ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : :: OH! My Goddess :: VI
:: OH! My Goddess :: VI
อีฮยอกแจนั่งรถมาอย่างสบายอารมณ์โดยไม่รู้ว่าจุดหมายคือที่ใด จนกระทั่งรถมาจอดสนิทยังตึกหรูใจกลางเมืองซึ่งเป็นคอนโดของอีทงเฮเอง พอเขาจับลงก็ลง เขาพาเดินจนถึงห้องก็เดินตามอย่างว่าง่าย ทุกอย่างทำได้หมด ก็ฮยอกแจอยากเป็นแฟนกับอาจารย์จริงๆ
“ห้องอาจารย์หร..............................”
พูดไม่ทันจบ ร่างของฮยอกแจก็ถูกดันไปจนติดประตูที่เพิ่งปิดลงกลีบปากบางที่คิดจะเอื้อน เอ่ยถูกกดปิดลงด้วยริมฝีปากหนา จูบย้ำหนักแน่นจนแทบบดขยี้ให้เป็นจุล มือแกร่งรั้งท้ายทอยคนที่กำลังตกใจให้แหงนขึ้น ก่อนลิ้นชิ้นจะเข้าไปชิมรสในโพรงปากหวาน ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดแก้มใสพร้อมกับอาการหายใจหอบหนักเมื่อเจอสิ่งที่ไม่ เคยเจอ
“อื้ออออ!” ราวกับถูกพรากลมหายใจจนต้องดันร่างสูงออกแรงๆแต่เหมือนกับเอามือลูบแผงอกที่เต็มไปมัดกล้ามนั่นเสียมากกว่า
กลีบปากหวานฉ่ำถูกปล่อยเป็นอิสระ กอบโกยหาอากาศที่ถูกช่วงชิง ใบหน้าแดงก่ำจ้องมองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์อย่างตกใจ
“ละ..ลิ้น..อาจารย์เอาลิ้น..เข้ามาในปากเราทำไม!”
“จูบไง...”
“จูบหรอ...ทำไมซีวอนไม่เคยสอนเรา....” ร่างเล็กทำหน้าตกใจจับริมฝีปากตัวเอง ใบหน้าที่ห่างกันไม่ถึงคืบทำให้ทงเฮเห็นทุกอิริยาบถแม้กระทั่งขมวดคิ้วยุ่งๆ ใส่เขา ดวงตาคมมองไปยังริมฝีปากแดงจัดที่เผยอขึ้นเหมือนเรียกร้องเขา ปกติมันก็แดงอยู่แล้วยิ่งถูกเขาบดขยี้ยิ่งแดงเข้าไปใหญ่....
แค่จะจูบให้เด็กคนนี้กลัว และเลิกยุ่ง แต่ตอนนี้ตัวเขาเองกลับไม่สามารถละสายตาจากสิ่งยั่วยวนตรงหน้าได้เลย
สุดท้ายก็บังคับใบหน้าหวานให้รองรับจูบเขาอีกครั้ง...
ยิ่งได้จูบการควบคุมของทงเฮยิ่งต่ำ ยิ่งได้ลิ้มรสยิ่งยากจะถอนตัว เขาได้ยินเสียงหัวใจร่างเล็กเต้นดังจนแทบทะลุออกมาข้างนอก มือที่ดูสะเปะสะปะก็พยายามจะกอดเขาแถมยังซนจนไปสะกิดจุดไวสัมผัสของเขาจนแทบ ทนไม่ไหวอีก
ร่างสูงเกือบยิ้มขำกับความไม่ยอมแพ้ของเด็กนี่...พยายามเอาลิ้นตัวเองแทรกเข้าไปในปากเขาเหมือนที่เขาทำ
สู้เขาไม่ไหวหรอกน่าอีฮยอกแจ..พอโดนขัดใจก็ส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ
“นอกจากจูบรู้ไหม แฟนเขาทำอะไรกันอีก” ผละจากริมฝีปากกระซิบถามข้างกกหูเล็ก
“มะ..ไม่รู้”
“อยากรู้ไหม...”
