คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : กลุ่มแชท 06 : ฮี๊ฮี่
(ไรท์ : มีการเปลี่ยนจากคะแนนเป็น > คริสตัล)
“เนซึโกะต่อจากนี้จะมาเล่นเกมกับฉันไหม? เราทั้งคู่จะกลายเป็นสองคู่หูแฮมสเตอร์มหาประลัย!”
เนซึโกะ: “ไปไกล ๆ! ไม่เห็นเหรอว่าตอนนี้ฉันกำลังหงุดหงิด”
“ทำไมถึงไม่ให้สิ่งที่มีประโยชน์หน่อยล่ะ?"
แต่เธอก็รู้ดีอยู่แล้วว่า...
สิ่งนี้มันเป็นการสุ่มโดยแท้จริงและโอกาสที่จะได้ของดีนั้นแทบไม่มีเลย บางทีการเช็คอินครั้งแรกอาจมีโบนัสก็ได้
แต่พอมาถึงตัวเองดันสุ่มได้สิ่งนี้ออกมาเธอถึงกับหมดคำพูด
นี่มันอะไรกัน!
ตัวเธอไม่ทันได้จะเป็นอสูรเนซึโกะกลับต้องมาเป็นแฮมสเตอร์เนซึโกะเนี่ยนะ?
นี่คือชะตาที่มิอาจเลี่ยงที่บังคับให้ฉันต้องตัวเล็กสินะ?
ไม่ได้การล่ะ!
เนซึโกะรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังกลั่นแกล้งเธอ
『โดมะ อุมารุ』: “แต่เรื่องนี้ทำให้ฉันนึกถึง@『จอมเวทแห่งเทย์วัต』นายมีความสามารถแบบฉันหรือเปล่า?”
『มหาจอมเวทแห่งเทย์วัต』(หัวหน้ากลุ่ม: ยูกิมูระ คาสึโตะ): “มีสิ แค่ฉันยังไม่ได้ใช้มันออกมาก็เท่านั้น”
『โดมะ อุมารุ』: “.....”
เป็นไปได้ยังไงเนี่ย!
นี่ก็ถือว่าเป็นความสามารถด้วยเหรอ?
“งั้นฉันลองดูดีกว่า บางทีฉันอาจจะได้อะไรดี ๆ มา”
【ติ๊ง! สมาชิกกลุ่ม『เทนโด คิซาระ』เช็คอินสำเร็จและได้รับคริสตัล 66 ก้อน、พร้อมความสามารถ — [เผาถ่าน]!】
พอเห็นข้อความนี้คิซาระแทบจะเป็นลม
โมโหจนจะสลบเพราะได้รับความสามารถสุดพิลึกนี้!
“อ๊ากกก! นี่มันความสามารถของใครกันเนี่ย?”
เนซึโกะทำหน้าตาหวาดกลัวแต่ก็เลือกที่จะเงียบไว้
เพราะในกลุ่มนี้มีแค่เธอคนเดียวที่น่าจะมีเทคนิคการเผาถ่าน
“ไม่ไหวฉันขำจนจะตายอยู่แล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
“งั้นฉันลองดูบ้างสิ อยากรู้เหมือนกันว่าจะได้อะไร"
【ติ๊ง! สมาชิกกลุ่ม『ฟุบุกิ』เช็คอินสำเร็จและได้รับคริสตัล 35 ก้อน、พร้อมอาร์ติแฟกต์ — [วิชั่นธาตุลม – รุ่นพิเศษ]!】
ฟุบุกิมองดูของในมือที่ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า มันคืออาร์ติแฟกต์โลหะทรงกลมที่มีอัญมณีสีเขียวประดับอยู่ตรงกลาง
ทันทีที่เห็นเธอก็จำได้ทันทีว่า...
มันคือ <<วิชั่นธาตุลม>>
ฟุบุกิหันไปมองคาสึโตะที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ซึ่งพยักหน้าให้เธอ
“ถือว่าเธอโชคดีนะเนี่ย, นี่เป็นวิชั่นที่เกี่ยวข้องกับฉันเอง”
ฟุบุกิยังคงสงสัย
“แล้วที่ว่ารุ่นพิเศษนี่หมายความว่าอะไร?”
