ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รู้ไหม,,ว่ารัก

    ลำดับตอนที่ #2 : รู้ไหม..ว่ารัก ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.พ. 52


    ดึกแล้ว  แต่กรรพัชรยังคงไม่นอน  แม้ว่ามารดาจะหลับไปได้สักพักใหญ่  หากเด็กหนุ่มยังคงวุ่นวายกับการค้นคว้าหาข้อมูลสถานที่เรียนภาษาเยอรมันเพิ่มเติม ซึ่งก็หาได้ยากมาก ถ้าเทียบกับสถาบันภาษา หรือโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ  ภาษาญี่ปุ่น หรือแม้แต่ภาษาสเปน

    หน้าต่างโปรแกรมค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตถูกเรียกขึ้นแสดงผลไม่ต่ำกว่าห้าหน้าต่างแล้ว  แต่เขาก็ยังหาไม่เจอข้อมูลที่จุใจเขา  ส่วนใหญ่จะเป็นการเรียนแบบออนไลน์  แต่เขาต้องการสถานที่เรียนเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่า  เพื่อที่จะมีที่ปรึกษายามที่เขาเกิดปัญหาข้องใจในบทเรียน  หรือแม้แต่อยากจะฝึกสนทนา ฝึกสำเนียงการพูดให้ใกล้เคียงเจ้าของภาษา แต่ก็ดูเหมือนจะหายากเหลือเกิน  จนเขาท้อ  และอยากจะปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และเข้านอนเสียที  หากไม่สะดุดกับอะไรบางอย่างเข้าเสียก่อน

    หน้าต่างบานหนึ่งแสดงเว็บไซต์วัยรุ่นที่มักจะเน้นการหาเพื่อนทางอินเตอร์เน็ต  บ้างโชว์รูปตัวเองลงให้เพื่อนฝูงในโลกไซเบอร์ช่วยกันลงคะแนนเสียงว่าใครน่ารักโดนใจที่สุด  เขาเกือบจะส่ายหน้าว่ามันไร้สาระสิ้นดี  ถ้าไม่บังเอิญไปเจอหน้าต่างเล็กๆที่อวดโฉมหน้าของเด็กสาวผิวขาว ตาคม ผมสีน้ำตาลเข้มอยู่ในชุดดรัมเมเยอร์ของโรงเรียนไหนสักแห่ง

    นิ้วชี้มือขวาลงแรงกดปุ่มเมาส์ตามที่เคอร์เซอร์ชี้อยู่โดยอัตโนมัติ  ภาพหญิงสาวกลายเป็นอีกหน้าหนึ่งบอกรายละเอียดที่มาของภาพไว้ค่อนข้างชัดเจน

    ร่วมโหวตคนสวยคนดังประจำโรงเรียนพาดหัวคอลัมน์ตัวหนาสะกดสายตาให้เขามองเห็นได้ไม่ยาก ก่อนจะเบนสายตาไปมองหารูปเดิมพร้อมข้อความกำกับไว้เพียงสั้นๆ

    พี่สอง อรณิชา  เด็กศิลป์ฝรั่งเศส  ประธานชมรมละครเวทีเลือดฟ้าชมพู ผู้ได้ครองคฑาดรัมเมเยอร์สองสมัยซ้อน  ตอนนี้กำลังติวเข้มสอบเข้าศิลปากร สู้ๆนะคะ น้องๆเอาใจช่วย

    และยังมีอีเมล์แอดเดรสไว้ให้ติดต่อหากใครต้องการเป็นเพื่อนกับเธอด้วย  วันที่ลงรูปไม่ได้มีบันทึกไว้  แต่วันเวลาที่เพื่อนๆของเธอเข้ามาลงคะแนนเสียงบอกให้กรรพัชรรู้ว่ามันเพิ่งจะไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นเอง  ใครต่อใครลงคะแนนโหวตให้เธอไม่ต่ำกว่าพันคะแนนแล้ว  อีกทั้งแทรกความเห็นที่ล้วนพ้องต้องกับความรู้สึกของเขาทั้งนั้น

