คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 ความอบอุ่น
ตอนที่ 3 ความอบอุ่น
ใบหน้าคมซุกไซ้เข้าหาร่างบางที่นอนกอดเขาอยู่โดยไม่รู้ตัว ซีวอนกอดกลับเช่นกันเพียงเพื่อต้องความอบอุ่นให้มากขึ้น ช่างเป็นความอบอุ่นแรก ที่ทำให้เขารู้สึกสบายเป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องทนกับอากาศเย็นข้างนอกและความหนาวเหน็บภายในหัวใจที่เกาะกุมเขามาตั้งแต่วันนั้น
อุ่นจัง
ความกรุ่นของกลิ่นหอมบางอย่างลอยเข้ามา จนชายหนุ่มต้องดอมดมหาความหวานหอมนั้น จนไม่อาจปล่อยวงแขนที่โอบรัดร่างน้อยๆไปได้
หอมจัง
..เหมือนว่ากายหนาจะโอบรัดมากไปสักนิด จนเจ้าของร่างบางที่แสนอบอุ่นนี้ขยับกายคล้ายกำลังจะตื่น เขาเองก็เช่นกัน
เจ้าของร่างเล็กขยับมากขึ้นจน ซีวอนค่อยๆสะสืมสะสือลืมตาตื่นขึ้นมองคนข้างกายท่ามกลางแสงสลัวของโคมไฟที่ทอดแสงส่องอยู่บนหัวนอน
หยดเหงื่อมากมายผุดพรายบนหน้าผากเนียนต้องสะท้อนแสงไฟดูระยิบระยับ เขามองขนตาแพหนาอย่างสนใจและสังเกตได้ว่า.. ภายใต้เปลือกตาที่ปิดสนิท แต่ภายในกลับเคลื่อนไหวไปมา
หรือ
เจ้าของห้องผู้ใจดีกำลังฝันร้าย ?
พรวด !
คนที่เขานอนกอดอยู่สะดุ้งเจ้าของร่างบางดันตัวขึ้นผละร่างหนาออก ซีวอนตกใจก่อนรีบหลับตาลงเพื่อไม่ให้คนที่เพิ่งตื่นเห็นว่าเขาตื่นมาก่อน
“ ฝันแบบนี้อีกแล้ว ” เขาได้ยินเสียงหวานบ่นพึมพำกับตัวเอง
ฝันร้ายจริงๆด้วยแฮะ
ชายหนุ่มคิดและแอบเหลือบตาขึ้นมองเห็นร่างเงาเพียงด้านข้างที่นั่งเหม่อมองออกไป สายตาหวานจ้องอย่างกับทะลุออกไปภายนอกและเจอกับความหนาวเย็นที่เขายังรู้สึกได้ แววตาสีหม่นที่สะท้อนแสงไฟดูเศร้าจนเขาไม่กล้าแม้จะลุกขึ้นมากอดและปลอบโยนกลับ
เขาเองก็ไม่ต่างกันนักหรอก....
“ อือ..”
ซีวอนแกล้งครางเสียงเบาเพื่อให้ร่างบางรู้ว่าเขากำลังละเมอและเรียกสติของคนนั่งเหม่อให้กลับคืนมา
อะไรก็ไม่รู้สั่งให้ทำ แต่เพราะเขาไม่อยากเห็นใครโศกเศร้าไปมากกว่าตนก็เท่านั้นเอง
“
”
“ นายหมาหลงทาง ” เจ้าของร่างเล็กที่มีกายหอมกรุ่นเหย้ายวนเรียกเขา
เมื่อได้ยินคำนี้อีกครั้ง หัวใจซีวอนกระตุกหัวใจนิดหน่อย ก็เพราะตอนนี้เขาเป็น ‘ นายหมาหลงทาง ’ อยู่จริงๆเสียด้วยนะซิ
ใบหน้าคมที่หลับตาลงนอนนิ่ง หวนคิดไปถึงใบหน้าสวยหวานที่อยู่ในหัวใจเขามาตลอด ซึ่งเป็นคนๆเดียวกันที่ทอดทิ้งเขาให้เป็นแบบนี้
ถึงทำให้เจ็บปวดที่หัวใจมากเพียงไหน แต่ไม่มีสักครั้งที่ซีวอนจะไม่คิดถึงบุคคลอันเป็นที่คนรักเดียวในหัวใจ รักมาตั้งแต่เด็กๆ รักเสียงหวานๆที่เรียกชื่อเขา รักเสียงไวโอลีนที่เล่นให้เขาฟัง รักทั้งๆที่ไม่เคยแยกความแตกต่างระหว่างร่างกายกับหัวใจ
ถึงรู้ว่าฮีซอลจะเป็นผู้ชาย แต่
เขาก็ยังรักอย่างนั้นตลอดมา
แม้แต่ตอนนี้ยังรักอยู่ไม่เสื่อมคลาย
ความหนาวเย็นเยือนกลับเข้าสู่ชายหนุ่มอีกครั้ง จนมือหนาเบียดกายเข้าหาร่างบางที่นั่งมองเขาอยู่นานแล้วเช่นกัน ซีวอนใช้สองมือคว้ามือนุ่มของคนข้างมาแนบไว้ข้างแก้ม ต้องการความอุ่นมายังเขาอีกครั้ง
ฝ่ามือนุ่มคอยๆดึงกลับ คงกลัวว่าเขาจะตื่นกระมัง..
