คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : All Every Thing Is You : Chapter 14 [Dinner]
ฟู่ฟู่ ซ่าซ่า ฟู่ฟู่
ไม่มีการผ่อนคลายร่างกายได้ดีไปกว่าการอาบน้ำฝักบัวอุ่นๆอย่างสบายใจแล้วแหละ หลังจากที่ทั้งเดินทั้งนั่งรถกันมาทั้งวันได้มาอาบน้ำแบบนี้ก็เหมือนเป็นการได้ชาทแบตร่างกายไปด้วย แต่ถ้าจะให้เต็มที่เนี่ยนะก็คือการที่อาหารตกถึงท้องเนี่ยแหละจะทำให้เรายิ่งนอนหลับสบายพูนพันเท่าเลยจ้า
"อ้า...อุ่นสบายจริงๆเลย" คุณปิดน้ำแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวมาคลุมตัวไว้ก่อนจจะออกมาจากห้องน้ำ
"เป็นไง โรงแรมนี้ดีมั๊ยจ้ะ" ป้าเซลล่าถามคุณขณะที่กำลังบรรจงทาเครื่องประทินผิวลงบนเรือนร่าง
"สบายสุดๆเลยค่ะป้า โอ้ยยยยย ตอนนั่นรถเนี่ยเมื้อยสุดๆเลยค่ะ" คุณหันไปตอบ แต่จู่ๆภาพที่คุณกับไนออลที่กำลังโน้มตัวเข้ามาจูบกันก็เด้งดึ๋งขึ้นมาทันใด "อ..เอ่อ..."
"เป็นอะไรหรอจ้ะ" ป้าเซลล่าเอียงคอด้วยความสงสัย
"ห๊ะ? คะ? ป่าวค่ะ แค่..แค่นึกถึงตอนที่ทุกคนนั่งเบียดกันอยู่ในรถน่ะค่ะ อ..อึดอัดจะแย่" คุณฉีกยิ้ม
"ว้า...แย่จังป้าก็อยากจะมีรถใหญ่ๆให้พวกเด็กๆนั่งกันอยู่หรอกนะ"
"ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่เพราะรถหรอกนะคะ หนูว่าเป็นเพราะอิไนล์มันชวนเพราะชวนฝูงมันมาเยอะเกินต่างหากค่ะ" คุณขขมวดคิ้วเมื่อพูดถึงไนออล
"แหม..อย่าไปว่าไนล์เขาเลย เค้าแค่อยากให้[ชค]เที่ยวสนุกๆแค่นั้นเอง" ป้าเซลล่าลุกจากโต๊ะเครื่องแป้งมาโอบไหล่คุณ "ตกลงพร้อมที่จะเล่าให้ป้าฟังรึยังจ้ะ วันที่หลานกลับมาจากร้านเค้กกับเจมส์น่ะ"
"...เอ่อ..." คำถามของป้าเซลล่าทำคุณอึ้งไม่ใช่น้อยเมื่อถูกถามถึงวันที่คุณได้มีโอกาสเปิดใจคุยกันและ...จูบกัน อะไรกันทำไมบนรถคุณลืมไปเสียสนิทเลยนะว่าคุณเคยจูบมาแล้วนี่ แต่ตอนที่ไนออลกำลังจะจูบคุณคุณกลัยนึกว่าเป็นจูบแรกซะงั้น "ไม่มีนี่คะ เราแค่คุยกันเรื่องที่ไทยตอนนี้อ่ะค่ะ ถามเรื่องเพื่อนเจมส์เพื่อนหนูเฉยๆอ่ะค่ะว่าสบายดีมั๊ยเป็นยังไงกันบ้าง"
"..จ้ะ" เธอยิ้มให้คุณ ท่าทีของป้าเซลล่าออกจะไม่ค่อยเชื่อในคำแก้ตัวของคุณเสียเท่าไหร่ แต่ก็ตัดสินใจที่จะไม่ถามเรื่องที่คุณไม่เต็มใจที่จะบอก "เอาเป็นว่ารีบแต่งตัวนะ เดี๋ยวเราจะได้ไปกินมื้อค่ำกัน"
"ค่า..." คุณยิ้ม "ดีเหมือนกันนะคะ อยู่กับป้าที่นี่เนี่ยได้พูดภาษาไทย อยู่กับคนอื่นพูดแต่ภาษาอังกฤษอ่ะหนูอึดอัดจะแย่ยู่แล้วค่ะ"
"อะไรกัน หลานก็มีเจมส์หนิ"
"ป..ป้าคะ" คุณพองป้าไม่ค่อยพอใจที่ป้าเซลล่าแซวเรื่องคุณกับเจมส์ "หนูกับเค้า...เราเป็นเพื่อนกันค่ะ" ถึงจะไม่ค่อยเต็มใจที่จะพูดคำว่าเพื่อนก็เถอะ แต่ก็นะเราไม่สามารถเลื่อนสถานะของคุณทั้งคู่ไปได้มากกว่าคำว่าเพื่อนแล้วนี่นา...มันสายไปแล้ว
ห้องอาหารบรรยากาศผู้ดีสวยหรูหาไม่ยากในอังกฤษหรอกนะคะ แต่ว่าก็ว่าเหอะนะที่ไหนๆมันก็สวยทุกที่นั่นแหละค่ะคุณขา...ยิ่งเป็นคุณที่ไม่เคยก้าวขาออกจากบ้านไปเที่ยวไหนต่อไหนด้วยแล้ว การได้ที่มาเห็นห้องอาหารที่เลิศหรูอลังการขนาดนี้นี่ก็มหัศจรรย์ใจสุดๆแล้วล่ะค่ะ หลังจากที่ลงลิฟท์มาก็เดินต่ออีกไม่นานก็มาถึงหน้าห้องอาหารแล้วค่ะ มัน-ใหญ่-มว้ากกกกกกกกกก โอ้โหห้องอาหารเป็นห้องโถงที่เพดานยกสูงเพื่อไม่ให้แขกที่มาทานอาหารอึดอัด ถึงแม้คนจะไม่มากมายอะไรก็ตามแต่ดูจากองค์ประกอบแล้วเหตุผลที่ไม่ค่อยมีคนมาก็คงเป็นเพราะด้วยราคาที่แพงแสนจะแพงของที่นี่นั่นเอง ถึงป้าเซลล่าจะไม่ยอมปริปากบอกคุณก็เถอะแต่ด้วยวิชาความรู้ที่สั่งสมเรียนมาแล้วก็เดาออกไม่อยากล่ะนะว่าห้องในแต่ละคืนของโรงแรมนี่ราคามันไม่น่าจะต่ำว่า 20,000 บาทเลยทีเดียว ทำเอาคุณนึกว่าถ้าไม่มีญาติที่แสนใจดีขนาดนี้ชาตินี้คุณจะได้มีโอกาสมานอนโรงแรมราคาแสนเอกเพนซีบแบบนี้มั๊ยนะ ป้าใครหว่าทั้งสวยทั้งรวยทั้งใจดีน่ารักที่สุดดดด
