คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 คนไร้น้ำตา...
ตอนที่ 2 คนไร้น้ำตา...
“ แม่ครับแม่อยู่ที่ไหนมารับผมทีครับ.อย่าทิ้งผมไป..”
??
ความมืดครึ้มของท้องฟ้าบ่งบอกให้คนที่เดินขวักไขว่ตามถนน รีบเร่งฝีเท้าให้ก้าวไวกว่าเดิม จนไม่มีใครสังเกตเห็นเด็กชายเจ้าของร่างเล็กจ้อยที่ยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางเกาะกลางถนนที่กลางหลังมีกระเป๋าเป้ใบใหญ่สะพายอยู่ในมือกำผ้าเช็ดผ้าสีชมพูหวานที่ปักลายดอกทิวลิบสีขาว
จะมีใครสงสัยบ้างไหมนะทำไมเด็กน้อยมายืนคอยอยู่ตรงนี้...
...ใครเล่าจะสนใจกัน...
คนเป็นแม่บอกให้เด็กน้อยรอตรงนี้ตั้งแต่ตอนเช้า นี่ก็เย็นย่ำหมดแสงของตะวันและฝนกำลังจะตกลงมาอยู่แล้ว ฮยอกแจหันหา ไม่เห็นผู้เป็นแม่แม้เงา
ไหนแม่จะมารับกลับไปบ้าน บอกให้ข้ามถนนมารอตรงนี้อย่าไปไหน...
รถมากมายแล่นผ่านไปมาทั้งวัน ผู้คนก็เยอแยะ แต่ไม่มีใครสนใจฮยอกแจสักนิด...
“ ฮือๆ แม่ครับ แม่
” เด็กน้อยร้องเรียกหาเสียงแผ่ว
เสียงร่ำสะอึกสะอื้นตลอดทั้งวันจนแพขนตาสีน้ำตาลเปียกชุ่ม รอบลูกแก้วสีหม่นหมองคล้ำ ปลายจมูกโด่งรับกับใบหน้านวลช้ำขาวไปกับความรุนแรงของเจ้าที่ยกมือบางปาดทิ้ง...
เหมือนฟ้าจะช่วยตอกย้ำความเสียใจ น้ำฝนเย็นหยาดหยดหล่นร่วงกราวลงมา ฉ่ำนองพื้นที่ยังยืนนิ่ง สัญญาณไปจราจรเปลี่ยนสีไปเท่าไหร่ ก็ไม่มีวีแววว่าเด็กน้อยที่ยังยืนอยู่จะข้ามมาอีกฝั่งเสียที ผมหนาสีน้ำตาลที่พริ้วไหวยามต้องลมเปียกเรียบลู่ปกคุมใบหน้า น้ำตาที่ล้นทะลักยังไม่ยอมหยุดไหลแต่ปนเข้ากับหยาดน้ำฝนเป็นอันหนึ่งอันเดียว
แม้เสียงฟ้าผ่าลงเปรี้ยง ร่างน้อยกลัวจนจับใจแต่ก็ไม่อาจขยับเขยื้อนฝืนกายเดินได้ ปวดแปลบจนมือน้อยๆเกาะกุมฝั่งซ้ายของอก
ด้านที่หัวใจเต้นอยู่
เจ็บจังเลย...
‘ เดี๋ยวแม่มานะจ๊ะฮยอกแจ คอยที่นี่นะ อย่าไปไหน คอยแม่นะลูก...” เขาตั้งใจจะคอยจนกว่าแม่จะมารับ..ก็แม่สัญญากับผมไว้
ถึงจะปวดร้าวและหนาวเหน็บเพียงใด ฮยอกแจยืนอยู่ตรงนั้น
นานจน...
...จนลุงที่เป็นเพื่อนแม่วิ่งเข้ามารับตัวเขาเอาไว้ได้ทันก่อนฮยอกแจจะล้มลงไปพร้อมพิษไข้ที่ให้เขานอนซมอยู่เป็นหลายวัน
“ ฮยอกแจนายเป็นไงบ้าง พ่อครับช่วยฮยอกแจด้วย ช่วยฮยอกแจด้วย ” เสียงซองมิน ร้องเรียกข้างตัว
ซองมินเพื่อนตัวน้อยน่ารักรูปร่างกลมๆแก้มแดงอย่างซาลาเปา..เพื่อนเพียงคนเดียวของฮยอกแจตั้งแต่แม่กับเขาย้ายมาจากโซล
“ บ้าจริงเชียวทำไมยองซูคุณทำกับลูกได้ถึงขนาดนี้นะ ถ้าจะทิ้งเขา ไป ไม่ต้องทิ้งลูกแบบนี้ก็ได้ ใจร้ายที่สุด ให้ตายเหอะ ...ไม่เลี้ยงใช่ไหมเด็กคนเดียวฉันเอามาเลี้ยงเองก็ได้ ” เสียงลุงชินดง เจ้าของร้านขนมปังผู้ใจดี กลิ่นหอมของขนมลอยอบอวลรอบตัวลุงเสมอ ซองมินเองก็มีกลิ่นหอมเช่นเดียวกัน..
