คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : part 1 : ผู้ชายแปลกๆ สองคนนั้น
ผู้ชายแปลกๆสองคนนั้น
ฉันเดินขึ้นห้องเรียนหลังจากพักกลางวันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งโต๊ะที่ฉันนั่งกินข้าวนั้น...แรกๆ ฉันก็นั่งอยู่คนเดียว แต่พอเวลาผ่านไปไม่ถึงนาที ผู้หญิงเต็มโต๊ะ! เอ่อ...ทั้งแท้และเทียม -__-^ ดูพวกเธอๆทั้งหลายจะเครซี่ฉันมาก แม้ว่าฉันจะประกาศตัวว่าเป็นผู้หญิงในห้องเรียนแล้วก็เหอะ U__U แม้ว่าหลายๆคนที่ยังไม่รู้ความจริงว่าฉันเป็นผู้หญิงและคิดว่าฉันเป็นกระเทย (ควาย) ก็ตามที Y__Y คิดดูดิ ให้เป็นกระเทยยังไม่ได้เลย ต้องเป็นกระเทยควายด้วย
ช่างมันเหอะ เรื่องนี้มันฉันชินเกินไปแล้ว...
“เฮ้! เธอ!”
ธะ...เธอ กร๊าดดด! ฉันได้ยินไม่ผิดใช่มั้ย! มีคนเรียกฉันว่า ‘เธอ’! ซึ่งนั้นหมายความเขาเห็นฉันเป็น ‘ผู้หญิง’ ไม่ใช่‘กระเทยควาย’
“หืม”
ฉันหันไปตามเสียงเรียก...และสิ่งที่เห็นก็คือ ผู้ชายที่ฉันหน้าแมนกว่า -___- ฉันไม่หมายถึงหน้าเขาหวานนะ แต่ฉันน่ะหน้าเข้มไปเองต่างหาก เขามีใบหน้าเรียวยาวได้รูป ผมซอยเกินบ่าไปประมาณครึ่งนิ้วสีน้ำเงินประกายเงิน ผิวขาวอมชมพูสะอาดตา ปากนิดจมูกหน่อย ดูน่ารักๆแบบผู้ชาย ซึ่งแน่นอน...เขาหล่อ...แต่น้อยกว่าฉัน U__U
....ฉันเกิดมาเพื่อบ่อนทำลายความหล่อของผู้ชายบนโลกนี้จริงๆ -O-
“โอ้โห! หล่อกว่าฉันจริงๆด้วยแหะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นผู้หญิง! OoO”
และสิ่งที่ฉันดีใจไปเมื่อครู่มันก็ได้พังทลายลงในพริบตา สงสัยอีกตานี่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของฉันมาจากใครสักคนที่อยู่ในกลุ่มไทยมุงแน่เลย และ...เขาก็ไม่เคยเห็นหน้าฉัน เอ๊ะ! แล้วถ้าอย่างนั้น เขารู้ได้ไงว่าเป็นฉันล่ะ O_o
เพราะหน้าตาฉันก็เหมือนผู้ชายปกติ ไม่มีอะไรสักอย่างเหมือนผู้หญิงเลยแม้แต่หน่อย ถ้าเกิดบอกว่าผู้หญิงหน้าหล่อ...เขาก็น่าจะทักผู้ชายคนอื่นที่หน้าหวานกว่าฉันไม่ใช่หรอ -__- ?
“นายกับฉันเราเคยรู้จักกันหรอ”
“อ่า...เรียกว่ากำลังจะรู้จักดีกว่า”
“แล้วเพราะอะไรต้องเป็นฉัน”
“อยาก...ผิดมั้ย *O*”
“ไม่ผิด แต่ไม่อยากรู้จัก” ฉันไม่ได้หยิ่งเลยนะ แต่แค่รู้สึกว่าหมอนี่มันแปลกๆอย่างไงไม่รู้สิ...อยากรู้จักฉันเพราะอยาก ? ดูเป็นเหตุผลที่ไม่เป็นเหตุผลเกินไป -___-
“เธอไม่อยากแต่ฉันอยาก...เพราะฉะนั้น ฉันชื่อคีย์”
“อืม” เพราะฉันขี้เกียจสร้างปัญหาต่อความยาวสาวความยืดใดๆทั้งสิ้น ฉันเลยเลือกที่จะตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความ...ว่าไม่อยากรู้จักจริงๆ -__-!
