FIC SJ คู่ลุ้น คู่รัก คู่งง คู่อะไรเนี่ย
เรื่องราวของคนสองคน สามคน หรือสี่คน เรื่องระหว่างเค้าทั้งสาม เอ๊ะหรือ สี่ ฮยอก ซองมิน คยู เเละ..... จะทำให้คุณรักเค้ามากขึ้นอาจจะงงบางเเต่ฝาก ตัว ด้วย นะ ค่ะ ฟิค เรื่อง เเรก เพราะไม่ได้ลงนิยายนานมาก กว่าจะล๊อกอิน ในเด็กดีก็นาน อยู่555 เลยลงเ
ผู้เข้าชมรวม
809
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บรรยากาศยามเช้าที่แสนวุ่นวาย ทุกอย่างยังคงดำเนินไปเหมือนแชกเช่นทุกๆวันที่ผ่านมา พระอาทิตย์ยังคงขึ้นทางทิศตะวันออก นกยังคงร้องทุกๆเช้า และพร้อมที่จะบินออกจากรัง รถลายังเต็มถนน ผู้คนเดินขวักไขว้ เป็นสัญญานบอกว่าทุกชีวิตก็ก้าวเข้าสู่วันใหม่ และนี้ก็วันเริ่มต้นชีวิตในรั้วมหาลัยวันแรกของผม ผมไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี คือในที่สุดก็เข้ามหาลัยที่ผมฝันไว้สำเร็จ มหาลัยอันดับหนึ่งของโซลเลยนะครับ กว่าจะมีวันนี้ ช่วงม.ปลายผมอ่านหนังสือหนักมากกว่าจะเข้ามหาลัยนี้ แต่เพื่อนสนิทผมตัวดีวันๆเอาแต่เล่นเกม และก็ออกไปเที่ยวเต้นเย้วๆในผับทุกคืน ดันติดมหาลัยเดียวกันกับผมอีกทั้งยังคณะเดียวกันด้วย อ่าส์ ตายยากจริงพูดถึงก็เดินมาแล้ว
“อ้าว ฮยอกแจ ทำไมวันนี้นายมาเร็วกว่าที่ฉันคิด” ผมพูดเมื่อมองนาฬิกาตอนนี้มัน 6โมงครึ่งเอง ฮยอกอ่ะนะอยู่ที่โรงเรียนกว่าจะมาก็จะจบคาบแรกอยู่แล้ว
“ทำไม ฉันจะมาเช้าไม่ได้ไง” ดูมันพูดน่าเตะปากไหมล่ะ
“เออๆ ว่าแต่นายกินข้าวมายัง”
“ยังๆ งั้นไปกินกันเถอะ ว่าแต่นายเลี้ยงฉันโอเค ตกลงตามนั้นนะ ซองมิน” ผมไม่น่าไปชวนเลยมื้อเช้านี้ผมเลยต้องลี้ยงเพื่อนตัวแสบนี้ หมดไปหลายวอนอยู่เหลือกัน
เออก่อนอื่นผมแนะนำตัวก่อนนะครับ ผม “ลี ซอง มิน” ผมชอบสีชมพูอย่างที่คนเขียนบอกแหละครับจนได้ฉายาที่เพื่อนๆเรียก คุณว่าผมควรดีใจไหมครับ แต่ช่างเถอะ ฐานะของผมค่อนข้างดีกว่าคนทั่วๆๆเอาง่ายๆพูดอย่างไม่หลงตัวเองแล้วกัน ว่ารวยอ่ะครับ - -* หน้าตาของผม ผมว่าก็เฉยๆนะ ออกแนวตลกด้วยซ้ำ ผมมีฟันกระต่ายสองซีก แต่หลายคนบอกว่าเป็นเสน่ห์ดีออก ผมตัวขาวๆ ตาแบ๋วๆ ไอ้แบ๋วนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันแปลว่าอะไรแต่เค้าบอกกันมาว่าผมตาแบ๋วดี ปากก็เรียวบางๆสีส้มอมชมพู ส่วนทรงผมไม่แน่นอนเปลี่ยนตามเทรดน์ไปเรื่อยๆ ตอนนี้มันเป็นทรงที่คล้ายๆเห็ดซักหน่อย เห็นไม่ครับว่าหน้าตาผมมันธรรมดาแบบวัยรุ่นเกาหลีทั่วไป
ส่วนเพื่อนผม ลี ฮยอก แจ นาย
“ซอง มิน โว้ย!!!!!!!~”โอ๊ย ใครมาตะโกนใส่หูผมเนี่ยเรียกเบาๆไม่ได้หรือไงหูจะแตกอยู่เล้วไอ้บ้าเอย
“อะไร เล่า..” ผมหันตวาดใส่หน้าเพื่อนเลิฟของผม
“พี่เค้าเรียกชื่อนายแล้วนายไม่ตอบ มัวแต่เหม่อฉันก็เลยอาสา” ฮยอกชี้ไปที่พี่ที่ยืนเรียงหน้ากระดาน ส่วนด้านหน้าของผมก็เต็มไปด้วยผู้หญิงผู้ชายที่อายุพอๆกับผมนั่งเรียงเป็นแถวเราทั้งผมด้วยที่นั่งในแถวนั้น อ้อ ตอนนี้เราอยู่ในงานรับน้องแล้วครับ ผมลืมบอกไป
“แนะนำตัวครับน้อง” พี่ผู้ชายในคณะหันมาบอกขณะที่ผมลุกขึ้นอย่างงงๆ
“ครับๆ สวัสดีครับ ผมชื่อ ลีซองมิน”
“แนะนำตัวให้สนุกๆหน่อยสิครับน้อง เรามารับน้องนะครับ ไม่ได้ไปงานศพ”มันจะเอาสนุกอะไรกันหนักกันหนาเล่า แค่แนะนำตัว ผมพยายามมองไปที่ป้ายชื่อที่แขวนคอพี่คนนั้น อ่ะเขียนว่า คิม ยอง อุน (คัง อิน) แล้วเค้าจะวงเล็บทำไมเนี่ย ตกลงชื่อจะยอง อุน หรือ คังอิน เอาซักชื่อ ซิ