เมื่อเดินมาถึงจะมีเค้าเตอร์ที่มีพนักงานยืนรอตรวจบัตรอยู่ เพียงแค่คุณยื่นบัตรห้องให้ก็เป็นอันเสร็จพิธีสามารถเดินเข้าไปอย่างตัวปลิวได้แล้วค่ะไม่ต้องโดนสอบปากคำให้เมื่อยปาก ข้างหน้ายิ่งอึ้งแล้วพอมาเห็นข้างในนะยิ่งอึ้งเข้าไปใหญ่ ทำเอาคุณแทบจะลืมหุบปากที่อ้าค้างอยู่เลยแหละ เพราะในนั้นตกแต่งด้วยเครื่องประดับสไตล์คลาสิกเอิ่ม...ถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพล่ะก็แนวๆหนังย้อนยุคที่เห็นๆกันในภาพยนตร์ยุคอัศวินฆ่าล้างบางเจ้ามังกรร้ายอ่ะค่ะ อลังการ หรูหรา เวอร์วัง ฟูฟ่าเป็นที่สุดค่ะ ซ้อนที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะถูกจัดตามสไตล์สากลคือมีช้อนบ้าบออะไรไม่รู้วางให้รกโต๊ะไปหมดแถมบางอันไม่จำเป็นต้องใช้ซะหน่อยก็ยังวางมาให้รกโต๊ะเล่นๆ เอ่อ...จริงๆถ้าคนกินเป็นก็ใช้ครบทุกอันอยู่หรอกนะ แต่ถ้าคนใช้ไม่เป็นแล้วจัดมาให้อย่างละลานตาจนตาจะลายแบบนี้มันเปลืองน้ำยาล้างจ้างนะว่ามั๊ย
แต่ช่างเหอะความสวยของห้องอาหารนี่ยังบรรยายไม่หมดหรอกนะคะ นอกจากความหรูหราของเครื่องเรือนที่ถูกจัดวางประจำที่อย่างเหมาะสมแล้ว มองออกไปที่ฝาผนังก็ยังมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่หลายบานที่เผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ข้างนอกที่เป็นภูเขาสีเทาที่ยอดบนปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนและแปลงดอกไม้ที่ทางโรแรมตั้งใจปลูกให้มันออกดอกงดงามมาให้ผู้ที่เข้ามาพักได้ชื่นชมความงามของเหล่าดอกไม้และผีเสื้อแสนสวยที่พากันบินเชยชมเกสรดอกไม้อย่างมีความสุข(ถึงคุณจะไม่ค่อยชอบผีเสื้อก็เถอะนะ ชมๆมันไปก่อน) นี่ถ้าไม่บอกว่าอยู่อังกฤษล่ะก็คุณคงนึกว่าป้าเซลล่าขับรถพาคุณออกมาไกลถึงสวิตเซอร์แลนด์เป็นแน่ มันสวยราวกับภาพที่ถูกวาดขึ้นโดยฝีมือมนุษย์เลยแหละ สวยจนคุณนึกว่ากำลังฝันอยู่ด้วยซ้ำ และการที่ได้มาทานมื้อค่ำที่นี่ก็คงทำให้คุณอิ่มทั้งกายและใจไปพร้อมๆกัน
"[ชคคคคคคคคคคคคคคค] แฮรี่สุดหล่อคนนี้อยู่นี่คร้าบบบ" โอ้ยๆได้ยินแค่เสียงโดยไม่ต้องเห็นตัวก็รู้แล้วว่าใคร อารมณ์คุณตอนนี้นี่อยากจะมุดพรหมปูพื้นหนีสายตาที่กำลังจดจ้องมาทั้งแฮรี่และคุณซะเหลือเกิน พอคุณหันไปมองยังตำแหน่งที่ป้าเซลล่าเคยยืนอยู่แต่ตอนนี้กลับไม่เหลือแม้แต่เหงาให้คุณเชยชมซะแล้ว
"เห้อออออ...แฮซ นายทำอะไรของนายเนี่ย" คุณกรอกตาอย่างเบื่อหน่าย
"ก็มารับเจ้าหญิงของผมไงคร้าบบบ" แฮรี่ฉีกยิ้มหล่อละลายเรียกเสียงฮือฮาจากสาวๆด้านหลังคุณอยู่ไม่น้อย
"เบาๆก็ได้นะทีหลังน่ะ" คุณชี้ไปยังคนที่มองอยู่ทั้งซ้ายและขวาให้เขาดูด้วยสายตา
เขามองไปยังคนพวกนั้นแว๊บหนึ่งแล้วหันมาถามคุณ "แล้ว...?" เขายักไหล่ "ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ จะแคร์สายตาคนอื่นเค้าทำไมอ่ะ" พูดจบเขาก็คว้ามือคุณไปที่มุมของอาหารอิตาเลียน "ดูดิๆชอบกินพาสต้ามั๊ยน่ากินน้า" เขาชี้ไปยังเส้นพาสต้าชนิดหนาราดด้วยครีมซอสขาวข้นโรยตัดด้วยสีเขียวของผัก
"ม..มันคือไรอ่ะ" คุณชี้ไปที่มัน
"Fettuccine alfredo น่ะเอาลองเอาไปชิมดูสิอร่อยนะ" เขาคีบใส่จานใบใหญ่ที่คุณกำลังถืออยู่เล็กน้อย
"เดี๋ยวสิแฮซชั้นยังไม่รู้เลยนะว่ามันคืออะไรอ่ะ" คุณหรี่ตามองอาหารที่อยู่บนจาน