“ นายนอนไปก่อนแล้วกันนะ ยังไม่ตื่นตอนนี้หรอกมั้ง ฉันกลับมาจากร้านแล้วค่อยคุยกัน ” เขารับรู้ว่าเจ้าของความหอม ดันกายลุกขึ้นไปแล้ว จนเขาเผลอคิดถึงคนที่เป็นสามเหตุให้เขาต้องบินจากฝรั่งเศสกลับมาเกาหลีนั่นเอง
ชายหนุ่มหลับตาลง
“ อืม ฮีซอลล
ผมรักคุณ
เขานึกขันผู้หญิงที่ช่วยเขามา ก่อนมองไปรอบๆห้องที่เขานอนอยู่ ในห้องแทบไม่มีอะไรเลยนอกจากตู้เก็บเสื้อผ้าขนาดย่อมสีเทาหม่น กระติ๊กน้ำร้อน และทีวีขนาดเล็กที่ดูท่าจะพังแหล่มิพังแหล่ ไม่รู้เจ้าของเก็บมาจากไหน ข้างของเครื่องใช้อีกกระจุกกระจิกที่ไม่เหมือนห้องของผู้หญิงเลยสักนิด
เป็นหญิงสาวที่แปลกดี ชายหนุ่มคิด ก่อนกวาดสายตาไปอีกครั้งและสายตาไปสดุดที่ชุดนักเรียนที่ค่อนข้างคุ้นตา เสื้อสีขาวเชิ้ตสีขาวปลอดพร้อมเน็คไทด์สีแดงสด ภายใต้เสื้อคลุมสูทสีน้ำเงินเข้ม
ชุดนักเรียนของโรงเรียนอึนเพ ! โรงเรียนที่เราต้องมาเรียนที่เกาหลีนี่น่า
แต่เอ๊ะ ! ชุดนักเรียนผู้ชาย งั้นเจ้าของห้องที่เก็บหมาหลงทางอย่างเขาคงไม่ใช่ผู้หญิงซะแล้ว
“
”
ซีวอนอึ้งไปสักพัก ก่อนร่างบางของฮยอกแจออกมาจากห้องน้ำ กายระหงสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงสีขาว และก้มหยิบเสื้อคุมสีน้ำตาลเข้มสวมใส่ พร้อมหมวกที่เขาแอบมองว่ายังไงก็อย่างกับคนทำอาหาร
ร่างบางหันมามองซีวอนที่แกล้งหลับตา
“ นอนไปก่อนนะ ตัวยังร้อนอยู่ฉันจะกลับมาดูนายตอนพักอีกที อย่าเพิ่งรีบตื่นนะ นายหมาหลงทางไปล่ะ ” ฮยอกแจ รีบออกไปจาห้องทันที ทิ้งซีวอนที่ดันตัวขึ้นมองประตูห้องที่ถูกปิดลงเสียแล้ว
เขาจะรอจนกว่าชายหนุ่มเจ้าของกลับมาดีหรือเปล่า ซีวอนคิด ป่านนี้ที่บ้านเขาคง วิ่งตามหาเขาวุ่นกันแล้ว แต่จะจากไปโดยไม่ได้ขอบใจเลยคงเป็นการเสียมารยาทเกินไป
“ รอแล้วกันอย่างน้อยก็อุตสาห์ช่วยล่ะนะ ” ซีวอนพูด และเหมือนรู้สึกว่าตัวเองยังมีไข้อยู่เลยทิ้งตัวลงนอนซึมซับกลิ่นหอมของร่างบางเขาไปอย่างไม่รู้ตัว
กลิ่นกายผู้ชายคนนี้หอมชะมัด เหมือนฮีซอลเลย แต่ไม่ใช่กลิ่นเดียวกัน ฮีซอลหวานเพราะกลิ่นน้ำหอมฝรั่งเศสเย้ายวนใจ แต่นายคนนี้หอมกลิ่นขนมหวานที่เขาชอบกิน
อ๋อ ! นึกออกแล้ว กลิ่นวนิลา
ก่อนซีวอนซุกตัวดอมดมกลิ่นหอมที่เขาชอบอย่างลืมตัวอีกครั้งจนหลับตาไปเพราะพิษไข้ที่ยังหลงเหลืออยู่
.
“ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรมากมายน่ะ ฮยอกแจ ” เสียงลุงชินดงแกล้งแซวผู้ช่วยที่กำลังปั้นแป้งขนมปังอยู่ ปั้นไปยิ้มไป จนอดไม่ได้ที่ถามถึงที่มาของรอยยิ้มนั้น
“ จะมีอะไรละฮะพ่อ ฮยอกแจไปเก็บหมามาได้นะซิครับ ตัวใหญ่เสียด้วย ผมบอกให้พาไปส่งตำรวจก็ไม่เอา ” ซองมินตอบแทน เจ้าตัวเดินเข้ามาพร้อมถาดใส่ขนมที่รอเอาไปตั้งหน้าร้านสายตามองฮยอกแจที่ยังยิ้มอยู่ได้
“ เอ๋ ! หมาหลงทางหรือฉลาดไหมล่ะ เจ้าของนี่ใจร้ายแฮะ ทำหมาหายแล้วไม่ยอมมาตามหา ” ลุงชินดงบ่นมองยอกแจที่กลั้นเสียงหัวเราะ
“ ไม่ใช่หรอกครับพ่อ ไม่ใช่หมาจริงๆซะหน่อย เป็นผู้ชายตัวใหญ่ที่ไม่สบายน่ะครับ ผมประชดฮยอกแจต่างหาก คนอะไรไม่รู้ใจดีเกินไปไว้ใจคนง่ายชะมัด นี่ถ้าเป็นคนร้ายนะ ฮยอกแจนายแย่ไปแล้ว ” ซองมินบ่นต่อส่วนมือกำลังตักขนมปังใส่ถาดและเดินออกไปหน้าร้านโดยไม่รอฟังเสียงพ่อร้องเรียก
“ ไอ้ลูกคนนี้ ขวานผ่าซากชะมัด ไม่เหมือนฮยอกแจของลุงใจดีและน่ารัก ” ฮยอกแจมองตามหลังเพื่อนชายไป ก่อนหันมายิ้มให้ลุงชินดงผู้ใจดีกว่าใครๆ
“ ขอบคุณครับลุง ซองมินเขาก็เป็นแบบนี้แหล่ะครับ ถึงจะปากร้ายไปนิดแต่ซองมินก็ช่วยผมทุกครั้ง ” ฮยอแจตอบจากความรู้สึกและนึกถึงอีกคนที่เห็นถึงความใจดีที่ซ่อนไว้ของซองมิน
คุณคยูฮยอนลูกค้าประจำของร้าน
“ แล้วเจ้าหมา เอ้ย ! ผู้ชายที่ฮยอกแจช่วยมาล่ะเป็นใครกัน ไว้ใจได้หรือเปล่า ” ลุงชินดงถามเสียงขรึมดูจริงจังคงเพราะเป็นห่วงหลานชายที่รับเลี้ยงดูอย่างลุกมาตั้งแต่เด็กนั่นเอง ไม่ใช่ลูกก็เหมือนลูก อีกคนปากร้ายกัดเขาไปทั่วอีกคนก็น่ารักพูดง่ายใจดี
“ ไม่มีอะไรหรอกครับลุง ตอนผมไปส่งขนมร้านคุณคยูฮยอน ผมเห็นเขามายืนบนสะพานแล้วจู่ๆทรุดลง ก็เลยวิ่งเขาไปดู พอจับตัวเท่านั้นแหล่ะครับก็รู้ว่าไม่สบายตัวร้อนอย่างกับไฟ ผมห่วงก็เลยโทรให้ซองมินไปส่งขนมแทนแล้วพากันมาพักที่บ้านผมน่ะครับ ผมเช็ดตัวให้ทั้งคืนเลย แต่ไข้ลดลงแล้วล่ะครับ ผมให้ทานยาลดไข้ไปแล้ว ตอนนี้ก็คงหลับอยู่ว่าตอนกลางวันจะกลับไปดูซะหน่อย ไหนๆก็ช่วยมาแล้วนี่นา ” ฮยอกแจว่า ก่อนลุงยกมือลูบหัวเขาด้วยความเอ็นดู
