ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You are my heart

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 57 ค่าปรับ… 100 %

    • อัปเดตล่าสุด 1 มิ.ย. 54


     

    ตอนที่ 57 ค่าปรับ  100 %

     

                “ ขอบคุณครับพี่ที่ย้อนกลับมาส่ง นี่ฮะค่ารถ ” อิมกล่าวขอบคุณโชเฟอร์ จนคนขับนึกแปลกใจกับกิริยาของเด็กชายหน้าตาน่ารักคนนี้มองดูว่ากำลังทำใจเย็นให้มากที่สุด เพราะในรถตลอดทางที่ขับกลับมา เขาแอบมองผ่านกระจกเห็นเด็กชายกำหนดลมหายใจเข้าออก เหมือนกับกำลังรวบรวมสมาธิเพื่อคิดจะทำอะไร

     

                    ยังไงเห็นท่าทางแบบนี้หน้าดีกว่าในตอนแรกเป็นไหนๆ อย่างน้อยก็มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหวานนี้แทนหน้าบึ้งตึงก็พอแล้ว

     

                    ไม่ต้องถามก็เข้าใจถูกแล้วล่ะ นายอิมของเรากำลังตั้งสติอย่างคนขับแท็กซี่คิดมาตลอดทาง เขาพยายามคิดหาทางเพื่อจะขอคืนดีกับนายจาให้ได้

     

                    ทั้งการพูด การแสดงออกบ่งบอกอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งเลยว่านายจาสุดที่รักของเขากำลังคิดมากไปคนเดียวจนมีอาการให้เห็นถึงความน้อยใจสุดขีด บวกกับร่างกายที่ยังไม่กลับมาแข็งแรงเต็มที่ ก็คนเคยเป็นถึงนักกีฬาระดับชาติ ต้องมามีร่างกายที่ต้องเฝ้ารักษาพาให้จิตใจห่อเหี่ยวไปกันใหญ่

     

                    ก็เล่นเอาเขาอึ้งกิมกี่ไปหลายดอก ฮุกซ้ายฮุกขวาหน้าหงายสมองเบลอไปหลายนาที

     

                    เสียงบอกเลิกที่ก้องอยู่ในหูยังไม่หายไปเลย

     

                    “ เฮ้อออออ” ถึงจะทำใจได้แล้วแต่ก็ขอถอนลมหายใจเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากสมองมั้งก็ดี หัวจะได้โล่ง

     

                    กลับไปคราวนี้เพื่อว่าจะพูดกันให้รู้เรื่อง

     

                   

     

                    ก็ใครจะเรียกว่าไปง้อสามีก็ว่ามาเหอะ

     

                    เพราะยังไงก็ต้องไปง้อ

     

    ใช่ง้อ !

     

                    จะง้อยังไง ?

     

    แล้ววิธีไหนล่ะที่จะง้อได้ ?

     

                    แก้ผ้าแล้วลากไอ้จาไปปล้ำเลยดีไหม !

     

                    หรือ ?

     

                    แก้ผ้าตัวเองให้ไอ้จาลากไปปล้ำดี ??????

     

                    “ แหะ ๆ บ้าไปใหญ่แล้วเรา ” อิมยกมือเกาหัวแกรก เขอะเขินกับความคิดที่ออกจากสุดเอ๊กซ์จนเกินขนาดไป ไม้อ่อนไม้แข็งก็เคยใช้จนรู้ไส้รู้พุงกันจนหมด คราวนี้อิมเลยต้องคิดหนักเป็นพิเศษ

     

                    ในสมองคิดหาทางที่จะขอคืนดี แต่สายตาไล่มองประตูเหล็กสูงเกินความสูงตนเป็นสองเท่าอย่างหนักใจยิ่งกว่า

     

                    !?

     

                    “ เข้าไปให้ได้ก่อนแล้วกันวะ แมร่งเอ๊ยเสรือกล็อคประตูเสียด้วย ไอ้หร่าจาแล้วกรูจะเข้าไปข้างในได้ไงวะเนี่ย !  ” บ่นให้ตัวเองอุบ สองตากลมมองลอดช่องเข้าไปด้านใน ไม่กะเรียกให้จามาเปิด แต่กะว่าจะหาทางเข้าไปเอง แล้วมองซ้ายทีขวาทีเห็นไม่มีใครผ่านมา ร่างเล็กก็ยึดเหล็กหนาเอาเป็นที่ตั้งก่อนค่อยๆปีนป่ายพาร่างของตนค่อยๆสูงขึ้นไปจนถึงยอดสุดของประตูเหล็ก

     

                    อย่าให้ใครมาเห็นแล้วคิดว่าเราเป็นขโมยก็พอ

     

                    ไอ้จาเอ๋ย มรึงจะรู้ไหมว่ากรูกำลังปีนเข้าไปตามมรึงกลับมาเป็นของกรูอะ

     

                    ก็เพราะรักหรอกนะแมร่งสูงขนาดไหน อิมจะปีนไปให้ถึงตัวเองนะไอ้จายอดรักกกกกกกกก

     

                    ตุบ !

     

                    ………………….

     

                                   

                “ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะครับพี่ออย ” ผมกล่าวคำขอบคุณเธอ คุณพยาบาลแสนสวยใจดี พอได้ยินฝั่งปลายสายแย้มรับเรียวปากอิ่มยิ้มกว้าง ก่อนกล่าวเสียงนุ่มนวลกลับมา

     

                    “ ไม่เป็นไรจ๊ะน้องจา มีอะไรไม่สบายใจโทรมาอีกได้นะ พี่ยินดีเสมอ ” ไม่ใช่การรบกวน แต่ต้องการเพื่อแบ่งเบาความทุกข์จากหัวใจที่อ่อนต่อโลก

     

    ความรักที่ทุกผู้ทุกนามต้องพานพบ ยิ่งหลบลี้หลีกหนีรัก  รักยิ่งวิ่งเข้าหา หากยังเป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อมีวิญญาณ และยังยิดติดกับสิ่งที่ยังปรารถนา คอยไขว่คว้าสนองความต้องการอย่างไม่จบสิ้น

     

                    โรคความรักที่แม้แต่ตัวคุณพยาบาลผู้ใจดีเองยังเคยเป็น ..แต่ก็ผ่านมาได้เพียงมองถึงเหตุและผลตามหลักพระพุทธศาสนาที่ดำรงอยู่ในจิตใจ เพียงบ่มเพาะและปลูกฝังความเป็นไปให้รู้เรียน ยอมรับ เข้าใจ

     

              “ รักให้เป็นนะจา ไม่ต้องเชื่อพี่ แต่ทำอย่างที่พี่บอก แล้วจาจะได้พบกับความสุขที่ต้องการ ” ปลายสายกล่าวย้ำเสียงชัดเจน หัวใจน้อยๆของเด็กหนุ่มค่อยทุเลาลง เพียงเปลี่ยนความคิดของตน เท่านั้น ก็เป็นสุขนัก

     

                   

                    ตี๊ด !

     

              ผมมองมือถือตนเองอยู่เป็นนานหลังจากกดวาง นึกขอบคุณพี่บอย พี่ชายใจดีที่ให้เบอร์พี่สาวใจดีมา ช่วยได้มากทีเดียว

     

                    “ รักให้เป็น ! ” แล้วริมฝีปากหยักก็ยกยิ้มเพียงพูดในสิ่งที่เข้าใจ

     

                    รู้แล้ว..

     

                    ยังนึกขันกับสิ่งที่ตนทำลงไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า

     

                    “ อิม ” ยังทันใช่ไหมหากจะกลับไปปรับความเข้าใจกัน

     

                   

    ตุบ !

     

                   

    ?  

     

    จาหันขวับไปตามเสียงนั้น เสียงบางสิ่งบางอย่างที่ร่วงหล่นมาแสนไกล

     

                    เสียงที่ดังมาจากทางประตูบ้านเบื้องหน้า

     

                    ????

     

     

     

                    ……………………………

     

                   

     

                    ตุบ !

     

                    “ โอ๊ยยยย

     

                เสียงร้องเกิดจากร่างเด็กชายตัวเล็กในชุดนักเรียน ร่วงหล่นสู่พื้นคอนกรีตหลังพลัดตกมาจากประตูเหล็กสูงที่ได้ปีนป่ายข้ามมา

     

     ใครเห็นก็คงคิดว่า เขาโชคดีมากที่เอาก้นลง ไม่ใช่หัว ไม่ใช่แขนขาหรืออวัยวะอย่างอื่น ไม่อย่างนั้น หัวคงแตก แขนหรือขาคงหักเป็นแน่

     

    !?

     

    ( แล้วเจ้าตัวล่ะ นู๋อิมของนายจาจะขวัญหนีดีฝ่อขนาดไหน เราไปตามดูเขากันค่ะ )

     

    !?