“หมายความว่าเป็นรุ่นที่ฉันสร้างขึ้นมาเองไงล่ะ, เป็นวิชั่นที่ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด”
“ไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้นปลอดภัยและเป็นของเธอโดยสมบูรณ์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้พลังธาตุได้อย่างมั่นใจ”
“ฉันถอดรหัสเทคโนโลยีของวิชั่นจนสำเร็จและไม่เพียงแต่เปลี่ยนวิชั่นของตัวเองเท่านั้น แต่ฉันยังสร้างวิชั่นใหม่ให้กับคนรอบตัวได้ด้วย”
(ไรท์ : ประมาณนี้)
ถ้าสังเกตดี ๆ ที่คอของคาสึโตะมีจี้ประดับที่ดูเหมือนหนังสือกรีมัวร์เล่มเล็ก ๆ อยู่มันเรืองแสงด้วยพลังธาตุหินนั่นคือ <<วิชั่นธาตุหิน>> มันเป็นวิชั่นที่ปลอดภัยโดยไม่มีเงื่อนไขซ่อนเร้นใด ๆ
“อะไรนะ...ถอดรหัส?”
ทุกคนในที่นั้นถึงกับอึ้ง เผยสีหน้าตกตะลึง
“นี่นายเก่งจนถึงขั้นถอดรหัสวิชั่นได้เลยเหรอ?”
“ไม่น่าเชื่อ! คาสึโตะนายสุดยอดมาก!”
“สมกับที่เป็นพวกเราในโลกคู่ขนาน”
“แต่ระวังอย่าให้กฎแห่งสวรรค์รู้เชียวละ, นี่นายกำลังท้าทายอย่างเปิดเผยเลยนะ”
คาสึโตะยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้า
*หงึก*
“อืม ไม่ต้องห่วงกฎแห่งสวรรค์เงียบหายไปนานแล้วคงไม่สังเกตเห็นการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆของฉันหรอก”
ที่จริง...สิ่งที่เขาทำนั้นไม่ต่างจากสิ่งที่จงหลีและเวนติทำเท่าไหร่นัก
เพียงแต่สร้างการปกปิดไว้เท่านั้นเอง
“เอาล่ะ ไหน ๆ ก็เจอกันครั้งแรก ฉันจะมอบของขวัญให้ทุกคนละกัน”
คาสึโตะโบกมือเบา ๆ ทันใดนั้นวิชั่นสามชิ้นที่เปล่งประกายระยิบระยับก็ปรากฏขึ้นบนโต๊ะตรงหน้า
แต่แล้วเขาก็พลันนึกขึ้นได้
“เออใช่เกือบลืมไปพวกเธออยากได้วิชั่นธาตุไหนล่ะ? ฉันเปลี่ยนให้ได้นะ”
อุมารุเป็นคนแรกที่พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
“ฉันอยากได้วิชั่นธาตุน้ำ! เพราะมันเป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวย!”
ถัดมาเป็นเนซึโกะ
“อืม...ถ้าพิจารณาจากตัวฉันเองคงต้องเลือกวิชั่นธาตุไฟ”
ส่วนคิซาระลังเลเล็กน้อยด้วยการที่ตัวเองถนัดดาบคงเหมาะกับวิชั่นธาตุสายฟ้าที่สุดแล้ว
แต่บังเอิญเธอเหลือบไปเห็นวิชั่นธาตุหินของคาสึโตะเข้าและไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เธอพูดออกไปอย่างไม่ทันคิด
“งั้นฉันขอธาตุหินแล้วละกัน”
ในที่สุดทุกคนก็ได้รับวิชั่นของตัวเองและมีความสุขมาก
ไม่นึกเลยว่าการพบปะกันครั้งแรกของกลุ่มแชทจะได้รับของดีแบบนี้เป็นของขวัญ
เมื่อกลับไปยังโลกของตัวเองคงสามารถนำไปใช้ให้เกิดผลได้
แบบนี้ชีวิตก็จะก้าวหน้าไปอีกขั้น!
