ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    《Fic Group Chat Anime》: บันทึกการเดินทางของคุณมหาจอมเวทขั้นเทพผู้สาบสูญจุติใหม่ในโลกเทย์วัต

    ลำดับตอนที่ #7 : กลุ่มแชท 06 : ฮี๊ฮี่

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 67


    (ไรท์ : มีการเปลี่ยนจากคะแนนเป็น > คริสตัล)

    “เนซึโกะต่อจากนี้จะมาเล่นเกมกับฉันไหม? เราทั้งคู่จะกลายเป็นสองคู่หูแฮมสเตอร์มหาประลัย!”

    เนซึโกะ: “ไปไกล ๆ! ไม่เห็นเหรอว่าตอนนี้ฉันกำลังหงุดหงิด”

    “ทำไมถึงไม่ให้สิ่งที่มีประโยชน์หน่อยล่ะ?"

    แต่เธอก็รู้ดีอยู่แล้วว่า...

    สิ่งนี้มันเป็นการสุ่มโดยแท้จริงและโอกาสที่จะได้ของดีนั้นแทบไม่มีเลย บางทีการเช็คอินครั้งแรกอาจมีโบนัสก็ได้

    แต่พอมาถึงตัวเองดันสุ่มได้สิ่งนี้ออกมาเธอถึงกับหมดคำพูด

    นี่มันอะไรกัน!

    ตัวเธอไม่ทันได้จะเป็นอสูรเนซึโกะกลับต้องมาเป็นแฮมสเตอร์เนซึโกะเนี่ยนะ?

    นี่คือชะตาที่มิอาจเลี่ยงที่บังคับให้ฉันต้องตัวเล็กสินะ?

    ไม่ได้การล่ะ!

    เนซึโกะรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังกลั่นแกล้งเธอ

    『โดมะ อุมารุ』: “แต่เรื่องนี้ทำให้ฉันนึกถึง@『จอมเวทแห่งเทย์วัต』นายมีความสามารถแบบฉันหรือเปล่า?”

    『มหาจอมเวทแห่งเทย์วัต』(หัวหน้ากลุ่ม: ยูกิมูระ คาสึโตะ): “มีสิ แค่ฉันยังไม่ได้ใช้มันออกมาก็เท่านั้น”

    『โดมะ อุมารุ』: “.....”

    เป็นไปได้ยังไงเนี่ย!

    นี่ก็ถือว่าเป็นความสามารถด้วยเหรอ?

    “งั้นฉันลองดูดีกว่า บางทีฉันอาจจะได้อะไรดี ๆ มา”

    【ติ๊ง! สมาชิกกลุ่ม『เทนโด คิซาระ』เช็คอินสำเร็จและได้รับคริสตัล 66 ก้อน、พร้อมความสามารถ — [เผาถ่าน]!】

    พอเห็นข้อความนี้คิซาระแทบจะเป็นลม

    โมโหจนจะสลบเพราะได้รับความสามารถสุดพิลึกนี้!

    “อ๊ากกก! นี่มันความสามารถของใครกันเนี่ย?”

    เนซึโกะทำหน้าตาหวาดกลัวแต่ก็เลือกที่จะเงียบไว้

    เพราะในกลุ่มนี้มีแค่เธอคนเดียวที่น่าจะมีเทคนิคการเผาถ่าน

    “ไม่ไหวฉันขำจนจะตายอยู่แล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

    “งั้นฉันลองดูบ้างสิ อยากรู้เหมือนกันว่าจะได้อะไร"

    【ติ๊ง! สมาชิกกลุ่ม『ฟุบุกิ』เช็คอินสำเร็จและได้รับคริสตัล 35 ก้อน、พร้อมอาร์ติแฟกต์ — [วิชั่นธาตุลม – รุ่นพิเศษ]!】

    ฟุบุกิมองดูของในมือที่ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า มันคืออาร์ติแฟกต์โลหะทรงกลมที่มีอัญมณีสีเขียวประดับอยู่ตรงกลาง

    ทันทีที่เห็นเธอก็จำได้ทันทีว่า...

    มันคือ <<วิชั่นธาตุลม>>

    ฟุบุกิหันไปมองคาสึโตะที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ซึ่งพยักหน้าให้เธอ

    “ถือว่าเธอโชคดีนะเนี่ย, นี่เป็นวิชั่นที่เกี่ยวข้องกับฉันเอง”

    ฟุบุกิยังคงสงสัย

    “แล้วที่ว่ารุ่นพิเศษนี่หมายความว่าอะไร?”

