คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : งานวันเกิด(เรื่อง)ตอนจบ
น้ำสีสวยๆแก้วแล้วแก้วเล่าหมดลงไปเหลือเพียงแค่แก้วงเปล่าทรงสูงหลายใบวางเรียงรายบนโต๊ะกระจก เสียงเพลงที่ดังเร้าใจลุกให้ร่างกายทุกส่วนขยับตาม นักเต้นเท้าไฟคนแล้วคนเล่าออกไปเต้นกลางฟลอร์ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่เลือกขยับอยู่กับที่ น้องปูชวนรัตเกล้าออกไปบ้างเธอก็นึกสนุกออกไปเต้นกระจายกับเด็กรุ่นน้อง เพลงจังหวะเร้าใจบวกกับน้ำเมาสีสวยที่เธอดื่มไปหลายแก้ว ทำให้ท่าเต้นของรัตเกล้าแต่ล่ะท่าดูเย้ายวนยั่วผู้ชาย หนุ่มๆหลายคนมาขอแจมกับเธอ แต่รัตเกล้าก็ปฏิเสธด้วยการส่งตาหวานใส่หนุ่มแล้วเต้นลูบไล้น้องปูแทน และทุกๆการกระทำของเธอมินจูได้เห็นมันจากกล้องวงจรปิดภายในศูนย์รักษาความปลอดภัยในโรงแรมนั้นเอง ประธานสาวตรงดิ่งมาที่ห้องนี้เพื่อตรวจเซ็กภาพหน้าของชายผู้ต้องสงสัยสองคนที่เธอเจอในห้องน้ำ แต่เธอดันไปสะดุดเข้ากับจอภาพที่ติดในห้องรวมใหญ่ของไนต์คลับ หญิงสาวที่เธอแอบเดินตามไปจนห้องคาราโอเกะ กำลังออกลีลายั่วยวนท่ามกลางแสงสีท่ามกลางแสงสีและจังหวะเสียงเพลง นี่ก็เป็นอีกมุมหนึ่งของรัตเกล้าที่เธอเพิ่งเคยเห็น
“นายหญิง คนร้ายที่นายหญิงตามหาอยู่ใช่สองคนนี้หรือเปล่าครับ”เสียงของหัวหน้ารักษาความปลอดภัย เตือนสติให้เธอหันกลับไปสนใจหน้าจอเดิม
“ใช่ มันสองคนนี่แหละ ซูมหน้า แล้วจัดการตามหาตัวมันให้ได้”เธอสั่งการแต่สายตาก็เหลือบกลับไปยังอีกจอ
“เจอตัวมันเมื่อไหร่ ให้จับเป็นแล้วขังมันไว้ ฉันจะรีดความจริงออกจากปากของมันเอง”พูดจบ มินจูก็ออกไปจากห้องนั้นทันที
มินจูเห็นหญิงสาวจากหน้าจอว่าเธอกำลังเดินออกจากโซนไนท์คลับคนเดียว มินจูจึงออกมาตามหาเธอและก็เห็นว่าเธอกำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียว
.................................................................................