ฉันจะทำมือปัดๆ เป็นแนวบอกประมาณว่าหลีกไปอะไรทำนองนั้น ก่อนที่จะเดินผ่านอีตาพิลึกนี่ไปอย่างไม่ใยดี
“เฮ้! เดี๋ยวสิ!”
แต่เหมือนกับนายหัวน้ำเงินจะไปยอมแพ้กับการอยากรู้จักฉัน (มากมาย) ก็เลยเอื้อมมือสากๆ มาดึงแขนฉันไว้ซะงั้น
“อะไรอีก -*-” ฉันพูดพร้อมกับทำสีหน้ารำคาญใจเต็มที่ พลางสะบัดมือตุ๊กแกของเขาออก
“เธอลืมนี่เอาไว้แน่ะ” นายหัวน้ำเงินใช้อีกมือล้วงไปในกางเกง...เอ่อ...กระเป๋ากางเกงน่ะ -..- แล้วหยิบบางสิ่งบางอย่างออกมา...บัตรประชาชนของฉัน
“มันไม่ใช่ของฉันแล้ว”
“อ้าว! ก็เห็นอยู่ว่ามันเป็นรูปเธอ”
นายหัวน้ำเงินชี้ไปที่รูปฉันที่โชว์หลาอยู่บนบัตรประชาชน (อันเก่า) ของฉัน
“ฉันไม่เก็บของที่ฉันทิ้งแล้ว”
“เด็ด!”
นายหัวน้ำเงินใช้มืออีกมือที่ไม่ได้ถือบัตรประชาชนชูนิ้วโป้งขึ้นมาพลางยิ้มจนตายี้ เอ่อ...ปกติฉันไม่ค่อยชมใครหรอกนะ แต่...น่ารักว่ะ OoO
“คราวนี้ไม่มีอะไรแล้วก็หลีกไป...ไอ้น่ารัก”
“โฮะ! ตรง! ชมแบบตรงๆ แนวดีอ่ะ *O*”
“น่ารัก...แต่ก็น่ารำคาญเช่นกันเพราะฉะนั้น หลีกไป!” ฉันเดินชนนายหัวน้ำเงินไปอย่างไม่ใส่ใจและไม่คิดแม้แต่จะเสตาไปมองเขาอีกครั้งเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาทำให้ฉันเสียเวลามามากพอแล้ว!
“นี่! เดี๋ยว!”
“เวลาฉันมีค่ากว่าชีวิตนาย!” ฉันเดินก้าวฉับๆออกมาอย่างเร็วที่สุด เฮ้อ...ทำไมโรงเรียนนี้ถึงมีแต่คนแปลกๆนะ -__-^
ฉันเหนื่อยอ่อนมาทั้งวันกับการสู้รบปรบมือที่โรงเรียน ดูเหมือนข่าวที่ฉันประกาศตัวว่าเป็นผู้หญิงจะแพร่กระจายเข้าหูคนอื่นไปเรื่อย ทำให้คนอื่นๆ เลิกคิดว่าฉันเป็นผู้ชายหรือกระเทยควายอะไรเทือกๆนั้น ...มันก็ดี แต่ฉันก็ยังจะเจอสายตาหมั่นไส้ของผู้ชายอยู่ดีนั่นแหละ
...เอาเหอะ...ฉันชินแล้ว
กริ๊งงงง!
กริ๊งของคาบสุดท้ายดังขึ้นเป็นสัญญาณของสวรรค์ให้กลับบ้าน...
