ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กิ๊กหัวใจให้ลงล๊อก (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #7 : งานวันเกิด(เรื่อง)ตอนแรก

    • อัปเดตล่าสุด 10 ม.ค. 53


    ณ บ้านใหญ่ตระกูลจาง มินจูเดินทางออกจากโรงแรมที่พักกลับมารักษาตัวต่อที่บ้านได้สองสามวันแล้ว อาการของหญิงสาวเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับแล้ว แต่ก็ยังคงสร้างความกังวลใจให้แก่แม่นมเหวินอยู่ดีนางถึงกับโวยวายลั่น เมื่อเห็นนายหญิงลุกขึ้นมาซ้อมปามีดในสวน

    “ฉันไม่เป็นไรแล้ว แม่นมอย่าห่วงไปเลย”มินจูหันมาส่งยิ้มบางๆให้ผู้สูงวัย

    “ไมได้นะค่ะ อีฉันเกรงว่าแผลจะอักเสธอีก นายหญิงต้องนอนพักรักษาตัวให้มากๆสิค่ะ หนี่วาทำไมเราถึงไม่ห้ามนายหญิงล่ะ”นางหันไปดุหญิงสาวอีกคนที่ยืนยิ้มเจือให้ ถึงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่คนอย่างมินจูจะมีบาดแผลแต่นางก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะยังไงมินจูก็คือผู้หญิง เป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลจางที่นางเลี้ยงดูมาตั้งแต่เยาว์วัย แม้ลักษณ์ภายนอกของมินจูจะดูแข็งแกร่งยิ่งกว่าชายชาตรี แต่นางก็ยังคงมองมินจูเหมือนเด็กๆทั่วไป

    “แม่นมค่ะ แม่นมก็น่าจะรู้ว่าใครพูดอะไรไป นายหญิงก็ไม่ฟังหรอกค่ะ”หนี่วาว่า

    “อย่าห่วงไปเลยแม่นม คนอย่างฉันไม่ล้มง่ายๆหรอก ถ้าตราบใดที่ยังไมได้แก้แค้นพวกหมาลอบกัดโจวจ้าวสื่อได้”มินจูเอ่ยเสียงเหี้ยม คว้ามีดสั้นขึ้นมาปาไปยังเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ

    “แต่ก็อย่าหักโหมมากแบบนี้สิค่ะ”หนี่วาส่งผ้าขนหนูให้ร่างสูงซับเหงื่อ

    “เปล่าหักโหมซะหน่อย แค่ออกกำลังกายเฉยๆ เหงื่อออกแล้วจะได้กลับไปทำงานต่อ เธอก็กลับไปทำงานได้แล้ว ลาหยุดมาแบบนี้เดี๋ยวคนไข้ก็คิดถึงแย่”มินจูเอ่ยพร้อมกับหันไปโบกมือเป็นสัญญาณให้เฉินลองผู้ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งเลขาและบอดี้การ์ด ให้เอาเอกสารที่ต้องเซ็นและตรวจเข้ามา

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ที่คุณพ่อส่งดิฉันไปเรียนพยาบาลก็หวังจะให้อยู่รับใช้นายหญิงอยู่แล้วล่ะค่ะ”หนี่วาแอบน้อยใจนิดที่มินจูทำเหมือนไม่อยากให้เธออยู่ข้างๆ

    “แต่ตอนนี้ฉันหายดีแล้ว เธอก็ควรกลับไปทำหน้าที่ของเธอซะ”มินจูเอ่ยจบก็หันไปสนใจแฟ้มเอกสารมากมาย ที่เฉินลองขนมาวางให้ โดยไม่ทันได้เห็นใบหน้าที่เศร้าหมองของหญิงสาวที่อยู่ข้างๆเลย

    “อีกสองวันจะถึงวันเปิดคลับของโรงแรมสาขาเซียะเหมินแล้วล่ะครับ มิทราบว่านายหญิงจะไปเปิดงานด้วยตัวเองหรือจะส่งใครเป็นตัวแทนดีครับ”เฉินลองเอ่ยถาม

