ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : :: OH! My Goddess :: V
:: OH! My Goddess :: V
เช้าวันนี้ฮยอกแจขอให้ซีวอนพาแวะไปที่ร้านขายแว่นก่อนไปมหาลัย ร่างสูงก็ไม่ได้ขัดใจ หรือซักถามอะไรนอกจากทำตามคำบัญชาของคุณหนูฮยอกแจ พอไปถึงฮยอกแจก็ถามหาแว่นสายตากับทางร้าน แต่พอเขาถามกลับว่าสายตาสั้นหรือยาว ก็ทำเอาร่างเล็กมึนงง ขอความช่วยเหลือจากซีวอนที่เดินตามเข้ามา
“นายโรคจิตนั่นสายตายาวหรือสั้น”
“หืม?”
“เราจะซื้อแว่นให้เขา เมื่อวานเราทำแว่นเขาแตก เชวเลือกทีสิ”
“ฉันไม่รู้หรอกว่าหมอนั่นสายตาแบบไหน” ซีวอนส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมส่งสายตาขอโทษไปยังพนักงานร้าน เข้ามาซื้อแต่ไม่รู้รายละเอียดเจริญจริงๆอีฮยอกแจ
“แต่เราต้องซื้อให้เขา” ตวัดบอกเสียงห้วน
“.........” แล้วจะให้กูทำยังไง = = ร่างสูงบ่นในใจก่อนจะยิ้มหวานจูงมือร่างเล็กออกมาด้านนอก อยู่ไปก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะซื้ออันไหน
“เขาคงซื้อเองไปแล้วมั้ง..อย่าไปห่วงเลยน่าฮยอกแจ”
“เอ๊ะ! เราเป็นคนมีความรับผิดชอบ!” สวนกลับปุบก็ทำท่าจะเดินเข้าไปอีกรอบ
“โอเคๆ เดี๋ยวฉันจะลองถามหมอนั่นแล้วจะซื้อให้เอง ฮยอกแจไม่ต้องกังวลหรอก ไปเรียนดีกว่า”
ตัดปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์น่าอายแถวร้านแว่น มือแกร่งกุมข้อมือเรียวให้เดินไปยังรถ เปิดประตูให้นั่งอย่างดี ดูฮยอกแจเองดูจะพอใจกับความคิดของซีวอน ให้ซีวอนเป็นคนจัดการน่ะถูกแล้ว ฮยอกแจไม่ถนัดเรื่องพวกนี้นักหรอก
พอถึงมหาลัย ..ร่างเล็กไม่ได้สนใจอะไรเลยนอกจากเดินตรงลิ่วขึ้นไปบนตึก
แล้วก็ต้องยิ้มเมื่อเจออาจารย์ทงเฮนั่งเตีรยมสอนที่โต๊ะหน้าห้อง..
แต่เพราะถึงเวลาเรียนแล้ว จึงถูกเชวซีวอนมองตาขวางลากไปนั่งโต๊ะ ...วันนี้อาจารย์ทงเฮหล่อกว่าเมื่อวานอีก
“ฮยอกแจเลิกมองหมอนั่นได้แล้ว”
“เราจะมอง อย่ามายุ่งนะ เราอนุญาตให้หวงเราได้แต่ไม่มีสิทธิ์มาห้าม” ร่างเล็กบอกเสียงเด็ดขาดก่อนจะลอบมองไปยังอาจรย์รูปหล่อสำหรับฮยอกแจ วันนี้ไม่มองมาทางฮยอกแจเลย สอนอย่างเดียว ..ดูเท่มาก
ตลอดทั้งวิชา อาหารตาของฮยอกแจก็คืออาจารย์ทงเฮ เรียนรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างก็ไม่สำคัญเพราะยังไงเชวซีวอนก็ต้องช่วย เรื่องเรียนอยู่แล้ว พอหมดชั่วโมงสอนร่างเล็กแทบจะลุกพรวดไปหาคนหน้าห้อง เสียแต่ว่าถูกซีวอนคว้าแขนไว้แน่น
“มีเรียนฮอกกี้นะฮยอกแจ”
“เชวอ่ะ!”
“ไปเรียนๆ เดี๋ยวฉันไปส่ง” โดนซีวอนขวางไม่ให้ไปหาอาจารย์จนหน้างอ แต่ก็ยอมเดินตามการจับจูงของร่างสูงไป อย่างน้อยฮยอกแจก็ชอบเล่นฮอกกี้จนต้องลงเรียนนั่นแหละ ไปเรียนก่อนก็ได้
ซีวอนเองก็ยิ้มพอใจเมื่อกันน้องชายของเขาไม่ให้เข้าใกล้อาจารย์นั่นสำเร็จ เขายังไม่ไว้ใจเลยว่าคนคนนั้นที่ฮยอกแจบอกว่าชอบเป็นคนยังไงดีแค่ไหน เขาไม่ปล่อยฮยอกแจให้ชอบใครสุ่มสี่สุ่มห้าเด็ดขาด ..นี่แหละข้ออ้างที่เค้าขวางฮยอกแจ!
