ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Kuroko no basket] Part time of Baby

    ลำดับตอนที่ #6 : Quarter 6

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 734
      32
      22 ต.ค. 60


    Quarter 6

     

    หลังจากเวลาผ่านไปสักระยะ รถคันหรูของนิจิมูระก็จอดลงที่ประตูรั้วหน้าคฤหาสน์ ซึ่งไม่ต้องถามก็รู้ว่าเป็นบ้านของเจ้าเด็กน้อยหัวแดงแน่ๆ ลูกเจ้าของบ้านทำหน้าไม่สบอารมณ์เล็กน้อย เนื่องจากเขาต้องถึงบ้านเป็นคนแรก

     

    ก็เขาอยากอยู่กับเท็ตสึยะของเขาให้นานที่สุดอ่ะ...

     

    เด็กๆหัวหลากสีที่อยู่บนรถพากันทยอยลงมาส่งอาคาชิตัวน้อยที่หน้าบ้านกันทุกคน โดยมีสายตาเขม็งและอิจฉา จ้องไปที่ไอเด็กแว่นที่ทำหน้าภาคภูมิใจอยู่

     

    ถามว่าภูมิใจอะไรอยู่น่ะหรอ?

     

    ก็นอกจากจะได้นั่งตักแล้วเด็กแว่นยังถูกอุ้มด้วยน่ะเซ่!!

     

    "ฮื้ออออ คุโรโกจจิ อุ้มเค้าบ้างสิ" เด็กผมเหลืองย่ำเท้าตัวเองไปมา พลางชูมือให้อีกคนอุ้ม

     

    "ไม่ไหวหรอกครับ อุ้ม 2 คนเนี่ย" คุโรโกะพูดเสียงแห้ง ทำไมเขาถึงเริ่มเจ็บคอนิดๆแล้วนะ?

     

    "เห้ยแว่น ลงมาเลย ตาพวกฉันแล้ว" เจ้าเด็กตัวดำเขย่งขึ้นมาแกล้งมิโดริมะด้วยการดึงเสื้อไปมา เด็กน้อยผมม่วงเห็นอย่างนั้นก็ตาวาวเดินเข้าไปร่วมสมทบด้วย

     

    เอาเข้าไป เฮ้อ...

     

    อาคาชิตัวน้อยส่ายหน้าไปมา เขาก็อยากให้คุโรโกะอุ้มบ้าง แต่มันก็จริงอย่างที่คนผมฟ้าพูด ตัวเล็กๆบางๆแบบนั้นจะอุ้มพวกเขาสองคนไหวได้อย่างไร

     

    "เจ้าพวกเด็กแสบขึ้นรถได้แล้ว ฉันยังต้องไปส่งพวกนายแล้วยังมีธุระต่ออีกนะ ขึ้นมาเร็วๆเข้า" เสียงของนิจิมูระดังขึ้นจากในตัวรถ เด็กๆที่กำลังแกล้งมิโดริมะก็หยุดอย่างช่วยไม่ได้ ในตอนนี้ที่นั่งในรถเพียงพอแล้วทำให้เด็กๆนั่งกันได้โดยไม่ต้องมีใครแย่งตักคุโรโกะอีก

     

    "งั้นไปละนะ อาคาชิคุง" ร่างเล็กก้มลงไปให้เสมอกับอีกคนแล้วยิ้มบางๆให้เด็กน้อยอาคาชิ เด็กผมแดงก็ไม่ลืมที่จะยิ้มกลับไปเช่นกัน แต่เมื่อคุโรโกะกำลังจะขึ้นรถนั้น ร่างเล็กโงนเงนไปมาทำท่าเกือบจะล้ม แต่โชคดีที่พ่อบ้านที่ออกมารับอาคาชิน้อยเข้าคฤหาสน์รับไว้ทัน

     

    "เท็ตสึยะ!" อาคาชิพูดอย่างร้อนรนแล้ววิ่งเข้าไปดู เด็กๆที่ขึ้นรถไปก่อนแล้วรีบลงมาคุณครูของพวกเขาทันที จู่ๆมือเล็กของเด็กน้อยผมม่วงก็แปะลงบนหน้าผากของคนผมฟ้า

     

    "เหมือนจะมีไข้..." เสียงของมุราซากิบาระยานคางตามแบบฉบับของเจ้าตัว แต่สายตากลับดูเคร่งเครียด "ให้พาเข้าไปนอนในบ้านอาคาจินก่อน"