“ คุณน้ายองซูใจร้าย...ใจร้ายยยย...” เสียงซองมินจนเจียนจะร่ำไห้แทนเพื่อนตัวเล็ก
ใช่ ใจร้าย แม่ฉันใจร้าย...แม่ครับทำไมใจร้ายกับผมจัง...
“ ฮือออ พ่อครับ อย่าทิ้งผมไป แม่ครับอย่าทิ้งผมไปอีกคน...ฮือออ..” เด็กน้อยฮยอกแจครวญครางแทบขาดใจ “ ฮยอกแจอย่าร้องไห้นะ อย่าร้องไห้...”
‘ ใช่ ซองมิน ใช่
ฉันจะไม่ร้องไห้อีก จะไม่ร้องไห้ให้ใครเห็นน้ำตาอีกเด็ดขาด ’ เด็กน้อยยึดคำมั่นกับตัวเองแม้สติที่มีจะลางเลือนเต็มที
ภาพแม่ที่เดินหายลับไปมาย้ำเตือนการรอคอยอีกครั้ง..น้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย...
“ แม่ครับ
แม่ครับบบบ. ฮือออ..แม่ฮือ.... ” เสียงแหบพร่าของฮยอกแจเป็นเสียงสุดท้ายที่ตัวเขาเองได้ยิน สติดับวูบลงพร้อมร่างที่หมดแรง
..............
ภาพแห่งความทรงจำปรากฏฉายชัดในห้วงแห่งการหลับใหล จนร่างบางของฮยอกแจสะดุ้งขึ้นสุดตัว ปล่อยผละร่างหนาของคนข้างๆ
เหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้านวล
“ ฝันแบบนี้อีกแล้ว ” ฮยอกแจพำพึมกับตัวเองเบาๆ ก่อนคิดได้ยกมือบางขึ้นแตะใบหน้าตนเพื่อหาสิ่งที่หายไปจากเขานานแสนนาน
ไม่มี
ใช่..
ไม่มีอีกแล้ว
เขาไม่เคยเห็นน้ำตาตนเองอีกเลย นานมาแล้วเป็นสิบปี...ถึงจะเสียใจกับเรื่องราวต่างๆมากเพียงไหน ฮยอกแจไม่เคยให้ใครเห็นใบหน้าที่เศร้าโศกอีก อย่าว่าแต่น้ำตาเลย...
ฉันจะไม่ร้องไห้ ฉันจะไม่ร้องไห้ตลอดไป..
“ อือ..”
??
ฮยอกแจหันมองตามเจ้าของเสียง
“ นายหมาหลงทาง ” ร่างเล็กเรียกคนที่นอนหลับใหล
เขาวุ่นวายกับคนตัวใหญ่นี้ไม่น้อยเมื่อคืน ซองมินบ่นอุบที่ต้องวินนำขนมไปส่งบ้านคุณคยูแทนเขา ที่ต้องดูแลหมาตัวใหญ่คอยอยู่ข้างริมทางตรงสะพาน ไม่รู้จะทำไงดี เพราะคนไม่มีสติปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น เขาและซองมินพยายามจะหาหลักฐานความมีตัวตนของชายหนุ่ม แต่ก็ไม่พบสักอย่าง เหมือนกับว่าเขาไม่สนใจที่จะนำมาด้วย แม้โทรศัพท์มือถือสักเครื่องก็ไม่มีนอกจาก เสื้อคลุมตัวงาม กับเสื้อและกางเกงแบรนด์เนมชื่อดังที่เจ้าตัวใส่ติดกายมาด้วยเท่านั้น
ซองมินให้พาไปส่งคุณ
และหน้าตาแบบนี้ก็คงไม่ใช่คนร้ายที่ทำผิดมาจากที่ไหนหรอก ฮยอกแจบอกเพื่อน
ซองมินส่ายหัวกับความใจดีชนิดเรียกว่านางฟ้าของเพื่อนไม่หาย ...แต่ก็ไม่วายที่จะบ่นเรื่องที่อยู่ของเขาต่อตลอดทางที่เดินพยุงร่างใหญ่กลับมาด้วยกัน