“อยาก”
มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อร่างเล็ก ลูบวนแถวหน้าท้องจนฮยอกแจปั่นป่วนตัวเกร็ง พยายามยื่นมือตัวเองเข้าไปเพื่อให้อาจารย์หยุด ความรู้สึกประหลาดแบบนี้ แต่สุดท้ายกลับถูกทงเฮรวบมันขึ้นไว้เหนือศีรษะ เสื้อถูกเปลื้องออกรับสัมผัสจากริมฝีปากหนา
“อื้อ..อ่า....อื้อออออ อะ...” เพราะไม่เคยเจออะไรแบบนี้ พอทำอะไรถูกจึงจำต้องปลดปล่อยเสียงระบายความรู้สึกออกมา “อะ..อาจารย์ทำอะไร”
“ไหนว่าอยากเป็นแฟนไง ..ก็นี่แหละสิ่งที่แฟนเขาทำกัน”
“มะ..มันรู้สึกแปลกๆ”
“ถ้ากลัว ..ก็บอกให้หยุดสิ แล้วเราจะได้ไม่ต้องเป็นแฟนกัน” ร่างสูงต่อรองเสียงพร่า เปิดโอกาสให้ตัวเอง
ถ้าฮยอกแจปฏิเสธเขาจะได้หาข้ออ้างให้ร่างเล็กกลับไป เพราะหวาดกลัวแล้วจะได้เลิกมาขอเขาเป็นแฟน แต่อีฮยอกแจกลับส่ายหน้านิ่ง
.ใบหน้าแดงก่ำพยายามซบลงที่อกกว้าง หลับตาปี๋ ..เป็นการบ่งบอกให้รู้ว่าไม่กลับ ไม่กลัว ไม่ไปไหนทั้งนั้น
“เลือกเองนะ..” ร่างเล็กถูกอุ้มไปนอนราบกับเตียงกว้าง ถูกทงเฮขึ้นคร่อมคนตัวเล็กที่ถูกจากการถอดเสื้อผ้ากระจัดกระจายมาตลอดทางจน เปลือยเปล่า รอยจูบที่พร่ำไปทั่ว อีฮยอกแจได้แต่ยุกยิกๆตลอดเวลาราวกับจั๊กจี่ พอถูกแกล้งซุกไซ้ซอกคอก็ร้องครางออกมาซะเสียงดัง จนทงเฮต้องปิดปากแน่น
“อย่าร้องสิ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
“ละ..แล้วเราต้องทำยังไง” ถามด้วยใบหน้าแดงซ่าน ความอยากรู้อยากเห็นและอยากเป็นแฟนกับอาจารย์ต่อให้เป้นเหตุการณ์ณืที่ไม่ เคยเจอมาก่อนในชีวิตก็ทำให้ฮยอกแจยอมทุกอย่างได้จริงๆ
“แค่ร่วมมือ ทำเหมือนที่ฉันทำก็พอ...”กระซิบให้ขนลุกเล่น พอเขายืดตัวขึ้นถอดเสื้อ ฮยอกแจก็ยันตัวลุกขึ้นตามพยายามกอดคอทงเฮ ก่อนจะค่อยๆปีนขึ้นไปนั่งยนตักแล้วจูบทงเฮเหมือนที่ทงเฮทำกับตัวเอง แต่ก็เหมือนกับเอาปากมากกระแทกกันเสียมากกว่า
“ฉันทำเอง”
“เราอยากทำ ..แฟนกันทำกันแบบนี้ไม่ใช่หรอ”
เพียงชั่ววูบในความคิดทงเฮ เด็กคนนี้เป็นเด็กจริงๆ นิสัยล่อลวงง่าย พุ่งชนโดยไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ทำอยู่มันถูกหรือผิด ..ไม่รู้แม้กระทั่งว่าสิ่งที่เขากำลังกระทำอยู่จะทำให้ตัวเองเสียหายแค่ไหน ไร้เดียงสาจนไม่น่าเชื่อ ..ถ้าวันนึงพลาดท่าเสียทีโดนหลอกจะทำยังไง..
