คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : กลุ่มแชท 01 : จอมเวทย์ที่บังเอิญผ่านทางมา
ถึงจะรู้อยู่นานแล้วว่าเจ้าหนุ่มคนนี้มีพรสวรรค์ที่โดดเด่นกว่าคนอื่น แต่พอได้มาลองอ่านประวัติดูจริง ๆ แล้วถึงได้พบว่ามันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ!
ประวัติชีวิตของเขาทั้งซับซ้อนและยอดเยี่ยมจนไม่น่าเชื่อ
แค่เปิดเอกสารดูผ่าน ๆ ก็มีเนื้อหามากมายถึงขนาดนี้แล้ว
สุดยอดจริง ๆ!
เขาเป็นอัจฉริยะในด้านศิลปะป้องกันตัวอย่างแท้จริงที่นำพา <สำนักหลิงชาน> ที่เคยไม่เป็นที่รู้จักให้กลายเป็นหนึ่งในสำนักศิลปะป้องกันตัวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
แม้แต่ศิลปะป้องกันตัวปลอม ๆ ที่สำนักนี้เคยมีก็ถูกเขาสร้างให้กลายเป็นศิลปะป้องกันตัวที่แท้จริงขึ้นมาได้
ไม่เพียงแค่นั้น
เขายังเดินทางไปศึกษาต่อที่ <สถาบันสุเมรุ> และสร้างสรรค์ผลงานที่ยิ่งใหญ่มากมาย
จนกลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุชั้นนำของเทย์วัต
ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วหลี่เยว่!
ใครจะไปคิดล่ะว่า ณ เวลานั้น คาสึโตะยังเป็นเพียงชายหนุ่มอายุ 19 ปี แต่กลับประสบความสำเร็จในสิ่งที่คนจำนวนมากอาจไม่มีวันบรรลุได้ตลอดชีวิต
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เค่อฉิงจะอยากดึงตัวเขามาร่วมงานด้วย
ลุงเทียนได้แต่ยิ้มแห้ง
ถ้าเป็นตอนที่เขายังหนุ่ม ๆ เขาก็คงจะทำเหมือนกัน
เขาคือผู้มีพรสวรรค์ที่หายากตัวได้ยากในเทย์วัต!
และเหตุที่คาสึโตะสามารถก้าวเพียงก้าวเดียวไปได้ไกลขนาดนั้นเมื่อครู่นี้
แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านศิลปะป้องกันตัวของเขาที่ได้มาถึงจุดสูงสุดที่คนทั่วไปไม่สามารถที่จะบรรลุได้เลยมีเพียงผู้ที่มีพรสวรรค์มาตั้งแต่กำเนิดเท่านั้นที่ทำได้แบบเขา
และในรายงานยังระบุอีกว่าคาสึโตะยังมีพรสวรรค์ในเรื่องศาสตร์เวทมนตร์ด้วย
เมื่อครู่ตอนที่เขาเก็บเตียงไม้ไผ่ไปลุงเทียนนึกว่าเป็นอุปกรณ์จากการเล่นแร่แปรธาตุหรืออาจจะเป็นเวทมนตร์กันนะ?
นอกจากนี้ในรายงานยังเขียนไว้ว่าคาสึโตะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับใครบางคนในเมือง <มอนด์สตัดท์> รวมทั้งใน <หลี่เยว่> และยังมีเครือข่ายความสัมพันธ์ใน <สุเมรุ> อีกด้วยคนคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ เขามีเพื่อนฝูงมากมาย
น่าทึ่ง น่าทึ่งจริง ๆ
มันน่าทึ่งจนทำให้ลุงเทียนเองรู้สึกละอายใจ
โอ้โห! สมัยตอนหนุ่ม ๆ ถ้าให้เอามาเปรียบเทียบกับเขาแล้วตัวเองแทบไม่มีอะไรเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะพี่กานยูสนับสนุนเขาก็คงไม่มีวันได้กลายมาเป็นเจ็ดดาราเทียนชูและมีชีวิตที่ดีขนาดนี้ทั้งยังมีครอบครัวและลูกหลานที่ทำงานใน <การค้าแปดสาขา> อีกด้วย
แต่แล้วเจ้าเด็กหนุ่มคาสึโตะคนนี้กลับยิ่งใหญ่เหนือความคาดหมายเกินไป!
