ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF One Shot : WonKyu

    ลำดับตอนที่ #1 : แรกพบ - Won x ??? (100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 412
      2
      4 ก.พ. 57

    บางครั้ง...
     
    กับบางคน...
     
    แค่การพบกันครั้งแรก
     
    ก็มากพอที่จะทำให้รักไปตลอดชีวิต

     


     

    แรกพบ : Won x ???

     

     

              “นี่...เมื่อกี๊เดินตามหลังผู้ชายผู้ชายคนนึงเข้ามา หน้าตาดี แล้วก็ดูดีมากเลยอ่ะ เห็นแล้วอิจฉา”

                “อิจฉาหรือชอบกันแน่ อย่ามา ๆ”

              “ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย”

                “ไม่ใช่อย่างนั้นแล้วหน้าแดงทำไม”

              “หือ???”

                “ไปขอเบอร์เค้าเลย”

              “บ้าเหรอ? ผู้ชายด้วยกันไปขอเบอร์ เค้าได้ไล่เตะเอา”

                “จะรู้ได้ยังไง ถ้ายังไม่ได้ลอง เค้าอาจจะเป็นแบบพวกเราก็ได้”

              “ไม่กล้าอ่ะ”

                “ชั้นไม่เคยเห็นนายเป็นอย่างนี้กับใครทั้งที่เจอกันครั้งแรกมาก่อน ไม่อยากให้เสียโอกาสหว่ะ ถ้าเค้าไม่ชอบแบบนี้ก็รู้กันไปเลย จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายทีหลัง ถ้านายไม่กล้า ชั้นไปขอให้เอามั๊ยละ”

     

     

    ********************************************

     

     

              “ขอโทษครับ”

                “ครับ มีอะไรเหรอครับ?” เสียงเรียกที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือในมือ

              “คืออออ... ผมชื่อ โจ คยูฮยอน นะ พอดีเพื่อนผมสนใจคุณ อยากได้เบอร์ติดต่อคุณน่ะ แต่ติดที่ว่าเค้าเป็นผู้ชาย เค้าเลยให้ผมมาถามว่าคุณจะรังเกียจมั๊ย ที่จะคุยกับเค้าน่ะ”

                “....................................”

              “เอ่ออออ...ถ้าคุณไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น ผมก็ขอโทษด้วยนะ อย่าพึ่งเตะผมละ ขอโทษที่รบกวนนะครับ”

                “82-x-xxxx-xxxx แล้วก็...ผมชื่อ ชเว ชีวอน ครับ”

     

     

              “ได้เบอร์มาแล้วละ”

     

     

    ************************************************

     

     

          “ยอโบเซโย”

              “ขอสายคุณชเว ชีวอนครับ”

                “ครับ ผม...ชีวอนครับ ไม่ทราบว่าใครต้องการจะคุยด้วยครับ”

              “เอ่อออออ...ผมชื่อ อี ฮยอกแจ ครับ เป็นเพื่อนของ โจ คยูฮยอนน่ะ”

                “อ่อ...ผู้ชายปริศนาที่ขอเบอร์ผมนี่เอง ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณฮยอกแจ”

              “อ่า...ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก อ่า...ผมเขินจัง”

                “55555 น่ารักจังนะครับ มีการบอกว่าตัวเองเขินด้วย”

              “คุณก็อย่าล้อผมสิ”

                “ขอโทษนะ ผมถามอายุคุณได้มั้ย? ผมว่าเราเรียกกันว่าคุณแบบนี้มันเกร็ง ๆ ยังไงก็ไม่รู้สิ”

              “ผม...อายุ 25 ครับ”

                “งั้นคุณก็เป็นน้องผมสินะ แต่ผมไม่บอกหรอกว่าผมอายุเท่าไหร่ เดี๋ยวคุณจะหาว่าผมแก่ หึหึหึ”

              “อ๋า...คุณขี้โกงนิ่”

                “เลิกเรียกว่าคุณได้แล้ว เรียกพี่สิ ไหนเรียกซิ พี่ชีวอน

          “เอ่ออออออ...”