ดีกว่าคนธรรมดาทั่วไปแน่นอน
ส่วนฟุบุกิ แม้ว่าเธอจะรู้สึกดีใจที่ได้วิชั่นจากการสุ่ม แต่กลับรู้สึกประหลาดใจที่คาสึโตะสามารถสร้างวิชั่นแจกได้เหมือนเป็นสินค้าขายส่ง
ทุกคนได้รับวิชั่นกันหมด
ยกเว้นเธอ เพราะเธอได้มันจากการสุ่มไปแล้ว
ฟุบุกิอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย
หรือว่าเป็นเพราะคำพูดและการกระทำของเธอที่ทำให้คาสึโตะไม่พอใจ?
เขาเลยไม่สนใจเธองั้นเหรอ?
ฟุบุกิเริ่มวิตก
แต่ในขณะเดียวกันคาสึโตะกลับมองมาที่เธอด้วยท่าทางใจเย็น
“ในกรณีของฟุบุกิเนื่องจากเธอมีอยู่วิชั่นแล้วก็ไม่จำเป็นต้องได้อันใหม่ไปหรอก เพราะมันมีแต่จะทำให้ควบคุมได้ยากขึ้นเปล่า ๆ บางครั้งการพัฒนาในสิ่งที่มีอยู่จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า”
“หรือถ้าเธออยากได้อีกอันจริง ๆฉันก็ยินดีที่จะให้มันเธอนะ”
“แต่ถ้าไม่เอา งั้นฉันจะเป็นอาจารย์ช่วยสอนถึงวิธีการใช้พลังธาตุลมให้ได้นะ รับรองว่าความสามารถของเธอจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด”
ฟุบุกิรู้สึกซาบซึ้งในใจ
ไม่เสียทีที่เป็นคาสึโตะจากอีกโลกหนึ่ง
ไม่เสียทีที่เป็นตัวเธอเอง
ดีจริง ๆ
ขอบคุณนะตัวฉันอีกคน
ที่ให้อภัยฉันและยังเข้าใจในความเอาแต่ใจของฉัน
เธอจึงกัดริมฝีปากเบา ๆ และพยักหน้า
“งั้นให้นายช่วยมาเป็นอาจารย์สอนฉันดีกว่า, ถ้ามีโอกาสฉันอยากเชิญนายมาโลกของฉันนะ”
“ฉันจะทำหน้าที่เจ้าบ้านให้ดีที่สุด”
“อืม”
ฟุบุกิที่เคยดูเป็นหญิงสาวผู้สูงศักดิ์และสง่างาม กลับมีน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้น
การสนทนานี้ทำให้ทุกคนมีสายตาแปลก ๆ
โอ้โห นี่ถึงกับเริ่มเชิญให้ข้ามโลกกันเลยเหรอ?
ฟุบุกิเธอทำตัวแปลก ๆ นะ
หวังว่าการสอนนั้นจะเป็นไปในแบบที่ทุกคนคิดไว้นะ
แต่คนอื่น ๆ ก็ไม่ได้คิดมากนักเพราะท้ายที่สุดทุกคนก็คือคาสึโตะ
ไม่น่าจะเกิดเรื่องยุ่งยากอะไร
กลับกัน โดมะ อุมารุที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กลับหันไปมองเนซึโกะด้วยความสงสัย
“เอ่อ...เนซึโกะถ้าเธอก็เป็นคาสึโตะเหมือนกัน แล้วเรื่องของมุซันเธอได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปไหม?”
“หรือว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น?”
คำถามนี้ดึงความสนใจของทุกคนในกลุ่มทันที
เพราะในฐานะที่ทุกคนเป็นคาสึโตะพวกเขาต่างก็มีตัวตนใหม่และชีวิตใหม่
โลกที่พวกเขาอยู่จึงแตกต่างกันไป
ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่แต่ละคนต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมและปัญหาของตัวเอง
แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่า…
นอกจากโลกในแนวชีวิตประจำวันอย่างของอุมารุ
โลกของคนอื่น ๆ ก็มักจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง
อย่างเช่นเนซึโกะ
ในคืนหนึ่งเธอและครอบครัวจะถูกราชาอสูรอย่าง『คิบุทสึจิ มุซัน』
ที่ผ่านมาทางบ้านโดยบังเอิญเข้าสังหารครอบครัวทั้งหมด
ส่วนเนซึโกะก็จะถูกเปลี่ยนเป็นปีศาจ
เป็นชะตากรรมที่โหดร้าย
แต่ตอนนี้ เนซึโกะกลับยืนขึ้นด้วยท่าทีมั่นใจ
เอามือเท้าเอวอย่างภาคภูมิใจ
“นี่อย่าดูถูกฉันนะ ฉันคือคาสึโตะ + เนซึโกะเชียวนะ! ในฐานะนักเดินทางฉันรู้เนื้อเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว!”
