ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Let me be with You 2
บรรยากาศในรถค่อนข้างอึมครึม เพราะตั้งแต่ยาฮิโระก้าวขึ้นรถมา เขาก็วุ่นอยู่กับการจัดการเอกสารกองโต จนไม่มีแม้แต่เวลาจะหันมาคุยหรือมองหน้าฉันบ้างเลย
ความจริงแล้ว ฉันก็อยากจะถามยาฮิโระว่า ทำไมถึงต้องเอาเอกสารพวกนี้มาทำในรถด้วย ถ้ารอให้เรานั่งรถไปถึงที่บริษัทแล้วค่อยทำไม่ดีกว่าเหรอ สะดวกกว่ากันตั้งเยอะ
'นี่'
'ทำไมไม่รอให้ถึงก่อนล่ะ ทำในนี้มันลำบากออก'เมงุมิกระตุกชายเสื้อยาฮิโระ แล้วชูสมุดให้ดู
"ก็....ถ้าทำเสร็จเร็วมันดีกว่าไม่ใช่เหรอ"ยาฮิโระตอบ
'ก็ใช่'
'แต่...'เมงุมิอยากจะพูดห้ามแต่เธอก็คิดว่า ห้ามไปก็คงไม่มีประโยชน์
"ถ้าเสร็จแล้ว..."ยาฮิโระพูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน
'....?'เมงุมิหันไปมองทางต้นเสียงพร้อมทำหน้าที่มีเครื่องหมายคำถามตั้งอยู่บนหัว
"...เราไปเที่ยวกันต่อนะ"ยาฮิโระพูดต่อจากประโยคเดิมและเสมองไปทางอื่น
"ค่ะ"
"ผมบอกคุณว่าอย่าพูดไง"ยาฮิโระหันกลับมาว่าฉัน
"ก็ฉันดีใจนี่ค่ะ"เมงุมิพูดพร้อมยิ้ม
"หยุดพูดได้แล้ว"ยาฮิโระหันกลับไปทำงานต่อพร้อมหน้าที่ขึ้นสี
ณ บ้านตระกูล ไซงะ
'ไหนบอกว่าไปที่บริษัทไง'
"อืม"
'นี่'
"เข้าไปกันเถอะ"ยาฮิโระพูดพร้อมเดินนำไป
ยาฮิโระเดินนำเข้ามาจนถึงห้องทำงานของตน ในห้องทำ
งานตกแต่งแบบเรียบๆ เหมือนห้องคนทำงานธรรมดาทั่วไป เพียงแต่ มันสะอาดกว่าห้องทำงานธรรมดาทั่วไปหลายเท่า
ขอยอมรับตามตรงเลยว่า ห้องห้องนี้ สะอาดกว่าห้องทำงานของเธอกับจุนเยอะ
ไม่เป็นไรเมงุมิ ไม่ต้องเครียด ยังไงก็ต้องให้พวกเมดทำอยู่แล้ว
"เป็นไงบ้างห้องทำงานนี้ ผมทำความสะอาดและเก็บกวาดของต่างๆเองเลยนะ"ยาฮิโระพูดอวด
เหมือนมีสายฟ้าผ่ากลางลำตัวของเมงุมิ นี่เรื่องจริงเหรอ หมอนี่ทำความสะอาดเก่งกว่าเราอีกเหรอ
"นี่คุณ"
"ทำไมทำหน้าอย่างงั้นล่ะ"
'?'
"ก็คุณทำหน้าเหมือนกับว่า ยอมไม่ได้ที่ห้องทำงานผมมันสะอาดกว่าห้องตัวเเอง"ยาอิโระพูด
'นี่ หน้าเราแสดงอกไปแบบนั้นเลยเหรอ'ความคิดในใจเมงุมิ
'ทำไมถึงรู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่ล่ะ'
"หืม?"
