ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รูปการ์ตูน&เพลง

    ลำดับตอนที่ #2 : ลองท้อง เทียบการ์ตูนยอดนิยมใน Boom กับ C-Kids

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 53


    ดีจ้า^O^ เราลงตอนนี้เเบบลองท้องกันก่อนน้า เลยมาลงเเบบ ซุ่ม4ซุ่ม5ไม่เกี่ยวกะรูปเรื่องต่างๆ เเค่เอามาบอกเฉยๆจ้า^O^

    Click the image to open in full size.

    1.ศึกดวลการ์ตูนฮิตอันดับ 1 ของแต่ละเล่ม One Piece กับ นารุโตะ
    ผลโหวต:

    One Piece 146
    Naruto 81

    ทั้งการ์ตูนโจรสลัด กับ การ์ตูนนินจา ต่างฝ่ายต่างก็เป็นการ์ตูนอันดับ 1ของแต่ละนิตยสาร และเป็นคู่แข่งในการแก่งแย่งความนิยมอันดับ 1ในนิตยสารจัมป์ด้วย จุดเด่นทั้งสองเรื่องนี้คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณมากเพ ราะเต็มเปี่ยมไปด้วยฉากต่อสู้สุดมันส์,ฉากเรียกพลังม ิตรภาพจนขนลุกซู่สุดแสนประทับใจ ,ฉากดราม่าอันแสนสุดซึ้งที่สำคัญทั้งสองเรื่องนี้ได้ แรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนต่อสู้รุ่นพี่อย่างดราก้อนบอ ล อีกด้วย .....หากจะถามว่าเรื่องไหนดีกว่านั้นบอกตรงๆว่าตัดสิ นใจได้ยากเหลือเกิน เพราะมีจุดเด่นจุดด้อยไม่ต่างกันนักแถมแฟนๆสองเรื่อง ก็มีอยู่เยอะ เกรงว่าหากฟันธงฉับๆเลยจะโดนแฟนคลับดักตีหัวคนเขียนแ ถวหน้าบ้าน (ฮา) แต่พอมาดูผลโหวตแล้วปรากฏว่า มีคนเทใจให้วันพีซมากกว่านารุโตะ จนแทบจะขาดลอยเลยล่ะเป็นไปได้ว่า สิ่งหนึ่งที่วันพีซเด่นกว่านารุโตะ ก็คือความใส่ใจในรายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งวันพีซดูจะเน้นมากกว่าทั้งจินตนาการในการจำลองโล กของวันพีซ ซึ่งเป็นโลกของโจรสลัดที่ให้ความสำคัญด้านการดำเนินช ีวิต,สังคม,เทคโนโลยีหรือจะเป็นกลุ่มตัวละครต่างๆรวม ถึงการวางพล็อตเรื่องด้วยการปูตัวละครตัวหนึ่งขึ้นมา ก่อนจะมีการเฉลยจริงในภายหลัง (สังเกตว่าบางตอนจะตัวละครตัวหนึ่งพูดชื่อตัวละครลึก ลับลอยๆขึ้นมาทำให้เป็นจุดสนใจและอยากติดตามอย่างกระ ชั้นชิด)อีกทั้งขนาดตัวละครบางตัวที่เหมือนจะหมดบทบา ทไป แต่ก็ยังไม่หมดไปซะทีเดียวเพราะผู้เขียนคอยเฉลยเรื่อ งราวของพวกเขา ณ หน้าเปิดของแต่ละตอนถือว่าน่าทึ่งเสียจริง สำหรับผู้แต่งเรื่องนี้ ที่พยายามควบคุมการ์ตูนscope กว้างเรื่องนี้ ให้เป็นไปแนวทางเดียวกัน ไม่สะเปะสะปะไปมากกว่านี้ขนาดเนื้อเรื่อง ความสัมพันธ์ตัวละครที่ดูจะไม่ข้องเกี่ยวกันก็ยังสาม รถเอามาเชื่องโยงกันได้อย่างเนียน ให้อึ้งกันไปข้างในขณะที่นารุโตะ ก็ไปแนวทางเดียวเหมือนกัน เพียงแต่มีบางช่วงที่วนลูปบ้างอาจเดินเรื่องช้ากว่าท ี่คนอ่านต้องการ (โดยเฉพาะนายโตะพอเก่งสู้เขาไม่ได้ทีไร ต้องกลับไปฝึกๆๆๆ วนอยู่อย่างนี้ช่วงหนึ่ง)