     

    หลังจากพ่อบ้านพาคุโรโกะขึ้นไปนอนบนห้องรับแขกแล้ว นิจิมูระรู้สึกเป็นห่วงคุโรโกะแต่ก็ต้องกลับไปก่อน เพราะเป็นธุระที่สำคัญมาก ทำให้เหลือแต่เหล่าเด็กน้อยที่ยืนหน้าเครียดอยู่หน้าห้องรับแขกที่ร่างเล็กนอนอยู่

     

    "ฉันคิดว่าวันนี้พวกนายนอนบ้านฉันเถอะ" เด็กน้อยอาคาชิพูดพลางเปิดประตูแง้มมองคนข้างใน ก็เห็นอีกคนกระสับกระส่ายด้วยความร้อนของไข้

     

    "เห็นด้วยๆ พวกเรามาดูแลคุโรโกจจิกันเถอะฮะ"

     

    "อย่างนายจะช่วยอะไรได้ห้ะ คิเสะ"

     

    "มากกว่านายละกันอาโอมิเมะจิ"

     

    "จะเอาหรอ!!"

     

    "พวกนายหยุด!" คิเสะเกือบจะต่อยหน้าเด็กน้อยผมเขียวที่เข้ามาขวางเขาแล้วแต่ดีที่ยังยั้งไว้ทัน "พวกนายทะเลาะกันแบบนี้ คุโรโกะเซนเซย์ก็ไม่หายไข้หรอกนะ นาโนดาโยะ"

     

    ทั้งสองคนจ้องตากันเขม็ง แต่พอนึกถึงคำพูดของคนผมเขียวก็เริ่มมีที่ท่าอ่อนลง...แต่ดูท่าแล้วคงยังไม่หายโกรธกันแน่ๆ

     

    "อาคาจิน~~..." มุราซากิบาระตัวน้อยเดินเข้ามาคนผมแดง "ให้พ่อบ้านมาเช็ดตัวให้คุโรจินก่อนเถอะน้า~"

     

    อาคาชิฟังอย่างนั้นก็แทบจะตีหัวตัวเอง ทำไมเขาถึงไม่รีบนึกให้เร็วกว่านี้นะ เพราะถ้าไม่รีบเช็ดตัวคงได้ไข้ขึ้นสูงกว่านี้อีกแน่ๆ

     

    เหล่าเด็กน้อยยืนอยู่ห่างๆข้างเตียง เพื่อให้คนรับใช้มาเช็ดตัวให้คุโรโกะอย่างสะดวก ผิวใต้ร่มผ้าของร่างเล็กที่เคยแอบดูตอนอยู่โรงเรียน (เดี๋ยวนะเด็กๆ...) ที่เคยยังขาว แต่ตอนนี้กำลังแดงแจ๋ด้วยพิษไข้

     

    ตอนนี้เหล่าเด็กน้อยหัวสีกำลังยืนสุมหัวกันอยู่ว่าจะทำอย่างไรกันดีเพื่อให้คุโรโกะหายไวๆ เว้นแต่เด็กน้อยผมม่วงที่ยืนมองคุโรโกะตาแป๋วโดยที่เพื่อนๆไม่รู้ว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่

     

    "เห้ยๆ นี่ไม่ใช่เวลามาแอบมองนะ" อาโอมิเนะเดินเข้ามาจิ้มไหล่คนผมม่วง เจ้าตัวอยากจะบอกเหลือเกินว่าเขาไม่ได้แอบมอง แต่มองอยู่ตรงๆต่างหาก แต่ตอนนี้เขาไม่ได้คิดเรื่องแบบนั้นอยู่ มุราซากิบาระหันมาขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาจ้องหน้าอาโอมิเนะ ก่อนจะเลยไปมองอาคาชิที่ยืนอยู่ด้านหลัง

     

    "อาคาจิน...ยืมครัวหน่อยได้ม้า?"

     

    "หืม...เอาสิ ว่าแต่จะทำอะไรล่ะ?"