“พอเถอะ...”เสียงทุ้มว่าขึ้นเรียบหลังจากปล่อยให้ฮยอกแจทำอะไรตามอำเภอใจ ก่อนจะผลักร่างเล็กออกจากตัก แล้วเสหน้าไปทางอื่น
“ระ เราทำอะไรผิดรึเปล่า” ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมองทงเฮอย่างไม่เข้าใจ เมื่อครู่ที่ถูกผลักออกจากอกนั่น มันเหมือนกับว่ารู้สึกชาไปหมดทั้งตัว เขาไม่รู้จริงๆว่าเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่เด็กฮยอกแจไม่เคยเจออย่างนี้มาก่อน การที่ได้อะไรก็ต้องได้ แต่กับการผลักไสมันก็ไม่ต่างจากการปฏิเสธกลายๆ
“นี่..” ฮยอกแจเอ่ยถามขึ้นเสียงเบาพลางขยับตัวเข้าไปไกลแล้วเขย่าแขนแกร่งเบาๆ หากแต่อีกคนยังคงนิ่งอยู่ แม้เสียงใสจะพร่ำถามไม่หยุดสุดท้ายมือน้อยๆก็ตกลงข้างลำตัว เช่นเดียวกับเรี่ยวแรงที่จะโวยวายเขาก็ไม่รู้ว่ามันหายไปไหนหมด
ห้องทั้งห้องกำลังตกอยู่ในห้วงความเงียบ อี ทงเฮกำลังคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะรู้ตัวอีกทีก็เมื่อรับรู้ถึงแรงสั่นเบาๆด้านข้าง
ทงเฮหันกลับไปมองก่อนจะพบกับร่างเล็กเปลือยเปล่าที่นั่งกอดเข่าอยู่พร้อมกับไหล่บางที่กำลังสั่นไหว
มือแกร่งเอื้อมไปเชยใบหน้าหวานขึ้นมาอย่างอ่อนโยน ฮยอกแจเองก็ยอมเงยหน้าขึ้นอย่างว่าง่าย ดวงตาคมจ้องมองทงเฮอย่างตัดพ้อ ก่อนน้ำใสๆที่กลิ้งคลอหน่วยตาทั้งสองจะร่วงเผลาะลงมาอาบแก้มเนียนทั้งสอง ทำเอาทงเฮรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“เราทำอะไรผิด”
ฮยอกแจยังคงย้ำถามประโยคเดิม พร้อมกับน้ำตาที่ดูท่าว่าจะไหลไม่หยุดโดยที่คนตัวเล็กไม่คิดจะยกมือขึ้นมาเช็ดมันออกแม้แต่น้อย
“ถ้าชอบคนอื่น ก็จะยอมเหมือนที่กำลังยอมฉันอยู่อย่างนั้นน่ะหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นโดยไม่ตอบคำถามข้างต้น พลางไล้นิ้วหัวแม่มือไปที่แก้มใสเบาๆเพื่อเช็ดน้ำตาออก
“แต่ตอนนี้เราชอบ อาจารย์คนเดียวนี่”ฮยอกแจเถียงกลับอย่างมุ่งมั่น
“ก็แค่อาจจะปลื้ม”
“ไม่ เชื่อเราสิ เชื่อเรา” ศีรษะทุยส่ายไปมาจนผมเส้นบางพลิ้วไปตามแรงจนยุ่ง อี ฮยอกแจก็แค่อยากให้อาจารย์เชื่อว่าเขาหลงรักอาจารย์ทงเฮจริงๆ ก็เพราะว่า ทงเฮเป็นคนแรกที่เขารู้สึกแบบนี้เขาถึงยอมที่จะยอมทำตามหมดทุกอย่างไม่ว่า อย่างไรก็ตาม
สุดท้ายก็ต้องรั้งร่างเด็กน้อยเข้ามากอดปลอบ
“ฉันไม่ชอบไอติมหรอกนะ”
“มะ ไม่เป็นไร ไม่ต้องพาเราไปกินก็ได้” รีบบอกออกมาอู้อี้ในอกร่างสูง ด้วยเสียงที่ยังสั่นมือเรียวสวมกอดเเผ่นหลังกว้างเเน่น
“แต่คิดว่าคงต้องซื้อไอติมมาตุนไว้ในตู้เย็นแล้วซิ”
.......….