    อีก ทั้งจุดเด่นอีกอย่างที่วันพีซเด่นกว่านารุโตะ อย่างชัดเจน ก็คือวันพีซขยันหยอดมุขตลกมากกว่านารุโตะ แถมมุขตลกแต่ละมุขในวันพีซมันช่างสติแตก พาต๊อง เสียจริง พอใส่เข้าไปในเนื้อเรื่องแล้วทำให้วันพีซมีโทนเรื่อง ที่ไม่เครียดมากนัก อ่านแล้วอารมณ์ไม่สะดุด ไหลลื่นเพลิดเพลินไปเรื่อยๆ

    นอกจากนี้ หากพูดในแง่ตัวละคร วันพีซดูจะเน้นมากกว่า เพราะนอกจากตัวละครจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้วผู้แต่ง พยายามจะให้ตัวละครหลักมีบทเด่นๆสม่ำเสมอ ไม่ให้ไร้บทนานจนเกิดไปผิดกับนารุโตะ ที่ช่วงหนึ่งปล่อยให้นารุโตะไร้บทบาท ซาสึเกะมีบทเด่นแทนแม้ว่าแฟนคลับซาสึเกะจะเฮ แต่แฟนคลับโตะไม่ปลื้มจนถูกแฟนๆบางส่วนค่อนแคะให้เปล ี่ยนชื่อเป็นนินจาซาสึเกะ ซะงั้นอย่างไรก็ดี ใช่ว่า นารุโตะ จะหายไปเฉยๆแต่ที่หายไปเพราะไปฝึกวิชานั่นเอง(แม้ว่า กว่าจะฝึกให้เก่งได้นั้นมันช่างช้าเหลือเกิน) ผิดกับวันพีซที่ไม่ค่อยเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับการฝึ กฝนการต่อสู้ของตัวละครหลักแต่ละคนซักเท่าไหร่

    โดยรวมวันพีซจะเด่นกว่าก็จริง แต่นินจานารุโตะไม่ต้องน้อยใจ เพราะอย่างน้อย เพราะธีมนินจาของเรื่องนี้ซึ่งเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรั บชาวต่างชาติมากกว่าแถมชาวต่างชาติให้ความสนใจมากเสี ยด้วย จึงทำให้ นารุโตะได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก มากกว่า วันพีซ เสียอีก


    Ryu " ทั้งสองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สนุกที่สุดเท่าที่ผมเค ยอ่านเลยครับ เเละ วันพีซก็นำอยุ่เเล้วในใจผม
    ด้วยความฮาบวก เนื้อเรื่องที่เข้มข้น เเละก็ดูเเลตัวละครดีครับไม่ทิ้งหายไปเฉยๆ

    Click the image to open in full size.

    2.ศึกดวลการ์ตูนมือวางอันดับรอง ของแต่ละเล่ม (แถมถูกค่อนขอดในแง่ลบมากพอๆกันในช่วงนี้)

    ผลโหวต:
    Reborn 94
    Bleach 103

    ศึการ์ตูนความนิยมลำดับรองจาก 2 นิตยสาร โดยทางฝั่งลาดพร้าวส่งเหล่าแก๊งมาเฟียรูปหล่อเท่ห์เก ่งเทพเข้าประกวดส่วนทางฝั่งบางนาส่งเหล่ายมทูตชุดดำท ี่เก๊กหน้ามันทั้งวันทั้งคืนมาประชันกันทั้งสองเรื่อ งต่างมีจุดเด่นตรงฉากการต่อสู้สุดมันส์เว่อร์อลังการ ,ตัวละครหนุ่มเท่ห์เอาใจสาวๆเหมือนกัน ,พลังมิตรภาพในยามคับขัน มุขตลกพอฮารวมถึง ตัวเอกสองเรื่องยังต้องลุ้นว่า ตกลงจะได้ใครเป็นนางเอก!! (ฮา)อย่างไรก็ตาม ทั้งสองเรื่องต่างก็โดนคนอ่านสับแหลกในช่วงหลังๆพอคว ร คือรีบอร์น โดนสับในแง่ของเนื้อเรื่องที่นับวันชักทะลุโลกไปเรื่ อยจากแรกเริ่มเดิมทีเป็นการ์ตูนตลกฮาต๊องแกมฝืดนิดๆจ ู่ๆกลายเป็นแนวบู๊ต่อสู้(ข้ามเวลา)ไปซะงั้นส่วนบลีชก ็โดนจวกในแง่ของการดำเนินเรื่องอันยืดยาดในช่วงหลังๆ มัวแต่ไปเสียเวลา กับการต่อสู้กับตัวละครบางตัวที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไร เลย(โดยเฉพาะพวกฟราเซี่ยนตัวประกอบทั้งหลายแหล่?)อีก ทั้งพล็อตเรื่องบางจุดค่อนข้างเฝือโดยเฉพาะพล็อตทำนอ ง"เจ้าชายช่วยเจ้าหญิง" ดูๆไปนึกถึงเซนต์เซย่ายังไงยังงั้นเลย (พวกอิจิโกะ = บรอนซ์เซนต์,ยมทูต 13หน่วยพิทักษ์ = โกลด์เซนต์, อารันคาร์ = มารีนเนอร์ของโปเซดอน ,ลูเคีย /โอริฮิเมะ = อาเธน่า)

