนคูสลินลองถามดูทั้งๆ ที่รู้ว่ามันเสี่ยงมากๆ กับคำถามนี้เพราะเขาอาจถูกโจมตีได้ทุกเมื่อและก็กำลังจะโดนแน่ๆ แต่คำถามที่ชายผู้นั้นถามกลับมามันเป็นคำถามที่สุดจะเชื่อยากสุดๆ

                นายเป็นญาติกับเฟดีมาหรอเขาถามคูสลินต่อ

                ครับ แต่เราเป็นคนคนล่ะชนชั้นของตระกูล ถ้าวัดก็คือ ขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้ละคูสลินพยายามทำตัวให้สงบที่สุดเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต

                อ๋อ อย่างนี้เองเขาพยักหน้าราวกับเข้าใจสิ่งที่พูด

                ว่าแต่......นายเป็นใครคูสลินพูดจบก็เตรียมร่ายเวททันที

                อ้าวแย่จัง ลืมแนะนำตัวเลยฉัน คอลรีน โคตาสเขาแนะนำตัวทันที

                หา!!! คอลรีนหรอพอคูสลินรู้ว่าเข้าเป็นใครก็รีบก็โดดออกมาห่างๆ ทันทีเพราะบุลคลข้างหน้สถือว่าอันตรายเพราะเป็นหนึ่งในห้าขุนผลปีศาจที่แสนน่ากลัว

                ว้า นึกว่าจะใจกล้าคอลรีนพูดเล่นออกมาด้วยความเบื่อเมื่อเห็นมือที่สั่นของคูสลิน

                ไม่คิดว่าจะเจอเร็วแบบนี้คูสลินเอยขึ้นด้วยเสียงสั่นแต่คำต่อไปที่เขาพูดออกมามันเป็นเสียงที่เรียกว่ามั่นใจสุดขีด

                แบบนี้ต้องลองฝีมือสักหน่อยแล้วว่าเก่งจริงรึเปล่า

                งั้นฉันจะเสนองให้คอลรีนพูดจบก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วทันทีเพื่อไม่ให้คูสลินร่ายเวททันแต่ เขากลับติดกับดังที่คูสลินวางเอาไว้แต่แรก

                ตูมมมมม

                เสียงระเบิดดังขึ้นตรงหน้าของคอลรีนทันทีทำเอาเขาต้องกระโดดหลบออกมาแทบไม่ทัน แต่ก็ทำให้บาดเจ็บอยู่เล็กน้อย

                บ้าน่าร่ายเวทตอนไหนคอลรีนแปลกใจไม่น้อยเพราะเห็นคูสลินไม่ได้ร่ายเวทใดๆ เลยสักเวทเดียวแต่พอเข้าไปก็ปล่อยเวทออกมา

                อ้าวนี่ไม่รู้หรอคูสิลนถามอย่างแปลกใจและคอลรีนก็พยักหน้าเพื่อบอกว่าไม่รู้แต่เขาก็ยังไม่บอกก็ไปนึกเอาเองล่ะกัน

                แก......พูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม

                ประมาณนั้นคูสลินตอบกลับ

                ไม่ต้องไปนึกหรอก ไอ้หมอนั่นร่ายเวทจบตั้งแต่มันพูดชื่อแกเสร็จน่ะ แล้วมันก็หน่วงพลังเวทเอาไว้รอแกบุกเข้ามาไงซาเรสในสภาพถอดหมวกเกราะหนาออกเอ่ยบอก และการที่เขาถอดหมวกออกทำให้เห็นใบหน้าอันหยาบกร้านและผมสี่แดงฉุดฉาดตัดกับสีที่นัยน์ตาที่ดำสนิท ถึงกระนั้นคูสลินก็ไม่ตกใจเลย แต่เมื่อเขามองไปยังคนที่ซาเรสลากมาก็ถึงกับร้องอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าสิ่งที่เห็นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง

                ไม่น่ะคูสลินร้องอย่างตื่นกลัวเมื่อเห็นคนที่ซาเรสลากมา

                นายมากับหมอนี่หรอซาเรสถามคูสลินแต่ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้ว

                โครเซ่......คูสลินร้องออกมาอย่างเจ็บปวดพร้อมกับร่ายเวทใส่ซาเรสกับคอลรีนแต่ทั้งสองก็ดูเหมือนรู้ตัวจึงพุ่งตัวเข้ามาหวังจะหยุดคูสลินเอาไว้

               

                                              ..........................................

     

                เหอะ บุกกันได้ไม่ถึงสองชั่วโมง เจ้าโครเซ่ก็จอดแล้วหรอฟีมัสถอนหายใจอย่างปลงตกขณะมองเหตุการณ์ผ่านผลึกคอนเทรสที่เขาใช้พลังบางอย่างพลักดันเพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้น

                นายสิน่ะที่เป็นผู้นำไอ้กลุ่มพวกนี้นะชายสองคนที่เดินมาเห็นฟีมัสเอ่ยถามขึ้น

                เอ๋ ฉันเป็นผู้นำหรอฟีมัสพูดกับตัวเองอย่างแปลกใจ

                ไอ้หมอนั่นพูดอะไรนะเดลอาเซียชายผมดำเอ่ยขึ้นถามเพื่อนข้างๆ แต่พอฟีมัสเห็นหน้าของของเขาก็อดขำไม่ได้เพราะ ผมดำยาวตรงมาถึงหัวไหล่กับหน้าบานๆ ตาโปนๆ มันตัดกับมากพอดู แต่พอเขาสังเกตดีๆกลับหัวเราะไม่ออกเพราะสัญลักษณ์ห้าขุนพลปีศาจเป็นผ้าสีน้ำเงินพันอยู่ที่แขนซ้าย

                ช่างมันไปเถอะ โคเซีย แต่ที่แปลกก็คือทำไมมีพลังวิญญาณมหาศาลขนาดนี้เดลอาเซียทักขึ้น ซึ่งเขาก็เป็นห้าขุนพลปีศาจเช่นเดียวกันแต่ที่แปลกก็คือผ้าสีทองของเขาไม่ได้มัดที่แขนกลับเอาไปพันหัวจนบังผมของเขาจนหมดซึ่งดูๆ แล้วน่าใจใหญ่กว่าผืนอื่น

                สงใสวันหลังต้องเก็บพลังบ้างแล้วฟีมัสยิ้มแห้งๆ ขณะคิดในใจเพราะตอนนี้จะเก็บพลังวิญญาณอะไรก็คงไม่ทันเสียแล้ว

                แกเป็นใครเดลอาเซียถามขึ้น

                เอ่อผมชื่อ ฟีมัส ฟีเลซัคครับ แต่ดูท่างานหนักนะครับที่มาเจอหัวหน้าขุนพลปีศาจแบบนี้คุณ เดลอาเซียฟีมัสตอบอย่างสุภาพแต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้มันไม่ใช่สิ่งที่จะสุภาพแน่ๆ เพราะมันเป็นการต่อสู้อันร้ายกาจอีกครั้งที่เหล่าเทพต้องจับตามอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×