..........……..
.......................
มือแกร่งของซีวอนเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงหลังจากคุยกับฮยอกแจเสร็จอย่าง เหนื่อยๆ ก่อนจะหันมามองคยูฮยอนอีกครั้ง คนตรงหน้าเขายังคงยืนนิ่ง ต่างคนต่างมอง ซีวอนเองก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ส่วนคยูฮยอนน่ะหรอยิ่งไม่ต้องพูดถึงด้วยซ้ำ เพราะกว่าจะเค้นให้พูดออกมาแต่ละประโยคมันยากเสียยิ่งกว่าจับอี ฮยอกแจแบกใส่หลังเวลาอาละวาดอีก
“แล้วนี่มีเรียนต่อรึเปล่า” เสียงทุ้มถามขึ้นทำงายความเงียบ
“วันนี้ไม่มีแล้วครับ”
“งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งแล้ว กันบ้านอยู่ไหนล่ะ” พูดเองเออเองเสร็จสรรพ ทำเอาคยูฮยอนตาโต เพราะแค่ซีวอนพาเขามาตัดแว่นใหม่ แถมยังแพงกว่าอันเก่าอีกแค่นี้เขาก็เกรงใจมากพอแล้ว
“ไม่ปะ....”
“ตอบไม่ทันใจเลย มานี่” ว่าเสร็จก็จัดการ คว้ามือคยูฮยอนมาถือเอาไว้ก่อนจะลากเดินตรงไปที่ลานจอดรดทันที ส่วนอีกคนก็ได้แต่กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามแรงจูงมากเสียกว่าการมองเส้นทางข้าง หน้า
เช่นเดียวกับนัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นบางที่ลอบมองอุ้งมือของตนเองภายใต้มือสากของอีกคน…
“ขึ้นรถสิ” ซีวอนบอกคยูฮยอนเมื่อเดินมาถึงที่จอดรถ มือแกร่งอีกข้างที่ว่างอยู่ควักกุญแจขึ้นมากดปลดล๊อค แต่ใบหน้าเหรอหลาของคยูฮยอนก็ทำเอาร่างสูงงง
“ขึ้นไปสิ” ว่าขึ้นอีกครั้ง เป็นเชิงสั่ง
“มือผม..ปล่อยก่อนได้ไหมครับ” บอกออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆพลางจ้องมองมือของตนเองที่ยังคงถูกกุมเอาไว้ ซีวอนก้มลงมองตามเสียตานั้นก่อนจะรีบปล่อยมือคยูฮยอนออกราวกับต้องของร้อน
“ก็ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก นายนี่มัน...” ซีวอนมองหน้าอีกคนอย่างอะรา และเมื่อไม่รู้จะสรรหาประโยคอะไรมาพูดต่อก็จัดการเดินอ้อมไปที่ประตูอีกฝั่ง เสียเอง
ก็แค่จับมือลากหมอนั่นมา เหมือนที่เขาลากฮยอกแจบ่อยๆ ไม่เห็นจะแปลก..
เขาก็แค่ชิน..เท่านั้นเอง
แต่ซีวอน จะลืมอะไรไปรึเปล่า ว่าระหว่างอยู่กับฮยอกแจ
ตัวเองมักจะเป็นฝ่ายถูกฮยอกแจลากแทน ?!...