“อ้าวน้องมั่วเต่มองอะไร เร็วเข้าซิ เห็นไม่เนี่ยเพื่อนรอ” เอาก็เอาว่ะ
“สวัดดีครับ ผม ลีซองมิน”ดูเหมือนว่ามันจะเหมือนเดิม แต่ว่าคุณคงเห็นภาพ มันเป็นท่าทีผมคิดสดๆแล้วเต้นหลังแนะนำตัวเสร็จ ผ่านเถอะครับ ผ่านๆๆ
เอาล่ะเข้าโหมดปัจจุบัน เรื่องที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่ผมยังเฟรชชี่ ตอนนี้ ผมลี ซอง มิน ผมเรียนที่นี ได้ 3 ปีแล้ว ครับ เอาเป็นว่า ผมอยู่ปี 3 แล้ว เวลานั้นช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียเหลือเกินแป๊บ ผมปี 3 แล้ว ส่วนเพื่อนผม ฮยอก แจ ก็ยังเหมือนเดิมครับ แต่ความรู้สึกของผมบอกว่าเพื่อนผมคนนี้ชักไม่เหมือนเดิม ตั้งแต่มีการรับน้องเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ตั้งแต่มีรุ่นน้อง คยู นะซิครับ ตามผมติดยังกับ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง
“พี่มินนี่ครับ ผมว่าเราไปกินไอติม ร้านนู้นดีกว่านะครับ”คยูฮยอนเดินมาแทรกผมระหว่างผมกับฮยอก ไม่บอกเปล่าแต่ลากผมเดินเข้าร้านไอศกรีม ปล่อยให้ฮยอกยืน มึนๆ อยู่คนเดียว
“คยู นายปล่อยพี่เถอะ แล้วทำแบบนี้เสียมารยาทมากเลยนะ พี่เดินอยู่กลับเพื่อนอยู่”แต่ฉันถูกดันไปนั่งลงตรงข้ามรุ่นน้องปัญญาอ่อน
“ครับ ผมเสียมารยาทมากเลย นายแย่จริงๆเลย คยู”รุ่นน้องคยูตักไอศกรีมเข้าปากแล้วยิ้มอย่างสบายใจ หลังจากบอกกลับผม
“รู้แล้วนายจะทำ ทำไม ฉันไม่เข้าใจนายเลยจริงๆ”ฉันทำหน้าเซ็ง
“พี่ซองมิน ผมว่าพี่หยุดพูดแล้ว กินไอติมเถอะ ดูซิมันละลายหมดแล้ว”นายมีสิทธิ์มาสั่งฉันเหรอ แต่ดูซิมันก็ละลายแล้วอ่าส์ กินดีกว่าก่อนทีจะละลายมากไปกว่านี้ ผมนี้ก็บ้าจี้ตามไปด้วย
“ฮ่ะ ๆ ฮาๆๆๆ” อ้าวไอ้น้องเวรอยู่ดีๆก็หัวเราะ
“นายไปเป็นบ้าอะไร”ผมตวาดใส่หน้าคยู จนเจ้าตัวหยุดขำแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม ใกล้ มาก จนผมต้องหลับตา
ลมหายใจคยูรดลงที่ริมฝีปากของผม ความถี่ที่สม่ำเสมอ แต่ใจผมกลับเต้นรั่วอย่างบ้าคลั่ง ตาผมก็ไม่กล้าลืมไม่รู้ทำไมผมต้องมีอาการแปลกแบบนี้ด้วยสักพักลมหายใจที่รดอยู่เริ่มแผ่วลงทำให้ผิวแน่ใจว่าคยูคงเอาหน้าออกห่างแล้ว แต่ทว่ากลับมีบางอย่างมากระทบริมฝีปากจนผมต้องสะดุ้ง ผละออกแล้วลืมตาขึ้น
“นายทำอะไรนะคยู”ฉันตวาดเค้ากับสิ่งที่เค้าทำผมเมื่อครู่
“อะไรของพี่เล่า”
“ก็เมื่อกี้ นาย...นาย...”ผมเอามือไปแตะที่ริมฝีปากของผม
“ฮ่าๆๆๆ”
“นายขำอะไรนักหนาเนี่ย”ผมเริ่มหงุดหงิด
“อย่าบอกนะว่าพี่ นึกว่าผม ฮ่าๆ เมื่อกี้ ผมเช็ดปากให้พี่ต่างหาก นี่ไง วิปปิ้งครีม”เค้าบอกพร้อมทั้งยื่นกระดาทิชชูให้ดู ใจผมรู้สึก เขิน ดีใจและผิดหวังไปพร้อมๆกัน
“ทีหลังอย่าเล่นแบบนี้อีกนะ”หลังจากเหตุการณ์ลุ้นระทึกผ่านไปผมกับคยูก็แยกกัน ผมล้มตัวลงเตียงนอนหน้าของรุ่นน้องคยู ลอยมาตลอดผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ทำไมผมต้องนึกถึงเด็กปัญญาอ่อนนั้นด้วย
วันนี้เป็นวันหยุด ปกติแล้วฮยอกแจ จะมาบ้านผมตอนสายๆ เป็นประจำ แต่วันนี้กลับแปลกไปเพราะ บ่าย3 โมงแล้วนายนั้นยังไม่โผล่มาเลย นายไม่สบายหรือเปล่า แต่เพื่อนผมทึกขนาดนั้นจะไม่สบายได้ไง ผมเลยตัดสิ้นใจโทรไปหาแต่ว่ากลับปิดเครื่อง พอโทรเข้าเบอร์บ้าน แม่บ้านก็บอกว่า ฮยอกมาค้างบ้านผมตั้งแต่เมื่อคืน แต่ผมไม่ได้บอกแม่บ้านของฮยอกว่าเค้าไม่ได้อยู่บ้านผม กลัวว่าทางนู้นจะเป็นห่วง