    แต่ก็เอาเถอะ หากดูจากผลโหวตแล้วสองเรื่องนี้มีคะแนนคู่คี่สูสีไม่ ห่างกันมากนักแต่เป็นบลีชที่ได้คะแนนมากกว่านิดหน่อย ซึ่งหากจะพูดโดยรวมแล้วบลีชจะดีกว่าตรงที่ขอบเขตของเ รื่องยังไม่หลุดไปไกลมากเท่ารีบอร์น คืออย่างน้อยเป้าหมายของบลีชยังแน่นอนตรงที่พวกยมทูต ต้องกำราบเหล่าร้ายเพื่อให้โลก และ โซลโซไซตี้ สงบสุขผิดกับรีบอร์นที่ผู้แต่งจู่ๆเปลี่ยนพล็อตเรื่อ งโดยเน้นขายความเท่ห์ของบรรดาตัวละครชายเป็นหลัก พร้อมทั้งแต่งเติมเสริมนู่นนี่ใส่เนื้อเรื่องไปเรื่อ ยๆ กลับกลายเป็นว่าเนื้อเรื่องของรีบอร์นเริ่มจะออกอากา รมั่วขึ้นเรื่อยๆ!!ทำเอางานของสึนะยังไม่จบ จากที่น่าจะจบตรงที่ สึนะ ได้พิสูจน์ตัวเองกลายเป็นหัวหน้าวองโกเล่ที่มีแต่คนย อมรับ หลังจบศึกชิงแหวนแต่กลับกลายเป็นว่า ทุกคนดันหลุดไปโลกอนาคตเฉย แถมสึนะนอกจากจะปกป้องพวกพ้อง พาทุกคนกลับโลกปัจจุบันให้ได้แล้ว ยังจะต้องโค่นเบียกคุรัน เพื่อช่วยโลกให้ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม บางคนก็แย้งว่ารีบอร์นไม่ได้ออกทะเล ออกนอกจักรวาล ซักหน่อย อย่าลืมนะว่า รีบอร์นเน้นธีมมาเฟียเป็นหลัก ฉะนั้นย่อมมีฉากการต่อสู้อยู่แล้ว และอีกอย่างหนึ่งแค่เห็นพวก อัลโกบาเลโน่ ที่ตัวหดเป็นเด็กเนี่ยยังไงมันต้องเว่อร์อยู่แล้วเช่ นกัน (แต่ถึงขนาดแปรสภาพใกล้เคียงกับดราก้อนบอล,โปเกม่อน, ดิจิม่อน แล้วเนี่ย มันไม่เกินไปหน่อยรึ)อีกอย่างหนึ่ง เรื่องนี้ยังมีปริศนาของอัลโกบาเลโน่แอบแฝงอยู่จึงไม ่แปลกใจที่เรื่องนี้จะต้องมีภาคอนาคตรวมอยู่ด้วย

