ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กิ๊กหัวใจให้ลงล๊อก (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #5 : มีดบินกับคมแฝก

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.พ. 53


               บนโต๊ะอาหารกับข้าวที่เหลือจากการขายเมื่อช่วงกลางวันและของที่ปรุงขึ้นมาใหม่ กำลังถูกลำเลียงไปที่โต๊ะพร้อมด้วยข้าวสวยร้อนๆส่งกลิ่นหอมกรุ่นสี่จาน เก้าอี้ไม้ถูกจัดวางคนละด้านตามจำนวนของคน

                    “เจีย มากินข้าวได้แล้ว”รัตเกล้าตะโกนเรียกเพื่อนสาวที่ขอตัวไปอาบน้ำอยู่ชั้นบน

                    มินจูที่ถูกเธอต้อนให้ลงมาจากห้องก็มานั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว ตามมาด้วยเหมยลี่ที่เข้ามานั่งพร้อมด้วยเหยือกน้ำ

                    “วันนี้คุณนั่งกินข้าวข้างล่างนี่ล่ะ อยู่แต่ในห้องเดี๋ยวจะเบื่อแย่”เธอหันไปเอ่ยกับมินจู

                    เมื่อเจ้าของเก้าอี้ตัวสุดท้ายนั่งลงประจำที่แล้ว ทุกคนก็เริ่มลงมือทานอาหารเย็น บนโต๊ะมีทั้งอาหารไทยและอาหารจีนฝีมือของเหมยลี่เอาไว้ให้เลือกรับประทาน ขณะที่ทุกคนกำลังกินกันอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น จู่ๆก็มีรถยุโรปคันใหญ่สีดำสามคันแล่นมาเรียงแถวจอดที่หน้าร้าน พร้อมด้วยชายฉกรรจ์ในชุดดำนับสิบคนออกจากรถมายืนอออยู่ด้านนอก

                    “คุณมินจู!พวกนั้น”รัตเกล้าร้องลั่น กีรติกับเหมยลี่ถึงกับตื่นกลัว

                    “พวกเธอรีบออกไปจากที่นี่ซะ”มินจูสั่งเสียงเข้ม

                    “แต่ว่า คุณล่ะ พวกนั้นคิดจะทำร้ายคุณนะ”รัตเกล้าพยายามดึงแขนเรียวให้หนีไปด้วยกัน

                    “พวกมันต้องการตัวฉัน เธอไปเถอะ”

                    “แต่ว่า...”

                    “โรส แกก็มัวแต่ไปยุ่งเรื่องของคนอื่นอยู่ได้ พวกเราไปกันเถอะ”กีรติโวยลั่น รีบลากเพื่อนสาวให้หนีไปพร้อมกัน

                    รัตเกล้าจำใจทิ้งหญิงสาวให้เผชิญกับสิ่งเลวร้ายตามลำพัง แล้ววิ่งหนีออกทางด้านหลังร้านไป

     

                    มินจูยังคงนั่งนิ่งๆอยู่กับที่ไม่มีท่าทีว่าจะขยับไปไหน กลุ่มชายชุดดำซึ้งนำทีมมาด้วยต้าอี้เดินย่างสุ่มเข้ามาด้านในอย่างเอาเรื่อง

                    “จางมินจู คราวที่แล้วแกหนีรอดไปได้ แต่คราวนี้...”ต้าอี้แสยะยิ้มอย่างเป็นต่อ แต่มินจูก็ไม่ได้มีความรู้สึกหวาดกลัวใดๆในคำพูดของเขา

                    “พูดมากจริงๆ พวกแกนี่”มันจูค่อยๆลุกออกมาช้าๆ กวาดสายตาไปที่พวกชายชุดดำอย่างประเมินสถานการณ์

                    “งั้นฉันก็จะไม่พูดมากอีแล้ว พวกเรา ฆ่ามัน!”สิ้นเสียงคำสั่งชายชุดดำก็กรูกันเข้ามาล้อมกรอบมินจูด้วยอาวุธครบมือ