TBC
อีฮยอกแจนั่งรถมาอย่างสบายอารมณ์โดยไม่รู้ว่าจุดหมายคือที่ใด จนกระทั่งรถมาจอดสนิทยังตึกหรูใจกลางเมืองซึ่งเป็นคอนโดของอีทงเฮเอง พอเขาจับลงก็ลง เขาพาเดินจนถึงห้องก็เดินตามอย่างว่าง่าย ทุกอย่างทำได้หมด ก็ฮยอกแจอยากเป็นแฟนกับอาจารย์จริงๆ
“ห้องอาจารย์หร..............................”
พูดไม่ทันจบ ร่างของฮยอกแจก็ถูกดันไปจนติดประตูที่เพิ่งปิดลงกลีบปากบางที่คิดจะเอื้อน เอ่ยถูกกดปิดลงด้วยริมฝีปากหนา จูบย้ำหนักแน่นจนแทบบดขยี้ให้เป็นจุล มือแกร่งรั้งท้ายทอยคนที่กำลังตกใจให้แหงนขึ้น ก่อนลิ้นชิ้นจะเข้าไปชิมรสในโพรงปากหวาน ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดแก้มใสพร้อมกับอาการหายใจหอบหนักเมื่อเจอสิ่งที่ไม่ เคยเจอ
“อื้ออออ!” ราวกับถูกพรากลมหายใจจนต้องดันร่างสูงออกแรงๆแต่เหมือนกับเอามือลูบแผงอกที่เต็มไปมัดกล้ามนั่นเสียมากกว่า
กลีบปากหวานฉ่ำถูกปล่อยเป็นอิสระ กอบโกยหาอากาศที่ถูกช่วงชิง ใบหน้าแดงก่ำจ้องมองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์อย่างตกใจ
“ละ..ลิ้น..อาจารย์เอาลิ้น..เข้ามาในปากเราทำไม!”
“จูบไง...”
“จูบหรอ...ทำไมซีวอนไม่เคยสอนเรา....” ร่างเล็กทำหน้าตกใจจับริมฝีปากตัวเอง ใบหน้าที่ห่างกันไม่ถึงคืบทำให้ทงเฮเห็นทุกอิริยาบถแม้กระทั่งขมวดคิ้วยุ่งๆ ใส่เขา ดวงตาคมมองไปยังริมฝีปากแดงจัดที่เผยอขึ้นเหมือนเรียกร้องเขา ปกติมันก็แดงอยู่แล้วยิ่งถูกเขาบดขยี้ยิ่งแดงเข้าไปใหญ่....
แค่จะจูบให้เด็กคนนี้กลัว และเลิกยุ่ง แต่ตอนนี้ตัวเขาเองกลับไม่สามารถละสายตาจากสิ่งยั่วยวนตรงหน้าได้เลย
สุดท้ายก็บังคับใบหน้าหวานให้รองรับจูบเขาอีกครั้ง...
ยิ่งได้จูบการควบคุมของทงเฮยิ่งต่ำ ยิ่งได้ลิ้มรสยิ่งยากจะถอนตัว เขาได้ยินเสียงหัวใจร่างเล็กเต้นดังจนแทบทะลุออกมาข้างนอก มือที่ดูสะเปะสะปะก็พยายามจะกอดเขาแถมยังซนจนไปสะกิดจุดไวสัมผัสของเขาจนแทบ ทนไม่ไหวอีก
ร่างสูงเกือบยิ้มขำกับความไม่ยอมแพ้ของเด็กนี่...พยายามเอาลิ้นตัวเองแทรกเข้าไปในปากเขาเหมือนที่เขาทำ
สู้เขาไม่ไหวหรอกน่าอีฮยอกแจ..พอโดนขัดใจก็ส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ
“นอกจากจูบรู้ไหม แฟนเขาทำอะไรกันอีก” ผละจากริมฝีปากกระซิบถามข้างกกหูเล็ก
“มะ..ไม่รู้”
“อยากรู้ไหม...”