เปรียบเทียบกันไม่ได้เลย
ระดับมันคนละชั้นเกินไปราวฟ้ากับเหว
คนรุ่นหลังสมัยนี้ช่างน่ากลัวจริง ๆ
ไม่น่าแปลกใจที่เขาไม่ยอมทำงานล่วงเวลากับเจ็ดดาราอวี่เหิง
ลุงเทียนรู้สึกอีกครั้งว่าเขาแก่แล้วจริง ๆ
มองดูเจ็ดดาราอวี่เหิงที่จากไปเขาส่ายหัวและหันกลับไปตกปลาต่อ
เรื่องของคนหนุ่มสาวก็ปล่อยให้พวกเขาจัดการกันเองเถอะ
◇
❖ ◆ ตัดภาพมาทางฝั่งของคาสึโตะ ◆ ❖
◇
ปัจจุบันเขาได้กลับเข้ามายัง <ท่าเรือหลี่เยว่> ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่านอย่างไม่ขาดสาย
บรรยากาศเต็มไปด้วยความครึกครื้นเสียงผู้คนคุยกันดังระงม
บางครั้งยังมีเสียงของพ่อค้าแม่ค้าเร่ขายของแทรกเข้ามา
“ขายปลาสด ๆ จ้า ขายปลา! ตัวละ 300 โมรา สามตัว 1,000 โมรา!”
“ซื้อแล้วคุ้มแน่นอน!”
ยังมีเด็กสาวที่เพิ่งตื่นยังไม่หายงัวเงียยังคงขายหยกไปด้วยพร้อมน้ำตาคลอเบ้า
เธอบ่นพึมพำอยู่ตรงนั้น
“วันนี้วันเสาร์แล้ว ทำไมฉันยังต้องทำงานอยู่ล่ะเนี่ย...”
“สงสัยเพราะฉันทำงานหนักไม่พอสินะ ถึงได้ไม่มีโมราจนต้องทำงานแบบนี้ ฉันต้องขยันทำงานให้หนักกว่านี้อีก”
ยังมีเจ้าของร้านค้ากำลังให้ลูกจ้างตะโกนคำขวัญเพื่อกระตุ้นกำลังใจ
“ตำแหน่งงานของพวกเธอมีอนาคตที่สดใสรออยู่ ตั้งใจขยันทำงานให้ดี อนาคตเป็นของพวกเธอ!”
“มีเพียงความพยายามเท่านั้นที่จะสร้างคุณค่าในตัวเองได้!”
“ต้องรู้จักขอบคุณฉันที่ให้โอกาสพวกเธอทำงานนะ เข้าใจไหม?”
“ดึงลูกค้ามาให้ฉันเยอะ ๆ เข้าใจไหม! เอาลูกค้าของร้านตรงข้ามมาให้หมด!”
“ทำให้พวกนั้นเจ๊งไปเลย! ฮ่าฮ่าฮ่า”
ยังมีเสียงอื่น ๆ ดังมาจากรอบข้างเป็นเสียงตะโกนเรียกลูกค้าอย่างจริงจังเช่นกัน
คาสึโตะได้แต่ส่ายหัว
จงมุ่งมั่นแข่งขันกันต่อไปเถอะ
เพราะเขาน่ะอยู่ในช่วงมีความสุขกับชีวิตที่เรียบง่ายแล้ว
เพราะสุดท้ายแล้วการแข่งขันมันมีอยู่ทุกที่เหมือนกันหมด
ไม่ว่าจะอยู่ที่โลกไหนก็ตาม
ส่วนตัวเขาเองล่ะ?
ถ้าอยากรู้เรื่องราวให้กระจ่างเขาก็พร้อมที่จะแถลงไข เพื่อปกป้องไม่ให้โลกต้องตกไปอยู่ในน้ำมือของเหล่าทวยเทพผู้ชั่วร้าย เพื่อนำพาความสงบสุขบนพืนโลก <<นักเดินทาง>> ผู้หล่อเหลาและมีเสน่ห์ที่เคยช่วยกอบกู้โลกมาแล้วในชาติก่อน อดีตมหาจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ - ยูกิมูระ คาสึโตะ!
แล้วนี่ก็เป็นการเดินทางครั้งที่สองด้วย!