รัตเกล้าหลบผู้คนออกมานั่งมุมสงบนั่งดื่มอยู่คนเดียว แม้ว่าข้างในจะทำให้เธอรู้สึกสนุกมากแค่ไหน แต่อีกมุมหนึ่งในหัวใจเธอกลับอ้างว้างอย่างประหลาด รัตเกล้านั่งคิดถึงวันเก่าๆตอนที่เธอยังรักหวานชื่นอยู่กับอดีตคนรัก ซึ่งมันเป็นความประทับใจที่ไม่อาจจะลืมเลือนได้ง่ายๆ
“ไม่ว่าจะนานแค่ไหนอุ้มก็จะรอให้โรสรักอุ้มเอง”คำพูดหวานๆในครั้งแรกที่ทำให้เธอพบกับทอมสาวคนนี้ มันทำให้เธอถึงกับซาบซึ้ง และเธอก็ตอบตกลงกับเขาในปีถัดมา
รัตเกล้ามอบร่างกายและหัวใจให้กับเค้าจนหมดจนไม่เหลือเผื่อเก็บไว้ให้ใครอีกแล้ว เธอมีความสุขมากกับการมีคนรักข้างกาย ถึงแม้ว่าพวกเธอจะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่เธอก็หวังว่าจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปจนตาย ความรักของพวกเธอกำลังไปได้สวยหากว่ารัตเกล้าไม่ได้พบผู้หญิงอีกคนหนึ่ง
ชลลดาแอบมาดักพบรัตเกล้าที่ปากซอยหน้าบ้านของเธอ รัตเกล้าเองก็เคยเห็นชลลดาในโทรศัพท์มือถือของนิสากร โดยคนรักของเธอได้บอกว่าผู้หญิงในรูปคือแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกร้างกันไป รัตเกล้าเองก็ไมได้แสดงอาการไม่ชอบใจแต่อย่างใด เพราะถือว่าอดีตมันจบลงไปแล้วแต่ปัจจุบันนี่สิที่สำคัญกว่า
“เธอใช่มั้ย!ที่คิดแย่งผัวชาวบ้าน”ชลลดาเปิดฉากใส่เธออย่างดุเดือด
รัตเกล้าถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกเพราะมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ถามกลับไปอย่างใจเย็นด้วยเห็นว่าคนตรงหน้าร้อนเป็นไฟ
“ใจเย็นๆก่อนนะ เธอว่าใครแย่งใคร ก็เธอเลิกกับอุ้มไปแล้วไม่ใช่หรอ”
ชลลดาแสยะยิ้มก่อนที่จะตอกกลับ
“มันบอกว่าเลิกกับฉันงั้นหรอ จะบอกอะไรให้ ทุกวันนี้มันก็ยังกลับบ้านมานอนกับฉันอยู่เลย”คำตอบของชลลดาทำเอารัตเกล้าถึงกับเข่าอ่อน
“นี่มัน...หมายความว่ายังไงเนี่ย”
ชลลดาเห็นท่าทางของรัตเกล้าก็พอจะรู้ว่าหญิงสาวไม่รู้เรื่องอะไรเลย สองสาวจึงไปหามุมสงบเพื่อนั่งคุยกัน และความจริงทั้งหลายก็พรั่งพรูออกจากปากทั้งชลลดาและรัตเกล้านั้นทำให้ต่างฝ่ายต่างก็อึ้งและเจ็บปวดไม่แพ้กัน
“นี่มันเกล้าหลอกเธอๆที่รู้อยู่แล้วว่าเธอเจ็บกับแฟนเก่ามายังไงเลยหรอ”ชลลดานั่งกัดฟันกร๊อดๆอย่างเจ็บแค้นแทนหญิงสาวที่นั่งเล่าความทั้งน้ำตา
“เราไม่ชอบแย่งของๆใครหรอก ถ้ารู้ว่าอุ้มยังไม่เลิกกับเธอ เราก็คงไม่ยุ่งกับเค้าหรอก แต่เราไม่เข้าใจอย่าง ทั้งๆที่เรากับอุ้มก็รู้จักกันมานานเค้ารู้เรื่องแฟนเก่าเราทุกอย่าง แต่เค้าก็ยังทำแบบนี้กับเราอีก”เธอเอ่ยพร้อมเสียงสะอื้น
