คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Fic TonJames ตอนพิเศษ Vicious: ICE เต๋าคชา คู่หลัก ต้นเจมส์ ฟินเบาๆ
มีNC สวนด. เบาๆนะคะ ไม่ชอบกรุณาข้ามไปนะคะขอบคุณมากค่ะ
สำหรับตอนนี้ เต๋าคชา คู่หลัก ต้นเจมส์ ฟินเบาๆ
กราบขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มอบให้นะคะ
Fic นี้เป็นเพียงจินตนาการส่วนตัวของผู้แต่ง
ไม่ได้อิงชีวิตจริงแต่อย่างใด
ใช้เพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะคะ
ถ้าไม่ชอบกรุณาปิดไปนะคะ เราไม่ตีกะใคร ขอบคุณค่ะ
......
อยากให้มองเป็นผลงานการเขียนเรื่องหนึ่ง เป็นเพียงบทละคร ไม่ควรนำมาเกี่ยวข้องกับชีวิตจริงแต่อย่างใด
......
Fic TonJames ตอนพิเศษ Vicious : ICE สวนด. ต้นเจมส์
Type: AU PG-15 และ NC-20บางตอน
เขียนขึ้นโดยจินตนาการล้วนๆ ไม่ได้มีพื้นฐานมาจากเรื่องจริงแต่อย่างใด จะคงไว้แค่เพียงหน้าตาตัวละคร และอาจจะเป็นลักษณะนิสัยเล็กๆน้อยๆ ใช้เพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะคะ
เย็นชา...ไม่ใช่ว่า ไม่คิดนึก
เย็นชา...ไม่ใช่ว่า ไม่รู้สึก
เย็นชา...ไม่ใช่ว่า ไม่รัก
......................................
.....................................
เสียงกริ่งประตูปลุกผมจากห่วงความฝันแสนสุข ผมสะกิดแขนคนข้างตัวเบาๆเป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายตื่นไปเปิดประตู คนตัวโตส่งเสียงงัวเงียและลุกจากเตียงออกไป เสียงกริ่งดังขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่ยอมหยุดง่ายๆทั้งยังกดเป็นจังหวะเหมือนรหัสมือเวลาเชียร์กีฬา แบบนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครมาอยู่หน้าประตูคอนโด กดแบบนี้แกล้งให้ตื่นกันชัดๆ ผมลุกตามคนตัวโตออกไป ว่าจะออกไปด่าไอ้คนกดกริ่งสักฉากสองฉาก
“ที่คอนโดตัวเองไม่มีกริ่งหรอ” เป็นการทักทายกันตามปกติของเพื่อนสนิท ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร อยากกัดก็กัดเลย
“มี แต่กดกริ่งที่นี่แล้วมีความสุขกว่า” คนกดกริ่งตอบแบบไม่ใส่ใจ คงเพราะกำลังง่วนอยู่กับการพับแขนเสื้อให้แฟนตัวเอง
ต้นมาหาผมแต่เช้าวันเสาร์แบบนี้เพราะเขามีธุระต้องทำที่คณะ เป็นกิจกรรมภายในเลยไม่สะดวกพาเจมส์ไปด้วยจึงเอามาฝากไว้ที่คอนโดเต๋าเนี่ยละ
“อ๊ะ...ฝากด้วยนะ” ส่งกระเป๋าเป้ให้ผมพร้อมกับผลักๆหลังแฟนตัวเองเข้ามาในห้อง ดูท่าทางเจมส์คงเพิ่งจะโดนขุดออกมาจากเตียงมาแน่ๆ
“เต๋า...เอาไปเก็บที” ผมไม่ได้หมายถึงแค่กระเป๋าเป้ใบใหญ่นะแต่หมายถึงเจ้าเด็กนี่ด้วย ท่าทางถ้าปล่อยให้ยืนต่อเดี๋ยวจะได้ยืนหลับมันหน้าประตูเนี่ยแหละ
“แล้วอย่าปล่อยให้ไปไหนมาไหนคนเดียวล่ะ” เออเว้ย เพื่อนผมนี่ถ้าจะเป็นเอามาก มันห่วงหรือมันหวงกันแน่เนี่ย ตัวเองไม่ว่างแทนที่จะส่งเจมส์กลับบ้าน ไม่อ่ะ เอามาไว้ที่เพื่อนซะงั้น
“เป็นแฟนหรือเป็นแม่วะเนี่ย” แม่ติดงานไม่อยู่บ้านต้องเอาลูกมาฝากไว้กับเพื่อน สงสัยในเป้คงจะมีแต่ของที่ต้นจัดมาให้แน่ๆ
“เป็นพี่น้อง เข้าใจมะ” ผมขำทันทีที่ได้ยินคำตอบของเพื่อนตัวเอง เออ...พี่น้อง บอกใคร ใครเขาก็คงเชื่อ...เชื่อตายล่ะ
“จ้าๆ พี่ชายผู้แสนดีรีบไปเหอะ เดี๋ยวสายนะ” เพราะรู้ว่าเพื่อนมีงานเช้าเลยต้องรีบเตือน ผมโบกไม้โบกมือให้ แต่ก่อนที่ต้นจะเลี้ยวมุมทางเดินไปเจ้าตัวหันมาสั่งผมว่า...