    .....แม้ว่าจะมีคนคอยบ่นเนื้อเรื่องของรีบอร์นที่ทะล ุโลกไปไกลแต่อย่างน้อยก็กลายเป็นตัวช่วยเรียกเรตติ้ง ของผู้อ่านมากขึ้นกว่าช่วงแรกๆเสียอีก อีกทั้งคนที่ติดตามมาตั้งแต่ตอนแรกๆยังคงสนับสนุนติด ตามเรื่องนี้กันต่อไปด้วย.......อย่างไรก็ตามหากจะว่ ากันตามตรงแล้ว รีบอร์นก็มีข้อดีบางจุดที่อาจดูดีกว่าบลีชตรงที่ฉากก ารต่อสู้ในรีบอร์น ค่อนข้างจะกระชับกว่า บลีชทำให้อ่านแล้วไม่รู้สึกเบื่อแต่อย่างใด ผิดกับบลีชที่มีตัวละครเยอะมากจนมึน ทำให้เวลาต่อสู้ในช่วงหลังๆต้องใช้เวลายาวนานมากขึ้น ตามไปด้วย (แถมหลังๆผู้แต่งเริ่มงัด Skillหน้าคู่ ถมดำ/ขาว ทั้งหน้า เลียนแบบนารุโตะช่วงนึงไปซะแล้ว) และรายละเอียดที่แฝงในเนื้อเรื่องทั้งสองเรื่องนั้นร ีบอร์นเล่าไม่ค่อยขัดกันเท่าไหร่ ผิดกับบลีชที่รายละเอียดบางอย่างกลับอธิบายขัดกันซะเ อง เป็นต้น

    อย่างไรก็ตาม บลีช ใส่ใจคาแร็คเตอร์ตัวละครหญิงมากกว่า (ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร เพราะคนแต่งรีบอร์นเป็นผู้หญิง ต้องเน้นหนุ่มๆมากกว่าอยู่แล้ว) ที่สำคัญสาวๆในบลีช "ตู้ม" กว่าครับ 55555


    Ryu " ทั้งสองเรื่องนี้หลังๆเริ่มออกทะเลเเล้วหละครับ เเต่เราว่ารีบอร์น ฮาดีนะครับ
    ไอ้บลีชนี้มันพล้อตน่าเบื่ออะครับ อิจิโกะ ไปเจอตัวร้ายเก่งๆเวอร์ อิจิโกะ ฝึกวิชา อิจิโกะชนะ เเถมการต่อสู้ยังเเสนที่จะยืดยาว
    น่าเบื่อ พล้อตเรื่องเมหือนไม่ค่อยมีการวางเเผนครับ



    Click the image to open in full size.
    3.ศึกดวลการ์ตูนมือวางอันดับสามของแต่ละเล่ม (แถมเป็นการ์ตูนจอมอู้เหมือนๆกัน)

    ผลโหวต:
    Hunter X Hunter 89 [NekoMajinsay :: ของตาย ฮันเตอร์ของชั้นขนะขาด แต่เอ้ะ ทำมัยต้องว่ากระตูนจอมอู้บ้าเร้อะ แค่ลืมเรื่องยี้ไปแล้วด้วยแหละถ้าไม่มีคนพูด ๕๕๕]
    D.Grayman 88

    เหล่าฮันเตอร์ กับ สมาชิกเอ็กซ์โซซิสที่ถือว่าได้รับความนิยมจากคนอ่านบ ้านเราเป็นอันดับ 3 จากแต่เล่มเหมือนกันและที่สำคัญ ทั้งสองเรื่องนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นการ์ตูนจอมอู้เหมือน กัน ยิ่งHxH ไม่ต้องพูดถึง หยุดป่วยเป็นเนืองนิจยาวเป็นปีๆ ส่วน D.Grayก็กำลังจะตามไป โทษฐานผู้เขียนสุขภาพไม่ค่อยดีเหมือนกันส่วนผลโหวตจา กการดวลคู่นี้นั้น ออกมาสูสีดุเดือดกว่าคู่อื่นๆและเป็นเหล่านักล่าพลัง เน็นที่เฉือนชนะบรรดานักปราบอาคุม่าอย่างหวุดหวิดเสี ยจริง แสดงว่าเรื่องนี้มีคนชื่นชอบพอๆกัน แต่ยังไง 2เรื่องนี้ย่อมมีองค์ประกอบบางส่วนที่แตกต่างกัน โดยในแง่ลายเส้นนั้น HxHที่มีลายเส้น(เขี่ย)เป็นเอกลักษณ์นั้น เป็นรอง D.Gray อย่างชัดเจนถึงแม้ว่าลายเส้นของ D.Gray ในช่วงหลัง ไม่ค่อยเสถียร เดี๋ยวสวยมั่งไม่สวยมั่ง เอาแน่เอานอนไม่ได้ก็ตาม แต่อย่างน้อย HxH มีทีเด็ดตรงที่เนื้อเรื่องยังคงเสริมไอเดียไม้เด็ดอย ่างน่าทึ่งสามารถรักษาพล็อตเรื่องอันสุดมันส์ น่าติดตาม น่าค้นหา เอาไว้ได้เช่นเคยขณะที่เนื้อเรื่องของ D.Gray ช่วงหลัง ความมันส์กลับลดหายลงไป ไม่มันส์แถมยิ่งอ่านยิ่งมึนงง มากกว่าช่วงแรกๆต้องพยายามจับต้นชนปลายกันพอควร..... ..แต่ก็เอาเถอะสิ่งที่คนอ่านสองเรื่องนี้ปรารถนามากท ี่สุดคงอยากให้สองเรื่องนี้กลับมาลงตีพิมพ์อย่างต่อเ นื่อง อย่าหยุดหายทิ้งช่วงไปนานกว่านี้เลย................ .



