ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กิ๊กหัวใจให้ลงล๊อก (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #4 : เกลือเป็นหนอน

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 53


                ร่างสูงเดินลงมาจากชั้นสองมองไปที่ห้องครัวที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายอย่างสนใจ มินจูรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตั้งแต่รัตเกล้ากดปิดเสียงโหยหวนของนาฬิกาปลุกแล้ว แต่ทำเป็นแกล้งหลับเมื่อรัตเกล้าเดินเข้ามาดูเธอใกล้ๆ เสียงพูดคุยเสียงดังมาจากในครัวดึงความสนใจให้มินจูเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องครัว เหมยลี่กำลังหันเนื้อหมู กีรติกำลังล้างผักส่วนรัตเกล้าก็กำลังสาระวนอยู่กับการปรุงอาหารหน้าเตา สามสาวต่างวัยก้มหน้าก้มตาทำงานโดยไม่ทันสังเกตว่ามีใครมายืนอยู่ที่หน้าประตู

                    “อุ้ย! มีดบาด”เหมยลี่ชักนิ้วที่อาบไปด้วยเลือดออก

                    “พี่เหมยลี่เป็นยังไงบ้าง”รัตเกล้าตกใจรีบเข้ามาดูอาการสาวใหญ่

                    “มีดเข้าลึกมากเลย พี่เหมยลี่ เจียว่าพี่ไปทำแผลก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวทางนี้โรสกับเจียจะช่วยทำกันเองนะ”กิรติเอากระดาษทิชชูกดห้ามเลือดให้สาวใหญ่ ก่อนที่จะดันร่างเหมยลี่ออกไปจากห้องครัว

                    “อ้าว...คุณมินจู ตื่นแล้วหรอค่ะ ขอโทษนะค่ะ ตอนเช้าพวกฉันจะยุ่งมาก คุณทำแผลเองได้นะค่ะ”รัตเกล้าเอ่ยทักร่างสูงที่กำลังเบี่ยงตัวหลบเพื่อให้ทางแก่สาวใหญ่ออกไป

                    “ถ้าคุณหิวก็รอก่อนนะ อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว เจีย ผัดคะน้าหมูกรอบเสร็จแล้ว เหลือแต่แผนงหมู เดี๋ยวฉันฉันจะหันหมูที่เหลือเอง แกเอากับข้าวไปใส่ในตู้เลยก็ได้ จะได้ทันเปิดร้านเลย”เธอหันไปบอกมินจูก่อนที่จะหันไปบอกเพื่อนสาว พร้อมกับลงมือหันเนื้อหมูที่เหลือ

                    “เธอไปทำอย่างอื่นสิ เดี๋ยวฉันจะหันเนื้อนี่ให้”มินจูว่า

                    “งั้นก็ได้ คุณหันเนื้อหมูไปนะ ฉันจะไปเตรียมเครื่องแกง”พูดจบรัตเกล้าก็หันกลับไปเตรียมตั้งกระทะเคี่ยวน้ำกะทิรอ

                    “เสร็จแล้ว ฉันเอาวางตรงนี้นะ”มินจูยกเอาอ่างใบเล็กทื่มีเนื้อที่ถูกหันเป็นชิ้นๆอย่างสวยงามลงตรงหน้าเตา

                    “โอ้โฮ...ทำไมเร็วจัง หมูก้อนใหญ่ขนาดนี้ คุณหันไวอย่างกับเป็นมือโปรเลย”

                    “อยากให้ช่วยอะไรอีกมั้ยล่ะ”

                    “อืม...ถ้าคุณอยากช่วยฉันก็จะไ-ม่เกรงใจล่ะนะ”เธอส่งเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะเริ่มสั่งการแบบไม่เกรงใจ

     

                    กีรติเดินกลับเข้ามาในครัวอีกครั้งก็ต้องแปลกใจ เมื่อถาดใส่อาหารเต็มทุกถาด และตอนนี้ในครัวก็เริ่มมีการเก็บล้างทำความสะอาดแล้ว โดยคนตัวสูงที่อยู่ในชุดกันเปื้อนกำลังช่วยรัตเกล้าเช็ดโต๊ะยาว ที่ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยเศษผักจนสะอาด

                    “เสร็จหมดแล้วล่ะ ยกออกไปเลย เจีย”เธอหันไปบอกเพื่อน

                    “ทำไมเสร็จไวจัง”กีรติยกถาดอาหารพร้อมกับเอ่ยถาม

                    “คุณมินจูช่วยน่ะ ไปเถอะ ส่วนคุณเดี๋ยวกินข้าวแล้วก็กินยาซะ คุณเปลี่ยนผ้าพันแผลเองได้นะค่ะ”เอ่ยกับเพื่อนเสร็จกํหันไปสั่งมินจู

                    “เธอนี่ พูดมากจริง ฉันรู้แล้วล่ะ”มินจูว่า

                    “ถ้าฉันพูดมากก็ขอโทษด้วยนะ คนมันเคยตัว”เธอยักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจ ก่อนที่จะเอ่ยออกมาอีกว่า

                    “คุณคงจะทำครัวเก่งมาก ถึงได้หันเนื้อได้คล่องแถมยังเร็วอีกด้วย”

                    “ก็ไม่เชิงหรอก ถ้าให้พูดความจริง ฉันไม่เคยเข้าครัวเลย”มินจูเอ่ยพร้อมกับตักข้าวเข้าปาก

                    “พูดเป็นเล่น ไม่เคยเข้าครัวแต่ทำไมใช้มีดทำครัวซะคล่องเลย อย่ามาอำฉันเลยน่ะคุณ รู้มั้ย คุณน่ะแม่ศรีเรือนสุดๆ”รัตเกล้าพูดเจื้อแจ้วออกไปโดยไม่ทันสังเกตสีหน้าของอีกฝ่าย

                    ตึง!ร่างสูงทุบโต๊ะเสียงดังจนรัตเกล้าสะดุ้งหันไปมอง ใบหน้านวลที่มีรอยย่นระหว่างคิ้วสายตาน่ากลัวดุเหมือนเสื้อร้าย

                    “ฉันอิ่มแล้ว”พูดจบมินจูก็เดินผ่านหน้ารัตเกล้าออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เธอมองตามแผ่นหลังบางอย่างสำนึกผิดที่พูดในสิ่งที่มินจูอาจจะไม่ชอบก็เป็นได้

     

                    รัตเกล้ากลับเข้าไปในห้องของเธอพร้อมด้วยกล่องยาใบย่อม ที่เธอเพิ่งออกไปซื้อมาเพิ่งเมื่อตอนบ่าย เพื่อเปลี่ยนทำความสะอาดบาดแผลของมินจู ตอนนี้บาดแผลของหญิงสาวเริ่มดีขึ้นมาตามลำดับ รัตเกล้ามองไปยังร่างบางที่นั่งนิ่งๆอยู่บนเตียงสายตามองออกไปนอกหน้าต่างอย่างครุ่นคิดอะไรบางอย่าง มินจูเป็นผู้หญิงรูปร่างสูงโปร่งผมที่ซอยสั้นแค่บ่าช่วยทำให้ใบหน้ารูปใข่คมเข้มเหมือนผู้ชาย เธอถึงกับเผลอใจเต้นแรงเมื่อนึกถึงต้องที่ต้องทำแผลที่อยู่ภายในเสื้อเชิ้ตสีชมพูตัวนั้น

                    “ฉันเอากล่องยามาให้คุณ จะเปลี่ยนผ้าพันแผลให้นะค่ะ”เธอว่างกล่องยาไว้บนเตียง มือเธอสั่นน้อยๆเมื่อมินจูหันมามอง

                    ไม่มีคำพูดใดๆเอื้อนเอ่ย มินจูหันมาหารัตเกล้าพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกช้าๆ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะลุกขึ้นมาช่วยจัดการแก้แผลพันแผลผืนเก่าออก