“อย่าลืมให้อาหารด้วยนะ” พูดเสร็จก็รีบเดินจากไป เออ...ตกลงนี่มันแฟนแกจริงๆใช่มั๊ยเนี่ยต้น เพลียกับเพื่อนผมจริงๆ
ไหนๆก็ตาสว่างแล้วก็ตื่นมันจริงๆเลยละกัน ตอนแรกตั้งใจวว่าจะให้คนตัวโตไปอาบน้ำก่อนแต่พอเดินเข้าไปห้องนั่งเล่นเท่านั้นแหละ ทั้งเจมส์ทั้งเต๋าต่างพร้อมใจกันนั่งหลับอยู่บนโซฟา... ช่างเหอะ ผมอาบน้ำก่อนก็ได้แล้วค่อยไปหาอาหารให้สองคนนี้กิน
อาหารเช้าเป็นสิ่งสำคัญของชีวิตเรา ต้องกินมื้อเช้าให้เพียงพอจะได้ไม่อ้วน โดยเฉพาะคนเล่นกีฬาแบบผู้ชายสองคนที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวตอนนี้ แต่ปัญหาคือผมจะเอาอะไรให้กินดีน่ะซิ
“หนุ่มๆ กินไข่ต้มมั๊ย” ไข่ต้มก็มีคุณค่าทางอาหารนะ เต๋าก็ชอบกินด้วย เจมส์ก็น่าจะกินได้นะ
“กินคร๊าบบบบบบ / เต๋าเอาสองฟอง” โอเคเมนูที่หนึ่งไข่ต้มถือว่าผ่าน เมนูที่สอง เอาที่ผมอยากกินมั่งละนะ....แร๊บบิท ผมจัดการแกะแร๊บบิทใส่ไมโครเวฟไปหกตัว คนละสองตัวน่าจะกำลังดี ต่อไปเมนูที่สาม....เช้าๆแบบนี้ โกโก้ร้อนล่ะกัน
“เต๋า เจมส์ กินโกโก้มั๊ย” แน่นอนว่าเสียงที่ได้รับกลับมาคือกิน ผมว่าดูท่าทางอะไรมันก็จะกินหมดแน่ๆ ต่อไปคงไม่จำเป็นต้องถามให้เสียเวลา ผมหยิบกระปุกโกโก้ นมข้นหวานกับน้ำตาลลงบนโต๊ะอาหาร ก็ประมาณว่าให้แต่ละคนชงเองอ่ะนะ จะได้ถูกใจตัวเอง
“ชงให้หน่อยคชา...” สบายไปมั๊ยพ่อคุณ มือเอาไว้ทำอะไร นั่งรอกินอยู่เฉยๆ สงสัยผมคงทำให้ซะจนเคยตัว ถึงจะไม่ตลอดเวลาแต่เจ้าตัวก็ดูจะติดใช้คำพูดแบบกึ่งคำสั่งกับผมเสมอ
“แค่โกโก้ชงเองไม่เป็นหรอไง เจมส์ยังชงเองเลย” ผมพยักเพยิดไปทางเด็กตัวสูงที่ตอนนี้ตั้งหน้าตั้งตาตักโกโก้ใส่แก้วของตัวเองอยู่ อดจะชมเพื่อนขึ้นมาหน่อยๆไม่ได้ว่าต้นมันก็สอนมาดีเหมือนกันนะ
“ชา..ชงให้หน่อย” อะไรวะ เออ ชงให้ก็ได้ มาทำตาวิบวับอะไรต่อหน้าเด็ก เดี๋ยวเถอะนะ เดี๋ยวก่อนๆ ให้ลับหลังเจมส์ก่อนเถอะ
“อ่ะ...เอาออกมาแล้วเก็บด้วย” เขายื่นขวดโหลโกโก้ให้ผมเอาไปเก็บเข้าตู้ อ่านะ...มีแฟนแบบนี้ ฆ่าเอาเงินประกันซะดีมั๊ย
“เดี๋ยวค่อยเก็บ” จริงๆเก็บเลยก็ได้นั่นแหละ แต่มันหมั่นไส้นิหน่า นั่งเฉยๆแล้วยังจะสั่งอีก