“อยาก”
มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อร่างเล็ก ลูบวนแถวหน้าท้องจนฮยอกแจปั่นป่วนตัวเกร็ง พยายามยื่นมือตัวเองเข้าไปเพื่อให้อาจารย์หยุด ความรู้สึกประหลาดแบบนี้ แต่สุดท้ายกลับถูกทงเฮรวบมันขึ้นไว้เหนือศีรษะ เสื้อถูกเปลื้องออกรับสัมผัสจากริมฝีปากหนา
“อื้อ..อ่า....อื้อออออ อะ...” เพราะไม่เคยเจออะไรแบบนี้ พอทำอะไรถูกจึงจำต้องปลดปล่อยเสียงระบายความรู้สึกออกมา “อะ..อาจารย์ทำอะไร”
“ไหนว่าอยากเป็นแฟนไง ..ก็นี่แหละสิ่งที่แฟนเขาทำกัน”
“มะ..มันรู้สึกแปลกๆ”
“ถ้ากลัว ..ก็บอกให้หยุดสิ แล้วเราจะได้ไม่ต้องเป็นแฟนกัน” ร่างสูงต่อรองเสียงพร่า เปิดโอกาสให้ตัวเอง
ถ้าฮยอกแจปฏิเสธเขาจะได้หาข้ออ้างให้ร่างเล็กกลับไป เพราะหวาดกลัวแล้วจะได้เลิกมาขอเขาเป็นแฟน แต่อีฮยอกแจกลับส่ายหน้านิ่ง
.ใบหน้าแดงก่ำพยายามซบลงที่อกกว้าง หลับตาปี๋ ..เป็นการบ่งบอกให้รู้ว่าไม่กลับ ไม่กลัว ไม่ไปไหนทั้งนั้น
“เลือกเองนะ..” ร่างเล็กถูกอุ้มไปนอนราบกับเตียงกว้าง ถูกทงเฮขึ้นคร่อมคนตัวเล็กที่ถูกจากการถอดเสื้อผ้ากระจัดกระจายมาตลอดทางจน เปลือยเปล่า รอยจูบที่พร่ำไปทั่ว อีฮยอกแจได้แต่ยุกยิกๆตลอดเวลาราวกับจั๊กจี่ พอถูกแกล้งซุกไซ้ซอกคอก็ร้องครางออกมาซะเสียงดัง จนทงเฮต้องปิดปากแน่น
“อย่าร้องสิ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
“ละ..แล้วเราต้องทำยังไง” ถามด้วยใบหน้าแดงซ่าน ความอยากรู้อยากเห็นและอยากเป็นแฟนกับอาจารย์ต่อให้เป้นเหตุการณ์ณืที่ไม่ เคยเจอมาก่อนในชีวิตก็ทำให้ฮยอกแจยอมทุกอย่างได้จริงๆ
“แค่ร่วมมือ ทำเหมือนที่ฉันทำก็พอ...”กระซิบให้ขนลุกเล่น พอเขายืดตัวขึ้นถอดเสื้อ ฮยอกแจก็ยันตัวลุกขึ้นตามพยายามกอดคอทงเฮ ก่อนจะค่อยๆปีนขึ้นไปนั่งยนตักแล้วจูบทงเฮเหมือนที่ทงเฮทำกับตัวเอง แต่ก็เหมือนกับเอาปากมากกระแทกกันเสียมากกว่า
“ฉันทำเอง”
“เราอยากทำ ..แฟนกันทำกันแบบนี้ไม่ใช่หรอ”
เพียงชั่ววูบในความคิดทงเฮ เด็กคนนี้เป็นเด็กจริงๆ นิสัยล่อลวงง่าย พุ่งชนโดยไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ทำอยู่มันถูกหรือผิด ..ไม่รู้แม้กระทั่งว่าสิ่งที่เขากำลังกระทำอยู่จะทำให้ตัวเองเสียหายแค่ไหน ไร้เดียงสาจนไม่น่าเชื่อ ..ถ้าวันนึงพลาดท่าเสียทีโดนหลอกจะทำยังไง..