“มันแน่มากที่กล้าหลอกพวกเราได้ขนาดนี้ เห็นทีว่าพวกเราต้องทำอะไรสักอย่างเสียแล้ว ให้มันได้รู้สำนึกเสียบ้าง”
หลังจากนั้นเป็นต้นมา เธอกับชลลดาก็แอบติดต่อส่งข่าวสารให้กันตลอด ด้วยความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันทำให้พวกเธอได้กลายมาเป็นเพื่อนกัน และในที่สุดก็ถึงวันชี้ชะตา วันที่ทั้งสองสาวตกลงใจกันว่าจะให้รัตเกล้านัดพบกับนิสากร ด้วยแผนการรถไฟชนกัน
“ยังไงอุ้มก็ต้องเลือกแก้วอยู่แล้วล่ะ”รัตเกล้ากรอกเสียงใส่โทรศัพท์ขณะรอทอมสาวให้มาตามนัด ที่ม้านั่งในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง โดยที่ชลลดาแอบซุ่มอยู่ไม่ไกลนัก สองสาวคุยโทรศัพท์กันเพื่อระบายบางสิ่งที่อยู่ในใจ
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะโรส”ปลายสายว่า
“ความรู้สึกของเรามันบอก ว่ายังไง เค้าก็ต้องเลือกแก้ว แค่นี้นะ อุ้มมาโน้นแล้ว”รัตเกล้ารีบตัดสายชลลดาทิ้งพร้อมกับกดลบเบอร์โทรออก ก่อนที่นิสากรจะเดินมาถึงตัวเธอ
“คุยโทรศัพท์กับใคร?”ทอมสาวส่งเสียงไม่พอใจเมื่อเห็นท่าทางมีพิรุธของแฟนสาว
“คุยกับน้องค่ะ มันมาปรึกษาเรื่องความรัก”เธอตอบด้วยท่าทีที่เรียบเฉย
“งั้นก็แล้วไป”นิสากรนั่งลงตรงที่ว่างข้างรัตเกล้าบนม้าหินอ่อน โอบเอวหนาของเธออย่างออดอ้อน
“คิดถึงจัง ไม่ได้กอดโรสเสียนาน ช่วงนี้งานที่บ้านอุ้มยุ่งมาก เลยไม่มีเวลาให้โรสเลย โรสคงไม่โกรธอุ้มนะ”รัตเกล้ามองร่างคนที่เธอรักด้วยหางตาก่อนที่จะพูดเป็นนัยๆว่า
“ไม่โกรธหรอก โรสไม่เคยโกรธอุ้มหรอก ถ้าหากที่พูดมาเป็นความจริง”
“แล้ววันนี้เราจะไปเที่ยวไหนกันดี”นิสากรยังคงออดอ้อนต่อไปอย่างไม่รู้สึกอะไร
“ไปลงนรกยังไงล่ะ ไอ้อุ้ม!”ชลลดาที่แอบซุ่มอยู่อีกด้านหนึ่ง โผล่ออกมาจากที่ซ่อนอย่างเอาเรื่อง
“เฮ้ย!แก้ว มาได้ยังไงเนี่ย”นิสากรผละออกจากร่างของรัตเกล้าอย่างรวดเร็ว
“ถ้าไม่มาก็คงไม่รู้ถึงความตอแหลของมึงหรอก ไอ้ผัวเฮงซวย!”ชลลดาปราดเข้ามาจิกผมทอมสาวด้วยความโมโห
นิสากรเกรงว่าชลลดาจะทำร้ายรัตเกล้า แต่กลับกันรัตเกล้าได้แต่นั่งนิ่งส่งสายตาดุๆใส่ตนเอง
“นี่ พวกคุณรู้กันอย่างนั้นหรอ”ทอมสาวเหลือบไปมองใบหน้าที่เรียบเฉยของเธออีกครั้ง ก็พอจะเดาออกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดพวกเธอรู้เห็นเป็นใจ
“ถ้าไม่ทำแบบนี้ ก็ไม่รู้สึกว่ามึงกล้าทำเรื่องแบบนี้”ชลลดาตอกกลับอย่างเดือดดาล