     

    หลังจากตกลงสู้พื้น อิมกะพริบตาปริบๆ ในกายหัวใจเต้นระทึกถี่รัวแทบจะนับไม่ทัน บอกได้เลยว่าเขาตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น้อย แล้วเจ้าตัวเล็กรีบหันขึ้นไปมองประตูเหล็กใหญ่ที่มือของเขาเกิดจับพลาด แล้วก็พลัดตกลงมาทันที

     

    ด้วยความมืดมองเห็นไม่มาก  และเขาเองก็คงรีบลงมาเร็วไปหน่อย

     

    ให้ตายเหอะ

     

    เกือบเป็นข่าวหน้าหนึ่งเช้าวันใหม่เสียแล้วซิเราอิมคิด

     

    ขนตาเป็นแพยาวกะพริบถี่ขึ้นไปอีก

     

                   

    เด็กชายหน้าตาดีริอ่านขโมยของ ปีนข้ามรั้วสูงเกินสามเมตรด้วยความอุกอาจ กระทำการไม่สำเร็จพลัดตกลงมาดับอนาจ…’

     

    ข้อความที่พาดนำเสนอ.. น่าอายชะมัด

     

                    ยิ่งคิด ยิ่งนึก ยิ่งจินตนาการ..

     

    สยองชิบ !

     

                    คิดแล้วให้เสียวระบบทางเดินอาหาร

     

    ยังไงน่ะหรือ ?

     

    ก็ไล่กันตั้งแต่ลิ้นไก่ยันปลายลำไส้ใหญ่ เอามันสุดปลายตรูดไปเลย  ก็เพราะเสียวแค่ไส้อย่างเดีย

    วมันคงไม่พอ

     

    สองตากลมเงยมองประตูใหญ่อีกครั้ง

     

    “ พู่รอดมาได้ไงวะเรา ” เป่าลมเพื่อไล่ออกจากปากกับเหตุการณ์เฉียดตาย

     

    หยดเหงื่อเม็ดใสอาบแก้มเนียน กะพริบตาปริบๆเรียกขวัญที่โดดหนีไปก่อนร่างเล็กของเขาหล่นร่วงลงมายังพื้นเสียอีก

     

    ไม่น่ารอด !

     

    แต่ก็รอดมาได้แหล่ะน่า  คนดีๆอย่างเรา บุญยังดี แถมผียังคุ้ม  

     

    อิมคิดไปต่างๆนานา ก่อนย้อนกลับมาสำรวจร่างกายตนเองในทันที รู้ว่าไม่ตายแน่ๆ ตกมาสูงขนาดนี้ ร้องดังขนาดนั้นมันต้องเจ็บกันมั้งแหล่ะวะ

     

    แล้วอะไรล่ะที่มันจะเจ็บ

     

    ว่าแล้วเอี้ยวตัวใช้มือจับตรูดตนในทันที

     

    “ โอ๊ย !

     

    อิมหยีตาซี๊ดปากเพื่อไล่ความเจ็บหวังลดทอนให้ทุเลาเบาบาง...

     

                “ โอยเหรี้ยเจ็บชะมัด ” บ่นได้สักครู่แล้วเริ่มสำรวจร่างกายตัวเองอีกครั้ง เห็นมีเลือดไหลซิบบนบาดแผลสีม่วงคล้ำที่ท่อนแขนขาวๆทั้งสองข้าง

     

                    สงสัยครูดเอากับประตูเหล็ก ?

     

    ก้มมองขาสองข้างปลอดภัยเพราะเอาตรูดลง ถ้าเอาขาลงคงขาอาจหัก คงมีประสบการณ์เข้าเผือกอย่างไม่ต้องสงสัย 

     

    ที่ใบหน้าไม่เจ็บ ไม่มีบาดแผลใดๆ  ดังนั้นความหล่อน่ารักยังคงอยู่

     

    หัวไม่กระแทกพื้น ไม่มีเลือดออกทั้งข้างนอกและข้างใน  รับรองไม่มีเลือดคลั่งในสมอง

     

    และนอกนั้น อย่างอื่นปลอดภัยทั้งหมด

     

     

    สุดท้ายย้อนกลับมายังจุดแรกเริ่ม อวัยวะที่เจ็บมากที่สุด ค่อนข้างจะระบมมาก อาจใช้การเคลื่อนไหวใดๆไม่ได้อีกนานเป็นอาทิตย์

     

                    สะโพกคราก…?

     

                    บั้นเด้าเสีย

     

                   

     

    งั้นถ้าวันนี้อยากคิดมีอะไร..ก็คงอดอะดิ !

     

    ( คิดอะไรน่ะนู๋อิม  เจ็บไม่ใช่เหรอเรา ? )

     

                    “ ไอ้อิม !

                   

                    เสียงร้องเรียกอันคุ้นเคย ของคนที่เพิ่งผลักไสเขาให้กลับหอไปเพียงคนเดียวดังมาจากทิศทางภายใน

     

                    “ ไอ้จา..” ขานรับพร้อมเบะปาก ตั้งท่าจะร้องไห้ในทันที ไม่รู้ทำไม น้ำตามันอยากจะไหลออกมาเอง แต่ก็ข่มความเจ็บนั้นไว้ ฝืนยิ้มไม่ง่ายเลย

     

                    จาหน้าเสีย รีบร้อนวิ่งลงมาคุกเข่าต่อหน้าคนรักตัวเล็กที่แสนจะซุกซน

     

    สายตาคมสั่นไหว มองร่างของอิม เนื้อตัวเลอะเทอะ เสื้อผ้านักเรียนหลุดลุ่ย สองแขนยันพื้นพยุงกายนั่งอย่างทุลักทุเล

     

    ภาพตรงหน้าสะเทือนใจจายิ่งนัก รู้สึกผิดในสิ่งที่กระทำไปก่อนหน้า น้ำตาปริ่มข้างขอบตา มองคนตัวเล็กแล้วสงสารจับหัวใจ

     

    “ อิมมรึงเป็นอะไรหรือเปล่า ไหนเจ็บตรงไหน บอกกรูๆ  ” จาร้อนรนรีบถาม เสียงสั่นเครือเมื่อเห็นบาดแผลที่อิมได้รับ คงเจ็บมาก จาอยากจะเจ็บแทน

     

    “ แฮะๆ กรูห่ามน่ะ ปีนข้ามประตูเหล็กบ้านมรึงเอาเอง กะว่าสบายๆนะ แต่ก็พลาด ไม่เป็นอะไรมากหรอก ฟกช้ำนิดหน่อย ที่เจ็บมากที่สุดก็คงเป็นตรูด กรูเอาตรูดลงอ่ะ ” อิมกัดฟันพูดแล้วยกแขนให้ดูรู้สึกแสบแผลซะแล้ว

     

    จามองเนื้อขาวเป็นรอยอย่างน่าเสียใจ

     

    “ ทำอะไรของมรึงน่ะอิม ปีนประตูทำไม เรียกก็ได้นี่ ” เสียงสั่นเครือถามต่อ อิมก้มมองยังพื้นรู้สึกผิดไม่แพ้กัน

     

                    “ ขอโทษไอ้จา กรูไม่อยากเรียก กลัวมรึงโกรธ เลยปีนเองกะว่าจะมาง้อคืนดี ” เสียงพูดพอได้ยินสำหรับคนฟัง แต่มันทะลุเข้าไปในอกคนร่างใหญ่

     

                    “ มันอันตรายมากนะ ถ้ามรึงตกลงมาเป็นอะไรมากไปกว่านี้ แล้วกรูจะทำไง ” สายตาคมสั่นระริก หยาดน้ำใสไหลรินข้างแก้มสาก มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตานั้นออกทันที

     

                    อิมรู้ว่าจาเป็นห่วงตนมาก ก็เสียใจที่วู่วาม ด้วยความที่คิดหน้าคิดหลังน้อยไปอีกเช่นเคย เลยเกือบทำให้อะไรๆยิ่งเลวร้ายลงไปอีก

     

                    บอกตามตรงไม่อยากเห็นจาร้องไห้อีกแล้ว พอเห็นน้ำตาจาที่ไร ใจจะขาดเสียให้ได้

     

                     “ อย่าร้องไห้ดิ กรูไม่ได้เป็นอะไรมากซะหน่อย เจ็บตรูดอย่างเดียวเอง นิดหน่อยๆ จิ๊บๆ ” คำตอบแสดงความอารมณ์ดี

     

    จารู้ว่าอิมฝืนทนความเจ็บเอาไว้

     

    “ ไม่เป็นไรจริงๆ ไอ้จากรูทนได้ ” คนเจ็บอย่างอิมกลับมาปลอบจาแทนเสียนี่

     

    จานิ่วหน้ามองอิมที่ใช้มือลูบตรูดปอยๆ ปากบอกไม่เจ็บ ก็เห็นว่าเป็นยังปฏิเสธอีก

     

    “ ไม่ต้องฝืนเลยไอ้อิม ไปเข้าบ้านกรูจะทำแผลให้ก่อน ไม่เจ็บทิ่อื่นแน่นะ ไม่งั้นไปโรงพยาบาลไหม ”  จาถาม อิมสั่นหัว

     

                    “ ไม่เป็นไร ไม่ต้องหรอก ” ยืนยันต่อ

     