“เรียนเสร็จแล้วฉันจะมารับนะ”
ส่งร่างเล็กถึงที่เรียนเรียบร้อยก็แกว่งกุญแจรถเล่น มองหาที่ที่จะรอฮยอกแจได้ เพราะเขาไม่ได้ลงเรียนฮอกกี้เหมือนฮยอกแจ แต่ก็ป็นหน้าที่ที่ต้องขับรถมาส่ง และรอรับกลับ แต่เพียงแค่คิดว่าจะไปไหน ก็โดนฮยอกแจสะกิดเรียกเสียแล้ว
“เชวว่างแล้วนี่ ไปเช็กดูสิว่านายโรคจิตนั่นใช้แว่นแบบไหน แล้วก็ซื้อให้เค้าเลยทีเดียว“
“หืม?”
“ไปสิ”
………
……………
…………………
ซีวอนรออยู่นานกว่าจะเห็นคยูฮยอนลงมาจากตึกเรียน แล้วพอเดินเข้าไปสังเกตใกล้ๆก็เห็นคนตรงหน้ามีแว่นที่ดูเก่ากว่าอันที่เขา เคยเห็นประดับอยู่ ร่างสูงก้าวเท้าไปขวางทางเดินทันที ทำเอาคยูฮยอนที่เดินก้มหน้าคิดอะไรเพลินๆตกใจ
“ไปดูแว่นใหม่”
“ครับ?”
“ดีใจด้วยนะ ฮยอกแจห่วงนายแล้ว เขาขอให้ฉันพาไปซื้อแว่น ทำได้ดีมากคยูฮยอน” พูดรัวใส่คนแว่นหนา แกล้งทำเป็นลืมเรื่องจูบนั่น ทั้งที่สายตาซีวอนเอาแต่จะจ้องไปริมฝีปากแดงก่ำ ..ทำไมแดงจังวะ - -
“ผมไม่ว่าง..”
“ทำไม”
“.........” อึกอักไม่รู้จะตอบว่าอะไร แต่การจะให้มองหน้าเชวซีวอนดูเป็นเรื่องยากสำหรับคยูฮยอนเกินไป ไม่อยากไปด้วยถึงแม้จะเป็นความห่วงใยจากคุณฮยอกแจก็ตามเถอะ
“ไปขึ้นรถสิ”
“ผม…”
ร่างสูงรู้สึกรำคาญไอ้ท่าทางอึกอักนี่ จึงตัดปัญหาด้วยการคว้ามือเรียวขึ้นรถ..มือเรียว? เฮ่ยยยยยย ทำไมข้อมือเล็กเหมือนฮยอกแจเลยวะ? ผู้ชายภาษาอะไร
พอจับยัดในรถได้ก็ออกตัวทันที แต่คนข้างๆนี่สินั่งซะเกร็ง ตัวแทบจะชิดประตูอีกฝั่งอยู่แล้ว
“ไม่กัดหรอกน่า”
คำเปรยๆจากปากซีวอนทำเอาคยูฮยอนก้มหน้าลง อย่างไม่รู้จะทำตัวยังไง
ซีวอนเองพอเห็นอีกฝ่ายเงียบก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ นอกจากขับรถตรงไปยังร้านแว่นร่านเดิมที่ไปกับฮยอกแจเมื่อเช้า
พอถึงก็ลากคยูฮยอนไปด้านในให้คยูฮยอนบอกรายละเอียดแล้วเลือกแว่นเสียเอง โดยมีเขายืนอยู่ไม่ห่าง จนพนักงานเก็บไส้กล่องให้อย่างดีนั่นแหละ เขาถึงเป็นฝ่ายควักกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาจ่ายเอง
“ผมจ่ายเอง”
“ยุ่ง” ทำเสียงดุใส่ก่อนจะเป็นฝ่ายจ่ายให้เสร็จสรรพ ปล่อยให้คยูฮยอนมองเงียบๆ
พอออกมาจากร้านพร้อมถุงแว่น ร่างสูงก็หยุดเดินหันมามองพลางขมวดคิ้วใส่คยูฮยอน ที่หยุดนิ่งมองซีวอนเหมือนกัน จนมือแกร่งชี้ไปที่ถุงแว่นนั่นแหละ
“เปลี่ยนใส่ซะสิ”
“ครับ” คยูฮยอนรับคำถอดแว่นอันเก่าออก ดูเก้ๆกังๆตรงที่ต้องเปิดถุงแล้วถือแว่นเก่าไปพร้อมกัน ซีวอนจึงเข้ามาช่วยด้วยการดุงแว่นเก่าไปทิ้งขยะหน้าร้านแล้วจัดการเปิดถุง ใหม่ หยิบแว่นออกมาจากกล่อง เตรียมใส่ให้คยูฮยอน ร่างโปร่งมองการกระทำอันฉับเฉงของซีวอนอย่างอึ้งๆ ทำอะไรรวดเร็วไปหมดต่างจากตัวเขามาก
“มะ..มองอะไร”
ซีวอนถามเสียงอึกอักเมื่อเจอดวงตานั่น ...ห่าเอ๊ย! มองกูตาแป๊วเกินไปแล้ว!