“บอกให้เก็บ” ทำมาเป็นทุบโต๊ะพูดจาขึงขัง ถึงจะรู้ว่าแหย่เล่นแต่มันก็ทำให้รู้สึกไม่อยากแพ้อ่ะ
“ก็บอกว่าเดี๋ยวค่อยเก็บ” ผมทุบโต๊ะกลับบ้าง ก็จะไม่ยอมอ่ะถึงจะแหย่เล่นก็เหอะ ชงให้แล้วยังจะมาบังคับให้เก็บของอีก นี่ถ้าเถียงผมอีกคำนะจะเปลี่ยนจากทุบโต๊ะเป็นทุบหัวเลยคอยดู
“งั้นผมเก็บให้เอง” เด็กตัวสูงคงจะทนผมสองคนไม่ไหวหรือกลัวจะมีการตบตี เจมส์เดินมาจัดการเก็บทุกสิ่งอย่างเข้าตู้ซะเรียบร้อยเลย มีแฟนเด็กมันก็ดีอย่างนี้นิเองซินะ รู้สึกเข้าใจเพื่อนขึ้นมานิดๆละ
“ทำไมพี่สองคนถึงพูดกันหวานๆแบบคนเป็นแฟนกันไม่ได้นะ” ถึงจะดูเหมือนเป็นการเวิ่นปกติของหมีเจมส์ แต่ผมกลับรู้สึกแปลกๆในใจ ไม่ใช่ว่าไม่อยากหวานนะ เพียงแต่ผมเย็นชาใส่เต๋ามานานสองนาน พอมาเป็นแฟนกันแล้วจะมาให้หวานเลย มัน...ทำไม่ได้อ่ะ
.........................
........................................
เล่นเกมส์ วันอาทิตย์แบบนี้ต้องเล่นเกมส์ รู้สึกว่าเทพแห่งเกมส์ทั้งสามคนจะมาอยู่รวมกันแล้วถ้าไม่เล่นเกมส์ มันก็เหมือนกินส้มตำไม่มีข้าวเหนียว...เกี่ยวกันมะ แต่ช่างเหอะ เอาเป็นว่าจะเล่นเกมส์ละกัน โชว์ความเทพให้เด็กมันดูหน่อย
“พี่เต๋า พี่คชา...” เสียงเจมส์เรียกความสนใจจากผมแต่ว่าตากับมือของผมยังอยู่กับเกมส์
“พี่สองคนยังไม่เคยมีอะไรกันหรอ” ผมได้ยินเสียงจอยเกมในมือผมกะเต๋าล่วงพร้อมกันหลังจากได้ยินคำถาม
“คือ...ถามทำไมอ่ะเจมส์” ผมรู้ว่าเจมส์เป็นคนช่างพูด ถ้าลองเปิดประเด็นอะไรขึ้นมาแล้วนิ ต้องต่ออีกยาว ไม่จบง่ายๆแน่ แล้วไอ้คนที่จุดประเด็นใส่เด็กมาแบบนี้ มันจะต้องการแกล้งผมแน่ๆ
“พี่ต้นบอกว่าพี่สองคนผิดปกติอ่ะ จริงๆเจมส์เองก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่นะ” ผมว่าแล้วว่าต้องเป็นไอ้เพื่อนตัวดีของผม ไอ้ร้ายกาจ กรอกข้อมูลอะไรผิดๆมาให้เด็กมันอีกเนี่ย
“ผิดปกติอะไรอ่ะ” ผมถามไปเพราะอยากรู้ว่าอีกฝ่ายโดนฝังข้อมูลอะไรมาในสมองบ้าง
“พี่ต้นบอกว่าพี่เต๋าอ่ะเสื่อม...ส่วนพี่คชาก็ตายด้าน” ตอนนี้ผมอยากฆ่าเพื่อนตัวเองทิ้งมาก ย้ำว่า มาก!!