เล่าย้อนไปในโลกที่เทคโนโลยีและเวทมนตร์ผสานรวมจนแทบแยกไม่ออกสัตว์ประหลาดและสิ่งมีชีวิตในตำนานกลายเป็นเงามืดที่คอยคุกคามมวลมนุษยชาติในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดท่ามกลางความสิ้นหวังของผู้คนบุคคลหนึ่งที่มีพลังเปรียบเสมือนพระเจ้าได้ปรากฏตัวขึ้น เขาอ้างตนว่าเป็นจอมเวทที่บังเอิญผ่านทางมาเท่านั้น และนี่คือเรื่องราวของเขาในโลกใบแรกก่อนที่โชคชะตาจะนำเขากลับมาเกิดใหม่ในเทย์วัต
คุณเคยมีประสบการณ์การเดินทางไปต่างโลกที่ห่วยแตกเหมือนเขาหรือเปล่า? ที่กำลังนั่งเล่นเกมอยู่ในห้องดี ๆ ก็ถูกส่งวาปไปโผล่กลางฝูงสัตว์ประหลาดนับแสนตัว
แถมระบบโง่ ๆ ที่ใช้เวลาโหลดนานจนน่าหงุดหงิดเหมือนกำลังใช้เน็ต 2G โหลดเกมส์ที่มีขนาดข้อมูล 100GB!
สงสัยชาตินี้คงโหลดไม่เสร็จแน่นอน! ช้าขนาดนี้ไม่ทราบว่าคุณใช้เน็ตยี่ห้ออะไร?
แต่ในขณะที่กำลังติดอยู่ในสถานการณ์ความเป็นความตายระบบก็ได้ส่งมอบชุดของขวัญสำหรับมือใหม่ให้เขามันจึงเปิดโอกาสทองให้เขาเลือกสองอาชีพจากเกม《DNF》โดยจะได้สกิลครบทุกสายของอาชีพนั้น ๆ
ด้วยความชื่นชอบส่วนตัวเขาตัดสินใจเลือกอาชีพ <<พรีส>> และ <<เมจ>> เพื่อความสมดุลระหว่างพลังโจมตีและสามารถช่วยเพิ่มบัพสนับสนุนตัวเองได้
ทว่า ความสุขที่ได้มาก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะฝูงสัตว์ประหลาดที่เหมือนคลื่นทะเลก็กระโจนเข้าใส่ทันที
ระหว่างที่ต่อสู้เอาชีวิตรอดเขาค้นพบว่าโลกนี้ไม่ใช่แค่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด แต่ยังมีเทพเจ้าจากโลกอื่นที่หวังจะยึดครองโลกไปเป็นของสะสม ด้วยพลังที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปอย่างมหาศาลเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลุกขึ้นต่อต้านเหล่าเทพด้วยตัวเอง ยกอาวุธในมือขึ้นเพื่อต่อสู้ปลดปล่อยมนุษย์จากชะตากรรมที่ต้องกลายเป็นตัวหมากของเหล่าเทพเจ้าเหล่านั้น!
(ไรท์ : คิดซะว่ามันเป็นโลกธีมเวทมนต์ที่ฮาร์ดคอร์กว่า《วอร์แฮมเมอร์ 40K》ละกัน)
หลังจากการต่อสู้ที่ยาวนานหลายพันปีและแสนทรหดในที่สุดเขาก็สามารถกวาดล้างเทพเจ้าส่วนใหญ่ที่คิดร้ายต่อโลกมนุษย์และขับไล่เหล่าเทพออกไปได้สำเร็จ แต่ชัยชนะครั้งนี้ต้องแลกด้วยชีวิตของเขา เขาเป็นความหวังสุดท้ายเพียงคนเดียวที่สามารถยืนหยัดต่อสู้กับกองทัพนับแสนล้านหรืออาจจะมากกว่านั้นของเหล่าทวยเทพได้
ในขณะที่คนอื่นในโลกใบนี้ไม่มีคนที่ทรงพลังพอแม้จะต่อต้านเทพเจ้าได้เลย
จนท้ายที่สุดก่อนตายเขาได้ตัดหัวเทพสูงสุดจากปกรณัมปรัมปรา เช่น ซุส、โอดิน、ราและตำนานอื่น ๆอีกมากมายก่อนที่จะได้มาเกิดใหม่เป็นชาวอินาสึมะพร้อมกับสกิลของสองอาชีพที่ยังคงอยู่ครบไม่ได้หายไปไหน ถึงมันจะน่าเสียดายที่ไม่สามารถนำของจากชาติที่แล้วติดตัวมาด้วย แต่ก็ถือว่าโชคดีที่เขายังมีโอกาสครั้งที่สองในการเกิดใหม่
