ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กิ๊กหัวใจให้ลงล๊อก (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #25 : ของรัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.19K
      10
      26 พ.ค. 53

    และแล้วก็หมดช่วงวันหยุดยาวฉลองปีใหม่ เฉินลองก็มารอรับนายหญิงของเขาที่หน้าร้านพร้อมกับกล่องของขวัญกล่องใหญ่ รัตเกล้าเดินออกมาส่งมินจูที่หน้าร้านเหมือนอย่างเคย แต่มาในครั้งนี้เธอกลับรู้สึกใจหายเมื่อมินจูต้องจากเธอไปอีกครั้ง ร่างสูงที่เดินนำหน้ารัตเกล้าเข้าไปหาบอดี้การ์ดคนสนิท รับกล่องของขวัญที่เฉินลองส่งให้นำมายื่นให้เธอ รัตเกล้ามองหน้ามินจูอย่างงงๆก่อนที่จะเอ่ยถาม

    “อะไรอีกล่ะค่ะ คุณเพิ่งซื้อโทรศัพท์ให้ฉันเองนะค่ะ”

    “ของสิ่งนี้มันเป็นของเธอ ฉันคืนให้”มินจูเอ่ยเสียงเรียบ

    รัตเกล้ารับกล่องของขวัญนั้นมาก่อนที่จะค่อยๆแกะออกดู เพียงแค่เปิดฝากล่องของออกเท่านั้น รัตเกล้าก็ถึงกับตาลุกแววด้วยความยินดี เพราะในกล่องใบนั้นมีไม้คมแฝกเล่มที่เธอเอาติดตัวมาจากเมืองไทย

    “คมแฝกเล่มนี้ เฉินลองเขาเก็บไว้ให้ ฉันเลยสั่งให้ช่างขัดเงาทำเหลี่ยมให้สวยเหมือนเดิม หวังว่าเธอคงจะถูกใจนะ”

    “ถูกใจ! ถูกใจมากค่ะ ขอบคุณค่ะ คุณมินจู”ด้วยความดีใจทำให้รัตเกล้าโผเข้าไปกอด พร้อมกับหอมที่แก้มเนียนฟอดใหญ่ ทำเอาร่างสูงถึงกับแก้มแดงระเรื่อ รัตเกล้ามองคมแฝกเล่มใหม่ของเธออย่างชื่นชม

    “ได้เวลาแล้วครับ นายหญิง เดี๋ยวจะตกเครื่องนะครับ”เฉินลองเอ่ยขึ้นทำลายบรรยากาศหวานๆให้กลายเป็นเรื่องเศร้า

    “แล้วอาทิตย์หน้า ฉันจะมาหาเธอใหม่นะ”มินจูเอ่ยทิ้งท้ายก่อนที่จะขึ้นไปนั่งที่เบาะด้านหลังรถโดยมีเฉินลองทำหน้าที่เป็นสารถีให้

    รถยนต์คันใหญ่แล่นไกลออกไปโดยมีสายตาที่แสดงถึงความอาวรณ์มองจนรถคันนั้นลับหายไป

     

    “นายหญิงครับ ผมคิดว่านายหญิงจะไว้ใจผู้หญิงคนนี้มากเกินไปแล้วนะครับ”เฉินลองเอ่ยขึ้นขณะขับรถ

    เขาสังเกตเห็นแววตาที่อ่อนโยนของนายสาว ตั้งแต่เขาไปรับกลับมาจากร้านอาหารจานด่วนแล้ว ซึ่งตัวเขาเองนั้นก็ไม่ได้เห็นแววตาเช่นนี้ของนายสาวมานานแล้วนับตั้งแต่เสียท่านรุ่นก่อนไป แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะสามารถเปลี่ยนแปลงนายหญิงที่ไร้แม้แต่รอยยิ้มให้กลับมาเป็นดั่งผู้หญิงธรรมดาได้

    “แล้วอะไรทำให้นายคิดว่าโรสจะคิดไม่ซื่อกับฉัน”

    “ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น เพียงแค่ผมแปลกใจที่นายหญิงเปลี่ยนไป”

    มินจูถึงกับขมวดคิ้วมองสายตาของบอดี้การ์ดหนุ่มที่สะท้อนจากกระจกส่องด้านหน้า

    “ฉันน่ะรึ เปลี่ยนไป?”