                    มินจูกวาดสายตามองชายพวกนั้นอย่างไม่เกรงกลัว ชายชุดดำชูมีดสั่นในมือปราดเข้ามาจู่โจม เสี้ยววินาทีนั้นเอง มินจูตบโต๊ะอาหารทำให้ตะเกียบคู่ที่เธอใช้ลอยคว้างกลางอากาศ ควับ! เคร้ง! มินจูใช้ความแข็งของตะเกียบเป็นอาวุธรับมีดสั่น ก่อนที่จะส่วนกลับทันควัน

                    “อ๊าก!ชายคนนั้นกระเด็นออกมาด้วยฤทธิ์หมัดของมินจู

                    ชายคนที่สองก็กระโจนเข้ามา มินจูเบี่ยงตัวหลบคมมีดที่พุ่งเข้าหาตัวก่อนที่จะกระแทกกำปั้นที่ท้องน้อย ชายคนนั้นถึงกับจุกจนเผลอทำมีดหลุดมือ มินจูรีบคว้ามีดสองเล่มนั้นขึ้นมาวาดกระบวนท่ามีดสั้นพิฆาตฟาดฟันชายชุดดำคนอื่นๆ การต่อสู้จึงดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อยอดฝีมือที่ตามมาด้วยก้าวออกมา

                    “นี่น่ะหรอก  กระบวนท่ามังกรวายุ สมแล้วที่เป็นลูกสาวของจางคูมิน เจ้าสำนักมังกรฟ้า เถาไปไปคนนี้อยากจะประลองยุทธ์ด้วยเสียจริง”ชายร่างสูงผอม ใบหน้าตอบไว้หนวดเป็นเส้นเหมือหนวดกุ้งแสยะยิ้มที่มุมปาก

                    มิจูมองหน้าชายคนนั้นพร้อมกับทบทวนความทรงจำ เถาไปไป ยอดฝีมือทางด้านกระบี่ ซึ้งผันตัวเองมาเป็นนักฆ่าเพราะความโลภและไร้ศิลธรรม มินจูตั้งท่ารับเมื่อเถาไปไปเดินเยี่ยงย่างเข้ามาพร้อมกับกระบี่คู่กาย

                    “หึหึ...ท่าทางเอาเรื่องแบบนี้คงได้สนุกแน่ๆ”เถาไปไปตวัดกระบี่วาดกลางอากาศเพื่อข่มขวัญ แต่มินจูทำแค่กระตุกยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว

                    และแล้วการต่อสู้ของทั้งสองสุดยอดศาตราก็อุบัติขึ้น!?!

     

                    ทางด้านสามสาวต่างวัยที่เพิ่งหนีจากเหตุการณ์ระทึก เหมยลี่กับกีรติรู้สึกเสียขวัญมากกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น มีแต่รัตเกล้าเท่านั้นที่รู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวที่เธอทอดทิ้งแล้วหนีมา

                    “คอยดูนะ ถ้าร้านฉันพังพินาศเมื่อไหร่ ฉันจะแจ้งตำรวจจับพวกมันให้หมดเลย เพราะแกคนเดียวเลย นังโรส ไม่น่าไปเก็บผู้หญิงที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าแบบนั้นมาเลย สุดท้ายแล้วเป็นยังไง นำเอาเรื่องเดือดร้อนมาให้จนได้”กีรติบ่นออกมาเหมือนคนเสียสติ

                    “สงบสติอารมณ์หน่อยสิว่ะ เจีย พวกเราไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย แต่คนที่เป็นคือคุณมินจูต่างหาก”

                    “นี่แกยังมีหน้าไปห่วงผู้หญิงคนนั้นอีกหรอ ห่วงตัวเองก่อนเหอะ ว่าที่บ้านจะพินาศด้วยหรือเปล่า”

                    “ถ้าร้านพังเพราะฉัน ฉันก็จะทำงานใช้หนี้แก ฉันรับผิดชอบในการกระทำของฉันเองเสมอ”พูดจบรัตเกล้าก็หันหลังกลับ

                    “แล้วนั้นแกจะไปไหน”กีรติร้องลั่นเมื่อเห็นเพื่อนสาววิ่งกลับไปยังบ้านพัก

                    “ฉันจะไปช่วยคุณมินจู”เธอตะโกนตอบกลับ

                    “อีบ้า!แกมันบ้าไปแล้ว กลับมานะ นังเพื่อนบ้า!กีรติตะโกนตามหลังแต่รัตเกล้าไม่สนยังคงวิ่งตรงกลับไปทางเดิม