    “หมายความว่าเป็นรุ่นที่ฉันสร้างขึ้นมาเองไงล่ะ, เป็นวิชั่นที่ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด”

    “ไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้นปลอดภัยและเป็นของเธอโดยสมบูรณ์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้พลังธาตุได้อย่างมั่นใจ”

    “ฉันถอดรหัสเทคโนโลยีของวิชั่นจนสำเร็จและไม่เพียงแต่เปลี่ยนวิชั่นของตัวเองเท่านั้น แต่ฉันยังสร้างวิชั่นใหม่ให้กับคนรอบตัวได้ด้วย”

    (ไรท์ : ประมาณนี้)

    ถ้าสังเกตดี ๆ ที่คอของคาสึโตะมีจี้ประดับที่ดูเหมือนหนังสือกรีมัวร์เล่มเล็ก ๆ อยู่มันเรืองแสงด้วยพลังธาตุหินนั่นคือ <<วิชั่นธาตุหิน>> มันเป็นวิชั่นที่ปลอดภัยโดยไม่มีเงื่อนไขซ่อนเร้นใด ๆ

    “อะไรนะ...ถอดรหัส?”

    ทุกคนในที่นั้นถึงกับอึ้ง เผยสีหน้าตกตะลึง

    “นี่นายเก่งจนถึงขั้นถอดรหัสวิชั่นได้เลยเหรอ?”

    “ไม่น่าเชื่อ! คาสึโตะนายสุดยอดมาก!”

    “สมกับที่เป็นพวกเราในโลกคู่ขนาน”

    “แต่ระวังอย่าให้กฎแห่งสวรรค์รู้เชียวละ, นี่นายกำลังท้าทายอย่างเปิดเผยเลยนะ”

    คาสึโตะยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้า

    *หงึก*

    “อืม ไม่ต้องห่วงกฎแห่งสวรรค์เงียบหายไปนานแล้วคงไม่สังเกตเห็นการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆของฉันหรอก”

    ที่จริง...สิ่งที่เขาทำนั้นไม่ต่างจากสิ่งที่จงหลีและเวนติทำเท่าไหร่นัก

    เพียงแต่สร้างการปกปิดไว้เท่านั้นเอง

    “เอาล่ะ ไหน ๆ ก็เจอกันครั้งแรก ฉันจะมอบของขวัญให้ทุกคนละกัน”

    คาสึโตะโบกมือเบา ๆ ทันใดนั้นวิชั่นสามชิ้นที่เปล่งประกายระยิบระยับก็ปรากฏขึ้นบนโต๊ะตรงหน้า

    แต่แล้วเขาก็พลันนึกขึ้นได้

    “เออใช่เกือบลืมไปพวกเธออยากได้วิชั่นธาตุไหนล่ะ? ฉันเปลี่ยนให้ได้นะ”

    อุมารุเป็นคนแรกที่พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น

    “ฉันอยากได้วิชั่นธาตุน้ำ! เพราะมันเป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวย!”

    ถัดมาเป็นเนซึโกะ

    “อืม...ถ้าพิจารณาจากตัวฉันเองคงต้องเลือกวิชั่นธาตุไฟ”

    ส่วนคิซาระลังเลเล็กน้อยด้วยการที่ตัวเองถนัดดาบคงเหมาะกับวิชั่นธาตุสายฟ้าที่สุดแล้ว

    แต่บังเอิญเธอเหลือบไปเห็นวิชั่นธาตุหินของคาสึโตะเข้าและไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เธอพูดออกไปอย่างไม่ทันคิด

    “งั้นฉันขอธาตุหินแล้วละกัน”

    ในที่สุดทุกคนก็ได้รับวิชั่นของตัวเองและมีความสุขมาก

    ไม่นึกเลยว่าการพบปะกันครั้งแรกของกลุ่มแชทจะได้รับของดีแบบนี้เป็นของขวัญ

    เมื่อกลับไปยังโลกของตัวเองคงสามารถนำไปใช้ให้เกิดผลได้

    แบบนี้ชีวิตก็จะก้าวหน้าไปอีกขั้น!

