ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ficแก้บน TonJames: To love and be loved is everything!!

    ลำดับตอนที่ #13 : Fic TonJames ตอนพิเศษ Vicious4/5

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 54


    ขอความกรุณากดเปิดเพลงวนไปเรื่อยๆขณะอ่านนะคะ

    ย้ำว่าให้เปิดเพลงวนไปเรื่อยๆขณะอ่าน ไม่งั้นกาน้ำจะเสียใจมากกกกกกก

    http://www.4shared.com/audio/RHK-MuZh/_-_KAL_.html

    มาลงก่อนกำหนดเพราะเป็นของขวัญวันเกิดให้ทัพหน้าตัวแม่ น้องระ(บาก้า) ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ

     

    Fic นี้เป็นเพียงจินตนาการส่วนตัวของผู้แต่ง

    ไม่ได้อิงชีวิตจริงแต่อย่างใด

    ใช้เพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะคะ

    ถ้าไม่ชอบกรุณาปิดไปนะคะ เราไม่ตีกะใคร ขอบคุณค่ะ

    ......

    อยากให้มองเป็นผลงานการเขียนเรื่องหนึ่ง เป็นเพียงบทละคร ไม่ควรนำมาเกี่ยวข้องกับชีวิตจริงแต่อย่างใด

    ......


    Fic TonJames ตอนพิเศษ Vicious 4/5

    Type: AU PG-15 และ NC-20บางตอน

    เขียนขึ้นโดยจินตนาการล้วนๆ ไม่ได้มีพื้นฐานมาจากเรื่องจริงแต่อย่างใด จะคงไว้แค่เพียงหน้าตาตัวละคร และอาจจะเป็นลักษณะนิสัยเล็กๆน้อยๆ ใช้เพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะคะ

     

    คุณเคยทำตัวร้ายกาจมั๊ย

    คุณรู้มั๊ยทำไมเขาถึงทำตัวร้ายกาจ

    อะไรที่ผลักดันให้เขาทำตัวร้ายกาจ

    ความร้ายกาจอาจเป็นเพียงเครื่องปกปิดความอ่อนแอ

    …………………………………….

     

    ผมกดปิดสายโทรศัพท์ ในใจตอนนี้อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกหลากหลายยากที่จะถ่ายทอดมาเป็นคำพูดได้ การที่จะต้องไปเจอหน้าสองต่อสองกับคนรักเก่าอีกครั้ง มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ถึงจะตัดใจไม่มีความรู้สึกพิเศษใดๆให้แล้วก็ตาม แต่ผมก็คนปกติธรรมดา จะไม่ให้แอบหวั่นใจเลยคงเป็นไปไม่ได้ แรงขยับตัวจากคนข้างกายเรียกสติผมให้กลับมาสู่โลกปัจจุบัน

    “ทำไมพี่ตื่นเร็วจัง...ผิดปกติอ่ะ เป็นไรเปล่าเนี่ย ไม่สบายป่าว” การยิงคำถามยาวๆถือเป็นเอกลักษณ์ของเขา ผู้ชายของผม แววตาเป็นห่วงเป็นใยที่ส่งมาให้ ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะเผชิญหน้ากับเรื่องในอดีตอีกครั้ง เพียงแต่ผมต้องการความมั่นใจอะไรบางอย่างจากเขาก่อน

    “เจมส์ ...พี่ขออะไรแกอย่างดิ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่ขอให้แกเชื่อพี่... ว่าพี่รักแกจริงๆ... ได้เปล่า” ผมจะไม่ขออะไรเขาอีกเลย นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมต้องการจากเขาจริงๆ เพราะผมไม่แน่ใจกับสิ่งที่ตัวเองจะทำต่อจากนี้ไปว่าจะมีผลตามมายังไง ถึงผมจะแน่ใจในความรู้สึกตัวเอง แต่ไม่แน่ใจในความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามเท่าไหร่นัก

    “ทำไมพี่ต้องขอผมแบบนี้ด้วยอ่ะ” เจมส์ยังไงก็เป็นเจมส์ ไม่ว่าเวลาไหนก็ต้องมีข้อแม้หรือคำถามตลอด