'ฉันรู้ค่ะว่าคุณ ไม่มีทางดูสีหน้าของฉันแล้วรู้ได้หรอก'
"ก็เดาเอาอะ"
'ดะ เดาเหรอ'เสียงจากความคิดของเมงุมิ
ในระหว่างนี้ ยาฮิโระก็ไปนั่งที่โต๊ะทำงาน เพื่อที่จะทำงานต่อ ส่วนเมงุมิก็เดินสำรวจห้องไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ยาฮิโระพาเธอมาที่นี่
[Yahiro Style]
ความจริงแล้ว เรื่องงานผมทำเสร็จตั้งแต่อยู่บนรถแล้วและอีกอย่าง ที่ผมแอบบอกให้คนขับรถเปลี่ยนเส้นทางมาที่บ้านเลยก็เพราะ
ตอนที่ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง ผมก็เหลือบไปเห็น กลุ่มคนประหลาดกลุ่มหนึ่งที่แอบตามพวกเราอยู่ ผมเลยคิดถึงในสิ่งที่ซากุระเคยบอกผม
ย้อนความ
"นี่ยาฮิโระ นายได้ข่าวเรื่องเมงุมิจังรึยังอะ"ซากุระถาม
"ข่าวอะไร?ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมนี่"
"แน่ใจเหรอ?แต่ยังไงก็ช่วยฟังหน่อยแล้วกัน"
"ว่ามาสิ"ผมตอบพร้อมหันไปอ่านหนังสือต่อ
"คือว่าอย่างงี้ เมื่อวานฉันบังเอิญไปได้ยินมาน่ะ ได้ยินว่า ลูกสาวของโปรดิวเซอร์ชื่อดังกับนักร้องอัจฉริยะ ยามาโมโตะ เมงุมิ กำลังเป็นที่หมายหัวของแกงค์มาเฟียอยู่แกงค์หนึ่งน่ะ แล้วก็เห็นว่าจะมาลักพาตัวไปหรืออะไรเนี่ยแหละ ฉันก็ได้ยินมาค่อยมากเท่าไหร่ ก็ไม่รู้ว่าเป็นความจริงรึป่าว แต่ยังไงก็ขออย่าให้เป็นความจริงเลยเถอะนะ"ซากุระพูดร้อมเดินจากไป
"เดี๋ยวสิ"ยาฮิโระรั้งไว้
"อะไรเหรอ?"
"แกงค์มาเฟียที่ว่าเนี่ย แกงค์ไหนเหรอ?"
"ไม่รู้สิแต่พอฉันได้ยิน ฉันก็รีบไปเค้นคอถามในทันที แต่พวกมันก็ไม่ยอมบอกอะไรเลย ฉันเลยเผลอฟิวส์ขาด กระทืบพวกมันซะเละเลย"ซากุระตอบ
จบการย้อนความ
ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพอฟังเรื่องนี้จากซากุระแล้ว ผมถึงรู้สึกเป็นห่วงเธอนักและพอได้เห็นกลุ่มคนแปลกๆที่ตามเรามาตั้งแต่ต้น ผมก็ยิ่งเป็นห่วงเธอเข้าไปใหญ่
แบบนี้ มันจะเรียกว่า...
"นี่ คิดอะไรอยู่เหรอ?"เสียงของเมงุมิ ทำให้ความคิดของผมต้องยุติลง
"นี่คุณ ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าพูด"ผมหันไปว่าเธอ ผมอูส่าห์เตือนตั้งหลายครั้งแล้วแท้ๆทำไมถึงไม่จำนะ
'ฉันไม่ผิดนะ'
'ก็ฉันเขียนเรียกนายตั้งหลายรอบแล้ว'
'นายไม่ยอมหันมามองนี่นา'เมงุมิเขียนบอกพร้อมทำแก้มป่องๆ ดูๆแล้วก็น่ารักดีนะ ผมเลยตอบแทนความน่ารักนั้น ด้วยการ
เขกกะหัวเธอไปทีนึง
'ฉันเจ็บนะ'
"คุณกล้าเถียงผมเหรอ"
'แล้วฉันไปเถียงนายตอนไหนไม่ทราบ'
ผมแกล้งเอามือทั้งสองข้างปิดหูทำเป็นไม่ได้ยินเสียงของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะเขียนใส่สมุดสเก็ตก็ตาม
"นี่!อย่าปิดหูสิ"นั่นไง เธอเริ่มพูดอีกแล้ว ผมจึงเอามือที่ปิดหูออก
"บอกแล้วไงว่าอย่าพูด"
'ก็ได้'
เมื่อเคลียร์ปัยหาเสร็จ ผมก็บิดขี้เกียจสักรอบ เฮ้อ อยู่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
เปรี้ยง!!!