    ดีกว่าคนธรรมดาทั่วไปแน่นอน

    ส่วนฟุบุกิ แม้ว่าเธอจะรู้สึกดีใจที่ได้วิชั่นจากการสุ่ม แต่กลับรู้สึกประหลาดใจที่คาสึโตะสามารถสร้างวิชั่นแจกได้เหมือนเป็นสินค้าขายส่ง

    ทุกคนได้รับวิชั่นกันหมด

    ยกเว้นเธอ เพราะเธอได้มันจากการสุ่มไปแล้ว

    ฟุบุกิอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย

    หรือว่าเป็นเพราะคำพูดและการกระทำของเธอที่ทำให้คาสึโตะไม่พอใจ?

    เขาเลยไม่สนใจเธองั้นเหรอ?

    ฟุบุกิเริ่มวิตก

    แต่ในขณะเดียวกันคาสึโตะกลับมองมาที่เธอด้วยท่าทางใจเย็น

    “ในกรณีของฟุบุกิเนื่องจากเธอมีอยู่วิชั่นแล้วก็ไม่จำเป็นต้องได้อันใหม่ไปหรอก เพราะมันมีแต่จะทำให้ควบคุมได้ยากขึ้นเปล่า ๆ บางครั้งการพัฒนาในสิ่งที่มีอยู่จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า”

    “หรือถ้าเธออยากได้อีกอันจริง ๆฉันก็ยินดีที่จะให้มันเธอนะ”

    “แต่ถ้าไม่เอา งั้นฉันจะเป็นอาจารย์ช่วยสอนถึงวิธีการใช้พลังธาตุลมให้ได้นะ รับรองว่าความสามารถของเธอจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด”

    ฟุบุกิรู้สึกซาบซึ้งในใจ

    ไม่เสียทีที่เป็นคาสึโตะจากอีกโลกหนึ่ง

    ไม่เสียทีที่เป็นตัวเธอเอง

    ดีจริง ๆ

    ขอบคุณนะตัวฉันอีกคน

    ที่ให้อภัยฉันและยังเข้าใจในความเอาแต่ใจของฉัน

    เธอจึงกัดริมฝีปากเบา ๆ และพยักหน้า

    “งั้นให้นายช่วยมาเป็นอาจารย์สอนฉันดีกว่า, ถ้ามีโอกาสฉันอยากเชิญนายมาโลกของฉันนะ”

    “ฉันจะทำหน้าที่เจ้าบ้านให้ดีที่สุด”

    “อืม”

    ฟุบุกิที่เคยดูเป็นหญิงสาวผู้สูงศักดิ์และสง่างาม กลับมีน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้น

    การสนทนานี้ทำให้ทุกคนมีสายตาแปลก ๆ

    โอ้โห นี่ถึงกับเริ่มเชิญให้ข้ามโลกกันเลยเหรอ?

    ฟุบุกิเธอทำตัวแปลก ๆ นะ

    หวังว่าการสอนนั้นจะเป็นไปในแบบที่ทุกคนคิดไว้นะ

    แต่คนอื่น ๆ ก็ไม่ได้คิดมากนักเพราะท้ายที่สุดทุกคนก็คือคาสึโตะ

    ไม่น่าจะเกิดเรื่องยุ่งยากอะไร

    กลับกัน โดมะ อุมารุที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กลับหันไปมองเนซึโกะด้วยความสงสัย

    “เอ่อ...เนซึโกะถ้าเธอก็เป็นคาสึโตะเหมือนกัน แล้วเรื่องของมุซันเธอได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปไหม?”

    “หรือว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น?”

    คำถามนี้ดึงความสนใจของทุกคนในกลุ่มทันที

    เพราะในฐานะที่ทุกคนเป็นคาสึโตะพวกเขาต่างก็มีตัวตนใหม่และชีวิตใหม่

    โลกที่พวกเขาอยู่จึงแตกต่างกันไป

    ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่แต่ละคนต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมและปัญหาของตัวเอง

    แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่า…

    นอกจากโลกในแนวชีวิตประจำวันอย่างของอุมารุ

    โลกของคนอื่น ๆ ก็มักจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง

    อย่างเช่นเนซึโกะ

    ในคืนหนึ่งเธอและครอบครัวจะถูกราชาอสูรอย่าง『คิบุทสึจิ มุซัน』

    ที่ผ่านมาทางบ้านโดยบังเอิญเข้าสังหารครอบครัวทั้งหมด

    ส่วนเนซึโกะก็จะถูกเปลี่ยนเป็นปีศาจ

    เป็นชะตากรรมที่โหดร้าย

    แต่ตอนนี้ เนซึโกะกลับยืนขึ้นด้วยท่าทีมั่นใจ

    เอามือเท้าเอวอย่างภาคภูมิใจ

    “นี่อย่าดูถูกฉันนะ ฉันคือคาสึโตะ + เนซึโกะเชียวนะ! ในฐานะนักเดินทางฉันรู้เนื้อเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว!”

