ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    'Fan Fiction' : WonKyu

    ลำดับตอนที่ #1 : Deja Vu

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 152
      0
      26 พ.ย. 56

    Chapter 1 : Deja Vu

     

     

     
     

                ณ หอพักอันแสนสงบสุข (?) ของนักร้องไอดอลชื่อดังของเกาหลี Super Junior ที่บอกว่าสงบสุข เพราะวันนี้เมมเบอร์ส่วนใหญ่มีงาน ในหอพักที่มีสมาชิกเหลืออยู่แค่น้องเล็กคยูฮยอนกับพี่คนกลางซองมินเลยค่อนข้างเงียบจากเสียงพูดคุย มีแต่เสียงเกมจากหน้าจอคอมพ์ของน้องเล็กกับเสียงหัวเราะคิกคักของซองมินดังมาเป็นระยะ ๆ

     

                น้องเล็กที่เล่นเกมลากยาวมาตั้งแต่เช้าลุกขึ้นบิดตัวไล่ความเมื่อยล้า ก่อนจะขยับตัวอวบ ๆ ลุกจากเก้าอี้หมายจะไปหาอะไรกิน เพราะตั้งแต่ตื่นมาก็เล่นแต่เกม อย่าว่าแต่จะหาข้าวกินเลย แค่จะลุกไปล้างหน้าแปรงฟันยังไม่ทำเหอะ วันหยุดทั้งทีจะเสียเวลาเล่นเกมไปทำไม #ยักไหล่

     

                หลังจากค้นของกินที่พี่ผู้จัดการซื้อเก็บไว้ให้ในครัวได้ก็หอบ(?) ออกมากะจะกินไปเล่นเกมไปไม่ให้เสียเวลาว่างอันมีค่าเลยแม้แต่น้อย แต่พอเดินผ่านซองมินที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟากลางห้องก็อดจะสนใจไม่ได้ ก็เพราะเสียงหัวเราะที่ดังคิก ๆ คัก ๆ มาเป็นระยะนั่นแหละ เลยเบนเข็มเดินมานั่งที่โซฟากับซองมินแทน

     

                “ฮยองอ่านอะไรอ่ะ นั่งขำเป็นคนบ้าอยู่ได้” ออกปากทักทายแกมจิกกัดตามประสาน้องเล็กปีศาจ เรียกสายตาค้อนควักจากซองมินมาได้หนึ่งดอก ก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ดี ๆ มันก็มาหาว่าบ้า เดี๋ยวฟาดขาใส่ซะเลยนี่

               “อ่านฟิค” เป็นคำตอบสั้น ๆ ที่ทำเอาคนถามเบิกตาโต ๆ ของตัวเองให้โตมากขึ้นไปอีก

             
               “ฟิค? ฟิควายที่พวกแฟนคลับเค้าเอาพวกเราไปแต่งเป็นเรื่องอ่ะนะ”


                “อือ”

                “แล้วพี่อ่านคู่ไหนอ่ะ?” ถามด้วยความอยากรู้ คืออออ...ก็เคยได้ยินมาเยอะอ่ะนะ คนอื่นในวงก็เคยอ่านกันบ้าง อย่างพี่ฮีชอล พี่ฮัน ฮยอกแจ (ทำไมไม่เรียกพี่ -*-) พี่ทงเฮ หรือคิบอมก็เคยอ่านกันมาบ้าง แต่ตัวเองไม่เคยคิดจะอ่านอ่ะ ก็มันแปลก ๆ ที่จะอ่านเรื่องตัวเองกับพี่ ๆ ในวงนี่นา -_-“ แล้วนี่อะไร...อยู่ ๆ พี่ซองมินก็ลุกขึ้นมาอ่านฟิคเนี่ยนะ

                “คังมิน” O_o

          “หืมมมมม...ทำไมเป็นคังมินละ?” หน้าน้องเล็กเริ่มเข้าโหมดปีศาจเต็มขั้นทันทีที่ได้ยิน ไม่ใช่ว่าโกรธนะ แต่เป็นสีหน้าล้อเลียนเต็มขั้นตะหาก

                “อะ...อะไร ทำหน้าอย่างนั้นทำไม ห๊ะ!!!” ซองมินเสียงดังใส่น้องเล็กของวงทันทีที่หันไปเห็นสายตาล้อเลียนของน้องเล็ก