                “เรียกสิ พี่ชีวอนนนน”

              “พะ...พี่...พี่ชีวอน”

     

     

          “ถือว่าเราสนิทกันแล้วนะ...น้องฮยอกแจ”

     

     

    ********************************************

     

     

             “พี่ชีวอนเปลี่ยนเสียงรอสายใหม่เหรอ เพลงนี้ผมชอบมากเลย”

                “ใช่ ๆ เพลง Trap ของเฮนรี่เจ๋งเนอะ พี่ฟังครั้งแรกแล้วติดหูเลย ตั้งตารอเลยว่าจะออกเป็นเสียงรอสายเมื่อไหร่ พออกปุ๊บก็เปลี่ยนเลย 55555”

             “ไม่มีตกเทรนด์เลยนะ”

                “แน่นอนอยู่แล้ว เออ..ว่าจะทักหลายทีแล้ว เพลงรอสายของเราพี่ก็ชอบนะ เพลงของ ซองซิคยอง ใช่มั๊ย เพลงเค้าเพราะทุกเพลงเลยนะ แต่พี่ชอบเพลงนี้เป็นพิเศษ”

     

     

    “แล้วตอนนี้ก็ดูเหมือนจะชอบมากขึ้นอีกแล้วแหละ ^^

     

     

    ********************************************

     

     

    “ฮยอกแจ ชอบดูหนังมั้ย?”

    “ก็ชอบนะ แต่ไม่ค่อยมีเวลาอ่ะ”

    “แล้วเคยดูหนังสั้นมั้ย?”

    “เคยนะ แต่นานมาแล้ว ทำไมเหรอ?

    “เคยไปดูที่ไหนอ่ะ?”

    “ที่ ม.ฮงอิก เคยจัดเทศกาลหนังสั้นอ่ะ”

    “ฮ้า! จริงเหรอ? งานนั้นหนังของพี่ได้ร่วมฉายด้วยนะ”

    “พี่ชีวอนทำหนังสั้นด้วยเหรอ? เจ๋งอ่ะ เรื่องไหนที่พี่ทำอ่ะ เผื่อผมจำได้”

    “ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการวางระเบิดเครื่องบินของเกาหลีเหนือที่คนในเครื่องบิน 115 คน ตายหมด”

    “อ๋อออออ...เรื่องนั้น ที่ตัวเอกกำลังจะไปหาผู้หญิงคนรักที่รออยู่ที่ปลายทาง แต่มาตายเพราะเครื่องบินระเบิดก่อนใช่มั๊ย”

    “นั่นแหละๆ”

    “เรื่องมันเศร้ามากอ่ะ...พี่ ผมดูแล้วน้ำตาแทบร่วง ต้องกลั้นไว้แทบแย่”

    “55555”

    “ผมแพ้ทางเรื่องคนรักต้องตายจากกัน ไม่ได้อยู่ด้วยกันจนแก่อ่ะ ดูทีไรจะร้องไห้ทุกที”

    “เราเหมือนพี่เลย เพราะรู้สึกสะเทือนใจมาก พี่เลยอยากถ่ายทอดเรื่องราวแบบนี้ออกมาให้ดีที่สุด”

     

    “บางทีพี่ก็คิดว่าเราสองคนนี่เหมือนโซลเมทกันเลยเนอะ”

     

     

    ********************************************

     

                “ปกติว่าง ๆ เราชอบทำอะไรเหรอ”

              “ผมเหรอ? อืมมม อ่านหนังสือมั่ง เล่นเกมมั่ง เล่นเน็ตมั่ง เรื่อยเปื่อยอ่ะ”

                “ชอบอ่านหนังสือแนวไหนละ”

              “พวกนิยายสืบสวนอ่ะ แล้วก็พวกประวัติศาสตร์”