ผมไม่รู้สึกตัวเลยว่าข้างนอกฟ้าจะมืดแค่ไหน หรือ ว่าข้างนอกฟ้าจะผ่าแรงแค่ไหน เพราะตอนนี้ผมรู้สึกแค่ วงแขนที่ทั้งเล็กและบางที่โอบรัดเอวของผมไว้อย่างแน่น เมื่อผมหันไปมองผมก็พบว่า เมงุมิกำลังกอดผมอยู่
เปรี้ยง!!!!ซ่าส์....(สาบานได้ นั่นเสียงฝน)
เมื่อฟ้าผ่าอีกรอบ เมงุมิก็ยิ่งกอดผมแน่นเข้าไปใหญ่ มันก็ดีใจอยู่หรอกนะแต่...
"เมงุมปล่อยเถอะ"
เมื่อเมงุมิหันมามองเธอก็เริ่มหน้าแดง แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน
"เมงุมิ ผมหายใจไม่ออก"นี่คือเรื่องจริง ถ้านานกว่านี้ ผมคงได้ไปเฝ้ายมบาลชัวเลย
'ขอโทษ'
"ไม่เอาให้ผมตายก่อนเลยล่ะ"
'อยากตายไหมล่ะค่ะ'
"ฮะฮะ ไม่อะ"
"งั้นตายเลยดีกว่าค่ะ"
"เห้ย!อย่านะ"
และเราก็เลยเล่นกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเราลืมเวลาไปเลย
Music Playlist at MixPod.com
___________________________
MA
ความจริงแล้ว ฉันก็อยากจะถามยาฮิโระว่า ทำไมถึงต้องเอาเอกสารพวกนี้มาทำในรถด้วย ถ้ารอให้เรานั่งรถไปถึงที่บริษัทแล้วค่อยทำไม่ดีกว่าเหรอ สะดวกกว่ากันตั้งเยอะ
'นี่'
'ทำไมไม่รอให้ถึงก่อนล่ะ ทำในนี้มันลำบากออก'เมงุมิกระตุกชายเสื้อยาฮิโระ แล้วชูสมุดให้ดู
"ก็....ถ้าทำเสร็จเร็วมันดีกว่าไม่ใช่เหรอ"ยาฮิโระตอบ
'ก็ใช่'
'แต่...'เมงุมิอยากจะพูดห้ามแต่เธอก็คิดว่า ห้ามไปก็คงไม่มีประโยชน์
"ถ้าเสร็จแล้ว..."ยาฮิโระพูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน
'....?'เมงุมิหันไปมองทางต้นเสียงพร้อมทำหน้าที่มีเครื่องหมายคำถามตั้งอยู่บนหัว
"...เราไปเที่ยวกันต่อนะ"ยาฮิโระพูดต่อจากประโยคเดิมและเสมองไปทางอื่น
"ค่ะ"
"ผมบอกคุณว่าอย่าพูดไง"ยาฮิโระหันกลับมาว่าฉัน
"ก็ฉันดีใจนี่ค่ะ"เมงุมิพูดพร้อมยิ้ม
"หยุดพูดได้แล้ว"ยาฮิโระหันกลับไปทำงานต่อพร้อมหน้าที่ขึ้นสี
ณ บ้านตระกูล ไซงะ
'ไหนบอกว่าไปที่บริษัทไง'
"อืม"
'นี่'
"เข้าไปกันเถอะ"ยาฮิโระพูดพร้อมเดินนำไป
ยาฮิโระเดินนำเข้ามาจนถึงห้องทำงานของตน ในห้องทำ
งานตกแต่งแบบเรียบๆ เหมือนห้องคนทำงานธรรมดาทั่วไป เพียงแต่ มันสะอาดกว่าห้องทำงานธรรมดาทั่วไปหลายเท่า
