คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ฉันคือ"ดาว"
ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ใจกลางเมือง
“คุณหนูคะ ไม่ทานอาหารเช้าก่อนเหรอคะ?” หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยถามคนเป็น “คุณหนู” ของเธอที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นสอง เธอค่อนข้างแปลกใจในท่าทีอันเร่งรีบของเด็กสาวที่ทำตัวเย็นชา เด็กสาวไม่ตอบ แต่เดินต่อไปด้วยความเร่งรีบ เธอก้าวขึ้นรถเก๋งคันหรูที่เปิดประตูรออยู่
“ออกรถได้” ประโยคสั้นๆที่ออกจากริมฝีปากบางสวยนั่น เพียงพอแล้วที่จะเป็นคำสั่งให้ชายวัยกลางคนที่ประจำที่นั่งคนขับรถออกรถทันที รถเก๋งคันหรูขับออกจากคฤหาสน์ มุ่งหน้าไปยังโรงเรียนที่เป็นที่เรียนแห่งใหม่ของคนที่เป็นคุณหนู ตลอดเวลาที่นั่งในรถ เธอนิ่งเงียบและสงบอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นภาพของเด็กสาวในวัยสดใส ดูราวกับว่าเธอคิดอะไรอยู่มากมาย
ไม่ช้ารถคันหรูก็แล่นมาจอดในโรงเรียนแห่งหนึ่งเด็กสาวก้าวลงจากรถหลังจากที่รถจอดสนิท นักเรียนที่อยู่ในบริเวณนั้นหยุดมองทันที เด็กสาวร่างสูงเพรียว หุ่นดีราวกับนางแบบที่หลุดมาจากนิตยสาร ผมยาวสลวยนั้นมีสีดำสนิท จมูกโด่ง ริมฝีปากบางเป็นสีชมพูสดใส ผิวขาวอมชมพู เด็กสาวรู้สึกได้ถึงการโดนจับจ้อง เธอหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็เดินต่อไป
“ใครกันน่ะ เด็กคนนั้น สวยจังเลย”
“โห นักเรียนใหม่เหรอ น่ารักจัง”
“ดูสิ สวยกว่าดาราอีก”
เสียงซุบซิบมากมายดังขึ้นรอบตัวเธอ ความหงุดหงิดของเธอเพิ่มระดับขึ้นแต่ยังคงเก็บอาการได้อย่างดีเยี่ยม เธอเดินต่อไปและหยุดตรงหน้าเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
“ขอโทษนะคะ ห้องอาจารย์ใหญ่ไปทางไหนคะ?”เสียงหวานใสเอ่ยถาม เด็กหนุ่มหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อเธอยิ้มให้
///* */// “เอ่อ...คุณเป็นนักเรียนใหม่เหรอครับ” เขาถามขณะที่หน้ายังไม่หายแดง เป็นอะไรของเขานะ เด็กสาวคิด
“ค่ะ ว่าแต่...จะบอกได้หรือเปล่าคะ” เธอถามซ้ำอีกครั้ง
“เอ่อ...เอ่อ..ค..ครับเดี๋ยวผมพาไปเอง เชิญครับ” เขาเดินนำหน้าเธอไปจนถึงห้องๆหนึ่ง หน้าห้องมีป้ายเขียนว่า ห้องอาจารย์ใหญ่ เธอหันไปขอบคุณคนที่พาเธอมาส่ง และเคาะประตูก่อนเดินเข้าไปในห้อง
“สวัสดีค่ะ ดารารัตน์ เอกอนันตกุลค่ะ หนูได้รับจดหมายเรียกให้มารายงานตัววันนี้ค่ะ” ฉันยกมือไหว้ก่อนจะพูดแนะนำตัวกับอาจารย์ใหญ่ ข้างๆอาจารย์ใหญ่มีหญิงสาวอีกหนึ่งคน ฉันหันไปยกมือไหว้เธอด้วย ง่ะ สวยจัง