    “นายหญิงคงจะยังไม่รู้ตัว ว่าตอนนี้นายหญิงได้เปลี่ยนไปแล้ว”คำตอบของเฉินลองทำให้มินจูถึงกับฉุดคิด เธอน่ะหรือเปลี่ยนไปแล้วที่ว่าเปลี่ยนนี่มันหมายถึงเปลี่ยนไปแบบไหนกันนะ แล้วมันก็กลายมาเป็นคำถามในใจที่มินจูต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง

     

    เสียงกดกริ่งดังมาจากประตูหน้าห้อง ทำให้ร่างบางที่นอนขดอยู่ใต้ผ้าห่มพร้อมกับอีกร่างหนึ่งสะดุ้งตัวตื่นขึ้น ซูซานลุกขึ้นมาจากเตียงคว้าผ้าคลุมชุดนอนเดินเดินออกไปยังหน้าประตูห้องนั่งเล่นอย่างนึกเคือง โดยทิ้งร่างใหญ่ให้นอนอยู่เพียงลำพังภายในห้องนอน

    “นั้นใครน่ะ”ซูซานเอ่ยผ่านเครื่องอินเตอร์โฟน

    “ผมเองครับคุณซูซาน”ผู้มาเยือนตอบกลับ

    “นายเองหรอ เข้ามาสิ”เธอเปิดประตูรับผู้มาเยือน

    ร่างสูงในชุดเสื้อโค้ทและผ้าพันคอจนหนา ส่งซองสีน้ำตาลให้พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า

    “ผมได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วครับ”

    ซูซานมองซองสีน้ำตาลนั้นก่อนที่จะเปิดออกดูสิ่งที่อยู่ข้างใน หล่อนถึงกับเบิกตากว้างเมื่อในซองสีน้ำตาลนั้นมีรูปภาพของผู้หญิงที่หล่อนรู้จักเป็นอย่างดี ภาพในอิริยาบถต่างๆของมินจูกับหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ซูซานเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนดึงความสนใจของหล่อนไว้ ซูซานทบทวนความทรงจำของตัวเองจนจำได้ว่าผู้หญิงที่หล่อนเห็นในรูปนี้คือคนๆเดียวกันกับที่หล่อนเคยเห็นว่าออกมาจากห้องของมินจู ตอนที่หล่อนแอบไปสังเกตการณ์ที่เซี๊ยะเหมิน ดูจากรูปถ่ายพวกนี้แล้วดูเหมือนว่ามินจูให้ความสำคัญกับเธอไม่น้อย ถึงยอมให้ผู้หญิงคนนี้ควงแขนเดินแนบชิดเสียขนาดนี้

    “ผมติดตามจางมินจูเพื่อตามดูจุดอ่อนของมัน จนได้ภาพพวกนี้มา ไม่ทราบว่ามันพอจะใช้ได้มั้ยครับ”

    “ดีมาก ยอดเยี่ยมมาก ฉันจะตบรางวัลให้นายอย่างงาม”ซูซานฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างยินดี

    จังหวะนั้นเอง จ้าวสือที่กำลังนอนหลับอยู่เพลิดๆได้ยินเสียงของคนคุยกันแววออกมาจากหน้าห้อง จึงลุกออกมาดูเห็นว่าคู่ขาสาวแสนสวยกำลังหัวเราะอย่างยินดีปรีดาอยู่กับชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่ไม่คุ้นตา