    สวย น่ารัก  ดูมีเสน่ห์

    น่ารักนะครับ  แต่ตาดุจัง

    กรรพัชรหันมองดวงตาของเธออีกครั้ง  จริงสินะ  ตาคมกริบเชียว  ท่าทางจะดุเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน  แม้ว่าใบหน้าโดยรวมจะหวานใสก็ตามเถอะ  เขามองรูปเธอจนเพลิน กว่าจะนึกได้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป

     

     

     

    เสียงเคาะนิ้วบนคีย์บอร์ดยังคงดังรัวอยู่เป็นระยะ  แม้ว่าเข็มนาฬิกาจะบอกเวลาเลยเที่ยงคืนไปแล้ว  อรณิชากำลังโพสต์ข้อความคุยกับมารดาอยู่จนใกล้จะจบ  เสียงเพลงจีนของนักร้องไต้หวันที่เธอชื่นชอบเริ่มออกฤทธิ์ให้เธอง่วงนอนจึงบอกลามารดา  พร้อมๆกับที่มีข้อความแจ้งว่ามีคนบันทึกที่อยู่อีเมล์ของเธอเพื่อจะขอคุยเป็นเพื่อน  อรณิชาขมวดคิ้วอย่างงุนงงสงสัย 

    มือผิวสีนวลขับเคลื่อนเมาส์กดคลิกอนุญาตคนแปลกหน้าเข้าพูดคุยได้ตามความคิดคนมองโลกในแง่ดี  ใจหวังให้เขาเข้ามาคุยดีๆ  ไม่พูดจาอะไรสองแง่สองง่ามให้เธอกระอักกระอ่วนในการผูกมิตร

    สวัสดีครับ คุณสองกรรพัชรพรมนิ้วลงแป้น เอ่ยทักทายทันทีเมื่อได้รับการเปิดใจจากฝ่ายตรงข้าม

    ผมชื่อตั้วนะ  ยินดีที่ได้รู้จัก

    อรณิชานิ่งมองข้อความที่ส่งมาเชื่อมสัมพันธ์อย่างละเหี่ยใจ  อีกแล้วหรือ บรรดาผู้ชายที่เข้ามาหวังจะขอเบอร์โทรศัพท์  นัดกินข้าว  นัดดูหนัง   หัวข้อสนทนาช่างน่าเบื่อเหลือเกิน

    ค่ะ  เช่นกัน

    ได้ข่าวว่ากำลังสอบเข้ามหาวิทยาลัยเหรอครับ  งั้นก็รุ่นเดียวกันเลย  ขอให้โชคดีนะครับ  ของผมประกาศผลอาทิตย์หน้า

    อรณิชาอ่านข้อความอย่างรู้สึกผ่อนคลายกว่าเดิม  ตั้งแต่คุยกะคนแปลกหน้าที่แอ๊ดเมล์เธอมาคุย  เพิ่งจะมีคนนี้ที่คุยใช้ได้หน่อย

    รูปดรัมเมเยอร์สวยดีนะครับ  ดูสง่า  บุคลิกดีนะครับเนี่ย

    ยังคงเงียบ  ไม่มีอะไรตอบกลับมา  กรรพัชรยิ้มแห้งๆให้กำลังใจตัวเอง  ก่อนจะดูทางหนีทีไล่  หากเขาตัดบทสนทนาเสียก่อน  สาวเจ้าคงไม่รำคาญเขานัก  เอาไว้นึกอะไรที่น่าคุยมากกว่านี้ได้  ค่อยชวนเธอคุยดีกว่า

    เออ  ผมไปก่อนนะครับ  ราตรีสวัสดิ์ หวังว่าคงได้คุยกับคุณน้องอีกครั้งนะฮะแล้วกรรพัชรก็ตัดสายการสนทนาลงดื้อๆ อรณิชามองแปลกใจกว่าเดิม

    เออ คนนี้นี่ เป็นรายแรกที่ตัดบทการสนทนากับฉันนะเนี่ย  เด็กสาวถอนหายใจโล่งอกที่ไม่โดนรุกหนักอย่างที่คนอื่นเคยทำ  หญิงสาวปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนจะเอนตัวลงนอนกับเตียงอันแสนนุ่มภายใต้เครื่องปรับอากาศแสนเย็นฉ่ำ