“พอเถอะ...”เสียงทุ้มว่าขึ้นเรียบหลังจากปล่อยให้ฮยอกแจทำอะไรตามอำเภอใจ ก่อนจะผลักร่างเล็กออกจากตัก แล้วเสหน้าไปทางอื่น
“ระ เราทำอะไรผิดรึเปล่า” ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมองทงเฮอย่างไม่เข้าใจ เมื่อครู่ที่ถูกผลักออกจากอกนั่น มันเหมือนกับว่ารู้สึกชาไปหมดทั้งตัว เขาไม่รู้จริงๆว่าเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่เด็กฮยอกแจไม่เคยเจออย่างนี้มาก่อน การที่ได้อะไรก็ต้องได้ แต่กับการผลักไสมันก็ไม่ต่างจากการปฏิเสธกลายๆ
“นี่..” ฮยอกแจเอ่ยถามขึ้นเสียงเบาพลางขยับตัวเข้าไปไกลแล้วเขย่าแขนแกร่งเบาๆ หากแต่อีกคนยังคงนิ่งอยู่ แม้เสียงใสจะพร่ำถามไม่หยุดสุดท้ายมือน้อยๆก็ตกลงข้างลำตัว เช่นเดียวกับเรี่ยวแรงที่จะโวยวายเขาก็ไม่รู้ว่ามันหายไปไหนหมด
ห้องทั้งห้องกำลังตกอยู่ในห้วงความเงียบ อี ทงเฮกำลังคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะรู้ตัวอีกทีก็เมื่อรับรู้ถึงแรงสั่นเบาๆด้านข้าง
ทงเฮหันกลับไปมองก่อนจะพบกับร่างเล็กเปลือยเปล่าที่นั่งกอดเข่าอยู่พร้อมกับไหล่บางที่กำลังสั่นไหว
มือแกร่งเอื้อมไปเชยใบหน้าหวานขึ้นมาอย่างอ่อนโยน ฮยอกแจเองก็ยอมเงยหน้าขึ้นอย่างว่าง่าย ดวงตาคมจ้องมองทงเฮอย่างตัดพ้อ ก่อนน้ำใสๆที่กลิ้งคลอหน่วยตาทั้งสองจะร่วงเผลาะลงมาอาบแก้มเนียนทั้งสอง ทำเอาทงเฮรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“เราทำอะไรผิด”
ฮยอกแจยังคงย้ำถามประโยคเดิม พร้อมกับน้ำตาที่ดูท่าว่าจะไหลไม่หยุดโดยที่คนตัวเล็กไม่คิดจะยกมือขึ้นมาเช็ดมันออกแม้แต่น้อย
“ถ้าชอบคนอื่น ก็จะยอมเหมือนที่กำลังยอมฉันอยู่อย่างนั้นน่ะหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นโดยไม่ตอบคำถามข้างต้น พลางไล้นิ้วหัวแม่มือไปที่แก้มใสเบาๆเพื่อเช็ดน้ำตาออก
“แต่ตอนนี้เราชอบ อาจารย์คนเดียวนี่”ฮยอกแจเถียงกลับอย่างมุ่งมั่น
“ก็แค่อาจจะปลื้ม”
“ไม่ เชื่อเราสิ เชื่อเรา” ศีรษะทุยส่ายไปมาจนผมเส้นบางพลิ้วไปตามแรงจนยุ่ง อี ฮยอกแจก็แค่อยากให้อาจารย์เชื่อว่าเขาหลงรักอาจารย์ทงเฮจริงๆ ก็เพราะว่า ทงเฮเป็นคนแรกที่เขารู้สึกแบบนี้เขาถึงยอมที่จะยอมทำตามหมดทุกอย่างไม่ว่า อย่างไรก็ตาม
สุดท้ายก็ต้องรั้งร่างเด็กน้อยเข้ามากอดปลอบ
“ฉันไม่ชอบไอติมหรอกนะ”
“มะ ไม่เป็นไร ไม่ต้องพาเราไปกินก็ได้” รีบบอกออกมาอู้อี้ในอกร่างสูง ด้วยเสียงที่ยังสั่นมือเรียวสวมกอดเเผ่นหลังกว้างเเน่น
“แต่คิดว่าคงต้องซื้อไอติมมาตุนไว้ในตู้เย็นแล้วซิ”
.......….
