ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    《Fic Group Chat Anime》: บันทึกการเดินทางของคุณมหาจอมเวทขั้นเทพผู้สาบสูญจุติใหม่ในโลกเทย์วัต

    ลำดับตอนที่ #5 : กลุ่มแชท 04 : ฉันโตมาในยุคของเครื่องเล่นเกมรุ่นเล็กอย่างเกมบอย

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ย. 67


    (ไรท์ : เนื้อหาตอนนี้ไม่มีอะไรมากมายเล่าเรื่องชีวิตประจำวันเฉย ๆ)

    “ก่อนอื่นเลย ข้อกำหนดคือเรื่องนี้ต้องเป็นความจริงนะคะ”

    ฟุบุกิที่นั่งอยู่ตรงนี้ แสดงท่าทีลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย เหมือนจะรู้สึกอายอยู่บ้าง

    ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็กลับมาทำตัวปกติอีกครั้ง

    เพราะเธอรู้ดีว่านิสัยของตัวเองอาจจะทำให้อีกตัวตนของเธอเองรู้สึกอึดอัดได้

    แต่ก็ต้องยอมรับว่าเธอมีความเกรงใจอยู่บ้าง ท้ายที่สุดแล้ว คนอื่นก็เป็นตัวเธอเองเหมือนกัน

    ฟุบุกิจึงใส่ใจเรื่องนี้มาก

    ในฐานะหัวหน้ากลุ่มคาสึโตะได้ทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ลงโดยตั้งใจ

    เขามองพวกเธออย่างขำขัน

    “ตอนนี้พวกเธอสามารถพูดคุยกันได้อย่างสบายใจแล้วใช่ไหม กลุ่มแชทนี้ไม่อนุญาตให้พวกเราโจมตีกันเองนะ ดังนั้น มั่นใจได้เลยว่าพวกเธอปลอดภัย”

    “และถ้าต้องการไปยังโลกของพวกเธอ ก็จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากพวกเธอด้วย”

    “พวกเธอลองศึกษาในนี้ดูสิ เดี๋ยวก็จะรู้เอง”

    *หงึก*

    คิซาระ, เนซึโกะและอุมารุต่างก็พยักหน้าเบา ๆ

    ทุกคนเป็นคนที่หลุดเข้ามาในโลกนี้จากยุคปัจจุบัน

    ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากเนซึโกะแล้วคนอื่น ๆ ก็ยังคงเคยมีชีวิตอยู่ในโลกที่มีอารยธรรมสมัยใหม่

    จึงเข้าใจสิ่งที่เรียกว่ากลุ่มแชทได้อย่างง่ายดาย

    “งั้นเรามาแบ่งปันเรื่องราวในอดีตของพวกเรากันหน่อยดีไหม ลองดูสิว่าตัวเราจากโลกคู่ขนานจะเหมือนกันไหม”

    อุมารุนักเรียนมัธยมปลายที่เต็มไปด้วยพลัง ยกมือขึ้นและเริ่มต้นพูด

    “งั้นฉันเริ่มก่อนเลย สมัยเด็ก ๆ ฉันโตมาในยุคของเครื่องเล่นเกมรุ่นเล็กอย่างเกมบอย”

    “สมัยนั้นที่ฉันเล่นก็มีเกม《แจ็กคัล》,《คอนทรา》,《ดับเบิ้ลดราก้อน》,《นินจาเต่า》,《ซุปเปอร์มาริโอ้》,《Battle City》 อะไรพวกนี้ค่ะ”

    เทนโด คิซาระ ที่ดูเหมือนคุณหนูผู้สง่างามก็มีประกายตาขึ้นมา

    “จริงเหรอ ตอนนั้นฉันก็เล่นเหมือนกัน มีทั้ง《เมเปิลสตอรี》,《ชาโดว์ออฟเดอะนินจา》,《SNOW BROS. classic》,《Destiny of an Emperor》,《Chip 'n Dale Rescue Rangers》ประมาณนี้เลยค่ะ”

    เนซึโกะอ้าปากค้างเล็กน้อย

    “พวกเธอพูดหมดแล้ว ฉันจะพูดอะไรดีล่ะ...”