                “ไม่ต้องทำเสียงดังกลบเกลื่อนเลย พี่อ่ะ อย่านึกว่าไม่มีใครรู้นะ หึหึ”

                “รู้อะไร?” แหวเสียงเขียวกลับมาทันควัน

                “ไม่รู้สิ ผมก็พูดไปเรื่อยเปื่อย พี่อย่าสนใจเล้ยยยยย ไม่กวนแล้วดีกว่าเดี๋ยวพี่จะไม่ฟิน ฮ่าๆๆๆๆๆ” ขำยาวทิ้งท้ายก่อนจะเดินกลับเข้าห้องตัวเองไปตามเดิม ทิ้งให้ซองมินนั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันทั้งที่หน้ายังแดงอยู่อย่างนั้น

     

     

    ++++++++++++++++++++++++++

     

     

     

                เที่ยงคืนกว่าแล้วตอนน้องเล็กผู้เหน็ดเหนื่อยจากการอัดรายการมาทั้งวันเดินสะโหลสะเหลเข้ามาในห้อง ตั้งใจจะขอนอนพักซักแป๊ปค่อยลุกไปอาบน้ำ พอเดินถึงเตียงก็ล้มตัวลงนอนทันที

                “หือออ...อะไรอ่ะ” ขยับตัวลุกขึ้นเพราะรู้สึกว่าตัวเองนอนทับอะไรซักอย่างอยู่

                มือเรียวสวยปัดป่ายไปตามผ้าห่มจนหยิบได้หนังสือในห่อพลาสติกติดมือออกมา เจ้าของเตียงขมวดคิ้วอย่างงง ๆ พลางแกะหนังสือออกมาดู

                “เฮ้ย!!!” ร้องเสียงดัง ตกใจจนสะบัดหนังสือในมือตกลงไปข้างเตียงดังตุ้บ



                คยูฮยอนนั่งหายใจหอบ พยายามตั้งสติกลับมา จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง ก็หนังสือนั่นมันขึ้นชื่อเรื่องหราเลยว่า “WonKyu’s Secret Love” น่ะสิ ไม่ต้องเดาให้เสียเวลา ต้องเป็นไอ้พี่ซองมินแน่นอนที่เอามาวาง คงจะเอาคืนเรื่องที่เค้าแซวเรื่องอ่านฟิควันนั้นแน่ ฮึ่ยยยย!! เจ็บใจนัก แต่จะออกไปอาละวาดตอนนี้ก็ไม่ได้...มันดึกแล้ว พรุ่งนี้ค่อยจัดการ

     
     

                ตื่อ ดือ ดึ๊ง  ตื่อ ดือ ดึ๊ง

     
     

                เสียงเตือนของแอพลิเคชั่นสื่อสารยอดนิยมดังฝ่าความเงียบขึ้นมา มือบางเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์คู่ใจขึ้นมาสไลด์หน้าจอเช็คข้อความ พบว่าเป็นซองมินที่ส่งรูปมาให้ พอกดโหลดเสร็จสรรพก็แทบจะขว้างโทรศัพท์ทิ้ง เพราะ...

     
     

              มือหนาอันแสนอบอุ่นของชีวอนเอื้อมมากอบกุมใบหน้าหวานของคนตรงหน้าเอาไว้อย่างทะนุถนอม คยูฮยอนที่กำลังหน้าขึ้นสีแดงจัดขึ้นเรื่อย ๆ พยายามหลุบตาหลบแววตาหวานจากคนตรงหน้า แต่ก็ทำไม่ได้มากนัก เพราะชีวอนพยายามบังคับเค้าให้กลับมาสบตากันอยู่นั่น ยังไม่ทันที่คยูฮยอนจะได้เอ่ยปากทักท้วงอะไรออกไป กลีบปากบางก็โดนจู่โจมด้วยกลีบปากอุ่นร้อนทว่าอ่อนนุ่มของอีกคน เมื่อรสสัมผัสที่ริมฝีปากค่อย ๆ แนบแน่นขึ้น ตากลมที่เบิกกว้างด้วยความตกใจก็ค่อย ๆ ปิดลงอย่างยอมจำนน มือสองข้างที่พยายามจะดันออกในทีแรกกลับยึดชายเสื้อของอีกฝ่ายแน่นขึ้นก่อนจะกลายเป็นโอบรอบรัดร่างกำยำตรงหน้าในที่สุด