……..
………….
………………..
ฮยอกแจเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าหลังจากโทรบอกซีวอนเรียบร้อยว่าเรียนเสร็จไม่ ต้องมารับเพราะอยากกลับเอง แต่ในความเป็นจริงร่างเล็กดันตรงไปยังตึกสถาปัตย์เพื่อหาใครบางคน และใครบางคนที่หาก็กำลังนั่งทำงานอยู่เงียบๆคนเดียวในห้อง
ฮยอกแจมองอาจารย์ทงเฮแล้วแอบยิ้มนิดๆก่อนจะก้าวเท้าไปหยุดตรงหน้าและกระแทกตัวนั่งลงแบบไม่ขออนุญาต
“เราอยากกินไอติม”
ทงเฮที่กำลังเคลียงานของนักศึกษาเงยหน้าขึ้นมามองอย่างงงงวย ...อยู่ๆก็เดินมาบอกว่าอยากกินไอติม?
อะไร??
“ฉันไม่ได้ขายไอติม มาผิดที่แล้ว” ร่างสูงตอบเสียงเฉยเมยแล้วก้มหน้าทำงานต่อ แต่เพียงเสี้ยววินาทีปากกาที่ถืออยู่ก็ถูกแย่งไปด้วยฝีมือฮยอกแจ พอจะเอาคืนก็โยนทิ้งไปต่อหน้า ทงเฮถอนลมหายใจแล้วมองหน้าลูกศิษย์ที่กวนประสาทเขามาตั้งแต่เมื่อวานด้วย ความไม่เข้าใจ
“จะไปไหนก็ไป”
“ไม่ไป เราชอบอาจารย์นะ ..อาจารย์มาเป็นของเราเถอะ”
“หะ?” ร่างสูงส่ายหน้าแล้วเดินไปเก็บปากกา ยิ่งคุยกับเด็กคนนี้ยิ่งกระตุ้นต่อมหงุดหงิดขึ้นมา แต่ฮยอกแจก็ช่างตื๊อเมื่อเดินตามทงเฮจับแขนแกร่งไว้
“พาเราไปกินไอติมหน่อย”
“ไม่ไป ไม่ชอบกิน”
“ได้ไง ต่อไปถ้าเป็นแฟนเราอาจารย์ก็ต้องพาเราไปกินไอติมบ่อยๆอยู่ดี”
ร่างเล็กยืนกราน ทำหน้าจริงจัง ทำเอาทงเฮทำท่าระอาเดินหนีกลับไปทำงาน ฮยอกแจก็ไม่อิดออดเดินตามไปนั่ง จ้องทงเฮทำงาน เดินไปไหน หยิบอะไรก็ตามติดตลอด แม้กระทั่งจะไปเข้าห้องน้ำร่างเล็กก็ยังเดินตามแถมพยายามจับมือทงเฮตลอดเวลา
หนักๆเข้าก็แทบจะก้มลงไปอ่านทุกอย่างที่ทงเฮอ่าน จนสุดท้ายร่างสูงต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ
“กลับบ้านไปได้แล้ว นี่มันเริ่มเย็นแล้ว มาตามแบบนี้ฉันรำคาญ”
“รำคาญเราหรอ”
“ใช่”
“เราไม่แคร์” ร่างเล็กตอบแล้วขยับเก้าอี้ไปนั่งใกล้ๆ กระแซะจนทงเฮแทบไม่มีสมาธิทำงาน สุดท้ายก็กระแทกแฟ้มปิดลงเสียงดัง
“เป็นแฟนเราสิ เราชอบอาจารย์จริงๆนะ”
“เด็ก”
“เราไม่ใช่เด็ก! เราเรียนมหาลัยแล้ว อาจารย์นั่นแหละแก่ ......แต่ก็หล่อ”
“............” ร่างสูงไม่รู้จะทำยังไงกับเด็กไม่รู้จักโตคนนี้ดี พอทำนิ่งเฉยก็ก่อกวนด้วยการเอาเอกสารงานเขาไปเล่น เอาปากกาเขาไปควง เอามือมาจุกจิกจอแจกับเขาตลอดเวลา
..แล้ววันนี้งานจะเสร็จไหมมีไอ้ตัวยุ่งมาวุ่นวายแบบนี้
“นี่ฉันทำงานไม่รู้เรื่องแล้ว!”
