คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 57 ค่าปรับ 100 %
ตอนที่ 57 ค่าปรับ
100 %
“ ขอบคุณครับพี่ที่ย้อนกลับมาส่ง นี่ฮะค่ารถ ” อิมกล่าวขอบคุณโชเฟอร์ จนคนขับนึกแปลกใจกับกิริยาของเด็กชายหน้าตาน่ารักคนนี้มองดูว่ากำลังทำใจเย็นให้มากที่สุด เพราะในรถตลอดทางที่ขับกลับมา เขาแอบมองผ่านกระจกเห็นเด็กชายกำหนดลมหายใจเข้าออก เหมือนกับกำลังรวบรวมสมาธิเพื่อคิดจะทำอะไร
ยังไงเห็นท่าทางแบบนี้หน้าดีกว่าในตอนแรกเป็นไหนๆ อย่างน้อยก็มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหวานนี้แทนหน้าบึ้งตึงก็พอแล้ว
ไม่ต้องถามก็เข้าใจถูกแล้วล่ะ นายอิมของเรากำลังตั้งสติอย่างคนขับแท็กซี่คิดมาตลอดทาง เขาพยายามคิดหาทางเพื่อจะขอคืนดีกับนายจาให้ได้
ทั้งการพูด การแสดงออกบ่งบอกอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งเลยว่านายจาสุดที่รักของเขากำลังคิดมากไปคนเดียวจนมีอาการให้เห็นถึงความน้อยใจสุดขีด บวกกับร่างกายที่ยังไม่กลับมาแข็งแรงเต็มที่ ก็คนเคยเป็นถึงนักกีฬาระดับชาติ ต้องมามีร่างกายที่ต้องเฝ้ารักษาพาให้จิตใจห่อเหี่ยวไปกันใหญ่
ก็เล่นเอาเขาอึ้งกิมกี่ไปหลายดอก ฮุกซ้ายฮุกขวาหน้าหงายสมองเบลอไปหลายนาที
เสียงบอกเลิกที่ก้องอยู่ในหูยังไม่หายไปเลย
“ เฮ้อออออ
” ถึงจะทำใจได้แล้วแต่ก็ขอถอนลมหายใจเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากสมองมั้งก็ดี หัวจะได้โล่ง
กลับไปคราวนี้เพื่อว่าจะพูดกันให้รู้เรื่อง
“
”
ก็ใครจะเรียกว่าไปง้อสามีก็ว่ามาเหอะ
เพราะยังไงก็ต้องไปง้อ
ใช่ง้อ !
จะง้อยังไง ?
แล้ววิธีไหนล่ะที่จะง้อได้ ?
แก้ผ้าแล้วลากไอ้จาไปปล้ำเลยดีไหม !
หรือ ?
แก้ผ้าตัวเองให้ไอ้จาลากไปปล้ำดี ??????
“ แหะ ๆ บ้าไปใหญ่แล้วเรา ” อิมยกมือเกาหัวแกรก เขอะเขินกับความคิดที่ออกจากสุดเอ๊กซ์จนเกินขนาดไป ไม้อ่อนไม้แข็งก็เคยใช้จนรู้ไส้รู้พุงกันจนหมด คราวนี้อิมเลยต้องคิดหนักเป็นพิเศษ
ในสมองคิดหาทางที่จะขอคืนดี แต่สายตาไล่มองประตูเหล็กสูงเกินความสูงตนเป็นสองเท่าอย่างหนักใจยิ่งกว่า
!?
“ เข้าไปให้ได้ก่อนแล้วกันวะ แมร่งเอ๊ยเสรือกล็อคประตูเสียด้วย ไอ้หร่าจาแล้วกรูจะเข้าไปข้างในได้ไงวะเนี่ย ! ” บ่นให้ตัวเองอุบ สองตากลมมองลอดช่องเข้าไปด้านใน ไม่กะเรียกให้จามาเปิด แต่กะว่าจะหาทางเข้าไปเอง แล้วมองซ้ายทีขวาทีเห็นไม่มีใครผ่านมา ร่างเล็กก็ยึดเหล็กหนาเอาเป็นที่ตั้งก่อนค่อยๆปีนป่ายพาร่างของตนค่อยๆสูงขึ้นไปจนถึงยอดสุดของประตูเหล็ก
อย่าให้ใครมาเห็นแล้วคิดว่าเราเป็นขโมยก็พอ
ไอ้จาเอ๋ย มรึงจะรู้ไหมว่ากรูกำลังปีนเข้าไปตามมรึงกลับมาเป็นของกรูอะ
ก็เพราะรักหรอกนะ
แมร่งสูงขนาดไหน อิมจะปีนไปให้ถึงตัวเองนะไอ้จายอดรักกกกกกกกก
ตุบ !
.
“ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะครับพี่ออย ” ผมกล่าวคำขอบคุณเธอ คุณพยาบาลแสนสวยใจดี พอได้ยินฝั่งปลายสายแย้มรับเรียวปากอิ่มยิ้มกว้าง ก่อนกล่าวเสียงนุ่มนวลกลับมา
“ ไม่เป็นไรจ๊ะน้องจา มีอะไรไม่สบายใจโทรมาอีกได้นะ พี่ยินดีเสมอ ” ไม่ใช่การรบกวน แต่ต้องการเพื่อแบ่งเบาความทุกข์จากหัวใจที่อ่อนต่อโลก
ความรัก
ที่ทุกผู้ทุกนามต้องพานพบ ยิ่งหลบลี้หลีกหนีรัก รักยิ่งวิ่งเข้าหา หากยังเป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อมีวิญญาณ และยังยิดติดกับสิ่งที่ยังปรารถนา คอยไขว่คว้าสนองความต้องการอย่างไม่จบสิ้น
โรคความรัก
ที่แม้แต่ตัวคุณพยาบาลผู้ใจดีเองยังเคยเป็น ..แต่ก็ผ่านมาได้เพียงมองถึงเหตุและผลตามหลักพระพุทธศาสนาที่ดำรงอยู่ในจิตใจ เพียงบ่มเพาะและปลูกฝังความเป็นไปให้รู้เรียน ยอมรับ เข้าใจ
“ รักให้เป็นนะจา ไม่ต้องเชื่อพี่ แต่ทำอย่างที่พี่บอก แล้วจาจะได้พบกับความสุขที่ต้องการ ” ปลายสายกล่าวย้ำเสียงชัดเจน หัวใจน้อยๆของเด็กหนุ่มค่อยทุเลาลง เพียงเปลี่ยนความคิดของตน เท่านั้น ก็เป็นสุขนัก
ตี๊ด !
ผมมองมือถือตนเองอยู่เป็นนานหลังจากกดวาง นึกขอบคุณพี่บอย พี่ชายใจดีที่ให้เบอร์พี่สาวใจดีมา ช่วยได้มากทีเดียว
“ รักให้เป็น ! ” แล้วริมฝีปากหยักก็ยกยิ้มเพียงพูดในสิ่งที่เข้าใจ
รู้แล้ว..
ยังนึกขันกับสิ่งที่ตนทำลงไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า
“ อิม ” ยังทันใช่ไหมหากจะกลับไปปรับความเข้าใจกัน
ตุบ !
“ ? ”
จาหันขวับไปตามเสียงนั้น เสียงบางสิ่งบางอย่างที่ร่วงหล่นมาแสนไกล
เสียงที่ดังมาจากทางประตูบ้านเบื้องหน้า
????
ตุบ !
“ โอ๊ยยยย
”
เสียงร้องเกิดจากร่างเด็กชายตัวเล็กในชุดนักเรียน ร่วงหล่นสู่พื้นคอนกรีตหลังพลัดตกมาจากประตูเหล็กสูงที่ได้ปีนป่ายข้ามมา
ใครเห็นก็คงคิดว่า เขาโชคดีมากที่เอาก้นลง ไม่ใช่หัว ไม่ใช่แขนขาหรืออวัยวะอย่างอื่น ไม่อย่างนั้น หัวคงแตก แขนหรือขาคงหักเป็นแน่
!?
( แล้วเจ้าตัวล่ะ นู๋อิมของนายจาจะขวัญหนีดีฝ่อขนาดไหน เราไปตามดูเขากันค่ะ )
!?