                    “ แน่นะมรึง ” ห่วงแสนห่วง อยากพาไปตรวจให้แน่ใจ คุณหมอคุณพยาบาลใจดีกำลังรอต้อนรับอยู่  มีอะไรร้ายแรงจะได้รักษาทัน

     

                    “ อืม ไม่มีจริงๆ ” อิมยิ้มน้อยๆ

     

                    ก่อนจายกชันเข่าลุกขึ้นนั่ง สองมือแกร่งช้อนเข้าใต้ขาพับ และที่ใต้รักแร้ จาดันตัวลุกขึ้น อุ้มอิมขึ้นอย่างง่ายได้ คนเจ็บตกใจเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมให้จาทำแบบนั้นโดยดี

     

                    หน้าขาวแสนหวานเปอะฝุ่นระเรื่อขึ้นในความมืด ปล่อยให้จาพาร่างตนเข้าบ้านหลังใหญ่ไปในทันที

     

                    “ ไม่ใช่ที่โรงฝึกหรือจา ” อิมถามขณะที่จาเดินอย่างช้าๆ ก้าวเท้าขึ้นตัวตึก

     

                    “ บนบ้านมีชุดปฐมพยาบาลดีกว่าในโรงฝึกน่ะ เตียงนอนก็นุ่มกว่า ห้องน้ำก็กว้างกว่า มีอ่างด้วย กรูจะได้อาบน้ำให้มรึงไงอิม มันสะดวกกว่าเยอะ ” ความจริงจาไม่อยากย้อนไปในที่ๆเพิ่งบอกเลิกอิมด้วยแหล่ะ อะไรๆมันน่าสะเทือนใจเกินไป

     

                    ไม่อยากให้อิมสะเทือนใจตามไปด้วยเช่นกัน

     

                    วับเดียวที่จานึกถึงแหวนคู่สีเงินวาววับในกล่องกำมะหยี่สีชมพูที่ยังอยู่ในกระเป๋าของตน

     

                    “ จา ? ” อิมถามเมื่อเห็นว่าจาเงียบไป

     

                    “ อะไรเหรออิม ” ชายหนุ่มหันมองหน้าอิม ยกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม

     

                    “ เราไม่เลิกกันแล้วใช่ป่ะ มรึงกะกรูยังรักกันเหมือนเดิมนะ ” สีหน้าเรื่อของอิมเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อไฟในตึกสว่างจ้าแล้ว

     

                    จายิ้มละไม เจ็บได้ขนาดนี้อิมมันยังไม่ลืมความตั้งใจที่ยอมลำบากจนเจ็บกาย

     

                    “ ไม่เลิกแล้ว มรึงทำสำเร็จอิม มรึงง้อกรูสำเร็จ ” พูดได้แค่นั้น จาก็หน้าแดงเสียเอง

     

                    “ เย้ ! ” อิมร้องอย่างดีใจ แล้วสองแขนเล็กก็ตวัดกอดคอจาในทันที

     

                    “ เฮ้ย ! เดี๋ยวตกไปตายจริงหรอกไอ้อิม ”  จาร้องบอก เร่งกระชับวงแขนแน่น กลัวว่าจะทำอิมตกไปอีก ก็เพราะห่ามสุดขั้วแบบนี้ไงเล่าทำให้เขาหลงจนจมปลักรักแต่ไอ้อิม

     

                    “ มรึงไม่ทำกรูตกหรอกกรูรู้ไอ้จา รักมรึงจังเลย ” อิมยิ้มแสนหวานให้ภายใต้หน้าที่เปรอะเปื้อนฝุ่น จายิ้มรับ คิดว่าอิมของเขาน่ารักเสมอ เสมอตั้งแต่ก่อนจนถึงตลอดไป

     

                   

     

                    ดีที่บ้านของจาตอนกลางคืนไม่ค่อยมีใครผ่านมา ไม่งั้นคงจะได้เห็นลูกชายเจ้าของบ้านพาเจ้าสาวผู้น่ารักเข้าไปในบ้านเป็นแน่

     

                    เสียดายคืนนี้

     

                    เฮ้ออออ

     

                    !??!?

     

                    ( ใครถอนหายใจแทนไรท์คะ ??? ^o^ )

     

                    …………………………..

     

      

                   

                    สายตาอิมไล่ตามทุกการกระทำของจาอย่างรักใคร่  จาอ่อนโยนมาก มากกว่าทุกครั้งที่เคยทำให้ คิดไปว่าตัวเขาเป็นดั่งของรักสุดหวงก็ไม่ปาน

     

                    ดีจั๊ยยยยยย  ดีใจจจจจ….

     

                    ตั้งแต่อุ้มมาว่างร่างอิมบนเตียงอย่างนุ่มนวล ค่อยๆถอดเสื้อผ้าให้เหมือนกลัวจะทำร้ายบาดแผลให้เป็นรอยลึกลงไปอีก

     

                    ฝ่ายอิมขำในอาการจิ๊ปากของคนกล้ามใหญ่ ก่อนก้มมองร่างเปลือยของตนด้วยใบหน้าสีแดงระเรื่อ

                   

                    “ ไม่ได้เจ็บที่ตรูดมรึงอย่างเดียวแล้วมั้งอิม เขียวช้ำไปทั้งตัวเลยอ่ะ ” บ่นให้รอยแผลแต่ก็ยังค่อยๆพยุงพาอิมเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะทำอย่างอื่น

     

    ถามว่าอิมอายมั๊ยยยย ?

     

    ขอตอบว่าอิมอายมาก ต้องมาเปลือยโป๊อล่างฉ่างเสียขนาดนี้  ไม่ได้หน้าหนาเป็นวาเป็นศอกที่เรียกว่าด้าน ก็เลยต้องระงับใจตนไม่อยากให้สายตาของคนอายส่อให้มองแล้วคิดไปในทำนองอื่นเลย

     

    จาเปิดฝักบัวให้กระแสน้ำไหลเอื่อยๆ ราดลดบนร่างของอิมจนทั่ว จากนั้นลงมืออาบน้ำ ถูสบู่ ตลอดจนเช็ดตัวให้จนแห้ง ทั้งๆที่ร่างตัวเองเปียกไปหมดแล้ว จาเลยถอดเสื้อนักเรียนออกเหลือเพียงกางเกงนักเรียนสีดำตัวเดียว

     

    แก้มอิมแดงไปถึงไหนต่อไหนกับแผงอกกว้าง กล้ามเนื้อแข็งแรงกำยำของจา คนตัวเล็กเฝ้าระงับจิตใจ  แต่ก็มีหลุดแอบเม็มริมฝีปากหลายหน แอบหันหน้าหนีร่างกายของจาก็หลายครั้ง และยังแอบกลืนน้ำลายลงคอบ่อยๆ

     

    ยังไม่นับที่แอบเลียริมฝีปากอีกเป็นระยะๆ

     

    ของมันเคยๆเลยรู้สึกว่าร่างกายจะเรียกร้องไปตามธรรมชาติ

     

     

    อิมยังเสมองหน้าจาบ้าง หน้าแดงระเรื่อของจาก็เหมือนกัน แต่คนตัวใหญ่ข่มใจได้มากกว่าเท่านั้นเอง

     

    ไม่อยากให้อิมคิดว่าเขาเป็นคนบ้าเซ็กส์ อะไรๆก็จะเข้าแต่ข้างหลังตลอด ยึดถือเพียงร่างกายเป็นใหญ่ หัวใจเป็นรอง

     

    มีเซ็กส์กันน่ะง่าย ไซ้ซอกคอนิดเดียวก็ระทวยแล้ว แต่คิดว่ามีอะไรกันแบบที่ยินยอมพร้อมใจด้วยกันทั้งคู่อย่างเต็มใจนี่ซิสำคัญกับจามากกว่า….ในตอนนี้นะ ถึงแต่ก่อนจะหื่นมากก็ตาม

     

    รักให้เป็น

     

    จาจะรักให้เป็นอย่างที่พี่พยาบาลคนสวยบอกครับ

     

     

     

    อิมถูกพามานอนคว่ำหน้าบนเตียงนอนของเจ้าของห้อง ตรูดแดงๆช้ำๆลอยเด่น จาเตรียมกล่องปฐมพยาบาลมาพร้อมสรรพ เปิดออกแล้วจัดแจงหยิบ แอลกอฮอล์ ยาแดง สำลี และอีกสาระพัดที่ต้องใช้

     

    “ เจ็บหน่อยนะ ” บอกเสียงเบาให้อิมเตรียมตัวและเตรียมใจ

     

     

    “ ก็ไม่เจ็บนี่ ช่างมันประไร ทายาเดี๋ยวก็หาย ก็ถ้าแผลไหนไม่หายกรูจะเก็บเอาไว้เตือนใจว่าเคยปีนรั้วบ้านมาตามเอาความรักคืนจากมรึงไงไอ้จา อนุสรณ์อ่ะ เด่นดีเนอะ ”  พูดไม่พอเอานิ้วจิ้มรอยแผลตนเองเบาๆ

