ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BE DIFFERENT [kaido x kyungsoo]

    ลำดับตอนที่ #3 : BE DIFFERENT - 2

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 56





    BE DIFFERENT – 2

     

     

     

                จะไปก็ไปเลยพี่บ้า

              น้ำเสียงเล็กๆ ของเด็กแปดขวบที่มีทั้งความโกรธเกรี้ยว แสนงอน และน้อยใจผสานกันออกมาในประโยคเมื่อครู่ หลังจากแอบมองจากหน้าต่างห้องนอนสีฟ้าอ่อนของตัวเอง

     

              พี่ชายตัวสูง กับ ฝาแฝดของเขายืนกอดกันแน่น คงจะอำลากันสินะ ก็พี่ไคจะไปเรียนที่อังกฤษนี่คุณแม่บอกว่าที่อังกฤษมีอะไรให้ทำมากมาย มีสังคมที่ดี อาหารอร่อยๆ ความทันสมัยต่างๆนาๆ

     

     

     

     

              เดี๋ยวก็คงจะลืมกัน

     

     

     

              เด็กน้อยคิดได้ดังนี้ในใจก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ อยากจะไปก็ไปเลย ! ถึงแม้ในใจเขาจะเหงา เวลาที่เขาโดนคุณแม่ตีใครจะคอยห้าม ใครจะทายาให้ ใครจะคอยโอ๋ ใครจะมาเล่นด้วย       

             

     

              พี่ชายตัวสูงนั่นไม่คิดถึงเขาบ้างหรืออย่างไร ?

     

     

              เฮอะ คนใจร้าย

     

             

             

     

                เรื่องราวความทรงจำสุดท้ายที่หลงเหลือก่อนพี่ชายที่ชื่อไคจะไปอังกฤษวกวนกลับมาในหัวใจของดีโออีกครั้ง ถึงจะเด็กแค่นั้นแต่ก็พอนึกออกว่าเขารู้สึกแย่แค่ไหน แต่เขาก็เลิกคิดถึงพี่ชายคนนี้ไม่ได้อยู่ดี

    หลังจากได้ยินคำที่พี่หมอหน้าสวยพูดว่า คนที่ตัวเองคิดถึงมาตลอดกำลังจะกลับมาจากอังกฤษ ในใจมันก็ลิงโลดจนบอกไม่ถูก

     

     

     

     

                อาทิตย์หน้างั้นหรอ ?

     

     

                ดีโอคิดในใจ เขาควรทำตัวอย่างไรเมื่อพบกับพี่ชายตัวสูงนั่นอีกครั้ง พี่ชายใจดีของเขาจะเปลี่ยนไปมากไหมนะ ? จะยังจำเด็กข้างบ้านตัวอ้วนป้อมในสมัยก่อนที่ตอนนี้ไม่ได้อ้วนป้อมน่าฟัดแบบนั้นแล้วได้หรือเปล่า จะวิ่งเข้ามากอดไหม ?

     

     

     

     

                และระหว่างตัวเขากับคยองซู

     

     

     

     

     

                พี่ไคจะเลือกกอดใครก่อนนะ ?

     

     

                คงจะเป็นคยองซูสินะ ก็คยองซูน่ารักกว่าเขา ไม่ดื้อ พูดจาก็เพราะ แถมยังกอดล่ำลากันเสียดิบดีก่อนที่พี่ไคจะไปอังกฤษนี่ ไอ้เด็กดื้อที่พูดจาไม่น่ารักอย่างเขา ใครจะอยากกอด เฮอะ

                .