    “อืม...ไปสิ ก็ฉันอุตส่าห์ลงไปดูแลการตบแต่งตั้งแต่แรกเลยนี่ ฉันอยากจะสำรวจความพอใจของลูกค้าเองด้วย ถ้าลูกค้าไม่ชอบอะไรจะได้ปรับปรุง”เธอว่าขณะตรวจเอกสาร

    “ถ้าอย่างนั้น ผมจะสั่งลูกน้องให้คุมเข้ม เผื่อพวกตระกูลโจวจะแฝงตัวมาคิดไม่ซื่อกับเราอีก”

    “ดีเหมือนกัน ฉันจะเป็นคนแฝงตัวปะปนไปกับพวกนักเที่ยว คอยสืบอีกทาง ว่าพวกมันคิดจะทำอะไร”

    “งานนี้ผมว่าให้คนอื่นทำจะดีกว่านะครับ”

    “ไม่ต้องฉันทำเอง”มินจูสั่งเสียงเฉียบเป็นอันรู้กันว่าห้ามขัดใจ เฉินลองจึงต้องยอมรับแต่โดยดี

     

    หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกับงานในร้านมาทั้งวัน กีรติก็พารัตเกล้าออกไปเดินช็อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อในเมืองเซียะเหมิน รัตเกล้าดูจะขัดใจไม่น้อยที่เพื่อนสาวยังติดนิสัยคุณหนูเหมือนตอนที่ยังอยู่เมืองไทย เพราะในห้างมีแต่ของมีแบรนทั้งนั้น

    “เจีย ฉันบอกแกแล้วไงว่าฉันไม่ชอบของแพง”รัตเกล้าบ่นออกมา

    “ฉันรู้แล้วน่า แต่อยากจะพาแกมาเปิดหูเปิดตาก็เท่านั้น แกนี่ก็เหลือเกินชอบจริงๆ ไอ้ตลาดนัดคลองถมเนี่ย”

    “ก็ของถูกแต่คุณภาพดีต้องลองไปหาดูแถวๆนั้นนี่ ว่าแต่จะไปได้แล้วหรือยัง”

    “ไป แต่ก่อนไปพวกเราแวะร้านนั้นหน่อยดีมั้ย”กีรติว่าพลางชี้ไปที่ร้านอาหารจีนกวางตุ้งข้างหน้า

    “ดีเหมือนกัน มาเมืองจีนก็ต้องลองชิม กินกันให้กระจายไปเลย”

    สองสาวตบเท้าเจ้าร้านอาหารจีน พออิ่มท้องก็พากันออกมาเดินดูของใช้ที่ตลาดไนท์พาซ่า สองสาวเดินเลือกซื้อชุดที่จะใส่ไปงานวันเกิดของน้องปูอย่างสนุกสนาน กว่าจะกลับเข้าบ้านก็เกือบสองทุ่มแล้ว

    “เฮ้อ...เล่นเอาเหนื่อยทั้งวันเลย”รัตเกล้าเข้าห้องนอนด้วยชุดนอน เธอทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้ไม้หน้าโต๊ะที่เธอใช้เป็นทั้งโต๊ะเครื่องแป้งและตั้งโน้ตบุ๊ก

    รัตเกล้าเปิดโน้ตบุ๊กที่ไปขอยืมมาจากเพื่อนสาว ต่อสายอินเตอร์เน็ตและเข้าสู่โปรแกรมmsn หลังจากที่เธอมาอยู่ที่เซียะเหมินก็แทบจะไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนที่เมืองไทยเลย เพื่อนๆที่เมืองไทยดีใจมากที่ได้เห็นเธอในโลกออนไลน์อีกครั้ง เข้ามาทักทายและพูดคุยกับเธอจนเธอกดรับแทบไม่ทัน และหนึ่งในรายชื่อที่เข้ามาทักทายทำให้เธอถึงกับชะงัก

    “สบายดีหรือเปล่า”

    เธอมองข้อความของคนที่เธอยังรักสุดหัวใจทั้งตื่นเต้นระคนดีใจ เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้คุยกับเขาอีก

    “สบายดีค่ะ แล้วทางคุณล่ะเป็นยังไงบ้าง ยังทะเลาะกันอยู่อีกหรือเปล่า”

    “อย่าพูดเลย เซ็ง!