                    “ฉันต้องขอโทษคุณด้วยนะค่ะ ถ้าหากว่าเมื่อเช้าฉันพูดอะไรไม่เข้าหูคุณ”รัตเกล้าเริ่มหาหัวข้อสนทนาก่อนเพื่อทำลายความเงียบ แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆเล็ดรอดออกมาจากปากสาวชาวจีนคนนี้เลย ทำให้รัตเกล้าไม่กล้าชวนเธอคุยอีกได้แต่ช่วยมินจูใส่ยาที่แผลเงียบๆ รัตเกล้าชะงักนิดนึงเมื่อไปสบสายตากับดวงตาสีแดงของมังกรบนแผ่นหลังของมินจูเข้า

                    “ดูท่าเธอคงจะชอบมังกรเอามากเลยจริงๆ”มินจูเอ่ยพร้อมกับปรายสายตามองคนที่กำลังทายาด้านหลังให้ตัวเอง

                    “มันก็ไม่เชิงหรอก แต่พอมองที่ดวงตาของมังกรทีไร รู้สึกแปลกๆทุกที”รัตเกล้าว่า

                    “ยังไงหรอ”มินจูถามด้วยความสนใจ

                    “ดูน่ากลัว น่าเกรงขาม และดูน่าหลงใหล”เธอเอ่ยขณะที่ช่วยพันผ้าแผ่นใหม่รอบอกของร่างบาง

                    “หึๆ เพิ่งเคยมีคนชมมังกรตัวนี้ว่าน่าหลงใหลนะ”มินจูหัวเราะเบาๆ

                    “เอ๋? แล้วทุกทีมีคนพูดถึงมังกรของคุณว่ายังไงหรอค่ะ”

                    “มังกรแห่งหายนะ ใครได้เห็นมันจะต้องตาย”มินจูเอ่ยเสียงเหี้ยม

                    “งั้นฉันก็ต้องตายสิ เพราะฉันเห็นหลายครั้งแล้ว”

                    “ไม่หรอก เพราะเธอช่วยชีวิตฉันไว้ มังกรตัวนี้ก็จะคุ้มครองเธอ”

                    “แหมดีจัง มีมังกรก็เท่ดีเหมือนกัน เอาล่ะ เสร็จแล้วค่ะ พักผ่อนได้แล้วค่ะ”เธอจัดการเก็บเศษผ้าพันแผลผืนเก่า ก่อนที่จะหันมาจัดที่นอนของตัวเองบ้าง

                    “ว่าแต่...คุณติดต่อกับทางบ้านได้แล้วหรือยัง”

                    “ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา”

                    รัตเกล้าหันไปมองหน้ามินจูอย่างแปลกใจ ร่างที่นั่งอยู่บนเตียงหันหน้าออกไปดูนอกหน้าต่าง สายตาของเธอเหมือนกำลังจับจ้องอะไรบางอย่าง ด้วยความสงสัยรัตเกล้าจึงเดินไปดู

                    “มีอะไรหรอ?”

                    ทันใดนั้น! ร่างของรัตเกล้าก็ถูกตวัดออกให้พ้นจากรัศมีของหน้าต่างอย่างรวดเร็วจนเธอไม่มีเวลาได้ตั้งตัว ร่างอวบๆของเธออยู่ใต้ร่างบางของมินจูบนเตียงนอนอย่างไม่ได้ตั้งใจ รัตเกล้าทั้งตื่นเต้นและตกใจกลิ่นน้ำยาล้างแผลและกลิ่นกายอ่อนๆของหญิงสาวชาวจีนทำให้หัวใจของเธอกระตุกวาบ

                    “อยู่เงียบๆก่อนนะ”เสียงแหบนิดๆของมินจูกระซิบอยู่ที่ข้างหู

                    รัตเกล้านอนนิ่งๆตัวแข็งทื่ออยู่ใต้ร่างบาง หัวใจก็เต้นรัวเหมือนกลองลั่น สักพักมินจูก็คลายวงแขนออกค่อยๆยันกายลุกขึ้นแล้วกลับไปที่หน้าต่างอีกครั้ง รัตเกล้าพยุงตัวเองให้ชุกขึ้นนั่งมองการกระทำของร่างบางอย่างไม่เข้าใจ