    “แกเป็นใคร?”จ้าวสือส่งเสียงไม่พอใจออกไป ทำเอาคนที่ถูกถามถึงกับสะดุ้ง

    “อ๋อ!คนของฉันเองค่ะ เขาเอาสิ่งที่จะล้มศัตรูของคุณมากให้น่ะค่ะ”ซูซานว่า

    จ้าวสื่อพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนที่จะหันไปสนใจสิ่งที่อยู่ในมือของหล่อน ร่างใหญ่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำเดินไปนั่งที่โซฟา ซูซานเองก็รู้ใจเดินตามไปนั่งข้างกายพร้อมกับส่งซองสีน้ำตาลให้

    “นี่อาจจะทำให้ที่รักอารมณ์ดีขึ้น ดูสิค่ะ”จ้าวสื่อสบสายตายั่วยวนนั้นก่อนที่จะรับซองนั้นมาเปิดออกดู

    ภาพหญิงสาวสองคนในอิริยาบถตามๆสร้างความสนใจให้กับเขาไม่น้อย เพราะหนึ่งในนั้นคือจางมินจูคู่อาฆาตของเขากับหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่เขาไม่รู้จัก ในภาพถ่ายนั้นดูเหมือนว่าทั้งสองจะสนิทสนมกันมากถึงขนาดเดินจับมือโอบกอดกัน

    “สนใจผู้หญิงของจางมินจูหรอค่ะ”ซูซานเอ่ยขึ้น  จ้าวสื่อจึงหันไปมองหล่อนเป็นเชิงถามเมื่อเห็นว่าซูซานทำท่าทำทางเหมือนจะรู้เรื่องดี

    “ผู้หญิงคนนี้ฉันจำได้ว่า ฉันเคยเห็นหล่อนเดินออกมาจากห้องพักของจางมินจู ตอนที่ฉันแอบตามมันไปสังเกตการณ์ที่เซี๊ยะเหมิน ฉันไม่เคยเห็นจางมินจูสนใจผู้หญิงคนไหนเกินหนึ่งอาทิตย์เลย แสดงว่าผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นคนพิเศษของมันแน่ๆ”

    “คนพิเศษของมันอย่างนั้นหรอ หึๆแสดงว่านางจางมินจูมันมีคนรักแอบไว้อย่างนั้นสิ”จ้าวสื่อแสยะยิ้มที่มุมปาก

    “ดูจากรูปพวกนี้แล้ว ท่าทางมันจะทั้งรักทั้งห่วงผู้หญิงคนนี้มาก”ซูซานเสริม

    “ของรักของหวงของมันอย่างนั้นหรอ หึๆ ดี! ฉันจะขยี้ของรักของแกไม่ให้เหลือเลยคอยดูสิ”จ้าวสื่อเอ่ยเสียงเหี้ยมในใจมีแต่ความคิดอันชั่วร้าย

     

    มินจูกลับมาถึงบ้านใหญ่ตระกูลจางท่ามกลางการต้อนรับของเหล่าบอดี้การ์ดและสาวใช้เหมือนอย่างเช่นเคย แม่นมเหวินมองใบหน้าที่ดูอิ่มเอิบจนแปลกไปอย่างเห็นได้ชัดของหญิงสาว ยามที่ย่างกรายเข้ามาในบ้านแล้วส่งยิ้มบางๆให้กับบรรดาสาวใช้ซึ่งปกติแล้วมินจูไม่เคยสนใจเลยด้วยซ้ำ ทำให้นางอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้

    “ดูเหมือนว่านายหญิงจะมีเรื่องอะไรดีๆกลับมานะค่ะ เล่าให้ดิฉันฟังบ้างสิค่ะ ดิฉันอยากรู้จัง”

    “ฉันน่ะหรอ มีเรื่องดีๆ”มินจูขมวดคิ้วถามกลับ

    “ก็...หน้าตาของนายหญิงมันฟ้องนี่ค่ะ ว่านายหญิงกำลังมีความสุข อยางที่คนทั่วไปนั้นมี”แม่นมเหวินเอ่ยออกมาตามประสาของคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน

    มินจูถึงกับอึ้งเธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน และไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมเธอถึงต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย

    “คนๆนั้นเป็นคนยังไงค่ะ”ผู้สูงวัยถามอีกครั้งด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม มินจูหันไปมองใบหน้าแม่นมก่อนที่จะตอบ

    “เปล่าสักหน่อยนี่ แม่นมคิดไปเองหรือเปล่า”

    “อย่ามาปฏิเสธคนแก่อย่างดิฉันเลยค่ะ ดิฉันดูออกนะค่ะ ว่านายหญิงกำลังมีความรัก”ประโยคนี้ของแม่นมทำเอามินจูถึงกับอึ้งไปอีกครั้ง

    “ฉันเนี่ยนะ!?! มีความรัก”มินจูเริ่มครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านๆมาระหว่างเธอกับรัตเกล้า

    “ตอนนี้นายหญิงอาจจะยังไม่รู้ใจตัวเอง แต่สักวันหนึ่งนายหญิงก็จะรับรู้ได้ด้วยตัวเองค่ะ”แม่เหวินเอ่ยทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะกลับเข้าไปสั่งงานในครัว ปล่อยให้มินจูนั่งค้นหาหัวใจของตัวเองตามลำพัง โดยไม่ทันสังเกตว่าที่นอกห้องนั้นมีใครคนหนึ่งยืนแอบฟังอยู่

     

    หนี่วาดีใจกับการกลับมาของมินจู เธอรับเดินลงมาหานายหญิงของบ้านด้วยหัวใจที่เฝ้าแต่คิดถึง แต่รอยยิ้มก็เลือนหายไปเมื่อเธอได้ยินการสนทนาระหว่างแม่นมกับมินจู

    “ดิฉันดูออกนะค่ะ ว่านายหญิงกำลังมีความรัก”หนี่วาชะงักเท้า เอาหูแนบฟังที่ด้านหน้าประตู

    “ฉันเนี่ยนะ!?! มีความรัก”ใบหน้าที่กำลังเปี่ยมสุขกลับกลายเป็นซีดเผือกเมื่อได้รับรู้ความจริง

    “อย่ามาปฏิเสธคนแก่อย่างดิฉันเลยค่ะ ดิฉันดูออกนะค่ะ ว่านายหญิงกำลังมีความรัก”

    ร่างบางวิ่งกลับเข้าห้องของตัวเองทิ้งตัวลงบนเตียงเอาหน้าซุกกับหมอนแล้วร้องไห้ นายหญิงของเธอมีใจให้กับผู้หญิงชาวไทยคนนั้นหรือนี่ แล้วคนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เยาว์วัยเล่า นายหญิงจะไม่เหลียวแลเลยหรือไร ร่างบางได้แต่ร้องไห้อย่างผิดหวังอยู่เพียงลำพัง

     

    ร้านอาหารจานด่วนเปิดให้บริการอีกครั้งหลังจากที่ปิดร้านหยุดยาวในช่วงเทศการปีใหม่ ที่ร้านยังคงคลาคล่ำไปด้วยนักศึกษาเหมือนเคย ทุกคนต่างก็มีเรื่องเล่าในวันหยุดอันแสนสุขมาฝากกันและกัน โดยเฉพาะกลุ่มสาวๆชาวไทย ที่นั่งจับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องคืนข้ามปีกับคนสำคัญของตัวเองกันอย่างออกรส และหนึ่งในนั้นก็คือน้องปู สาวรุ่นนั่งเม้าส์กับเพื่อนๆของเธอ ถึงการกลับไปฉลองคืนข้ามปีกับคนรักที่เมืองไทย โดยไม่ลืมที่จะเอาของฝากจากเมืองไทยมาให้รัตเกล้าด้วยเช่นกัน