“นายอยู่ไหนของนายเนี่ย” ผมสบถ ออกมา ตอนนี้ ก็ 3 ทุ่มได้แล้ว ผมออกรถจากบ้านที่รู้ว่าฮยอกหายไป ผมโทรถามเพื่อนทุกคน แต่ทุกคนบอกว่าไม่รู้ นายอยู่ไหนเนี่ย ผมรู้สึกแย่มาก ผมจึงออกรถไปสถานที่สุดท้ายที่คิดว่าจะมีเค้าอยู่ ตอนนี้ผมยืนหน้าผับแห่งหนึ่งถือได้ว่าผับแห่งนี้ฮยอกเป็นเมมเบอร์สำคัญเลยก็ว่าได้ ผมเดินเข้าไปในสถานที่ผมเคยสัญญาว่าจะไม่ไปเหยีบย ผมไม่ชอบอะไรเสียงดังๆ น่าหนวกหูน่ารำคาญที่สุด ผมไม่เข้าใจว่าพวกนี้ยังคงยืนเต้นกันอย่างไม่อายเลยเหรอไง ผมเดินเลี่ยงไปแล้ว ผม ก็เจอคนที่ผมตามหามานาน ผมก็เลยวิ่งเข้าไปหา
“ฮยอกนายมาทำอะไรที่นี้กลับบ้านได้แล้ว”ผมมองเพื่อนผมที่นั่งใกล้ไร้สติเต็มที่
“ฉัน....ก็มาปกติ.....อยู่แล้ว แต่นาย.....มาทำไม”เค้าตกใจนิดหน่อยที่เห็นผม
“นายดื่มมากไปแล้วนะ พอเถอะแล้วกลับบ้าน”แต่เค้าไม่ฟังผมเลยเอาแต่ยกแก้วดื่มอย่างเดียว นายคิดว่านายดื่มเป็นคนเดียวเหรอไง ผมตัดสินใจดื่มมันรวดเดียวหมดแก้ว ผมเป็นคนที่ไม่ดื่มเพราะผมรู้ตัวว่าผมคออ่อนขนาดไหน
“นาย...ทำบ้าอะไรเนี่ย....เออ กลับก็ได้ว่ะ”ฮยอกทำหน้าตกใจอีกครั้งเพราะเห็นผมดื่มมันลงไปรวดเดียว แต่ดูเหมือนว่าฮยอกจะไม่ไหวผมก็เลยอาสาพยุงไปสภาพของผมตอนนี้ยังไหวอยู่เพราะแก้วเดียวเท่านั้น แต่ผมว่า ผมไม่ไหวแล้วก็ฮยอกตัวไม่ใช่เล็กๆเลยแต่โชคดีที่
“เออ ผมช่วยนะครับ”ผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในผับบอกแล้วช่วยผมหิ้วปีก ฮยอกไปอีกคนพอถึงรถผมก็หันไปขอบคุณ
“ขอบคุณครับ เออ คุณ....”ผมยังไม่รู้จักเค้าเลยนี่ หน้าตาเค้านี้ผมมองไม่ค่อยเห็นเลยเพราะที่จอดรถมืดหน่อย ไฟสลัวๆ แต่เค้าเป็นคนสูงโปร่ง หรือผมเตี้ยก็ไม่รู้- -*
“ไม่เป็นไรครับว่าแต่ขับรถดีๆนะครับ เออ...คุณชื่ออะไรครับ”
“อ่อ ผม ผมลี ซอง มิน ครับ แล้วคุณ”
“รีบกลับเถอะครับผมว่าเพื่อนคุณไม่ไหวแล้ว”ผมหันไปมองฮยอกที่หลับเป็นตาม แล้วผู้ชายคนนั้นก็เดินหันหลังตรงไปยังทางเข้าผับ ผมขับรถออกจากผับไฟก็ส่องไปที่เค้าคนนั้นพอดี มองจากไกลๆเค้าเป็นคนที่แต่งตัวจัดพอควร มาเที่ยวผับจะให้เค้าแต่งเป็นชาวนาหรือไง555+ พอผมถึงบ้านผมก็ลากฮยอกขึ้นไปที่ห้องนอนแล้วจัดแจงให้แม่บ้านช่วยจักการกับตัวเค้าด้วยส่วนผมมึนหัวมากๆ
“อ้าว ฮยอกนายตื่นแล้วเหรอ”ผมลืมตาอย่างยากลำบาก ผมยังรู้สึกมึนหัวอยู่เลยแต่ผมดีใจที่เห็นเค้ายังคงสบายดี
“อ่ะ แก้แฮงค์”ผมมอง ยาในมือของเค้า แล้วผมก็รับมากินอย่างง่ายดาย ผมไม่ไหวจริงๆเลย
“นายไปไงบ้าง”ผมมองเพื่อนทั้งๆที่ผมนอนอยู่ผมไม่ไหวจริงๆผมรู้สึกสึกว่ามันชาไปหมดเลย
“อย่า ถามมาก นายนอนไปเลย บ้าเอ้ย ทำไมนายต้องดื่มมันด้วย”ผมไม่มีแรงที่จะมาต่อล้อต่อเถียงกับเพื่อนตัวดีอีกแล้วผมรู้สึกว่าเปลือกตาผมมันหนักเหลือเกิน
วันเวลานานเท่ารัยแล้วที่คยูมักจะเดินติดผมไม่ห่างผมมักจะรำคาญแล้วก็ไล่ให้เค้าออกไปไกลๆแต่เค้ากลับยิ้มแล้วจับมือผมเดินไปด้วยกัน ตอนแรกผมรู้สึกแปลกที่เค้าทำแบบนี้ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วผมรู้สึกอบอุ่นอย่างพูดไม่ถูก คนอื่นมองผมแปลกๆแต่ผมก็พยายามอธิบาย แต่เค้าคงเชื่อผมอยู่หรอกก็คยูติดแหงกอยู่กับผมยังกับตังเม เฮ้อ.... หลังจากที่ผมหลุดจากคยูมาได้ผมก็เข้ามาในห้องเรียน