    Ryu "อู้ทั้งคู่เลย ๕๕๕ เอาเหอะ ฮันเตอร์สนุกก่าดีเกรย์อยู่ละ อะโถ่ ฮันเตอร์สนุกถึงจะลายเส้นห่วยก็เถอะคร้าบ"


    Click the image to open in full size.

    4.ศึกดวลการ์ตูนสุดฮา จากทั้งสองเล่ม

    ผลโหวต:
    Gintama 120
    Sket Dance 44

    มาถึงการ์ตูนตลกขำขันระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องที่มี องค์ประกอบอะไรโดยรวมคล้ายกันมากๆ (ที่ต้องเรียกรุ่นพี่ รุ่นน้องเพราะ อ.ชิโนฮาระ ผู้แต่ง Sket Dance เคยเป็นลูกมือของ อ.โซราจิผู้แต่งกินทามะมาก่อน )โดยรุ่นพี่อยู่ฝั่งซีคิดส์ ส่วนรุ่นน้องอยู่ฝั่งบูม

    ส่วนผลการดวลนะเหรอ......กินทามะเป็นฝ่ายชนะอย่างขาด ลอยตามคาด!!!หากจะพูดกันโดยรวมการ์ตูนยุคพีเรียดสมัย เอโดะในสไตล์โมเดิร์นเรื่องนี้เหนือกว่าการ์ตูนเฮฮาช ีวิตวัยเรียนอยู่หลายขุม โดยเฉพาะในเรื่องมุขตลก ที่กินทามะสามารถหยิบเอาเรื่องราวรอบๆตัว ทั้งเรื่องราวประวัติศาสตร์,เรื่องฮิตในสังคม หรือจะเป็นการ์ตูนหรือเกมอื่นๆมายำเสียดสีรวมกันกลาย เป็นความฮาก๊ากอีกทั้งยังได้บรรดาตัวละครอันสุดแสนจะ รั่ว บ้าบอคอแตก บ๊องๆบวมๆสุดขั้วคอยยกทีมปล่อยมุข ชงมุข ไป-มาเรื่อยๆจนทำให้คนอ่านฮาก๊ากยิ่งกว่าเดิมเป็นทวีคูณ !!!!........ส่วนฝั่ง สเก็ตดันนั้น ก็มีตัวละครที่ไม่ปกติเหมือนกัน เพียงแต่ยังบ้าได้ไม่เต็มที่เลยรู้สึกขำแบบครึ่งๆกลา งๆ ไม่สุดขั้วเท่ากับพวกคุณกิน(ที่โชคร้ายไปกว่านั้น คนอ่านบ้านเราส่วนใหญ่ดันไม่ค่อยเก็ตภาษาเหนือของฮิเ มโกะเอาซะเลย จึงเกิดกระแสไม่ปลื้มเอามากมายผิดกับคำพูดสำเนียงออก จีนๆของอาหมวยคางุระ ที่คนอ่านบ้านเราอ่านเข้าใจได้มากกว่า) และสิ่งหนึ่งที่ทำให้อ่านกินทามะได้ฮาซะขนาดนี้ต้องย กเครดิตให้กับผู้แปลฉบับภาษาไทย ที่ช่างสรรหาสำบัดสำนวน คำพูดให้คนอ่านบ้านเราได้ขำยิ่งกว่าเดิม........ฉะนั ้น ตามที่กล่าวมาข้างต้นกว่าที่สเก็ตดันจะยิงมุขฮาก๊ากเ ทียบเท่าระดับกินทามะนั้นคงต้องใช้เวลากันซักหน่อย.. ..แต่อย่างน้อยสเก็ตดันก็ไม่เล่นมุขเบื้องล่างเหมือน กับกินทามะ(ที่นับวันจะเล่นมุขนี้มากขึ้น)จึงทำให้มุ ขตลกเรื่องนี้ค่อนข้างใสเข้ากับภาพพจน์การ์ตูนในชุดเ ครื่องแบบนักเรียนหน่อย