     

                    “ ไม่เอา กรูไม่ชอบเลย ไม่ใช่อนุสรณ์อะไรทั้งนั้น เจ็บก็บอกมาดิจะฝืนทนทำไมวะอิม ” อิมส่ายหน้า

     

                    “ ไม่เจ็บก็ไม่เจ็บดิ คนบอกไม่เจ็บยังมาว่าเจ็บ มรึงอ่ะเป็นมากกว่ากรูเสียอีก คนตกจากประตูบ้านน่ะเป็นกรูนะไม่ใช่มรึง” จารับรู้ถึงความหมายที่อิมบอก จึงหยุดคิดตั้งสติตรองในสิ่งที่เกิดขึ้น นึกทบทวนความเป็นไปที่เกิดก่อนหน้าและต่อจากนี้

     

                    “ อืม กรูขอโทษต่อไปกรูจะไม่ทู่ซี้ถ้ามรึงรำคาญ ให้ตายเถอะมันทำไม่ง่าย พอเกี่ยวกับมรึงทีไรอิมกรูไม่มีเหตุผลทุกครั้ง ” จาย้อนกลับไปคิดถึงคำพี่ออยเตือนสติมา  ก่อนยิ้มให้ตนเอง มือยกค้างวางบนตรูดจานิ่งนานจนคนถูกจับร้อนเสียเอง

     

                      เออๆๆ ไม่เป็นไรแต่ไอ้จา มรึงเอามือออกก่อนได้ปะ กรูเสียวว่ะ เนี่ย ! ” อิมชี้ให้จาดูสิ่งปรกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายตนอะไรๆที่มันเคยหลับใหลดันตัวขึ้นจนคนร่างเล็กหน้าแดง ถูกจาจับที่ไรร่างกายร้อนทุกที

     

                    จาชักมือกลับหน้าที่แดงอยู่แล้ว แดงขึ้นกว่าเก่า ลุแก่โทษของตนเป็นที่มาของอาการนั้น ก่อนก้มมองเป้าตนเองบ้าง สั่งตามสมองให้ลงไปสกัดกั้นความต้องการไว้

                   

                    ไม่เอานะลูกพ่อ ห้ามตั้งเพื่อชักธงรบ ไอ้อิมมันเจ็บอยู่ ไม่ได้ๆๆๆๆๆๆ

     

                    “ จา…?

     

                    “ ทายาได้ยัง ” แกล้งถามยียวนมองเป้ากางเกงเพื่อนเก่าที่ผันมาเป็นแฟนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยสายตาแพรวพราว

     

                     

     

                    “ได้ๆๆๆ งั้นลงมือเลยนะ ” จาลุกลี้ลุกลน หยิบโน้นทำนี่เก้ๆกังๆในตอนแรกเพราะเคอะเขิน แต่ค่อยๆดีขึ้น ใจเย็นขึ้น ทำแบบเบามือที่สุด

     

    แกล้งกันไปแกล้งกันมาก็หน้าแดงกันทั้งคู่นี่แหล่ะ

     

    >///<

     

    เมื่อแกล้งจาได้สำเร็จ คราวนี้อิมเสไปอีกทาง ก้มมองกระเป๋ายาที่ไอ้จาเตรียมมาปฐมพยาบาลก็ขำคิก

     

    แหมโว้ย !ใหญ่กว่าของหมอซะอีก แบบนี้ใช้ได้ทั้งโรงเรียนเลยมั้ง

     

    แต่ก็ยังไม่วายนึกอุตริมองไปยังเป้ากางเกงของแฟนหนุ่ม

     

    ก็ไอ้ดุ้นโตๆที่ดันจนตุงนั้นเป็นอุปกรณ์การแพทย์ชนิดไหน และก็อยากรู้สุดใจขาดดิ้นว่าไอ้จาเอาไปพกไว้ใต้กางเกงทำไม

     

    หุ หุ

     

    อิมแอบขำคิกคักเองด้วยความสัปดน จนมือใหญ่เริ่มทายาบริเวณจนถึงแผลถลอกเลือดไหล  ความเย็นของแอลกอฮอล์ที่ลงฆ่าเชื้อทำเบิกทางก็ทำเอาอิมเจ็บแปล็บขึ้นทันที

     

    อี้แสบ

     

    พยายามกัดฟันเต็มที่ไม่ไห้ได้ยินเสียงไว้ก่อน

     

    “ เจ็บป่ะตรงนี้ ”  จาลองถามเพราะเห็นอิมนิ่วหน้า แต่ได้รับการส่ายหัวกลับมาแทนก็เลยทำต่อไป

     

    กระทั่งยาแดงพระเอกตัวจริงลงทำหน้าที่นั้นแหล่ะ

     

    “ อูยยยยแสบ” แต่ก็ยังหลุดซู๊ดปากร้องออกมาจนได้

     

    “ ไหวไหมอิม พอก่อนแล้วกัน ” พูดแค่นั้นแล้วหยุดมือ  มองเนื้อแดงถลอกเต้นระริก เห็นอิมจิกผ้าปูที่นอนจนบิดเป็นเกลียว..

     

     ทนไหว ทำต่อเถอะกรูไม่เจ็บจริงๆ แค่มรึงใจดีและอ่อนโยนขนาดนี้ ให้เป็นมากกว่านี้กรูก็ไม่เจ็บหรอก ”  ยิงคำหวานส่งถึงหัวใจคนฟัง  

     

    อิมปากแข็งว่าทนได้ๆ แต่เจ็บจะตายหร่า  ไม่บอกหลอกเพราะกลัวเสียฟอร์ม..

     

    จาได้ฟังเลยกัดฟันลงมือทายาให้อิมจนเสร็จ

     

    “ เฮ้ออออ” เสียงหายใจโล่งอกพ่นออกจากปากคนตัวใหญ่ เสร็จซะที

     

    หลังจากนั้นหาเสื้อผ้าที่ตัวเล็กพอให้อิมใส่ได้มาให้ แล้วจาอีกนั้นแหล่ะที่จัดแจงจนอิมแต่งตัวในชุดนอนของตัวเองที่ค่อนข้างใหญ่ไปสักนิดจนเรียบร้อยทุกอย่าง

     

    “ ขอบใจนะ ” กล่าวขอบคุณจากใจ จายิ้มหล่อสายตาอ่อนโยน

     

    “ จา ?

     

    “ หือ ? ” จาเงยมองอิมขณะกำลังง่วนกับการเก็บอุปกรณ์ปฐมพยาบาล

     

    “ เก็บของเสร็จก็ไปอาบน้ำให้ตัวเองบ้างซิ อาบเสร็จแล้วมานอนคุยกันหน่อยนะ กรูรออยู่ ” จารีบทำตามที่อิมเร่ง

     

     ในเวลาไม่นาน

     

    ร่างกายแข็งแรงก็ออกมาจากห้องน้ำ ท่อนล่างมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียว

     

    ในใจจา ไม่ได้คิดอะไร แต่แก้มแดงๆของคนนอนรอนี่ซิทำให้คิด สายตาแวววับส่งมาให้มองดูแล้วใจสะท้านทีเดียว

     

    “ กรูหล่อไหมอิม ” แกล้งถามเพราะเห็นน้ำลายไหลยืดออกมาจากปากคนตัวเล็ก ส่วยนอิมพอได้ฟังแล้วรู้ตัวก็รีบเช็ดออก หลงเพ้อไปกับหุ่นมาดแมนของจาได้ พลันคว้าหมอนขว้างใส่แก้ความเขินสุดๆ

     

    จาโยกตัวหลบหมอนใบนุ่มลอยออกไปชนผนังแล้วหล่นลงบนพื้นห้อง

     

    “ เฮ้ย ! ถามเฉยๆ อายอะดิ ” ว่าพลางเดินไปก้มเก็บหมอนมาวางข้างกายคนปา และจงใจไม่ใส่เสื้อผ้าซะงั้น

     

    “ ไงถามว่ากรูหล่อไหม ” จายืนตรงต่อหน้า ให้อิมได้มองเต็มๆตา ฝ่ายอิมไล่สายตาตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงใบหน้าคมคายที่รับกับโครงหน้าเข้ากันและงดงามอย่างเทพปั้นแต่ง ( ขนาดนั้นเชียวนู๋อิม )

     

    “ ก็นะ ใช้ได้ควงไปอวดใครๆก็ไม่อาย แมร่ง ! มรึงเป็นเกย์ตามกรูไปแล้วใครจะเชื่อวะ ”

     

    ถามว่าจาพอใจไหมกับคำตอบของอิม

     

    ..แต่ก่อนอาจจะนึกดีใจปนน้อยใจนิดๆ ที่อิมคิดแบบนี้ แต่ตอนนี้สำหรับจาอะไรก็ได้ที่อิมยอมรับเขาพอใจในสิ่งที่ได้ บอกแล้วว่าจะไม่ขออะไรจากอิมอีก เขาอยากเป็นฝ่ายให้เสียเองมากกว่า ให้อิมอย่างที่ไม่หวังอะไรตอบแทน