     

               

     

                “คยองซู” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกอย่างอ่อนโยนเอ่ยเรียกเจ้าของมือขาวนุ่มนิ่มที่กำลังแตะสัมผัสดอกกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์

                “อ่าว สวัสดีฮะพี่มินโฮ อ่า ... นี่ได้เวลาตรวจร่างกายของคยองอีกแล้วหรอฮะ” ขาเล็กก้าวเดินไปหาผู้ชายตัวสูงหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง

     

                ชเวมินโฮ ลูกชายของคุณหมอชเว

                แพทย์เฉพาะทางเกี่ยวกับโรคที่คยองซูเคยเป็น

     

     

                คยองซูออกจะไม่เข้าใจนิดหน่อยว่าทำไมพี่มินโฮคนนี้ถึงคอยติดสอยห้อยตามพ่อของเขามาทุกครั้ง จะว่ามาศึกษาหรือฝึกหัดการเป็นแพทย์ที่ดีนั้นก็ไม่น่าใช่ เพราะพี่มินโฮไม่ได้เป็นหมอ หากแต่เขาก็รู้สึกดีไม่น้อยเวลาที่มินโฮมา เพราะเขาจะได้มีเพื่อนคุย เพื่อนเล่น คอยปรึกษาเรื่องต่างๆ เรียกได้ว่าพี่ชายคนนี้เข้าใจเขามากกว่าพี่ชายฝาแฝดของเขาเองเสียอีก

                รายนั้นเอาแต่คอยพูดจาร้ายกาจ เสียดสี เหน็บแนมให้เขารู้สึกแย่ เพราะไม่ว่าจะเป็นความสามารถด้านใด ดีโอก็เหนือกว่าเขาทุกด้าน และนี่คือความจริงที่แม้เขาไม่อยากยอมรับ แต่ก็จำเป็นต้องยอมรับ

               

     

     

     

     

     

                ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันกลายเป็นจุดสีดำทะมึนในหัวใจของคยองซูไปแล้ว

     

     

     

     

                “วันนี้คุณพ่อพี่ไม่ได้มาหรอกครับ อีกอย่างยังไม่ถึงกำหนดตรวจร่างกายของคยองซูด้วย พี่แค่อยากมาหาคยองซูก็เท่านั้น ฮ่ะๆ” ใบหน้าหล่อฉายแววเขินอายเล็กๆ มือหนาถูกส่งไปเกาท้ายทอยแก้เขิน

     

     

                หากแต่คยองซูออกจะอึดอัดเล็กน้อยในท่าทางเคอะเขินของผู้ชายตัวสูงตรงหน้า

     

     

                ทำไมคยองซูจะไม่รู้ว่า มินโฮ แอบพอใจในตัวเขาอยู่ และเขาก็รู้ตัวดีว่า เขาไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับคนตรงหน้านอกจากคำว่าพี่ชายคนสนิทเอาเสียเลย

     

     

                หัวใจอันอ่อนล้าของคยองซูไม่เคยมีใครเข้ามาได้ นอกจากคนๆนั้น

     

     

     

     

     

                คนที่อีกไม่นานเขาก็จะได้เจอ

     

     

     

     

     

     

     

     

                สิ้นสุดกันเสียที สิ้นสุดการรอคอย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              พี่ไคฮึกๆ จะทิ้งคยองหรอฮะ ? เสียงสะอึกสะอื้นของเด็กแปดขวบดังลั่น พร้อมกับมือน้อยที่กุมชายเสื้อของคนเป็นพี่ไว้แน่น

              พี่ไม่ได้ทิ้งคยองนะครับ พี่แค่จะไปเรียนต่อเสียงทุ้มที่ยังไม่แตกหนุ่มดีเอ่ยออกมา

              ตะ แต่ ฮึก คยอง คยองคิดถึงพี่ไค ฮึกๆ

              ‘พี่ก็คิดถึงคยองครับ คิดถึงดีโอด้วย คิดถึงคุณน้า คิดถึงทุกคน แต่พี่จำเป็นต้องไป เด็กน้อยต้องเข้าใจพี่นะครับนิ้วเรียวปาดเช็ดน้ำตาบนพวงแก้มขาวที่ไหลออกมาไม่หยุด

              คยองจะรอพี่ไคกลับมานะฮะ พี่ไคต้องกลับมานะฮะ!’ เด็กตัวเล็กพยายามทำน้ำเสียงให้หนักแน่นที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