    “ไม่มีเหตุผล เป็นแค่คำขอ มันก็แค่คำขอจากคนรักน่ะเจมส์ ให้ได้ป่ะ” ได้มั๊ย แกให้พี่ได้มั๊ยเจมส์

    “ถึงพี่ไม่ขอ ผมก็เชื่อพี่ทุกอย่างอยู่แล้วละ ผมเคยไม่เชื่อพี่สักครั้งมั๊ยล่ะ” ที่จริงตอบสั้นๆก็ได้นะ จะตอบยาวๆเพื่ออะไรเนี่ย เด็กบ้าเอ๊ย...แต่ผมกลับชอบแหะ ยิ่งได้ฟังแบบนี้ยิ่งสร้างความมั่นใจให้ผมมากขึ้น

    “ไม่เคย ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดขึ้นนิ” ผมจำได้ว่าเขาเคยยอกย้อนผมแบบนี้ เอาคืนบ้างดีกว่า

    “โหย...พี่ย้อนผมอ่ะ แล้วตกลงพี่จะไม่บอกผมจริงๆหรอว่าทำไมพี่ถึงขอผมแบบนี้ นี่จะไปทำอะไรแปลกๆป่าวเนี่ย พี่นี่นับวันยิ่งไม่ค่อยน่าไว้ใจ” เด็กตัวสูงคร่อมตัวทับผมไว้เป็นเชิงข่มขู่ให้ตอบคำถามเขา เดี๋ยวนี้เอะอะใช้กำลังตลอดนะ..เด็กบ้า

    “แต่แกมั่นใจได้อย่างนึงละ ว่าพี่รักแกแน่นอน” ผมจัดการหอมแก้มกลับไปทีหนึ่งเป็นรางวัลให้ ถือเป็นการเสริมกำลังใจให้กับคนรักและกับตัวเอง

    “ผมก็รักพี่นะคร๊าบบบบบบบบ” ลากเสียงยืดยาวตามสไตล์เด็กจอมกวน แค่เห็นรอยยิ้มของเขาผมก็สามารถยิ้มตามได้

    ..................................................

    ...................................

     

    ม้านั่งในสวนหย่อมใต้คอนโดเป็นที่ ที่ใครหลายๆคนชอบมานั่งเล่นหรือนั่งรอเพื่อน รอแฟน บรรยากาศรอบๆในช่วงเย็นแบบนี้ก็ให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบ เสียงหัวเราะของน้องๆตัวเล็กๆช่วยผ่อนคลายความกังวลในใจผมไปได้บ้าง การที่ต้องมานั่งอยู่ข้างๆอดีตคนรักบนม้านั่งยาวตัวเดียวกัน มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยจริงๆ

    เวลาผ่านไปอะไรหลายๆอย่างก็เปลี่ยนตาม รวมทั้งใจของคนเรา มันจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา อยู่ที่ว่าจะเปลี่ยนไปทางไหน มีแค่สองทางให้เลือกทางหนึ่งคือมากขึ้น กับทางหนึ่งคือน้อยลง สำหรับผมกับเต๋าคงจะเป็นทางน้อยลง ผมจำความรู้สึกรักที่มีให้เขาไม่ได้แล้ว ไม่ได้เสแสร้ง ไม่ได้หลอกตัวเอง แต่ผม จำไม่ได้แล้วจริงๆ

    “ไม่ได้มานั่งคุยกันแบบนี้นานมากแล้วเนอะ” สมัยก่อนเขาจะมาคลุกอยู่กับผมทุกเสาร์อาทิตย์ ม้านั่งแถวนี้เรานั่งเล่นด้วยกันน่าครบทุกตัวแล้ว

    “ใช่...นานจนแทบจะจำไม่ได้แล้วละ” ช่วงเวลาแห่งความสุขและความเศร้ามันผ่านมานานมากแล้วจริงๆ ผมเคยมีความสุขที่สุดเพราะผู้ชายคนนี้ และผมเคยเศร้ามากที่สุดเพราะผู้ชายคนนี้ เขาเคยมีอิทธิพลกับชีวิตผมมาก มากกว่าตัวผมเองซะอีก

    “มันไม่น่าจดจำขนาดนั้นเลยหรอ” ที่เต๋าถามมาเป็นคำถามที่ดีนะ ความทรงจำพวกนั้นมันไม่น่าจดจำจริงๆหรอ ผมตอบตัวเองได้ทันทีว่าไม่จริงหรอก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนน่าจดจำ เพียงแต่...