     

    “ ขอบใจที่ชมนะ ” จายิ้มดีใจ ส่วนอิมขัดใจเล็กน้อย กะว่าให้เคืองเล่นๆ แต่เมื่อจาไม่มีท่าทีอย่างคิดเลยไม่คิดแกล้งต่อ

     

    “ ใครว่าไม่หล่อเล่าหล่อซิ ” พูดเสร็จก็พยายามลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าจา ก่อนวางมือลงบนอกด้านซ้าย ฝ่ามือเล็กอุ่นรับรู้ได้ถึงหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ภายใน

     

    “ หล่อโครตๆ มรึงน่ะหล่อที่สุดเลยล่ะ ..” เว้นช่องให้ตัวเองหายใจเข้าเต็มปอด

     

    “ สำหรับกรูโดยเฉพาะตรงหัวใจนี้ เคยมีใครบอกมรึงไหมว่าไอ้จาว่าหัวใจมรึงน่ะหล่อมากกกกกก ” ลากเสียงยาวเหมือนเย้าเล่น ก่อนยืดตัวตรง เข้ากดริมฝีปากลงบนอกข้างซ้ายของจาในทันที ทำเอาจานิ่งไปชั่วครู่

     

    “ ขอจูบหัวใจหล่อๆหน่อยนะ กรูให้รางวัลสำหรับคนหัวใจหล่อโครตว่ะ” เว้นวรรคอีกครั้ง สูดออกซิเจนเข้าปอดจนสุดแล้วปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาจนหมด

     

    “ และอยากขอบใจที่กลับมารักกันอีกครั้ง ”  จบแล้ว อิมยิ้มสวยพร้อมส่งสายตาหวานมาให้

     

    ทำเอาหัวใจจาพองโตอย่างประหลาดและมากกว่าทุกครั้งที่เคยผ่านมา  จารีบรั้งอิมเข้ามาในวงแขนตน ก่อนจับใบหน้านวลขึ้นมองเต็มสองตา และกอดหมับรัดร่างอิมแน่นแทบจะตรึงอยู่กับกายจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

     

    “ ไอ้อิมมรึงรู้ไหมว่ามรึงโครตโรแมนติคชิบ ! ” อิมตีมือบนอกขวาเพี๊ยะเบาๆ

     

    “ ตั้งใจชมจริงนะ ขอบใจสาดดด ” จาก้มสูดดมผมเกรียนหอมของอิม ก่อนรวบรวมคำพูดจากใจส่งให้

     

     

    “ กรูก็ขอบใจมรึงอีกครั้งนะอิม ขอบใจที่รักกัน ”

     

    “ อืม กรูขอบใจที่มรึงรักกรูไอ้จา ”

     

    ………………………….

     

     

    หน้าหอพัก

     

    รถกระบะคันใหญ่วกเข้ามาจอดเทียบสนิทยังขอบถนน  

     

     

    ประตูด้านหลังติดกระบะซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามคนขับถูกเปิดออก อาร์ตเดินดุ่ยๆ หน้าตูมออกมาแบบไม่รอใคร ปากเจ้าตัวบ่นพึมพำเพราะพยายามกดสายออกหาเพื่อนอีกสองคนที่ติดต่อไม่ได้ทั้งคู่  

     

    อาการหัวฟัดหัวแหว่งก่อนหน้าก็ทำเอาคนในรถอึดอัดไปทีเดียว

     

     ( ก็หมีดำกำลังคลั่งน่ากลัวอยู่นะ )

     

      เฮ้ย ! ไอ้อาร์ต ” นัทเรียกตามหลังเพื่อนไปแต่ตัวเองก็ยังไม่ยอมลง

     

    และเป็นทีของนายไวท์บ้างล่ะ

     

     สุดหล่อจากแดนไกลเองนั้นเป็นคนที่นั่งด้านในสุด กลับไม่ยอมเปิดประตูลงฝั่งตน ใช้ความไวดันหลังสุดหล่อแห่งไทยแลนด์นายนัทให้แทบกระเด็นร่างลงตามเพื่อนผิวสีคล้ำออกมาทีเดียว

     

    นัทเองเผลอไปนิด ดีที่มือเหนียวแน่นหนับไม่เสียดายเป็นนักกีฬาบาส ใครรู้เสียชื่อแย่..

     

    ตั้งตัวได้ก็หันมาจะเอาเรื่อง ก่อนแลเห็นสีหน้าและแววตาอยากเอาชนะของน้องชายวินเข้า  

     

    ก็เพราะมีจุดมุ่งหมายที่ต้องการสั่งสอนไวท์จอมแสบไว้แล้ว เลยแกล้งทำหยึกหยักไม่ยอมไปงั้นๆแต่สุดท้ายก็ขี้เกียจโต้เถียงกับอนาคตน้องชายเมียด้วย  นัทเลยยอมเดินตามอาร์ตลงมาง่ายๆ 

     

    เมื่อเจ้าของไม่อยู่เป็นก้างแล้วชอบเลย.. ทำให้ไวท์ใช้โอกาศนี้ปล่อยให้พี่เนมคนดี๊..ดี ได้คุยกันตามลำพังกะพี่วินของตน แม้เพียงเวลาไม่กี่นาทีก็เอานะ.. เรียกว่าขอมีเวลาให้พี่เนมได้หยอดน้ำหวานของความรักวันละนิดต่อพี่ชายผู้แสนดีก็เพียงพอแล้วที่จะพิชิตใจจนอยู่หมัด  

     

    มีหรือเขาช่วยทั้งทีจะพลาดได้

     

    พี่วินน่ะใจอ่อนคนเป็นน้องรู้ดีกว่าที่ซู้ดดดด

     

    เมื่อเห็นว่าฝ่ายพี่เนมกำลังจะทำแต้ม ไวท์ก็รีบลงมาจากรถทันที แถมปิดประตู แล้วยืนกั้นทำตัวเป็นบอดี้การ์ดหน้าหล่อเหี้ยมเฝ้าประตูรถกระบะคันงามอย่างแข็งขัน

     

    ไอ้พี่นัท ริดอดเข้ามานะมรึงจะเอาให้อ่วมเลยแหง่งงง

     

     

     

    พอถูกน้องชายตัวแสบของวินผลักเหมือนถีบให้ลงมาจากรถได้  นัทก็รีบหันไปมองไอ้น้องไวท์ที่ยืนจังก้าตั้งตนเป็นยามรักษาความปลอดภัยเฉพาะกิจ

     

    นึกขำเพราะหน้าตาขึงขังเสียเหลือเกิน..

     

    เด็กหนอเด็ก

     

    นัทคิดในใจ สายตาที่มองไปนั้นส่งกระแสแรงจัดปะทะเข้าอย่างจังกับไอ้แสบไวท์ที่ยกนิ้วกลางมือขวาให้ต้อนรับการบุกรุกไกลๆ

     

    นัทกระหยิ่มได้ทีเหมาะเหม็ง โต้สวนกลับไปด้วยยกท่อนแขนขวาแข็งแรงขี้นตั้งเป็นลำพร้อมวางพาดด้วยแขนซ้าย อันมีความหมายบ่งบอกจะแจ้งเพื่อประกาศให้รู้กันไปเลยว่า

     

    ของกรูใหญ่กว่าโว้ย   ให้ดูแทน

     

    ไม่พอนะครับเพื่อนๆ นายนัทก็ริคิดสัปดนของๆไอ้ไวท์ยังแค่นิ้ว ..ของไอ้เนมอ่ะก็คงพอๆกัน คือเล็กจิ๊ด

     

    คราวนี้การ์ดจำเป็นจากอเมริกา สวนลำเขื่องกลับมาบ้าง ไวท์ยกสองนิ้วกลางขึ้นแทน ปากหยักออกเสียงเบาๆพอให้อ่านคำพูดออก

     

    FUCK YOU !  

     

     ความหมายว่าให้สองฟักไปกินเลยไอ้พี่ชาย

     

    หยาบคายที่สุดแล้ว  Fuck You !  กำลังสอง

     

    คิ้วหนาบนใบหน้าคมคายหยักเยาะเย้ย..

     

    !????

     

    ..!?