หลังจากตกลงสู้พื้น อิมกะพริบตาปริบๆ ในกายหัวใจเต้นระทึกถี่รัวแทบจะนับไม่ทัน บอกได้เลยว่าเขาตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น้อย แล้วเจ้าตัวเล็กรีบหันขึ้นไปมองประตูเหล็กใหญ่ที่มือของเขาเกิดจับพลาด แล้วก็พลัดตกลงมาทันที
ด้วยความมืดมองเห็นไม่มาก และเขาเองก็คงรีบลงมาเร็วไปหน่อย
ให้ตายเหอะ
เกือบเป็นข่าวหน้าหนึ่งเช้าวันใหม่เสียแล้วซิเรา
อิมคิด
ขนตาเป็นแพยาวกะพริบถี่ขึ้นไปอีก
‘เด็กชายหน้าตาดีริอ่านขโมยของ ปีนข้ามรั้วสูงเกินสามเมตรด้วยความอุกอาจ กระทำการไม่สำเร็จพลัดตกลงมาดับอนาจ
’
ข้อความที่พาดนำเสนอ.. น่าอายชะมัด
ยิ่งคิด ยิ่งนึก ยิ่งจินตนาการ..
สยองชิบ !
คิดแล้วให้เสียวระบบทางเดินอาหาร
ยังไงน่ะหรือ ?
ก็ไล่กันตั้งแต่ลิ้นไก่ยันปลายลำไส้ใหญ่ เอามันสุดปลายตรูดไปเลย ก็เพราะเสียวแค่ไส้อย่างเดีย
วมันคงไม่พอ
สองตากลมเงยมองประตูใหญ่อีกครั้ง
“ พู่
รอดมาได้ไงวะเรา ” เป่าลมเพื่อไล่ออกจากปากกับเหตุการณ์เฉียดตาย
หยดเหงื่อเม็ดใสอาบแก้มเนียน กะพริบตาปริบๆเรียกขวัญที่โดดหนีไปก่อนร่างเล็กของเขาหล่นร่วงลงมายังพื้นเสียอีก
ไม่น่ารอด !
แต่ก็รอดมาได้แหล่ะน่า คนดีๆอย่างเรา บุญยังดี แถมผียังคุ้ม
อิมคิดไปต่างๆนานา ก่อนย้อนกลับมาสำรวจร่างกายตนเองในทันที รู้ว่าไม่ตายแน่ๆ ตกมาสูงขนาดนี้ ร้องดังขนาดนั้นมันต้องเจ็บกันมั้งแหล่ะวะ
แล้วอะไรล่ะที่มันจะเจ็บ
ว่าแล้วเอี้ยวตัวใช้มือจับตรูดตนในทันที
“ โอ๊ย ! ”
อิมหยีตาซี๊ดปากเพื่อไล่ความเจ็บ
หวังลดทอนให้ทุเลาเบาบาง...
“ โอยเหรี้ย
เจ็บชะมัด ” บ่นได้สักครู่แล้วเริ่มสำรวจร่างกายตัวเองอีกครั้ง เห็นมีเลือดไหลซิบบนบาดแผลสีม่วงคล้ำที่ท่อนแขนขาวๆทั้งสองข้าง
สงสัยครูดเอากับประตูเหล็ก ?
ก้มมองขาสองข้างปลอดภัยเพราะเอาตรูดลง ถ้าเอาขาลงคงขาอาจหัก คงมีประสบการณ์เข้าเผือกอย่างไม่ต้องสงสัย
ที่ใบหน้าไม่เจ็บ ไม่มีบาดแผลใดๆ ดังนั้นความหล่อน่ารักยังคงอยู่
หัวไม่กระแทกพื้น ไม่มีเลือดออกทั้งข้างนอกและข้างใน รับรองไม่มีเลือดคลั่งในสมอง
และนอกนั้น อย่างอื่นปลอดภัยทั้งหมด
“
”
สุดท้าย
ย้อนกลับมายังจุดแรกเริ่ม อวัยวะที่เจ็บมากที่สุด ค่อนข้างจะระบมมาก อาจใช้การเคลื่อนไหวใดๆไม่ได้อีกนานเป็นอาทิตย์
สะโพกคราก
?
บั้นเด้าเสีย
“
”
งั้นถ้าวันนี้อยากคิดมีอะไร..ก็คงอดอะดิ !
( คิดอะไรน่ะนู๋อิม เจ็บไม่ใช่เหรอเรา ? )
“ ไอ้อิม ! ”
เสียงร้องเรียกอันคุ้นเคย ของคนที่เพิ่งผลักไสเขาให้กลับหอไปเพียงคนเดียวดังมาจากทิศทางภายใน
“ ไอ้จา..” ขานรับพร้อมเบะปาก ตั้งท่าจะร้องไห้ในทันที ไม่รู้ทำไม น้ำตามันอยากจะไหลออกมาเอง แต่ก็ข่มความเจ็บนั้นไว้ ฝืนยิ้มไม่ง่ายเลย
จาหน้าเสีย รีบร้อนวิ่งลงมาคุกเข่าต่อหน้าคนรักตัวเล็กที่แสนจะซุกซน
สายตาคมสั่นไหว มองร่างของอิม เนื้อตัวเลอะเทอะ เสื้อผ้านักเรียนหลุดลุ่ย สองแขนยันพื้นพยุงกายนั่งอย่างทุลักทุเล
ภาพตรงหน้าสะเทือนใจจายิ่งนัก รู้สึกผิดในสิ่งที่กระทำไปก่อนหน้า น้ำตาปริ่มข้างขอบตา มองคนตัวเล็กแล้วสงสารจับหัวใจ
“ อิมมรึงเป็นอะไรหรือเปล่า ไหนเจ็บตรงไหน บอกกรูๆ ” จาร้อนรนรีบถาม เสียงสั่นเครือเมื่อเห็นบาดแผลที่อิมได้รับ คงเจ็บมาก จาอยากจะเจ็บแทน
“ แฮะๆ กรูห่ามน่ะ ปีนข้ามประตูเหล็กบ้านมรึงเอาเอง กะว่าสบายๆนะ แต่ก็พลาด ไม่เป็นอะไรมากหรอก ฟกช้ำนิดหน่อย ที่เจ็บมากที่สุดก็คงเป็นตรูด กรูเอาตรูดลงอ่ะ ” อิมกัดฟันพูดแล้วยกแขนให้ดูรู้สึกแสบแผลซะแล้ว
จามองเนื้อขาวเป็นรอยอย่างน่าเสียใจ
“ ทำอะไรของมรึงน่ะอิม ปีนประตูทำไม เรียกก็ได้นี่ ” เสียงสั่นเครือถามต่อ อิมก้มมองยังพื้นรู้สึกผิดไม่แพ้กัน
“ ขอโทษไอ้จา กรูไม่อยากเรียก กลัวมรึงโกรธ เลยปีนเองกะว่าจะมาง้อคืนดี ” เสียงพูดพอได้ยินสำหรับคนฟัง แต่มันทะลุเข้าไปในอกคนร่างใหญ่
“ มันอันตรายมากนะ ถ้ามรึงตกลงมาเป็นอะไรมากไปกว่านี้ แล้วกรูจะทำไง ” สายตาคมสั่นระริก หยาดน้ำใสไหลรินข้างแก้มสาก มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตานั้นออกทันที
อิมรู้ว่าจาเป็นห่วงตนมาก ก็เสียใจที่วู่วาม ด้วยความที่คิดหน้าคิดหลังน้อยไปอีกเช่นเคย เลยเกือบทำให้อะไรๆยิ่งเลวร้ายลงไปอีก
บอกตามตรงไม่อยากเห็นจาร้องไห้อีกแล้ว พอเห็นน้ำตาจาที่ไร ใจจะขาดเสียให้ได้
“ อย่าร้องไห้ดิ กรูไม่ได้เป็นอะไรมากซะหน่อย เจ็บตรูดอย่างเดียวเอง นิดหน่อยๆ จิ๊บๆ ” คำตอบแสดงความอารมณ์ดี
จารู้ว่าอิมฝืนทนความเจ็บเอาไว้
“ ไม่เป็นไรจริงๆ ไอ้จากรูทนได้ ” คนเจ็บอย่างอิมกลับมาปลอบจาแทนเสียนี่
จานิ่วหน้ามองอิมที่ใช้มือลูบตรูดปอยๆ ปากบอกไม่เจ็บ ก็เห็นว่าเป็นยังปฏิเสธอีก
“ ไม่ต้องฝืนเลยไอ้อิม ไปเข้าบ้านกรูจะทำแผลให้ก่อน ไม่เจ็บทิ่อื่นแน่นะ ไม่งั้นไปโรงพยาบาลไหม ” จาถาม อิมสั่นหัว
“ ไม่เป็นไร ไม่ต้องหรอก ” ยืนยันต่อ
“ แน่นะมรึง ” ห่วงแสนห่วง อยากพาไปตรวจให้แน่ใจ คุณหมอคุณพยาบาลใจดีกำลังรอต้อนรับอยู่ มีอะไรร้ายแรงจะได้รักษาทัน
“ อืม ไม่มีจริงๆ ” อิมยิ้มน้อยๆ
ก่อนจายกชันเข่าลุกขึ้นนั่ง สองมือแกร่งช้อนเข้าใต้ขาพับ และที่ใต้รักแร้ จาดันตัวลุกขึ้น อุ้มอิมขึ้นอย่างง่ายได้ คนเจ็บตกใจเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมให้จาทำแบบนั้นโดยดี
หน้าขาวแสนหวานเปอะฝุ่นระเรื่อขึ้นในความมืด ปล่อยให้จาพาร่างตนเข้าบ้านหลังใหญ่ไปในทันที