                    “มีอะไรงั้นหรอ”รัตเกล้าเอ่ยถามอีกครั้ง

                    “ไม่มีอะไรหรอก เธอนอนเถอะ ฉันจะนอนแล้ว”ไม่พูดเปล่า มินจูค่อยๆขยับตัวเข้าไปซุกอยู่ใต้ผ้าห่มแล้วล้มตัวลงนอน

                    รัตเกล้าได้แต่นั่งทำตาปริบๆไม่เข้าใจในการกระทำของหญิงสาว แล้วเมื่อครู่นี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอล่ะเนี่ย!?! ภาพเหตุการณ์และสัมผัสย้อนกลับเข้าในความคิดอีกครั้ง ใบหน้าของเธอก็ร้อนแผ่วขึ้นมาทันที เธอรีบสลัดภาพติดตานั้นออกก่อนที่จะกลับลงไปนอนที่ๆนอนสนามของตัวเองเงียบๆ

                    บนเตียง ร่างบางนอนลืมตานิ่งมือซ้ายกุมแขนขวาที่ถูกพันผ้าพันแผลแน่น

                                    ...................................................................................................

                    ที่ไนต์คลับแห่งหนึ่งในย่านบันเทิงของเซี่ยงไฮ้ กลุ่มชายฉกรรจ์ในชุดสูทสีดำกลุ่มใหญ่กำลังยืนตัวตรงเรียงแถวเพื่อต้อนรับนายใหญ่ ที่กำลังเดินเข้ามา เสียงจังหวะการเดินของรองเท้าราคาแพงบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ขุ่นมัวของคนใส่เป็นอย่างดี

                    “บัดซับจริง! แค่คนๆเดียวทำไมถึงยังหาไม่เจอ”เสียงคำรามลั่นของโจวเจ้าสื่อทำให้ลูกน้องถึงกับสะดุ้งเฮือก

                    “เอ่อ...ผมส่งลูกน้องไปสืบอยู่ครับนาย คิดว่าอีกไม่นานเราคงได้ข่าวจางมินจูแน่ๆ”ต้าอี้ลูกน้องคนสนิทรายงาน

                    “แล้วจะให้ฉันรออีกนานแค่ไหน อุตส่าห์มีโอกาสฆ่ามันได้แล้วเชียว แต่มันก็ดันหนีรอดไปได้”ร่างอ้วนๆของจ้าวสื่อนั่งลงบนโซฟาหายใจฟืดฟัดอย่างขัดใจ

                    “พวกแกมันไม่ได้เรื่อง!

    “อย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิค่ะ ดาร์ลิ้ง”เสียงหวานๆชวนให้หลงใหล ทำให้หนุ่มใหญ่หันไปมองร่างบางในชุดกระโปร่งสีแดงเพลิงเดินนวยนาคของมา มือเรียวที่เคลือบด้วยน้ำยาทาเล็บสีแดงลูกไล้ไปตามบ่าหนาๆของจ้าวสื่ออย่างมีจริต หล่อนส่งสายตายั่วยวนพร้อมรอยยิ้มบาดใจชาย จ้าวสื่อกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจก่อนที่จะกระชากร่างนั้นให้มาอยู่ที่หน้าตักของตัวเอง

    “งานนี้เธออุตส่าห์ทุ่มเททำเพื่อฉันแท้ๆ ซูซาน แต่ต้องมาพังไม่เป็นท่าเพราะพวกโง่พวกนี้ ไป! ออกไปให้หมด”สิ้นคำสั่งบรรดาลูกน้องต่างก็ถอยออกจากห้องไปจนหมด ประตูถูกปิดลงโดยลูกน้องคนสนิทด้วยรู้หน้าที่เป็นอย่างดี

    “คราวนี้มันรอดไปได้ แต่คราวหน้าฉันจะไม่ให้มันมีลมหายใจอีกแน่”ซูซานเอ่ยเสียงเหี้ยม นึกเจ็บใจไม่หายทั้งๆที่เธออุตส่าห์ลงทุนแฝงตัวจนได้ใกล้ชิดกับจางมินจู เพื่อลอบส่งข่าวความเคลื่อนไหวภายในให้โจวจ้าวสื่อ จนในที่สุดโอกาสก็มาถึงเมื่อจางมินจูออกมาตรวจความเรียบร้อยของธุรกิจสาขาใหม่ที่ เซียะเหมิน คนของจ้าวสื่อทำพลาดทำให้จางมินจูไหวตัวทัน จึงหนีรอดจากมือสังหารไปได้