"ฮ่าๆ ก็ตามที่บอกแหละมันคือเส้น fettuccine ราดด้วยซอสครีม alfredoน่ะ" สีหน้าของเขาดูมีความสุขมากตอนที่ได้อธิบายเรื่องอาหารให้คุณฟัง
"ล..ละ รสชาดมันเป็นไงอ่ะ"
"ก็...ซอสครีมไง ข้นๆ มันๆ อร่อยดีนะ" พูดจบเขาก็หันไปมองอาหารอย่างอื่นบ้าง "ไหนดูซิ...อ้ะ!นี่ๆๆ" เขาคีบชิ้นเนื้อที่ดูเหมือนจะป็นไก่ปรุงรสมาให้คุณ
"ฮ..แฮซ เดี๋ยวก่อนสิๆ มันคืออะไรอีกแล้วเนี่ย" คุณเอาซ้อมเขี่ยๆเผื่อสังเกตว่ามันคืออะไรแต่ก็ยังไม่รู้จักอยู่ดี แถมไม่คุ้นตาด้วยซ้ำ
"มันคือ Chicken parmigiana นี่แหนะลองชิมดูอร่อยที่สุดในบรรดาอาหารอิตาเลียนแล้วแหละ" เขาคีบไก่ใส่จานคุณสองสามชิ้น
คุณก็ลองลองดมสำรวจกลิ่นของมันดูเล็กน้อย ทำให้เขาขำออกมา "ฮ่าๆ ทำไรของเธอน่ะ" เขาจ้องคุณแล้วยิ้ม
"ก็..ดมดูไง ไม่รู้ว่ามันมีอะไรบ้าง" คุณยังคงสำรวจอย่างไม่ลดละ
"มันคือ...นี่" เขาชี้ที่ชิ้น "ไก่ มันเป็นไก่ที่ชุบแป้งชุบไข่เกล็ดขนมปังแล้วเอาไปทอด ราดด้วยซอสมะเขือเทศ อ้อละก็ไม่ใช่ซอมมะเขือเทศที่เอาไว้จิ้มเฟรนฟรายพวกนั้นนะ เป็นเอ่อ...เป็นซอสประมานที่เอาไว้กินกับสปาเก็ตตี้น่ะ โปะด้วยชีสแล้วเอาไปอบ พออบเสร็จก็ได้ parmigiana น่าอร่อยแบบนี้มาแล้ว ชั้นว่าเธอต้องชอบแน่ๆเลย"
"ก็...คงงั้นแหละมั๊ง" คุณสบตาเขา ตอนนี้เหมือนคุณได้เห็นเขาในอีกมุมที่คุณไม่เคยได้เห็นมาก่อน และเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าคลาสโนว่าอย่างแฮรี่ สไตล์เขาจะเป็นกุ๊กพ่อครัวหัวป่ากับเค้าเหมือนกัน "แฮซ..."
"หาอะไรหรอ?" เขาเอียงคอด้วยความสงสัย
"นายชอบทำอาหารหรอ?"
"ก็...อึ้ม คงงั้นแหละมั๊ง จริงๆชอบกินมากว่าชอบทำน่ะแต่พอเวลาว่างๆก็ชอบศึกษาวิธีทำของพวกนี้" เขามองไปยังอาหารที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ
"โหย...แบบนี้นี่มันพ่อครัวมือทองชัดๆเลยนี่นา แล้วนายทำอาหารอร่อยรึป่าวเนี่ย"
"เฮ้ยๆ อร่อยดิ ถ้าเธอได้ชิมแล้วจะหลงชั้นหัวปักหัวปำเลยแหละ" แฮรี่พูดอย่างมั่นอกมั่นใจ
"ไม่เชื่อหรอกกกกกก"
"อ้าวเอางี้นะถ้าเธอไม่เชื่อเนี่ยเดี๋ยวกลับไปชั้นจะโชว์ฝีมือการทำอาหารให้เป็นบุญตาเลยเอาป่ะๆ"
"แหมๆ เดี๋ยวจะหาว่าคนไม่จริง แบบนี้ต้องรับคำท้าซะแล้ว ฮ่าๆๆ" คุณตอบตกลง
"ถือว่าเป็นเดตก็แล้วกันนะ" แฮรี่หันมายิ้มให้คุณอย่างเจ้าเล่ห์
"ด...เดี๋ยวๆๆๆๆ เดตอะไรของนาย?" เขาทำเอาคุณงงงวยเมื่อจู่ๆเปลี่ยนจากเรื่องอาหารไปเป็นการเดตอย่างฉับพลัน
"ก็เธอลืมไปแล้วหรอยัยสมองปลาทอง คราวที่แล้วเธอเบี้ยวนัดชั้นนะ" แฮรี่เตือนความจำคุณ
"อ..อ้ออ๋อ เอ่อ..." ทำเอาคุณไปต่อไม่เป็นเลย
"ช่างมันเถอะน่า ไม่ต้องเกร็งไปหรอกถือว่าไปเดตคราวนี้ไม่ได้ไปเดตก็แล้วกันนะ ให้เธอถือว่าไปเรียนทำอาหารกับพ่อครัวมือทองว่าที่เชฟกระทะเหล็กคนนี้นี่เองก็พอแล้ว"
"เอางั้นก็ได้ๆ"
"จริงๆที่นี่มีมุมอาหารไทยด้วยนะอยู่ทางนู้นน่ะ" เขาชี้ไปยังโต๊ะที่อยู่หางออกไปไม่ใกล้ไม่ไกล "แต่เอ๊ะนั้นมัน!?" พูดจบเขาก็เดินตรงดิ่งไปที่มุมอาหารแม็กซิกันทันทีราวกับถูกอะไรดึงดูดให้เข้าหา
"เดี๋ยวสิแฮซรอชั้นด้วย" คุณรีบเดินตามหลังเขาไปติดๆ
"นี่ๆๆๆๆ เธอรู้มั๊ยว่ามันคืออะไร?" เขาคืบชูอาหารชิ้นหนึ่งที่รูปทรงคล้ายๆขนมถังแตกขึ้นมา
"เอ่อ..." คุณขมวดคิ้วดูยังไงก็ดูไม่ออกซักที กะจะตอบไปว่ามันคือขนมถังแตกโมเดิลแต่อาหารแม็กซิกันที่ไหนมันจะไปมีขนมถังแตกได้กันเล่า "ไม่รู้อ่ะ คือไรหรอ?"
"ม..ม..มันคือ ทาโก้วววววววววววววววววววว" แฮรี่เปิดตัวชื่ออาหารอย่างอลังการ
"เอ่อ...ทาโก้?"