    “พูดแบบนี้แสดงว่ามีปัญหากันอีกล่ะสิ”

    “ไม่รู้เหมือนกัน”

    แล้วต่างฝ่ายต่างก็เงียบไปสักพัก รัตเกล้าจึงเป็นฝ่ายเริ่มชวนคุยก่อน

    “เปิดกล้องได้มั้ย อยากได้ยินเสียงอยากเห็นหน้าคุณด้วย”

    “ไม่เอา อาย”

    “จะอายทำไมตาบ้า เค้าก็มีกล้องแลกกันมั้ย”เธอหัวเราะให้กับประโยคเดิมที่เธอคุ้นเคย ในวันที่ความรักกำลังเริ่มผลิบาน

    และเมื่อภาพบนหน้าจอโหลดเสร็จ ใบหน้าของคนที่เธอเฝ้าคิดถึงอยู่ทุกคืนก็ปรากฏ เขายังคงไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเสียเท่าไหร่

    “เห็นหน้าเค้ายัง”เธอพูดผ่านไมทโครโฟน คนในจอพยักหน้ารับ

    “ไงไม่ได้เจอหน้ากันตั้งนาน นึกว่าจะจำกันไม่ได้ซะแล้ว”เธอส่งยิ้มเหมือนอย่างเคย

    “ก็เหมือนเดิมไม่เห็นจะเปลี่ยนเลย แล้วจะนอนแล้วหรอ”คนทางนู้นถาม

    “อืม...วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ก็เลยจะนอนเร็วหน่อย เวลาที่นี่จะเร็วกว่าที่นู้นประมาณหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้ที่นี่จะห้าทุ่มแล้ว”เธอว่า

    “กำลังสี่ทุ่มอยู่เลย”คนในจอภาพเหลียวไปมองนาฬิกาติดผนังแล้วก็ต้องสะดุ้งเหมือนเห็นอะไรบางอย่าง

    รัตเกล้าได้ยินเสียงผ่านหน้าจอ มันเป็นเสียงของผู้หญิงที่เธอเองก็รู้จักดี เค้าคงพับหน้าจอกระดานสนทนาระหว่างเธอลงแน่ๆ เพราะคนที่ทำให้เค้าผวายื่นหน้ามาที่หน้าจอเหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง

    “สวัสดีจ้ะ แก้ว นี่โรสเองนะ”เธอตัดสินใจทักก่อนเพื่อเหตุการณ์จะได้ไม่บานปลายไปกว่านี้

    “อ้าว!เป็นยังไงบ้างล่ะ โรส ไปอยู่ที่นู้นสบายดีมั้ย”คนในจอเอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม

    “สบายดีจ้ะ ปรับตัวเข้ากับที่นี่ได้แล้ว ว่าแต่มีอะไรกันอีกหรือเปล่าดูสีหน้าอุ้มแล้วไม่ค่อยดีเลย”

    “จะมีอะไร รู้มั้ยว่าแก้วจับได้ว่ามันเอาอีชะนีมากก”คนในจอหันไปจิกสายตาใส่จำเลยที่นั่งเงียบอยู่ไม่ไกล

    “หือ!มิน่าล่ะ ถึงได้อารมณ์บ่จอย ที่แท้ก็ถูกแก้วจับได้อีกนี่เองว่าแอบมีกิ๊ก เมื่อไหร่จะเลิกซะทีนะ ไอ้อุ้มบ้า คดีเก่ายังไม่ทันหายก็ก่อคดีใหม่อีกแล้ว”เธอทำท่าทำทางจิกสายตาไปที่มุมจอ คนทางนู้นเหมือนรู้ใจช่วยหันหน้าจอให้เห็นชัดๆ