                    “เธอทำดีแล้วซูซาน ตอนนี้พวกเราต้องรีบหาตัวมันให้พบก่อนที่พวกของมันจะแห่กันมาที่นั้น”จ้าวสื่อว่า มือหนาๆของเขาลูบไล้แผ่นหลังขาวเนียนอย่างจวบจ้วงก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่สะโพกกลมกลึง

                    “ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน ที่รัก มาให้ฉันชื่นใจหน่อยสิจ้ะ”

                    ซูซานกอดคอจ้าวสื่อพร้อมกับรอยยิ้มหวาน เมื่อความต้องการของเธอก็มีเหมือนกับเขาเช่นกัน ร่างสองร่างจึงกอดก่ายกันอย่างสนุกสนานอยู่ภายในห้องที่ถูกปิดตาย

     

                ร้านข้าวแกงจานด่วนยังคงมีลูกค้านักศึกษาเข้าแถวรอคิวซื้ออาหารกลางวันอย่างหนาแน่น เหมยลี่กำลังง่วนอยู่กับการเก็บกวาดโต๊ะที่ลูกค้าคนก่อนหน้านั่ง กีรติคอยจัดคิวลูกค้าที่มารออยู่ด้านนอกอย่างเรียบร้อย ส่วนรัตเกล้าก็ตักอาหารใส่จานตามออเดอร์ที่ได้รับอย่างสนุกสนานแทบจะลืมเหนื่อยไปเลย กว่าเธอจะได้นั่งพักก็เกือบบ่ายสองโมงแล้ว

                    “ช่วงนี้แถวๆตลาดตอนหัวค่ำมีแต่คนท่าทางแปลกๆเดินอยู่ตลอดเลย ฉันล่ะสงสัยจริงว่ามันจะเป็นพวกโจรขโมยชุดชั้นในหรือเปล่า”น้องปูเอ่ยกับเพื่อนสาวอีกคนที่กำลังนั่งดูดน้ำเก๊กฮวยอยู่ภายในร้าน

                    “นั้นสิ ฉันละกลัวจริงๆพวกโจรโรคจิตพวกนี้ ชอบขโมยชุดชั้นในผู้หญิง”

                    “กลัวอะไรกันหรอจ้ะสาวๆ”รัตเกล้าเดินเข้าไปสมทบกับพวกเด็กสาวรุ่นน้องอย่างคุ้นเคย

                    “ก็พวกโรคจิตน่ะสิค่ะ พี่โรส ช่วงนี้มีพวกผู้ชายท่าทางแปลกๆมาคอยดอมๆมองๆอยู่แถวๆบ้านเรานี่ล่ะค่ะ พวกพี่เองก็ระวังตัวไว้ด้วยนะค่ะ อยู่กันแค่ผู้หญิงสามคนด้วย อันตรายจริงๆ”น้องปูว่าอย่างเป็นห่วง

                    “ให้มันมาจริงๆเหอะ พี่จะได้เอาไม้ตีหัวโจรโรคจิตให้แบะเลย”เธอทำท่าทำทางหวดทัพพีตักแกง

                    “ดูท่าพี่โรสจะเอาเรื่องน่าดู”

                    “แน่นอน ตอนเด็กๆพี่ห้าวยิ่งกว่าผู้ชายซะอีก ใครๆเขาก็คิดว่าพี่จะต้องเป็นทอมแน่ๆ พี่น่ะชอบบู้ เคยตีกับเด็กผู้ชายมาแล้ว”เธอพูดอย่างอวดๆ

                    “จริงดิ ปูก็ว่าถ้าจะจริงเพราะดูจากหุ่นพี่โรสแล้ว ปูก็รู้สึกอยากจะอยู่ใกล้ๆกับพี่โรสจัง”น้องปูทำท่าออดอ้อนเดินเข้ามากอดแขนอวบๆของรัตเกล้า