จริงๆ แล้วฉันอยู่คนเดียว พ่อแม่พี่น้องก็ไม่ต่างประเทศกันหมด...และทิ้งฉันไว้กับเงินอีกหนึ่งก้อน เฮ้! แต่ฉันไม่ใช่เด็กมีปัญหานะ...เรื่องนี้เด็กคนอื่นๆ ก็เป็นกันถมไป พ่อแม่ฉันจะส่งเงินมาทุกทีที่เงินฉันหมด และแค่ฉันโทรไปบอกพวกเขา เงินก็เด้งเอาธนาคารฉันทันที...เร็วยิ่งกว่าบั้งไฟพญานาคอีก *O* ล่าสุดเพิ่งได้มาสามแสนทั้งที่ฉันขอไปแค่สามหมื่นเท่านั้น
เอาเหอะ...ฉันไม่ใช่คนดีอะไรขนาดที่จะปฏิเสธเงินได้ ถ้าพูดตามความจริงนะ...เป็นใครก็เอาวะ! ต้องขอบคุณพ่อแม่ซะด้วยซ้ำที่อุตส่าห์เห็นเงินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับฉัน ซึ่งฉันก็ไม่ปฏิเสธอยู่ดีว่ามันก็จริง! ถ้าเป็นคนอื่นคงจะพูดประมาณว่า ‘ฉันเกรงใจท่าน’ อะไรเทือกๆ นั้น แต่...ฉันไม่ใช่ประเภทนั้น ชอบก็คือชอบ ไม่แบ๊วไม่เสแสร้ง! เพราะฉะนั้นใครอยากได้เพื่อนพูดเสแสร้งแล้วถูกใจไปไกลๆ แต่ถ้าพูดเป๊ะแล้วตรงใจ com on!
ฉันเลือกที่จะเดินกลับบ้านเพราะบ้านฉันไม่ไกลจากโรงเรียนนัก ประมาณสองซอยก็ถึง...และมันก็ไม่จำเป็นที่ฉันจะให้คนขับรถมารับด้วย คนรวยไม่ใช่คนง่อย! พวกที่ทำตัวรวยไม่กระดิกเท้าอะไรสักอย่างน่ะ รู้ตัวอีกที่ก็อัมพาตกินไปครึ่งตัว...มัวแต่ชี้นิ้วสั่งอย่างเดียว ง่อยก็เลยพัฒนาไปเป็นอัมพฤกต์และย่างเท้าเข้าสู่อัมพาต -___-
...และระหว่างที่ฉันเดินคิดอะไรอยู่นั้น...
ซ่า!
มันกลับมีของเหลวสีน้ำตาลหนืดๆกระเด็นมาเปื้อนเสื้อฉัน!
และมันคือ...โคลน! โคลนที่เจิดจรัสอยู่บนฮู้ดขาวตัวละเจ็ดพันของฉัน! แถมมีที่กระเด็นมาเปื้อนแก้มฉันอีกหน่อยด้วย -___-^
และมันเป็นฝีมือของ...มินิคูเปอร์เขียว - แดงคันหนึ่ง เห็นสีรถก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าเจ้าของไม่ค่อยเต็ม...
ตามมารยาทแล้วเจ้าของรถจะต้องหยุดรถแล้วลงมาดูสิ่งที่เกิดขึ้น...และดูเหมือนเจ้าของรถคันนี้จะมีมารยาทตามนั้น ถ้าเป็นฉันน่ะหรอ...สาด (โคลน) แล้วหนีทันที ขอโทษที...ฉันไม่มีมารยาท!
“เฮ้! ขอโทษนะที่ฉันล้อรถสาดโคลนใส่นายน่ะ!”
เสียงของเจ้าของมินิคูเปอร์ดังมาก่อนตัว ก่อนที่เขาจะปิดประตูรถแล้วรีบสาวเท้ายาวๆนั่นมาหาฉันที่เป็นผู้เสียหาย (?)