“อ้าว ฮยอกนายไม่ลงไปกินข้าวเหรอ”ผมมองไปที่ฮยอกที่นั่งอ่านอะไรไม่รู้ใต้โต๊ะผม
“อืม ใครเอามาให้ก็ไม่รู้มันอยู่ใต้โต๊ะนาย”เค้าบอกพร้อมกับยกของมาวางไว้บนโต๊ะ
“ไหน” ผมเดินเข้าไปดู อ่าส์ มันเป็น ดอกกุหลาบ พร้อมกับ พายมิกซ์เบอร์รี่ที่ผมชอบมาก พร้อมการ์ด ที่เขียนแค่ว่า สบายใช่ไหม
“ฮยอก ว่าแต่ นายกินข้...”อ้านายนั้นหายไปไหนก็ไม่รู้พักหลังแปลกๆ แปลกไปตั้งแต่ตอนกลับมาจากผับคราวนั้น ผมเลยวิ่งออกจากห้องยังดีที่ฮยอกกำลังเดินลงบันได
“นายเนี่ยไม่บอกฉันเลย ไปกินข้าวกันเถอะ”ผมบอกแล้วกอดคอเพื่อนชายไปแต่เค้ากลับมองผมด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
“นายเป็นอะไรหรือเปล่าฮยอก”ผมพยายามชวนเค้าคุยแต่เพื่อนผมคนนี้กลับแปลกไปหรือผมเองที่เปลี่ยนไปผมไม่เข้าใจเลย
“เปล่า”เค้าตอบคำสั้นง่ายๆ ใครก็ได้เอาฮยอกที่ กวนๆ บ้าๆ กลับมาที
“แต่....”ไม่ทันที่ผมจะพูด
“วันนี้ สี่ทุ่ม นายมาเจอฉันที่.....”หลังจากบอกสถานที่ เค้าพูดแค่นี้แล้วเค้าก็เดินไป ผมว่าฮยอกเริ่มแปลกๆนะ
สี่ทุ่ม
ผมมาก่อนเวลาซัก ครึ่ง ชั่วโมงได้ ปกติผมจะมาเร็วก่อนนัดอยู่แล้ว ผมไม่อยากให้คนอื่นรอ ผมเกรงใจนะครับ ว่าแต่ฮยอกต้องมานัดที่สะพานแขวนที่นี้ด้วย จะมาชวนกระโดดน้ำเล่นหรือไง แต่ว่าสะพานนี้มันมีเหตุการณ์ที่ผมยังจำได้ เมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นผมและครอบครัวของฮยอกมากันที่นี้ เรามาลอยอังคารเถ้ากระดูกของแม่ของฮยอกครับ การจากไปของแม่ฮยอกเร็วมากจนเค้ายังไม่ทันตั้งตัว เค้าได้แต่นั่งร้องไห้เหมือนคนบ้าที่สะพานแห่งนี้หลังจากที่ลอยอังคารแม่เค้า ทุกคนเป็นห่วงเค้ามากเร่งให้เค้ากลับบ้านไปพักผ่อนแต่เค้าเป็นคนดื้อดึงที่จะอยู่ ผมเลยอาสาเป็นอยู่เป็นเพื่อนเค้า
“ฮยอกนายใจเย็นๆ แม่นายยังอยู่กับนาย อยู่ตรงนี้ไง”ผมใช้นิ้วผมชี้ไปที่อกข้างซ้ายของฮยอก นิ้วผมเคลื่อนที่ไปตามแรงสั่นสะเทือน เค้ายังร้องไห้ไม่หยุดร้องไห้และเหมือนจะไม่ฟังผมเลย
“แม่.....อึก.....แม่ครับ....ฮือ....ฮือ...แม่ครับ”เค้าได้แต่ร้องไห้แล้วร้องเรียกแต่แม่
“นายร้องให้สบายใจเลยนะ ระบายออกมาให้หมด ไม่ว่านานเท่าไร ฉันจะนั่งเป็นเพื่อนนาย ฉันจะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน จะอยู่ข้างนายตลอดไป”ผมสวมกอดเพื่อนที่ผมรักที่สุด แต่นี้คงเป็นแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่ผมดูแข็งแกร่งกว่า ฮยอกแจ เค้าร้องไห้นานเท่าไรไม่รู้แต่ผมรู้แค่ว่าฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ แต่เพื่อนผมคนนี้ยังไม่มีวี่แววที่จะหยุดร้องไห้เลย ผมเข้าใจในการสูญเสียครั้งนี้ของเค้า มันเป็นการสูญเสียของชีวิตเลยก็ว่าได้เพราะฮยอกค่อนข้างสนิทกับแม่เค้ามาก เวลาผ่านไปเรื่อยๆเพื่อนผมค่อยมีสติมากขึ้น ผมหันไปมองเค้า ฮยอกหยุดร้องไห้มีแต่เสียงสะอื้นเท่านั้น
“เอาล่ะ ฮยอกผู้เข้มแข็งกลับมาแล้ว พร้อมต่อสู้กับโจรผู้ร้าย ฮี่ฮีฮิ”ผมทำท่าต่อสู้กับอากาศ ผมหันไปมองฮยอกแจ เค้าค่อยๆยิ้มออกมา รอยยิ้มที่ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขอย่างประหลาด