                แน่นอนครับ รอพี่ชายคนนี้ด้วยแล้วกัน

     

     

     

                ไม่เคย ไม่รอ

     

     

     

     

                พี่ไค ... ยังสำคัญที่สุดในหัวใจของคยองซูเสมอ

     

     

     

                “พี่ซื้อขนมมาฝากคยองซูด้วยนะครับ” มินโฮเอ่ยด้วยรอยยิ้มพร้อมชูถุงขนมสีหวานในมือ

                “ขอบคุณฮะ คราวหลังพี่มินโฮไม่ต้องลำบากซื้ออะไรมาให้คยองหรอกฮะ พี่มินโฮซื้อมาทีไร ดีโอก็แย่งไปทานหมด...” ใบหน้าหวานก้มลงพร้อมเอ่ยเสียงเบาตอนท้ายประโยคเมื่อนึกถึงพี่ชายฝาแฝดของตัวเอง

                “หือ ทำไมคยองซูไม่เคยบอกพี่ล่ะครับ ว่าดีโอทำแบบนั้น ?” คิ้วหนาขมวดทันที เขาเองรู้สึกไม่พอใจเด็กดีโอนั่นอยู่แล้ว เด็กอะไรช่างหัวดื้อขนาดนั้น แตกต่างกับคยองซูของเขาสิ้นดี

                “อย่าโกรธดีโอเลยนะฮะ ดีโอชอบแกล้งคยองแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถ้าคยองชอบอะไรดีโอก็จะแย่งมันไปตลอด คยองชิน”

                “คยองซูตอบโต้บ้างสิครับ

     

     

     

     

    อะไรที่เป็นของคยองซู ก็อย่าให้ดีโอเอาไปได้

     

     

               

               

     

                                                                                                          

     

                “ดีโอ พี่หมอแทมินบอกแม่ว่าลูกอยากเข้าคณะศิลปกรรมหรอ ?” คุณแม่เอ่ยถามดีโอขณะรับประทานอาหารเย็นกันสามคนแม่ลูก

                คุณพ่อของดีโอและคยองซูเสียไปตั้งแต่ยังเด็ก แต่ทั้งเงินประกัน และทรัพย์สินส่วนตัวที่คุณพ่อของทั้งสองมอบไว้ให้มันมากมายจนสามารถเลี้ยงดูทั้งสามชีวิตได้อย่างสุขสบายไปตลอด

     

                “ฮะ แต่ผมเดาว่าคุณแม่ไม่อยากให้ผมเรียนหรอก” ดีโอเอ่ยตอบขณะที่ยังให้ความสนใจอาหารตรงหน้ามากกว่า

                “แม่ไม่ยักรู้ว่าแกชอบร้องเพลง แต่ยังไงซะแกก็คิดถูกแล้วเรื่องที่แม่ไม่อยากให้เรียน แม่อยากให้แกเข้าวิศวะมากกว่า สมองดีๆอย่างแก ถ้าต้องไปร้องเพลงแบบนั้นคงน่าเสียดายแย่”

     ดีโอพ่นลมหายใจเบาๆอย่างเหนื่อยหน่าย เขารู้อยู่แล้วว่าคุณแม่ไม่มีทางให้เขาเรียนร้องเพลงจริงจังหรอก ดูได้จากตารางเรียนพิเศษนอกจากฟิสิกส์เคมีชีวะที่ต้องเรียนกับพี่หมอแทมิน ไหนยังจะมีวิชาพื้นฐานวิศวกรรมที่เพิ่งจะปิดคอร์สไปเมื่อเดือนก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะว่าดีโอเป็นเด็กอัจฉริยะล่ะก็คงได้ตายคาห้องเรียนไปแล้ว