ฉันค่อยๆเงยหน้าของฉันขึ้นจากเสื้อฮู้ดของตัวเองแล้วมองหน้าเขาอย่างเต็มตา เขาซอยผมสั้นสีบลอนด์ ตาเรียวคมนัยน์ตาสีเทา ดูคล้ายๆลูกครึ่งญี่ปุ่น ใบหน้าเรียวยาว ร่างสูงโปร่งกว่าฉันนิดหน่อย ริมฝีบางเรียวบางแต่ซีด จมูกโด่งได้รูปเป๊ะ
“อ่ะนี่! เธอ!”
เสียงของเขาดึงฉันออกจากภวังค์เมื่อครู่ ฉันสะดุ้งเล็กน้อยแล้วเก็กสีหน้าให้เป็นเหมือนเดิมประมาณว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อะไร...” เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ถ้าฟังไม่ผิด...เขาเรียกฉันว่า ‘เธอ’ นี่ หรือว่า...ฉันหน้าหวานขึ้นนะ
“เปล่าไม่มีอะไร ”
เขาพูดแล้วทำปากเบ้พลางยกไหล่ทั้งสองข้างขึ้น ก่อนจะก้มหน้าลงมามองฉันแล้วยิ้มเล็กๆที่มุมปาก แล้ว...ทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ฉัน
อะไรกัน...
“ทำไมนายถึงรู้ว่าฉันเป็นผู้หญิงล่ะ”
“แล้วอะไรทำให้เธอคิดว่าฉันคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงล่ะ”
เขายักคิ้วข้างหนึ่งขึ้น และยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ซึ่งนั่นมันทำให้ฉันหงุดหงิดใจไม่น้อยเลยทีเดียว...เขาดูเป็นผู้ชายเจ้าเล่ห์ที่น่าหมั่นไส้ได้ตลอดเวลาเลยนะ -*-
“สรรพนามของฉัน”
“ฮะ! ฉลาดไม่เบา..งั้นก็เดาให้ออกสิสาวน้อย ว่าทำไมฉันถึงรู้ J”
เอาอีกแล้ว...ทำฉันหงุดหงิดอีกแล้ว ทำไมวันนี้ฉันถึงได้เจอแต่คนประเภทนี้นะ
“เซ้นส์?”
“งั้นฉันถามเธอหน่อยว่ามีใครเคยรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงเพราะเซ้นส์บ้างมั้ย”
“ไม่เคย”
“และฉันก็ไม่ใช่หนึ่งในนั้นไง ^^”
“นายเรียนโรงเรียนเดียวกับฉัน ?”
“งั้นถามหน่อยสิว่า ถ้าคนอื่นพูดกันแค่ผู้หญิงหน้าหล่อฉันจะรู้ได้อย่างไงว่าเป็นเธอ เพราะโลกนี้คงหาผู้หญิงที่หล่อกว่าผู้ชายแบบนี้หน่อยมากและเธอก็ไม่มีอะไรเหมือนผู้หญิงเลยแม้แต่หน่อย แล้วอะไรทำให้ฉันรู้ว่าเป็นเธอล่ะ”
“นายพูดอย่างงี้แสดงว่านายเรียนโรงเรียนเดียวกับฉัน”
“และอะไรทำให้เธอคิดอย่างงั้นล่ะ ?”
“นายบอกว่า ‘คนอื่นพูดกัน’ ถ้านายไม่ได้อยู่โรงเรียนฉันจริงๆนายก็จะไม่รู้ว่าคนอื่นพูดถึงฉันในโรงเรียน และถ้าฉันเป็นเด็กเก่าข่าวนี้มันก็คงไม่มีใครพูดถึงเพราะคนคงจะชินไปแล้ว เพราะฉะนั้นนายทั้งรู้ว่าฉันเป็นเด็กใหม่และถูกคนอื่นพูดถึงแบบนี้...ไม่อยู่โรงเรียนฉันแล้วจะรู้ได้อย่างไงล่ะ”
“ก็ถูก...งั้นใช่ความฉลาดตรงนี้คิดแล้วกันว่าทำไมฉันถึงรู้ว่าเป็นเธอ ^^”
นายเจ้าเล่ห์ยักคิ้วเล็กน้อยแล้วมองนาฬิกา ก่อนจะสบถอย่างเสียอารมณ์...คนที่ทำอย่างงั้นมันต้องเป็นฉันสิเว้ย!