“นาย....อึก... มัน...อึก...บ้า ซองมิน”
“อ่ะ งั้นนายก็ต้องบ้าด้วย ไม่งั้นแล้วจะมาเป็นเพื่อนกับฉันได้ไง นี่.....ฉันรู้สึกแย่มากเลยที่นาย...ร้องไห้”ผมกอดคอเพื่อนรักฮยอกแจ
“ฉันสัญญาว่า...อึก.....นี้มันจะเป็นการเสียน้ำตา....อึก....ครั้งสุดท้าย....ของชีวิตฉัน”เค้ากอดคอผมตอบแล้วเราก็เดินไปพร้อมๆกัน
และนี้คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เค้าค่อนข้างเข้งกร้าว ไม่ยอมคนเล็กน้อยๆ แต่ว่าไอ้ที่พูดไปมันก็เป็นนิสัยติดตัวเค้ามานานแล้วล่ะ อ่าส์ อากาศตอนนี้ชักหนาวแล้วนี้มันกี่โมงแล้วเนี่ยทำไมฮยอกแจยังไม่โผล่ออกมาเลย เค้าจะให้ผมแข็งตายก่อนใช่ไหม
“ซองมิน”ผมหันไปทางต้นเสียง ฮยอกยืนห่างผมไม่กี่เมตรเท่านั้น ว่าแต่เค้ามาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ยผมไม่ทันเห็น
“อ้าว ฮยอกนี่นายมาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย”ผมเดินเค้าไปหาเค้า
“นานแล้วแหละ คงพอๆกับที่นายมาถึง”เค้าไม่มองหน้าผมแต่เค้ากลับมองออกไปนอกสะพาน
“ว่าแต่นายมีอะไรหรือเปล่า เรียกมาซะดึกเลย”แล้วผมก็หันไปมองนอกสะพานบางอ่าส์ สายน้ำยังคงไหลไปทางเดิมเรื่อยๆเลย ว้าว นั้น ดาวเต็มฟ้าเลย
“ซองมิน ฉันคิดเสมอว่านายเป็นเพื่อนฉัน ฉันพยายามทุกครั้งให้นายเป็นได้แค่เพื่อนจริงๆ แต่.....”ฮยอกหยุดพูดทำให้ผมต้องหันไปแต่ผมก็ไม่พูดอะไร ผมได้แต่รอว่าเค้าจะพูดอะไรต่อ
“แต่...ความรู้สึกของฉันมันฝืนไม่ได้จริงๆ ฉันพยายามทุกอย่าง พยายามที่จะแสดงออกให้นายได้รู้ว่าฉันไม่ได้คิดกับนายแค่เพื่อน แต่นายมันโง่ ซองมิน นายมันโง่”
“อ้าวทำไม ไอ้บ้าฮยอก อยู่ดีๆนายจะมาด่าฉัน นายบ้...”ยังที่ผมจะพูดไม่จบ ผมต้องหยุดคำผมไว้กลางอากาศ
“ฉันชอบนายซองมิน” ฮยอกหันหน้ามามอง ผมแววตาของเค้าไม่แข็งกร้าวดุดันอย่างเคยกลับแต่เป็นแววตาที่อ่อนโยนเหลือเกิน
“นายว่ายังไงนะ”ผมออกจะตกใจเล็กน้อยแต่กลับอึ่งมากกว่าที่ฮยอกพูดออกมาอย่างนั้นเพราะผมกับเค้าเราเป็นเพื่อนกันหรือผมโง่อย่างที่อยอกนั้นบอกจริงๆที่ผมไม่รู้อะไรเลยว่าฮยอกชอบผม
“ฉันชอบนาย ซองมิน ฉันเคยคิดว่านายคงจะรู้เอง แต่นายก็เหมือนเดิม นายก็เห็นฉันเป็นเพื่อนคนหนึ่ง จนวันหนึ่งไอ้เด็กบ้า คยู เข้ามา มันทำให้ฉันต้องบอกกับนายเองก่อนที่ คยู จะชิ่งบอกรักนายก่อนฉัน ฉันเกือบจะบ้าตายตอนที่คยูมัน......”เค้าหัวเสียเล็กๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อแต่ผมนี่ซิผมได้แต่อึ่งและอึ่ง ผมไม่คิดว่าเค้าจะชอบผม ใครก็ได้บอกผมที่ว่ามันเป็นแค่ฝัน
“คบกับฉันเถอะนะซองมิน”ฮยอกยังคงมองมายังนัยน์ตาของผม เค้ายังคงมองผมนิ่ง ผมจะตอบเค้าว่าอะไรดี ผมคิดกลับเค้าแค่เพื่อนจริงๆแม้ว่ามีบางครั้งที่ผมรู้ว่าผมก็ชอบเค้าเหมือนกันแต่ว่าเราเป็นเพื่อนกันนะฮยอก ผมอยากให้เค้าเป็นเพื่อนมากกว่าไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบเค้าแต่ว่าหัวใจของผมกำลังรอใครซักคนเข้ามาในนี้แต่คนๆนั้นมันไม่ใช่เค้า
“เราเป็นเพื่อนกันเถอะ ฮยอก” ฮยอกหลุบตาลง
“เป็นเพราะ คยูใช่ไหมที่นายไม่คบกับฉัน”คำพูดของเค้าช่างเบาบางเหลือเกินเบาจนเกือบจะไม่ได้ยินเลยด้วยซ้ำ