    ทอมร่างอวบทำหน้าทำตาไม่พอใจที่พวกเธอต่างก็รุมจิกกัดในความผิดของตัวเอง

    “ทำไม!เมียสองคนไม่พอ จะเอาอีชะนีอีก มึงนี่”สาวผมยาวตะโกนด่าอย่างไม่เกรงใจ

    “พูดผิดแล้วแก้ว โรสน่ะแค่อดีตเมีย ไม่มีสิทธิไปยุ่งกับมันหรอก”เธอเน้นประโยคหลังอย่างจงใจ

    และการสื่อสารก็ถูกตัดลง เมื่อจำเลยเดินมายื้อแย่งปิดหน้าต่างการสนทนาออก ภาพและเสียงจึงหายไป

    “ชิ!ไอ้บ้า เมื่อไหร่จะเลิกทำร้ายจิตใจคนอื่นซะทีนะ”รัตเกล้านั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างหัวเสีย

    รัตเกล้าบอกลาเพื่อนๆทุกคน ก่อนที่จะปิดโน้ตบุ๊กแล้วคลานขึ้นเตียง เธอลืมตามองฝ้าเพดานแล้วหวนนึกถึงอดีตเมื่อวันวาน ภาพทุกภาพเธอยังคงจำมันได้ดีเหมือนกับว่าทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ความรักที่เธอทุ่มเทให้อย่างไม่คิดว่าจะมีวันจบ ก็พังทลายลงเมื่อเธอรู้ความจริงว่าเค้าหลอกลวงเธอมาตลอด หญิงสาวสะอื้นในอกเมื่อภาพแววตาของคนที่เธอรักในวันสุดท้ายที่ได้เจอกัน มันช่างบาดลึกลงในหัวใจจริงๆ รัตเกล้าหลับตาลงพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลออกมาอีกครั้ง

                                    .......................................................................................

    พิธีมงคลฉลองเปิดกิจการใหม่ถูกจัดขึ้นในช่วงสายของวันถัดมา วันนี้มินจูมาเปิดงานด้วยตัวเองในฐานะประธานบริษัท ไนต์คลับชั้นใต้ดินของโรงแรมระดับห้าดวงสร้างความสนใจให้แก่บรรดาวัยรุ่นนักศึกษาต่างแดนเป็นอย่างมาก เพราะที่เมืองเซียะเหมินจะหาไนต์คลับดีๆนั้นหายาก สำหรับนักศึกษาที่มาจากต่างแดน ทำให้มียอดจองห้องวีไอพีสูงมากตั้งแต่วันเปิดร้านอย่างเป็นทางการ

    ร่างระหงในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่เข้ากับกางเกงยีนสามส่วนกับรองเท้าผ้าใบในสไตลฮิบฮอบ ผมที่สั้นอยู่แล้วพอใส่หมวกแบบปีกหน้าก็ยิ่งทำให้เธอดูเท่ยิ่งกว่าดาราเกาหลี จนสาวๆหลายคนต้องเหลียวมามอง มินจูเดินเข้าไปในโซนคลับแดนซ์เนื่องจากข้างในค่อนข้างมืดจึงไม่มีพนักงานคนใดจำหน้าเธอได้เลย มินจูนั่งลงตรงมุมๆหนึ่งที่เห็นทางเข้าออกอย่างชัดเจน สาวหล่อกวาดสายตามองไปรอบๆอย่างสำรวจ แต่สาวๆหลายคนที่จับจ้องมาที่เธอกลับคิดว่าสาวหล่อกำลังสนใจพวกเธอคนใดกันแน่ เสียงเพลงดังกระหึ่มปลุกให้หัวใจของใครหลายๆคนให้โลดแล่นไปตามจังหวะของเสียงเพลง มินจูนั่งจิบคอลเทลฟังเพลงไปเรื่อยๆอย่างสบายอารมณ์ โดยที่สายตายังคงมองไปที่ประตูทางเข้าอย่างสม่ำเสมอ จนไปสะดุดเข้ากับร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอรู้สึกเหมือนว่าเคยรู้จักมาก่อน ร่างของเธอคนนั้นหายไปทางโซนวีไอพีมินจูจึงลุกเดินไปยังโซนนั้นเงียบๆ