“ฉันต้องรีบไปแล้ว..งั้น...”
นายเจ้าเล่ห์ล้วงไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบกระเป๋าตังค์สีดำสนิทของเขาออกมาแล้วยื่นเงินให้ฉันจำนวนหนึ่ง ประมาณหมื่นหนึ่งเห็นจะได้...
“อะไร...”
“ค่าเสื้อ..แล้วฉันก็ขอโทษด้วย”
“ขอบใจ” ฉันรับเงินจากเขามาแล้วเอาเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อตรงหน้าอก ก่อนที่เขาจะทำสีหน้าแปลกใจ...
“เธอนี่แปลกนะ...”
“อะไรล่ะ...” ฉันชักสีหน้าเล็กน้อย ฉันโดนมากี่ครั้งแล้วนะกับคำๆนี้ -*-
“ถ้าเป็นคนอื่นคงจะบอกว่า ‘ไม่เป็นไร นายเอาไปเหอะ...แค่คำขอโทษก็พอแล้ว’ แต่เธอกลับรับมันไว้โดยไม่ใส่ใจเลยสักนิด”
“บ้านฉันถึงจะไม่มีปัญหาด้านการเงิน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันผลิตเงินเองได้นิ”
“ฮะๆ แปลกจริงๆ ด้วย...เอาไว้เดี๋ยวเราคงเจอกันใหม่ไม่เร็วก็ช้า ฉันต้องไปแล้วไว้เจอกัน”
นายเจ้าเล่ห์ยักคิ้วน้อยๆ ก่อนจะเดินไปที่รถรถของตัวเองแล้วเปิดมันออกอย่างรวดเร็ว จนฉันคิดว่า...ถ้าแรงกว่านี้ประตูต้องหลุดติดมือเขาออกมาเป็นแน่
ปึง!
และการปิดประตูของเขาก็แรงไม่แพ้กันเลยสักนิด ...แล้วมันก็ดังพอที่จะทำให้ฉันตกใจ...มากๆ ซะด้วย -___-^ รถมินิคูเปอร์นะไม่ใช่รถซาเล้ง จะทำอะไรทำไมไม่เบาๆ บ้างนะ รู้อยู่หรอกว่าบ้านรวย...แต่ฉันกลัวรถงามๆ คันนั้นจะกลายเป็นซากเหล็กไปน่ะสิ
...ช่างเหอะมันไม่ใช่รถของฉัน และ...เงินของฉัน
มินิคูเปอร์แล่นออกไปอย่างรวดเร็วไม่แพ้การปล่อยจรวดเทือกๆนั้น แต่ที่น่าหนักใจก็คือ...คำถามที่เขาทิ้งไว้ให้ฉันคิดมากมายขนาดนั้น
ข้อแรก...เขารู้จักฉันได้อย่างไง
ข้อสอง...ทำไมเขาถึงคุยกับฉันเหมือนรู้จักกันมาก่อน
ข้อสาม...ทำไมเขาถึงคิดว่าเราจะได้เจอกันใหม่
และข้อสุดท้าย...เขาเป็นใครว่ะ =_=?
...เอาเหอะ ...เดี๋ยวก็รู้เองแหละ คิดมากไปก็ไม่รู้อะไรอยู่ดี ช่างเหอะ.-__-^!
-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-
โอ้ย! ตายไรท์เตอร์จะเป็นลม
มีแต่เม้นท์จากเพื่อนๆอ่ะ T^T
เค้าแต่งเค้าก็เหนื่อยนะตัว อ่านแล้วเม้นท์จะขอบพระคุณมาก
ความคิดเห็น