“ไม่ใช่ อย่างนั้น แต่ความรู้สึกระหว่างฉันกับนายมันเป็นได้แค่เพื่อนจริงๆเราสนิทกันมาก จนฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ ฉันอยากมีนายเป็นเพื่อน เพื่อนที่เข้าใจฉันทุกอย่าง ทุกข์สุข ที่ฉันเคยได้รับ มันมักจะมีนายค่อยมาแบ่งเบาตลอด จนนายเปรียบเสมือนสิ่งที่ฉันขาดไม่ได้ คำว่าเพื่อนมันยั่งยืนกว่าคำที่นายกำลังหยิบยื่นให้ฉัน....อีกอย่างหัวใจฉันมันบอกว่านายไม่ใช่ ฉันฝืนใจตัวเองไม่ได้ฮยอก ฉันขอโทษ”
“ฉันเข้าใจ......แล้ว”ฮยอกพูดแล้วหันหลังเดินไปแผ่นหลังของเค้าสั่นสะเทือนทำให้ผมรู้ว่าเค้าร้องไห้ แผ่นหลังของเค้าห่างไปเรื่อยๆ ห่างออกไปจนผมกลัวเหลือเกิน ผมยังคงยืนอยู่สะพานแขวนที่เดิม คิดถึงเรื่องราวที่ผมกับฮยอกทำร่วมกัน รอยยิ้มเค้า เสียงหัวเราะเค้า ผมยังจำได้ดี และไม่มีวันลืม ผมทำให้เค้าต้องเสียน้ำตา ทั้งๆที่เค้าบอกผมเมื่อหลายปีก่อนว่าเค้าจะไม่เสียมันอีก แต่ผม....ผมมันแย่จริงๆ ผมกลับมาที่บ้านล้มตัวลงบนเตียง ผมฝืนตาตัวเองให้หลับแต่มันดันหลับไม่ลง ภาพวันที่ฮยอกร้องไห้ วันที่ผมนั่งเป็นเพื่อน มันลอยมา ตลอดเวลา แต่วันนี้เวลาที่ผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงผมทำเค้าร้องไห้ ผมทำฮยอกผู้เข้มแข็งร้องไห้ ผมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยผมหันไปมองนาฬิกา นี่มันตีหนึ่งกว่าๆแล้วแต่ผมยังข่มตานอนลงไปไม่ได้จริง ไม่รู้ว่ามันเพราะอะไร
Sorry Sorry Sorry Sorry내가 내가 내가 먼저
อ่อ เสียงโทรศัพท์ ของผมเอง ว่าแต่พ่อฮยอกฮยอกโทรมาหาผมทำไมตอนนี้เนี่ย
“ฮัลโหลครับ”
“ซองมิน....ฮยอก...ฮือ.....ฮยอกอยู่โรงพยาบาล”เสียงลอดจากปลายสายผมจำได้ดีว่านั้นเป็นเสียงของพี่สาวฮยอก
ผมกระเด้งลุกจากเตียง หยิบกุญแจรถแล้วบึ่งไปที่โรงพยาบาล มันต้องเป็นเพราะผมแน่ๆเลยที่ทำให้ฮยอกต้องเป็นแบบนี้ เป็นเพราะผมแท้ๆ ผมเหยียบคันเร่งจนมินผมไม่รู้ว่าเข็มไมล์ที่หน้าปัดมันไปถึงเลขเท่าไร แต่ตอนนี้ผมต้องไปหาเค้า ฮยอกแจ
ผมวิ่งเข้าโรงพยาบาลผมวิ่งไปที่ห้องฉุกเฉินที่มีพี่โซรากับพ่อฮยอกแจ พ่อฮยอกแจได้แค่นั่งกอดพี่โซราเพราะพี่โซราร้องไห้หนักมาก เป็นเพราะผมที่ทำให้เค้าต้องเป็นอย่างนี้
“พ่อครับ ฮยอก เป็นยังไงบ้างครับ”ผมหันไปถามพ่อฮยอก ที่นั่งกอดพี่โซราอยู่แววตาของพ่อฮยอกสั่นไหวเล็กน้อย
“เออ..อาการโคม่า...อาจจะ.......”ผมแทบจะทรุดลงกับพื้น สาเหตุมันต้องเป็นเพราะผม เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะผมแท้ๆ ผมมันเห็นแกตัวที่สุด ผมทำให้ฮยอกต้องเป็นแบบนี้ ผมได้แต่นั่งรอหน้าห้อง น้ำใสๆจากตาที่ผมพยายามกลั้นตอนนี้มันกลับกลั้นไม่ไหวแล้ว ผมปล่อยให้มันไหลอยู่อย่างนั้น สักพักใหญ่คุณหมอก็เดินออกมา
“คุณหมอค่ะน้องหนูเป็นยังไงบ้าง”พี่โซราวิ่งเข้าไปหาคุณหมออย่างรวดเร็ว
“เออ หมอต้องเสียใจด้วยนะครับ เชิญญาติเข้าข้างในครับเผื่อเค้ามีอะไรอยากจะพูดกลับคุณ”ผมพี่โซราแล้วก็คุณพ่อฮยอกก็เดินเข้าไป พี่โซราได้แต่กอดฮยอกแล้วร้องไห้ส่วนพ่อก็ยืนมองอยู่ใกล้ตียงของเค้า แม้ว่าพ่อจะไม่แสดงออกอาการแต่ผมรู้สึกว่าเค้าเสียใจไม่น้อยที่จะต้องเสียลูกชายไป
“พี่....โซรา.....ผม......รัก....พี่...จัง....เลย”ฮยอกพยายามพูดแม้ว่าเสียงเค้าจะหายเป็นห่วงๆ
“ฉันก็รักนายไอ้น้องบ้า....ฮือ....กลับมาเล่นกับฉัน...เร็วๆๆๆซิ...ฮือ.....”