                “แฮบปี้เบิร์ดเดย์จ้า น้องปู”รัตเกล้าส่งของขวัญกล่องเล็กให้สาวรุ่นน้องที่มองเธออย่างตะลึง

    วันนี้รัตเกล้ามาเที่ยวด้วยชุดเสื้อยืดแฟชั่นแบบคอกว้างไหล่ตกอวดสายเสื้อชั้นในที่แวววาวด้วยกากเพชร กระโปร่งยีนแบบจีบระบายเข้ากับกางเกงเลคกิ้งสีดำ ที่ช่วยปกปิดปมด้อยที่ขาให้ดูสมส่วน รองเท้าคัทชูส้นเตี้ยช่วยทำให้เธอไม่ปวดขาเวลาเดินไปไหนเพราะเธอจัดว่าเป็นคนสูงอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องใส่ส้นสูงมากนัก ผมที่เคยรวบไว้ข้างหลังอยู่ตลอดเวลาถูกจัดแต่งให้ตรงสลวยเข้ากับใบหน้ารูปไข่ที่แต่งแต้มจนสวยงาม

    “นี่พี่โรสจริงๆหรอ”น้องปูมองพี่สาวแสนสวยตรงหน้าอย่างตะลึง

    “ก็นี่แหละ นังโรส ทำไมกับพี่พวกเราจำได้ แต่ทำไมจำโรสไม่ได้”กีรติว่า

    “ก็พี่โรสเวลาถอดแว่นออก แต่งตัวแบบนี้แล้วสวยจนจำไมได้เลยน่ะสิค่ะ”น้องปูเอ่ยชม รัตเกล้าส่งยิ้มหวานให้ทุกคนในห้องวีไอพีที่มาร่วมงานวันเกิดในค่ำคืนนี้

    คนที่รู้จักเธอถึงกับอึ้ง ส่วนคนที่ไม่รู้จักก็สะกิดถามอย่างสนใจ

    “ปูก็ชมพี่เวอร์ไป พี่สวยตรงไหน หุ่นก็ไม่ดีหน้าตาก็งั้นๆ”เธอว่า

    “ใครบอก วันนี้พี่โรสสวยจนปูเคลิ้มไปเลย นี่ถ้าปูเป็นผู้ชายนะปูจะตามจีบพี่แน่ๆ”

    “โฮะๆ ปูลืมไปแล้วหรอว่าพี่ไม่ชอบผู้ชาย”รัตเกล้าหัวเราะอย่างออกจริตนิดๆ

    การประกาศตัวของเธอทำให้หนุ่มนักศึกษาคนอื่นรู้สึกผิดหวังไม่น้อย แต่ก็มีบางคนนึกอยากจะลองพิชิตใจสาวรุ่นพี่คนนี้ แต่ก็ถูกรัตเกล้าปั่นหัสกลับมาทุกครั้งไป บรรยากาศภายในห้องคาราโอเกะสนุกสนานครืนแครง โดยที่ข้างนอกห้องนั้นมีสายตาคู่หนึ่งแอบมองอยู่เงียบๆ

     

    มินจูแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเหมือนกันว่าสาวสวยคนนี้คือสาวแว่นที่ช่วยเหลือเธอในวันนั้น คนที่แอบมองอยู่หน้าประตูรีบหาที่หลบเมื่อคนข้างในเริ่มทยอยกันออกมา ขณะที่มินจูซ่อนตัวอยู่หลังต้นปาล์มขนาดเล็กอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นชายน่าสงสัยสองคนเดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับกระเป๋าสีดำใบย่อม มินจูรีบตามเข้าไปทันที และเนื่องจากการแต่งตัวของเธอเหมือนกับเด็กผู้ชายที่มาเที่ยวกลางคืนทั่วไปทำให้เข้าห้องน้ำชายโดยไม่มีใครสงสัย

    หญิงสาวในมาดหนุ่มน้อยแอบสังเกตว่าชายทั้งสองคนผ่านกระจกหน้าอ่างล้างมือเดินออกจากห้องน้ำมือเปล่า มินจูรีบเข้าไปสำรวจในห้องน้ำของชายคนที่ถือกระเป๋าเข้าไป กระเป๋าสีดำถูกวางอยู่ใต้ซิงชักโครก ไม่รอช้ามันจูรีบเปิดประเป๋าใบนั้นออกทันที ดวงตาของเธอถึงกับเบิกกว้างเมื่อสิ่งที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าคือ ระเบิด!