“อย่าตวาดเราได้ไหม เราไม่ชอบ”
อ้าว? แล้วไอ้ที่ทำอยู่นี่มันน่าตวาดไหม? พอสะบัดมือออกก็เข้ามาจับอีก เด็กอะไรวะ พ่อแม่ไม่สั่งสอนรึไงทำท่ารำคาญใส่ขนาดนี้ยังเฉยเมยได้อีก ..วันนี้ไม่ต้องทำแม่งแล้วงงงานอะไรเนี่ย
“อาจารย์อย่ามาทำตาเขียวใส่เราได้ไหม แค่ขอเป็นแฟน เราไม่ดีตรงไหนล่ะถึงไม่อยากเป็นแฟนกับเรา”
“อยากเป็นแฟนฉันมากใช่ไหม?” ทงเฮถามเสียงลอดไรฟัน เขาเก็บหนังสือ ตำราทั้งหมดชิดมุมโต๊ะแล้วจ้องหน้าร่างเล็กในระยะใกล้ ..สุดจะทนแล้ว
“มากสิ เราไม่ได้อยากเป็นแฟนใครง่ายๆหรอกนะ”
“แล้วแฟนกันเขาทำกันยังไง รู้ไหม?” หรี่ตาถามร่างเล็กที่จ้องเขาเขม็ง อยากจะรู้นักว่าเด็กอมมืออย่างอีฮยอกแจจะรู้รึเปล่าว่าแฟนกันความหมายจริงๆมันคืออะไร
“ก็ควงแขนพาไปกินไอติมทุกวัน” ฮยอกแจตอบด้วยมั่นใจล้นเปี่ยม มันเป็นความคิดที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก
“แล้วไงอีก?”
“แล้วก็จับมือ”
“แล้วไงอีก?”
“แล้วก็กอด”
“แล้วไงอีก?”
“แล้วก็...จูบป่ะ??”
“จูบยังไง?” ทงเฮถามสวนกลับไป งานการไม่ทำแล้ว อย่างเดียวที่จะทำได้คือกำจัดเด็กคนนี้ไปให้พ้นวงโคจรไม่งั้นก็เอาแต่มา วุ่นวายแบบนี้ไม่เลิก จะเอาให้จนมุมเลย
ร่างเล็กก็ไม่ยอมแพ้ ขยับปลายเท้าเข้ามาใกล้ใช้ความกล้าปิดเปลือกตายื่นใบหน้าขาวใสไปในระยะใกล้ ก่อนประทับริมฝีปากตัวเองลงบนริมฝีปากหนาของอีกฝ่ายแค่สัมผัสแล้วก็ค้างอยู่ อย่างนั้นเกือบนาที ปากแตะปาก..
จนสุดท้ายทงเฮต้องเป็นฝ่ายดันตัวออกเสียเอง
“นี่หรอจูบ??” ร่างสูงแถมทันทีเมื่อริมฝีปากตัวเองเป็นอิสระ แค่เอาปากมาชนกันแล้วค้างแค่นั้นนี่หรอจูบของเด็กอีฮยอกแจ อนุบาลชัดๆแล้วมีหน้ามาขอเป็นแฟน
“ใช่นี่แหละจูบ เราก็จูบแบบนี้ จูบซีวอนเราก็จูบแบบนี้”
“ตกลงอาจารย์เป็นแฟนเราแล้วใช่ไหม”
“ไปหัดจูบให้เป็นก่อนเถอะ”
“หัดทำไม ก็เราจูบเป็นแล้ว อาจารย์อย่าลีลาได้ไหมเราหงุดหงิดนะ เป็นแฟนกันซะที เราอยากกินไอติมแล้ว”
“อยากเป็นแฟนจริงๆรึไง คำว่าแฟนในความหมายของฉันไม่เหมือนที่นายคิดหรอกนะ” เหมือนกำลังหลอกล่อเด็กยังไงยังงั้น แต่อีทงเฮกำลังจะทำให้เด็กคนนี้รู้ว่าโลกที่เขาคิดมันต่างจากโลกความเป็น จริงมากนัก ไม่ใช่ว่าจะเดินขอใครเป็นแฟนก็เดินไปขอ
“อีฮยอกแจคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว” อวดสรรพนามตัวเองโดยไม่ทันได้เห็นแววตาประหลาดของอีกคนที่มองมาราวกับมีแผน
“ก็ดี อยากเป็นนักก็เป็นเลย จะได้สอนให้รู้ว่าเป็นแฟนกันเขาทำกันยังไง” มือเรียวถูกฉุดขึ้นจากที่นั่งแทบไม่ทันตั้งตัว เดินตามจนแทบล้มเมื่อถูกพามายังรถที่ฮยอกแจเข้าใจว่าเป็นรถของอาจารย์ทงเฮ ร่างเล็กยิ้มดีใจรถอาจารย์สวย ฮยอกแจจะนั่งรถคันนี้
ทงเฮเองก็แอบคิดอะไรบางอย่างในใจเพื่อสั่งสอนเด็กดื้อที่อยากเป็นแฟนกับเขานัก
เดี๋ยวจะได้รู้ว่าแฟนกันเขาทำกันยังไง..จะได้เข็ดซะที!