    “ขอบใจมากเลยนะจ้ะ อันที่จริงน้องปูไม่เห็นจำเป็นต้องเอามาฝากพี่เลย เดี๋ยวพี่ก็ต้องกลับไปต่อวีซ่าอยู่แล้ว”รัตเกล้าเอ่ยอย่างเกรงใจ

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่โรส น้องปูอยากให้”สาวรุ่นน้องส่งยิ้มสดใสให้ ก่อนที่จะเหลือบไปมองเด็กหนุ่มที่เป็นพนักงานเสริฟคนเดียวในร้าน กำลังช่วยมารดาเก็บโต๊ะอยู่ไม่ไกลมากนัก

    “เอ่อ...พี่โรสพอจะมีเวลาคุยกับปูสักนิดมั้ยค่ะ”

    “ได้สิ มีอะไรหรอจ้ะ”

    สองสาวต่างวัยยืนซุบซิบกันอยู่สักครู่ รัตเกล้าก็พาน้องปูเดินออกไปยังประตูหลังร้าน โดยมีสายตาที่เหลือบไปเห็นพอดีของเทียนสิน เด็กหนุ่มมองสองสาวที่เดินควงแขนหายเข้าไปหลังร้านอย่างแปลกใจ พลางคิดในใจว่าตกลงนางมารร้ายตัวนี้ตกลงเธอเป็นคนหรือไส้เดือนกันแน่ วันก่อนนู้นก็ควงคนนั้นวันนี้ก็ควงคนนี้ เทียนสินไม่อยากจะเอ่ยถึงรสนิยมของนางมารร้ายตัวนี้เลย เพราะนึกถึงทีไรภาพในห้องครัววันนั้นก็ผุดขึ้นมาทุกที

     

    “ว่าไงนะ! เทียนสินน่ะหรอขายยา”รัตเกล้าร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินเรื่องเล่าของน้องปู สาวรุ่นน้องรีบทำท่าจุ๊ปากเพื่อเตือนสติรัตเกล้าให้เงียบเสียงลง

    “ข่าวนี้ปูไม่ได้เมคขึ้นมานะค่ะพี่โรส แต่ปูรู้มาจากเพื่อนของเพื่อนอีกที ว่าที่ร้านพี่มียาเสพติดมาขาย ทีแรกปูก็ไม่เชื่อหรอกว่าพี่โรสจะขาย แต่พอรู้ว่าที่ร้านมีเด็กคนงานเข้ามาใหม่ ปูก็เลยมั่นใจว่าจะต้องเป็นเด็กคนนั้นแน่ๆ ที่เป็นคนขายยาแน่นอน”น้องปูยืนยันหนักแน่น

    รัตเกล้ามีสีหน้าที่เคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อในคำพูดของน้องปู แต่เธอต้องหาหลักฐานให้แน่ชักเสียก่อนจึงจะจัดการกับเด็กหนุ่มได้ เพราะเธอห่วงหัวอกคนเป็นแม่อย่างเหมยลี่

    “ยังไงปูก็ขอเตือนพี่โรส ให้ระวังเด็กคนนี้ไว้ด้วยก็แล้วกัน”น้องปูเอ่ยทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะเดินจากไป

     

    เสียงเมโลดี้เพลงสากลดังลั่นออกมาจากโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กที่ถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะ รัตเกล้าวิ่งกลับมาที่ห้อง เธอแทบจะถลาเข้าไปรับโทรศัพท์เลยทีเดียว ไม่ต้องดูเบอร์เธอก็รู้ว่าใครโทรเข้ามา

    “ทำไมรับโทรศัพท์ช้า!”ปลายสายส่งเสียงไม่พอใจใส่จนรัตเกล้าต้องรีบเอาโทรศัพท์ออกจากหู

    “ฉันเพิ่งกลับจากห้องน้ำนี่ค่ะ จะไม่ให้รับช้าได้ยังไง”เธอตอบ

    “งั้นก็แล้วไป วันนี้เธอ...เป็นยังไงบ้างล่ะ”มินจูเอ่ยด้วยน้ำสายที่อ่อนลง

    “เป็นยังไง มันก็เหมือนเดิม”