"มันเป็นอาหารแม็กซิกันน่ะ แผ่นแป้งทำมาจากแป้งข้าวโพดและไส้ข้างในก็เอ่อ..." เขาสำรวจไส้ดูอย่างละเอียด "นี่น่าจะเป็นไส้หมูนะ มีหัวหอม ผักกาดแก้ม และ และ และ เอ่อ...มะเขือเทศ โรยด้วยชีส" เขาซูดดมกลิ่นของทาโก้เข้าไปเต็มปอด "อาหารอะไรมันช่างหอมที่สุด และน่าอร่อยที่สุดในโลกขนาดนี้กันน้า..." หน้าของเขาตอนนี้เหมือนกำลังฟินนนนน ไปแปดตลบแล้วแหละ
"มันน่าอร่อยขนาดนั้นเลยหรอ" คุณจ้องอาหารที่ตอนนี้เขาตักใส่ในจานไปแล้วมากกว่า 5 ชิ้น
"แน่นอนที่สุด ชั้นอยากให้เธอของชิมมันนะ เอ้านี่" ก่อนที่เขาจะได้ตักใส่ลงบนจานคุณ คุณก็ห้ามเขาเอาไว้เสียก่อน
"หยุดๆๆๆๆๆๆ นะแฮรี่ชั้นไม่กินหมูน่ะ" คุณปัดมือเขาออกไปจานจานคุณอย่างช้าๆ
"อ่าวหรอ..." สีหน้าเขาดูผิดหวังขึ้นมาทันที
"นายชอบกินทาโก้มากเลยหรอแฮซ" คุณพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย
"อื้ม ใช่เลยชอบมากกกถึงมากที่สุดเลยแหละ ถ้าวันไหนได้กินนะจะนอนหลับฝันดียันเที่ยงเลย" การที่ถามเขาเกี่ยวกับทาโก้ทำให้เขากลับมายิ้มอีกครั้ง
"เวอร์ไปละแฮซ ชั้นไม่ต้องกินยังหลับยันเที่ยงได้เลยนี่นา"
"เธอมันขี้เซานี่"
"นี่! ว่าใครขี้เซากันห๊ะ?"
"เธอนั้นแหละฮ่าๆๆ ใครกันน้าเมื่อเช้าก็ตื่นสายต้องให้คนอื่นเค้ามารอเธออยู่คนเดียวน่ะ" แฮรี่ทำท่านึก
"พอเลยๆๆๆๆแฮรี่กลับหลุมทาโก้ของนายไปเถอะ เชอะ!" เขาแกล้งคุณทำเอาคุณงอนจนแก้มพองตุ๊ปป่องๆ
"โอ๋ๆๆๆ คนดีของผมไม่เอาน่า เราไปที่โต๊ะกันดีกว่าโน้ะ" เขาพูดแล้วจับมือคุณเดินไปที่โต๊ะทุกคนต่างพร้อมหน้าพร้อมตากันมานั่งแล้วพูดคุยกันเต็มโต๊ะอาหาร ทำให้เกิดบรรยากาศของครอบครัวที่อบอุ่นขึนมา
"อร่อยๆจริงๆนะเนี่ย" คุณหันไปพูดกับแฮรี่ที่นั่งอยู่ทางด้ายซ้ายมือของคุณ "ยิ่งไก่ทอดอบชีทนี่นะอร่อยเหอะเลยแหละ ไก่เนื้อนุ่มๆกับชีทเยิ้มๆ อื้มมมม...ฟินสุดยอดเลยอะแฮซ"
"เห็นมั๊ยล่ะบอกแล้วชั้นเดาไม่ผิดหรอกว่าเธอต้องชอบกินอาหารสไตล์แบบนี้แน่ๆ" แฮรี่ยิ้มไปพูดไป
"แล้วนายรู้ได้ไงอ่ะว่าชั้นชอบแบบนี้?" คุณนึกสงสัยขึ้นมา
"แหม...ก็..." เขามองบนแล้วนึกอะไรบางอย่าง "คงเป็นเพราะจิตวิญญาณแห่งการเป็นเชฟล่ะมั๊ง"
"จ้าๆๆๆ" คุณพูดแล้วพลักตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้
"อ้าวแล้วจะไปไหนล่ะ" แฮรี่หันมถามคุณ
"แฮ่ๆ ไปตักอีกอ่ะดิยังไม่ได้ลองอาหารไทยเลยนี่นา...คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว" เมื่อคุณพูดจบก็กลับหลังหันแล้วรีบตรงปรี่ไปยังมุมของอาหารไทยทันที
เมื่อเดินมาถึงมุมอาหารไทยแล้วมันแถบจะทำให้คุณน้ำตาไหลพลากๆเลยก็เป็นได้ ทั้งกลิ่มหอมเครื่องปรุงเครื่องเทศฉบับไทยๆส่งกลิ่นตลบอบอวนขึ้นมายังผู้ที่เดินผ่านไปมา ไม่ว่าคนชาติไหนๆทที่เดินผ่านก็อดไม่ได้ที่จะมาลองลิ้มชิมรสอาหารเหล่านี้ ด้วยสีสันฉูดฉาดน่ารับประทานบ่งบอกถึงความแซบยั่วให้น้ำลายไหลอย่างปฎิเสธไม่ได้ ทางโรงแรมแห่งนี้ได้ทำเอาอาหาขึ้นชื่อทั้งหมดของประเทศไทยมาวางจัดจานเรียงรายเอาไว้ตรงหน้า มีทั้งอาหารขึ้นชื่ออย่างแกงมัสมั่นแกงกะทิใส่เครื่องเทศสีเหลืองเคี้ยวจนหอมกรุ่นไปทั่วบริเวณ หอมทั้งเครื่องเทศที่เชฟบรรจงปรุงแต่งเป็นอย่างดีและมันเทศสีเหลืองที่เคี้ยวจนเนื้อนิ่มน่าลิ้มลอง ไหนจะน่องไก่โตๆที่เคี้ยวจนทั้งกลิ่นและรสของเครื่องเทศและกะทิแทรกซึมเข้าเนื้อเป็นอย่างดีพร้อมที่จะให้ท่านได้รับประทานและพบกับความนุ่มลิ้นที่เมื่อนำเนื่องเข้าปากแล้วแถบจะไม่ต้องเคี้ยวเนื้อไก่นั้นจะละลายอยู่ในปากของท่านได้อยู่แล้ว โอ้ยยยยยแค่เห็นก็น้ำลายสอแล้วอ่ะ สมกับเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดอันดับหนึ่งของเสียจริงๆ มาถึงอาหารที่ฝรั่งมังค่าชาติไหนๆจะไม่รู้จักเป็นมิได้ นั่นก็คือ...