“ ไม่ใช่ที่โรงฝึกหรือจา ” อิมถามขณะที่จาเดินอย่างช้าๆ ก้าวเท้าขึ้นตัวตึก
“ บนบ้านมีชุดปฐมพยาบาลดีกว่าในโรงฝึกน่ะ เตียงนอนก็นุ่มกว่า ห้องน้ำก็กว้างกว่า มีอ่างด้วย กรูจะได้อาบน้ำให้มรึงไงอิม มันสะดวกกว่าเยอะ
” ความจริงจาไม่อยากย้อนไปในที่ๆเพิ่งบอกเลิกอิมด้วยแหล่ะ อะไรๆมันน่าสะเทือนใจเกินไป
ไม่อยากให้อิมสะเทือนใจตามไปด้วยเช่นกัน
วับเดียวที่จานึกถึงแหวนคู่สีเงินวาววับในกล่องกำมะหยี่สีชมพูที่ยังอยู่ในกระเป๋าของตน
“ จา ? ” อิมถามเมื่อเห็นว่าจาเงียบไป
“ อะไรเหรออิม ” ชายหนุ่มหันมองหน้าอิม ยกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม
“ เราไม่เลิกกันแล้วใช่ป่ะ มรึงกะกรูยังรักกันเหมือนเดิมนะ ” สีหน้าเรื่อของอิมเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อไฟในตึกสว่างจ้าแล้ว
จายิ้มละไม เจ็บได้ขนาดนี้อิมมันยังไม่ลืมความตั้งใจที่ยอมลำบากจนเจ็บกาย
“ ไม่เลิกแล้ว มรึงทำสำเร็จอิม มรึงง้อกรูสำเร็จ ” พูดได้แค่นั้น จาก็หน้าแดงเสียเอง
“ เย้ ! ” อิมร้องอย่างดีใจ แล้วสองแขนเล็กก็ตวัดกอดคอจาในทันที
“ เฮ้ย ! เดี๋ยวตกไปตายจริงหรอกไอ้อิม ” จาร้องบอก เร่งกระชับวงแขนแน่น กลัวว่าจะทำอิมตกไปอีก ก็เพราะห่ามสุดขั้วแบบนี้ไงเล่าทำให้เขาหลงจนจมปลักรักแต่ไอ้อิม
“ มรึงไม่ทำกรูตกหรอกกรูรู้ไอ้จา รักมรึงจังเลย ” อิมยิ้มแสนหวานให้ภายใต้หน้าที่เปรอะเปื้อนฝุ่น จายิ้มรับ คิดว่าอิมของเขาน่ารักเสมอ เสมอตั้งแต่ก่อนจนถึงตลอดไป
“
”
ดีที่บ้านของจาตอนกลางคืนไม่ค่อยมีใครผ่านมา ไม่งั้นคงจะได้เห็นลูกชายเจ้าของบ้านพาเจ้าสาวผู้น่ารักเข้าไปในบ้านเป็นแน่
เสียดายคืนนี้
เฮ้ออออ
!??!?
( ใครถอนหายใจแทนไรท์คะ ??? ^o^ )
..
สายตาอิมไล่ตามทุกการกระทำของจาอย่างรักใคร่ จาอ่อนโยนมาก มากกว่าทุกครั้งที่เคยทำให้ คิดไปว่าตัวเขาเป็นดั่งของรักสุดหวงก็ไม่ปาน
ดีจั๊ยยยยยย ดีใจจจจจ
.
ตั้งแต่อุ้มมาว่างร่างอิมบนเตียงอย่างนุ่มนวล ค่อยๆถอดเสื้อผ้าให้เหมือนกลัวจะทำร้ายบาดแผลให้เป็นรอยลึกลงไปอีก
ฝ่ายอิมขำในอาการจิ๊ปากของคนกล้ามใหญ่ ก่อนก้มมองร่างเปลือยของตนด้วยใบหน้าสีแดงระเรื่อ
“ ไม่ได้เจ็บที่ตรูดมรึงอย่างเดียวแล้วมั้งอิม เขียวช้ำไปทั้งตัวเลยอ่ะ ” บ่นให้รอยแผลแต่ก็ยังค่อยๆพยุงพาอิมเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะทำอย่างอื่น
ถามว่าอิมอายมั๊ยยยย ?
ขอตอบว่าอิมอายมาก ต้องมาเปลือยโป๊อล่างฉ่างเสียขนาดนี้ ไม่ได้หน้าหนาเป็นวาเป็นศอกที่เรียกว่าด้าน ก็เลยต้องระงับใจตนไม่อยากให้สายตาของคนอายส่อให้มองแล้วคิดไปในทำนองอื่นเลย
จาเปิดฝักบัวให้กระแสน้ำไหลเอื่อยๆ ราดลดบนร่างของอิมจนทั่ว จากนั้นลงมืออาบน้ำ ถูสบู่ ตลอดจนเช็ดตัวให้จนแห้ง ทั้งๆที่ร่างตัวเองเปียกไปหมดแล้ว จาเลยถอดเสื้อนักเรียนออกเหลือเพียงกางเกงนักเรียนสีดำตัวเดียว
แก้มอิมแดงไปถึงไหนต่อไหนกับแผงอกกว้าง กล้ามเนื้อแข็งแรงกำยำของจา คนตัวเล็กเฝ้าระงับจิตใจ แต่ก็มีหลุดแอบเม็มริมฝีปากหลายหน แอบหันหน้าหนีร่างกายของจาก็หลายครั้ง และยังแอบกลืนน้ำลายลงคอบ่อยๆ
ยังไม่นับที่แอบเลียริมฝีปากอีกเป็นระยะๆ
ของมันเคยๆเลยรู้สึกว่าร่างกายจะเรียกร้องไปตามธรรมชาติ
“
”
อิมยังเสมองหน้าจาบ้าง หน้าแดงระเรื่อของจาก็เหมือนกัน แต่คนตัวใหญ่ข่มใจได้มากกว่าเท่านั้นเอง
ไม่อยากให้อิมคิดว่าเขาเป็นคนบ้าเซ็กส์ อะไรๆก็จะเข้าแต่ข้างหลังตลอด ยึดถือเพียงร่างกายเป็นใหญ่ หัวใจเป็นรอง
มีเซ็กส์กันน่ะง่าย ไซ้ซอกคอนิดเดียวก็ระทวยแล้ว แต่คิดว่ามีอะไรกันแบบที่ยินยอมพร้อมใจด้วยกันทั้งคู่อย่างเต็มใจนี่ซิสำคัญกับจามากกว่า
.ในตอนนี้นะ ถึงแต่ก่อนจะหื่นมากก็ตาม
‘ รักให้เป็น ’
จาจะรักให้เป็นอย่างที่พี่พยาบาลคนสวยบอกครับ
อิมถูกพามานอนคว่ำหน้าบนเตียงนอนของเจ้าของห้อง ตรูดแดงๆช้ำๆลอยเด่น จาเตรียมกล่องปฐมพยาบาลมาพร้อมสรรพ เปิดออกแล้วจัดแจงหยิบ แอลกอฮอล์ ยาแดง สำลี และอีกสาระพัดที่ต้องใช้
“ เจ็บหน่อยนะ ” บอกเสียงเบาให้อิมเตรียมตัวและเตรียมใจ
“ ก็ไม่เจ็บนี่ ช่างมันประไร ทายาเดี๋ยวก็หาย ก็ถ้าแผลไหนไม่หายกรูจะเก็บเอาไว้เตือนใจว่าเคยปีนรั้วบ้านมาตามเอาความรักคืนจากมรึงไงไอ้จา อนุสรณ์อ่ะ เด่นดีเนอะ ” พูดไม่พอเอานิ้วจิ้มรอยแผลตนเองเบาๆ
“ ไม่เอา กรูไม่ชอบเลย ไม่ใช่อนุสรณ์อะไรทั้งนั้น เจ็บก็บอกมาดิจะฝืนทนทำไมวะอิม ” อิมส่ายหน้า
“ ไม่เจ็บก็ไม่เจ็บดิ คนบอกไม่เจ็บยังมาว่าเจ็บ มรึงอ่ะเป็นมากกว่ากรูเสียอีก คนตกจากประตูบ้านน่ะเป็นกรูนะไม่ใช่มรึง” จารับรู้ถึงความหมายที่อิมบอก จึงหยุดคิดตั้งสติตรองในสิ่งที่เกิดขึ้น นึกทบทวนความเป็นไปที่เกิดก่อนหน้าและต่อจากนี้
“ อืม กรูขอโทษต่อไปกรูจะไม่ทู่ซี้ถ้ามรึงรำคาญ ให้ตายเถอะมันทำไม่ง่าย พอเกี่ยวกับมรึงทีไรอิมกรูไม่มีเหตุผลทุกครั้ง ” จาย้อนกลับไปคิดถึงคำพี่ออยเตือนสติมา ก่อนยิ้มให้ตนเอง มือยกค้างวางบนตรูดจานิ่งนานจนคนถูกจับร้อนเสียเอง
“ เออๆๆ ไม่เป็นไรแต่ไอ้จา มรึงเอามือออกก่อนได้ปะ กรูเสียวว่ะ เนี่ย ! ” อิมชี้ให้จาดูสิ่งปรกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายตนอะไรๆที่มันเคยหลับใหลดันตัวขึ้นจนคนร่างเล็กหน้าแดง ถูกจาจับที่ไรร่างกายร้อนทุกที
จาชักมือกลับหน้าที่แดงอยู่แล้ว แดงขึ้นกว่าเก่า ลุแก่โทษของตนเป็นที่มาของอาการนั้น ก่อนก้มมองเป้าตนเองบ้าง สั่งตามสมองให้ลงไปสกัดกั้นความต้องการไว้