“อ๋อ...ลูกสาคนเดียวของตระกูลเอกอนันตกุลสินะ นี่คืออาจารย์แพรวพรรณ เขาเป็นอาจารย์ประจำชั้นของเธอ อ้อ จากผลการสอบเทียบ เธอเรียนห้องหนึ่งนะ” อาจารย์ใหญ่พูดขึ้น “เอาล่ะ อาจารย์แพรวพานักเรียนของคุณไปได้แล้ว”
“ค่ะ ไปกันเถอะ ดารารัตน์” อาจารย์แพรวพูดขึ้นแล้วเดินนำฉันออกไป ฉันหันไปยกมือไหว้อาจารย์ใหญ่แล้วเดินตามไป ฉันเดินตามอาจารย์แพรวมาเรื่อยๆจนมาหยุดหน้าห้องๆหนึ่ง
- - - ม.5/1- - -
อาจารย์แพรวหันมามองฉันเป็นเชิงบอกให้รออยู่ก่อน แล้วอาจารย์ก็เดินเข้าห้องไป ห้องเรียนที่แสนวุ่นวายเงียบลงเล็กน้อยเมื่ออาจารย์ก้าวเข้าไป และเงียบสนิทเมื่ออาจารย์เอ่ยปากพูด
“เงียบหน่อยนักเรียบ ครูมีนักเรียนใหม่มาแนะนำ หวังวาพวกเธอทุกคนจะช่วยดูแลเพื่อนนะ อ้อ อีกอย่าง เพื่อเพิ่งย้ายมาจากต่างประเทศ มีอะไรก็ช่วยแนะนำเพื่อนด้วยละกัน เอาล่ะ เธอเข้ามาแนะนำตัวสิ”ประโยคท้าย อาจารย์หันมาพูดกับฉัน ฉันเดินเข้าไปในห้อง สายตาทุกคู่จับจ้องอยูที่ฉัน หงุดหงิดอีกแล้วแฮะ ฉันไม่ชอบเลยที่จะให้ใครมาจ้อง
“สวัสดีค่ะ ดารารัตน์ เอกอนันตกุล เรียกดาวก็ได้ค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะ” ฉันพูดแนะนำตัว
“เอาหล่ะ ดารารัตน์ เธอไปนั่งตรงนั้นละกัน โต๊ะที่ว่างอยู่สี่ตัวน่ะเลือกเอา เดี๋ยวจะมีเพื่อนมานั่งด้วย อืมม ยังไม่มาอีกเหรอ เอาเถอะ เดี๋ยวก็คงมา ไปสิไปนั่งตรงนั้นแหละ” อาจารย์พูดกับฉัน ฉันเดินไปนั่งตามที่อาจารย์บอก เพิ่งสังเกตนะเนี่ย ห้องนี้นั่งเป็นกลุ่มๆละ 4 คน เอ??? แล้วฉันจะได้นั่งกับใครนะ แล้วทำไมมาสายจัง ป่านนี้แล้วแท้ๆ อาจารย์เดินออกไปจากห้อง ฉันสอดส่ายาสยตาหาคนที่ฉันอยากเจอทันที ไม่มีนี่นา ไม่ได้อยู่ห้องนี้เหรอเนี่ย ผิดหวังแฮะ
“หวัดดีคับดาว ผมชี่อ เพ้นท์นะ ดาวย้ายมาจากไหนเหรอ” ว้าว หล่อชะมัดเลย โอ๊ย...ใจละลาย ไม่ได้สิ ต้องเชิดไว้ก่อน
“อืมมม..ก่อนไปเมืองนอกดาวเรียนที่ Inter Princess น่ะ ทำไมเหรอ” ฉันตอบและถามกลับอย่างไว้ฟอร์ม
“อ๋อ..เปล่าหรอกแต่โรงเรียนนั้นน่ะดังมากไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมย้ายมาอยู่โรงเรียนนี้ล่ะ” เพ้นท์ถามพลางทำหน้าตาสงสัย อ๊ากกกกก น่ารักมากไปแล้วนะเฟ้ย อุ๊ย หลุดมาด
“อืม แต่โรงเรียนนี้ก็ดังนี่นากว่าจะสอบเข้าได้ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ” ฉันตอบ เพ้นท์ทำท่าว่าจะถามอะไรต่อ แต่อาจารย์เดินกลับเข้าห้องมาก่อน เขาจึงต้องรีบกลับที่นั่งตัวเอง เพิ่งสังเกตนะเนี่ยว่าเพื่อน (ผู้หญิง) คนอื่นๆมองฉันด้วยสายตาหมั่นไส้ สงสัยนายเพ้นท์จะเป็นขวัญใจสาวๆในห้อง ก็น่าอยู่หรอกนะ หน้าตาขนาดนั้น