    แม้ว่าเฉลี่ยโดยรวม กินทามะ เหนือกว่า สเก็ตดันอยู่เยอะแต่ในแง่ของลายเส้นนั้น สเก็ตดันกลับสวยกว่ากินทามะอย่างเห็นได้ชัด(จนบางคนต ้องเอ่ยปากว่า ลายเส้นแบบสเก็ตดันนั้นมันช่างไม่เหมาะกับการ์ตูนแนว ฮาๆสไตล์นี้เอาเลย) ถึงกระนั้นทั้งสองเรื่องนี้นอกจากจะเด่นตรงเรียกเสีย งหัวเราะแล้วพวกเขายังมีจุดเด่นตรงที่ การนำเสนอเนื้อเรื่องได้หลากหลายแนว หลากอารมณ์โดยเฉพาะ อารมณ์ซึ้งดราม่า แฝงแนวคิด ก็ทำได้เจ๋งทั้งคู่ แต่ต่างกันตรงที่สเก็ตดันจะมีการเล่าเรื่องที่ค่อนข้ างจะหักมุมกันสุดๆ โดยเฉพาะฉากย้อนอดีตตัวหลักทั้งสามคนนี้ ซึ่งอดีตของสวิตช์ที่ค่อนข้างสะเทือนใจเอามากๆ ทำเอาบางคนน้ำตาตกกันมาแล้ว..................





    Click the image to open in full size.




    5.ศึกระหว่างการ์ตูนกีฬา ของแต่ละเล่ม (หรือเรียกว่า ศึกดวลการ์ตูนกีฬารุ่นใหม่ vs รุ่นเก่ากึ้ก)

    ผลโหวต:
    Eyeshield21 126
    Captain Tsubasa Golden 23

    สุดท้ายมาถึงศึกดวลการ์ตูนกีฬาที่จะขาดเสียไม่ได้ในน ิตยสารแต่ละเล่มซึ่งผลการโหวตนั้น เป็นกีฬาคนชนคนจากฝั่งบูม สามารถทำแต้มเอาชนะการ์ตูนฟุตบอลอมตะเหนือโลกจากซีคิ ดส์ ชนิดที่คะแนนออกมาท่วมท้นเลยทีเดียวโดย ES21 มีจุดขายตรงที่ความแปลกใหม่ที่ผู้แต่งกล้าที่จะนำกีฬ าที่นิยมเฉพาะคนอเมริกันอย่าง อเมริกันฟุตบอลมาแต่ง แล้วก็ทำได้ดีเสียด้วยในแง่ของแอ็คชั่นการแข่งขัน และการดำเนินเรื่อง (แม้จะพลาดท่าตรงช่วงเนื้อเรื่องภาคยุวชนโลกก็ตาม)รว มถึงคาแร็คเตอร์ตัวละครในเรื่องนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะต ัวสุดๆมีทั้งตัวละครเท่ห์ รั่ว ฮา โดนใจ จึงทำให้บรรดาคอการ์ตูนต่างเทใจให้ ES21มากกว่า ...ผิดกับ กัปตันซึบาสะ ถึงแม้จะเพิ่มภาคขายกลุ่มแฟนรุ่นเก่าไปเรื่อยๆ รวมถึง ตัวละครเติบโตขึ้นแต่พัฒนาการด้านพล็อตเรื่อง หรือ ตัวละครนั้น กลับคงที่ ไม่ไปไหนเลยขายความเว่อร์อย่างเดียว อีกทั้ง สัดส่วนตัวละครเพี้ยนไปเรื่อยๆนับวันพวกซึบาสะกลายเป ็นคนตัวโต หัวเล็ก ไปซะแล้ว....แต่ก็เอาเถอะอย่างน้อย ซึบาสะ ก็จัดเป็นการ์ตูนกีฬาฟุตบอลสุดคลาสสิคและเป็นต้นแบบใ ห้กับการ์ตูนกีฬาฟุตบอลเรื่องอื่นๆ ในปัจจุบันนี้...........

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×