     
     

              ใช่แล้ว...ซองมินถ่ายรูปเนื้อหาในหนังสือที่เค้าพึ่งเหวี่ยงลงพื้นไปเมื่อสักครู่มาให้ คยูฮยอนนั่งหน้าแดง มือกำโทรศัพท์แน่น ดีนะที่อยู่คนเดียว ไม่งั้นต้องโดนล้อแน่ ๆ สุดท้าย...เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็มุดหน้าลงใต้ผ้าห่มแล้วนอนมันซะเลย น้ำเนิ้มไม่อาบมันละ ฮึ่ยยย!!!

     

     

     

    ++++++++++++++++++++++++++

     

     

     

              เช้าวันรุ่งขึ้นคยูฮยอนที่ตื่นเพราะเสียงเคาะปลุกของพี่ผู้จัดการ เพราะวันนี้เมมเบอร์ทุกคนมีซ้อมเตรียมความพร้อมคอนเสิร์ต SS5 ที่มีเรื่อย ๆ เพื่อให้ทบทวนให้ทุกคนจำคิวและท่าเต้นได้แม่นยำ เพราะขนาดทวนกันอยู่ตลอดก็ยังมีหลุดกันอยู่เนือง ๆ

     

     

                ภาพน้องเล็กของวงที่หน้าตายังไม่ตื่นเต็มที่ เดินมาขึ้นรถตู้ก่อนทรุดตัวเอาหัวพิงกระจกหลับอยู่ที่เบาะหลังเป็นภาพคุ้นตาของพี่ ๆ และผู้จัดการเป็นอย่างดี เพราะปกติเจ้าเด็กติดเกมนี่มักจะเล่นเกมดึกแบบไม่แคร์ตารางงานเสมอ คงมีแค่เจ้าตัวคนเดียวแหละที่รู้ว่าไอ้ที่ไม่ได้นอนเมื่อคืนไม่ใช่เพราะเกม แต่เพราะข้อความบ้า ๆ ที่ได้รับเมื่อคืนต่างหากที่ทำให้กว่าจะข่มตาหลับได้ก็เกือบเช้า คยูฮยอนพยายามอาศัยช่วงเวลาอันน้อยนิดในการเดินทางให้คุ้มค่าด้วยการหลับตานอนไม่สนใจใคร จนมีคนปลุกให้ลงจากรถถึงได้เดินหน้าง่วงตามหลังพี่ ๆ เข้าตึกไป

     

     

                “สวัสดีครับ ทุกคน” เสียงเปิดประตูพร้อมเสียงทุ้ม ๆ และหน้าหล่อ ๆ อันคุ้นเคยของทุกคนปรากฏขึ้นในห้องซ้อมที่สมาชิกซูเปอร์จูเนียร์กำลังเกลือกกลิ้ง นั่งบ้าง นอนบ้าง แกล้งกันบ้างอยู่เกลื่อนห้อง เรียกให้ทุกคนหันมามองหน้าตาของวง (ที่หลัง ๆ ทำอะไรไม่ค่อยเห็นแก่หน้าตาตัวเองเท่าไหร่ -_-) โดยพร้อมเพรียงกัน

     

                “ชีวอนนนนนน” ฮยอกแจเอ่ยทักทายเพื่อนรัก ก่อนจะผละออกจากการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับทงเฮ วิ่งถลามาคว้าขนมในมือชีวอนอย่างถือวิสาสะ แต่ช้ากว่าคนตัวสูงที่รีบยกถุงที่อยู่ในมือข้างซ้ายขึ้นเหนือหัว แล้วยื่นถุงในมือข้างขวาส่งให้ฮยอกแจแทน

                “อะไรอ้ะ ทำไมต้องหวงด้วย” ฮยอกแจทำหน้ายู่ใส่ แต่มือก็ยังคว้าถุงที่ชีวอนส่งให้มากอดไว้กับตัว