     

    เอ้า  ชน

    เสียงหนุ่มวัยรุ่นประสานเสียงกันพร้อมชนแก้วฉลองผลสอบที่ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย  อธิพงศ์ตบมือกับคู่หูที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขามาตั้งแต่มัธยมต้น  เขายินดีสุดชีวิตที่เพื่อนรักอย่างมณเฑียรสอบติดคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ได้สมใจหวัง 

    เออ แล้วไอ้ตั้วละวะ  มันไปไหน  ไม่เห็นมาฉลองด้วยเลย

    รายนี้ไปกับแม่ว่ะ  พอดีพรุ่งนี้แม่มันจะกลับอิตาลีแล้ว  เลยใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานหน่อย  มันสอบได้วิศวะเคมี  ก็เลยให้มันค่อยแจมทีหลัง  แกเองก็เหอะ  เดี๋ยวจะไปต่อกะยัยวินนี่อีกละสิ  เมาไม่ขับนะเว้ย  เพื่อนขอร้อง

    เออ ย้ำจริงเชียว  แล้วงานนี้วินนี่เขาขับ  ฉันไม่ได้ขับสักหน่อย  ไปก่อนนะ ไอ้ตั้วมันว่างแล้วค่อยเจอกัน

    พูดไม่ทันขาดคำ  หนุ่มร่างสูงโปร่งก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในร้าน  ทำให้เพื่อนอีกสองคนนั่งงง เพราะไม่คิดว่าเขาจะมาปรากฏตัวตรงนี้ได้

    อ้าว  ไหนไอ้โป้งมันบอกว่าแกไปกะแม่ไง  แล้วทำไมชิ่งมาได้วะ

    แม่บอกว่าจะรอให้พ่อกลับจากสัมมนาก่อนแล้วค่อยไปกินด้วยกัน  เลยให้ฉันมากับแกวันนี้  น้องๆ ขอกาแฟแก้วนึงกรรพัชรหันไปตะโกนสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานร้านที่เขาคุ้นเคยดี  ก่อนจะหันมาคุยกับเพื่อน  มณเฑียรเห็นท่ากะปลกกะเปลี้ยของเพื่อนสนิทอีกคนแล้วได้แต่หัวเราะ

    นี่ไง ไอ้โป้ง  ไอ้นี่มันง่วงแล้วขับ  งานนี้แกสอยมันไปส่งที่บ้านเลยนะ

    อธิพงศ์มองสภาพกรรพัชรแล้วก็แอบเห็นด้วยอยู่ในใจ  สหายรักของเขาตาปรือชอบกล  แถมสั่งกาแฟทั้งๆที่ปกติไม่ค่อยจะแตะต้องมันเลยสักที

    ไปทำอะไรมาวะ ไอ้ตั้ว  ทำยังกะอดหลับอดนอนมางั้นแหละ

    หาข้อมูลเรียนเยอรมันน่ะสิ  หาซะตาแทบเล็ด  ไม่เจอสักที  ว่าจะเรียนออนไลน์แล้วกรรพัชรพูดอย่างเหนื่อยอ่อน

    ผองเพื่อนพยักหน้ารับรู้  เข้าใจอยู่แล้วว่าไอ้หล่อของพวกเขามีจุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิตคือการได้ไปเรียนต่อเคมีที่เยอรมัน  หากเรียนจบปริญญาตรีเมื่อใด  กรรพัชรคงเหินฟ้าไปเมืองเบียร์แน่ๆ  และสามทหารเสือ  ก็คงได้เหลือเพียงแค่สองตัวเท่านั้น

    เอายังงี้สิ  พอดีลูกพี่ลูกน้องฉันเรียนภาษาฝรั่งเศสอยู่ที่สยาม  เขาเป็นสถาบันภาษาโดยตรง  เดี๋ยวจะไปถามมาให้ว่าเรียนที่ไหนอธิพงศ์นึกถึงอรณิชาทันควัน  เพราะญาติสนิทตัวดีของเขาไปเรียนพิเศษภาษาฝรั่งเศสเพิ่มเติมทุกเสาร์อาทิตย์  บางทีอาจจะมีภาษาเยอรมันปะปนอยู่ด้วยก็ได้