                “เหมือนพี่เลย เคยอ่านเรื่องนี้มั๊ย คดีฆาตกรรมในสมัยโชซอน อ่ะ”

              “ยังอ่ะ หนังสือมันเก่ามาก ผมหาซื้อไม่ได้เลย แต่อยากอ่านมากอ่ะพี่ เรื่องนี้ทั้งสืบสวน ทั้งประวัติศาสตร์ครบในเล่มเดียว อย่างกับเกิดมาเพื่อผมเลย”

                “5555 พี่มีอยู่เล่มนึง ให้ยืมไปอ่านเอามั้ย”

              “จริงดิ่ เอา ๆ ๆ ๆ พี่ชีวอนใจดีจัง”

                “โอเค แล้วไว้นัดกัน พี่เองก็อยากเจอหน้าเราจะจะแย่อยู่แล้ว คุยกันมาตั้งนาน มีแค่เราที่เห็นหน้าพี่อยู่ฝ่ายเดียว”

              “เอ่อะ! อ้อ...คงต้องเจอกันสินะ..............”

                “เฮ้ย!!! ทำไมทำเสียงผิดหวังอย่างนั้นเล่า นายไม่อยากเจอพี่หรอกเหรอ? นายเป็นขอเบอร์พี่นะ”

              “ป่ะ...เปล่า ๆ ผมไม่ได้ผิดหวังนะ แต่ผมกลัวพี่จะผิดหวังต่างหาก”

                “คิดมากไปนะเด็กน้อย จริง ๆ พี่เห็นเราแว้บ ๆ นะวันนั้น”

              “ห๊ะ!! วันไหน? อะไร? ยังไงกัน?”

                “ก็วันที่เราให้เพื่อนมาขอเบอร์พี่ไง พอเพื่อนเราไปแล้ว พี่ก็แอบสังเกตว่าเค้าเดินไปหาใคร...เราอ่ะ ตัวขาว ๆ ผอม ๆ ปากแดง ๆ ใช่มั๊ยละ? ก็น่ารักดีนะ”

              “.............................................”

                “อ้าว! ทีนี้เงียบไปเลย ฮยอกแจ ๆ”

              “ห๊ะ! ครับ ๆ อะไรครับ”

                “ทำไมพอพูดเรื่องจะไปเจอกันเราถึงดูแปลก ๆ ละ คุยกับพี่แล้วไม่โอเค เลยไม่อยากเจอเหรอ? ฮึ??”

              “มันก็ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ เอ่อ...พี่ชีวอน ผมวางสายก่อนนะ แม่เรียกแล้ว ไปนะพี่”

     

                 ตู๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

     

     

    ********************************************

     

                “ยอโบเซโย”

                “นี่พี่ชีวอนนะ วันอาทิตย์นี้เราว่างมั๊ย? ไปกินข้าวกัน เดี๋ยวพี่เอาหนังสือไปให้ยืมด้วย”

                “อ่า.................”

                “ว่ายังไง หรือรังเกียจพี่แล้ว ก็ไม่เป็นไรนะ”

                “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ พี่อย่าเข้าใจผิดนะ ผมแค่เช็คว่าวันนั้นติดอะไรรึเปล่าหรอก”

                “แล้วติดอะไรรึเปล่า?”

                “ไม่...ไม่ติดอะไรครับ เราเจอกันวันอาทิตย์ก็ได้”

                “ที่ไหนดี แถวฮงแดมั้ย เราน่าจะสะดวก พี่ก็สะดวก”

                “แถวนั้นก็ได้ครับ จะเจอกันตรงไหน กี่โมงดี?”

                “เจอตรงทางออกสถานีมหาลัยฮงอิกก่อนก็ได้ ทางออกที่ 6 นะ แล้วค่อยเดินเลือกร้านกัน”

                “เอางั้นก็ได้ครับ แล้วเจอกันครับ...พี่ชีวอน”

     

                “พี่ดีใจที่จะได้เจอเรานะ”

     

    ********************************************

     

     

          “สวัสดีครับพี่ชีวอน”

                “สวัสดี....ฮยอกแจ อ้าววววว! เราก็มาด้วยเหรอ คนที่มาขอเบอร์พี่ ชื่ออะไรนะ คยู.....”