                    เวลานี้จิตใจของรัตเกล้าร้อนรุ่มอย่างประหลาด เธอเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุดจนมาถึงประตูหลังร้าน เสียงการต่อสู้เหมือนกระตุ้นจังหวะการเต้นของหัวใจของเธอให้แรงขึ้น รัตเกล้ารู้สึกตื่นเต้นอย่างประหลาด เธอมองไปที่ตู้เก็บของที่อยู่ติดผนังนอกห้องครัว ทันทีที่เปิดตู้ใบนั้นออกเธอก็พบกับสิ่งที่ทำให้หัวใจของเธอเรียกร้อง เพียงแต่รัตเกล้าหยิบคมแฝกออกมาเธอก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่มันสามารถปลุกสัญชาตญาณดิบของตัวเองออกมา รัตเกล้ามองคมแฝกในมือพร้อมกับนึกถึงกระบวนท่าการฟาดฟันด้วยคมแฝกที่เธอเห็นผ่านละครเรื่องหนึ่ง ซึ่งเธอชื่นชอบมากจนถึงขนาดซื้อไม้คมแฝกมาจากตลาดนัดคลองถม อาศัยว่าเป็นคนที่ช่างจดช่างจำทำให้เธอหัดกระบวนท่าเพลงคมแฝกจนมีฝีมือพอตัว แต่ถึงอย่างไรเธอก็ยังไม่เคยใช้ท่าคมแฝกนี้กับใครเพราะมันอันตรายเกินไปนั้นเอง

                    โครม! เสียงการต่อสู้ดังขึ้นปลุกให้เธอตื่นจากภวังค์ รัตเกล้ากำคมแฝกในมือแน่นก่อนที่จะวิ่งออกไปยังที่มาของเสียงโดยไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งใด

                   

                    ภาพการต่อสู้ตรงหน้าทำให้หัวใจของรัตเกล้าเต้นแรง มินจูใช้มีดสั้นต่อสู้กับกระบี่ได้อย่างสู่สี รัตเกล้ายืนมองจนตาค้างมันเหมือนกับว่าเธอได้หลุดเข้ามาในหนังจีนกำลังเสียอย่างนั้น แต่ในจังหวะที่มินจูกำลังเป็นต่ออยู่นั้นเอง หนึ่งในกลุ่มชายชุดดำที่ยืนล้อมกรอบดูการต่อสู้อยู่นั้น ล้วงอะไรบางอย่างออกมาจากเสื้อสูท เธอเห็นสิ่งนั้นแล้วถึงกับเบิกตากว้างเพราะว่าสิ่งนั้นมันคือ ปืน

                    “คุณมินจู ระวัง!

                    ด้วยสัญชาติญาณและปฏิกิริยาตอบโต้แบบฉับพลัน ทำให้เธอพุ่งเข้าไปขวางรัศมีของปากกระบอกปืนกำลังไปที่เล็งร่างบางที่ต่อสู้กับเถาไปไปอยู่เบื้องหน้า

                    เปรี้ยง! เฟี้ยว~! ประกายไฟเล็กๆเกิดขึ้นที่ปลายคมแฝก รัตเกล้าเหวี่ยงคมแฝกปัดลูกกระสุนกระดอนออกไปอีกทาง ท่ามกลางสายตาทุกคู่ที่จ้องมาที่เธออย่างตกตะลึง

                    “ถ้าจะรุมก็อย่าลอบกัดสิ”รัตเกล้าควงคมแฝกพร้อมกับตั้งท่ารับ

                    “โรส!”มินจูตกใจมากที่เห็นว่ารัตเกล้ากลับเข้ามา เธอทิ้งการต่อสู้กับเถาไปไปปราดเข้ามากันร่างอวบจากเหล่าชายฉกรรจ์

                    “เธอกลับมาทำไม!