    “เปล่า....ก็แค่ไม่รู้จะจำไปทำไม ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องจำในสิ่งที่จะทำให้ตัวเองต้องเป็นทุกข์...เป็นประโยคที่คชาเคยบอกผมไว้ คชาอยู่เป็นเพื่อนผมตลอดในช่วงเวลาที่เต๋าเลิกกับผมใหม่ๆและไม่ยอมคุยกับเต๋าเป็นเดือนๆ จนผมอดสงสารเขาไม่ได้

    “ดูต้นมีความสุขดีนะ...เห็นแบบนี้เราก็ดีใจ” ผมเองก็ดีใจที่เห็นตัวเองมีความสุขได้อีกครั้ง เรื่องนี้คงต้องยกผลประโยชน์ให้เจ้าหมีของผมแล้วล่ะ

    “แต่ดูเต๋าไม่มีความสุขนะ...ตกลงว่าปัญหาคืออะไร... คชาหรอ” เพื่อนผมเป็นปัญหาสำหรับเต๋ามาหลายปีแล้ว เต๋าหลงรักคชา และผมก็มั่นใจว่าคชารักเต๋า เขาไปรักกันตอนไหนผมไม่รู้หรอก มารู้ตัวอีกที ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปจนยากที่จะเอากลับคืนมาแล้ว แต่เพื่อนผมกลับไม่ยอมรับเต๋า ไม่ว่าเขาจะทำยังไง หรือผ่านมานานแค่ไหนแล้วก็ตาม

    “ไม่รู้ซิ เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ไม่แน่ใจ....” เต๋าเว้นคำพูดไว้แค่นั้นแล้วเงยหน้ามองขึ้นฟ้า เสียงถอนหายใจหนักๆจากเขาทำให้ผมรู้ว่าเขากำลังสับสนกับอะไรบางอย่าง

    “ไม่แน่ใจอะไร” ผมถามย้ำ ไม่อยากปล่อยผ่านไปเฉยๆ เรื่องของเรามันยื้อเยื้อมานานเกินไปแล้ว

    “ไม่แน่ใจว่าปัญหามาจากคชา หรือจากเต๋าเอง” หรืออาจจะมาจากผม

    “ถ้าเต๋าย้อนเวลากลับไปได้ เต๋าจะทำยังไง” ยังจะทำผมเจ็บเหมือนเดิมมั๊ย ยังจะทิ้งผมตากฝนเหมือนเดิมมั๊ย ยังจะหลงรักเพื่อนผมเหมือนเดิมมั๊ย

    “เต๋าทำผิดกับต้นไว้เยอะ แต่ถึงย้อนเวลากลับไปได้ เต๋าก็จะทำเหมือนเดิม ผมดีใจที่เต๋าตอบแบบนี้นะ เพราะแสดงว่าเขารักเพื่อนผมจริงๆ

    “เต๋าดีใจนะที่ต้นเริ่มคบใครจริงจังสักที...แต่บางที...มันก็รู้สึกแปลกๆ ความสับสนฉายชัดในแววตา เขาเลือกที่จะมองตรงไปข้างหน้ามากกว่าที่จะมองหน้าผม

    “มันเหมือน...เต๋ากำลังเสียอะไรบางอย่างไป” นี่คงเป็นสาเหตุของสายตาที่ผมเห็นจากเขาเมื่อวันก่อน สายตาที่มีบางอย่างไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อสี่ปีก่อน

    “เต๋าลืมอะไรไปรึเปล่า...........เต๋าเสียต้นไปตั้งนานแล้วนะ” ถึงจะฟังดูเป็นคำพูดที่แรง แต่ผมจำเป็นต้องพูดออกไป ไม่ใช่เพื่อตัดพ้อต่อว่า แต่เพื่อเตือนสติ ผมกับเขาขาดกันตั้งแต่คืนฝนตกหนักคืนนั้นแล้ว การที่เขาไม่มาหาผมวันนั้นเป็นการบอกให้ผมรับรู้ว่า เต๋าเลือกคชา