    “เพราะงั้นฉันเลยใช้ความรู้จากชาติที่แล้วทำให้ครอบครัวร่ำรวยขึ้น แล้วก็ย้ายบ้านเข้าไปอยู่ในเมืองใหญ่ตั้งนานแล้ว!”

    “ไม่มีทางที่เจ้าไมเคิลแจ็คสันน่าโง่นั้นจะเจอเราได้!”

    เมื่อพูดจบเธอก็กอดอกอย่างมั่นใจ

    หึ หึหึหึ…นี่แหละทางหนีของท่านเนซึโกะผู้นี้เจ้าอสูรฉลาดน้อยอย่างแกคงคิดไม่ถึงละสิมุซัน!

    ถ้าสู้ไม่ได้ฉันก็แค่ถอยหนี!

    แม้ว่าจะยังไม่ถึงเวลา แต่ครอบครัวของเธอก็หลบหนีไปก่อนหน้าแล้วออกเดินทางทันที

    ในอนาคตให้ทันจิโร่กับตัวเธอไปหาอดีต <เสาหลักวารี> ของหน่วยพิฆาตอสูร และปัจจุบันคือครูฝึกของหน่วยพิฆาตอสูร —『อุโรโกะดากิ ซาคอนจิ』

    เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาก็จะสามารถเข้าร่วมหน่วยพิฆาตอสูรได้อย่างราบรื่น

    ปราณวารี + ปราณตะวัน

    เปิดฉากได้อย่างสมบูรณ์แบบ!

    วู้ฮู้! บินสูงกันเลยทีเดียว!

    ครอบครัวก็ไม่ต้องเผชิญชะตากรรมอันโหดร้าย

    เนซึโกะเองก็คงไม่คาดคิดว่าเธอจะได้เข้าร่วมกลุ่มแชทก่อนและยังได้พบกับตัวเธอเองในหลายโลกอีกด้วย

    นี่มันไม่ดีเยี่ยมไปกว่านี้แล้วเรอะ?

    แกไม่รอดแน่ราชาเพลงป๊อป!

    ฉันจะอัดแกให้แหลกจนร้องฮี๊ฮี่ไม่ได้เลยคอยดู!

    ด้วยการมีกลุ่มแชทการพัฒนาของตัวเธอก็เร็วขึ้นอย่างมาก

    คิดว่าคงอีกไม่นานก็คงสามารถจัดการกับเหล่าอสูรได้

    เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะสามารถมีความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์

    เมื่อฟังคำอธิบายของเนซึโกะทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย

    นี่แหละคือข้อดีของนักเดินทางเพราะรู้เนื้อเรื่องอยู่แล้วจึงสามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมอันเลวร้ายได้และสร้างความหวังใหม่ให้เกิดขึ้น

    ไม่ต้องเจอเหตุการณ์ที่ครอบครัวตายกันหมดตั้งแต่ต้น

    คาสึโตะเองก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา

    “พูดถึงเจ้าราชาเพลงป๊อปนั่น...ดอกฮิกันบานะสีเขียวที่เขาตามหามาตลอดจากข้อมูลในมังงะดูเหมือนจะอยู่แถวบริเวณบ้านของเนซึโกะใช่ไหม?”

    อุมารุเองก็มีแววตาเป็นประกาย

    “ใช่ ๆ ๆ ฉันก็เคยอ่านในตอนที่ 205 ของมังงะบอกว่าดอกฮิกันบานะสีน้ำเงินเป็นดอกไม้ที่บานเพียงช่วงกลางวันและแค่สองสามวันต่อปีเท่านั้น!”