                    “ก็กลับมาช่วยคุณน่ะสิ”เธอตอบ

                    “ช่วย! มาช่วยยุ่งมากกว่าล่ะสิ หลบออกไปนะ”มินจูหันมาดุรัตเกล้า ขณะเดียวกันก็ตั้งท่ารับพร้อมสู้

                    ชายฉกรรจ์ที่ล้อมกรอบเห็นว่าเป็นโอกาสดีพุ่งเข้าจู่โจมที่รัตเกล้า แต่ก็ถูกมินจูสกัดไว้ได้ มินจูพยายามกันไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายรัตเกล้าได้ เธอได้แต่ยืนอยู่ข้างหลังอย่างขัดใจ เถาไปไปที่ยืนมองอยู่ไม่ไกลก็แหยะยิ้มที่มุมปากพร้อมกับกระชับกระบี่คู่กายวาดกระบวนท่าร่างหญิงสาวที่มินจูพยายามปกป้องทันที

                    ควับ! เคร้ง! มินจูก็ไวเช่นกัน หญิงสาวรับกระบี่ที่หมายจะทำร้ายรัตเกล้าไว้ได้ แต่ก็ต้องถูกมีดสั้นอีกเล่มที่ต้าอี้ขว้างทำร้าย ฉึก!

                    “คุณมินจู!”รัตเกล้าร้องลั่น เมื่อปลายประบี่ของเถาไปไปกำลังพุ่งเข้าหาร่างบางที่กำลังเสียหลัก เพราะมีดสั้นได้ปักอยู่ที่ต้นแขน

                    เธอกระโดดเข้าไปขวางพร้อมกับเหวี่ยงคมแฝกปัดปลายกระบี่ออก เถาไปไปถึงกับเซเล็กน้อย แต่ก็ต้องตะลึงเมื่อปลายคมแฝกพุ่งเข้ากลางท้องน้อยเข้าอย่างจัง

                    “ครุฑาถลาลม!

                    ร่างสูงกระเด็นออกไปด้วยแรงโจมตีในท่าที่ตนไม่เคยพบเห็นมาก่อน

                    “กระบวนท่าอะไรกันนี่!”เถาไปไปกุมท้องน้อยที่เจ็บจนจุกระคนตกใจ เขามองรัตเกล้าที่ยืนขวางร่างของมินจูในท่าตั้งรับ

                    กลุ่มชายชุดดำเห็นว่ามินจูพลาดท่าเพราะฤทธิ์มีดสั้น จึงรีบจู่โจมทำร้ายพวกเธอทันที มินจูพยายามลุกขึ้นมาเพื่อปกป้องรัตเกล้าอีกครั้ง แต่รัตเกล้ากลับขยับมาปิดทางเธอไว้แล้วโต้กลับทันที รัตเกล้าพุ่งเข้าหาร่างชายชุดดำที่เข้ามาล้อมกรอบเธอพร้อมวาดคมแฝกตีสลับด้านซ้ายทีขวาทีอย่างไม่ยั้ง

                    “ย้าก!

                    “โรส!ระวัง!” มินจูพยายามกัดฟันลุกขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเห็นชายอีกคนลอบจู่โจมที่ด้านหลังของรัตเกล้า

                    ชั่วพริบตานั้นเอง! ร่างของรัตเกล้าก็ย่อตัวลงหลบคมมีดได้อย่างฉิวเฉียด เธอวาดคมแฝกสไลทกับพื้นเกิดเป็นประกายไฟและกระแสลมวูบหนึ่ง ทำให้ร่างของชายฉกรรจ์ที่กำลังล้อมร่างของเธอกระเด็นออกไปคนละทิศละทาง

                    “อัคคีสาดแสง!

                    เกิดความตะลึงไปชั่วขณะ มินจูเองก็เช่นกัน เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าหญิงสาวธรรมดาๆคนนี้จะมีฝีมือร้ายกาจพอตัว

                    ควับ! ควับ! เสียงใบมีดที่พุ่งตัดอากาศมาทำให้มินจูกระชับมีดสั้นในมือ เมื่อเห็นมีดสั้นพุ่งเข้าหาร่างที่ถือคมแฝก

                    เคร้ง! มีดสั้นสองเล่มปะทะกันกลางอากาศจะกระเด็นออกไปกันคนละทิศละทาง มินจูขว้างมีดสั้นสกัดช่วยรัตเกล้าไว้ได้ทัน

                    เสียงเอะอะจากด้านนอกร้านทำให้พวกที่อยู่ข้างในสนใจหันไปมอง ปรากฏว่าเป็นชายฉกรรจ์อีกกลุ่มหนึ่งยืนคุมเชิงอยู่ด้านนอกของร้าน มินจูหันไปมองกลุ่มคนข้างนอกด้วยดวงตาที่ฉายแววแห่งความยินดี