    “อืม…ขอคิดก่อนนะ มันมีเกมเกี่ยวกับรถถังเกมหนึ่งที่ให้เราบังคับรถถังต่อสู้ แต่มันไม่ใช่《Battle City》หรือ《แจ็กคัล》”

    “ฉันจำชื่อเกมนั้นไม่ได้เลย”

    อุมารุและคิซาระชะงักไปเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ แต่ก็นึกชื่อเกมไม่ออกเพราะมันเป็นเรื่องนานมากแล้ว

    พอฟุบุกิเริ่มจะนึกออก คาสึโตะก็พูดขึ้นมาก่อน

    “เกมนั้นคือ《Metal Max》ใช่ไหม เกมแนวรถถังที่เนื้อเรื่องยอดเยี่ยมในยุคเครื่อง FC”

    “แน่นอน ฉันเองก็ชอบพวกเกมซีรีส์《ไฟนอลแฟนตาซี》,《คุนิโอะไฟท์เตอร์》,《สามตาปาฏิหาริย์》,《ร็อคแมน》เหมือนกัน”

    ฟุบุกิยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น

    “ในเมื่อวัยเด็กของพวกเรามีความคล้ายคลึงกันขนาดนี้ งั้นในซีรีส์ไฟนอลแฟนตาซีที่เล่นกันน่าจะเหมือนกันด้วยใช่ไหม”

    “เอาแบบนี้ เรามาใช้นิ้วมือแสดงตัวเลขภาคที่เราเล่นกันตอนแรกดีไหม”

    จากนั้น ทุกคนก็ยกสองนิ้วขึ้นพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

    พอหันมามองกันก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกัน

    บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานทันที

    “ไม่ผิดแน่ ๆ ไม่ว่าคาสึโตะคนไหน เราก็เริ่มจากเกมเดียวกันนั่นคือไฟนอลแฟนตาซีภาคสอง”

    “มันก็ใช่แหละ สมัยนั้นเรายังเด็ก ส่วนภาคต่อ ๆ มายังไม่ได้ออกเลย”

    อุมารุ: “ใช่ ตอนนั้นยังไม่มีบทสรุปเกมเลย เล่นยากมาก บ่อยครั้งที่ติดขัดจนไปต่อไม่ได้”

    เนซึโกะ: “ฉันว่าฉันโอเคนะ หลังจากนั้นกลับมาเล่นใหม่หลายรอบและก็สามารถจัดการบอสทุกตัวได้สำเร็จ”

    คิซาระ: “หลังจากนั้นก็มีการปล่อยภาค 3 แล้วก็ภาค 7 และ 15 ซึ่งล้วนยอดเยี่ยม ฉันยังตั้งตารอภาค 16 อยู่เลย”

    คาสึโตะ: “ใช่เลย หลังจากโตขึ้น ฉันก็เล่นเกมอย่าง《เรซิเดนต์อีวิล/ผีชีวะ 2 และ 3》,《เรนโบว์ซิกส์》,《Subnautica》,《สตาร์ดิวแวลลีย์》,《Hollow Knight》,《เดอะ วิทเชอร์ 3》,《มอนสเตอร์ฮันเตอร์》อะไรพวกนี้”

    เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ทุกคนก็ยิ่งคึกคักมากขึ้น

    อุมารุ: “อ้อ เกม《ซิวิไลเซชัน 6》ฉันซื้อมายังไม่ถึงสองวันก็ลบไปแล้ว หัวเราะกลิ้งเลย! เล่นจนสองวันเต็ม ๆ ไม่เห็นพระอาทิตย์เลยด้วย!”

    เนซึโกะ: “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

    ฟุบุกิถึงกับยกมือปิดปากหัวเราะ

    “ใช่ วันนั้นฉันยังไม่ทันได้ซื้อเลย เกม《NieR》ลดราคามาแค่ร้อยกว่าเอง《เซคิโระ》134 ส่วน《ผีชีวะ 8》อยู่ที่ 109”

    คิซาระเริ่มโต้แย้งด้วยความไม่พอใจ

    “จะมองข้าม《ไฟนอลแฟนตาซี 7 รีเมค》ของฉันไปได้ยังไง แค่ 254 เอง!”

    “ทิฟาและแอริธไม่ดีพอเหรอ”

    “ไม่ ไม่ ไม่ เยรูซาเล็มอะไรนั่นยังไงก็ขาดทิฟาไม่ได้หรอก!”

    อุมารุพยักหน้าด้วยความเห็นด้วยอย่างยิ่ง

    “เกมมือถือก็มีเยอะมาก ตอนนั้นมีทั้งผู้บัญชาการ, อาจารย์, นักปราบปีศาจ, นักเดินทาง, ทหาร, นักออกแบบ, นักเรียน, นักสืบ, ผู้ฝึกสอน, อัศวินพิทักษ์ ฯลฯ”

    “อ้อ ใช่ แล้วยังมีเกมฟาร์ม...อุ๊ย ทำไมพวกเธอมองฉันแบบนั้นล่ะ”

    “เกมฟาร์มมันทำไมเหรอ!”

    อุมารุในแบบไร้เดียงสา กอดหัวด้วยท่าทางน่ารักทำตัวอ้อนให้เห็นใจ เวลาที่เธอไม่พอใจก็มักจะไปด่าคนในเกมสุ่ม ๆ ซึ่งก็ทำให้เธอมีความสุขได้ง่าย ๆ

    ทุกคนมองเธอด้วยความอึ้งพร้อมกัน

    เธอนี่แหละตัวแสบตัวจริง!