รัตเกล้าลุกขึ้นยืนเชิดหน้าและมองคนที่เธอรักด้วยแววตาที่ปวดร้าว
“คุณบอกมาสิ ว่าคุณจะเลือกใคร”คำถามของรัตเกล้าทำเอานิสากรอึกอักจนพูดไม่ออก ได้แต่เหลือบไปมองคู่กรณีทั้งสองอย่างหวาดๆ จนชลลดาปล่อยมือออกจากผมของทอมสาวแล้วเชิดออกไปอีกทาง นิสากรมองใบหน้าของรัตเกล้าอีกครั้งก่อนที่จะวิ่งตามชลลดาออกไปทิ้งให้เธอยืนน้ำตาตกในอยู่ตรงนั้น
สองวันต่อมาหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น เธอก็เห็นนิสากรที่หน้าประตูบ้านของเธอ ทอมสาวมีสีหน้าที่เศร้าสลดอย่างเห้นได้ชัด เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับรัตเกล้า
“ขอโทษนะ”และนั้นก็เป็นประโยคสุดท้าย ก่อนที่เค้าจะเดินจากเธอไป
น้ำสีอำพันที่ผสมรสชาติให้ชวนน่ากินค่อยๆหมดไปจากขวดทีละนิดๆ ไหล่หนาสั่นสะท้านตามมาด้วยเสียงสะอื้นในลำคอ ใบหน้าที่เคยสดใสกลับเศร้าหมองและเต็มไปด้วยครบน้ำตา คำบอกรักของอดีตคนรักยังคงก้องอยู่ในหูจนบาดลึกเข้าไปถึงข้างในหัวใจ
“ทำไมต้องมาทำร้ายฉันแบบนี้ด้วย”เธอเพ้ออกมาพร้อมกับกระดกน้ำสีอำพันจนหมดขวด
ร่างที่แอบซุ่มอยู่ไม่ไกลนักรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่เห็นเธอร้องไห้ รัตเกล้าพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่เธอดื่มไปไม่น้อยทำให้เธอเซจะล้ม ร่างสูงที่แอบซุ่มก็รีบถลาเข้ามาช่วยรับไว้ได้ทัน
“นี่ ไหวมั้ย”มินจูถามร่างที่โงนเงนไปมา
รัตเกล้าเงยหน้าขึ้นมามองหน้าคนที่ช่วยประคองร่าง เห็นว่าเป็นใครก็ยิ้มออกมา
“คุณ...มินจู มาทามอาไร...ที่นี่”
“เธอเมาแล้วก็กลับไปนอนซะสิ”มินจูเอ่ยเสียงดุ
“ม่าย...ฉันอยากจะปายเต้นต่อ คุณจาปายเต้นด้วยกานมั้ย”ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้เธอส่งตาหวานใส่ร่างสูงที่ช่วยประคองให้เธอกลับเข้ามาข้างใน
“สภาพอย่างนี้เนี่ยนะจะไปเต้น เดี่ยวก็ได้โดนหิ้วหรอก”
“หิ้วหรอ ฮ่าๆ หิ้วไม่กลัว กลัวไม่หิ้วฮ่าๆ ฮึก! ฮ่าๆ”เธอหัวเราะร่วน
มินจูส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ไม่น่าเชื่อว่าน้ำเมาจะสามารถเปลี่ยนคนที่ดูสุขุมอย่างรัตเกล้าให้กลายเป็นแบบนี้ไปได้
“ยืนดีๆเดี๋ยวฉันจะพาเธอไปส่งเพื่อนเธอ พวกเขาอยู่ที่ไหนกัน”
“อยู่ที่ไหนหรอ อยู่ที่....อุก!...แหวะ!~”
“เฮ้ย!”ยังไม่ทันที่มินจูจะได้คำตอบ คนที่เธอประคองมาตลอดทางก็หมดสภาพไปแล้ว
........................................................................