     

    "ก็ถ้าเช็ดตัวแล้วก็ควรจะกินยา...แต่ก่อนจะกินยามันต้องกินข้าว~~"

     

    "จริงด้วยสิ..." มิโดริมะพูดขึ้นเสียงเบา

     

    ตอนนี้เหล่าเด็กๆยืนอยู่ในห้องครัวท่ามกลางสิ่งของที่สูงกว่าเขาหลายเซนติเมตรเลยทีเดียว มุราซากิบาระแอบนึกฉุน ถ้าเขาทำอาหารตอนร่างผู้ใหญ่ก็คงจะดีกว่าตอนนี้

     

    "ฉันจะทำโจ๊กให้คุโรจินกินเอง...พวกนายแค่ช่วยฉันหยิบของก็พอ โอเค้~~?"

     

    ทุกคนต่างพยักหน้าทันที เพราะแต่ล่ะคนไม่เคยทำอาหารเลย และยิ่งโดยเฉพาะอาโอมิเนะและมิโดริมะเนี่ย...อย่าอยู่ใกล้ครัวเชียว

     

    มุราซากิบาระปีนขึ้นบนเก้าอี้ด้วยความยากลำบาก เจ้าตัวหน้ายุ่งเมื่อยืนบนเก้าอี้ ว่าแล้วก็คิดถึงส่วนสูงของตัวเองจังเลย เฮ้อ...

     

    แต่เพื่อคุโรจิน เขาทำได้!

     

    หลังจากผ่านเวลาไปสักพัก

     

    "ใกล้เสร็จยังฮะ" เด็กน้อยคิเสะพยายามจะเขย่งขึ้นมาดู แต่มองเห็นสูงสุดก็แค่เปลวไฟที่จุดใต้หม้อโจ๊ก...คิเสะเสียใจ T^T

     

    "ใกล้แล้วๆ งืมๆ" เด็กน้อยผมม่วงตักขึ้นมาเล็กน้อยแล้วยกขึ้นชิมก่อนจะพยักหน้าให้ตัวเอง "อาคาจินหยิบถ้วยให้หน่อยสิ~"

     

    "ครับๆ นายน้อย" อาคาชิพูดติดตลกเพราะเหมือนอีกฝ่ายทำตัวเหมือนเจ้าของบ้านมากกว่าเขาเสียอีก "อ่ะนี่ครับท่าน"

     

    "ทำไมพูดแล้วขนลุกแปลกๆวะ บรื๋อ..." อาโอมิเนะลูบแขนตัวเอง

     

    "เดี๋ยวนายได้ขนลุกจริงๆแน่...." อาคาชิตวัดสายตามามองอีกคน แต่อาโอมิเนะไม่ได้กลัวสายตานั้น เขากลัวมีดที่อาคาชิตัวน้อยถือมันอยู่ต่างหาก...

     

    เด็กน้อยผมแดงหัวเราะในลำคอก่อนจะวางมีดไว้ตรงที่ล้างจาน มิโดริมะรีบเดินเข้าไปรับถ้วยโจ๊กจากคนบนเก้าอี้ก่อนจะนำมาตั้งไว้ในถาด คิเสะที่เดินออกไปนอกห้องครัวก็กลับมาพร้อมกับยาแก้ไข้และแก้วน้ำดื่ม

     

    เหล่าเด็กน้อยหัวสีช่วยกันถือถาดแล้วเดินเข้ามาในห้อง คุโรโกะหลังจากที่ถูกเช็ดตัวเสร็จแล้วก็ดูเหมือนอาการจะดีขึ้นเล็กน้อย อาคาชิตัวน้อยเดินเข้าไปหาก่อนจะปีนขึ้นเตียง มือเล็กของคนผมแดงแตะลงข้างแก้มของคุโรโกะแผ่วเบาก่อนจะเรียกให้ตื่น

     

    [Kuroko's part]

     

    ปวดหัวชะมัด...

     

    นี่คือความรู้สึกหลังจากผมได้ยินเสียงทุ้มๆดังขึ้นข้างหูของผม ผมกำลังพยายามลืมตาขึ้นมามองว่าเสียงนั้นเป็นของใครเพราะผมไม่คุ้นเลยสักนิด

     

    "เท็ตสึยะ เท็ตสึยะ...ตื่นก่อน" ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมามองข้างเตียง น้ำตาของผมคลอขึ้นมาเนื่องจากปวดหัวจนผมอยากจะร้องไห้ ภาพรอบตัวของผมยังไม่จับโฟกัสและยังคงเบลออยู่เพราะน้ำตาของผมเอง

     

    ผมพยายามเพ่งมองคนข้างตัว ผมสีแดง...ต้องเป็นอาคาชิคุงแน่ๆ แต่ทำไมตัวของเขาถึงโตขึ้นล่ะ? หรือว่าเขากลับมาเป็นผู้ใหญ่เหมือนเดิมแล้ว!