“พ่อ.... ครับ.....ผมขอ.....โทษ.....กับทุก.......อย่าง......ด้วย...นะครับ.....ผมรัก.....พ่อ...ผมรักพ่อ...ที่....สุดเลย.....”ฮยอกยิ้มบางๆให้พ่อผ่านเครื่องช่วยหายใจที่ครอบอยู่ คำบอกรักของเค้าที่ให้กับพ่อสามารถทำให้พ่อเค้าถึงกลับน้ำตาร่วงได้ พี่โซราได้แต่ร้องไห้แทบจะขาดใจจนในที่สุดก็เป็นลมจนพ่อฮยอกต้องห้ามออกไป
“พ่อครับกลับมาเร็วๆนะครับเวลาคงมีอีกไม่มาก”ผมหันไปบอกพ่อฮยอกที่อุ้มพี่โซราออกจากห้อง
น้ำตาของผมกลับไหลออกมาอีกแล้วผมเป็นพวกที่อ่อนไหวง่ายซะด้วยฮยอกได้แต่ยิ้มบางๆให้ผม
“ฉันขอโทษ.....ฮยอกฉันขอโทษ.....อึก.....ฉัน...ขอโทษ....”ผมได้แต่พูดว่าขอโทษอยอกเลื่อนมือมาจับมือผมแล้วกำไว้
“นาย.....ไม่.....ผิด.....คนผิดมันคือ.....ความรู้สึก......ฉัน....เอง....ที่คิด...กับนาย...แค่เพื่อน....ฉันควร........เป็น....ฝ่ายขอโทษ....นายมากกว่า........ซองมิน”ฮยอกยังคงยิ้มบางๆส่งตอบฉัน
“ฮยอก....ฮือ......ฉันขอบคุณกลับความ...อึก...รู้สึกดีๆนะ.....ฉันรักนาย.....นะฮยอก.....ฮือ......”
“ขอบคุณ......ที่นาย...รักฉัน.....ฉันรู้ว่านาย......รักฉัน....ได้แค่เพื่อน”
“ก็นายเป็น..........อึก........เพื่อนที่ฉันรักที่สุด”
“ขอบใจนะ....... ฉันก็......รัก.......นาย.......ซองมิน”
“พ่อครับ...ฮือ.....ฮยอก.........ฮือ..........”ผมเอาแต่ร้องไห้เมื่อเห็นพ่อฮยอกเดินเค้ามา ผมมองไปที่เครื่องวัดชีพจร มันเป็นการเต้นของหัวใจที่ช้าลงอย่างน่ากลัว ผมกลัวที่จะเสียเค้า ผมกลัว......
“ผมรัก....พ่อครับ....ฝากบอกพี่โซราด้วย...นะ...ครั.........”
ตึ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
นั้นเป็นแค่เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินจากปากฮยอกมือของผมที่ถูกฮยอกกำไว้ตอนนี้กลับถูกไร้การครอบครอง และสิ่งที่ผมรับไม่ได้นั้นก็คือการสูญเสีย ผมเสียเพื่อนดีๆอย่างฮยอกแจไปผมอยากจะชกหน้าตัวเองด้วยซ้ำที่ทำให้เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้น เพราะผม เพราะผม นายแย่มาก ลีซองมิน ผมเลยตัดสิ้นใจขับรถกลับไปที่สะพานแขวนสถานที่ที่ผมเพิ่งจากมาไม่ถึงวันด้วยซ้ำ ผมเคยสัญญา กลับฮยอกไว้ที่นี้ว่า ผมจะอยู่เคียงข้างเค้าตลอดไป
ผมตัดสิ้นใจจะตามเค้าไปทุกที่ไม่ว่าที่นั้นจะเป็นนรกหรือสวรรค์ก็ตาม
“อย่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”เสียงห้ามจากชายสูงโปร่งแต่งตัวจัดจ้านห้ามผมไว้คงเป็นคนเดียวกันกับวันในผับวันนั้น แต่คงไม่ทันแล้วในเมื่อผมตัดสิ้นใจแล้ว
ม่านสีแดงสดเลื่อนปิดช้าๆเสียงปรบมือเริ่มดังขึ้น จนผู้กำกับเวทียิ้มแก้มแทบปริ ม่านเลื่อนออกอีกครั้งเผยให้เห็นนักแสดงทุกคน นักแสดงทุกคนก้มโค้งพร้อมกัน พร้อมด้วยเสียงปรบมือที่ดังกระหึ่มอีกครั้ง
...................................................................................................................................................................................