บนเตียงใหญ่ภายในห้องชุดสุดหรูของโรงแรม มินจูเหวี่ยงร่างอวบที่เมาแทบไม่รู้เรื่องลงบนเตียง แล้วนึกสงสารตัวเองว่าวันนี้มันเป็นวันวิปโยคอะไรของเธอนะ วิ่งหอบระเบิดหนีไปทิ้งน้ำจนเกือบตายแล้วก็ยังจะมาเจอคนเมาอ้วกจนเสื้อผ้าเลอะเทอะไปหมดแบบนี้ มินจูมองร่างหนาที่นอนหัวเราะร่วนบนเตียงส่ายหัวไปมาก่อนที่จะเอ่ยออกไป
“นี่ ไหวมั้ย ถ้าไหวก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำซะ จะได้สางเมา”มินจูเดินไปหยิบชุดผ้าคลุมอาบน้ำส่งให้รัตเกล้า
“ไหวสิ คิคิ ดูคุณสิ มอมแมมไปหมดเลย”เธอลุกขึ้นมาคว้าผ้าออกจากมือร่างสูง ก่อนที่จะเดินโซเซเข้าห้องน้ำไป
มินจูถึงกับเอามือกุมขมับเหมือนคนปวดหัวเป็นไข้ นึกไม่ถึงว่าการที่ต้องมาดูแลคนเมามันจะยากเย็นแบบนี้ ตอนที่เธอเมาเคยเป็นแบบนี้บ้างมั้ยนะ แต่สำหรับมินจูในตอนนี้แล้วการดื่มเหล้าก็เหมือนการดื่มน้ำดีๆนั้นแหละ เพราะเธอถูกฝึกให้ชินกับน้ำเมาจะได้ไม่เสียรู้ใครได้ง่ายๆ ร่างสูงถอดชุดที่เลอะคราบอาเจียนออกเปลี่ยนมาใส่ชุดคลุมอาบน้ำ เพื่อรอใช้ห้องน้ำต่อจากรัตเกล้า แต่รู้สึกว่าหญิงสาวจะใช้เวลาในการอาบน้ำมากเกินไปเสียแล้ว ด้วยความเป็นห่วงมินจูจึงไปเคาะประตูห้องน้ำเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา มินจูจึงตัดสินใจลองเปิดประตูเข้าไปดูก็พบว่าประตูนั้นไม่ได้ล๊อก
“เฮ้ย!”มินจูร้องลั่น เมื่อได้เห็นร่างของรัตเกล้านั่งฝุบอยู่ตรงอ่างอาบน้ำ เธอถลาเข้าไปจับร่างอวบเขย่าทันที
“หือ!เช้าแล้วหรอ”รัตเกล้ารู้สึกตื่น
“เช้าบ้าอะไรกัน นี่เธอนอนทั้งๆที่มีสภาพอย่างนี้เนี่ยนะ”
“เปล่า ฉันอาบน้ำแล้วเข้านอนต่างหาก”เธอตอบเสียงอ๋อแอ้
“งั้นก็ออกไปนอนที่เตียงสิ มานี่”มินจูลากรัตเกล้าไปที่เตียงนอน ผลักร่างหนาลงบนเตียงอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน
“อืม...ตาบ้า รู้มั้ยสิ่งที่คุณทำ มันทำให้ฉันเจ็บนะ...”รัตเกล้าเพ้อออกมา จนทำให้มินจูหันไปมองอย่างแปลกใจ แต่พอเห็นว่าร่างที่นอนคู้อยู่บนเตียงหลับไปแล้วก็รีบเข้าห้องน้ำอาบน้ำทันที
พอออกจากห้องน้ำมินจูก็เหลือบไปมองที่เตียง แต่ก็ไม่พบร่างที่นอนหลับอยู่บนเตียงก็ตกใจ เธอรีบกวาดสายตามองหาไปทั่วห้อง และก็พบกับร่างอวบอยู่ที่มุมมินิบาร์
“นั้น เธอทำอะไรน่ะ”รัตเกล้าหันไปมองตามเสียงก่อนที่จะเอ่ย
“ฉันหิวน้ำ”
“แต่ที่เธอกินอยู่นั้นมันไวน์นะ”
“หรอ มิน่าล่ะ ถึงได้อร่อย ฮ่าๆ มากินด้วยกันมั้ย”รัตเกล้าเดินชูขวดไวท์เข้ามาหามินจู