TBC
เช้าวันนี้ฮยอกแจขอให้ซีวอนพาแวะไปที่ร้านขายแว่นก่อนไปมหาลัย ร่างสูงก็ไม่ได้ขัดใจ หรือซักถามอะไรนอกจากทำตามคำบัญชาของคุณหนูฮยอกแจ พอไปถึงฮยอกแจก็ถามหาแว่นสายตากับทางร้าน แต่พอเขาถามกลับว่าสายตาสั้นหรือยาว ก็ทำเอาร่างเล็กมึนงง ขอความช่วยเหลือจากซีวอนที่เดินตามเข้ามา
“นายโรคจิตนั่นสายตายาวหรือสั้น”
“หืม?”
“เราจะซื้อแว่นให้เขา เมื่อวานเราทำแว่นเขาแตก เชวเลือกทีสิ”
“ฉันไม่รู้หรอกว่าหมอนั่นสายตาแบบไหน” ซีวอนส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมส่งสายตาขอโทษไปยังพนักงานร้าน เข้ามาซื้อแต่ไม่รู้รายละเอียดเจริญจริงๆอีฮยอกแจ
“แต่เราต้องซื้อให้เขา” ตวัดบอกเสียงห้วน
“.........” แล้วจะให้กูทำยังไง = = ร่างสูงบ่นในใจก่อนจะยิ้มหวานจูงมือร่างเล็กออกมาด้านนอก อยู่ไปก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะซื้ออันไหน
“เขาคงซื้อเองไปแล้วมั้ง..อย่าไปห่วงเลยน่าฮยอกแจ”
“เอ๊ะ! เราเป็นคนมีความรับผิดชอบ!” สวนกลับปุบก็ทำท่าจะเดินเข้าไปอีกรอบ
“โอเคๆ เดี๋ยวฉันจะลองถามหมอนั่นแล้วจะซื้อให้เอง ฮยอกแจไม่ต้องกังวลหรอก ไปเรียนดีกว่า”
ตัดปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์น่าอายแถวร้านแว่น มือแกร่งกุมข้อมือเรียวให้เดินไปยังรถ เปิดประตูให้นั่งอย่างดี ดูฮยอกแจเองดูจะพอใจกับความคิดของซีวอน ให้ซีวอนเป็นคนจัดการน่ะถูกแล้ว ฮยอกแจไม่ถนัดเรื่องพวกนี้นักหรอก
พอถึงมหาลัย ..ร่างเล็กไม่ได้สนใจอะไรเลยนอกจากเดินตรงลิ่วขึ้นไปบนตึก
แล้วก็ต้องยิ้มเมื่อเจออาจารย์ทงเฮนั่งเตีรยมสอนที่โต๊ะหน้าห้อง..
แต่เพราะถึงเวลาเรียนแล้ว จึงถูกเชวซีวอนมองตาขวางลากไปนั่งโต๊ะ ...วันนี้อาจารย์ทงเฮหล่อกว่าเมื่อวานอีก
“ฮยอกแจเลิกมองหมอนั่นได้แล้ว”
“เราจะมอง อย่ามายุ่งนะ เราอนุญาตให้หวงเราได้แต่ไม่มีสิทธิ์มาห้าม” ร่างเล็กบอกเสียงเด็ดขาดก่อนจะลอบมองไปยังอาจรย์รูปหล่อสำหรับฮยอกแจ วันนี้ไม่มองมาทางฮยอกแจเลย สอนอย่างเดียว ..ดูเท่มาก
ตลอดทั้งวิชา อาหารตาของฮยอกแจก็คืออาจารย์ทงเฮ เรียนรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างก็ไม่สำคัญเพราะยังไงเชวซีวอนก็ต้องช่วย เรื่องเรียนอยู่แล้ว พอหมดชั่วโมงสอนร่างเล็กแทบจะลุกพรวดไปหาคนหน้าห้อง เสียแต่ว่าถูกซีวอนคว้าแขนไว้แน่น
“มีเรียนฮอกกี้นะฮยอกแจ”
“เชวอ่ะ!”
“ไปเรียนๆ เดี๋ยวฉันไปส่ง” โดนซีวอนขวางไม่ให้ไปหาอาจารย์จนหน้างอ แต่ก็ยอมเดินตามการจับจูงของร่างสูงไป อย่างน้อยฮยอกแจก็ชอบเล่นฮอกกี้จนต้องลงเรียนนั่นแหละ ไปเรียนก่อนก็ได้
ซีวอนเองก็ยิ้มพอใจเมื่อกันน้องชายของเขาไม่ให้เข้าใกล้อาจารย์นั่นสำเร็จ เขายังไม่ไว้ใจเลยว่าคนคนนั้นที่ฮยอกแจบอกว่าชอบเป็นคนยังไงดีแค่ไหน เขาไม่ปล่อยฮยอกแจให้ชอบใครสุ่มสี่สุ่มห้าเด็ดขาด ..นี่แหละข้ออ้างที่เค้าขวางฮยอกแจ!