    เราทั้งสามคนควรจะออกจากวังวนนี้ได้แล้ว ไม่มีใครมีความสุขหรอก เต๋าเองก็เจ็บที่โดนคชาปฏิเสธมาตลอดหลายปี คชาเองก็เจ็บที่รับรักเต๋าไม่ได้ ผมเองก็เจ็บที่เหมือนเป็นตัวขัดขวางความสุขเพื่อน ผมถึงได้พยายามทำตัวเจ้าชู้ คบคนนู้นทีคนนี้ที เพราะอยากให้ทั้งคชาทั้งเต๋ารู้ว่าผมมีชีวิตใหม่แล้ว และไม่ใส่ใจกับเรื่องความรัก แต่ดูเหมือนทั้งสองคนจะไม่เชื่อผมซะเท่าไหร่ ผมหวังว่าการรักใครเป็นตัวเป็นตนครั้งแรกในรอบหลายปีของผมจะทำให้สองคนนี้ปลดผมออกจากอกพวกเขาได้ซะที

    นาฬิกาข้อมือเรือนสวยถูกหยิบออกจากกระเป๋ากางเกงของผม สายสีส้มตัวเรือนสีแดงมีความหมายในตัวของมัน นี่คือของชิ้นแรกที่เขาให้ผม

    ผมยื่นนาฬิกาเรือนสวยให้เต๋า เขาไม่ยอมรับมันไว้ ผมรู้ดีว่าเขาจำมันได้และจะไม่รับมัน ตอนเลิกกันผมเอาของทั้งหมดที่เขาเคยให้ไปคืน เขาบอกผมกลับมาคำหนึ่งว่า ...ทุกอย่างที่เต๋าให้ไปแล้ว เต๋าจะไม่เอาคืนเด็ดขาด... แต่ตอนนี้ผมอยากคืนให้เขาจริงๆ ผมยื่นนาฬิกาค้างไว้ตรงหน้าเต๋าไม่ยอมลดมือกลับ จนเขาต้องยอมรับนาฬิกาจากผมไป ผมพูดกับเขาโดยมองหน้าเขาตรงๆมองเข้าไปในตาเขาตรงๆ

    เวลาของเต๋า ต้นคืนให้ ทุกคำพูดของผมมีความหมาย ครั้งนี้ก็เหมือนกัน

    เวลาของเต๋าทิ้งไว้ที่ต้นนานเกินไปแล้วล่ะ” ผมยิ้มให้เขา เป็นยิ้มที่ออกมาจากใจ ยิ้มที่ออกมาพร้อมน้ำตา

    เวลาของต้นกำลังเดินใหม่ เวลาของเต๋าก็ควรเดินใหม่เหมือนกัน” ผมอยากให้เขาใช้เวลาเดินไปข้างหน้ากับคนที่เขารักโดยไม่ต้องพะวงอะไรอีกต่อไป เพราะผมเองก็กำลังใช้เวลาเดินไปกับคนที่ผมรัก...เจมส์

    ผมเห็นเต๋ายกมือขึ้นมาเหมือนจะเช็ดน้ำตาให้ผมแต่ก็ชะงักไว้แล้วลดมือกลับลงไป

    “เต๋าคงเช็ดน้ำตาให้ต้นไม่ได้แล้วล่ะ ตอนนี้ต้นมีคนทำหน้าที่นี้แล้ว และก็คงทำได้ดีกว่าเต๋ามากๆ” น้ำตาที่ผมไม่ได้เห็นมานานกำลังไหลออกจากดวงตาของผู้ชายที่ผมเคยรัก นานแล้วที่ผมเห็นเต๋าร้องไห้ จำได้ว่าครั้งสุดท้ายคือตอนที่คชาตบหน้าเขาเพราะรู้ว่าเขาบอกเลิกผม

    “ต้นก็หวังว่าจะเป็นอย่างงั้น...ไม่รู้รอบนี้จะโดนทิ้งอีกเปล่า” ผมพูดไปยิ้มไป ก็แค่อยากจะแซวเต๋าเล่น