     

    มืออุ่นของอีกฝ่ายยื่นมาสัมผัสบริเวณดวงตาของผมแล้วปาดน้ำตาของผมออก ทำให้ผมเห็นภาพที่ชัดขึ้น...อาคาชิตัวน้อย

     

    สงสัยเสียงทุ้มๆกับกับภาพเมื่อกี้ สงสัยผมคงจะหูฝาดและตาฝาดไปเองแน่ๆ...

     

    ผมคงจะเพ้อเพราะพิษไข้

     

    "เท็ตสึยะ...โอเคไหม?" เมื่อเห็นผมเงียบไป อาคาชิคุงก็เรียกผมอีกครั้ง ผมพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะไอออกมา เจ็บคอชะมัด

     

    "ขะ ขอน้ำหน่อยครับ" นี่เสียงของผมแหบแห้งน่ากลัวได้ขนาดนี้เลยหรอเนี่ย

     

    "นี่ฮะ" คิเสะคุงที่ยืนคนล่ะฝั่งกับอาคาชิคุงยื่นแก้วน้ำมาให้ผม ผมยิ้มขอบคุณแทนคำพูดก่อนจะยกดื่ม ดีขึ้นมาหน่อย...

     

    "คุโรโกะเซนเซย์ ทานโจ๊กก่อนนะ แล้วค่อยกินยา" เด็กผมเขียวข้างๆอาคาชิคุงพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง แย่จัง...ผมทำให้พวกเขาห่วงซะแล้ว

     

    "ขอบคุณนะครับที่ดูแลผม" ผมส่งยิ้มไปให้ อาโอมิเนะปีนขึ้นมาวางโต๊ะไม้เล็กๆให้ผมก่อนจะตั้งโจ๊กให้ผม "ทานเสร็จก็กินยา แล้วนอนพักเยอะๆนะเท็ตสึ"

     

    ผมพยักหน้าให้เพราะผมไม่ค่อยพูดอยากพูดเท่าไหร่ ผมคนโจ๊กเล็กน้อยพร้อมกับยกขึ้นมาเป่า เหล่าเด็กๆทำหน้าสีหน้าลุ้นจนตัวโก่งโดยเฉพาะมุราซากิบาระคุง ซึ่งถึงแม้เขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่เด็กคนนี้คงจะเป็นคนทำโจ๊กให้ผมกิน

     

    ผมทานเข้าไปทีละนิดพอให้โล่งคอ และผมก็พบว่า...ถ้าผมทานยังตอนร่างกายปกติผมคิดว่ามันคงจะอร่อยมากแน่ๆ

     

    ผมทานไปอมยิ้มไปแทนคำตอบว่ารสชาติเป็นอย่างไร เด็กๆทำหน้าดีใจก่อนจะนั่งเฝ้าข้างเตียงของผม

     

    นี่ผมอยู่ในจุดที่ต้องให้ผู้ใหญ่ในร่างเด็กมาดูแลแล้วหรอครับเนี่ย...

     

    ผมคิดขำในใจพลางทานไปเรื่อยๆจนอิ่ม ผมทานยาและน้ำให้เรียบร้อยก่อนจะวางกลับลงบนถาด

     

    เหล่าเด็กๆพากันช่วยยกถาดไปเก็บและก่อนจะออกไป พวกเขาบอกว่าจะมานอนห้องเดียวกับผม (ห้องนอนแขกมีหลายเตียงน่ะครับ) ผมพยักหน้ารับก่อนจะปล่อยตัวให้ย่อยสักพักก่อนล้มตัวลงบนเตียง

     

    ผมหลับไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงเล็กๆคุยกันตรงกลางห้อง เหมือนจะทะเลาะกันว่าใครจะอาบน้ำก่อน ซึ่งที่ได้ยินคร่าวๆส่วนใหญ่อยากจะเฝ้าผมกันนั่นแหละ ถึงได้เลือกว่าใครอาบน้ำก่อนหลัง

     

    แล้วเสียงเล็กๆนั้นก็เบาไป ผมได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำ ผมคิดว่าคงจะตกลงกันได้แล้วนั่นล่ะ