“เรียนเสร็จแล้วฉันจะมารับนะ”
ส่งร่างเล็กถึงที่เรียนเรียบร้อยก็แกว่งกุญแจรถเล่น มองหาที่ที่จะรอฮยอกแจได้ เพราะเขาไม่ได้ลงเรียนฮอกกี้เหมือนฮยอกแจ แต่ก็ป็นหน้าที่ที่ต้องขับรถมาส่ง และรอรับกลับ แต่เพียงแค่คิดว่าจะไปไหน ก็โดนฮยอกแจสะกิดเรียกเสียแล้ว
“เชวว่างแล้วนี่ ไปเช็กดูสิว่านายโรคจิตนั่นใช้แว่นแบบไหน แล้วก็ซื้อให้เค้าเลยทีเดียว“
“หืม?”
“ไปสิ”
………
……………
…………………
ซีวอนรออยู่นานกว่าจะเห็นคยูฮยอนลงมาจากตึกเรียน แล้วพอเดินเข้าไปสังเกตใกล้ๆก็เห็นคนตรงหน้ามีแว่นที่ดูเก่ากว่าอันที่เขา เคยเห็นประดับอยู่ ร่างสูงก้าวเท้าไปขวางทางเดินทันที ทำเอาคยูฮยอนที่เดินก้มหน้าคิดอะไรเพลินๆตกใจ
“ไปดูแว่นใหม่”
“ครับ?”
“ดีใจด้วยนะ ฮยอกแจห่วงนายแล้ว เขาขอให้ฉันพาไปซื้อแว่น ทำได้ดีมากคยูฮยอน” พูดรัวใส่คนแว่นหนา แกล้งทำเป็นลืมเรื่องจูบนั่น ทั้งที่สายตาซีวอนเอาแต่จะจ้องไปริมฝีปากแดงก่ำ ..ทำไมแดงจังวะ - -
“ผมไม่ว่าง..”
“ทำไม”
“.........” อึกอักไม่รู้จะตอบว่าอะไร แต่การจะให้มองหน้าเชวซีวอนดูเป็นเรื่องยากสำหรับคยูฮยอนเกินไป ไม่อยากไปด้วยถึงแม้จะเป็นความห่วงใยจากคุณฮยอกแจก็ตามเถอะ
“ไปขึ้นรถสิ”
“ผม…”
ร่างสูงรู้สึกรำคาญไอ้ท่าทางอึกอักนี่ จึงตัดปัญหาด้วยการคว้ามือเรียวขึ้นรถ..มือเรียว? เฮ่ยยยยยย ทำไมข้อมือเล็กเหมือนฮยอกแจเลยวะ? ผู้ชายภาษาอะไร
พอจับยัดในรถได้ก็ออกตัวทันที แต่คนข้างๆนี่สินั่งซะเกร็ง ตัวแทบจะชิดประตูอีกฝั่งอยู่แล้ว
“ไม่กัดหรอกน่า”
คำเปรยๆจากปากซีวอนทำเอาคยูฮยอนก้มหน้าลง อย่างไม่รู้จะทำตัวยังไง
ซีวอนเองพอเห็นอีกฝ่ายเงียบก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ นอกจากขับรถตรงไปยังร้านแว่นร่านเดิมที่ไปกับฮยอกแจเมื่อเช้า
พอถึงก็ลากคยูฮยอนไปด้านในให้คยูฮยอนบอกรายละเอียดแล้วเลือกแว่นเสียเอง โดยมีเขายืนอยู่ไม่ห่าง จนพนักงานเก็บไส้กล่องให้อย่างดีนั่นแหละ เขาถึงเป็นฝ่ายควักกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาจ่ายเอง
“ผมจ่ายเอง”
“ยุ่ง” ทำเสียงดุใส่ก่อนจะเป็นฝ่ายจ่ายให้เสร็จสรรพ ปล่อยให้คยูฮยอนมองเงียบๆ
พอออกมาจากร้านพร้อมถุงแว่น ร่างสูงก็หยุดเดินหันมามองพลางขมวดคิ้วใส่คยูฮยอน ที่หยุดนิ่งมองซีวอนเหมือนกัน จนมือแกร่งชี้ไปที่ถุงแว่นนั่นแหละ
“เปลี่ยนใส่ซะสิ”
“ครับ” คยูฮยอนรับคำถอดแว่นอันเก่าออก ดูเก้ๆกังๆตรงที่ต้องเปิดถุงแล้วถือแว่นเก่าไปพร้อมกัน ซีวอนจึงเข้ามาช่วยด้วยการดุงแว่นเก่าไปทิ้งขยะหน้าร้านแล้วจัดการเปิดถุง ใหม่ หยิบแว่นออกมาจากกล่อง เตรียมใส่ให้คยูฮยอน ร่างโปร่งมองการกระทำอันฉับเฉงของซีวอนอย่างอึ้งๆ ทำอะไรรวดเร็วไปหมดต่างจากตัวเขามาก
“มะ..มองอะไร”
ซีวอนถามเสียงอึกอักเมื่อเจอดวงตานั่น ...ห่าเอ๊ย! มองกูตาแป๊วเกินไปแล้ว!