                “เอาไปแบ่งให้คนอื่นกินด้วยนะฮยอกแจ อย่างกไว้กินคนเดียวละ” ไม่ยอมตอบคำถามของฮยอกแจ แถมยังโบกมือไล่ให้เอาไปกินได้แล้ว ส่วนตัวเองกลับก้าวยาว ๆ ไปหาคนที่นอนเสียบหูฟังหลับตาหนุนเป้ตัวเองอยู่ที่มุมห้องแทน

                ชีวอนทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ คนที่ยังคงหลับตานิ่งอยู่อย่างนั้น มือก็เอื้อมไปดึงหูฟังออกจากหูข้างนึง แล้วก้มลงไปจนชิดหู

                “คยูฮยอนอ่า...ตื่นมากินขนมเถอะ”

                “หืมมมมม... เฮ้ย!!!” คนที่นอนอยู่ลุกพรวดพราดขึ้นมาทันที ทำเอาคนกระซิบตกใจไม่ต่างกัน แต่พอหายตกใจก็อดขำกับหน้าตาแตกตื่นของคนตาลูกแมวตรงหน้าไม่ได้

                “คยูฮยอนอ่า...ตกใจอะไรขนาดนั้น หืมมมมม?” ชีวอนหัวเราะหึหึในลำคอ พลางเอื้อมมือไปตั้งใจจะปัดผมที่ปรกหน้าออกให้ แต่คยูฮยอนกลับลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนชีวอนชะงัก

                “ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมา” เสียงดังจนทุกคนในห้องหันเหจากการรุมทึ้งขนมของชีวอน (-*-) มาสนใจน้องเล็กที่วิ่งออกจากห้องไป

                “คยูเป็นอะไรอ่ะ...ชีวอน” ทงเฮเอ่ยปากถามแทนทุกคนที่นั่งล้อมวงกันอยู ชีวอนส่ายหน้าช้า ๆ

                “ชั้นสิต้องถามพวกนายว่า คยูเป็นอะไร ชั้นพึ่งมานะเว้ย”

     
     

    ชีวอนตอบด้วยน้ำเสียงที่ติดจะหงุดหงิดน้อย ๆ ก็ปกติน้องเล็กของวงไม่เคยเป็นแบบนี้กับเค้าอ่ะ เมื่อก่อนอาจจะมีบ้าง เพราะคยูฮยอนเป็นคนขี้รำคาญเลยไม่ชอบให้ใครมายุ่งด้วย ในขณะที่ชีวอนเป็นคนที่รักการสกินชิพยิ่งชีพ แถมยังเอ็นดูน้องเล็กเป็นที่สุดเลยชอบไปนัวเนียด้วย แต่ก็โดนเหวี่ยงกลับมาบ่อย ๆ แต่หลัง ๆ เหมือนคยูฮยอนจะแพ้ลูกตื๊อหรือขี้เกียจจะเหวี่ยงแล้วก็ไม่รู้ ถึงยอมให้ชีวอนเข้ามานัวเนียเจ้าตัวมากขึ้น ทั้งหลังและหน้าเวที พอวันนี้น้องทำตัวเหมือนรังเกียจกันแบบนี้ ชีวอนเลยอดจะน้อยใจปนสงสัยไม่ได้ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน พยายามคิดหาเหตุผลที่น้องรักหนีหายไปแบบนั้น ส่วนคนอื่นน่ะเหรอ? พอไม่ได้คำตอบอะไรก็หันไปแย่งขนมกันกินต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แหม...ทุกคนนี่รักชีวอนมากจริง ๆ นะครับ #น้อยใจคูณสอง

     

     

    ส่วนคยูฮยอนที่วิ่งหนีออกมายืนหอบอยู่ในห้องน้ำกำลังพยายามอย่างสูงในการทำให้ใจที่เต้นรัวของตัวเองสงบลง ไอ้พี่บ้า!! อยู่ ๆ ก็ก้มลงมาซะใกล้ ไหนจะเสียงทุ้ม ๆ ที่ชิดอยู่ข้างหูนั่นอีก ฮือออออ...คยูฮยอนจะไม่ทน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฟิคบ้าที่ไอ้พี่ซองมินมันส่งมาเมื่อคืนมีผลกับตัวเค้ามากจริง ๆ แค่เห็นหน้าชีวอนช็อตจูบในฟิคนั่นก็วาบขึ้นมาหลอกหลอนทันที จนต้องวิ่งออกมายืนหอบอยู่นี่ไง อุตส่าห์ทำเป็นหลับจะได้ไม่ต้องคุยกันแล้วนะ ยังจะมากวนกันอีก บ้าจริง