ต้มยำกุ้งน้ำข้นสูตรชาววังเก่านั่นเอง ด้วยตัวน้ำซุปที่เข้มข้นด้วยนมชั้นดี ไหนจะขิง ข่า ตะใคร้ ใบมะกรูด ที่ถูกซอยหั่นใส่ลงมาก็ส่งกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมันมาผสมกันได้อย่างลงตัว ปรุงด้วยน้ำพริกเผาจนรสจัดจ้านไม่แพ้สีที่เห็นด้วยตา บีบมะนาวเพื่อเพิ่มความเปรี้ยวอย่างลงตัว และที่ขาดไม่ได้ในเมนูนี้เลยก็คือ กุ้งแม่น้ำที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำซุปข้นๆกะด้วยตาเปล่าแล้วดูท่าว่าจะใหญ่กว่ากำปั้นของผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งเสียอีก บอกเลยว่าถ้าใครไม่ลองตักไปเชยชิมซักถ้วยแล้วล่ะก็ บอกได้คำเดียวแล้วว่าชีวิตของท่านนั้นพลาดโอกาสสำคัญที่จะได้ประสบกับความสุขที่ได้จากอาหารไปแล้วครั้งใหญ่ แต่ก็นะอาหารใดๆเล่าที่ถูกคัดสรรบรรจงทำแค่ไหนมาวางอยู่ตรงหน้าจะไปสู้เมนูที่คุณโปรดปรานที่สุดในชีวิตได้ยังไงกัน และเมนูที่ว่านี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากผัดไทนั่นเอง มาถึงเมนูนี้ล่ะก็แม้ไม่มีใครมาบรรยายสรรพคุณของเจ้าเมนูนี้คุณก็จะเลือกหยิบเป็นอย่างแรกโดยที่ไม่ต้องมีคนบอกเลยล่ะ
-ไหนๆๆๆหว่า ของโปรดของเราอยู่ไหนกันหว่า...-
"อ้ะ!!! นั่นมัน..ผัดไททททททททท กรี๊ดดดดดดดดด เจอแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" มองหาอยู่ไม่นานคุณก็เจอเมนูโปรดของคุณจนได้ โดยไม่รีรอคุณรีบคว้าตะเกียบมาคีบเส้นผัดไทฉับพลัน "อ้า! หอมที่สุดอ่ะ ฮิฮิ" เมื่อคุณคีบจนพูนจานแล้วก็กำลังจะหันหลังกับเดินไปที่โต๊ะแต่ดันไปชนกับใครบางคนเข้า
ปึกกกกกกกก!
"โอ้ยยยยย!!/โอ้ยยยยยย!!" คุณและเจ้าตัวเกะกะปริศนาร้องขึ้นพร้อมกันหลงอุบัติเหตุเกิดขึ้น
"พระเจ้าช่วย! ดีนะที่ผัดไทยังอยู่ดี" คุณอุทานขึ้นอย่างโล่งใจที่ผัดไทในจานของคุณไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
"อะไรกันแทนที่คุณจะห่วงคนที่คุณเธอชนนะ" เสียงชายคนนั้นดังขึ้นด้วยอารมณ์ตัดพ้อ
"ขอโทษแล้วกันนะคะที่เดินชนคุณเข้า ว่าแต่..." คุณกล่าวขอโทษที่คุณไปชนชายคนนั้นเข้าและกำลังจะถามเพราะความสงสัยเกี่ยวกับเสียงของเขาที่ออกจะดูคุ้นๆเหมือนว่าเคยได้ยินผ่านโสตประสาทที่ไหนมาก่อน แต่ยังไม่ทันที่คุณจะได้ถามอะไรเขาเมื่อคุณเคยหน้าคุณก็พบกับคำตอบเสียแล้ว "จ..จัสติน?!!" คุณพูดชื่อเขาออกไปด้วยความประหลาดใจที่เห็นเขามาอยู่ตรงหน้าแถมยังไม่คิดว่าจะมีความเป็นได้ได้ด้วยซ้ำว่าจะมาเจอเขาที่นี่เข้า
"ใช่ชื่อผมเอง สาวน้อยคุณมาทำอะไรที่นี่เนี่ย?" เขาเลิกคิ้วขึ้น
"ค..คือชั้นมาท..ไม่สิ" คุณส่ายหัว "ชั้นต่างหากที่ควรจะเป็นฝ่ายถามนายเรื่องนั้น นายมาทำไรที่นี่เนี่ย?" ความหล่อของเขาคงจำทำให้คุณเบลอๆ
"ก็...มาเที่ยวน่ะสิถามได้" เขายักไหล่ แล้วมองมายังจานผัดไทที่อยู่ในมือของคุณราวกับว่า 'โหยอินี่จะตัดอะไรเยอะนักหนาจะเอาไปเลี้ยงช้างทั้งฝูงรึไง' "เอ่อ...นั่นของเธอหรอ?" เขาชี้มาที่จาน
คุณก้มลงมองพินิจพิเคราะว่ามันดูแปลกหรอหรือมันเยอะเกินไปทำไมเขถึงได้ถามคุณแปลกๆ "ใช่ ของชั้นเอง"
"กินเยอะเหมือนกันนะเรา ฮ่าๆๆๆๆๆ" เขาระเบิดหัวเราะใส่คุณ