ขอยอมรับตามตรงเลยว่า ห้องห้องนี้ สะอาดกว่าห้องทำงานของเธอกับจุนเยอะ
ไม่เป็นไรเมงุมิ ไม่ต้องเครียด ยังไงก็ต้องให้พวกเมดทำอยู่แล้ว
"เป็นไงบ้างห้องทำงานนี้ ผมทำความสะอาดและเก็บกวาดของต่างๆเองเลยนะ"ยาฮิโระพูดอวด
เหมือนมีสายฟ้าผ่ากลางลำตัวของเมงุมิ นี่เรื่องจริงเหรอ หมอนี่ทำความสะอาดเก่งกว่าเราอีกเหรอ
"นี่คุณ"
"ทำไมทำหน้าอย่างงั้นล่ะ"
'?'
"ก็คุณทำหน้าเหมือนกับว่า ยอมไม่ได้ที่ห้องทำงานผมมันสะอาดกว่าห้องตัวเเอง"ยาอิโระพูด
'นี่ หน้าเราแสดงอกไปแบบนั้นเลยเหรอ'ความคิดในใจเมงุมิ
'ทำไมถึงรู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่ล่ะ'
"หืม?"
'ฉันรู้ค่ะว่าคุณ ไม่มีทางดูสีหน้าของฉันแล้วรู้ได้หรอก'
"ก็เดาเอาอะ"
'ดะ เดาเหรอ'เสียงจากความคิดของเมงุมิ
ในระหว่างนี้ ยาฮิโระก็ไปนั่งที่โต๊ะทำงาน เพื่อที่จะทำงานต่อ ส่วนเมงุมิก็เดินสำรวจห้องไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ยาฮิโระพาเธอมาที่นี่
[Yahiro Style]
ความจริงแล้ว เรื่องงานผมทำเสร็จตั้งแต่อยู่บนรถแล้วและอีกอย่าง ที่ผมแอบบอกให้คนขับรถเปลี่ยนเส้นทางมาที่บ้านเลยก็เพราะ
ตอนที่ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง ผมก็เหลือบไปเห็น กลุ่มคนประหลาดกลุ่มหนึ่งที่แอบตามพวกเราอยู่ ผมเลยคิดถึงในสิ่งที่ซากุระเคยบอกผม
ย้อนความ
"นี่ยาฮิโระ นายได้ข่าวเรื่องเมงุมิจังรึยังอะ"ซากุระถาม
"ข่าวอะไร?ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมนี่"
"แน่ใจเหรอ?แต่ยังไงก็ช่วยฟังหน่อยแล้วกัน"
"ว่ามาสิ"ผมตอบพร้อมหันไปอ่านหนังสือต่อ
"คือว่าอย่างงี้ เมื่อวานฉันบังเอิญไปได้ยินมาน่ะ ได้ยินว่า ลูกสาวของโปรดิวเซอร์ชื่อดังกับนักร้องอัจฉริยะ ยามาโมโตะ เมงุมิ กำลังเป็นที่หมายหัวของแกงค์มาเฟียอยู่แกงค์หนึ่งน่ะ แล้วก็เห็นว่าจะมาลักพาตัวไปหรืออะไรเนี่ยแหละ ฉันก็ได้ยินมาค่อยมากเท่าไหร่ ก็ไม่รู้ว่าเป็นความจริงรึป่าว แต่ยังไงก็ขออย่าให้เป็นความจริงเลยเถอะนะ"ซากุระพูดร้อมเดินจากไป
"เดี๋ยวสิ"ยาฮิโระรั้งไว้
"อะไรเหรอ?"