ไม่เอานะลูกพ่อ ห้ามตั้งเพื่อชักธงรบ ไอ้อิมมันเจ็บอยู่ ไม่ได้ๆๆๆๆๆๆ
“ จา
? ”
“ ทายาได้ยัง ” แกล้งถามยียวนมองเป้ากางเกงเพื่อนเก่าที่ผันมาเป็นแฟนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยสายตาแพรวพราว
“ได้ๆๆๆ งั้นลงมือเลยนะ ” จาลุกลี้ลุกลน หยิบโน้นทำนี่เก้ๆกังๆในตอนแรกเพราะเคอะเขิน แต่ค่อยๆดีขึ้น ใจเย็นขึ้น ทำแบบเบามือที่สุด
แกล้งกันไปแกล้งกันมาก็หน้าแดงกันทั้งคู่นี่แหล่ะ
>///<
เมื่อแกล้งจาได้สำเร็จ คราวนี้อิมเสไปอีกทาง ก้มมองกระเป๋ายาที่ไอ้จาเตรียมมาปฐมพยาบาลก็ขำคิก
แหมโว้ย !ใหญ่กว่าของหมอซะอีก แบบนี้ใช้ได้ทั้งโรงเรียนเลยมั้ง
แต่ก็ยังไม่วายนึกอุตริมองไปยังเป้ากางเกงของแฟนหนุ่ม
ก็ไอ้ดุ้นโตๆที่ดันจนตุงนั้นเป็นอุปกรณ์การแพทย์ชนิดไหน และก็อยากรู้สุดใจขาดดิ้นว่าไอ้จาเอาไปพกไว้ใต้กางเกงทำไม
หุ หุ
อิมแอบขำคิกคักเองด้วยความสัปดน จนมือใหญ่เริ่มทายาบริเวณจนถึงแผลถลอกเลือดไหล ความเย็นของแอลกอฮอล์ที่ลงฆ่าเชื้อทำเบิกทางก็ทำเอาอิมเจ็บแปล็บขึ้นทันที
อี้
แสบ
พยายามกัดฟันเต็มที่ไม่ไห้ได้ยินเสียงไว้ก่อน
“ เจ็บป่ะตรงนี้ ” จาลองถามเพราะเห็นอิมนิ่วหน้า แต่ได้รับการส่ายหัวกลับมาแทนก็เลยทำต่อไป
กระทั่งยาแดงพระเอกตัวจริงลงทำหน้าที่นั้นแหล่ะ
“ อูยยยย
แสบ
” แต่ก็ยังหลุดซู๊ดปากร้องออกมาจนได้
“ ไหวไหมอิม พอก่อนแล้วกัน ” พูดแค่นั้นแล้วหยุดมือ มองเนื้อแดงถลอกเต้นระริก เห็นอิมจิกผ้าปูที่นอนจนบิดเป็นเกลียว..
“ ทนไหว ทำต่อเถอะกรูไม่เจ็บจริงๆ แค่มรึงใจดีและอ่อนโยนขนาดนี้ ให้เป็นมากกว่านี้กรูก็ไม่เจ็บหรอก ” ยิงคำหวานส่งถึงหัวใจคนฟัง
อิมปากแข็งว่าทนได้ๆ แต่เจ็บจะตายหร่า ไม่บอกหลอกเพราะกลัวเสียฟอร์ม..
จาได้ฟังเลยกัดฟันลงมือทายาให้อิมจนเสร็จ
“ เฮ้ออออ
” เสียงหายใจโล่งอกพ่นออกจากปากคนตัวใหญ่ เสร็จซะที
หลังจากนั้นหาเสื้อผ้าที่ตัวเล็กพอให้อิมใส่ได้มาให้ แล้วจาอีกนั้นแหล่ะที่จัดแจงจนอิมแต่งตัวในชุดนอนของตัวเองที่ค่อนข้างใหญ่ไปสักนิดจนเรียบร้อยทุกอย่าง
“ ขอบใจนะ ” กล่าวขอบคุณจากใจ จายิ้มหล่อสายตาอ่อนโยน
“ จา ? ”
“ หือ ? ” จาเงยมองอิมขณะกำลังง่วนกับการเก็บอุปกรณ์ปฐมพยาบาล
“ เก็บของเสร็จก็ไปอาบน้ำให้ตัวเองบ้างซิ อาบเสร็จแล้วมานอนคุยกันหน่อยนะ กรูรออยู่ ” จารีบทำตามที่อิมเร่ง
ในเวลาไม่นาน
ร่างกายแข็งแรงก็ออกมาจากห้องน้ำ ท่อนล่างมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียว
ในใจจา ไม่ได้คิดอะไร แต่แก้มแดงๆของคนนอนรอนี่ซิทำให้คิด สายตาแวววับส่งมาให้มองดูแล้วใจสะท้านทีเดียว
“ กรูหล่อไหมอิม ” แกล้งถามเพราะเห็นน้ำลายไหลยืดออกมาจากปากคนตัวเล็ก ส่วยนอิมพอได้ฟังแล้วรู้ตัวก็รีบเช็ดออก หลงเพ้อไปกับหุ่นมาดแมนของจาได้ พลันคว้าหมอนขว้างใส่แก้ความเขินสุดๆ
จาโยกตัวหลบหมอนใบนุ่มลอยออกไปชนผนังแล้วหล่นลงบนพื้นห้อง
“ เฮ้ย ! ถามเฉยๆ อายอะดิ ” ว่าพลางเดินไปก้มเก็บหมอนมาวางข้างกายคนปา และจงใจไม่ใส่เสื้อผ้าซะงั้น
“ ไงถามว่ากรูหล่อไหม ” จายืนตรงต่อหน้า ให้อิมได้มองเต็มๆตา ฝ่ายอิมไล่สายตาตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงใบหน้าคมคายที่รับกับโครงหน้าเข้ากันและงดงามอย่างเทพปั้นแต่ง ( ขนาดนั้นเชียวนู๋อิม )
“ ก็นะ ใช้ได้ควงไปอวดใครๆก็ไม่อาย แมร่ง ! มรึงเป็นเกย์ตามกรูไปแล้วใครจะเชื่อวะ ”
ถามว่าจาพอใจไหมกับคำตอบของอิม
..แต่ก่อนอาจจะนึกดีใจปนน้อยใจนิดๆ ที่อิมคิดแบบนี้ แต่ตอนนี้สำหรับจาอะไรก็ได้ที่อิมยอมรับเขาพอใจในสิ่งที่ได้ บอกแล้วว่าจะไม่ขออะไรจากอิมอีก เขาอยากเป็นฝ่ายให้เสียเองมากกว่า ให้อิมอย่างที่ไม่หวังอะไรตอบแทน
“ ขอบใจที่ชมนะ ” จายิ้มดีใจ ส่วนอิมขัดใจเล็กน้อย กะว่าให้เคืองเล่นๆ แต่เมื่อจาไม่มีท่าทีอย่างคิดเลยไม่คิดแกล้งต่อ
“ ใครว่าไม่หล่อเล่าหล่อซิ ” พูดเสร็จก็พยายามลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าจา ก่อนวางมือลงบนอกด้านซ้าย ฝ่ามือเล็กอุ่นรับรู้ได้ถึงหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ภายใน
“ หล่อโครตๆ มรึงน่ะหล่อที่สุดเลยล่ะ ..” เว้นช่องให้ตัวเองหายใจเข้าเต็มปอด
“ สำหรับกรูโดยเฉพาะตรงหัวใจนี้ เคยมีใครบอกมรึงไหมว่าไอ้จาว่าหัวใจมรึงน่ะหล่อมากกกกกก ” ลากเสียงยาวเหมือนเย้าเล่น ก่อนยืดตัวตรง เข้ากดริมฝีปากลงบนอกข้างซ้ายของจาในทันที ทำเอาจานิ่งไปชั่วครู่
“ ขอจูบหัวใจหล่อๆหน่อยนะ กรูให้รางวัลสำหรับคนหัวใจหล่อโครตว่ะ” เว้นวรรคอีกครั้ง สูดออกซิเจนเข้าปอดจนสุดแล้วปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาจนหมด
“ และ
อยากขอบใจที่กลับมารักกันอีกครั้ง ” จบแล้ว อิมยิ้มสวยพร้อมส่งสายตาหวานมาให้
ทำเอาหัวใจจาพองโตอย่างประหลาดและมากกว่าทุกครั้งที่เคยผ่านมา จารีบรั้งอิมเข้ามาในวงแขนตน ก่อนจับใบหน้านวลขึ้นมองเต็มสองตา และกอดหมับรัดร่างอิมแน่นแทบจะตรึงอยู่กับกายจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
“ ไอ้อิมมรึงรู้ไหมว่ามรึงโครตโรแมนติคชิบ ! ” อิมตีมือบนอกขวาเพี๊ยะเบาๆ
“ ตั้งใจชมจริงนะ ขอบใจสาดดด ” จาก้มสูดดมผมเกรียนหอมของอิม ก่อนรวบรวมคำพูดจากใจส่งให้
“ กรูก็ขอบใจมรึงอีกครั้งนะอิม ขอบใจที่รักกัน ”
“ อืม กรูขอบใจที่มรึงรักกรูไอ้จา ”
.