..........……..
.......................
มือแกร่งของซีวอนเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงหลังจากคุยกับฮยอกแจเสร็จอย่าง เหนื่อยๆ ก่อนจะหันมามองคยูฮยอนอีกครั้ง คนตรงหน้าเขายังคงยืนนิ่ง ต่างคนต่างมอง ซีวอนเองก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ส่วนคยูฮยอนน่ะหรอยิ่งไม่ต้องพูดถึงด้วยซ้ำ เพราะกว่าจะเค้นให้พูดออกมาแต่ละประโยคมันยากเสียยิ่งกว่าจับอี ฮยอกแจแบกใส่หลังเวลาอาละวาดอีก
“แล้วนี่มีเรียนต่อรึเปล่า” เสียงทุ้มถามขึ้นทำงายความเงียบ
“วันนี้ไม่มีแล้วครับ”
“งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งแล้ว กันบ้านอยู่ไหนล่ะ” พูดเองเออเองเสร็จสรรพ ทำเอาคยูฮยอนตาโต เพราะแค่ซีวอนพาเขามาตัดแว่นใหม่ แถมยังแพงกว่าอันเก่าอีกแค่นี้เขาก็เกรงใจมากพอแล้ว
“ไม่ปะ....”
“ตอบไม่ทันใจเลย มานี่” ว่าเสร็จก็จัดการ คว้ามือคยูฮยอนมาถือเอาไว้ก่อนจะลากเดินตรงไปที่ลานจอดรดทันที ส่วนอีกคนก็ได้แต่กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามแรงจูงมากเสียกว่าการมองเส้นทางข้าง หน้า
เช่นเดียวกับนัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นบางที่ลอบมองอุ้งมือของตนเองภายใต้มือสากของอีกคน…
“ขึ้นรถสิ” ซีวอนบอกคยูฮยอนเมื่อเดินมาถึงที่จอดรถ มือแกร่งอีกข้างที่ว่างอยู่ควักกุญแจขึ้นมากดปลดล๊อค แต่ใบหน้าเหรอหลาของคยูฮยอนก็ทำเอาร่างสูงงง
“ขึ้นไปสิ” ว่าขึ้นอีกครั้ง เป็นเชิงสั่ง
“มือผม..ปล่อยก่อนได้ไหมครับ” บอกออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆพลางจ้องมองมือของตนเองที่ยังคงถูกกุมเอาไว้ ซีวอนก้มลงมองตามเสียตานั้นก่อนจะรีบปล่อยมือคยูฮยอนออกราวกับต้องของร้อน
“ก็ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก นายนี่มัน...” ซีวอนมองหน้าอีกคนอย่างอะรา และเมื่อไม่รู้จะสรรหาประโยคอะไรมาพูดต่อก็จัดการเดินอ้อมไปที่ประตูอีกฝั่ง เสียเอง
ก็แค่จับมือลากหมอนั่นมา เหมือนที่เขาลากฮยอกแจบ่อยๆ ไม่เห็นจะแปลก..
เขาก็แค่ชิน..เท่านั้นเอง
แต่ซีวอน จะลืมอะไรไปรึเปล่า ว่าระหว่างอยู่กับฮยอกแจ
ตัวเองมักจะเป็นฝ่ายถูกฮยอกแจลากแทน ?!...
TBC
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น