    คิซาระเสริมคำอธิบายอีกประโยค

    “นอกจากนี้ ดอกไม้นี้จะบานอยู่แค่สองถึงสามวันก่อนที่จะร่วงโรยไปในเวลาปกติมันก็ดูเหมือนวัชพืชธรรมดา ๆ”

    “ฉะนั้น เจ้ามุซันไม่มีทางหาดอกไม้ชนิดนี้เจอหรอก”

    ฟุบุกิทำหน้าตกใจปนแปลกประหลาดทำท่าคิดหนัก

    “แต่ในความทรงจำของทันจิโร่ดูเหมือนจะมีดอกไม้นี้ปรากฏอยู่ใช่ไหม?”

    “จำได้ว่าคุณแม่ของพวกเธอน่าจะรู้ว่าดอกไม้นี้อยู่ที่ไหน และยังพาทันจิโร่ไปดูอีกด้วย”

    “บางทีครอบครัวของพวกเธออาจเคยกินมันเป็นผักก็ได้เลยทำให้เนซึโกะสามารถทนต่อแสงแดดได้”

    ฟุบุกิเองก็ไม่แน่ใจเพราะมังงะดาบพิฆาตอสูรนั้นอ่านมานานมากแล้ว

    เวลาผ่านไปทุกคนก็จำได้แค่ส่วนสำคัญของเรื่อง

    แต่สำหรับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยากที่จะนึกออก

    ใครจะไปรู้ว่าเนซึโกะที่ทนต่อแสงแดดได้นั้นเกิดจากสาเหตุนี้จริงหรือเปล่า?

    แต่ลองคิดดูแล้วก็ตลกดี

    ดอกฮิกันบานะสีเขียวที่มุซันใฝ่ฝันหามาตลอดสุดท้ายกลายเป็นว่าครอบครัวของทันจิโร่กินไปเหมือนกับกินผักป่าฮ่าฮ่า!

    นี่มันโคตรตลกเลย!

    เนซึโกะก็พยักหน้า

    “เหมือนจะเป็นอย่างนั้นนะ สถานที่ที่ดอกไม้นี้บานอยู่ก็ตรงกับที่โยริอิจิฝังศพภรรยาอูตะนั่นแหละ”

    “แต่ดอกฮิกันบานะมันเป็นสีน้ำเงินไม่ใช่เหรอ?”

    ทันทีที่เธอพูดจบฟุบุกิ, อุมารุและคิซาระมองเธอเหมือนเธอเป็นคนโง่จนเนซึโกะตกใจ

    “นี่! ทำไมต้องมองฉันด้วยสายตาเหมือนมองคนโง่ด้วยล่ะ?!”

    คิซาระจึงอธิบาย

    “ดอกฮิกันบานะสีเขียวกับสีน้ำเงินมันเหมือนกันนั่นแหละ!”

    “ในภาษาญี่ปุ่นคำว่า 'อาโอะ' สามารถหมายถึงทั้งสีน้ำเงินและสีเขียว”

    “แต่ปกติคำว่า 'อาโอะ' มักจะหมายถึงสีน้ำเงินมากกว่า”

    ประเทศญี่ปุ่นเองก็แยกแยะระหว่างสีน้ำเงินกับสีเขียวไม่ค่อยออก เช่น

    ไฟจราจรบางครั้งก็เรียกไฟแดงกับไฟน้ำเงินแทนไฟเขียว

    เนซึโกะทำหน้าตาอึดอัดใจ

    “จะโทษฉันได้ยังไง ฉันเกิดและโตในชนบทจะให้รู้เรื่องนี้ได้ยังไง”

    คิซาระ: ...

    *แปะ* *แปะ* *แปะ*

    แม้แต่คาสึโตะเองก็ปรบมือให้เหมือนชื่นชม

    “เก่งมาก ๆ ขอบคุณที่อธิบายฉันได้รู้อะไรใหม่อีกแล้ว”

    คนอื่น ๆ ต่างพากันอึ้ง

    “เดี๋ยวนะ ทำไมนายก็ไม่รู้เรื่องนี้ด้วย?”

    เมื่อเจอคำถามนี้คาสึโตะก็ทำหน้าเหมือนว่ามันสมเหตุสมผลมาก

    “ขอโทษทีนะ ฉันเป็นคนเทย์วัต!”

    หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำตอบนี้ก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่ละคนถึงทำหน้าผากระตุกเหมือนโมโหขึ้นมา

    อยากจะต่อยเขาจังทำไงดี?