หน้าหอพัก
รถกระบะคันใหญ่วกเข้ามาจอดเทียบสนิทยังขอบถนน
ประตูด้านหลังติดกระบะซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามคนขับถูกเปิดออก อาร์ตเดินดุ่ยๆ หน้าตูมออกมาแบบไม่รอใคร ปากเจ้าตัวบ่นพึมพำเพราะพยายามกดสายออกหาเพื่อนอีกสองคนที่ติดต่อไม่ได้ทั้งคู่
อาการหัวฟัดหัวแหว่งก่อนหน้าก็ทำเอาคนในรถอึดอัดไปทีเดียว
( ก็หมีดำกำลังคลั่ง
น่ากลัวอยู่นะ )
“ เฮ้ย ! ไอ้อาร์ต ” นัทเรียกตามหลังเพื่อนไปแต่ตัวเองก็ยังไม่ยอมลง
และเป็นทีของนายไวท์บ้างล่ะ
สุดหล่อจากแดนไกลเองนั้นเป็นคนที่นั่งด้านในสุด กลับไม่ยอมเปิดประตูลงฝั่งตน ใช้ความไวดันหลังสุดหล่อแห่งไทยแลนด์นายนัทให้แทบกระเด็นร่างลงตามเพื่อนผิวสีคล้ำออกมาทีเดียว
นัทเองเผลอไปนิด ดีที่มือเหนียวแน่นหนับไม่เสียดายเป็นนักกีฬาบาส ใครรู้เสียชื่อแย่..
ตั้งตัวได้ก็หันมาจะเอาเรื่อง ก่อนแลเห็นสีหน้าและแววตาอยากเอาชนะของน้องชายวินเข้า
ก็เพราะมีจุดมุ่งหมายที่ต้องการสั่งสอนไวท์จอมแสบไว้แล้ว เลยแกล้งทำหยึกหยักไม่ยอมไปงั้นๆ
แต่สุดท้ายก็ขี้เกียจโต้เถียงกับอนาคตน้องชายเมียด้วย นัทเลยยอมเดินตามอาร์ตลงมาง่ายๆ
เมื่อเจ้าของไม่อยู่เป็นก้างแล้วชอบเลย.. ทำให้ไวท์ใช้โอกาศนี้ปล่อยให้พี่เนมคนดี๊..ดี ได้คุยกันตามลำพังกะพี่วินของตน แม้เพียงเวลาไม่กี่นาทีก็เอานะ.. เรียกว่าขอมีเวลาให้พี่เนมได้หยอดน้ำหวานของความรักวันละนิดต่อพี่ชายผู้แสนดีก็เพียงพอแล้วที่จะพิชิตใจจนอยู่หมัด
มีหรือเขาช่วยทั้งทีจะพลาดได้
พี่วินน่ะใจอ่อน
คนเป็นน้องรู้ดีกว่าที่ซู้ดดดด
เมื่อเห็นว่าฝ่ายพี่เนมกำลังจะทำแต้ม ไวท์ก็รีบลงมาจากรถทันที แถมปิดประตู แล้วยืนกั้นทำตัวเป็นบอดี้การ์ดหน้าหล่อเหี้ยมเฝ้าประตูรถกระบะคันงามอย่างแข็งขัน
ไอ้พี่นัท ริดอดเข้ามานะมรึงจะเอาให้อ่วมเลย
แหง่งงง
“
”
พอถูกน้องชายตัวแสบของวินผลักเหมือนถีบให้ลงมาจากรถได้ นัทก็รีบหันไปมองไอ้น้องไวท์ที่ยืนจังก้าตั้งตนเป็นยามรักษาความปลอดภัยเฉพาะกิจ
นึกขำเพราะหน้าตาขึงขังเสียเหลือเกิน..
เด็กหนอเด็ก
นัทคิดในใจ สายตาที่มองไปนั้นส่งกระแสแรงจัดปะทะเข้าอย่างจังกับไอ้แสบไวท์ที่ยกนิ้วกลางมือขวาให้ต้อนรับการบุกรุกไกลๆ
นัทกระหยิ่มได้ทีเหมาะเหม็ง โต้สวนกลับไปด้วยยกท่อนแขนขวาแข็งแรงขี้นตั้งเป็นลำพร้อมวางพาดด้วยแขนซ้าย อันมีความหมายบ่งบอกจะแจ้งเพื่อประกาศให้รู้กันไปเลยว่า
ของกรูใหญ่กว่าโว้ย ให้ดูแทน
ไม่พอนะครับเพื่อนๆ นายนัทก็ริคิดสัปดน
ของๆไอ้ไวท์ยังแค่นิ้ว ..ของไอ้เนมอ่ะก็คงพอๆกัน คือเล็กจิ๊ด
คราวนี้การ์ดจำเป็นจากอเมริกา สวนลำเขื่องกลับมาบ้าง ไวท์ยกสองนิ้วกลางขึ้นแทน ปากหยักออกเสียงเบาๆพอให้อ่านคำพูดออก
“ FUCK YOU ! ”
ความหมายว่าให้สองฟักไปกินเลยไอ้พี่ชาย
หยาบคายที่สุดแล้ว Fuck You ! กำลังสอง
คิ้วหนาบนใบหน้าคมคายหยักเยาะเย้ย..
!????
“..!? ”
นัทพอได้เห็นปล่อยก๊ากเบาๆ เห็นผลของผักสองลูกของไวท์เข้า ก็เลยยอมปล่อยเรื่องนิ้วๆแขนๆที่แสดงซิมโบลไปแบบไม่เอาความอะไรต่อ เพราะแปลความหมายเป็นตลกร้ายๆเข้าข้างตัวเองว่า
ไอ้ไวท์มันอยากได้ฟักเล็กเท่านิ้วสองลูกแทน
>///<
ฮ่าๆๆ
ใจเย็นๆไอ้น้องเลิฟสุดปลายตรีน
อย่าใจร้อนนัก พี่นัทผู้ใจดีอย่างกับมหาสมุดคนนี้
จัดหาผัว..ห่ายยยย
( ขอบอกเพื่อนนักอ่านทั้งหลายนะครับ ..งานเนี้ย ผมไอ้นัท..หวังผลมีลูกเฮกับลูกฮือครับ ไม่สำเร็จยอมให้มาเด็ดหัวผมไปต้มจิ้มน้ำพริกได้ หรือถ้าใครกล้า ผมให้โอกาสทุกคนอมขี้หมามาพ่นใส่หน้าผมได้เลย
รับรอง..ไม่งั้นอย่ามาเรียกว่าไอ้นัทสุดหล่อลากไส้ประจำโรงเรียนเลยครับ
)
(( ขอแอบกระซิบแบบก็อตซิบนะครับ
ตอนนี้มันสมองอันฉลาดล้ำภายในกระโหลกสุดหล่อของผมกำลังทำงานด้วยการสั่งงานของต่อม ‘ พลิกรูมาอัดทุกที่
’ วางแผนจัดความเสียวสยองหนักๆให้ไอ้น้องไวท์อยู่ครับ ))
( ต่อมหร่าๆชื่อนี้ไม่มีในโลกนะคะ..อะไรก็ไม่รู้ที่ไรท์คิดเอาเองก็แต่งออกมาตอนบ้าๆค่ะ แฮะๆๆๆฮ่าๆๆๆๆ หายไปนานเลยจัดปายยย
)
!??