     นานๆทีจะได้รวมพลกันพร้อมหน้าซะทีน้อ  ตั้งแต่ไอ้เทียนไปมีแฟนเนี่ย  เอะอะๆอะไรก็จะไปกับวินนี่ เฮ้อ  หมั่นไส้คนมีรักจริงๆ  แล้ววันนี้ไปต่อที่ไหนอีกละสิกรรพัชรดักคอเพื่อนอย่างรู้ทัน  มณเฑียรยักคิ้วแทนคำตอบ

    ทำเป็นแซว  ไว้แกมีมั่งขี้คร้านจะยิ่งกว่าข้า

    ไอ้ตั้วมันรอไว้ไปมีที่เยอรมันเว้ยอธิพงศ์กระเซ้า  ปรายตาหันไปเห็นร่างหญิงสาวสูงโปร่งเดินเข้ามาในร้าน  สายตาของเธอกำลังมองหาใครสักคน  เขาโบกมือเรียกเธอ  อีกมือก็สะกิดมณเฑียร

    ผู้ปกครองมารับแล้วเว้ย  ไอ้เทียน

    เพื่อนฝูงฮาครืนกับคำจำกัดความที่อธิพงศ์ตั้งให้แฟนของเพื่อน  ทุกคนรู้ดีว่ามณเฑียรออกจะรักและเกรงใจแฟนสาวมาก  และก็มากพอจะยอมห่างเพื่อนฝูงที่ร่วมทางกันมาเกือบห้าปีไปทุ่มเวลากับเธอคนเดียว  ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครโกรธเคืองเขาเลยสักคน

    ดีใจด้วยนะ  สอบติดกันหมดเลยนี่ ตั้ว  ได้ข่าวว่าได้วิศวะเคมีเชียวนะ  โก้จังเลย

    น้ำเสียงและแววตาของคนพูดดูร่าเริงอย่างที่ทุกคนเห็นมาตลอด   แต่แทบไม่มีใครสังเกตว่ามันสุกใสผิดปกติเมื่อกวินนาหันมองกรรพัชรซึ่งนั่งถัดจากมณเฑียรออกไป 

    แม้กวินนาจะมีใจตอบรับมณเฑียรให้เคียงข้างเธอในฐานะคนรัก  แต่ก็ไม่ได้เศษเสี้ยวหากเทียบกับความรู้สึกที่ทั้งชื่นชมและอยากไขว่คว้าผู้ชายที่เพียบพร้อมไปทุกอย่างมาเป็นคู่ชีวิต  เธอหลงรักกรรพัชรตั้งแต่วันที่มณเฑียรแนะนำเขาให้เธอรู้จักว่าเป็นเพื่อนสนิทร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาเนิ่นนาน

    ไม่เคยมีใครสังเกตอากัปกิริยาของเธอเมื่อเจอกรรพัชร  แม้แต่มณเฑียร  หากแต่กรรพัชรกลับรู้ตัว และเฝ้าระวังอยู่เงียบๆ  ไม่ชวนคุยเรื่องสัพเพเหระที่จะชักนำเธอให้ใกล้ชิดเขาเกินไป  ยามเลิกเรียนก็มักชวนอธิพงศ์ไปนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุด  หรือไม่ก็ทานอาหารกลางวันกันโดยที่เขามักจะคุยลำพังแค่ในกลุ่มผู้ชาย  กระนั้นกรรพัชรไม่กล้าบอกเพื่อนเพราะเกรงความเปราะบาง อ่อนไหวของเพื่อนรัก  เขาไม่ได้คิดอะไรกับกวินนาเกินกว่ามิตรภาพ  แต่คนคิดมากอย่างมณเฑียรอาจจะไม่เชื่อเช่นนั้นก็ได้

     กรรพัชรได้แค่ยิ้มมุมปากให้กับคำชมของเธอโดยไม่พูดอะไรตอบไปสักคำ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×