    ❖ ◆ ตัดฉาก ◆ ❖

    เวลาผ่านไปสักพักหนึ่งคิซาระก็ถอนหายใจออกมาอย่างลึกซึ้ง

    “ดูจากแบบนี้แล้วเนซึโกะโลกของเธอน่าจะดีกว่าฉันเยอะเลยนะ”

    ท่าทีของเธอทำให้คนอื่น ๆ ถึงกับประหลาดใจ

    คาสึโตะเองก็อดสงสัยไม่ได้ จึงถามออกไปด้วยความอยากรู้

    “มีอะไรหรือเปล่า?”

    “ยังจำได้ใช่ไหมว่าโลกของฉันต้องเจอกับการโจมตีของปรสิตแก๊สเทีย?”

    คิซาระเงยหน้าขึ้นมามองคาสึโตะผู้ชายหน้าสวยคนนี้หน้าตาเหมือนกับเธอในชาติก่อนแทบจะทุกกระเบียดนิ้ว เพียงแค่เขาเป็นเวอร์ชันผู้ชายเท่านั้น

    ความรู้สึกหลากหลายปนเปกันเกิดขึ้นในใจของเธอ

    น่ามหัศจรรย์จริง ๆ ที่เห็นตัวเองอีกคนในแบบนี้…

    และต่อมาเธอก็เล่าเกี่ยวกับสถานการณ์ของตัวเอง

    เธอเทนโด คิซาระ มาจากโลกของ《แบล็ค บุลเลท》

    ในโลกนั้นเมื่อสิบปีก่อนทั่วทั้งโลกได้เผชิญกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแก๊สเทีย

    พวกมันมีความสามารถในการแพร่เชื้อที่ร้ายแรงยิ่งและเข้าทำลายล้างมนุษยชาติอย่างต่อเนื่อง

    มนุษย์ตอบโต้พวกมันด้วยการทำสงคราม แต่ก็ต้องพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ

    ในช่วงนั้น จำนวนประชากรมนุษย์เกือบแปดพันล้านคน แต่ด้วยความหยิ่งทะนงของมนุษย์ที่คิดว่าตนคือผู้ครอบครองโลก สุดท้ายพวกเราก็ถูกพวกแก๊สเทียกำจัดจนเหลือเพียงเจ็ดร้อยห้าสิบล้านคน

    ภายในระยะเวลาเพียงสิบปี จำนวนมนุษย์ลดลงจนเหลือไม่ถึงหนึ่งในสิบจากเดิม

    สงครามครั้งแรกเป็นหายนะ เพราะพวกแก๊สเทียมีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองอย่างรวดเร็วหากไม่ได้โจมตีที่หัวหรือหัวใจการโจมตีแทบจะไม่มีผลพวกมันยังสามารถแพร่เชื้อในมนุษย์เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นแก๊สเทียได้อีกด้วย

    ยิ่งสู้พวกมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเปรียบเหมือนหิมะกลิ้งที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

    เหตุผลเดียวที่มนุษย์ยังคงรอดอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ คือการค้นพบโลหะชนิดหนึ่งที่เรียกว่า <<วาราเนี่ยม>>

    พวกแก๊สเทียเกลียดโลหะนี้มาก หากเข้าใกล้พื้นที่ที่มีวาราเนี่ยมสะสมอยู่มาก ๆ จะทำให้พวกมันอ่อนแรงและตายไปในที่สุด

    เมื่อค้นพบสิ่งนี้ มนุษย์จึงผสมวาราเนี่ยมลงในกระสุนปืนและระเบิดทำให้สามารถสังหารแก๊สเทียได้สำเร็จ

    นี่คือเหตุผลที่กระสุนและระเบิดกลับมามีประโยชน์อีกครั้ง

    To Be Continued…

    ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันจนถึงตอนนี้นะครับ! หากชอบตอนนี้ก็อย่าลืมกดหัวใจเป็นกำลังใจพร้อมแสดงความคิดเห็นเพื่อแชร์ความรู้สึกหรือคำแนะนำของคุณนักอ่านได้เลยนะครับและอย่าลืมกดติดตามเพื่อไม่พลาดตอนใหม่ ๆ ที่กำลังจะมาเร็ว ๆ นี้(อาจจะ) ไรท์จะพยายามพัฒนาผลงานให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และพร้อมรับฟังทุกคำแนะนำเสมอครับ, ขอบคุณจากใจเลยครับ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×