"แกงค์มาเฟียที่ว่าเนี่ย แกงค์ไหนเหรอ?"
"ไม่รู้สิแต่พอฉันได้ยิน ฉันก็รีบไปเค้นคอถามในทันที แต่พวกมันก็ไม่ยอมบอกอะไรเลย ฉันเลยเผลอฟิวส์ขาด กระทืบพวกมันซะเละเลย"ซากุระตอบ
จบการย้อนความ
ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพอฟังเรื่องนี้จากซากุระแล้ว ผมถึงรู้สึกเป็นห่วงเธอนักและพอได้เห็นกลุ่มคนแปลกๆที่ตามเรามาตั้งแต่ต้น ผมก็ยิ่งเป็นห่วงเธอเข้าไปใหญ่
แบบนี้ มันจะเรียกว่า...
"นี่ คิดอะไรอยู่เหรอ?"เสียงของเมงุมิ ทำให้ความคิดของผมต้องยุติลง
"นี่คุณ ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าพูด"ผมหันไปว่าเธอ ผมอูส่าห์เตือนตั้งหลายครั้งแล้วแท้ๆทำไมถึงไม่จำนะ
'ฉันไม่ผิดนะ'
'ก็ฉันเขียนเรียกนายตั้งหลายรอบแล้ว'
'นายไม่ยอมหันมามองนี่นา'เมงุมิเขียนบอกพร้อมทำแก้มป่องๆ ดูๆแล้วก็น่ารักดีนะ ผมเลยตอบแทนความน่ารักนั้น ด้วยการ
เขกกะหัวเธอไปทีนึง
'ฉันเจ็บนะ'
"คุณกล้าเถียงผมเหรอ"
'แล้วฉันไปเถียงนายตอนไหนไม่ทราบ'
ผมแกล้งเอามือทั้งสองข้างปิดหูทำเป็นไม่ได้ยินเสียงของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะเขียนใส่สมุดสเก็ตก็ตาม
"นี่!อย่าปิดหูสิ"นั่นไง เธอเริ่มพูดอีกแล้ว ผมจึงเอามือที่ปิดหูออก
"บอกแล้วไงว่าอย่าพูด"
'ก็ได้'
เมื่อเคลียร์ปัยหาเสร็จ ผมก็บิดขี้เกียจสักรอบ เฮ้อ อยู่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
เปรี้ยง!!!
ผมไม่รู้สึกตัวเลยว่าข้างนอกฟ้าจะมืดแค่ไหน หรือ ว่าข้างนอกฟ้าจะผ่าแรงแค่ไหน เพราะตอนนี้ผมรู้สึกแค่ วงแขนที่ทั้งเล็กและบางที่โอบรัดเอวของผมไว้อย่างแน่น เมื่อผมหันไปมองผมก็พบว่า เมงุมิกำลังกอดผมอยู่
เปรี้ยง!!!!ซ่าส์....(สาบานได้ นั่นเสียงฝน)
เมื่อฟ้าผ่าอีกรอบ เมงุมิก็ยิ่งกอดผมแน่นเข้าไปใหญ่ มันก็ดีใจอยู่หรอกนะแต่...
"เมงุมปล่อยเถอะ"
เมื่อเมงุมิหันมามองเธอก็เริ่มหน้าแดง แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน
"เมงุมิ ผมหายใจไม่ออก"นี่คือเรื่องจริง ถ้านานกว่านี้ ผมคงได้ไปเฝ้ายมบาลชัวเลย
'ขอโทษ'
"ไม่เอาให้ผมตายก่อนเลยล่ะ"
'อยากตายไหมล่ะค่ะ'
"ฮะฮะ ไม่อะ"
"งั้นตายเลยดีกว่าค่ะ"
"เห้ย!อย่านะ"
และเราก็เลยเล่นกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเราลืมเวลาไปเลย
Music Playlist at MixPod.com
___________________________
MA
Y
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น