                “คยูฮยอนครับ ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะครับ”

                “เราจะไปกันเลยมั๊ย?”

                “เอ่อ...รอแป๊บนึงนะครับ ขออยู่รอเป็นเพื่อนฮยอกแจก่อน”

                “หืมมมม...รออะไร แล้วรอเป็นเพื่อนฮยอกแจ คือ อะไร????????”

               

    “ฮยอกแจ! รอนานมั้ย ขอโทษนะ ป่ะ!! เราไปกันเถอะ”

                “นายมาช้าอีกแล้วนะ...ทงเฮ ......ยินดีที่ได้พบนะครับพี่ชีวอน คยูฮยอนเล่าเรื่องพี่ให้ฟังเยอะมากเลย หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีก ใน ฐานะอื่น”

                “อ้อ...พี่ชีวอนครับ อย่าพึ่งโกรธคยูมันเลยนะครับ ยังไงก็ฟังมันก่อน เพื่อนผมน่ะ...จีบใครไม่ค่อยเป็น โกหกใครไม่ค่อยเก่ง และไม่ชอบโกหกใครด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ คยูมันไม่ยอมแหกกฎของตัวเองหรอกนะ ผมจะพูดแค่นี้แหละ” แล้วฮยอกแจกับทงเฮก็โค้งลาชีวอนก่อนจะเดินแยกออกไป

     

    ชเว ชีวอน เบนสายตากลับมาอยู่ที่ร่างโปร่งที่ยืนก้มหน้าจนคางชิดอกอยู่ตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ

                “มีอะไรจะอธิบายมั้ย?”

          “............................”

                ชเว ชีวอนผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ ยกมือเท้าเอว ตามองออกไปทางอื่นอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี ก่อนที่จะเปลี่ยนสายตากลับมาที่คนตรงหน้าอีกครั้ง

                “ถ้าอย่างนั้นพี่กลับละนะ นายคงไม่อยากพูดอะไรกับพี่แล้ว” พูดจบก็หันหลังเตรียมจะเดินออกไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อรู้สึกถึงแรงดึงที่ชายเสื้อด้านหลัง

                “ผมขอโทษ ผมโกหกตอนที่ผมไปขอเบอร์พี่ว่าเป็นเพื่อนผมที่สนใจ แต่จริง ๆ แล้วเป็นผมตะหากที่สนใจพี่ แต่พอตอนโทรไป ผมก็กลัวเกินที่จะบอกความจริงกับพี่ ผมกะว่าถ้าพี่รังเกียจหรือไม่ชอบใจ ผมก็จะหายไปโดยที่พี่จะไม่ต้องรู้ว่าเป็นผมเองที่โทรมา แต่ยิ่งคุยกัน ผมก็ยิ่ง...ฮึก!! ยิ่งตกหลุมรักพี่มากขึ้นทุกครั้งที่เราคุยกัน ฮึก!! ผมก็ยิ่งกลัว ผมอยากจะคุยกับพี่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ผมกลัวว่าถ้าพี่รู้ว่าผมโกหก ฮึก!! พี่จะเลิกคุยกับผม ถ้า...ฮึก!! ถ้าพี่จะเกลียดผมก็ไม่เป็นไร ผมมันแย่เองที่โกหกพี่ ผมขอโทษ หวังว่าพี่จะรับคำขอโทษจากผม ผม...ผม...ขอตัวก่อนนะครับ” คยูฮยอนพรั่งพรูคำพูดที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมารวดเดียวแทบไม่ได้หยุดหายใจ แถมน้ำตาเจ้ากรรมดันไหลออกมาอีกต่างหาก จนต้องพูดไปกลั้นสะอื้นไป จนจบคำก็เป็นฝ่ายหันหลังจะเดินจากไปแทน

                .