ขณะนี้ไม่ต้องสนใจว่าไอ้น้องชายของวินจะทำอะไร ขนาดไหนขอความมั่นจงมีแด่เจ้าเถิด ก็อยากบอกว่า ความเชื่อใจและมั่นใจในความรักของเขาที่มีต่อวินนั้น บวกผสมเข้าแผนการณ์ร้อนๆร้ายๆจากสมองที่คิดได้เหลือรับก็ทำให้นัทอารมณ์ดีมากๆเลย
แลเห็นโลกสีชมรู
อยู่ไม่ไกลลลลล
จากนั้นนัทหันมองเห็นเพื่อนตัวใหญ่ที่ยังสาระวน หมกมุ่นพยามทั้งกดทั้งจิ้มปุ่มบนมือถือของตนเหมือนกับว่าไม่เคยกลัวว่าปุ่มทั้งหลาย มันจะไม่สามารถพังได้เลยซะงั้น
“ ทำไรว้าไอ้อาร์ต
” ร้องถามอย่างอารมณ์ดี อาร์ตหันขวับมาแยกเขี้ยวใส่
“ กดเบอร์เรียกรถมาขนศพมรึงมั้งรู้ๆยังถามสาดดด ” อาร์ตด่าใส่ก่อนหันกลับไปโหมดกดๆๆๆตามเดิม ใบหน้าคล้ำออกแดงบอกว่าอาร์ตกังวลใจกับไอ้จาและไอ้อิมที่ติดต่อไม่ได้มากๆเลย
น่านเล่นเอาถึงเกือบตาย ทำนัทสะดุ้งเล็กน้อยเบ้ปาก เข้าใจสาเหตุเพื่อนอาร์ตเข้าสู่โหมดโหดๆ ปนห่วงๆ
นัทเข้าไปแตะบ่าเพื่อน กดแรงปรามความโกรธขึงให้ผ่อนคลาย
“ มรึงไม่ห่วงเพื่อนหรือไงไอ้นัท ” อาร์ตหันมาแหวใส่อีกหน สายตาตัดพ้อจนนัทยิ้มเจื่อนไปนิด อารมณ์ดีใจเกินหน้าเกินตาเลยดร็อบลงเศษหนึ่งส่วนสี่
“ ห่วง แต่มรึงไม่ไม่รู้จักนิสัยไอ้จากับไอ้อิมหรือไง ครบกันมาตั้งปีกว่าแล้ว ” นัทว่า
“ รู้แต่ตอนนั้นยังเป็นแค่เพื่อน มรึง กรู ไอ้วิน ไอ้จาและไอ้อิมเป็นแค่เพื่อน แต่ตอนนี้ ..มันไม่ใช่ซะหน่อย ” อาร์ตขยายเหตุผลของความห่วงใย
“ กรูเข้าใจนะ ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรามันไม่เหมือนเดิมแล้ว กรูรู้อยู่เต็มอก แต่มรึงอย่าคิดมากดิ ปล่อยวางมั้งอ่ะ เป็นป่ะ ” บอกให้เพื่อนปล่อยวาง โถไอ้คุณนัท
“ อยากอ้วกแมร่ง ! ปล่อยวางไอ้จอมแผนการณ์ ปากมรึงนะพูดดีไป กรูห่วงมันทั้งคู่ กรูช่วยมรึงแล้วไอ้นัทมรึงก็ช่วยมันบ้างดิกรู ขอนะ ” อาร์ตด่ากราดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
และยอมเลิกกดสายหาเพื่อนไปเอง ชักเมื่อยมือ
นัทพยักหน้ารับ
“ เออกรูจะช่วย แต่กรูว่าตอนนี้มันดีกันแล้วมั้งมรึงก็กังวลมากไป ฟังนะไอ้อาร์ตฟังคุณนัทพูด ทั้งมรึง ทั้งกรู ไอ้วิน ไอ้จา ไอ้อิม ครบกันมาตั้งปีกว่าเรียกว่าตับไต้ไส้พุงแทบถลกแหกมาดูกัน ไม่นับเรื่องแอบรักเพื่อนนะ มรึงรู้ใช่ป่ะนิสัย นิสัยไอ้จาเป็นไง คนอย่างไอ้จาน่ะใจอ่อน..ปากอ่อน แกล้งปากแข็ง แอบร้ายลึกๆ ดูตอนมันวางแผนหลอกไอ้อิมสิ กรูว่าร้ายกาจพอดูทีเดียวเชียวแหล่ะ ส่วนไอ้อิมปากร้าย ใจแข็งบ้างใจอ่อนบ้าง แมร่งแอบหลบเกย์หวังฟันไอ้วินของกรู แล้วไงไอ้วินรักกรูโว้ย ไอ้อิมเลยอดไปเอง และพอมันทั้งคู่เอากันเองนะ แบบว่าไอ้จาสมหวังไป มรึงก็เห็นไอ้คู่รักหมัดมวยคู่นี้เลยกินกำปั้นผสมน้ำตากันบ่อยๆ แมร่งโหดมันฮาว่ะ กรูชอบ เชื่อกรูดิ แมร่ง กัดกันไม่ทันสามวัน ก็เห็นดีกันไม่ทันครบสามคืน แมร่งกดตรูดกันอีกแล้ว จบได้ป่ะ ” นัทอธิบายยืดยาว อาร์ตเองฟังไปนึกถึงไป แอบยิ้มเชียร์คู่โหดให้ลงเอย
แต่
แต่..มันมีอะไรมากกว่านั้นน่ะซิ ที่ไอ้นัทยังไม่รู้
อาร์ตหุบยิ้มของตนลง เดินไปนั่งลงบนโต๊ะหินอ่อน วงกระเป๋าลงข้างกาย แล้วกำมือถือตนไว้ไม่ปล่อย
“ กรูสาธยายมาตั้งเยอะมรึงไม่เก็ทอีกไง ” นัทเลิกคิ้วมองสงสัย อาร์ตส่ายหัว ยิ้มเจื่อนเหมือนคนน้ำท่วมปาก เล่าความไม่ได้ครั้งแรก คันหยิกๆแบบคันๆ.. แต่ไอ้จาขอไว้เลยต้องรักษาสัญญา
“ เออเก็ทกรูจะพยายามเชื่อมรึงนะ แต่มันน่าจะติดต่อมาบ้าง ไอ้อิมเองมันไม่ควรเงียบไป ” อาร์ตพ้อเบาๆ
“ ไอ้จามันลืมมือถือไว้ในห้อง มรึงก็รู้ ไอ้อิมแบตหมดมั้งเห็นกระหน่ำโทรหามันก่อนมรึงอีกกรูแอบเห็น เชื่อกรูป่ะไอ้อาร์ตกรูตาไวนะโว้ย เอาน่ะๆ ใจร่มๆเพื่อนผมๆ ไอศกรีมหมดฤทธิ์แล้วไงมั้ง ไปขึ้นหอกรูเลี้ยงแป๊บซี่ ” นัทว่า อาร์ตเลยยัดมือถือตนลงกระเป๋าเสื้อนักเรียน สองคิ้วที่ผูกโบว์คลายลงบ้าง
“ เออ ก็ได้วะ ” โดยในใจอาร์ตหวังว่า
ไอ้จามรึงกะไอ้อิมจะดีกันนะ กรูขอละวะ กรูห่วงพวกมรึงชิบ !