……..
………….
………………..
ฮยอกแจเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าหลังจากโทรบอกซีวอนเรียบร้อยว่าเรียนเสร็จไม่ ต้องมารับเพราะอยากกลับเอง แต่ในความเป็นจริงร่างเล็กดันตรงไปยังตึกสถาปัตย์เพื่อหาใครบางคน และใครบางคนที่หาก็กำลังนั่งทำงานอยู่เงียบๆคนเดียวในห้อง
ฮยอกแจมองอาจารย์ทงเฮแล้วแอบยิ้มนิดๆก่อนจะก้าวเท้าไปหยุดตรงหน้าและกระแทกตัวนั่งลงแบบไม่ขออนุญาต
“เราอยากกินไอติม”
ทงเฮที่กำลังเคลียงานของนักศึกษาเงยหน้าขึ้นมามองอย่างงงงวย ...อยู่ๆก็เดินมาบอกว่าอยากกินไอติม?
อะไร??
“ฉันไม่ได้ขายไอติม มาผิดที่แล้ว” ร่างสูงตอบเสียงเฉยเมยแล้วก้มหน้าทำงานต่อ แต่เพียงเสี้ยววินาทีปากกาที่ถืออยู่ก็ถูกแย่งไปด้วยฝีมือฮยอกแจ พอจะเอาคืนก็โยนทิ้งไปต่อหน้า ทงเฮถอนลมหายใจแล้วมองหน้าลูกศิษย์ที่กวนประสาทเขามาตั้งแต่เมื่อวานด้วย ความไม่เข้าใจ
“จะไปไหนก็ไป”
“ไม่ไป เราชอบอาจารย์นะ ..อาจารย์มาเป็นของเราเถอะ”
“หะ?” ร่างสูงส่ายหน้าแล้วเดินไปเก็บปากกา ยิ่งคุยกับเด็กคนนี้ยิ่งกระตุ้นต่อมหงุดหงิดขึ้นมา แต่ฮยอกแจก็ช่างตื๊อเมื่อเดินตามทงเฮจับแขนแกร่งไว้
“พาเราไปกินไอติมหน่อย”
“ไม่ไป ไม่ชอบกิน”
“ได้ไง ต่อไปถ้าเป็นแฟนเราอาจารย์ก็ต้องพาเราไปกินไอติมบ่อยๆอยู่ดี”
ร่างเล็กยืนกราน ทำหน้าจริงจัง ทำเอาทงเฮทำท่าระอาเดินหนีกลับไปทำงาน ฮยอกแจก็ไม่อิดออดเดินตามไปนั่ง จ้องทงเฮทำงาน เดินไปไหน หยิบอะไรก็ตามติดตลอด แม้กระทั่งจะไปเข้าห้องน้ำร่างเล็กก็ยังเดินตามแถมพยายามจับมือทงเฮตลอดเวลา
หนักๆเข้าก็แทบจะก้มลงไปอ่านทุกอย่างที่ทงเฮอ่าน จนสุดท้ายร่างสูงต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ
“กลับบ้านไปได้แล้ว นี่มันเริ่มเย็นแล้ว มาตามแบบนี้ฉันรำคาญ”
“รำคาญเราหรอ”
“ใช่”
“เราไม่แคร์” ร่างเล็กตอบแล้วขยับเก้าอี้ไปนั่งใกล้ๆ กระแซะจนทงเฮแทบไม่มีสมาธิทำงาน สุดท้ายก็กระแทกแฟ้มปิดลงเสียงดัง
“เป็นแฟนเราสิ เราชอบอาจารย์จริงๆนะ”
“เด็ก”
“เราไม่ใช่เด็ก! เราเรียนมหาลัยแล้ว อาจารย์นั่นแหละแก่ ......แต่ก็หล่อ”
“............” ร่างสูงไม่รู้จะทำยังไงกับเด็กไม่รู้จักโตคนนี้ดี พอทำนิ่งเฉยก็ก่อกวนด้วยการเอาเอกสารงานเขาไปเล่น เอาปากกาเขาไปควง เอามือมาจุกจิกจอแจกับเขาตลอดเวลา
..แล้ววันนี้งานจะเสร็จไหมมีไอ้ตัวยุ่งมาวุ่นวายแบบนี้
“นี่ฉันทำงานไม่รู้เรื่องแล้ว!”