"นี่! ก็คนมันชอบนี่หน่า" คุณตอบแต่เขายังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหัวเราะ คุณเลยคิดหาทางเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า "ว..ว่าแต่นายเหอะ กำลังหาอะไรอยู่ล่ะ"
"ฮ่าๆๆๆ ฮ..ฮ่า ก็...หาแหนมเนืองอ่ะ"
"ห๊ะ???? แหนมเนียง?" คำตอบของเขาทำเอาคุณตกใจอยู่ไม่น้อย แหมก็ใครจะไปคิดล่ะว่าฝรั่งตาน้ำข้าวจะมาตามหาแหนมเนืองในโรงแรมหรูๆระดับซูปเปอร์5ดาวคูณอินฟีนิตี้ในอังกฤษนี้ได้ แค่หาฝรั่งที่กินแหนมเนืองเป็นก็มีน้อยจะตายอยู่แล้ว "นายเนี่ยนะกินแหนมเนืองเป็น? เหอะ รู้จักด้วยหรอน่ะ"
"นี่ๆๆ เธออย่าดูถูกกันสิสาวน้อยชั้นเนี่ยสาวกอาหารไทยเลยนะ เดี๋ยวถ้าว่างๆจะว่าวภาษาอิสานให้ฟังเด้อ"
"โหยยยยย นี่ลูกแม่โขงบ่หนิดูๆๆ"
"แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอเนี่ยสิ เฮ้อ.." จัสตินถอนหายใจ
"แหม่ ใครจะไปนึกล่ะว่าจะมีคนกินแหนมเนืองเป็นน่ะ คนไทยอย่างชั้นยังกินไม่เป็นเลยเหอะ"
"ทำไมเธอพลาดแบบนี้ล่ะของอร่อยๆแบบนี้อ่ะนะทำไมกินไม่เป็น" จัสตินทำตาเบิกโพลงใส่คุณ
"ก็ประเทศชั้นมีแต่อาหารอร่อยๆให้เลือกได้หนิ เดินไปไหนมาไหนก็ไม่เคยอดตาย ฮ่าๆๆๆ แถมทำให้น้ำหนักขึ้นอีกนี่สิที่เป็นเรื่องน่ากลุ้มกุมขมับ" คุณพูดไปพลางลูบฟุงของคุณไปด้วย "ตั้งแต่มานี่นี่ผอมไปเยอะเลยอ่ะ เห้อ...คิดถึงอาหารที่บ้านจะแย่อยู่แล้ว"
"เธอน่าอิจฉาจังเลยนะ [ชค] มีอาหารอร่อยๆเต็มไปหมดเลยอ่ะ ชั้นอยากไปบ้างแล้วสิ" จัสตินพูดด้วยแววตามีความหวังสุดๆ ราวกับวาดฝันไว้ว่าประเทศไทยบ้านเกิดของคุณจะต้องมีร้านขายอาหารเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ทุกคนในประเทศไม่ได้ทำมาหากินอะไรอย่างอื่นกันแล้วหันมาขายอาหารกันหมด "นี่..วันหลังเธอพาชั้นไปบ้างสิ"
"อะไรของนาย อยากไปก็ไปเองดิ" คุณหันหน้าหนีก่อนที่หัวใจจะเต้นแรงไปกว่านี้ตอนที่เขามองมาด้วยสายตาวิงวอนออดอ้อนเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ
"เดี๋ยวๆๆสิ[ชค]"
"ชั้นไปแล้วเดี๋ยวผัดไทเย็นหมดต้องรีบไปกินคุยกับนายนี่เสียเวลาจริงๆเลย" คุณหันหลังโดนพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่หันไปหาเทพบุตรที่ร้องเรียกชื่อคุณอยู่ด้านหลัง
ตึกตึกตึกตึก
คุณสาวก้าวมาที่โต๊ะอาหารอย่างรวดเร็วๆ โดยไม่เหลียวมองหลังแม้แต่น้อย
"[ชค] เธอไปไหนมาน่ะ ท่าทางอย่างกับหนีอะไรมาเลยแหนะ" เลียมเงยหน้ามาถามคุณที่เดินมาอย่างลุกลี้ลุกลน
"เห้อออ...บังเอิญเจอใครที่ไม่อยากเจอน่ะ โลกมันกลมจริงๆเล้ย" คุณตอบเขาขณะหย่อนตัวลงบนเก้าอี้
"แล้วคนที่ไม่อยากเจอที่ว่านั่นใครน่ะ"
"ช่างๆเถอะ" คุณมองทุกๆคนที่กำลังกินอาหารกันอยู่อย่างอเหร็ดอร่อยเลยไม่อยากทำให้ต้องขัดจังหวะความอร่อยกัน "ช่างเถอะเลียม ชั้นไม่อยากขัดเวลาอาหารของทุกคนหน่ะ"
"อ้อ งั้นแล้วแต่เธอก็ได้" เขาตอบรับแล้วเริ่มกินอาหารต่อ
"เออว่าแต่...ทำไมเลียมกับพี่ลูกอิสดูจะทำตัวเงียบๆกันนะคะ แหมมาทริปนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา แล้วก็ไม่ค่อยสุงสิงกับใครด้วยมีอะไรก็คุยกันมุ้งมิ้งๆกันอยู่ 2 คนอ่ะ หรือว่าๆมีซัมติงอะไรกันรึป่าวน้า" คุณแซวทั้งสองคนเพราะส่วนใหญ่คนที่พูดมากที่สุดเลยก็เห็นจะเป็นแฮรี่เนี่ยล่ะ อยู่ในรถนะถ้าเขาไม่หลับกะร้องเพลงมั่งชวนเพื่อนคุยมั่ง แต่กับสองคนนี้แล้วแลดูเงี๊ยบบบบเงียบมากเลย เอาตรงๆคุณก็เกือบลืมไปแล้วเหมือนกันว่าองคนนี้มาเที่ยวด้วยกัน ซึ่งคุณก็รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยนะที่ลืมสมาชิกทริปไปได้ แต่ก็นะจะให้ทำไงได้ล่ะก็คนมันเยอะหนิ