“เฮ้ยยย...พี่ไม่ได้เสื่อมนะเว้ย ใส่ความ นี่เป็นการใส่ความกันชัดๆ” พอเรื่องแบบนี้ละร้อนตัวเชียวนะ ผมรู้ว่าเต๋าเป็นผู้ชายที่แข็งแรงดีไม่ได้เสื่อม...อย่างที่โดนว่า ผมรู้อยู่แก่ใจเพราะเราอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา กินข้าวด้วยกัน นอนเตียงเดียวกัน ผมรู้ว่าเขาต้องการแบบที่ผู้ชายปกติต้องการ เพียงแต่เขาไม่ทำ เพราะ รอให้ผมเป็นฝ่ายยอม
“อ้าว แล้วทำไมพี่ถึงยังไม่มีอะไรกันอ่ะ” เจ้าเด็กน้อยหันหน้าไปหาเต๋าทีหาผมที เมื่อทั้งเต๋าทั้งผมไม่มีคำตอบให้เด็กน้อยเลยสรุปคำตอบให้เอง
“หรือว่า...พี่คชาทำไม่เป็น” คำพูดเจมส์ผมรู้สึกว่ามันแปลกๆอยู่นะ ถ้าดูจากตำแหน่งกันจริงๆแล้ว ผมต้องเป็นคนทำหรอ อะไรวะ..งง
“โห่พี่...ให้พี่ต้นสอนก็ได้ขานั้นเขาเก่งขั้นเทพ” ครับ พ่อคุณ ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่าพี่ต้นของน้องเจมส์เก่งมาก เก่งซะจนเด็กใจแตกหมดแล้วเนี่ย มันสอนกันมาดีจริงๆ
“เจมส์...พี่จะบอกอะไรให้นะ บางทีคนรักกันเขาก็ไม่จำเป็นต้องมีเรื่องsexก็ได้” ผมอดที่จะลดเกมส์ลงแล้วหันไปมองเต๋าไม่ได้ ผมอยากเห็นสายตา แววตา สิ่งที่ฉายออกมาจากดวงตาคู่นั้น ว่ามันสะท้อนอะไรออกมาขณะที่เขาพูด... ความจริงใจ คือสิ่งที่ผมเห็น แต่ สัญชาตญาณของผมกลับบอกว่ายังมีอะไรบางอย่างติดอยู่ในความรู้สึกของคนพูด
“พี่ต้นบอกว่าที่เราทำกันมันไม่ใช่sex” เพื่อนผมไปหลอกอะไรเด็กอีกละเนี่ย
“แต่เป็นmake loveอ่ะ...เป็นการแสดงออกถึงความรักโดยใช้ร่างกาย” ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องแลคเชอร์ฟังอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญอธิบายอะไรสักอย่างอยู่ ถึงจะฟังดูไร้สาระแต่ถ้าคิดตามมันก็มีส่วนจริง สำหรับผมสิ่งนั้นคือการแสดงออกถึงคำว่ารัก เพราะถ้าไม่รักก็ทำไม่ได้
“บางครั้งการแสดงออกว่ารัก ด้วยคำพูด ด้วยตัวอักษร หรือแม้แต่การกระทำโรแมนติค ก็ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกรักได้เท่าการใช้ร่างกายนะ” ถ้อยคำที่ได้ยินทำเอาผมอดกลับมาคิดย้อนถึงตัวเองไม่ได้