    ช่วยทำตัวให้เป็นสุภาพสตรีหน่อยได้ไหม?

    “เกม《เอลเดนริง》ทำไมไม่ยอมลดราคาเลย น่าผิดหวังสุด ๆ น่าเสียดายที่เกมพวกนี้ฉันเล่นไม่ได้อีกแล้ว เพราะวันลดราคานั่นแหละที่ฉันออกไปแล้วโดนรถบรรทุกชนตาย หลังจากนั้นก็มาเกิดใหม่เป็นฟุบุกิ”

    คำพูดของฟุบุกิทำให้ทุกคนอึ้งไปชั่วขณะ

    เนซึโกะ: “อืม ฉันเองก็ถูกชนตอนนั้นเหมือนกัน”

    อุมารุ: “ฉันด้วย!”

    คาสึโตะ: “ใช่...พูดตามตรงมันเจ็บมากเลยนะ”

    (ไรท์ : พระเอกมันแค่ขี้เกียดบอกว่าตัวเองตายต่างจากคนอื่น เพราะเล่าแล้วยาวเลยไม่พูดเพราะเรื่องมันฮาร์ดคอร์กว่า《วอร์แฮมเมอร์ 40k》มีแต่เลือดกับความตายการทรยศเล่าไปเดี๋ยวจะทำลายบรรยากาศที่กำลังดีไปเปล่า ๆเลย เลือกที่จะไม่เล่าแทนถึงเล่าไปมันก็มีแต่เศร้าเปล่า ๆลองนึกภาพว่าตัวเองมีเพื่อนไม่ก็คนรักที่เพิ่งจะคุยกันไปหมาด ๆแต่ต่อมากลายเป็นอาหารว่างของสัตว์ประหลาดไปซะแล้วสิในโลกก่อนที่พระเอกจะมาเกิดใหม่ไม่เคยมีสิ่งที่เรียกว่าความปลอดภัยเลยมันคือเป็นโลกฮาร์ดคอร์ที่ต้องเอาชีวิตรอดด้วยตัวเองในโลกที่ความตายดีกว่าการมีชีวิตอยู่คิดว่ามันน่าเล่ามากมั้ย? แถมการจะฆ่าสัตว์ประหลาดบางตัวยังต้องขึ้นไปฆ่ามันที่มิติที่มันอยู่อีก ยกตัวอย่าง เช่น มันอยู่ที่มิติที่ 21 เราฆ่ามันที่มิติที่ 4 มันจะไม่ตาย เพราะมันเปรียบเสมือนเราฆ่าแค่ร่างแยกของมันเฉย ๆยกเว้นขึ้นไปฆ่ามันที่มิติที่ 21 ในโลกนี้ มิติต่าง ๆ เป็นเหมือนชั้นของความเป็นจริง ยิ่งมิติสูงขึ้น สัตว์ประหลาดก็ยิ่งทรงพลังและยากจะเข้าถึง ซึ่งระดับพลังจะถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงไม่ง่ายเหมือนกับมิติที่ 4 แน่นอน, ถ้าใครที่นึกภาพตามไม่ออกว่ามันจะต่างยังไง งั้นถ้าใครเคยดูหรือรู้จักอนิเมะ《สาวน้อยเวทมนตร์มาโดกะ》จะรู้ว่าจากพลังต่อสู้ที่ตอนแรกอยู่แค่ระดับทำลายเมือง(ให้นึกว่าตอนนี้กำลังอยู่ในมิติที่ 4)ถูกยกขึ้นสูงในระดับจักรวาลตอนช่วงร่างเทพมาโดกะมาปรากฏตัวครั้งแรก(ตอนนี้จะอยู่ที่มิติที่ 21 ล่ะ)ระดับพลังจะต่างกันแบบนั้นเลย ซึ่งอันนี้ไม่รวมพวกเทพนะพวกนั้นอยู่สูงกว่านี้อีก และบางตัวยังต้องฆ่ามันในเส้นเวลาเดียวกันถึงฆ่ามันได้อีก ฮาร์ดไม่ฮาร์ดให้ลองคิดเอาเองกับโลกห่วยแตกแบบนั้น)

    เมื่อทุกคนพบว่าเหตุการณ์ของตัวเองเหมือนกันคิซาระถึงกับพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด

    “พระเจ้าช่วยนี่มันชะตากรรมของคาสึโตะในทุกโลกเลยเหรอที่ต้องโดนรถบรรทุกชนตายเนี่ย”

    “ไอ้รถบรรทุกบ้านี่ มันรีบไปเกิดใหม่หรือยังไง หรือกำลังรีบปิดยอดงานกันแน่”

    “มันช่างไร้สาระและเหลือเชื่อจริง ๆ!”