“ งั้นก็เอาโจ๊กที่ลุงทำไว้ไปให้เขาด้วยก็แล้วกัน กินของอ่อนๆดีกว่านะ เอาทำปั้นต่อๆ เร็วๆเราทั้งคู่ เด๊ยวพ่อยอดคุณลูกของลุงจะมาบ่นต่ออีก นั่นไงหันมาทำตาขวางใส่อีกนั่น ฮ่าๆๆ ” ลุงชินดงหัวเราะสายตาซองมินที่ค้อนขวับมาให้ก่อนทั้งเขาและลุงทำขนมกันต่อไป
พองานเสร็จช่วงเช้า ขนมปังในร้านขายดีมากเวลาผ่านไป จนเวลาผ่านไปรวดเร็ว ฮยอกแจเงยขึ้นมองดู แล้วพอได้พัก ตัวเองก็จัดการเตรียมอาหารมื้อกลางวันสำหรับตนเองพร้อมกับโจ๊กร้อนๆแสนอร่อยไปกินกับชายหนุ่มที่ตัวเองช่วยมาด้วย
“ คงตื่นและก็หิวแล้วล่ะมั้ง ตัวใหญ่ขนาดนั้นสงสัยจะกินเก่งอยู่เหมือนกันแฮะ ” ฮยอกแจกคิดและวิ่งตรงรี่กลับหอพักตัวเองที่อยู่ไม่ไกลจากร้านขนมปังของลุงชินดง
ฮยอแจแทบหมดแรงเกือบปล่อยกล่องอาหารที่เตรียมมาหล่นลงพื้น
“ กลับไปแล้วเหรอ ? ” เขาก้มมองผ้าห่มและที่นอนของตนเองที่เก็บเรียบร้อย เหมือนไม่มีร่องรอยของคนที่ตัวเองช่วยอยู่เลย
ทิ้งเขาไปอีกแล้ว
.
ทำไมกันนะ ?
ฮยอกแจคิดถึงแมวหลงทางขนสีขาวนวลที่เขาเคยช่วยเหลือเอาไว้ พอเจ้าแมวน้อยหายดีก็เข้ามาวนเวียนคลอเคลียอยู่กับเขาไม่ห่างพอให้สนุกสนานและไม่เหงาเวลาที่ต้องอยู่คนเดียวทั้งคืน แต่เวลาผ่านมาในวันหนึ่งหลังเขากลับมาจากโรงเรียน ร้องเรียกหาเจ้าแมวตัวนั้นอย่างเก่า แต่กับไม่เห็นไม่เห็นได้ยินเสียงขานรับเหลือเพียงจานอาหารที่ว่างเปล่า ฮยอกแจออกไปตามหา ไม่เห็นแม้แต่ร่องรอยที่เคนออกมาเดินเล่นด้วยกัน
อีกแล้วหรอเนี่ย
ชายหนุ่มคนเมื่อคืนพอฟื้นก็คงแปลกในที่มานอนในห้องเขาแบบนี้ และคงออกไปแล้ว
ฮยอกแจทิ้งตัวลงนั่ง ยกมือกอดกุมเข่าเขาหาลำตัวบางรู้สึกว่าช่างเหงาเสียจัง
“
”
แกร็ก !
!??
“ กลับมาแล้วเหรอหิวข้าวจังเลย ” เสียงทักทายทางด้านหลังทำให้ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นจากเข่าตนเอง ใบหน้าหล่อเหลายิ้มมาให้ และในทันทีฮยอกแจลุกขึ้นวิ่งไปคว้าโอบกอดรอบลำคอชายหนุ่ม
“ ฉันคิดว่านายกลับไปเสียแล้ว ” เสียงหวานสั่นเครือ ก่อนซีวอนโอบกอดร่างบางแน่นกระชับ
“ ฉันจะหนีไปโดยไม่บอกลาคนช่วยชีวิตไว้ได้ยังไงกัน..” เสียงทุ้มตอบกลับฮยอกแจรัดวงแขนแน่นขึ้น
ในใจร่างบางคิดถึงเพียงแต่ว่า
แม่ครับอย่างทิ้งผมไป
ผมไม่อยากให้ใครอีกแล้วทิ้งผมไปเหมือนแม่
“ ..!? ”
..