“อีกอย่างถ้าเราไม่ทำนะพี่ แล้วมีคนอื่นมาทำแทน พี่จะมาเสียใจทีหลังนะ” เป็นการตัดจบที่ทำเอาคนฟังอย่างผมสะอึกเลยทีเดียว คนอื่นมาทำแทนงั้นหรอ จะว่ากันตามจริงเต๋าก็รอผมมานานหลายปีแล้วนะ ถ้าเขาเกิดเบื่อที่จะรอ หรือควบคุมธรรมชาติของผู้ชายไม่ได้ ไปหาคนอื่นทนล่ะ ผม...ผม...โอ๊ย...คิดแล้วใจคอไม่ดียังไงไม่รู้
....การเล่นเกมส์ยังดำเนินต่อไปจนเกือบเย็น เสียกริ่งหน้าห้องบอกให้รับรู้ว่ามีคนมา เสียงกริ่งดังต่อเนื่องเป็นรหัสมือบอกให้รู้ว่าพี่ชายมารับน้องชายกลับบ้านละ
“ไง...เสร็จงานแล้วหรอ” ผมทักทายเพื่อนสนิทเมื่อเปิดประตูให้อีกคนเข้ามาในห้อง
“หมีน้อยอยู่ไหนเนี่ย” ได้ข่าวว่าผมเป็นเพื่อนมันนะ ...แทนที่จะทักผม ถามหาสามีก่อนเลยนะ ไอ้ขี้หวง
“นั่งเล่นเกมส์อยู่ในห้องนั่งเล่น...เข้าไปก่อนเปล่า” ผมทักเพราะเห็นต้นยังไม่ถอดรองเท้าสักที
“ไม่อ่ะคชา พอดีเรารีบน่ะ มีธุระต่อนิดหน่อย...เจมส์จ๋า กลับได้แล้ว คุณแม่รอกินข้าวอยู่นะ” อ้อ...มีนัดกินข้าวกับญาติผู้ใหญ่เลยต้องรีบซินะ แต่ไอ้เสียงอ่อนเสียงหวาน จ๊ะจ๋าเนี่ย ฟังแล้ว...ขนลุกแปลกๆนะ เกิดมาผมเพิ่งเคยเห็นเพื่อนตัวเองอ่อนให้ขนาดนี้เป็นครั้งแรก ถึงจะรู้ว่ามันคือสิ่งที่คนรักควรทำให้กัน แต่มันก็ยังหวานเลี่ยนเกินไปในสายตาผม ไม่เห็นจำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้นเพื่อให้ใครมารักเราซะหน่อย
“ไปก่อนนะคชา..พรุ่งนี้เจอกัน” ต้นล่ำลาทันทีเมื่อเด็กตัวสูงกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาพร้อมกับกระเป๋าเป้ที่สะพายขึ้นบ่าไว้ เจมส์ยกมือไหว้ผมแล้วเหมือนจะเดินตามต้นออกไปแต่ชะงักเท้าไว้และหันกลับมาหาผม สายตาจริงจังที่ส่งมาบอกให้ผมรับรู้ว่า ต้องตั้งใจฟังสิ่งที่เจมส์จะพูด
“ผมเตือนพี่นะ...ถ้าพี่ยังทำตัวเย็นชาเป็นน้ำแข็งไม่มีวันละลายอยู่แบบนี้ พี่จะเสียพี่เต๋าไป อย่างที่พี่คาดไม่ถึง พอมารู้ตัวอีกที พี่ก็จะมานั่งเสียใจกับความเย็นชาของตัวเอง” คำพูดจากเด็กธรรมดาๆคนหนึ่งกลับแทงเข้าไปในหัวใจผมจนเหมือนหายใจไม่ออกไปชั่วขณะ ... ผมจะเสียเต๋าไปเพราะความเย็นชาของตัวเองงั้นหรอ
..................................