ถึงแม้ช่วงแรกจะลำบากเพราะเขากลายเป็นเด็กกำพร้าในทันที แต่ก็ดีขึ้นมากในเวลาต่อมา
พูดตรง ๆ เลยว่าคาสึโตะยังคิดว่าตัวเองได้ต้นแบบจากเป่ยโต่วด้วยซ้ำ
ถ้าจำไม่ผิดเป่ยโต่วก็เป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่อายุห้าหกขวบต้องแย่งอาหารกับหมาชีวิตลำบากมากและต่อมาก็ไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่
เธอเร่ร่อนไปจนถึงหมู่บ้าน <ปลายน้ำ> แต่กลับถูกชาวบ้านรังเกียจโดนมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
คนเดียวที่ดีกับเธอคือลุงผู้ใหญ่บ้านเก่า แต่ไม่ทันถึงปีสองปีก็เสียชีวิตไป
จากนั้นชาวบ้านก็พากันตะโกนสาปแช่งว่า “ปลายน้ำช่วยชีวิต เป่ยโต่วพรากชีวิต” แล้วขับไล่สาปส่งเธอออกจากหมู่บ้าน
จากนั้นเธอก็กลับมาเป็นเด็กเร่ร่อนอีกครั้ง
เดินทางมาถึง <ท่าเรือหลี่เยว่> และกลายมาเป็นกัปตันเรือ แต่ก็ยังคงถูกรังเกียจและดูถูกจากพ่อค้าผู้สูงศักดิ์เหล่านั้น
แม้แต่สังคมในแวดวงการค้าก็ยังไม่ยอมรับเธอ
ชีวิตมันช่างโหดร้ายมีคนที่ต้องทนทุกข์อย่างไม่มีวันหมดสิ้นและก็มีบางคนที่เกิดมาก็ไม่ต้องลำบากเลย
แต่คาสึโตะอย่างน้อยก็โชคดีกว่าเธอเล็กน้อย เพราะตอนที่เขาเร่ร่อนไปที่ <ท่าเรือหลี่เยว่> เขาได้รับการยอมรับจากอาจารย์
เขาจึงได้เข้าร่วม <สำนักหลิงชาน>
สำนักนี้มีคติประจำว่า “รับ, แปร, ปล่อย” แม้อาจารย์ของเขาจะมีวิชาที่ดูเหมือนปลอม ๆ แต่ก็ทำให้ชีวิตของคาสึโตะดีขึ้นอย่างมาก
และในช่วงเวลาต่อมาเขายังได้รับ <<วิชั่นธาตุหิน>>
จากนั้นเขาก็ได้คิดค้นและเนรมิต <<อาณาเขต>> แบบย่อและขยายขอบเขตได้ตามต้องการชื่อของมันคือ <<ขอบเขตแห่งความว่างเปล่าไร้อัตตา>> ที่เป็นวิชาของตัวเองและกลายเป็นปรมาจารย์ศิลปะป้องกันตัวแห่งยุค
ตามหลักแล้วนี่น่าจะเป็นจุดสูงสุดของชีวิตคนธรรมดา แต่คาสึโตะคิดว่านี่มันยังไม่พอ
ดังนั้นเขาจึงเดินทางไปที่สุเมรุ
เขาได้เข้าร่วมกับ <สถาบันสุเมรุ>
เหตุผลหลักคือสถาบันแห่งนี้เหมาะสมกับเขาเพราะมีการศึกษาเกี่ยวกับปฏิกิริยาธาตุ
พูดง่าย ๆ
ลองดูความถนัดและบุคคลสำคัญของแต่ละภาควิชาสิ
《◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈》
1. ภาควิชาชีววิทยา (ชีววิทยา、นิเวศวิทยาและการแพทย์) : ฏิฆนะรี
2. ภาควิชาสัญศาสตร์ (ภาษาศาสตร์และภาษาโบราณ) : อัลฮัยษัม, ฟารุซัน
3. ภาควิชาอิลลูมิเนชั่นนิสม์ (ดาราศาสตร์และการทำนาย) : ไฮพาเทีย, เลย์ลา
4. ภาควิชาทฤษฎีธาตุ (การเล่นแร่แปรธาตุ、ธาตุวิทยาและธรณีวิทยา) : ลิซ่า, ไซโน
5. ภาควิชาเทคโนโลยี (สถาปัตยกรรมและกลไกวิศวกรรม) : คาเวห์
6. ภาควิชาสมุฏฐานวิทยา (ประวัติศาสตร์และสังคมศาสตร์) : ไม่ระบุ
《◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈◈》
จากทั้งหกภาควิชาคุณจะเลือกอะไร?
คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
ดังนั้นคาสึโตะจึงเลือก <ภาควิชาทฤษฎีธาตุ> โชคไม่ดีที่ตอนเขาไปถึงลิซ่าเพิ่งเรียนจบการศึกษาไปได้ไม่นานและกลับไปแล้ว
แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหามากนัก
เพราะต่อมาเขาเดินทางไป <มอนด์สตัดท์> หลายครั้งและสร้างความสนิทสนมกับรุ่นพี่ลิซ่าได้ในที่สุด
ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนถือว่าไม่ธรรมดา
สำหรับหลี่เยว่เขาก็มีเพื่อนมากมาย เช่น ลุงเทียนที่เขาพบกันโดยบังเอิญ
ในฐานะนักตกปลามืออาชีพจากชาติที่แล้วคาสึโตะเพียงแค่ตกปลาโชว์ครั้งเดียวก็ทำให้ลุงเทียนทึ่งไปเลย
ตั้งแต่นั้นทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนสนิทที่ต่างวัยกัน
สำหรับเค่อฉิงนั้นเขาเคยช่วยเธอในอดีต
แต่ปัญหาคือเธอมักจะชวนเขาทำงานล่วงเวลาซึ่งเขาปฏิเสธตลอด
‘ถ้าเธอชวนฉันออกเดท ฉันจะรีบตกลงทันที’
‘แต่ถ้าให้ทำงานล่วงเวลา? ไม่มีทาง!’
‘เพราะฉันทำงานล่วงเวลามามากพอแล้ว ช่วยกอบกู้โลกจากชาติที่แล้ว ชาติที่สองนี้ก็ขอสนุกกับชีวิตที่เรียบง่ายหน่อยเถอะ’
ดังนั้นตอนนี้คาสึโตะจึงคิดว่าบางทีเขาควรจะไป <มอนด์สตัดท์> อีกครั้ง
ไปหารุ่นพี่ลิซ่า
ส่วนห้องปฏิบัติการเล่นแร่แปรธาตุที่หลี่เยว่ของเขา เขายังไม่มีแผนจะขยายตอนนี้ คงต้องพักไว้ก่อนเพราะรุ่นพี่สำคัญกว่า
นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความจริงใจใช่ไหม?
ณ ตอนนี้ สิ่งที่เขาตามหาและศึกษานั้นได้เกินกว่าที่คนส่วนใหญ่จะเข้าใจไปแล้ว
เฉพาะกับลิซ่าทั้งสองคนจึงสามารถร่วมกันวิจัยและพัฒนาต่อไปได้
ชีวิตหลังเกษียณของมหาจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่…ชีวิตที่เรียบง่ายและเงียบสงบ ซึ่งเขาเฝ้าฝันถึงมาเนิ่นนานกำลังจะกลายเป็นจริงความสุขที่เขาไขว่คว้ากำลังอยู่แค่เอื้อมไม่มีอะไรในโลกนี้จะมาหยุดเขาได้!
แต่ในขณะนั้นเองก็เหมือนกับโชคชะตาได้เล่นตลกกับเขาที่จู่ ๆ ก็มีเสียง *ติ๊ง* ดังขึ้นในหัวของเขา…
To Be Continued…
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันจนถึงตอนนี้นะครับ! หากชอบตอนนี้ก็อย่าลืมกดหัวใจเป็นกำลังใจพร้อมแสดงความคิดเห็นเพื่อแชร์ความรู้สึกหรือคำแนะนำของคุณนักอ่านได้เลยนะครับและอย่าลืมกดติดตามเพื่อไม่พลาดตอนใหม่ ๆ ที่กำลังจะมาเร็ว ๆ นี้(อาจจะ) ไรท์จะพยายามพัฒนาผลงานให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และพร้อมรับฟังทุกคำแนะนำเสมอครับ, ขอบคุณจากใจเลยครับ!
ความคิดเห็น