ร่างอวบๆของเด็กหนุ่มลูกชายลดร่างนั่งลงข้างหน้า ก่อนผู้เป็นพ่อหันหน้าไปมอง ซองมินหันมามองหน้าพ่อบ้าง
“ ฮยอกแจไปแล้วหรือครับพ่อ ” กลีบปากอิ่มเอ่ยถาม
“ ไปแล้วล่ะไปให้อาหารหมาหลงทาง สงสัยว่าคงจะตื่นแล้ว ” ชินดงตอบก่อนใช้ช้อนตักข้าวเข้าปากเคี้ยวตุ้ยอย่างอร่อย
“ พ่อน่ะชอบให้ท้ายฮยอกแจ ” ชินดงเสหันมองลูกชายที่ว่าตนทันที
“ พ่อไปให้ท้ายฮยอกแจตรงไหนกันซองมินลูกคนนี้นี่ ” ซองมินทำจมูกหย่น
“ พ่อก็รู้ว่าฮยอกแจใจดี ตั้งแต่แม่ทิ้งไป ไม่ว่าหมาแมวที่ไหนหลงมาฮยอกแจเก็บมาเลี้ยงหมด แถมพ่อก็ไม่ว่าสักคำ หมาแมวผมน่ะพอจะทนไหว แต่นี่อะไร ไม่ใช่หมาแล้วนะพ่อ คนทั้งคนแถมเป็นผู้ชายด้วย ผมบอกพ่อไปแล้วไม่ใช่หรือไง จำกันได้ไหมเนี่ย ให้ตายเหอะ ” ซองมินว่าก่อนเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปโดยไม่สนใจจะกินข้าวกินปลา สายตาลูกชายหันมองหาไปทางที่พักของฮยอกแจเท่านั้น
ชินดงนึกถึงลูกชายเมื่อสามปีก่อนที่เดินหน้าแดงแปล็ดเข้ามาปรึกษาถึงเรื่องตนเองที่มีความรู้สึกแปลกๆกับฮยอกแจ ชินดงคิดถึงคำที่ซองมินมาสารภาพว่า
‘ พ่อฮะผมไม่รู้เป็นไร ที่เวลาฮยอกแจกอด หัวใจที่ตรงนี้มันเต้นแรงผิดปรกติ ผมเคยไปถามเพื่อนๆผู้หญิงที่โรงเรียน แล้วพวกเธอก็ถามผมว่ารู้สึกกับใคร ผมไม่บอก แต่เพื่อนๆบอกว่าผมรักคนนั้นเข้าไปแล้วล่ะ พ่อครับผมรักฮยอกแจหรือฮะพ่อ ’ ก็กว่าเจ้าตัวจะเข้าใจได้เขาก็รู้ทันทีว่าลูกชายตนเองชักจะไม่ได้คิดกับฮยอกแจแค่เพื่อนหรือน้องชายซะแล้ว
ชินดงรู้ดีว่ายุคสมัยนั้นเริ่มเปลี่ยนไปซะแล้ว แต่ก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าซองมินจะรักผู้ชายด้วยกัน
และคนที่ซองมินรักก็คือฮยอกแจ เพื่อนรักที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก เขาไม่ได้ห้ามแต่บอกกับซองมินว่าอย่างบังคับใจฮยอกแจ ถ้าฮยอกแจไม่ได้คิดเหมือนกัน แต่ซองมันก็บอกว่าจะพยายามบังคับใจตนเองให้ได้
ชินดงส่ายหัว ก็ไอ้อาการปากไม่ตรงกับใจและพูดจาแบบมะนาวไม่มีน้ำกับคนที่เข้ามาใกล้ฮยอกแจที่ ‘ รัก ’ ไม่ว่า จะหมา แมว ผู้หญิงหรือผู้ชาย ซองมินจะเกิดอาการไม่ชอบใจ ไม่ชอบหน้าขึ้นมาทันที และซองมินก็คงรู้ว่าปฏิกิริยาเหล่านั้นมันเรียกว่าหึง
“ คราวนี้จะทำไงดีสำหรับคนเป็นพ่ออย่างเรานะ เฮ้อ ! ” ผู้เป็นพ่อและเป็นลุงถอนใจยาว ก่อนก้มหน้าก้มตากินอาหารมื้อกลางวันของตัวเองต่อไป และแอบมองดูลูกชายตนที่ชะเง้อลำคออวบๆคอยการกลับมาของฮยอกแจคนเดียว
ฮยอกแจเอ๋ยลูก
ลุงจะต้องทำยังไงดีล่ะ ไม่กล้าบอกจริงๆว่าลุกแมวตัวสุดท้ายที่ฮยอกแจเก็บมาเลี้ยงน่ะ ซองมินเป็นคนแอบเอาไปให้เพื่อนสาวที่โรงเรียนเลี้ยงแทนซะแล้ว
.
ความคิดเห็น