บทส่งท้าย
หลังจากละครเวทีวันนั้นจบลง ฮยอกแจ ซองมิน คยูฮยอน ก็ดังเป็นพลุแตก เดินไปที่ไหนในทุกส่วนของมหาลัยก็มีแต่คนทัก ขอถ่ายรูป อ่อ การแสดงวันนั้นเป็นงานวันเปิดบ้านของมหาลัยอันดับหนึ่งของสามหนุ่มนี้แหละ แต่หลังจากที่ละครจบไป ต่างก็มีคนจับคู่ ให้ ฮยอกและก็ซองมิน คู่กัน แต่บางกลุ่มในมหาลัย ก็จับคู่ซองมินให้คู่กับคยูบาง แต่ว่าน่าเสียดาย ที่ซองมินของเรานั้นมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว ก็หนุ่มปริศนาที่มาช่วยซองมินตอนท้ายของเรื่องไงล่ะ อ่อเค้าคนเนี่ยเป็นคนเดียวกันที่อยู่ในผับ ที่จริงคนเนี่ยเค้าเป็นผู้กำกับเวทีแต่คนที่แสดงตัวละครตัวนี้ไม่มาในหน้าที่ผู้กำกับที่มีสปริตรแรงกล้าเลยออกไปเล่นแทน เฮ้อ......สองคนนี้เค้ารักกันดีจริงๆๆน่าอิจฉา อ่อ....เกือบลืมบอกไป....ว่าผู้ชายคนนั้นชื่ออะไร.........จะมีใครที่แต่งตัวแรงๆกล้าๆบ้าๆมีความเป็นู้นำสูงเกินขนาดนี้....อ่ะๆๆ เดาออกหรือยังค่ะ..........เฉลย ผู้ชายที่ซองมินรักที่สุดก็คงหนีไม่พ้นชายคนนี้แน่นอน คิม ฮี ชอล
...................................................................................................................................................................................
สำหรับ ฟิคเรื่องนี้คงผิดหวังที่ ทำไมไม่เป็น คยูมิน หรือฮยอกมิน แต่กลับเป็นคู่ มินชอล ซินมิน ซองชอล เออ- -* ไม่รู้ว่าคนแต่งจะเอาคู่นี้ชื่อว่าอะไร555+ ตอนแรกเรื่องนี้ไม่ได้เป็นแบบนี้ตอนแรกกะจะให้ ซองมินไปทำใจเรื่องของฮยอกที่เมืองไทยแล้วพบรักกับฮีชอลที่นั้น แบบประมาณว่าฮีชอลตามไปไทยแบบว่าหลงมินตั้งแต่เจอกันที่ผับครั้งแรก แล้วมีตัวป่วนคยูตามซองมินไปไทยด้วย แล้วกะจะหักมุมด้วย ว่าฮยอกไม่ตายฟื้นมาแล้วก็ไม่กล้าสู้หน้าซองมินแล้วก็ไปเมืองไทยไปพบรักกับซีวอนแล้วก็บังเอิญเจอกับซองมินแต่ตอนนั้นซองมินคบกับฮีชอลแล้ว ส่วนคยูก็เศร้าเพราะคยูชอบซองมินมากก็เลยกลับไปที่เกาหลีแล้วก็คบกับสาวรุ่นน้อง แบบว่าสุดท้ายแฮปปี้ทุกคู่อะไรอย่างเนี่ย
แต่ เออ มันยาวไปไม่ไหว5555+
ปกติคือเราชอบอ่านพวกนิยายตามเน็ตอย่างเงี้ยแล้วก็ต้องรอคนเขียนมาอัพ เราก็เลยคิดว่าทุกคนก็ขี้เกลียดรอ อารมณ์แบบไม่ต่อเนื่อง สู้แต่งที่เดียวจบๆไปเลยดีกว่า จบหักมุมดีไหม ความคิดหักมุมมาจาก 5แพร่ง 5555+บ้าบอที่สุด
ยังไงก็ฝากด้วยแล้วกันนะค่ะเรื่องแรกที่แต่งเลยสำหรับฟิคยังไงก็ฝากด้วยนะค่ะ
ว่าแต่ช่วยคิดด้วยแล้วกันว่าจะให้คู่นี้ชื่ออะไร
ส่วนถ้าต้องการรู้เรื่องราวของ ฮีชอลกับซองมิน ก็เม้นมาบอกนะค่ะ เผื่อทำภาคต่อ แต่คงเป็นฟิคสั้นแบบนี้แหละค่ะ เพราะคนแต่งคิดว่าทุกคนคงอยากรู้(แน่ใจมากเลยคนแต่งว่าเค้าอยากรู้กัน)เรื่องราวของความรักมันเริ่มขึ้นได้อย่างไรเพราะอะไรสองคนนี้ถึงรักกันได้เพราะอะไร....เพราะอะไร.......- -* (ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ ดูเม้นเรื่อยๆ เผื่อมีกำลังใจกลับไปคิดพลอตเรื่องต่อ555+) ตอนนี้ขอตัวไปอ่านหนังสือสอบ GAT-PAT ที่กำลังจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ก่อนนะค่ะ บายบายค่ะ
ผลงานอื่นๆ ของ NANTATOZAIIZ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ NANTATOZAIIZ
ความคิดเห็น