“อย่าตวาดเราได้ไหม เราไม่ชอบ”
อ้าว? แล้วไอ้ที่ทำอยู่นี่มันน่าตวาดไหม? พอสะบัดมือออกก็เข้ามาจับอีก เด็กอะไรวะ พ่อแม่ไม่สั่งสอนรึไงทำท่ารำคาญใส่ขนาดนี้ยังเฉยเมยได้อีก ..วันนี้ไม่ต้องทำแม่งแล้วงงงานอะไรเนี่ย
“อาจารย์อย่ามาทำตาเขียวใส่เราได้ไหม แค่ขอเป็นแฟน เราไม่ดีตรงไหนล่ะถึงไม่อยากเป็นแฟนกับเรา”
“อยากเป็นแฟนฉันมากใช่ไหม?” ทงเฮถามเสียงลอดไรฟัน เขาเก็บหนังสือ ตำราทั้งหมดชิดมุมโต๊ะแล้วจ้องหน้าร่างเล็กในระยะใกล้ ..สุดจะทนแล้ว
“มากสิ เราไม่ได้อยากเป็นแฟนใครง่ายๆหรอกนะ”
“แล้วแฟนกันเขาทำกันยังไง รู้ไหม?” หรี่ตาถามร่างเล็กที่จ้องเขาเขม็ง อยากจะรู้นักว่าเด็กอมมืออย่างอีฮยอกแจจะรู้รึเปล่าว่าแฟนกันความหมายจริงๆมันคืออะไร
“ก็ควงแขนพาไปกินไอติมทุกวัน” ฮยอกแจตอบด้วยมั่นใจล้นเปี่ยม มันเป็นความคิดที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก
“แล้วไงอีก?”
“แล้วก็จับมือ”
“แล้วไงอีก?”
“แล้วก็กอด”
“แล้วไงอีก?”
“แล้วก็...จูบป่ะ??”
“จูบยังไง?” ทงเฮถามสวนกลับไป งานการไม่ทำแล้ว อย่างเดียวที่จะทำได้คือกำจัดเด็กคนนี้ไปให้พ้นวงโคจรไม่งั้นก็เอาแต่มา วุ่นวายแบบนี้ไม่เลิก จะเอาให้จนมุมเลย
ร่างเล็กก็ไม่ยอมแพ้ ขยับปลายเท้าเข้ามาใกล้ใช้ความกล้าปิดเปลือกตายื่นใบหน้าขาวใสไปในระยะใกล้ ก่อนประทับริมฝีปากตัวเองลงบนริมฝีปากหนาของอีกฝ่ายแค่สัมผัสแล้วก็ค้างอยู่ อย่างนั้นเกือบนาที ปากแตะปาก..
จนสุดท้ายทงเฮต้องเป็นฝ่ายดันตัวออกเสียเอง
“นี่หรอจูบ??” ร่างสูงแถมทันทีเมื่อริมฝีปากตัวเองเป็นอิสระ แค่เอาปากมาชนกันแล้วค้างแค่นั้นนี่หรอจูบของเด็กอีฮยอกแจ อนุบาลชัดๆแล้วมีหน้ามาขอเป็นแฟน
“ใช่นี่แหละจูบ เราก็จูบแบบนี้ จูบซีวอนเราก็จูบแบบนี้”
“ตกลงอาจารย์เป็นแฟนเราแล้วใช่ไหม”
“ไปหัดจูบให้เป็นก่อนเถอะ”
“หัดทำไม ก็เราจูบเป็นแล้ว อาจารย์อย่าลีลาได้ไหมเราหงุดหงิดนะ เป็นแฟนกันซะที เราอยากกินไอติมแล้ว”
“อยากเป็นแฟนจริงๆรึไง คำว่าแฟนในความหมายของฉันไม่เหมือนที่นายคิดหรอกนะ” เหมือนกำลังหลอกล่อเด็กยังไงยังงั้น แต่อีทงเฮกำลังจะทำให้เด็กคนนี้รู้ว่าโลกที่เขาคิดมันต่างจากโลกความเป็น จริงมากนัก ไม่ใช่ว่าจะเดินขอใครเป็นแฟนก็เดินไปขอ
“อีฮยอกแจคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว” อวดสรรพนามตัวเองโดยไม่ทันได้เห็นแววตาประหลาดของอีกคนที่มองมาราวกับมีแผน
“ก็ดี อยากเป็นนักก็เป็นเลย จะได้สอนให้รู้ว่าเป็นแฟนกันเขาทำกันยังไง” มือเรียวถูกฉุดขึ้นจากที่นั่งแทบไม่ทันตั้งตัว เดินตามจนแทบล้มเมื่อถูกพามายังรถที่ฮยอกแจเข้าใจว่าเป็นรถของอาจารย์ทงเฮ ร่างเล็กยิ้มดีใจรถอาจารย์สวย ฮยอกแจจะนั่งรถคันนี้
ทงเฮเองก็แอบคิดอะไรบางอย่างในใจเพื่อสั่งสอนเด็กดื้อที่อยากเป็นแฟนกับเขานัก
เดี๋ยวจะได้รู้ว่าแฟนกันเขาทำกันยังไง..จะได้เข็ดซะที!
TBC
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น