     

     

    คยูฮยอนพยายามเรียกสติตัวเองด้วยการวักน้ำขึ้นล้างหน้าแรง ๆ จนเปียกโชกไปหมด หูก็แว่วเสียงประตูห้องน้ำเปิด ใจก็ได้แต่ภาวนาไม่ให้เป็นพี่ชายตัวโตคนนั้น ไม่งั้นไอ้ที่พยายามจะสงบใจอยู่นี่คงได้กระเจิงอีกรอบ พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าเป็นพี่ชายคนดีที่อยากจะกระโดดถีบขาคู่เป็นที่สุดนั่นเอง

     

    “คยูฮยอนน้องรักของพี่ เป็นอะไรไปรึ?” ซองมินส่งน้ำเสียงยียวนกวนอารมณ์มาให้ทันทีที่สบตากันผ่านกระจก แถมยังปิดปากหัวเราะแบบสะใจสุด ๆ อีกต่างหาก ทำเอาคนน้องปรี๊ดแตก หันหน้ามาเหวี่ยงใส่แบบเต็มขั้น

    “พี่เอาไอ้ฟิคบ้านั่นมาให้ผมทำไมวะ” ถามแบบโกรธจัด ไม่สนใจจะใช้คำสุภาพกันละ งานนี้...

    “พี่ก็แค่เอาไปให้ เผื่อนายจะสนใจ” ซองมินตอบด้วยท่าทีสบาย ๆ คร้านจะสนใจกับคำพูดไม่เกรงใจอายุของอีกฝ่าย เพราะตอนนี้ซองมินกำลังมีความสุขที่ซู้ดดดดด ขอบอก

    “อีกอย่างนะน้องเล็ก ถ้านายไม่สนใจ นายก็แค่เหวี่ยงมันไปให้พ้นหูพ้นตา ไม่เห็นจะต้องแคร์อะไร แต่การที่นายมีอาการแบบนี้ มันจะแปลว่านายแคร์ได้รึเปล่าละ?” พูดพลางหรี่ตามองคยูฮยอนอย่างล้อเลียน นี่มันเดจาวูเหรอครับ? ไอ้สายตาแบบนี้นี่มันเหมือนสายตาที่โจคยูเคยทำใส่ไอ้พี่ซองมินในวันนั้นเปี๊ยบ ม่ายยยยยย...ไม่จริงนะ ไม่ได้อะไรเลยซักนิดจริง ๆ


    คยูฮยอนหน้าบึ้งใส่คนเป็นพี่ มือกำแน่นเพราะไม่รู้จะเถียงยังไง กลัวเข้าตัวให้อีกฝ่ายหาทางแซวได้อีก จึงทำได้แต่สะบัดหน้าเดินหนีออกไปจากห้องน้ำ แต่ยังได้ยินเสียงซองมินดังตามหลังมาแว่ว ๆ

    “เดี๋ยวจะส่งไปสปอยล์ใหม่นะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”


    ฮึ่ย!!! นี่มันเดจาวูจริง ๆ ใช่ม้ายยยยยยยย

     

     

     

    ++++++++++++++++++++++++++

     

     
     

    การซ้อมวันนี้ผ่านไปแบบที่เรียกว่าทุลักทุเลเบา ๆ เพราะน้องเล็กเอาแต่สะดุ้งทุกครั้งที่ชีวอนพยายามเดินเข้าไปหา หรือแม้แต่ท่าเต้นในเพลง Sexy Free & Sigle ที่ต้องมีช็อตที่ชีวอนต้องเกาะบ่าน้อง คยูก็ยังสะดุ้งในรอบแรก แถมยังไม่มีสมาธิกับการซ้อม จนหวุดหวิดจะโดนฮยอกแจกับชินดงที่เป็นคนควบคุมการฝึกซ้อมเหวี่ยงเอาก็หลายที