     

    ไฟตรงหัวเตียงของแต่ล่ะคนค่อยๆดับไปทีล่ะดวงจนดับลงทั้งหมด พร้อมกับผมที่เริ่มจะเคลิ้มหลับเพราะฤทธิ์ยา ในระหว่างนั้นผมได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำและปิดอย่างแผ่วเบา ก่อนจะมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้เตียงของผม

     

    กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ ทำให้ผมลืมตาขึ้นมามองอย่างสะลึมสะลือว่าเป็นใคร เขาก้มตัวลงมาก่อนจะมีอะไรเย็นๆนิ่มๆสัมผัสบนหน้าผากของผม

     

    "ฉันทำให้เท็ตสึยะตื่นหรอ..." เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหูของผม "ขอโทษนะ"

     

    ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ ดวงตาของผมที่เริ่มจะชินกับความมืดหรี่ตามองอีกคน "อาคาชิคุงหรอครับ ทำไมถึง..."

     

    "ชู่....นอนเถอะนะเท็ตสึยะ ไว้คุยกัน" คนผมแดงทิ้งตัวลงนอนข้างๆผมแล้วสอดตัวเข้ามาใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน มือหนาของอีกฝ่ายดึงผ้าห่มจนถึงคอของผม ก่อนจะมีสัมผัสๆเย็นแตะลงบนหน้าผากของผมอีกครั้ง "นอนสิ หรือจะให้ฉันกล่อมล่ะ หืม?"

     

    เสียงทุ้มข้างหูผมหยอกล้อเล็กน้อยจนอดไม่ได้ตีลงบนหน้าอกอีกฝ่าย...แต่ดูเหมือนแรงของผมจะหายไปเพราะไข้แน่ๆ

     

    อาคาชิคุงหัวเราะเล็กน้อย มือหนากอดที่เอวของผมหลวมๆ ก่อนจะเอ่ยคำที่ดูปกติทั่วไป...แต่กลับทำให้ผมใจเต้นได้

     

    [End Kuroko's part]

     

    [Akashi's part]

     

    ย้อนกลับมาระหว่างที่อาคาชิตัวน้อยกำลังอาบน้ำ...

     

    ผมแทบอยากจะเอากรรไกรแทงรายคน เพราะอะไรน่ะหรอ? เพราะผมได้เป็นคนอาบน้ำคนสุดท้ายน่ะสิ ด้วยเหตุผลบ้าๆว่า 'เจ้าของบ้านต้องให้แขกอาบก่อนสิเฟ้ย' มันใช่เรื่องไหม!!

     

    ผมส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจขณะที่สระผมของตัวเอง ผมก้มหัวตัวเองพร้อมกับหลับตาปล่อยให้สายน้ำจากฝักบัวชะล้างแชมพูบนหัวของผม หลังจากคิดว่าสะอาดแล้วผมก็ลืมตาขึ้นมามองกระจกที่ติดอยู่กับอ่างล้างหน้าและนั่นทำให้ผมตะลึง

     

    ทำไมหล่อจัง...

     

    เห้ย! ไม่ใช่ครับ อย่าเพิ่งมองหน้าผมแบบนั้น (55555555555//ไรท์เตอร์)

     

    ผมกลับมาเป็นผู้ใหญ่...

     

    ร่างกายของผมกลับมากำยำอีกครั้ง มือและเท้า แล้วก็ตรงนั้น....อื้ม ใหญ่ขึ้นครับ ตอนนี้ผมกลับมาในร่างผู้ใหญ่ที่กำลังเรียนมหาลัยในปัจจุบันแล้ว

     

    โชคดีที่ในห้องน้ำมีชุดของผมยังเก็บไว้ในตู้เลยไม่ต้องเสียเวลาเดินไปหยิบข้างนอก ผมหยิบขึ้นมาใส่ด้วยความคิดถึง เพราะนี่ก็เกือบเดือนแล้วที่ผมอยู่ในร่างเด็ก

     

    ผมเดินเปิดประตูออกไป ก็พบว่าเพื่อนของผมที่นอนอยู่ยังคงเป็นร่างเด็ก นั่นหมายความว่า...ผมอาจจะกลับไปเป็นร่างเด็กอีกครั้งก็ได้

     

    และผมยังคงนึกสงสัยจนถึงตอนนี้...ทำไมพวกผมถึงกลายเป็นเด็ก

     

    แต่คิดไปก็คงหาคำตอบไม่ได้...