ร่างอวบเดินโงนเงนจนไปสะดุดเข้ากับผ้าเช็กตัวที่ตกอยู่บนพื้น เซถลาไปถูกร่างของเจ้าของห้อง ทำให้ทั้งคู่ล้มลงบนเตียงใหญ่ โดยที่ร่างของรัตเกล้าทับร่างของมินจูไว้ ดวงตากลมสวยประสานกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ และมือของมินจูเองก็ดันไปจับอยู่แถวสะโพกเนื้อแน่นของรัตเกล้าเข้าพอดี ดวงตาสีนิลของเธอกำลังมองมินจูด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม เล่นทำเอาคนที่ถูกมองถึงกับหวิวๆหวามๆในใจ มินจูหลบสายตาหวานนั้นต่ำลงแต่ก็ต้องสะอึก เมื่อดันไปเห็นยอดอกที่อยู่ใต้ชุดคลุมอาบน้ำที่หลุดลุ่ยของเธอ หัวใจของคนที่ถูกทับกระตุกวาบ แต่ไม่ทันที่มินจูจะคิดอะไรต่อเธอก็ถูกร่างอวบฉกจูบโดยที่เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว
ลิ้นร้อนๆของรัตเกล้าควานไปทั่วช่องปากของมินจูอย่างหิวกระหาย แม้มินจูจะพยายามเลี่ยงแต่ก็ถูกเธอตามไปประกบจูบได้ทุกครั้ง สองมือที่กดร่างของคนที่อยู่ข้างล่างเริ่มซุกซนหยอกเล่นใต้ร่มผ้า มินจูถูกสัมผัสจากรัตเกล้าจนลืมตัวเผลอจูบตอบ ถึงแม้ว่ามินจูจะเป็นผู้หญิงเหมือนรัตเกล้า แต่เธอก็ไม่เคยปฎิเสธสัมผัสจากผู้หญิงเลยสักครั้ง จนใครๆต่างก็รู้ในรสนิยมของมินจูดี สองร่างยังคงลุ่มหลงในสัมผัสที่ต่างฝ่ายต่างก็ปรนเปรอให้ มินจูมินเมาในรสจูบของรัตเกล้าที่มันแสดงออกถึงความโหยหาและความต้องการอย่างเต็มเปี่ยม แต่คนอย่างจางมินจูผู้ไม่เคยอยู่ใต้อาณัติของใคร กำลังถูกควบคุมเกมอยู่ จูบที่เร้าร้อนของรัตเกล้าปลุกอารมณ์ที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจมินจูให้ตื่นขึ้น มินจูอาศัยจังหวะที่รัตเกล้าเผลอพลิกเกมกลับทันที ตอนนี้เธอเป็นฝ่ายที่อยู่เหนือร่างอวบที่กำลังขัดใจเพราะอารมณ์ค้าง
“ให้ตายสิ เธอนี่มันตัวปัญหาชัดๆ”
และแล้วอารมณ์ก็มาก่อนคำว่าเหตุผล จากที่ตั้งใจว่าจะสลัดร่างนี้ให้หลุด มินจูกลับเป็นฝ่ายเข้าหาร่างนั้นเสียเอง เธอพรมจูบไปตามซอกคอก่อนที่จะไล่กลับไปประกบที่ริมฝีปากอิ่มอีกครั้ง สอดลิ้มตวัดเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมเป็นฝ่ายถูกไล่ มือเรียวก็ลูบไล้ไปตามเนื้อหนังที่เปล่าเปลือย กลิ่นสบู่อ่อนๆเหมือนขับให้สารกระตุ้นของร่างกายหลั่งความต้องการออกมามากขึ้น และในที่สุดค่ำคืนที่เคยเหงาและเปล่าเปลี่ยวก็ถูกเติมเต็มด้วยความสุขและหรรษาอย่างที่เธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
ความคิดเห็น