     

    นัทพอได้เห็นปล่อยก๊ากเบาๆ  เห็นผลของผักสองลูกของไวท์เข้า ก็เลยยอมปล่อยเรื่องนิ้วๆแขนๆที่แสดงซิมโบลไปแบบไม่เอาความอะไรต่อ  เพราะแปลความหมายเป็นตลกร้ายๆเข้าข้างตัวเองว่าไอ้ไวท์มันอยากได้ฟักเล็กเท่านิ้วสองลูกแทน

     

    >///<

     

    ฮ่าๆๆ

     

    ใจเย็นๆไอ้น้องเลิฟสุดปลายตรีน……อย่าใจร้อนนัก พี่นัทผู้ใจดีอย่างกับมหาสมุดคนนี้

     

    จัดหาผัว..ห่ายยยย

     

    ( ขอบอกเพื่อนนักอ่านทั้งหลายนะครับ ..งานเนี้ย ผมไอ้นัท..หวังผลมีลูกเฮกับลูกฮือครับ ไม่สำเร็จยอมให้มาเด็ดหัวผมไปต้มจิ้มน้ำพริกได้ หรือถ้าใครกล้า ผมให้โอกาสทุกคนอมขี้หมามาพ่นใส่หน้าผมได้เลย

     

    รับรอง..ไม่งั้นอย่ามาเรียกว่าไอ้นัทสุดหล่อลากไส้ประจำโรงเรียนเลยครับ…)

     

    (( ขอแอบกระซิบแบบก็อตซิบนะครับตอนนี้มันสมองอันฉลาดล้ำภายในกระโหลกสุดหล่อของผมกำลังทำงานด้วยการสั่งงานของต่อม  พลิกรูมาอัดทุกที่…’ วางแผนจัดความเสียวสยองหนักๆให้ไอ้น้องไวท์อยู่ครับ ))

     

    ( ต่อมหร่าๆชื่อนี้ไม่มีในโลกนะคะ..อะไรก็ไม่รู้ที่ไรท์คิดเอาเองก็แต่งออกมาตอนบ้าๆค่ะ  แฮะๆๆๆฮ่าๆๆๆๆ หายไปนานเลยจัดปายยย )

     

    !??

     

    ขณะนี้ไม่ต้องสนใจว่าไอ้น้องชายของวินจะทำอะไร ขนาดไหนขอความมั่นจงมีแด่เจ้าเถิด  ก็อยากบอกว่า ความเชื่อใจและมั่นใจในความรักของเขาที่มีต่อวินนั้น บวกผสมเข้าแผนการณ์ร้อนๆร้ายๆจากสมองที่คิดได้เหลือรับก็ทำให้นัทอารมณ์ดีมากๆเลย

     

    แลเห็นโลกสีชมรูอยู่ไม่ไกลลลลล

     

    จากนั้นนัทหันมองเห็นเพื่อนตัวใหญ่ที่ยังสาระวน หมกมุ่นพยามทั้งกดทั้งจิ้มปุ่มบนมือถือของตนเหมือนกับว่าไม่เคยกลัวว่าปุ่มทั้งหลาย มันจะไม่สามารถพังได้เลยซะงั้น

     

    “ ทำไรว้าไอ้อาร์ต” ร้องถามอย่างอารมณ์ดี อาร์ตหันขวับมาแยกเขี้ยวใส่

     

    “ กดเบอร์เรียกรถมาขนศพมรึงมั้งรู้ๆยังถามสาดดด ” อาร์ตด่าใส่ก่อนหันกลับไปโหมดกดๆๆๆตามเดิม ใบหน้าคล้ำออกแดงบอกว่าอาร์ตกังวลใจกับไอ้จาและไอ้อิมที่ติดต่อไม่ได้มากๆเลย

     

    น่านเล่นเอาถึงเกือบตาย ทำนัทสะดุ้งเล็กน้อยเบ้ปาก เข้าใจสาเหตุเพื่อนอาร์ตเข้าสู่โหมดโหดๆ ปนห่วงๆ

     

    นัทเข้าไปแตะบ่าเพื่อน กดแรงปรามความโกรธขึงให้ผ่อนคลาย

     

    “ มรึงไม่ห่วงเพื่อนหรือไงไอ้นัท ” อาร์ตหันมาแหวใส่อีกหน สายตาตัดพ้อจนนัทยิ้มเจื่อนไปนิด อารมณ์ดีใจเกินหน้าเกินตาเลยดร็อบลงเศษหนึ่งส่วนสี่

     

    “ ห่วง แต่มรึงไม่ไม่รู้จักนิสัยไอ้จากับไอ้อิมหรือไง ครบกันมาตั้งปีกว่าแล้ว ” นัทว่า

     

    “ รู้แต่ตอนนั้นยังเป็นแค่เพื่อน มรึง กรู ไอ้วิน ไอ้จาและไอ้อิมเป็นแค่เพื่อน แต่ตอนนี้ ..มันไม่ใช่ซะหน่อย อาร์ตขยายเหตุผลของความห่วงใย

     

    “ กรูเข้าใจนะ ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรามันไม่เหมือนเดิมแล้ว กรูรู้อยู่เต็มอก แต่มรึงอย่าคิดมากดิ ปล่อยวางมั้งอ่ะ เป็นป่ะ ” บอกให้เพื่อนปล่อยวาง โถไอ้คุณนัท

     

    “ อยากอ้วกแมร่ง ! ปล่อยวางไอ้จอมแผนการณ์ ปากมรึงนะพูดดีไป กรูห่วงมันทั้งคู่ กรูช่วยมรึงแล้วไอ้นัทมรึงก็ช่วยมันบ้างดิกรู ขอนะ ” อาร์ตด่ากราดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

     

    และยอมเลิกกดสายหาเพื่อนไปเอง  ชักเมื่อยมือ

     

    นัทพยักหน้ารับ

     

    “ เออกรูจะช่วย แต่กรูว่าตอนนี้มันดีกันแล้วมั้งมรึงก็กังวลมากไป ฟังนะไอ้อาร์ตฟังคุณนัทพูด ทั้งมรึง ทั้งกรู ไอ้วิน  ไอ้จา ไอ้อิม ครบกันมาตั้งปีกว่าเรียกว่าตับไต้ไส้พุงแทบถลกแหกมาดูกัน ไม่นับเรื่องแอบรักเพื่อนนะ มรึงรู้ใช่ป่ะนิสัย นิสัยไอ้จาเป็นไง คนอย่างไอ้จาน่ะใจอ่อน..ปากอ่อน แกล้งปากแข็ง แอบร้ายลึกๆ ดูตอนมันวางแผนหลอกไอ้อิมสิ กรูว่าร้ายกาจพอดูทีเดียวเชียวแหล่ะ ส่วนไอ้อิมปากร้าย ใจแข็งบ้างใจอ่อนบ้าง แมร่งแอบหลบเกย์หวังฟันไอ้วินของกรู แล้วไงไอ้วินรักกรูโว้ย ไอ้อิมเลยอดไปเอง และพอมันทั้งคู่เอากันเองนะ แบบว่าไอ้จาสมหวังไป มรึงก็เห็นไอ้คู่รักหมัดมวยคู่นี้เลยกินกำปั้นผสมน้ำตากันบ่อยๆ แมร่งโหดมันฮาว่ะ กรูชอบ เชื่อกรูดิ แมร่ง กัดกันไม่ทันสามวัน ก็เห็นดีกันไม่ทันครบสามคืน แมร่งกดตรูดกันอีกแล้ว จบได้ป่ะ นัทอธิบายยืดยาว อาร์ตเองฟังไปนึกถึงไป แอบยิ้มเชียร์คู่โหดให้ลงเอย

     

    แต่

     

    แต่..มันมีอะไรมากกว่านั้นน่ะซิ  ที่ไอ้นัทยังไม่รู้

     

    อาร์ตหุบยิ้มของตนลง เดินไปนั่งลงบนโต๊ะหินอ่อน วงกระเป๋าลงข้างกาย แล้วกำมือถือตนไว้ไม่ปล่อย

     

    “ กรูสาธยายมาตั้งเยอะมรึงไม่เก็ทอีกไง นัทเลิกคิ้วมองสงสัย อาร์ตส่ายหัว ยิ้มเจื่อนเหมือนคนน้ำท่วมปาก เล่าความไม่ได้ครั้งแรก คันหยิกๆแบบคันๆ.. แต่ไอ้จาขอไว้เลยต้องรักษาสัญญา

     

    “ เออเก็ทกรูจะพยายามเชื่อมรึงนะ แต่มันน่าจะติดต่อมาบ้าง ไอ้อิมเองมันไม่ควรเงียบไป ” อาร์ตพ้อเบาๆ

     

    “ ไอ้จามันลืมมือถือไว้ในห้อง มรึงก็รู้ ไอ้อิมแบตหมดมั้งเห็นกระหน่ำโทรหามันก่อนมรึงอีกกรูแอบเห็น เชื่อกรูป่ะไอ้อาร์ตกรูตาไวนะโว้ย เอาน่ะๆ ใจร่มๆเพื่อนผมๆ ไอศกรีมหมดฤทธิ์แล้วไงมั้ง ไปขึ้นหอกรูเลี้ยงแป๊บซี่ ” นัทว่า อาร์ตเลยยัดมือถือตนลงกระเป๋าเสื้อนักเรียน สองคิ้วที่ผูกโบว์คลายลงบ้าง

     

    “ เออ ก็ได้วะ ” โดยในใจอาร์ตหวังว่า

     

    ไอ้จามรึงกะไอ้อิมจะดีกันนะ กรูขอละวะ กรูห่วงพวกมรึงชิบ !