                    “ไอ้พวกหมาลอบกัด วันนี้จะเป็นวันตายของพวกแก”ชายร่างสูงซึ่งอยู่กลุ่มของชายฉกรรจ์ผู้มาใหม่ตะโกนขึ้น

                    รัตเกล้ามองสถานการณ์ข้างหน้าอย่างประเมิน เธอควงคมแฝกตั้งรับเต็มที่มองศัตรูกลุ่มใหม่ด้วยแววตามุ่งมั่น แต่ก็ถูกมินจูเข้ามาลากตัวออกไป การตะลุมบอนของชายทั้งสองกลุ่มจึงอุบัติขึ้น!?!

     

                    รัตเกล้ามึนงงกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น เธอหันไปมองหน้ามินจูที่ฉุดร่างเธอไว้ไม่ให้ออกไปยุ่งกับพวกที่กำลังยกพวกตีกัน จู่ๆหัวใจของเธอก็เต้นแรงเพราะใบหน้าของมินจูนั้นอยู่ห่างจากเธอแค่ไม่ถึงคืบ มินจูกดรัดร่างหนาๆของรัตเกล้าไว้กับตัว เหมือนกับว่ามินจูเอาตัวเองเป็นโล่ป้องกันลูกหลงจากเหตุการณ์ตะลุมบอนจากชายทั้งสองกลุ่ม รัตเกล้ารู้สึกว่าเหมือนใบหน้าของเธอจะร้อนวูบ กลิ่นกายอ่อนๆจากคนข้างๆแตะจมูกพร้อมกับกลิ่นคาวเลือด

                    “คุณมินจู! เลือดคุณออก”รัตเกล้าร้องลั่นเมื่อเห็นบาดแผลที่หัวไหล่ของหญิงสาว มีดสั้นเล่มนั้นยังคงปักคาอยู่ที่หัวไหล่ พร้อมกับเลือดที่ไหลซึมออกมาจนแดงฉาน มินจูคลายวงแขนออกมองที่บาดแผลของตัวเองบ้าง

                    “มียังปักคาอยู่เลย”รัตเกล้าถึงกับหน้าเสีย

                    “แค่นี้เองไม่เป็นไรหรอก”มินจูบอกกับเธอก่อนที่จะกัดฟันดึงเอามีดที่ปักออก แต่รัตเกล้าห้ามไว้

                    “อย่านะ ถ้าคุณดึงออกเองจะเสียเลือดมาก ฉันว่าคุณไปโรงพยาบาลดีกว่า อาศัยจังหวะนี้หนีไปกันเถอะ”

                    “ไม่จำเป็นหรอก”เสียงหนึ่งแทรกขึ้น รัตเกล้ารีบคว้าคมแฝกขึ้นมากันอย่างระวังภัย

                    “อย่าโรส นี่คนของฉัน”มินจูจับแขนรั้งเธอไว้

                    เธอหันไปมองมินจูอย่างแปลกใจ ชายแปลกหน้าผู้มาเยือนรีบถลาเข้ามาดูอาการของร่างบางที่นั่งหน้าซีดอย่างเป็นห่วง

                    “ขออภัยที่ผมมาช้า นายหญิง”

                    “พวกมันล่ะ”

                    “คนของเราต้อนพวกมัน จนมันเผ่นไปกันหมดแล้วล่ะครับ นายหญิง”เขาค่อยๆพยุงร่างบางขึ้น โดยมีสายตาของรัตเกล้ามองอย่างไม่เข้าใจ

                    “ฉันคิดไว้ไม่มีผิด ว่าพวกนายจะต้องตามหาฉันจนพบ แล้วนายก็พบฉันจริงๆ”มินจูเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

                    “พูดอะไรอย่างนั้นครับ นายหญิงเป็นหัวหน้าใหญ่ของพวกเรา ยังไงพวกเราก็ต้องตามหาท่าน และแก้แค้นคนที่มันกล้าทำร้ายนายหญิงให้ได้”ประโยคสุดท้ายคนที่ฟังอยู่ข้างหลังถึงกับขนลุกซู่

                    “ขอบใจมาก เฉินลอง”มินจูเอ่ยออกมาเบาๆก่อนที่สติจะดับวูบไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×