    “ถ้าเจมส์กล้าทิ้งต้น เต๋าจะซัดให้หลับไม่ตื่นเลย” ทำมาเป็นพูดดีนะเต๋า ตัวเองก็เคยทิ้งผมแท้ๆ แต่ผมกลับรู้สึกดีนะ เพราะคำพูดของเต๋าทำให้ผมรู้ว่าอย่างน้อยผมก็ได้เพื่อนคนหนึ่งเพิ่มขึ้นมา เต๋าจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของผม

    “เพราะยังไง...ต้นก็คือคนๆแรกที่เต๋ารัก...เพราะฉะนั้นถ้ามีใครมาทำให้ต้นเสียใจล่ะก็ เต๋าอัดไม่เลี้ยงแน่” ผมขำกับท่าทางหักไม้หักมือเตรียมต่อยคนของเต๋า

    “ขอบใจนะ...เต๋าก็เป็นผู้ชายคนแรกที่ต้นรักเหมือนกัน...แต่หวังว่า คชาจะเป็นคนสุดท้ายที่เต๋ารักนะ”

    ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณมากจริงๆ ขอบคุณสำหรับความรักที่เคยมีให้กัน......... ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาแห่งความสุขที่มีด้วยกัน........ ขอบคุณที่เคยเดินเคียงข้างกัน.......... ขอบคุณที่ทำให้ได้รู้จักกับคำว่ารัก ...ขอบคุณที่เราเคยได้รักกัน...

    เต๋าลุกขึ้นล่ำลาผมและเดินกลับออกไป ผมไม่ได้เดินตามไปส่ง สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้คือการนั่งมองแผ่นหลังของเขาที่ค่อยๆเดินจากผมไป ถ้าบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยคงจะโกหก ภาพความทรงจำต่างๆซ้อนทับขึ้นมาตลอดเวลาที่เต๋าก้าวเดินออกไป

    ...แผ่นหลังแผ่นนั้นเคยเป็นที่พักพิงยามผมเหน็ดเหนื่อย

    ....แขนสองข้างนั้นเคยโอบกอดผมไว้ยามผมไม่สบาย

    ... สองมือคู่นั้นเคยจับจูงผมให้เดินต่อไปยามผมท้อแท้

     ...และผู้ชายที่กำลังเดินจากไปคนนั้น คือผู้ชายที่ครั้งหนึ่งผมเคยรัก

    ................................

    ................

    ผมยังนั่งอยู่ที่เดิมแต่คนที่นั่งข้างผมไม่ใช่คนเดิม เจมส์เดินมานั่งข้างผมหลังจากเต๋ากลับไปได้ไม่นาน แปลกนะที่วันนี้ผมได้นั่งข้างคนที่ผมเคยรักและคนที่ผมกำลังรักในวันเดียวกัน ในเวลาติดๆกันแบบนี้

    เราไม่ได้คุยอะไรกัน เขาเพียงแต่โอบไหล่ผมไว้ ให้ผมปล่อยน้ำตาไหลไปอย่างเงียบๆ ผมไม่ได้อยากร้องไห้หรอกนะ แต่น้ำตามันไหลออกมาเรื่อยๆเอง ผมไม่ได้เสียใจ ไม่ได้มีความรู้สึกเสียใจหรือเศร้าหรืออาลัยอาวรณ์ เพียงแต่...แค่น้ำตามันหยุดไหลไม่ได้เท่านั้นเอง

    ผมต้องขอบคุณเจมส์นะ ที่ยังใจเย็นนั่งอยู่ข้างๆผมได้โดยไม่พูดอะไรแบบนี้ ไม่รู้ไอ้เด็กนี่จะคิดยังไง จะคิดว่าผมรักเต๋ารึเปล่านะ ผลล่ะกลัวตรรกะแปลกๆของเจ้าหมีนี่จริงๆเชียว ผมเอนหัวพิงกับไหล่คนตัวสูงไว้ ไม่ได้อ้อนหรืออะไรหรอก ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์คิดเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ตอนนี้ผมแค่อยากได้ที่พักพิงจากคนที่รักผมและคนที่ผมรัก