“เพราะงั้นฉันเลยใช้ความรู้จากชาติที่แล้วทำให้ครอบครัวร่ำรวยขึ้น แล้วก็ย้ายบ้านเข้าไปอยู่ในเมืองใหญ่ตั้งนานแล้ว!”
“ไม่มีทางที่เจ้าไมเคิลแจ็คสันน่าโง่นั้นจะเจอเราได้!”
เมื่อพูดจบเธอก็กอดอกอย่างมั่นใจ
หึ หึหึหึ…นี่แหละทางหนีของท่านเนซึโกะผู้นี้เจ้าอสูรฉลาดน้อยอย่างแกคงคิดไม่ถึงละสิมุซัน!
ถ้าสู้ไม่ได้ฉันก็แค่ถอยหนี!
แม้ว่าจะยังไม่ถึงเวลา แต่ครอบครัวของเธอก็หลบหนีไปก่อนหน้าแล้วออกเดินทางทันที
ในอนาคตให้ทันจิโร่กับตัวเธอไปหาอดีต <เสาหลักวารี> ของหน่วยพิฆาตอสูร และปัจจุบันคือครูฝึกของหน่วยพิฆาตอสูร —『อุโรโกะดากิ ซาคอนจิ』
เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาก็จะสามารถเข้าร่วมหน่วยพิฆาตอสูรได้อย่างราบรื่น
ปราณวารี + ปราณตะวัน
เปิดฉากได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
วู้ฮู้! บินสูงกันเลยทีเดียว!
ครอบครัวก็ไม่ต้องเผชิญชะตากรรมอันโหดร้าย
เนซึโกะเองก็คงไม่คาดคิดว่าเธอจะได้เข้าร่วมกลุ่มแชทก่อนและยังได้พบกับตัวเธอเองในหลายโลกอีกด้วย
นี่มันไม่ดีเยี่ยมไปกว่านี้แล้วเรอะ?
แกไม่รอดแน่ราชาเพลงป๊อป!
ฉันจะอัดแกให้แหลกจนร้องฮี๊ฮี่ไม่ได้เลยคอยดู!
ด้วยการมีกลุ่มแชทการพัฒนาของตัวเธอก็เร็วขึ้นอย่างมาก
คิดว่าคงอีกไม่นานก็คงสามารถจัดการกับเหล่าอสูรได้
เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะสามารถมีความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์
เมื่อฟังคำอธิบายของเนซึโกะทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย
นี่แหละคือข้อดีของนักเดินทางเพราะรู้เนื้อเรื่องอยู่แล้วจึงสามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมอันเลวร้ายได้และสร้างความหวังใหม่ให้เกิดขึ้น
ไม่ต้องเจอเหตุการณ์ที่ครอบครัวตายกันหมดตั้งแต่ต้น
คาสึโตะเองก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา
“พูดถึงเจ้าราชาเพลงป๊อปนั่น...ดอกฮิกันบานะสีเขียวที่เขาตามหามาตลอดจากข้อมูลในมังงะดูเหมือนจะอยู่แถวบริเวณบ้านของเนซึโกะใช่ไหม?”
อุมารุเองก็มีแววตาเป็นประกาย
“ใช่ ๆ ๆ ฉันก็เคยอ่านในตอนที่ 205 ของมังงะบอกว่าดอกฮิกันบานะสีน้ำเงินเป็นดอกไม้ที่บานเพียงช่วงกลางวันและแค่สองสามวันต่อปีเท่านั้น!”