    แต่ถึงอย่างนั้นคิซาระก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา

    “ถึงอย่างนี้ ทุกคนก็คือคาสึโตะที่มีอดีตเหมือนกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตาม”

    “ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนั้นฉันถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ทุกคนเรียกฉันว่าทอมบอย”

    “คิดว่าคนอื่น ๆ ก็คงเหมือนกันใช่ไหมล่ะ”

    หลังจากบทสนทนาเหล่านี้ ทุกคนก็เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น

    บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความเป็นกันเอง

    การได้พบกับตัวเองจากโลกอื่นที่เข้าใจตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก

    ฟุบุกิถึงกับยื่นมือออกมาอย่างตั้งใจ

    “มาเฉลิมฉลองให้กับการพบกันของพวกเราเถอะค่ะ”

    “คาสึโตะถึงแม้ว่านายจะเป็นผู้ชาย แต่นายก็คือพวกเราและพวกเราก็ไม่ปฏิเสธนาย เอาล่ะ เอามือมาวางไว้บนมือของฉันสิ”

    คาสึโตะวางมือลงบนมือของเธอ

    จากนั้นก็เป็นคิซาระ, เนซึโกะ และอุมารุพวกเขาทั้งหมดวางมือลงบนกันและกัน

    ความรู้สึกของจิตใจที่เชื่อมโยงกันถ่ายทอดผ่านมือของแต่ละคนอย่างแน่นแฟ้น

    ในสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

    บรรยากาศดูอบอุ่นและเป็นหนึ่งเดียว

    แต่หลังจากนั้นไม่นานอุมารุถอนหายใจออกมา

    “น่าเสียดายจังเลยแฮะ ไม่มีการแบ่งปันพลังและความสามารถเลยแสดงว่านี่ไม่ใช่แนวกลุ่มนักเดินทางแน่ ๆ”

    คิซาระมองเธอด้วยหางตา

    “แนวกลุ่มนักเดินทางพร้อมกันน่ะเหรอ? ไม่ใช่ว่าดวงวิญญาณของคนคนเดียวต้องถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วนหรอกเหรอ? แต่พวกเรากลับเป็นตัวตนที่แตกต่างกันในจักรวาลที่แตกต่างกัน ควรจะพูดว่ามันเป็นแบบที่อยู่ในจักรวาลคู่ขนานตั้งแต่ต้นมากกว่า”

    “ถ้าจำไม่ผิดมันเคยมีหนังเรื่องหนึ่งที่คนไปฆ่าตัวเองในจักรวาลอื่นเพื่อเพิ่มพลังใช่ไหมล่ะ”

    “โชคดีนะที่พวกเราไม่ต้องทำแบบนั้นและเราก็ไม่สามารถทำร้ายกันเองได้ด้วย”

    เนซึโกะและฟุบุกิต่างก็ถอนหายใจเล็กน้อย เดิมทีพวกเธอคิดว่าจะสามารถแบ่งปันพลังกันได้ ซึ่งคงจะยอดเยี่ยมมาก

    แต่ในที่สุดก็พบว่ามันไม่ใช่แนวนั้นเลย!

    ถึงอย่างนั้นพวกเธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะแค่กลุ่มแชทนี้ก็มากพอที่จะทำให้พวกเธอก้าวหน้าไปไกลแล้ว

    แต่ในจังหวะนี้เองคาสึโตะกลับแสดงสีหน้าแปลก ๆ

    “ฉันลองศึกษาดูแล้วพบว่าตัวฉันในฐานะหัวหน้ากลุ่มสามารถแบ่งปันพลังจากพวกเธอได้”

    “พลังของพวกเธอทั้งหมดฉันสามารถใช้ได้”

    ทันทีที่คำพูดนี้จบลงก็ทำให้สาว ๆ ทุกคนอุทานออกมาด้วยความตกใจ

    “อะ...อะไรนะ?”

    To Be Continued…

    ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันจนถึงตอนนี้นะครับ! หากชอบตอนนี้ก็อย่าลืมกดหัวใจเป็นกำลังใจพร้อมแสดงความคิดเห็นเพื่อแชร์ความรู้สึกหรือคำแนะนำของคุณนักอ่านได้เลยนะครับและอย่าลืมกดติดตามเพื่อไม่พลาดตอนใหม่ ๆ ที่กำลังจะมาเร็ว ๆ นี้(อาจจะ) ไรท์จะพยายามพัฒนาผลงานให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และพร้อมรับฟังทุกคำแนะนำเสมอครับ, ขอบคุณจากใจเลยครับ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×