"อะไรกันๆ[ชค]จะบอกว่าลืมว่าพี่กับเลียมมาด้วยงั้นหรอ"
"ป..ป่าวซักหน่อยนะคะพี่ลูอิส" คุณปฏิเสธพร้อมหน้าแดงและนึกสงสัยว่าทำไมลูอิสถึงรู้ได้ หรือว่าคุณแสดงออกมากเกินไปหรือ
"โหยยยยยยย งอนนะเนี่ยบอกเลย" เลียมสมทบ
"เดี๋ยวๆ บอกว่าป่าวๆ" คุณส่ายหัวปฏิเสธ "คือจะบอกว่าทำไมสองคนนี้ดูเงียบจัง ดูอย่างแฮซสิไม่มีใครฟังเขายังจะพูดเลย ฮ่าๆๆๆๆ" พอคุณพูดจบทั้งโต๊ะก็ขำกันทั้งโต๊ะยกเว้นเสียแต่แฮรี่ที่ขำไม่ออกเพราะโดนคุณแซะได้แต่เอาซ้อมจิ้มพาสต้าเข้าปากอย่างเนือยๆ
"เชอะ! งอนจริงๆนะบอกเลย" แฮรี่มองค้อนใส่คุณ
"โอ๋ๆๆๆ เค้าล้อเล่นนะแฮซอย่าคิดมากน่า ก็เห็นนายเฮฮากว่าใครเลยนี่นา" คุณหันไปยิ้มให้เขา
"จริงสิทุกคน! ป้าลืมบอกไปอย่างนึงนะจ้ะ" จู่ๆป้าเซลล่าก็พูดโพลงขึ้นมา
"อะไรหรอคะ" คุณถามไปและในใจก็เริ่มรู้สึกตะหงิดๆว่าเรื่องที่ป้าเซลล่าจะพูดขึ้นมานั่นมันจะเกี่ยวกับนายแหนมผมทองนั่นรึป่าว
"ป้าลืมบอกไปเลยว่าคืนนี้สามีของป้าจะมาพักที่โรงแรมแห่งนี้ด้วยนะจ้ะ"
"เห้อ...โล่งอกนึกว่าเรื่องอะไร" เมื่อคุณได้ยินป้าเซลล่าพูดคุณก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะไม่ได้มีเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับนายแหนมหัวทอง
"แต่..." เหมือนป้าเซลล่าจะยังพูดไม่จบ "เพื่อนสามีของป้าเค้าขอร้องให้พาลูกชายสุดรักสุดหวงของเค้ามาเล่นด้วยนะจ้ะ"
"ผู้หญิงหรือผู้ชายครับป้าครับ" แฮรี่ถาม
"ผู้ชายจ้ะ" ป้าเซลล่าหันไปตอบ
"ว้า..." แฮรี่ดูท่าทางผิดหวัง
-ไหนบอกชอบชั้นไงยะ! มาถามว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายแบบนี้หมายความว่ายังไงห๊ะ!! เอ๊ะเดี๋ยว นี่ชั้นหึงตาบ้าแฮซหรอ? ไม่นะ เหอะๆไม่มีทางๆ ม่ายยย- คุณคิดในใจและเถียงกับตัวเอง
"แล้วอายุเท่าไหร่ครับ" ลูอิสเป็นฝ่ายถามบ้าง สงสัยคงเป็นเพราะคุณหาว่าเขากับเลียมดูเงียบๆไม่ค่อยพูดจาเขาก็คงอยากจะมีส่วนร่วมในบทสนทนาบ้าง
"เอ่อ...รู้สึกว่า...น่าจะอายุประมานเธอนะลูอิส" ป้าเซลล่านึกอยู่นานก่อนจะตอบ
"โหยงั้นก็ดีเลยสิครับ ถ้าอายุเท่ากันจริงๆเราก็คงเข้ากันได้ดีเป็นเพื่อนคุยกันจะได้ไม่มีใครมาว่าผมว่าไม่ยอมพูดได้อีก" ลูอิสพูดแล้วปรายตามาทางคุณ
-ร..รู้สึกผิดไงไม่รู้แฮะ- คุณไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่คิดในใจเอาไว้ก็เท่านั้น
"เอ...ลูกเพื่อนสามีป้าชื่ออะไรน้า...เห้อ ป้าก็ลืมไปแล้วซะด้วย"
"แล้วเค้าจะมาตอนไหนล่ะครับ?" เลียมถามขึ้น เหอะๆๆๆนี่ก็คงเป็นเพราะคุณพูดอย่างนั้นอีกแล้วสินะ
"เดี๋ยวก็คงมาถึงแล้วล่ะจ้ะ ป้าบอกให้สามีป้าโทรมาหาตอนถึงห้องอาหารแล้วน่ะ"
ตี๊ดดดดดด ตี๊ดดดดดดด ตี๊ดดดดดดดด
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ที่ดังออกมาจากกระเป๋าสะพายของป้าเซลล่าก็ดังขึ้น ป้ารีบหยิบออกมากจากกระเป๋าแล้วรับสายอย่างทันใด
"ฮัลโหล ว่าไงคะคุณ" ป้าเซลล่าพูดกับปลายสาย
'คุณอยู่ที่ไหนน่ะเซลล่าผมมาถึงโรงแรมแล้วนะ เก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วด้วยนี่ผมมาพร้อมกับลูกชายของเพื่อนผม แต่เค้าน่ะหายไปไหนก็ไม่รู้น่ะ'
"อ๋อคุณมาถึงแล้วหรอคะ ชั้นอยู่ที่ห้องอาหารค่ะ มาได้เลยนะคะเด็กๆกำลังทานอาหารกันอยู่พอดีเลย มาทานพร้อมกันสิคะ"
'อ๋อได้เลยเดี๋ยวผมลงไปเดี๋ยวนี้แหละครับ'
"ค่า"
ตี๊ด!