“ ฉันบอกให้นายอยู่บ้านฉันก็ไม่ยอม ฮยอกแจนายนี่น้าทำฉันเป็นห่วงเรื่อยเลยให้ตายเถอะชอบช่วยเหลือคนแปลกหน้านัก ใจดีแบบนี้คงมีสักวันที่นายพลาด ยังไงก็อย่ามาว่าฉันไม่เตือนแล้วกันนะฮยอกแจ ” ซองมินกำชับทิ้งท้ายเสมอ น้ำเสียงบ่นรำคาญ แต่แฝงความห่วงใยอย่างเป็นที่สุด
ฮยอกแจรับรู้ได้ดีเสมอมา
แค่ให้ที่พักอาศัย รับเลี้ยงดูก็มากมายเสียจนฮยอกแจละอายแก่ใจ แม้ลุงชินดงจะรักและเอ็นดูเขาไม่ต่างกับลูกก็ตามที
เขาขอลุงชินดงย้ายออกมาเอง เพราะมีรายได้พอที่จะจ่ายค่าเช่าห้องและค่าน้ำค่าไฟที่แทบจะไม่มากนัก ดีกว่าอาศัยอยู่บ้านลุงและเพื่อนผู้ใจดี ที่ช่วยรับเลี้ยงเขามาตั้งแต่ยังเด็ก...หลังจากพ่อเสียชีวิตไปเพราะอุบัติเหตุ และแม่ก็ทิ้งเขาหายไปไม่เคยแม้จะติดต่อหรือกลับมาหาเขาเลยสักครั้ง
บุญคุณล้นจนท่วมหัวเขาที่ไม่มีวันคืนให้หมด และไม่อาจละทิ้งไปไหนได้
ส่วนงานพิเศษที่เขาทำจนมีรายได้อยู่ตอนนี้ก็คือเป็นผู้ช่วยทำขนมในร้านของลุงนั่นแหล่ะ อาหารพร้อมทุกมื้อ แทบจะไม่ได้จ่ายอะไรเลย และซองมินเองก็ช่วยเหลือเขาแทบทุกอย่าง ถึงปากจะบ่น แต่ไม่มีสักครั้งที่จะปฏิเสธในสิ่งที่เขาขอร้อง
“ อือ..”
??
เสียงคนตัวใหญ่ข้างกาย ดึงความคิดของฮยอกแจกลับมาอีกครั้ง
เมื่อคืนกว่าจะได้นอน ก็ต้องดุแลเช็ดตัวให้จนเห็นว่าคนตัวใหญ่ตัวเย็นลงนั่นแหล่ะเขาจึงหลับตาลงได้
เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันแฮะ
เรียวปากบางยิ้มกว้างกับวงหน้าคมเข้มเห็นที่ได้ชัดขึ้นกว่าเมื่อคืนมาก มุมปากคนร่างใหญ่หยักยกยิ้ม เผยให้คนที่นอนหลับดูคมคายไม่ใช่น้อย
หากรอยยิ้มยามตื่นล่ะ จะทรงเสน่ห์สักปานใดนะ
หล่อเหมือนกันนี่นา นายหมาหลงทาง
ฮยอกแจพินิจ..
กริ๊งงงง
!??
แอบชมคนถูกเก็บมาได้ไม่นานร่างบางสะดุ้งกับเสียงนาฬิกาปลุกที่บนหัวนอน ก่อนดวงตาคู่สวยมองเห็นเข็มสั้นบนหน้าปัดบอกเวลาตีสี่ของวันแล้ว
ต้องไปแล้ว แป้งที่หมักไว้เตรียมปั้นและอบแล้ว..
ฮยอกแจค่อยๆยันกายขึ้น แต่ก้มลงไปมองดูเจ้าของร่างที่พามาพักอย่างเงียบๆ
“ นายนอนไปก่อนแล้วกันนะ ยังไม่ตื่นตอนนี้หรอกมั้ง ฉันกลับมาจากร้านแล้วค่อยคุยกัน ” พูดจบฮยอกแจคว้าผ้าผืนนุ่มวิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที ไม่ทันได้ยินเสียงของคนนอนละเมอออกมา
“ อืม ฮีซอลล
ผมรักคุณ
ความคิดเห็น