“นักเรียนคะ นี่คือเพื่อนใหม่ของเธออีกสามคนนะคะ สามคนนี้ย้ายมาจาก Inter Princess นะคะ เอาหล่ะดูแลเพื่อนด้วยนะ วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก ไม่มีเรียนแต่ต้องเลือกชมรม เอ้า ทั้งสามคนแนะนำตัวสิจ้ะ” อาจารย์แพรวพูดขึ้น ฉันหันหน้าไปมองตาเสียงแล้วต้องเกิดอาการหงุดหงิดกะทันหัน ฮึ้ย ฝีมือคุณพ่อแน่ๆเลย
“สวัสดีค่ะ ชลธิชา เลิศพรรณกุล ชื่อเล่น หวาน ค่ะ”
“สวัสดีค่ะ ภัทรนันทร์ ทวีกุล ชื่อเล่น ฟ้าค่ะ”
“สวัสดีค่ะ ณัฐนันท์ ทวีกุล ชื่อเล่น ฝนค่ะ เป็นแฝดผู้น้องของฟ้าค่ะ”
สามสาวนั่นแนะนำตัว และหันมามองฉัน ฉันส่งสายตาอาฆาตกลับไป ยัยแฝดสองคนได้แต่หลบตา ส่วนยัยหวาน ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่ฉัน ฮึ้ย เดี๋ยวเจอกันแน่ ส่วนเพื่อนๆคนอื่นๆในห้องกำลังซุบซิบกันอย่างเมามัน เรื่องที่อยู่ดีๆก็มีสาวสวยปรากฏตัวขึ้นอีกสามคน อิจฉาล่ะซี๊ ถึงแม้จะรำคาญยัยสามสาวนั้น แต่ฉันก็ภูมิใจนะที่มีเพื่อนสวย(แต่น้อยกว่าฉัน)
“เอาหล่ะ เธอไปนั่งตรงนั้นนะ ที่ว่างอยู่ 3 ที่น่ะ อ้อ แล้วก็คนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วก็เพิ่งมาใหม่เหมือนกัน รู้จักกันไว้นะ” อาจารย์แพรวพูด แล้วเดินออกไปนอกห้อง เฮ้อ อาจารย์ที่นี่เขาไม่สอนนักเรียนกันรึไงนะ แต่เอ๊ะ อาจารย์บอกว่าวันนี้เป็นวันเลือกชมรมนี่นา งั้นก็ดีเลย ขอคุยกับยัยสามสาวจอมจุ้นนี่ให้รู้เรื่องก่อนละกัน
สามคนนั่นเดินมานั่งโต๊ะที่อาจารย์ชี้ ซึ่งมันก็กลุ่มเดียวกับที่ฉันนั่งอยู่แหละ ฉันได้แต่เชิดใส่ยัยสามคนนั้น เชอะ ยัยเพื่อนทรยศ ฟังคำสั่งคุณแม่ ไม่สนใจจะบอกกันก่อนเลย
“ไม่มีทางสำเร็จหรอก” ฉันพูดขึ้น สายตาเพื่อนร่มห้องมองมาทางนี้เป็นจุดเดียว ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรไม่เข้าท่าออกไป จึงลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทันที ยังไงก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อนล่ะ สามคนนั้นเดินตามหลังฉันมา ฉันเดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆจนถึงดาดฟ้าของตึก ยัยหวานเดินเข้ามาเป็นคนสุดท้าย แล้วล็อคประตู
“ตามมาทำไม?” ฉันถามขึ้น
“อ้าว แกไม่ได้เดินให้พวกเราตามมาเหรอ” ยัยฟ้า
“นั่นสิ นึกว่ามีอะไรที่คุยในห้องเรียนไม่ได้ซะอีก” ยัยฝน
“-_-” ยัยพวกนี้คบกับฉันมาได้ไงตั้งนานนะ ไม่เข้าใจคำถามฉันเลย
“พวกเรามาตามคำสั่งคุณพ่อแก”ดูเหมือนว่ายัยหวานจะเป็นคนเดียวที่เข้าใจคำถามฉัน