                .

                .

                .

     

                “งั้นหนังสือที่พี่เอามาก็เศร้าแย่สิ มันไม่ได้คิดว่าจะมาเพื่อถูกทิ้งไว้นะ”

     

                คยูฮยอนชะงักเท้ายืนนิ่งอยู่กับที่ แล้วก็ต้องสะดุ้ง เมื่อถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของชีวอน

     

                “พี่ชอบคุยกับเรา ก็เพราะว่าเป็นเรา ไม่ใช่เพราะเราชื่อฮยอกแจหรือชื่อคยูฮยอน ต่อให้เราจะชื่อซองฮา ฮีจิน เยอึน หรือะไรก็เถอะ ถ้าไม่ใช่คนที่ชอบหนังสั้น คนที่อ่อนไหวกับการตายจากกันของคนรัก คนที่ชอบฟังเพลงของซองซิคยองกับเพลง Trap คนที่ชอบอ่านหนังสือสืบสวนกับประวัติศาสตร์ และคิดว่าหนังสือคดีฆาตกรรมในสมัยโชซอน เป็นหนังสือที่เกิดมาเพื่อตัวเอง พี่ก็คงไม่คุยด้วย และก็คงไม่รักและรอคอยที่จะเจออยู่ทุกลมหายใจหรอกนะ” ชีวอนกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นระหว่างที่พูดไปเรื่อย และคยูฮยอนก็ทำได้แค่ซ่อนหน้าแดง ๆ ทั้งจากการร้องไห้และความเขินอายลงกับอกกว้างตรงหน้า

     

                “อยู่คุยกับพี่ตลอดไปนะครับ ไม่ว่าจะคุยโทรศัพท์หรือคุยกันต่อหน้า ช่วยอยู่คุยกับพี่ไปจนกว่าเราจะแก่เฒ่าไปด้วยกันนะ คนแปลกหน้าที่รัก” คยูฮยอนไม่ตอบแต่เลือกที่จะวาดแขนขึ้นโอบกอดร่างสูงตรงหน้าแทน แต่ชีวอนกลับค่อย ๆ คลายอ้อมกอดและดันตัวคยูฮยอนออกเบา ๆ

     

                “ตอบให้พี่ชื่นใจหน่อยสิ รักพี่มั๊ย?” สายตาอ่อนหวานทอดมองคนที่ก้มหน้างุดอยู่ตรงหน้า ดูสิ...หูเหอแดงไปหมดแล้ว น่ารักจริง ๆ

                “พี่ชีวอนขี้โกง พี่ไม่ยอมบอก แต่มาถามผมเนี่ยนะ” บ่นอุบอิบออกมาทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่อย่างนั้น ชีวอนหัวเราะในลำคอเบา ๆ แล้วเอามือทั้งสองข้างกอบกุมไว้กับแก้มนิ่มดันให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน

                ชีวอนยิ้มกว้างสว่างไสวจนคยูฮยอนตาพร่า รู้สึกว่าหน้าร้อนขึ้นไปอีกจนน่าหงุดหงิดใจ และก็คงต้องหงุดหงิดใจมากขึ้นไปอีกเมื่อใบหน้าหล่อเหลานั้นก้มลงมาจนชิดข้างหู

     

                “คยูฮยอนนา พี่รักคยูนะครับ แล้วคยูละรักพี่มั๊ย?” เมื่อชีวอนผละออกมา คยูฮยอนก็แทบจะทิ้งตัวละลายเหลวเละลงตรงนั้น ถ้าไม่ติดว่าอีกคนยังคงจับแก้มทั้งสองของเขาไว้มั่น แถมส่งสายตาคาดคั้นเอาคำตอบมาให้อีก

               

    “ผมก็รัก พี่ชีวอนครับ คนแปลกหน้าของผม”

     

    ********************************************

     