คิซาระเสริมคำอธิบายอีกประโยค
“นอกจากนี้ ดอกไม้นี้จะบานอยู่แค่สองถึงสามวันก่อนที่จะร่วงโรยไปในเวลาปกติมันก็ดูเหมือนวัชพืชธรรมดา ๆ”
“ฉะนั้น เจ้ามุซันไม่มีทางหาดอกไม้ชนิดนี้เจอหรอก”
ฟุบุกิทำหน้าตกใจปนแปลกประหลาดทำท่าคิดหนัก
“แต่ในความทรงจำของทันจิโร่ดูเหมือนจะมีดอกไม้นี้ปรากฏอยู่ใช่ไหม?”
“จำได้ว่าคุณแม่ของพวกเธอน่าจะรู้ว่าดอกไม้นี้อยู่ที่ไหน และยังพาทันจิโร่ไปดูอีกด้วย”
“บางทีครอบครัวของพวกเธออาจเคยกินมันเป็นผักก็ได้เลยทำให้เนซึโกะสามารถทนต่อแสงแดดได้”
ฟุบุกิเองก็ไม่แน่ใจเพราะมังงะดาบพิฆาตอสูรนั้นอ่านมานานมากแล้ว
เวลาผ่านไปทุกคนก็จำได้แค่ส่วนสำคัญของเรื่อง
แต่สำหรับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยากที่จะนึกออก
ใครจะไปรู้ว่าเนซึโกะที่ทนต่อแสงแดดได้นั้นเกิดจากสาเหตุนี้จริงหรือเปล่า?
แต่ลองคิดดูแล้วก็ตลกดี
ดอกฮิกันบานะสีเขียวที่มุซันใฝ่ฝันหามาตลอดสุดท้ายกลายเป็นว่าครอบครัวของทันจิโร่กินไปเหมือนกับกินผักป่าฮ่าฮ่า!
นี่มันโคตรตลกเลย!
เนซึโกะก็พยักหน้า
“เหมือนจะเป็นอย่างนั้นนะ สถานที่ที่ดอกไม้นี้บานอยู่ก็ตรงกับที่โยริอิจิฝังศพภรรยาอูตะนั่นแหละ”
“แต่ดอกฮิกันบานะมันเป็นสีน้ำเงินไม่ใช่เหรอ?”
ทันทีที่เธอพูดจบฟุบุกิ, อุมารุและคิซาระมองเธอเหมือนเธอเป็นคนโง่จนเนซึโกะตกใจ
“นี่! ทำไมต้องมองฉันด้วยสายตาเหมือนมองคนโง่ด้วยล่ะ?!”
คิซาระจึงอธิบาย
“ดอกฮิกันบานะสีเขียวกับสีน้ำเงินมันเหมือนกันนั่นแหละ!”
“ในภาษาญี่ปุ่นคำว่า 'อาโอะ' สามารถหมายถึงทั้งสีน้ำเงินและสีเขียว”
“แต่ปกติคำว่า 'อาโอะ' มักจะหมายถึงสีน้ำเงินมากกว่า”
ประเทศญี่ปุ่นเองก็แยกแยะระหว่างสีน้ำเงินกับสีเขียวไม่ค่อยออก เช่น
ไฟจราจรบางครั้งก็เรียกไฟแดงกับไฟน้ำเงินแทนไฟเขียว
เนซึโกะทำหน้าตาอึดอัดใจ
“จะโทษฉันได้ยังไง ฉันเกิดและโตในชนบทจะให้รู้เรื่องนี้ได้ยังไง”
คิซาระ: ...
*แปะ* *แปะ* *แปะ*
แม้แต่คาสึโตะเองก็ปรบมือให้เหมือนชื่นชม
“เก่งมาก ๆ ขอบคุณที่อธิบายฉันได้รู้อะไรใหม่อีกแล้ว”
คนอื่น ๆ ต่างพากันอึ้ง
“เดี๋ยวนะ ทำไมนายก็ไม่รู้เรื่องนี้ด้วย?”
เมื่อเจอคำถามนี้คาสึโตะก็ทำหน้าเหมือนว่ามันสมเหตุสมผลมาก
“ขอโทษทีนะ ฉันเป็นคนเทย์วัต!”
หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำตอบนี้ก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่ละคนถึงทำหน้าผากระตุกเหมือนโมโหขึ้นมา
อยากจะต่อยเขาจังทำไงดี?