“เพื่อ??” ฉันเลิกคิ้วขึ้นสูง
“ดูแลแก” ยัยฝน
“คอยห้ามแก” ยัยฟ้า
“ควบคุมแก” และยัยหวาน
“แล้วคิดว่า?” ฉันเอง
“ก็ ไม่สำเร็จหรอก” หวานพูดขึ้น “แต่ก็ต้องทำอยู่ดี แกอย่าหงุดหงิดเลยน่า พ่อแกเขาไม่รู้นี่หว่าว่าแกย้ายมาทำไม ถือซะว่าพวกฉันมาเป็นผู้ช่วยแกละกัน”
“อื้ม ที่สำคัญนะแก ฉันได้ข่าวมาว่าที่นี่อ่ะ คนหล่อเพียบ ฉันจะมาหาแฟนไว้ดูเล่นน่ะ” ยัยฟ้าพูด มันหมายถึงแฟนหรือสัตว์เลี้ยงกันแน่ฟะ หาไว้ดูเล่น หึๆๆ
“ช่าย แค่คิดหัวใจก็....อ๊ายยยยยย แก๊ ฉันอยากเจอแล้วอ่ะ เราไปตามหาเนื้อคู่กันเหอะฟ้า” ยัยฝนพูดพลางทำหน้าตาเพ้อฝัน
“-_-”หน้าฉัน
“-_-” หน้ายัยหวาน
พวกมันสองคนเป็นเพื่อนฉันจริงเหรอเนี่ย รู้สึกเหมือนตัวเองหลงผิดแฮะที่คบยัยพวกนี้มานาน
“หยุดเดี๋ยวนี้เลย พวกแกจะไปไหน” ฉันรีบห้ามยัยแฝดทันทีที่มันจะเดินลงไป “เรามาตกลงกันก่อน พวกแกห้ามยุ่งนะ ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็ตาม” ทันทีที่ฉันพูดจบ ยัยสามคนนั่นก็หันมามองฉันด้วยสายตาประมาณว่า ใช้อะไรคิดวะ ก็รู้อยู่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เอ่อ เอาใหม่ก็ได้
“อืมๆ โอเค ฉันหมายความว่า ช่วยได้อย่างเดียว ห้ามขวาง เข้าใจ๊”
“อื้ม ค่อยฟังได้หน่อย” ยัยสามคนนั้นพูดขึ้นมาพร้อมกัน จากนั้นเราก็กลับห้องค่ะ ความจริงอยู่บนดาดฟ้าก็สบายดีนะ ลมเย็นดี ฮิๆๆ ฉันเดินกลับห้องอย่างอารมณ์ดี แต่แล้ว....
พลั่ก
“ขอโทษค่ะ/ขอโทษค่ะ”เสียงนั่นดังขึ้นพร้อมกับเสียงฉัน อูย..เจ็บชะมัดเลย ฉันเงยหน้ามองคนที่เดินชนกับฉัน แล้วก็ต้องตกใจ เจอแล้ว ในที่สุดก็เจอจริงๆซะที ฮึๆ ฉันรีบปรับสีหน้าแล้วยิ้มให้ผู้หญิงตรงหน้า ด้วยรอยยิ้มที่ฉันคิดว่าดูจริงใจที่สุด เพื่อนๆทั้งสามของฉันยังไม่หายตะลึงค่ะ เฮ้อ ฉันต้องแก้สถานการณ์ก่อนสินะ
“ขอโทษจริงๆนะคะ ฉันเดินไม่ระวังเลย”
“เอ่อ..อ๋อ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเองก็เหมือนกัน ว่าแต่ พวกเธอเป็นเด็กใหม่เหรอ ฉันไม่เคยเห็นหน้าเลย” เธอพูดและยิ้มให้พวกเราอย่างเป็นมิตร พวกเราได้แต่พยักหน้า เพราะไม่มีใครพูดออกเลย
“ใช่จริงๆด้วย ห้องหนึ่งสินะ ฉันชื่อเดียร์จ้ะ อยู่ห้องสอง” เดียร์แนะนำตัว
“เอ่อ..ค่ะ ฉันชื่อดาว แล้วนี่หวาน แล้วก็ฟ้ากับฝน เป็นฝาแฝดกันค่ะ” ฉันตั้งสติแล้วรีบพูดแนะนำตัวบ้าง เฮ้อ บทจะเจอก็เจอง่ายซะจนน่าตกใจ ส่วนยัยสามสาวก็ได้แต่ยิ้ม พูดอะไรไม่ออก
“ฉันไปก่อนนะ”เดียร์พูดพร้อมกับยิ้มให้ แล้วเดินไป ทิ้งไว้แต่พวกฉันที่ยังอึ้งไม่หาย อะไรกันเนี่ย??????