    “คยู!!! นายเป็นบ้าอะไรของนายฮะ มีสมาธิหน่อยสิโว้ยยยย จะได้ซ้อมให้มันจบ ๆ ซะที ไปพักซัก 10 นาที เรียกสติก่อนไป” สุดท้ายก็เป็นฮยอกแจที่ปกติมักจะโดนน้องขึ้นเสียงใส่มากกว่าขึ้นเสียงใส่น้องก็ทนไม่ไหวต้องไล่ให้ทุกคนไปพัก เพราะซ้อมต่อตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์

     
     

    คยูฮยอนที่เป็นต้นเหตุเลยได้แต่ทำหน้าหงอยโค้งขอโทษทุกคนก่อนจะเดินออกจากห้องซ้อมไป ขายาวพาตัวเองเดินตรงไปทางบันไดหนีไฟ ที่ประจำของศิลปินทั้งที่ยังฝึกหัดและเดบิวต์แล้วต้องมาหลบพักใจเวลาท้อถอยหรือเศร้าใจ คยูฮยอนทรุดตัวลงนั่งบนขั้นบันได ก้มหน้าลงชิดเข่า เบื่อตัวเองที่เรียกสมาธิไม่ได้เลยทำให้คนอื่นต้องเสียเวลา หงุดหงิดตัวเองที่วางเฉยเรื่องฟิคนั่นไม่ได้ จนพาลหงุดหงิดไปถึงซองมินตัวต้นเรื่องและเจ้าของใบหน้าหล่อ ๆ ที่กำลังกวนใจอยู่นี่ด้วย

     
     

    เสียงเปิดและปิดประตูดังขึ้น เรียกให้คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นจากเข่าตัวเอง พอเห็นว่าเป็นใครก็ซบหน้าลงไปใหม่ แบบว่า...จะตามมาหลอกหลอนอะไรกันนักหนาเล่า


    ชีวอนทรุดตัวลงนั่งเคียงข้างคยูฮยอนบนบันไดขั้นเดียวกัน มือหนายกขึ้นลูบผมนิ่มของน้องอย่างแผ่วเบา ตั้งใจจะปลอบน้อง โดยหารู้ไม่ว่า ตอนนี้หัวใจของคนถูกลูบหัวเต้นเร็วแทบจะทะลุอกออกมาอยู่แล้ว

     

    “คยูฮยอนน่า อย่าคิดมากเลย ฮยอกแจและพี่ ๆ ไม่มีใครโกรธคยูเลยนะ”

    “.......................”

    “อย่าเศร้าเลย พี่สิที่ต้องเศร้า คยูโกรธอะไรพี่รึเปล่า? ทำไมต้องทำท่าทางรังเกียจกันแบบนั้นด้วย” เสียงอ่อนเบาหวิวของชีวอน ทำให้คยูฮยอนใจหายเล็ก ๆ หัวกลม ๆ ส่ายไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ แต่ก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา

    “ไม่โกรธแล้วทำไมไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาพูดกับพี่ละ หืมมมม??” ฮือออออ...อย่ามาหง มาหืมได้ป่ะละ หน้าร้อนไปหมดแล้วเนี่ย? ก็ได้แต่คิดและก้มหน้าอยู่อย่างนั้น จนชีวอนทนไม่ไหวจับหน้าของน้องให้เงยขึ้นมา

    คยูฮยอนพยายามอย่างเต็มที่ในการยื้อไม่ให้ชีวอนทำสำเร็จ แต่ก็ต้านแรงของอีกคนไม่ไหวจึงได้แต่กรอกตาหลบไปอีกทาง ชีวอนขมวดคิ้วทันทีที่เห็นหน้าน้อง ทำไมหน้าแดงงแบบนี้ละ เป็นไข้หรือไงกัน? มือหนาข้างนึงขยับขึ้นไปแตะที่หน้าผาก ก่อนจะพบว่าตัวก็ไม่ร้อนนี่นา...