    ดวงตากลมหม่นของอีกคนเพ่งมองอาหารในจานอย่างไม่รู้จะมองไปที่ใดดี ร่างกายรู้สึกลีบเล็กลงไปเมื่อได้ยินบทสนทนาของคุณแม่และพี่ชายฝาแฝดตัวเอง เขารู้ดีว่าคนอ่อนแออย่างเขาไม่มีทางเป็นความหวังให้ผู้เป็นแม่ได้เลย คุณแม่คงไม่เคยภูมิใจในตัวเขา ... คยองซูผู้อ่อนแอ และเป็นภาระของครอบครัว

     

    “ไม่ต้องห่วงหรอกฮะ ยังไงผมก็เขาวิศวะให้แม่ได้อยู่แล้ว ...” แววตาที่ดูนึกสนุกของดีโอจ้องไปยังน้องชายฝาแฝดของตัวเองที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะเอ่ยคำพูดร้ายกาจออกมา

     

    “แต่น้องคยองซูสิครับ โง่ๆแบบนี้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ หึหึ”

     

     

     

    ร้ายกาจจริงๆ

     

     

                “ดีโอ! ทำไมแกถึงเป็นคนพูดจาร้ายกาจแบบนี้นะ ... คยองซูไม่เป็นไรนะลูก ลูกไม่ต้องเข้ามหาวิทยาลัยดีๆให้ได้เหมือนดีโอก็ได้ แค่ลูกร่างกายแข็งแรงแม่ก็ดีใจแล้ว”

                “ฮะ...”  คนตัวเล็กก้มหน้าตอบ น้ำตาที่เก็บไว้ทำท่าเหมือนจะไหลออกมาอีกครั้ง

                “ก็หายป่วยตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือไง ทำไมไม่ฉลาดสักทีละ ?”

                “ดีโอ!

     

                คำพูดที่เหมือนปลอบใจ กลับทำให้คยองซูรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่าลงไปอีก ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้คนรอบข้างภูมิใจ กลับเป็นตัวอะไรสักอย่างที่คนอื่นต้องคอยมาดูแล เป็นคนโง่ เป็นคนอ่อนแอ ไม่ได้มีสติปัญญาที่ฉลาดหลักแหลมเหมือนพี่ชาย ทั้งๆที่เป็นแฝดกัน

     

     

     

     

                ดีโอนึกอยากจะตบปากเสียๆ ของตัวเองให้หลุดติดมือออกมา แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนใจร้ายเหมือนกับคำพูดที่พ่นออกมา เขาก็แค่คนที่พูดแล้วไม่ค่อยนึกถึงจิตใจคนฟัง แล้วเพิ่งจะมาสำนึกได้ทีหลังว่าไม่ควรพูดออกไป และเหยื่อที่ต้องคอยรับฟังคำพูดอันร้ายกาจของเขาอยู่เสมอก็ไม่ใช่ใครที่ไหน

     

     

                คยองซู น้องชายฝาแฝดของนั่นแหละ

     

     

                ก๊อก ก๊อก ก๊อก

                กำปั้นเล็กๆเคาะลงไปบนบานประตูไม้สีขาวที่หน้าห้องมีตัวอักษรน่ารักๆติดอยู่ว่า ‘KYUNG’ บุคคลหน้าห้องยืนบิดไปบิดมา เกาหัวตัวเองอย่างไม่รู้จะทำอะไร รออีกคนในห้องมาเปิดประตู เพียงไม่นานเสียงแกร๊กๆที่ลูกบิดก็ดังขึ้น ก่อนจะปรากฏอีกคนที่หน้าเหมือนกัน

     

                “ฮะ ? ... เอ่อ ดีโอ นายมีอะไร ?” คยองซูเอ่ยถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย

                “มีอะไรล่ะ ทะ ทำไมฉันจะมาเคาะห้องฝาแฝดตัวเองไม่ได้เลยหรือไง ?” ดีโอเชิดหน้าเอ่ยเสียงดังแถมยังพูดติดๆขัดๆ