    Special Part

     
     

                หลังจากที่เคลียร์กันเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะรู้ตัวว่าตกอยู่ท่ามกลางสายตาประชาชนคนเดินถนนบริเวณนั้น ทั้งสองก็รีบพาหน้าแดง ๆ ของตัวเองออกไปจากที่นั่น ก่อนจะตัดสินใจหาที่นั่งบริเวณริมถนนที่คนไม่ค่อยพลุกพล่านนัก

     

                คยูฮยอนที่ยังคงหน้าแดงและก้มหน้างุดอยู่เหมือนเดิม เพราะมือยังถูกกอบกุมอยู่ในอุ้งมือหนาของคนข้างกาย ทั้งสองคนปล่อยให้ความเงียบปกคลุมบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนไว้ จนชีวอนจะเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา

                “คยูจะเชื่อมั๊ยว่าพี่รู้อยู่แล้วว่าคนที่พี่คุยด้วย คือ คยู ไม่ใช่ฮยอกแจ” คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นมองคนข้าง ๆ ทันที ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

                “พี่จำเสียงได้น่ะ ตอนที่เราเข้ามาขอเบอร์พี่ เสียงของเรามีเอกลักษณ์มากจนพี่คิดว่า...ถ้าพี่ได้ยินอีกครั้งพี่ต้องจำได้แน่นอน จนวันที่เราได้คุยกันครั้งแรก เสียงที่พี่ได้ยินทำให้พี่ใจเต้นแรง เราคงไม่รู้หรอกว่าพี่ดีใจแค่ไหนที่คนที่โทรมาเป็นเรา ไม่ใช่ฮยอกแจ” ชีวอนหันมายิ้มบาง ๆ ให้กับคนข้าง ๆ ที่ยังมองเค้านิ่งค้างอยู่อย่างนั้น

          “พี่คงตกหลุมรักคนตัวขาว ๆ ท่าทางขี้อายคนนั้น ตั้งแต่ที่ได้เห็นหน้ากันครั้งแรก อาจจะผิดกับฮยอกแจไปหน่อย แต่พี่ให้เบอร์ไป เผื่อว่าถ้าฮยอกแจโทรมาพี่จะสารภาพว่าพี่อยากรู้จักเรา และจะขอเบอร์โทรของเราบ้าง” ชีวอนยกมือขึ้นลูบหัวอย่างเขิน ๆ พอพูดมาถึงตรงนี้ มือหนาอีกข้างที่ยังว่างอยู่ก็เอื้อมไปคว้ามืออีกข้างของคยูฮยอนมากุมไว้ ดวงตาคมจ้องลึกเข้าไปให้ตากลมใสของอีกคน

                “จำได้มั๊ย? ที่พี่บอกว่าเราสองคนเหมือนโซลเมทกันเลย” คยูฮยอนพยักหน้าตอบรับคำพูดนั้น

     

              “วันนี้เราเป็นโซลเมทจริง ๆ แล้วนะครับ...คยูฮยอน”

     

    *************************************
     

    Talk เบา ๆ ท้ายเรื่อง

              ในที่สุดก็ได้ลงฟิคเรื่องนี้ซะทีหลังจากมาแปะทิ้งไว้ซะหลายวัน เป็น one shot สั้น ๆ ที่เอาพล็อตมาจากเรื่องจริงของตัวเอง แต่เรื่องจริงไม่ได้อ้างชื่อเพื่อนและไม่สมหวังค่ะ 555 ด้วยความผิดหวังของตัวเองเลยอยากให้เอาความฟินมาลงให้วอนคยูอันเป็นที่รักแทน จริง ๆ คนอ่านคงเดาทางเรื่องได้ตั้งแต่แรก ๆ แล้ว ไม่ได้กะจะให้ซับซ้อนค่ะ เน้นหวานอย่างเดียว ^^ หวังว่าคงจะชอบกันนะคะ

     

     
    :-Daisy ✿
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×