                    “น้องปูก็ อย่าทำแบบนี้สิจ้ะ เดี๋ยวพี่ก็คิดลึกหรอก”รัตเกล้าดัดเสียงหล่อรับมุก ส่งสายตาหยอกล้อใส่สาวรุ่นน้อง จนทุกคนหัวเราะออกมา

                    “ปูอย่าไปใกล้มัน อีนี่มันชอบกินผู้หญิงด้วยกัน”กีรติแซว

                    “จริงอ่ะ! ไม่เป็นไรปูเต็มใจ”สาวรุ่นน้องเปลี่ยนจากกอดแขนมาเป็นโอบเอวหนาของรัตเกล้าแทน “กอดพี่โรสแล้วรู้สึกอุ้นอุ่น นิ่มก็นิ่ม ถ้าถอดแว่นออกปูว่าพี่โรสต้องสวยมากแน่ๆเลย”

                    “ว่าไปนั้น ไม่เอาแล้ว พี่ไปเก็บอขงหลังร้านก่อนนะจ้ะ เด็กๆ”รัตเกล้าตัดบทเดินกลับไปในครัว ระหว่างทางเธอก็พบเข้ากับมินจูพอดี

                    “อ้าว คุณมินจู ได้เวลาเปลี่ยนผ้าพันแผลแล้วหรอค่ะ รอเดี๋ยวนะค่ะ ผ้าพันแผลหมดแล้วฉันจะออกไปซื้อให้นะค่ะ”เธอบอกกับร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงเชิงบันได

                    “งั้นฉันไปด้วย”

                    “จะไปได้ยังไง คุณยังไม่หายเจ็บดีเลยนะ แล้วตอนนี้ข้างนอกก็อันตรายสำหรับคุณ เมื่อกี้น้องปูก็บอกฉันมาว่า พักนี้มีผู้ชายท่าทางแปลกๆเดินอยู่แถวนี้ ฉันกว่าว่าอาจจะเป็นพวกที่กำลังตามหาคุณอยู่ก็เป็นได้”

                    “ฉันได้ยินที่พวกเธอคุยกันหมดแล้ว ฉันถึงตัดสินใจจะออกไปดูลาดเลาไง”

                    “เอ็ะ!เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้คุณบอกว่า คุณ”ด้ยินที่พวกฉันคุยกัน นี่คุณฟังภาษาไทยออกหรอ”มินจูพยักหน้ารับแทนคำตอบพร้อมกับเอ่ยออกมาว่า

                    “ฉันเคยไปอยู่ที่เมืองไทยพักหนึ่ง เลยพอจะรู้อยู่บ้าง”

                    “โห!แล้วก็ไม่บอก เอาเถอะ ถ้าคุณอยากจะตามฉันออกไปด้วยแล้วล่ะก็ ใส่หมวกกับเสื้อตัวนี้ออกไปด้วยล่ะกัน”เธอยื่นหมวกแบบปีกหน้ากับเสื้อเชิ้ตแขนยาวตัวใหญ่ให้

                    สองสาวเดินออกจากหลังร้านตรงไปยังร้านขายยาในตลาดที่อยู่ไม่ไกลนัก พอซื้อของที่ต้องการเสร็จก็รับเดินกลับเข้าหลังร้านทันที โดยมีสายตาคู่หนึ่งที่แอบตามพวกเธอมา ตั้งแต่เดินออกจากร้านค้าโดยที่ทั้งสองไม่ทันระวัง

     

                    “ว่ายังไงนะ! เจอตัวมันแล้วอย่างนั้นหรอ”

                    ทันทีที่ต้าอี้เข้ามารายงานความคืบหน้า จ้าวสื่อก็แสยะยิ้มออกมาอย่างมีชัย

                    “ทำได้ดีมาก คราวนี้พวกแกแก้ตัวได้ดี ต้าอี้ ไปเตรียมคนของเราเอาไว้ให้พร้อม คืนนี้เพราะจะบุกไปเก็บมัน ฮ่าๆ”ต้าอี้โค้งให้กับนายใหญ่ ก่อนที่จะรับออกไปจัดการตามคำสั่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×