    “เหมือนเดิม! นี่เธอไม่คิดถึงฉันบ้างเลยหรือไง”ปลายสายทำเสียงไม่พอใจจนรัตเกล้าหมั่นไส้แกล้งยียวนกลับ

    “ฉันต้องทำงานยุ่งทั้งวัน ยังมาให้ฉันคิดถึงคุณอีกหรอ”

    “ต่อให้เธอยุ่งแค่ไหน เธอก็ต้องคิดถึงฉัน เข้าใจมั้ย”รัตเกล้าแอบแลบลิ้นใส่โทรศัพท์เมื่อปลายสายเผยนิสัยเอาแต่ใจออกมา

    “โธ่เอ๊ย!ดีแต่ออกคำสั่ง แล้วคิดล่ะโทรหาฉันทำไม คิดถึงฉันใช่มั้ยล่ะ”ปลายสายถึงกับอึ้งพูดไม่ออกไปพักใหญ่

    “ถ้าฉันบอกว่าใช่ล่ะ เธอจะเชื่อมั้ย”คราวนี้เป็นรัตเกล้าที่เป็นฝ่ายอึ้งบ้าง

    “ไม่เชื่อหรอก”เธอเอ่ยหลังจากที่เงียบไปสักพัก

    “ดีแล้วล่ะ ที่เธอไม่เชื่อ เพราะว่าฉันล้อเธอเล่น”มินจูเอ่ยในสิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจ

    “ละ...แล้วจะโทรมาทำไม ถ้าไม่มีอะไรจะพูด ฉันขอตัวก่อนนะจะไปแต่งตัว”รัตเกล้ากระแทกเสียงใส่อย่างไม่สบอารมณ์

    “เดี๋ยวก่อน ตอนนี้เธอยังไม่แต่งตัวหรอ”

    “ก็ใช่น่ะสิ หนาวจะตายอยู่แล้ว”

    “หนาวหรอ ให้ฉันไปกอดมั้ย เธอจะได้อุ่น”

    “บ้า!แค่นี้ละ ฉันไปแต่งตัวแล้ว”รัตเกล้ากดตัดสายด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ แม้คำพูดของมินจูจะเหมือนทีเล่นทีจริง แต่มันก้ทำให้หัวใจของรัตเกล้าสั่นไหวไม่น้อย

    ส่วนทางด้านมินจูนั้น ก็รู้สึกไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันว่าทำไมในหัวถึงมีแต่เรื่องของรัตเกล้า ตั้งแต่แม่นมเหวินพูดเรื่องแปลกๆกับเธอ มินจูก็หมกมุนอยู่กับเรื่องของรัตเกล้า เธอไม่มีทางรักรัตเกล้าแน่ๆ แต่เรื่องที่มินจูคิดถึงรัตเกล้านั้นเป็นเรื่องจริง

     

    ในขณะที่มินจูกำลังอยู่ในช่วงที่มินจูกำลังสับสนในตัวเองอยู่นั้น อีกด้านหนึ่งที่บ้านสกุลโจว ร่างใหญ่ของเจ้าของบ้านนั่งหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ เมื่อต้าอี้นำข้อมูลสำคัญที่เขานั้นให้ไปสืบมารายงาน เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างจางมินจูกับสาวชาวไทยที่ชื่อรัตเกล้า ทำให้จ้าวสื่อรู้สึกเหมือนว่าตนนั้นได้มีไพ่เด็ดอยู่ในมือเพื่อพิชิตคู่แข่งตลอดกาล

    “ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเคยเห็นผู้หญิงคนนี้อยู่กับจางมินจู ในวันที่พวกเราบุกไปฆ่ามัน ผู้หญิงคนนี้มีฝีมือใช่ย่อย”ต้าอี้ว่า

    “ฉันไม่สนว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นยังไง มีฝีมือแค่ไหน แต่ที่ฉันสนก็คือนังนี่มันเป็นผู้หญิงของจางมินจู ของรักของหวงของมัน ต้าอี้ ไปจัดการเอาตัวผู้หญิงคนนี้มาให้ได้ ฉันจะทำให้หัวใจของนังจางมินจูมันขาดเหมือนตายทั้งเป็น ฮ่าๆ”

    “ครับ ผมจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวังแน่นอน”ต้าอี้รับคำสั่ง

     ...................................................................................................................................................