    “พี่ต้น......................พี่ว่าผมเซตผมแบบนี้หล่อมะ” ห๊ะ!! อะไรของมันเนี่ย มาจับๆลูบๆผมตัวเองให้ตั้งๆตรงกลาง แล้วยื่นหน้ามาตรงหน้าผม อารมณ์ไหนของมันเนี่ย ผมเพิ่งจะหยุดร้องไห้ไม่ถึงนาทีมาคุยเรื่องเซตผมซะงั้น

    “ผมว่าทำแบบนี้หน้าผมต้องเกาหลีแน่ๆเลย ...ใช่ป่ะ” มาทำหน้าแอ๊บแบ๊วใส่ผมอีก อย่าบอกนะว่านี่เป็นวิธีการปลอบของเขาเนี่ย

    “คิดว่าหล่อมากป่ะ” ถึงน้ำตาจะยังไม่แห้งไปซะทั้งหมด แต่เจ้าเด็กบ้านี่ก็ทำผมอยากต่อปากต่อคำด้วยแล้ว

    มากไม่มาก พี่ก็หลงผมล่ะกัน” ช่างกล้า!!...รู้ได้ไงว่าผมหลงมัน ขี้ตู่ชะมัดเลย

    “เวิ่น!! ไม่รู้จะหาคำไหนมาด่ามันละ ถึงจะเหวี่ยงกลับไปแต่ผมกลับยิ้มออกมาได้ คงเพราะไอ้อาการเวิ่นเว้อของเขานี่แหละที่ทำให้ผมยิ้มออก

    “แล้วรักมั๊ยล่ะ” เจ้าเด็กกวนไม่พูดเปล่ายังล้มตัวลงนอนบนตักผมอีกด้วย ถ้าจะอ้อนกันขนาดนี้.......แล้วผมจะไปไหนได้

    “รักจ้ารัก พอใจยังจ๊ะ” รัก...ผมรักเขาจริงๆนะ ถึงจะเป็นความรักที่ใช้ความคิดแย่งชิงมา แต่ผมไม่ได้รักเขาจากความคิด ผมรักเขาจากความรู้สึกจริงๆ จากใจจริงๆ

    “ยังอ่ะ ยังไม่ค่อยพอใจ พี่ต้องบอกรักผมทุกวันผมถึงจะพอใจ” ยิ้มตาปิดซะขนาดนี้เป็นใครจะไปปฏิเสธลงล่ะ ผมได้แต่หัวเราะและพยักหน้ารับไป

    ผมมั่นใจว่าผมเลือกคนไม่ผิด ผู้ชายคนนี้พร้อมจะอยู่ข้างๆผมในทุกๆสถานะการณ์ ผู้ชายคนนี้ทำให้ผมหัวเราะได้ในเวลาที่ตัวผมยังบังคับตัวเองแค่ยิ้มยังไม่ได้เลย

    เวลาที่ผ่านไปกับใจที่มีให้เต๋ามันลดลง แต่สำหรับผู้ชายคนนี้ สำหรับเจมส์ เวลาที่ผ่านไปกับใจที่มีให้มันมีแต่มากขึ้นไม่มีน้อยลง บทเรียนจากความรักครั้งก่อนทำให้ผมเข้าใจอะไรหลายๆอย่าง ถึงแม้อนาคตเป็นสิ่งที่เราบังคับควบคุมไม่ได้ แต่ผมจะไม่ยอมให้ความรักที่เจมส์มีให้ผมน้อยลง ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม ผมจะทำให้เขารักผมตลอดไป...

    …………………………………….

    คุณเคยทำตัวร้ายกาจมั๊ย

    คุณรู้มั๊ยทำไมเขาถึงทำตัวร้ายกาจ

    อะไรที่ผลักดันให้เขาทำตัวร้ายกาจ

    ความร้ายกาจอาจเป็นเพียงเครื่องปกปิดความอ่อนแอ

    …………………………………….

     

     

    และมันก็คือตอนที่สี่ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด สั้นไปหน่อยต้องขออภัย ตอนหน้าจะยาวมากแน่นอน

    พบกับบทสรุปความรักของทุกคู่ได้ใน Vicious ตอนที่5 นะคะ กาน้ำกราบขอบคุณทุกคอมเม้นทุกกำลังใจเลยค่ะ จุ๊บๆๆๆ>o<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×