ป้าเซลล่าคุยกับสามีของเธอเสร็จปุ๊บเธอก็หันมาพูดกับพวกเรา "นี่เด็กๆ สามีป้ามาถึงแล้วนะจ๊ะกำลังลงมาทานข้าวแล้วจ้ะ"
"อ้อ แล้วป้าครับรู้ชื่อของลูกเพื่อนสามีป้ารึยังอ่ะครับ" ไนออลเป็นฝ่ายถามขึ้นมา
"เอ่อ...ลืมถามเลยอ่ะจ้ะแต่เดี๋ยวเค้าคงมาแล้วแหละจ้ะ" ป้าเซลล่าเพิ่งนึกออกว่าลืมถามชื่อเด็กคนนั้น "ไว้เรามารู้จักพร้อมกันตอนสามีป้ามาเลยดีกว่านะจ้ะ"
"ว่าไงเซลล่า" เมื่อสิ้นสุดคำของป้าเซลล่าไม่ทันไรก็มีเสียงผู้ชายทุ่มดูมีอายุดังขึ้นมาข้างหลังเธอ แล้วเอามือโอบไหล่ของป้าเซลล่าไว้แสดงถึงความสนิทสนม "ผมมาถึงแล้วครับ" เขาพูดแล้วยิ้มให้เธอก่อนจะมองมาที่เด็กๆที่นั่งกันอยู่ "เอ้าเด็กๆมากันซะเยอะเลยนะ" เขาเป็นฝ่ายทักทายพวกคุณก่อน ก่อนที่พวกคุณจะกล่าวสวัสดีพร้อมกัน "เอ้อนี่ ลุงชื่อเพตันนะ จริงๆวันนี้ลุงพาลูกเพื่อนลุงมาด้วยแต่..." เขาพูดแล้วมองไปรอบๆห้องอาหาร "ตอนเก็บกระเป๋าก็เดินไปไหนก็ไม่รู้น่ะสิเลยหลงกัน"
"เอ่อ...แล้วลูกเพื่อนลุงลักษณะเป็นยังไงอ่ะครับเผื่อพวกผมจะช่วยตามหากัน" แฮรี่เสนอ
"ก็..." เพตันมองมาที่ลูอิส "อายุประมาณเธอได้ล่ะมั้ง"
"ครับ? ผมหรอ" ลูอิสถามเพื่อความแน่ใจ
"ใช่แล้ว แล้วก็...ผมสีทองอ่อนๆน่ะ หุ่นจัดว่าใช้ได้เลยนะ ล่ำๆหน่อย" เพตันพยายามนึก
-เอ่อ...อย่าบอกนะว่าอิจัสตินน่ะ ไม่นะม่ายยยยย จะเป็นแบบนี้ไปไม่ได้วันหยุดของช้านนนน- ขณะที่คุณกำลังสติแตกคิดฟุ้งซ่านลุ้นว่าขออย่าให้เป็นเขาเลยเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นขณะคุณก้มหน้าสวดอ้อนวอนสิ่งศักสิทธ์ทั้งหลายอยู่
"ว่าไงเพื่อน ลูอิส"ดวงตาของคุณเบิกโพรงขึ้นด้วยความประหลาดใจกับเสียงที่ได้ยินเพราะมันแสนจะคุ้นหูเสียเหลือเกิน ราวกับเพิ่งจะได้ยินมาเมื่อตะเกี๊ยย และแล้วคุณก็ได้รู้ว่าการสวดอ้อนวอนนั้นไม่มีใครเห็นค่าคำขอของคุณเลย เพราะชายคนนั้นก็คือ...
"จัสติน" ลูอิสพูดขึ้นด้วยความดีใจแล้วเดินไปทักทายเพื่อนของเขา "ว่าไงเพื่อนไม่คิดว่าจะมาเจอนายที่นี่นะ"
"ชั้นเองก็เหมือนกัน จู่ๆพ่อก็ให้ชั้นมาเที่ยวกับลุงเพตันน่ะไม่คิดว่าจะมาเจอพวกนายที่นี่กันเหมือนกัน" จัสตินพูด
"โอ้ว นายน่ะมาช้านะวันนี้พวกเราไปเที่ยวกันมาตั้งหลายที่แล้ว เสียดายที่นายไม่ได้มาด้วยกัน"
"ว้านั่นน่ะสิ"
-เหอะ ไม่เห็นจะน่าเสียดายเลย ไม่น่ามาเสียด้วยซ้ำ-
"ว่าไงสาวน้อย เจอกันอีกแล้วนะ" จัสตินหันมาทางคุณแล้วกล่าวทักทาย
"ใช่ เจออีกแล้ว น่าเบื่อ" คุณตอบเขาไปแต่หรี่เสียงประโยคสุดท้ายจนแทบไม่ได้ยิน
ก็นั่นแหละค่ะลูกของเพื่อนลุงเพตันไม่ใช่ใครที่ไหน ก็จัสติน บีเบอร์คนนี้นี่เอง ออกจะน่าเบื่อใช่มั้ยคะที่ต้องมาเจอแต่แหมสาวๆส่วนใหญ่ไม่คิดแบบนั้นกันหรอกนะคนอื่นเขาออกจะดีใจซะด้วยซ้ำ แต่ก็นั่นแหละค่ะว่าใครๆที่พูดมาเนี่ยไม่ใช่คุณอย่างแน่นอน จะแน่นอนก็แต่ตอนนี้เท่านั้นแหละค่ะต่อไปก็ไม่แน่นี่หน่าว่าความรักของคุณและเขาจะค่อยๆพัฒนาขึ้นมาเมื่อถึงเวลาที่คุณพร้อมแต่ตอนนี้เลยที่คุณยังไม่พร้อมแน่ๆก็คือคุณยังลืมเจมส์ไม่ได้ มันอาจจะลำบากหน่อยนะแต่ก็เชื่อเถอะเวลาจะทำให้เรารักษาหัวใจของเราได้เอง ไม่ต้องไปพึ่งใครค่ะรักษาด้วยตัวเองเนี่ยแหละยั่งยืนที่สุดแล้ว การหาแฟนใหม่แล้วคบไปเรื่อยๆเนี่ยไม่ได้ทำให้คุณลืมเจมส์แบบสนิทจริงๆหรอกนะ แถมไม่ได้ช่วยให้อะไรอีกขึ้นเลย ทางที่ดีรอเวลาเมื่อพร้อมแหละดีที่สุดแล้ว
_______________________________________________________
กลับมาแล้วๆๆๆๆ คิดถึงกันรึป่าววว555555
หลังจากห่างหายไปนานเลยอ่ะ คือการบ้านเยอะมากกก
สอบเยอะมากกกก ตายแปป แต่ม.5 ก็จบไปแล้วผ่านไปด้วย...ดีมั้ง5555
ตอนนี้เราก็จะขึ้นม.6แล้วแหละหวั่นๆอยู่ว่าจะสอบเป็นไงมั่งเนอะ หลายเสียงบอกโคตรๆๆๆยากเลย
สู้ๆนะใคครที่กำลังขึ้นม.6อ่ะ เราจะผ่านไปด้วยกันนะเนอะ
ขอโทษน้าที่ไม่ค่อยได้มาอัพเลย จริงๆถ้ามีเวลาว่างเนี่ยจะกลับมาแต่งอยู่แล้ว
เรื่องนี้อยากให้ตัวเองแต่งให้จบจริงๆจะพยายามประคองไปให้รอดฝั่งไปให้ได้ค่าาาา
ขอขอบคุณคนที่ยังติดตามด้วยนะ ขอบคุณมากจริงๆ เจอกันใหม่นะหวังว่าคงไม่นานมาก5555
บลัยยยยส์
cinnamon
ความคิดเห็น