     

    อาร์ตขอเองเออเองในใจตน ก่อนมองหน้าโครตหล่อของเพื่อนนัท แล้วละสายตาไปยังการ์ดตัวขาวใหญ่ที่เริ่มตัวอยู่ไม่สุขเนื่องจากคณะยุงเริ่มบุกกัดบอดี้ของการ์ดคนเก่งเสียแล้ว

     

    “ ไอ้นัท โน่น !ไอ้ไวท์เต้นมรึงดู ” นัทหันไปตามปลายนิ้วเพื่อน มองน้องชายสุดแสบของวินที่กระโดดหยองแหย่งมือซ้ายขวาป่ายปัดตบเพี๊ยะตามร่างกายของตนเอง หนำซ้ำเกาทะเยอเสียด้วย

     

     ฮ่าๆ ” นัทหัวเราะเสียงดังจนยามจำเป็นได้ยินส่งสายตาฆ้อนควับ แต่สองมือเกาตามเนิ้อตัวไปมา

     

    “ สงสัยจะแพ้ยุ่งว่ะ น่าสงสาร ” อาร์ตว่าตั้งท่าลุกขึ้นเดินไปหา

     

    “ ช่างมันเถอะ ไม่ตายหรอกเดี๋ยวไอ้วินเมียกรูทายาน้องมันเองแหล่ะ ปล่อยมันไปซ่านักให้ยุงหามไปแดรกเสียก็ดี สม ” อาร์ตหันมาขวางฆ้อนใส่เพื่อนบ้าง นัททำท่าหลบทันซะด้วย

     

    “ มรึงไม่ห่วงไอ้วินแล้วไง ฝากปลาย่างไว้กับแมวนะมรึง ได้ใจไป ”  อาร์ตเย้า

     

    “ ไม่เป็นไรหรอกกรูเชื่อใจไอ้วินของกรูโว้ย ถึงไอ้ไวท์มันจะเชียร์สุดๆยังไงไอ้วินมันก็รักรูคนเดียวอยู่แล้ว มรึงเชื่อดิปล่อยมันวางใจไปเหอะ กรูมีแผนอยู่รับรองเด็ด เผ็ดยันตรูดไอ้ไวท์เลยล่ะ กรูจะเล่าแผนให้มรึงฟังด้วยไอ้อาร์ต ไม่มีมรึงช่วยนะบ่สำเร็จก่ะ ส่วนเรื่องไอ้อิมกะไอ้จาเอาน่ะเชื่อกรู ” นัทพูดจบเขาและอาร์ตหันมองไปทางน้องชายเพื่อน ก็ไวท์ทนยุงกัดไม่ไหวรีบเปิดประตูขึ้นรถหลบยุงไปซะแล้วนะสิ

     

    “ ฮ่าๆๆ..ไอ้อาร์ตมรึงเห็นป่ะ กรูไม่เห็นต้องทำไรเลยไอ้ไวท์มันแจ่นขึ้นไปเป็น ก ข ค เองแล้ว มรึงก็รู้นี่ ถ้าไม่มีลมน่ะหน้าหอเราน่ะยุงเยอะจะตายไป พอดึกหน่อยมีลมพัดยุงแมร่งหายไปหมด ส่วนไอ้วินนะเดี๋ยวมันก็ขอตัวขึ้นหอเองแหล่ะถ้าไม่เห็นเรายืนตรงนี้ ” 

     

    เพี๊ยะ !

     

    นัทยกมือตบแขนตนเองทันทีเพราะยุงกัดนะซิครับ

     

    “ ไปขึ้นหอเหอะยุงชักจะหันมาหามเราเองแล้วว่ะ ” นัทชวนอาร์ตที่ยิ้มได้แล้ว ก่อนทั้งคู่คว้ากระเป๋านักเรียนแล้วเดินกอดคอกันกลมขึ้นไปบนหอพักทันที

     

    “ นี่ๆไอ้นัทแผนมรึงว่าไง” นัทกระหยิ่มยกยิ้มมุมปากอย่างสุดเท่

     

    “ เดี๋ยวนะเพื่อนใจๆเย็น คุณชายนัทจะเหลาให้ฟังคร้าบบบ ” ว่าแล้วนัทก็เอียงคอไปกระซิบแผนการณ์ร้ายๆรัก ที่จะจับคู่นายเนมมือที่สามของหัวใจให้เกี่ยวดองกับน้องชายสุดแสบของคนรักของตนอย่างเจ้าเล่ห์

     

    ( งานนี้บอกแล้วว่าเอาหัวคุณนัทเป็นประกัน ไม่สำเร็จนะครับคุณเพื่อนๆที่ตามอ่านจะเอาอะไรเป็นค่าปรับคุณชายนัทยอมทุกอย่างเลยล่ะ จะเปลือยบน ปล่อยล่างแบบไหนได้เสมอนะครับอิอิ

     

    แต่ถ้าสำมะเร็จ คุณเพื่อนๆคนอ่านจะให้อะไรเป็นค่าปรับคุณชายนัทอย่างผมบ้างคร้าบบบบ… )

     

    พอฟังนัทเล่าจบ

     

    อาร์ตอึ้งในแผนที่นัทเตรียมไว้ แต่ก็เห็นมีรอยรั่วที่ต้องคอยจับตามอง เขาคิดว่าอาจเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเอาไว้ก็ได้

     

     

    แต่สำหรับนัทซิ มั่นใจเสียเหลือเกิน

     

     

    ฮ่าๆๆๆๆๆ  อุบ ! ” นัทเผลอหลุดหัวเราะออกมาเสียงลั่น จนอาร์ตตกใจรีบเอามืออุดปากมือ ความเค็มของมือทำเอานัทรีบชักออกจากปากแทบไม่ทัน

     

    “ ไอ้เหรี้ยอาร์ต มือแมร่งเค็มชิบ ” อาร์ตรีบตะเบะแบบรู้สึกผิดมากเลย ก่อนพูดแบบอายว่า

     

    “ โทษอีกทีเพื่อน กรูเข้าห้องน้ำที่ห้างก่อนกลับแต่แล้วก็ลืมล้างมือว่ะ แฮะๆๆ ” สิ้นคำอาร์ต นัทตาโพลง แยกเขี้ยวหมายฝังลงที่คอคนตัวใหญ่ให้จมลึก

     

    อาร์ตยกมือขึ้นกางแล้วหมุนไปกลับ

     

    “ อ่ะล้อเล่น ล้อเล่น ”

     

    “ โอ๊ย ! ” ตามด้วยเสียงร้องของเข้าของมือที่ยกหมุนคนนั้นเอง

     

    “ ไอ้สาดดดดอาร์ต ” นัทมองเพื่อนตาเขียวต่อไป แต่ก็เปลี่ยนไปในทันที กดลากคอเพื่อนแล้วกระวิบปรึกษากันต่อไปด้วยเสียงหัวเราะคิดที่น่ากลัวววว

     

     

    แฮ่ !

     

    …………………………………………….

     

     

    บนที่นอนนุ่มเตียงจา…^o^

     

    ร่างอิมนอนคว่ำซุกกายในวงแขนแข็งแกร่งของชายอันเป็นที่รักยิ่งก่อนขยับร่างมีผลทำให้ความเจ็บแปล็บที่บั้นท้ายส่งมาหา อิมหย่นจมูกรับรู้ความรู้สึกนั้น

     

    “ อูยย..” เสียงครางเบา เรียกสติให้เข้าสู่ร่างบาง

     

    ใบหน้าหวานแดงเรื่อเปลือกเปิดออกเพราะรู้สึกเจ็บที่ก้นตนเองมาก เพียงขยับเล็กน้อยก็แสนเจ็บ คิดสงสัยว่าคงจะระบมไปอีกหลายวัน

     

    “ อิมเจ็บเหรอ ” ร่างที่ขยับของอิมทำให้ร่างหน่าที่รองรับอิมไว้รู้สึกตัวเช่นกัน ทันที่จะได้ยินเสียงร้องครางนั้นพอดี

     

    “ อือ..เจ็บอ่ะ ”

     

    แป๊ะ !