...............................................
“ชา..ไปอาบน้ำ” เต๋าเดินมาเรียกผมขณะที่ผมกำลังนั่งเล่นเปียโนไฟฟ้า ในหัวของผมตอนนี้มีเรื่องที่ต้องการคิด
“เต๋าไปอาบก่อน เดี๋ยวชาตามไป” บางอย่างยังรบกวนจิตใจผมเกินกว่าที่ผมคาดไว้ ถึงรู้อยู่แก่ใจว่าควรทำอะไรแต่มันก็ยังลังเลอยู่ในที
“คชา...เป็นไรป่าว คิดไรอยู่” เขารู้ว่าผมกำลังคิดมาก หรืออยู่ในอารมณ์ไหน เป็นความสามารถที่เต๋ามีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ผมไม่เคยเจอใครที่เข้าใจผมมากขนาดนี้มาก่อน
“เปล่า...แค่ขี้เกียจอาบอ่ะ” ผมโกหก ไม่ใช่ว่าขี้เกียจอาบหรอก แต่ไม่มีแก่ใจมากกว่า เหมือนเรื่องบางอย่างค้างคาใจจนไม่อยากจะทำอะไรอื่นนอกจากคิดถึงเรื่องนั้น
“งั้นเดี๋ยวเต๋าอาบให้” ผมรู้ว่าเขาแหย่เล่น รู้ว่าเขาต้องการให้ผมหยุดคิดเรื่องเครียดๆ รู้ว่าเขาต้องการให้ผมตึงตังใส่เหมือนทุกครั้งที่เขามาพูดจาสองแง่แบบนี้ ผมคงจะทำเหมือนทุกครั้ง แต่วันนี้ผมกลับทำไม่ได้ คำพูดของเจมส์เหมือนลอยวนไปมาอยู่ในสมองผมไม่ยอมหยุด...ถ้าพี่ยังทำตัวเย็นชาเป็นน้ำแข็งไม่มีวันละลายอยู่แบบนี้ พี่จะเสียพี่เต๋าไป อย่างที่พี่คาดไม่ถึง...
“อืม...ไปซิ” ผมตอบกลับไปแบบนั้น เต๋าดูจะตกใจกับคำตอบของผม อย่าว่าแต่เต๋าเลย ผมเองพอพูดไปแล้วยังแอบตกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ผมตัดสินใจแล้ว เมื่อรักแล้ว ก็ควรจะแสดงออกให้เขาเห็นว่า ผมรักเขา
........................................
.......................................... มันเป็น NC เบาๆ นะคะ กาน้ำว่าน่าจะเบากว่าตอนที่ผ่านๆมานะคะ
ตามธรรมเนียมค่ะ ของNCได้ที่ ทวิต@nansuku หรือหลังไมค์พันธ์ทิพ กาน้ำเดืดแล้วค่ะ
............................................
สติผมเริ่มพล่าเลือนเหมือนตัวเองกำลังจะเข้าสู่นิทราอย่างควบคุมไม่ได้ แต่ผมมีบางอย่างที่ผมอยากบอกเขา อยากบอกตอนนี้ วินาทีนี้ ผมพยายามต่อสู้กับร่างกายตัวเองเปิดปากเพื่อกระซิบคำพูดสองประโยคออกมา
“ขอบคุณที่รอชา... คชารักเต๋านะ” ผมรับรู้ถึงริมฝีปากอุ่นที่ทาบทับมาหลังจากที่ผมพูดจบ จูบอ่อนนุ่มพาให้เคลิบเคลิ้มเชิญชวนผมเข้าสู่ห้วงนิทราแสนหวาน
..................
................................