               สวัสดีค่ะแฟนๆทุกท่าน ก่อนอื่นไรเดอร์คงต้องกล่าวว่าขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ทุกท่านมีให้

    ตอนนี้ไรเดอร์รู้สึกดีขึ้นมาเยอะแล้วล่ะค่ะ ถึงแม้ว่าเขาจะจากไรเดอร์ไปเพราะคำว่าดีเกินไป แต่จริงๆ

    แล้วก็รู้ดีว่าเพราะระยะที่เราห่างกัน มันทำให้ใจของเขาแพ้คนที่อยู่ใกล้กว่า ไรเดอร์ไม่ดีเองค่ะ ที่ไป

    อยู่ดูแลเขาไม่ได้ การที่ไรเดอร์จะเสียเขาไปก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก รักแท้ย่อมแพ้ความใกล้ชิดอยู่แล้ว

    ไรเดอร์ไม่อยากโทษใคร เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นไปตามกลไกของมัน วันนี้ไรเดอร์อาจจะผิดหวัง

    แต่วันหน้าไรเดอร์เชื่อว่าสิ่งดีๆที่ไรเดอร์ทำไว้จะส่งผลให้ไรเดอร์พบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ ถึงแม้ว่าเขาจะทำ

    ให้ไรเดอร์เสียใจ แต่ไรเดอร์ก็ยังคงรักเขาอยู่แม้ว่าเขาจะทำให้ไรเดอร์เสียใจมากแค่ไหนก็ตาม

    ไรเดอร์ก็พร้อมที่จะให้อภัยเขาเสมอหากเขาจะกลับมา เมื่อเขาพร้อมและต้องการไรเดอร์จริงๆ

    อาจจะดูเป็นการกระทำที่ดูโง่ๆ แต่ไรเดอร์ก็เต็มใจที่จะรอคนที่อาจจะไม่มีวันกลับมา...

    แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดของไรเดอร์คือปัจุบันที่จะนำทางไปสู่อนาคตข้างหน้า

    สิ่งที่ไรเดอร์รักคือการเขียน เขียน และก็เขียน อยากจะสร้างสรรผลงานออกมาให้แฟนๆทุกคนได้อ่าน

    กัน ยังมีอีกหลายโปรเจคที่ไรเดอร์อยากจะถ่ายทอดเรื่องราวจากชีวิตจริงหรือจากจินตนาการของไร

    เดอร์ ให้ทุกคนได้สนุกและรักในการอ่านค่ะ แม้ว่าตอนนี้เขาจะบอกว่าไม่รักไรเดอร์แล้ว แต่อย่างน้อย

    ไรเดอร์ก็รู้ว่า ยังมีคนที่รักและรอคอยไรเดอร์อยู่ที่นี่ เด็กดี.คอม

    ขอให้ทุกคนสนุกกับผลงานของไรเดอร์นะค่ะ ตอนนี้ไรเดอร์ควบนิยายสองเรื่อง ก็คือเรื่อง

    กิ๊ก
    หัวใจให้ลงล๊อก และ เรื่อง ขอบคุณถ้าฟ้าฝนจะเป็นใจ ซึ่งเป็นแนวยูริทั้งคู่ค่ะ

    ยังไงไรเดอร์ก็ขอฝากสองเรื่องสองสไตลนี้ด้วยนะค่ะ คอมเม้มติชมได้เลยคร่า...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×