    “นี่ฉันเองนะ รีบส่งคนหาตัวผู้ชายสองคนที่ใส่ชุดสูทสีดำ พวกมันเป็นคนของตระกูลโจว”มินจูโทรศัพท์สั่งการ

    “เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ นายหญิง”เฉินลองถามกลับอย่างกังวล

    “พวกมันเอาระเบิดเวลามาทิ้งไว้ในห้องน้ำ ตั้งเวลาไว้คือห้านาที นายช่วยตามคนร้ายที ฉันคิดว่าป่านนี้มันคงจะรีบออกจากโรงแรมแน่ๆ”

    “รับทราบครับ แล้วนายหญิงจะทำอะไรกับระเบิดครับ”

    “เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง”พูดจบเธอก็กดตัดสาย อุ้มกระเป๋าใบนั้นออกจากห้องน้ำไปทันที

     

    ร่างบางรีบวิ่งออกจากตัวอาคารขณะที่เสียงติ๊กๆจากข้างในกระเป๋าก็เร่งเร้า จนเธอแทบลืมหายใจ นาทีเป็นนาทีตายของเธอก็ใกล้จะมาถึงที่สุดแล้ว มินจูวิ่งออกมาหยุดที่ระเบียงสายตาของเธอไปสะดุดเข้ากับสระว่ายน้ำของโรงแรม ไม่รอช้าเธอรีบวิ่งไปที่นั้นทันที เสี้ยววินาทีนั้นเอง มินจูโยนกระเป๋าใบนั้นลงสระน้ำ และ ตู้ม! เสียงระเบิดดังสนั่นละอองน้ำแตกกระจาย ร่างที่หมอบราบกับพื้นค่อยๆลุกขึ้นมาในสภาพเปียกปอน ไม่นานนักเฉินลองกับลูกน้องก็กรูกันเข้ามาตามเสียงระเบิด เห็นนายหญิงของตัวเองในสภาพมอมแมมก็ตกใจ

    “นายหญิง เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ”

    “ฉันไม่เป็นไร ดีที่เอาระเบิดทิ้งน้ำทัน ไม่งั้นฉันคงตายไปแล้วแน่ๆ”มินจูหันไปมองสภาพสระว่ายน้ำที่ถูกแรงระเบิดเล่นงานจนเสียหายไปไม่เท่าไหร่ เพราะระเบิดลูกนี้เป็นแค่ระเบิดเวลาธรรมดาพลังทำลายล้างเลยไม่รุนแรงเท่านั้น

    “พวกมันกล้ามาเหยียบจมูกเราแบบนี้เลยงั้นหรอ เด็กๆ ไปตามหาพวกมันมาให้ได้ อย่าให้มันหนีรอดไปได้เด็ดขาด!”เฉินลองสั่งเสียเฉียบ

    บรรดาลูกน้องรับคำสั่งก็รีบแยกย้ายออกไปตามหาเป้าหมายทันที คงเหลือไว้แต่มินจูกับเฉินลองที่ยืนดูสภาพสระว่ายน้ำอย่างโกรธแค้น

    “เฉินลอง ถ้าเจอตัวพวกมันเมื่อไหร่ ข้ามันไว้ฉันจะรีดความจริงออกจากปากพวกมันเอง”มินจูหันไปสั่งบอดี้การ์ดคนสนิท ใบหน้าเนียนส่งสายตาดุร้ายราวกับดวงตาของมังกรที่สลักอยู่บนแผ่นหลังของเธอก็ไม่ปาน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×