◇
❖ ◆ ตัดฉาก ◆ ❖
◇
เวลาผ่านไปสักพักหนึ่งคิซาระก็ถอนหายใจออกมาอย่างลึกซึ้ง
“ดูจากแบบนี้แล้วเนซึโกะโลกของเธอน่าจะดีกว่าฉันเยอะเลยนะ”
ท่าทีของเธอทำให้คนอื่น ๆ ถึงกับประหลาดใจ
คาสึโตะเองก็อดสงสัยไม่ได้ จึงถามออกไปด้วยความอยากรู้
“มีอะไรหรือเปล่า?”
“ยังจำได้ใช่ไหมว่าโลกของฉันต้องเจอกับการโจมตีของปรสิตแก๊สเทีย?”
คิซาระเงยหน้าขึ้นมามองคาสึโตะผู้ชายหน้าสวยคนนี้หน้าตาเหมือนกับเธอในชาติก่อนแทบจะทุกกระเบียดนิ้ว เพียงแค่เขาเป็นเวอร์ชันผู้ชายเท่านั้น
ความรู้สึกหลากหลายปนเปกันเกิดขึ้นในใจของเธอ
น่ามหัศจรรย์จริง ๆ ที่เห็นตัวเองอีกคนในแบบนี้…
และต่อมาเธอก็เล่าเกี่ยวกับสถานการณ์ของตัวเอง
เธอเทนโด คิซาระ มาจากโลกของ《แบล็ค บุลเลท》
ในโลกนั้นเมื่อสิบปีก่อนทั่วทั้งโลกได้เผชิญกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแก๊สเทีย
พวกมันมีความสามารถในการแพร่เชื้อที่ร้ายแรงยิ่งและเข้าทำลายล้างมนุษยชาติอย่างต่อเนื่อง
มนุษย์ตอบโต้พวกมันด้วยการทำสงคราม แต่ก็ต้องพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ
ในช่วงนั้น จำนวนประชากรมนุษย์เกือบแปดพันล้านคน แต่ด้วยความหยิ่งทะนงของมนุษย์ที่คิดว่าตนคือผู้ครอบครองโลก สุดท้ายพวกเราก็ถูกพวกแก๊สเทียกำจัดจนเหลือเพียงเจ็ดร้อยห้าสิบล้านคน
ภายในระยะเวลาเพียงสิบปี จำนวนมนุษย์ลดลงจนเหลือไม่ถึงหนึ่งในสิบจากเดิม
สงครามครั้งแรกเป็นหายนะ เพราะพวกแก๊สเทียมีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองอย่างรวดเร็วหากไม่ได้โจมตีที่หัวหรือหัวใจการโจมตีแทบจะไม่มีผลพวกมันยังสามารถแพร่เชื้อในมนุษย์เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นแก๊สเทียได้อีกด้วย
ยิ่งสู้พวกมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเปรียบเหมือนหิมะกลิ้งที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
เหตุผลเดียวที่มนุษย์ยังคงรอดอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ คือการค้นพบโลหะชนิดหนึ่งที่เรียกว่า <<วาราเนี่ยม>>
พวกแก๊สเทียเกลียดโลหะนี้มาก หากเข้าใกล้พื้นที่ที่มีวาราเนี่ยมสะสมอยู่มาก ๆ จะทำให้พวกมันอ่อนแรงและตายไปในที่สุด
เมื่อค้นพบสิ่งนี้ มนุษย์จึงผสมวาราเนี่ยมลงในกระสุนปืนและระเบิดทำให้สามารถสังหารแก๊สเทียได้สำเร็จ
นี่คือเหตุผลที่กระสุนและระเบิดกลับมามีประโยชน์อีกครั้ง
To Be Continued…
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันจนถึงตอนนี้นะครับ! หากชอบตอนนี้ก็อย่าลืมกดหัวใจเป็นกำลังใจพร้อมแสดงความคิดเห็นเพื่อแชร์ความรู้สึกหรือคำแนะนำของคุณนักอ่านได้เลยนะครับและอย่าลืมกดติดตามเพื่อไม่พลาดตอนใหม่ ๆ ที่กำลังจะมาเร็ว ๆ นี้(อาจจะ) ไรท์จะพยายามพัฒนาผลงานให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และพร้อมรับฟังทุกคำแนะนำเสมอครับ, ขอบคุณจากใจเลยครับ!
ความคิดเห็น