     

    ผมส่ายหัวกับตัวเองก่อนจะเดินเข้าไปดูอาการของตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงสีฟ้าอ่อนเหมือนสีผมของเขา ใบหน้าขาวยามหลับถึงแม้ว่าจะมีไข้ แต่ก็ไม่ได้บดบังความน่ารักของเจ้าตัวเลย

     

    ยิ่งอยู่ใกล้ ผมรู้สึกเหมือนยิ่งถูกดึงดูด

     

    ไม่ใช่แค่กับผมที่คิดคนเดียว ผมคิดว่าคนอื่นๆก็คงจะคิดเหมือนกัน

     

    ผมก้มลงแตะหน้าผากเขาเบาๆ อีกฝ่ายขยับตัวเล็กน้อย

     

    "ฉันทำให้เท็ตสึยะตื่นหรอ..." ผมพูดขึ้นข้างหูขาวที่ตอนนี้แดงเพราะพิษไข้ "ขอโทษนะ"

     

    อีกคนเหมือนจะนิ่งไปสักพัก แล้วส่ายหัวไปมาก่อนจะเอ่ยเสียงแหบแห้ง "อาคาชิคุงหรอครับ ทำไมถึง..."

     

    ผมคิดว่าเขาคงสงสัยว่าทำไมผมอยู่ในร่างผู้ใหญ่ ซึ่งผมก็ไม่สามารถให้คำตอบเขาได้เหมือนกัน "ชู่....นอนเถอะนะเท็ตสึยะ ไว้คุยกัน"

     

    ผมยิ้มให้เขาในความมืดก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆเท็ตสึยะ ผมสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนหนา ก่อนจะจัดแจงผ้าห่มให้ร่างเล็กถึงคอ ผมก้มลงไปจูบหน้าผากของเขาอีกครั้งก่อนจะผละออก ดวงตากลมสีฟ้าภายใต้ความมืดจ้องมาที่ผมตาแป๋ว ทำให้ผมอดที่จะแอบยิ้มไม่ได้ "นอนสิ หรือจะให้ฉันกล่อมล่ะ หืม?"

     

    ผมพูดหยอกเจ้าตัวเล็กน้อย ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเขิน...ล่ะมั้ง มือเล็กทำร้ายผมทันที แต่แน่นอนว่าไม่สะเทือนผมด้วยแรงแค่นี้หรอกนะ

     

    ผมหัวเราะ ก่อนจะโอบเอวอีกคนไว้ในอ้อมแขนไว้อย่างหลวมๆ



    "ฝันดีครับ..ที่รักของผม"

     

    เหมือนเจ้าตัวจะนิ่งและเงียบไป อีกฝ่ายไม่ตอบแต่กลับเขยิบเข้ามาซุกอกของผม และตอนนี้ผมก็อดที่จะยิ้มไม่ได้อีกครั้ง...

     

    อาคาชิลูบผมนิ่มอย่างเบามือ ก่อนที่ทั้งสองจะเข้าสู่ช่วงนิทราไปในพร้อมกัน...

     

    [End Akashi's part]


     --------------------------------------------------------------------------------------------------------------

              ฮันแน่--- ไหนมีใครยังรอเรื่องนี้บ้างไหมคะ รู้สึกผิดมากเลยอ่ะ เรื่องนี้ดองไว้ 2 ปีแล้วหรือเนี่ยยยยย555555555 ต้องขอโทษจริงๆด้วยนะคะ

              ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรมากหรอกค่ะก็แค่...//ปัดมดในเรื่องออก หวานนำหน้าเพื่อนจริงๆเชี้ยววววววววววว ไรท์เริ่มจะอิจฉาน้องครกละ55555555

              อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกยังไงก็เม้นให้บ้างนะคะ เพราะคอมเม้นจากนักอ่านคือกำลังใจสำหรับไรท์ค่ะ :)

    (ไรท์ว่าจะนำเรื่องในฟิคสั้นมาแต่งเรื่องยาวค่ะ : My dear,My vampire ซาดิสถึงใจแน่นอนอิๆ อย่าลืมติดตามกันน้า)

     

    สำหรับเพจไว้พูดคุยและติดตามข่าวสาร : NanohaSeiko

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×