อาร์ตขอเองเออเองในใจตน ก่อนมองหน้าโครตหล่อของเพื่อนนัท แล้วละสายตาไปยังการ์ดตัวขาวใหญ่ที่เริ่มตัวอยู่ไม่สุขเนื่องจากคณะยุงเริ่มบุกกัดบอดี้ของการ์ดคนเก่งเสียแล้ว
“ ไอ้นัท โน่น !ไอ้ไวท์เต้นมรึงดู ” นัทหันไปตามปลายนิ้วเพื่อน มองน้องชายสุดแสบของวินที่กระโดดหยองแหย่งมือซ้ายขวาป่ายปัดตบเพี๊ยะตามร่างกายของตนเอง หนำซ้ำเกาทะเยอเสียด้วย
“ ฮ่าๆ ” นัทหัวเราะเสียงดังจนยามจำเป็นได้ยินส่งสายตาฆ้อนควับ แต่สองมือเกาตามเนิ้อตัวไปมา
“ สงสัยจะแพ้ยุ่งว่ะ น่าสงสาร ” อาร์ตว่าตั้งท่าลุกขึ้นเดินไปหา
“ ช่างมันเถอะ ไม่ตายหรอกเดี๋ยวไอ้วินเมียกรูทายาน้องมันเองแหล่ะ ปล่อยมันไปซ่านักให้ยุงหามไปแดรกเสียก็ดี สม ” อาร์ตหันมาขวางฆ้อนใส่เพื่อนบ้าง นัททำท่าหลบทันซะด้วย
“ มรึงไม่ห่วงไอ้วินแล้วไง ฝากปลาย่างไว้กับแมวนะมรึง ได้ใจไป ” อาร์ตเย้า
“ ไม่เป็นไรหรอกกรูเชื่อใจไอ้วินของกรูโว้ย ถึงไอ้ไวท์มันจะเชียร์สุดๆยังไงไอ้วินมันก็รักรูคนเดียวอยู่แล้ว มรึงเชื่อดิปล่อยมันวางใจไปเหอะ กรูมีแผนอยู่รับรองเด็ด เผ็ดยันตรูดไอ้ไวท์เลยล่ะ กรูจะเล่าแผนให้มรึงฟังด้วยไอ้อาร์ต ไม่มีมรึงช่วยนะบ่สำเร็จก่ะ ส่วนเรื่องไอ้อิมกะไอ้จาเอาน่ะเชื่อกรู ” นัทพูดจบเขาและอาร์ตหันมองไปทางน้องชายเพื่อน ก็ไวท์ทนยุงกัดไม่ไหวรีบเปิดประตูขึ้นรถหลบยุงไปซะแล้วนะสิ
“ ฮ่าๆๆ..ไอ้อาร์ตมรึงเห็นป่ะ กรูไม่เห็นต้องทำไรเลยไอ้ไวท์มันแจ่นขึ้นไปเป็น ก ข ค เองแล้ว มรึงก็รู้นี่ ถ้าไม่มีลมน่ะหน้าหอเราน่ะยุงเยอะจะตายไป พอดึกหน่อยมีลมพัดยุงแมร่งหายไปหมด ส่วนไอ้วินนะเดี๋ยวมันก็ขอตัวขึ้นหอเองแหล่ะถ้าไม่เห็นเรายืนตรงนี้ ”
เพี๊ยะ !
นัทยกมือตบแขนตนเองทันทีเพราะยุงกัดนะซิครับ
“ ไปขึ้นหอเหอะยุงชักจะหันมาหามเราเองแล้วว่ะ ” นัทชวนอาร์ตที่ยิ้มได้แล้ว ก่อนทั้งคู่คว้ากระเป๋านักเรียนแล้วเดินกอดคอกันกลมขึ้นไปบนหอพักทันที
“ นี่ๆไอ้นัทแผนมรึงว่าไง
” นัทกระหยิ่มยกยิ้มมุมปากอย่างสุดเท่
“ เดี๋ยวนะเพื่อนใจๆเย็น คุณชายนัทจะเหลาให้ฟังคร้าบบบ ” ว่าแล้วนัทก็เอียงคอไปกระซิบแผนการณ์ร้ายๆรัก ที่จะจับคู่นายเนมมือที่สามของหัวใจให้เกี่ยวดองกับน้องชายสุดแสบของคนรักของตนอย่างเจ้าเล่ห์
( งานนี้บอกแล้วว่าเอาหัวคุณนัทเป็นประกัน ไม่สำเร็จนะครับคุณเพื่อนๆที่ตามอ่านจะเอาอะไรเป็นค่าปรับคุณชายนัทยอมทุกอย่างเลยล่ะ จะเปลือยบน ปล่อยล่างแบบไหนได้เสมอนะครับ
อิอิ
แต่ถ้าสำมะเร็จ คุณเพื่อนๆคนอ่านจะให้อะไรเป็นค่าปรับคุณชายนัทอย่างผมบ้างคร้าบบบบ
)
พอฟังนัทเล่าจบ
อาร์ตอึ้งในแผนที่นัทเตรียมไว้ แต่ก็เห็นมีรอยรั่วที่ต้องคอยจับตามอง เขาคิดว่าอาจเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเอาไว้ก็ได้
“
”
แต่สำหรับนัทซิ มั่นใจเสียเหลือเกิน
“ ฮ่าๆๆๆๆๆ อุบ ! ” นัทเผลอหลุดหัวเราะออกมาเสียงลั่น จนอาร์ตตกใจรีบเอามืออุดปากมือ ความเค็มของมือทำเอานัทรีบชักออกจากปากแทบไม่ทัน
“ ไอ้เหรี้ยอาร์ต มือแมร่งเค็มชิบ ” อาร์ตรีบตะเบะแบบรู้สึกผิดมากเลย ก่อนพูดแบบอายว่า
“ โทษอีกทีเพื่อน กรูเข้าห้องน้ำที่ห้างก่อนกลับแต่
แล้วก็ลืมล้างมือว่ะ แฮะๆๆ ” สิ้นคำอาร์ต นัทตาโพลง แยกเขี้ยวหมายฝังลงที่คอคนตัวใหญ่ให้จมลึก
อาร์ตยกมือขึ้นกางแล้วหมุนไปกลับ
“ อ่ะล้อเล่น ล้อเล่น ”
“ โอ๊ย ! ” ตามด้วยเสียงร้องของเข้าของมือที่ยกหมุนคนนั้นเอง
“ ไอ้สาดดดดอาร์ต ” นัทมองเพื่อนตาเขียวต่อไป แต่ก็เปลี่ยนไปในทันที กดลากคอเพื่อนแล้วกระวิบปรึกษากันต่อไปด้วยเสียงหัวเราะคิดที่น่ากลัวววว
แฮ่ !
.
บนที่นอนนุ่มเตียงจา
^o^
ร่างอิมนอนคว่ำซุกกายในวงแขนแข็งแกร่งของชายอันเป็นที่รักยิ่ง
ก่อนขยับร่างมีผลทำให้ความเจ็บแปล็บที่บั้นท้ายส่งมาหา อิมหย่นจมูกรับรู้ความรู้สึกนั้น
“ อูยย..” เสียงครางเบา เรียกสติให้เข้าสู่ร่างบาง
ใบหน้าหวานแดงเรื่อเปลือกเปิดออกเพราะรู้สึกเจ็บที่ก้นตนเองมาก เพียงขยับเล็กน้อยก็แสนเจ็บ คิดสงสัยว่าคงจะระบมไปอีกหลายวัน
“ อิมเจ็บเหรอ ” ร่างที่ขยับของอิมทำให้ร่างหน่าที่รองรับอิมไว้รู้สึกตัวเช่นกัน ทันที่จะได้ยินเสียงร้องครางนั้นพอดี
“ อือ..เจ็บอ่ะ ”
แป๊ะ !