    “คยูฮยอนอ่า เป็นอะไร? ทำไมหน้าแดงอย่างนั้นละ? ตัวก็ไม่ร้อนนี่” พูดพลางขยับมือดันให้คนตรงหน้าหันมาสบตาด้วย แต่อีกฝ่ายก็พยายามขืนไว้แบบสุดตัว

    “เขินอะไรพี่เหรอ? ทำไมละ ปกติคยูก็ยอมเล่นกับพี่แล้วนี่ ทำไมวันนี้เกิดจะมาเขินกันแบบนี้ละ” คยูฮยอนอยากจะบอกเหลือเกินว่า อย่าทำแบบนี้ อย่าพูดแบบนี้ อย่าทำเสียงแบบนี้ใส่กันได้ป่ะละ คือ ตอนนี้บทบรรยายในฟิคมันผุดขึ้นมาเป็นช็อต ๆ แล้วว้อยยยย เขินจะไม่ไหวละนะ TT//^//TT

     

    “ปล่อยก่อนได้มั๊ย?” คยูฮยอนเอ่ยเสียงเบาหวิวออกมาพูดกับชีวอนเป็นครั้งแรกของวัน และแน่นอนว่าพี่ชายที่แสนจะตามใจน้องคนนี้ก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย ชีวอนปล่อยมือออกจากใบหน้าที่หวานขึ้นทุกวันของน้องเล็ก แต่เปลี่ยนมากุมมือข้างนึงไว้แทน

    “บอกพี่ได้รึยัง? ว่าวันนี้เป็นอะไร?” คยูฮยอนไม่ตอบ แต่กลับล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดเข้าไปในโปรแกรมแชทกดโหลดรูป ก่อนจะส่งให้ชีวอนดูโดยไม่พูดอะไรซักคำ

    ชีวอนรับโทรศัพท์ไปดูแบบงง ๆ สายตาคมกวาดตามองบนหน้าจอ ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลานั่นจะเริ่มมีริ้วแดงปรากฏให้เห็นบ้างเหมือนกัน นี่ถ้าใครเปิดประตูมาตอนนี้คงนึกว่าสองคนแอบมากระดกโซจูกันแน่ ๆ เล่นนั่งหน้าแดงกันทั้งคู่

     

    “อืมมม...เอ่อออออ...ยังไงดีละ” ไปไม่เป็นกันเลย พอรู้สาเหตุของอาการแปลก ๆ ที่น้องเล็กเป็นวันนี้

    “พี่ไม่ต้องคิดมากหรอก ผมไม่เคยอ่านฟิคมาก่อน พอเจอแบบนี้เลยไม่ชินแค่นั้นแหละ แต่ได้บอกออกไปแล้วมันก็โล่งเนอะ ผมโอเคแล้ว เราไปกันเถอะ เดี๋ยวพี่ฮยอกแจจะว่าเอาอีก” คยูฮยอนพูดเร็ว ๆ ใส่อีกคนพร้อมกับลุกขึ้น ดึงมือออกจากการกอบกุมของชีวอนแล้วก็วิ่งออกไปจากบันไดหนีไฟไป ทิ้งให้ชีวอนนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเองอยู่เพียงลำพัง

     

     

     

    ++++++++++++++++++++++++++




    P.S. ถ้าไม่ถนัดเม้นต์ ติดแทก #ฟิคแฟนฟิค ในทวิตเตอร์ก็ได้นะคะ 

     

     

    Talk เบา ๆ

                สวัสดีค่ะ เปิดเรื่องใหม่ค่ะ 555 จริง ๆ ตั้งใจไว้ว่า ถ้าแต่ง #ฟิคซุปตาร์ ไม่จบจะไม่เปิดเรื่องใหม่ แต่ว่า.... #เอานิ้วชี้จิ้มกัน ตอนนี้แรงบันดาลใจฟิคซุปตาร์ไม่ค่อยมีเลย บวกกับเรื่องนี้คิดพล็อตและเขียนเอาไว้ได้ซักพักแล้ว จริง ๆ ตั้งใจจะเขียนเป็น One Shot แต่ไหงทำไม่ได้ กลายเป็นเรื่องยาวอีกแล้ว (นี่ฉันเขียนอะไรสั้น ๆ ไม่ค่อยได้รึ???) เรื่องนี้ก็คงจะกุ๊กกิ๊ก มุมิ ตามประสาคนพี่ขานัวกับคนน้องขาซึน หวังว่าจะชอบกันนะคะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×