     

    มือจาควานหาสวิตซ์ไฟโคมที่หัวเตียง เสียงสว่างพอให้เห็นความเป็นไปบนเตียงกว้าง

     

    “ กินยาแก้ปวดไหมอิม ” จาชะโงกหน้ามองนาฬิกาที่ข้อมือ อิมส่ายหน้าช้าๆ เพราะไม่ชอบกินยา ตั้งแต่ก่อนนอนถึงจาจะขอร้องก็ไม่ยอมกิน

     

    “ นะกินเหอะทาอย่างเดียวไม่หายหรอก ต้องกินยาด้วยลดอาการปวด การอักเสบของกล้ามเนื้อ พรุ่งนี้นะมรึงเจ็บตรูดจนระบมไปโรงเรียนไม่ไหวแน่เลย นะกินยาเถอะ ” จายกมือลูบแก้มเรื่อของอิมเบาๆ รู้สึกถึงความร้อนที่มากกว่าปรกติเสียด้วย

     

    “ ชักจะมีไข้แล้วแน่ๆเลยอิม กินยานะกรูป้อนให้ ” อิมส่ายหน้าไม่ตอบอีกเช่นเคยแล้วดันตัวพลิกไปอีกทางความเจ็บเล่นเอาคนดื้อตัวงอ รีบนอนคว่ำแทบไม่ทัน

     

    “ มันขม ไม่ชอบ ไม่ชอบกินยาอ่ะ ” เสียงอ้อนจากปากแดงเรื่อผสมกับหน้าที่แดงจัดเพราะเริ่มมีพิษไข้ก็ทำให้จาใจแข็งพอที่จะให้อิมกินยาให้ได้ แต่ค่อยๆเป็นค่อยๆไปไม่รีบร้อนหักหาญเอาให้ได้เช่นเดิมอีก

     

    “ นะอิมเชื่อกรูเหอะกินมรึงจะแย่เอานะ กรูรู้มรึงหัวแข็งไม่ค่แอยเป็นอะไร แต่คราวนี้ยอมให้กันหน่อยเถอะกรูห่วงมรึงจัง ”  อิมเบ้ปากแต่ก็ตัดสินใจชั่วครู่ เพราะยกมืออังหน้าผากตัวเองแล้วชักจะร้อนๆหนาวๆพิกล

     

    ก็ปรกติเขาไม่ค่อยเป็นไข้มานานมากแล้ว ไม่ได้ไปหาหมอบ่อยๆด้วย ครั้งสุดท้านที่ไปโรงพยาบาลก็เพราะเฝ้าไอ้จาไง

     

    “ ก็ได้แต่ไม่กินยาเม็ดนะ ” จาเอียงคอมองคนรักนึกถึงตอนที่ต่อยกัน อิมไม่ยอมกินยาเลยโดยเฉพาะยาเม็ด กินแต่ยาน้ำ กับฉีดยา เขาจะทำไงให้อิมกินได้ล่ะที่บ้านในกระเป๋ายาก็มีแต่ยาเม็ดทั้งนั้น

     

     

    จานึกอะไรได้ แอบหน้าแดง แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้วจึงลุกขึ้นไปค้นกระเป๋ายาที่ยังไม่ได้ยกไปเก็บที่ค้นขลุกขลัก ก่อนอ่านฉลากและหยิบยามออกมาสามสี่เม็ด อิมมองแล้วทำหน้าเสียเหมือนกลัวๆ

     

    “ ทำไมหลายเม็ดหนักอ่ะ ” บ่นพึมพำ แล้วก้มงุดลงยังหมอนหนุนหลบสายตาไปอีกฝั่ง

     

    จาส่ายหน้าและยิ้มที่มุมปาก ก่อนเดินไปหัวเตียงยกแก้วน้ำใบใสที่ควำอยู่หงายและเทน้ำเปล่าลงในแก้วเกือบเต็ม

     

    “ มาอิมกรูป้อน ” จาทิ้งตัวลงบนที่นอนอิมเอียงหน้ามองและดันกายขึ้นมองหายาในมือจาเห็นอยู่เพียงสองเม็ด

     

    อ้าว ! หายไปไหนสองเม็ด

     

    จายกแก้วน้ำขึ้นดื่มเสียเองสองอึก  อิมเลิกคิ้วบางมองอย่างฉงน

     

    “ จาอุบ ! ” อ้าปากจะถามแต่ริมฝีปากบางก็ถูกปิดลงด้วยปากหยักของจาพร้อมน้ำเปล่ารสหวานกว่าปรกติถูกส่งเข้ามาภายใน อิมกลืนรับเข้าไปจนหมด พร้อมผลักร่างจาออกแล้วยกมือเช็ดมุมปากที่น้ำไหลออกมา

     

    “ ทำอะไรน่ะไอ้จา ” หน้าแดงก็ยิ่งแดงหนัก ความร้อนยิ่งคุกรุ่น

     

    “ ก็ป้อนยาไงเหลืออีกสองเม็ดมาอิมจะได้นอนไง ” ว่าแล้วจาก็ใสเม็ดยาเข้าปากแล้วยกน้ำดื่มสองอึกบางๆ อิมเลยรู้ว่าการหายไปของยาสองเม็ดแรกอยู่ที่ไหน

     

    “ คิดได้นะ ” บ่นให้แต่ก็ยอมเอียงหน้าเข้าหา รอรับริมฝีปากของจาที่ประกบเข้ามาสส่งถ่ายยาเม็ดที่อิมคิดว่าความขมไม่หลงเหลืออยู่อีกแล้ว รสชาดของน้ำเปล่าที่เคยดื่มเองก็ไม่หวานขนาดนี้ด้วยถึงจะหมดแล้วแต่คราวนี้อิมก็ไม่ผละริมฝีปากออกจากปากจา 

     

    ยังไม่พอนะอยากได้อีก ลิ้นร้อนภายในคนตัวเล็กแทรกเข้าซุกซอนความหวานภายในต่อ ถึงจะป้อนยาเสร็จรอบที่สองแล้วแต่อิมก็ยังไม่ปล่อยเขา อิมยอมรับยาไปทั้งหมดแถมเก็บกลืนชอนปลายลิ้นเข้าหาจาเสียเองด้วย

     

    “ โอ๊ะ ! ” ร่างหนาเปลือยอกไม่ทันระวังถูกอิมลากเข้ามาบนเตียงแล้วกดตัวลงทาบทับทั้งๆที่ยังไม่ละจูบ ถูกลุกหนักจาเริ่มหายใจไม่คล่อง เหมือนอิมทสูบเอาสูบเอา แต่จาก็ยอมที่อิมทำให้ แต่เหมือนจะไม่พออีกเช่นเคย ลิ้นร้อนๆผละออกมาจากหนาแล้วลากไล้ผ่านลำคอกว้าง กดรอยฟันเรียงสวยลงบนลำคอขาวเบาๆ

     

    “ อืออออิมมม..” เสียงครางทำเอาคนอยู่ด้านบนมีสติ ดันร่างตนขึ้นมองร่างเปลือยอกของจาที่แดงซ่านไปทั่วไม่แพ้กัน

     

     

    จาปรือตามอง เห็นใบหน้าหวานที่แดงกล่ำ ริอาจลุกเสียเอง ทั้งๆที่ยังเจ็บอยู่ การปลุกเร้าที่อิมไม่อาจยอมได้เพราะร่างกายยังยังไม่พร้อม

     

    เสียดายยยจัง

     

     

    “ ไอ้จายิ้มทำไม ” เพราะจายิ้มจนอิมเขินเข้าไปอีก หันหน้าหนีเสียจนขยับและเจ็บที่ตรูดงงอนอีกแล้ว

     

    “ ขอโทษที่ทำให้เจ็บนะ ขอโทษนะอิม ” อิมนึกฉุน ใช้สองมือตบที่แก้มสากสองข้างเบาๆ

     

    “ อย่าพูดขอโทษพร่ำเพรื่อได้ไหมไอ้จา มรึงไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย ไม่ต้องขอโทษเลย กรูตังหากที่ผิด รู้งี้ไม่หน้าปีนรั้วเหล็กบ้านมรึงเลยอด  เสียดายยยอ่ะ ” ว่าแล้วอิมก็ทิ้งตัวลงบนร่างจาสองแขนสอดเข้าไปกอดร่างจาเอาไว้แน่น

     

    “ เสียดายอะไรเหรออออ” จาแกล้งเย้า

     

    “ เสียดายที่เจ็บตรูด เสียดายที่ไม่รู้ว่ายาเม็ดมันอร่อย หว๊าน..หวาน ” จาอมยิ้มหน้าแดง ยกมือลูบผมเกรียนนุ่มของอิมเบาๆ

     

    “ และเสียดายรู้ว่ามรึงมีวิธีป้อนยาเม็ดได้ถึงใจขนาดนี้ ถ้ารู้นานแล้ว กรูกินยาที่มรึงป้อนนานแล้วนะเนี่ยเสียดายอ่ะ แงๆๆๆ ” เสียงร้องแกล้งๆของอิมทำเอาจาอายมาก ยกมือกำแล้วเขกไปที่หัวอิมพอเจ็บ

     

    “ บ๊องอ่ะไอ้อิม ไม่เอาแล้วนอนๆๆๆ ” จาหลับตาแล้วกดปิดสวิซต์ที่หัวเตียง หลบความแดงของใบหน้าตน อายมากๆๆ ที่อิมจี้จุดอาย..

     

    “ จา..

     

    “ จา..

     

                    “ หือ..?

     

                    “ พรุ่งนี้ป้อนอีกนะ กรูชอบกินยาเม็ดแล้วล่ะ ”

     

                    >///<

     

                    ………………………

     

                    เพื่อนๆแล้วคืนนี้ จาจะนอนหลับไหมเนี่ย

     

                    ขอโทษที่หายไปนานค่ะ ไรท์ละลายไปกับสายฝน ฝนตั้งเค้ามาทีไหร ไหลไปตามลมทุกที

     

                    มาจบตอนค่าปรับให้แล้วค่ะ

     

                  พี่ก้อยจ๋า ไรท์มาแล้วนะคะ ^ ^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×