มือจาควานหาสวิตซ์ไฟโคมที่หัวเตียง เสียงสว่างพอให้เห็นความเป็นไปบนเตียงกว้าง
“ กินยาแก้ปวดไหมอิม ” จาชะโงกหน้ามองนาฬิกาที่ข้อมือ อิมส่ายหน้าช้าๆ เพราะไม่ชอบกินยา ตั้งแต่ก่อนนอนถึงจาจะขอร้องก็ไม่ยอมกิน
“ นะกินเหอะทาอย่างเดียวไม่หายหรอก ต้องกินยาด้วยลดอาการปวด การอักเสบของกล้ามเนื้อ พรุ่งนี้นะมรึงเจ็บตรูดจนระบมไปโรงเรียนไม่ไหวแน่เลย นะกินยาเถอะ ” จายกมือลูบแก้มเรื่อของอิมเบาๆ รู้สึกถึงความร้อนที่มากกว่าปรกติเสียด้วย
“ ชักจะมีไข้แล้วแน่ๆเลยอิม กินยานะกรูป้อนให้ ” อิมส่ายหน้าไม่ตอบอีกเช่นเคยแล้วดันตัวพลิกไปอีกทางความเจ็บเล่นเอาคนดื้อตัวงอ รีบนอนคว่ำแทบไม่ทัน
“ มันขม ไม่ชอบ ไม่ชอบกินยาอ่ะ ” เสียงอ้อนจากปากแดงเรื่อผสมกับหน้าที่แดงจัดเพราะเริ่มมีพิษไข้ก็ทำให้จาใจแข็งพอที่จะให้อิมกินยาให้ได้ แต่ค่อยๆเป็นค่อยๆไปไม่รีบร้อนหักหาญเอาให้ได้เช่นเดิมอีก
“ นะอิมเชื่อกรูเหอะกินมรึงจะแย่เอานะ กรูรู้มรึงหัวแข็งไม่ค่แอยเป็นอะไร แต่คราวนี้ยอมให้กันหน่อยเถอะกรูห่วงมรึงจัง ” อิมเบ้ปากแต่ก็ตัดสินใจชั่วครู่ เพราะยกมืออังหน้าผากตัวเองแล้วชักจะร้อนๆหนาวๆพิกล
ก็ปรกติเขาไม่ค่อยเป็นไข้มานานมากแล้ว ไม่ได้ไปหาหมอบ่อยๆด้วย ครั้งสุดท้านที่ไปโรงพยาบาลก็เพราะเฝ้าไอ้จาไง
“ ก็ได้แต่ไม่กินยาเม็ดนะ ” จาเอียงคอมองคนรักนึกถึงตอนที่ต่อยกัน อิมไม่ยอมกินยาเลยโดยเฉพาะยาเม็ด กินแต่ยาน้ำ กับฉีดยา เขาจะทำไงให้อิมกินได้ล่ะที่บ้านในกระเป๋ายาก็มีแต่ยาเม็ดทั้งนั้น
“
”
จานึกอะไรได้ แอบหน้าแดง แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้วจึงลุกขึ้นไปค้นกระเป๋ายาที่ยังไม่ได้ยกไปเก็บที่ค้นขลุกขลัก ก่อนอ่านฉลากและหยิบยามออกมาสามสี่เม็ด อิมมองแล้วทำหน้าเสียเหมือนกลัวๆ
“ ทำไมหลายเม็ดหนักอ่ะ ” บ่นพึมพำ แล้วก้มงุดลงยังหมอนหนุนหลบสายตาไปอีกฝั่ง
จาส่ายหน้าและยิ้มที่มุมปาก ก่อนเดินไปหัวเตียงยกแก้วน้ำใบใสที่ควำอยู่หงายและเทน้ำเปล่าลงในแก้วเกือบเต็ม
“ มาอิมกรูป้อน ” จาทิ้งตัวลงบนที่นอนอิมเอียงหน้ามองและดันกายขึ้นมองหายาในมือจาเห็นอยู่เพียงสองเม็ด
อ้าว ! หายไปไหนสองเม็ด
จายกแก้วน้ำขึ้นดื่มเสียเองสองอึก อิมเลิกคิ้วบางมองอย่างฉงน
“ จา
อุบ ! ” อ้าปากจะถามแต่ริมฝีปากบางก็ถูกปิดลงด้วยปากหยักของจาพร้อมน้ำเปล่ารสหวานกว่าปรกติถูกส่งเข้ามาภายใน อิมกลืนรับเข้าไปจนหมด พร้อมผลักร่างจาออกแล้วยกมือเช็ดมุมปากที่น้ำไหลออกมา
“ ทำอะไรน่ะไอ้จา ” หน้าแดงก็ยิ่งแดงหนัก ความร้อนยิ่งคุกรุ่น
“ ก็ป้อนยาไงเหลืออีกสองเม็ดมาอิมจะได้นอนไง ” ว่าแล้วจาก็ใสเม็ดยาเข้าปากแล้วยกน้ำดื่มสองอึกบางๆ อิมเลยรู้ว่าการหายไปของยาสองเม็ดแรกอยู่ที่ไหน
“ คิดได้นะ ” บ่นให้แต่ก็ยอมเอียงหน้าเข้าหา รอรับริมฝีปากของจาที่ประกบเข้ามาสส่งถ่ายยาเม็ดที่อิมคิดว่าความขมไม่หลงเหลืออยู่อีกแล้ว รสชาดของน้ำเปล่าที่เคยดื่มเองก็ไม่หวานขนาดนี้ด้วยถึงจะหมดแล้วแต่คราวนี้อิมก็ไม่ผละริมฝีปากออกจากปากจา
ยังไม่พอนะอยากได้อีก ลิ้นร้อนภายในคนตัวเล็กแทรกเข้าซุกซอนความหวานภายในต่อ ถึงจะป้อนยาเสร็จรอบที่สองแล้วแต่อิมก็ยังไม่ปล่อยเขา อิมยอมรับยาไปทั้งหมดแถมเก็บกลืนชอนปลายลิ้นเข้าหาจาเสียเองด้วย
“ โอ๊ะ ! ” ร่างหนาเปลือยอกไม่ทันระวังถูกอิมลากเข้ามาบนเตียงแล้วกดตัวลงทาบทับทั้งๆที่ยังไม่ละจูบ ถูกลุกหนักจาเริ่มหายใจไม่คล่อง เหมือนอิมทสูบเอาสูบเอา แต่จาก็ยอมที่อิมทำให้ แต่เหมือนจะไม่พออีกเช่นเคย ลิ้นร้อนๆผละออกมาจากหนาแล้วลากไล้ผ่านลำคอกว้าง กดรอยฟันเรียงสวยลงบนลำคอขาวเบาๆ
“ อือออ
อิมมม..” เสียงครางทำเอาคนอยู่ด้านบนมีสติ ดันร่างตนขึ้นมองร่างเปลือยอกของจาที่แดงซ่านไปทั่วไม่แพ้กัน
“
”
จาปรือตามอง เห็นใบหน้าหวานที่แดงกล่ำ ริอาจลุกเสียเอง ทั้งๆที่ยังเจ็บอยู่ การปลุกเร้าที่อิมไม่อาจยอมได้เพราะร่างกายยัง
ยังไม่พร้อม
เสียดายยย
จัง
“ ไอ้จายิ้มทำไม ” เพราะจายิ้มจนอิมเขินเข้าไปอีก หันหน้าหนีเสียจนขยับและเจ็บที่ตรูดงงอนอีกแล้ว
“ ขอโทษที่ทำให้เจ็บนะ ขอโทษนะอิม ” อิมนึกฉุน ใช้สองมือตบที่แก้มสากสองข้างเบาๆ
“ อย่าพูดขอโทษพร่ำเพรื่อได้ไหมไอ้จา มรึงไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย ไม่ต้องขอโทษเลย กรูตังหากที่ผิด รู้งี้ไม่หน้าปีนรั้วเหล็กบ้านมรึงเลย
อด เสียดายยย
อ่ะ ” ว่าแล้วอิมก็ทิ้งตัวลงบนร่างจาสองแขนสอดเข้าไปกอดร่างจาเอาไว้แน่น
“ เสียดายอะไรเหรออออ
” จาแกล้งเย้า
“ เสียดายที่เจ็บตรูด เสียดายที่ไม่รู้ว่ายาเม็ดมันอร่อย หว๊าน..หวาน ” จาอมยิ้มหน้าแดง ยกมือลูบผมเกรียนนุ่มของอิมเบาๆ
“ และเสียดาย
รู้ว่ามรึงมีวิธีป้อนยาเม็ดได้ถึงใจขนาดนี้ ถ้ารู้นานแล้ว กรูกินยาที่มรึงป้อนนานแล้วนะเนี่ย
เสียดายอ่ะ แงๆๆๆ ” เสียงร้องแกล้งๆของอิมทำเอาจาอายมาก ยกมือกำแล้วเขกไปที่หัวอิมพอเจ็บ
“ บ๊องอ่ะไอ้อิม ไม่เอาแล้วนอนๆๆๆ ” จาหลับตาแล้วกดปิดสวิซต์ที่หัวเตียง หลบความแดงของใบหน้าตน อายมากๆๆ ที่อิมจี้จุดอาย..
“ จา.. ”
“ จา.. ”
“ หือ..? ”
“ พรุ่งนี้ป้อนอีกนะ กรูชอบกินยาเม็ดแล้วล่ะ ”
>///<
เพื่อนๆแล้วคืนนี้ จาจะนอนหลับไหมเนี่ย
ขอโทษที่หายไปนานค่ะ ไรท์ละลายไปกับสายฝน ฝนตั้งเค้ามาทีไหร ไหลไปตามลมทุกที
มาจบตอนค่าปรับให้แล้วค่ะ
ความคิดเห็น