ทำไมถึงร่าเริงได้ขนาดนั้นนะ ทำคนอื่นเค้าเจ็บปวดปางตาย แต่ตัวเองร่าเริงทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ทำได้ยังไงกันนะ เลือดเย็นเกินไปแล้ว
ฉันมองตามหลังผู้หญิงคนนั้นไปจนลับตา และยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งรู้สึกถึงแรงสะกิดที่แขน จึงหันกลับไป
“อย่าทำหน้าตาอย่างนั้นดิแก น่ากลัวว่ะ”ยัยฟ้าพูดขึ้นพลางทำหน้าตาสยองใส่ฉัน
“ใช่คนนี้แน่ๆเหรอดาว”ฝนถามขึ้น
“ดูเหมือนไม่น่าจะใจร้ายขนาดนั้นนะ”ยัยหวานพูด “แต่ก็นะ คนน่ะเรามองกันที่ภายนอกคงไม่รู้หรอกว่าเป็นยังไง” ยัยหวานยังคงพูดต่อพร้อมกับมองฉันอย่างสังเกตท่าที
“คิดจะทำอะไรฉันไม่ห้ามนะดาว แต่บอกกันบ้างก็ดี”ยัยหวานพูดทิ้งท้ายแล้วเดินไป
ส่วนฉันได้แต่ยืนนิ่งและเงียบ ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมา ไม่ว่าจะเป็นยังไงฉันก็รับรู้แค่ว่าฉันต้องทำให้ผู้หญิงคนนั้นสำนึกให้ได้ คนที่ทำความผิดแล้วไม่มีท่าทีสำนึกผิดน่ะ ไม่ใช่คนดีหรอก ไม่ใช่แน่นอน
“ดาว ฟ้า ฝน มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้” เสียงเพ้นท์ดังขึ้น ฉันจึงหันกลับไปมองแล้วเดินออกมาทันที ฉันยังไม่พร้อมคุยกับใครตอนนี้ เหตุการณ์นั้นมันกำลังกลับมาทำร้ายฉันอีกแล้ว ทำไมต้องเกิดขึ้น น้ำตาฉันไหลลงมาโดยที่ฉันไม่รู้ตัวเมื่อคิดถึงเหตุการณ์นั้น เหตุการณ์ที่ทำให้คนที่ฉันรักต้องเจ็บปวด...ปางตาย
“ดาว”เสียงเรียกของเพ้นท์ดังขึ้นอีก พร้อมกับดึงแขนฉันให้หันกลับไปหา ให้ตายสิ นายนี่จะเดินตามมาทำไมนะ
“ดาว ร้องไห้ทำไม”เพ้นท์คงจะตกใจมา เสียงเขาร้อนรนมาก “ดาว ใครทำอะไรดาวน่ะ บอกเพ้นท์มาสิ” เขาถามอีก ฉันได้แต่หันหน้าหนี แล้วแกะมือเขาออก
“ไม่มีอะไรหรอกเพ้นท์ ดาวขออยู่คนเดียว อย่าตามมานะ”แล้วฉันก็เดินออกมาทันที
ฉันเดินมาเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าที่ไหน ฉันไม่เคยเข้ามาในโรงเรียนนี้มาก่อน มันกว้างมาก ฉันเดินมาจนหยุดอยู่ที่โต๊ะไม่หินอ่อนในสวนหย่อม ฉันจะต้องทำยังไงถึงจะลืมเรื่องบ้าๆนั้นได้นะ ฉันต้องทำให้คนๆนั้นรู้สำนึกซะบ้าง ให้ได้รับบทเรียนซะบ้าง บางที มันอาจจะทำให้ความแค้นที่อยู่ในใจฉันเบาบางลงได้ ถ้าฉันไม่รีบเป็นบ้าเพราะต้องตกอยู่ในสภาพนี้ซะก่อนละก็นะ อย่างน้อย ใครคนนั้นก็ควรจะได้รับรู้ถึงความเดือดร้อนของคนอื่นที่มาจากการเล่นสนุกของตัวเองซะบ้าง แต่บางที...หัวใจของคนๆนั้นอาจจะเย็นชาซะจนไม่ยอมรับรู้ความทุกข์ของคนอื่นเลยก็ได้ แต่ยังไงซะเรื่องนี้ก็ต้องมีคนรับผิดชอบ ไม่ว่ายังไงก็ตาม ต่อให้แลกมาด้วยอะไรก็ตาม
ความคิดเห็น