ผมกดโทรศัพท์โทรออกเป็นรอบที่สาม เสียงรอสายดังวนอยู่นานจนเกือบตัดกว่าปลายสายจะยอมกดรับขึ้นมา การที่ให้ผมรอนานกว่าจะรับสายแบบนี้ถ้าเป็นปกติผมคงจะวีนเหวี่ยงใส่ แต่สำหรับเช้าวันนี้ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีเลยล่ะ
“หวัดดีต้น” ยิ่งปลายสายที่รับเป็นเต๋าแทนที่จะเป็นเจ้าของโทรศัพท์ผมยิ่งดีใจจนหุบยิ้มไม่ได้
“เต๋า...ทำไมคชาไม่มารับสายอ่ะ ต้นรอสายตั้งนาน” ใช่ๆๆๆ ทำไมไม่มารับสาย บอกมาตามตรงเดี๋ยวนี้นะ
“คือ...ชาเขา...คือ...ยังไม่ตื่นน่ะ” ยังไม่ตื่นหรอ สายขนาดนี้ไม่มีทางที่คชาจะยังไม่ตื่นหรอก นอกจากว่าเมื่อคืนจะ...นอนดึก แล้วยังทีท่าอึกอักที่จะตอบของเต๋าอีก หึหึหึ...เรียบร้อยแล้วล่ะซิ
“หรอ...งั้นไม่เป็นไรฝากบอกด้วยแล้วกันว่าต้นโทรมา” ผมกดว่างสายไปก่อนจะปล่อยขำออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ จนคนที่นอนเคียงข้างลืมตาขึ้นมาดูว่าเป็นอะไร
“มีไรอ่ะ มีไรดีๆไม่ยอมบอกผม” เจ้าหมีของผมขยับตัวเข้ามาใกล้ กระชับวงแขนรอบตัวผมให้แน่นขึ้น ใบหน้าซุกไซร้ไปมาอยู่ที่คอเรียวของผม
“เรื่องเต๋าคชาน่ะ เรียบร้อยแล้วนะ” แน่นอนผมรู้ว่าเรียบร้อยโรงเรียนเต๋าแล้ว ผมอุส่าห์วางแผนให้เจมส์ไปปั่นหัวสองคนนั้นโดยเฉพาะคชา เพื่อนผมรายนี่น่ะ ถ้าไม่เอาอะไรไปกระตุ้นก็จะทำเย็นชาไปเรื่อย ขืนปล่อยไปเรื่อยๆเต๋าได้แห้งเหี่ยวหัวโตตายแน่
“จริงดิ แปลว่าผมนี่ก็เก่งอยู่นะ ...เก่งป่ะ พี่ต้น ผมเก่งป่ะ” ไอ้เด็กขี้อ้อน ทำมาเป็นขอคำชมนะ ถามเฉยๆก็ไม่ได้นะ ต้องจมูกมาถูกไปมากับแก้มผมด้วย
“จ้า จ้า เก่งที่สุดอ่ะ” ก็ต้องชมล่ะนะเพราะว่าทำงานดีจริงๆ เริ่ด!! ทีนี้เพื่อนผมก็จะได้มีความสุขที่ได้รักกันจริงๆซะที
“งั้น....ขอรางวัลให้คนเก่งหน่อยซิครับ พี่ต้น” เด็กบ้านี่ ได้ทีก็ไม่มีปล่อยเลยนะ ไอ้เด็กหื่น ทำมาเป็นขอรางวัล แต่ตัวน่ะขึ้นมาคร่อมผมไว้แล้ว เชื่อเลยว่าถึงแผนที่ทำไปไม่สำเร็จเจ้าหมีหื่นนี่ก็ต้องหาข้ออ้างมากดผมอยู่ดีแหละ วันนี้กว่าผมจะได้ลุกจากเตียงจริงๆคงจะเป็นเวลาเดียวกับเพื่อนผมลุกจากเตียงแน่เลย ผมมาคิดๆดูแล้ว ไม่ว่าจะร้ายกาจ หรือเย็นชา พอเจอกับคนที่เรารัก ก็ไปไม่เป็นกันทั้งคู่แหละ
.......................................... .......................................... .......................................... ..........................................
...............................................................จบภาคพิเศษ ICE ......................................................................
เมื่ออ่านจบทั้งตอนรวมช่วงNCด้วยแล้วก็คงเข้าใจว่าทำไมตั้งชื่อว่า ICEนะคะ
ฝากติชมกันด้วยนะคะ เจอกาน้ำอีกทีในเรื่องหน้าค่ะ Just You
ความคิดเห็น