                “ปกติดีโอเคยมาเคาะห้องคยองเสียที่ไหนล่ะ ถ้าไม่มีอะไรก็ไปเถอะ คยองจะอ่านหนังสือ”

    คยองซูมักจะแทนตัวเขาด้วยชื่อ และเรียกดีโอด้วยชื่อเหมือนตอนเด็กๆมากกว่า มีแต่ดีโอที่ชอบเรียกคยองซูว่านาย และแทนตัวเองกับคนอื่นว่าผม

                “เจ้าโง่ ! คนเขามาเคาะห้องก็แสดงว่าต้องมีเรื่องสิ”

                “ถ้าเรื่องของดีโอคือการมาด่ามาว่าคยองแบบนี้ คราวหลังก็ไม่ต้องมาเคาะหรอก” มือเล็กเตรียมจะปิดประตู แต่ก็ชะงักเสียก่อนเมื่อได้ฟังคำพูดของอีกคน

                “เออๆ ขอโทษก็ได้ ฉันก็พูดไปอย่างนั้นแหละ ก็แค่อยากให้นายแข็งแรง ได้เรียนมหาวิทยาลัย ทำตัวปวกเปียกอยู่ได้ เมื่อไหร่จะได้ไปใช้ชีวิตข้างนอกเหมือนคนอื่นเขาล่ะ” ปากรูปหัวใจเผยอน้อยๆหวังกอบโกยอากาศเข้าปอดหลังจากที่ตัวเองพูดรัวๆ จนทำให้อีกคนที่ยืนฟังก็อึ้งไปเช่นกัน

                “ดะ ดีโอ หวังดีกับคยองหรอ ?” ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วเบิกกว้างขึ้นอีก

                “เจ้างี่เง่านี่ ! ฉันเป็นพี่นายนะ ทำไมฉันจะไม่หวังดีกับนายเล่า” ดีโอเอ่ยเสียงดัง

                “เอ่อ ขอบใจนะ คยองนึกแล้วว่าดีโอคงไม่ใจร้ายกับคยองหรอก” 

                “ฉะ ฉันก็เป็นคนดีนะ นายชอบมองฉันในแง่ร้ายอยู่เรื่อย ! แล้วนายอ่านหนังสืออยู่หรอ พรุ่งนี้จะสอบวัดระดับใช่หรือเปล่า” พูดจบสายตาก็สอดส่ายเข้าไปในห้อง

                “อืมใช่”

                “งั้นฉันติวให้ รับรองว่าครั้งนี้นายสอบผ่านแน่นอน !

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “ไค ! ได้ข่าวว่านายจะกลับเกาหลีแล้วหรอ” คริสตัลเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาในห้อง ความสนิทของพวกเขาทั้งสองคนมันมากเกินกว่าจะคำนึงถึงมารยาทแล้ว

     

     

                แต่นั่นอาจเป็นความคิดของคริสตัลเพียงคนเดียว

     

     

                “คริสตัล ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้วว่าให้เคาะประตูก่อน” ใบหน้าหล่อแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายผู้หญิงตรงหน้าออกมาอย่างชัดเจน

                คริสตัลเป็นเพื่อนของไคที่มาเจอที่นี่ ตั้งแต่ตอนเขาอยู่ไฮสคูล เธอเป็นสาวน้อยหน้าตาสวย หุ่นก็ดี บ้านรวย ครอบครัวทำธุรกิจอยู่ที่อังกฤษ แถมยังมีคฤหาสน์หลังเบ้อเร่ออยู่ที่นี่อีกต่างหาก และที่สำคัญ

     

     

     

    ไคเคยออกเดทกับเธอเมื่อตอนอยู่ไฮสคูลปีสุดท้าย

     

     

     

     

     

    และจบความสัมพันธ์ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว

     

     

     

    ด้วยความกลัวว่าจะใช้ชีวิตหนุ่มวัยรุ่นไม่คุ้ม

     

    ภาพของผู้ชาย และพี่ชายที่แสนดีเลยถูกพับเก็บลงไปชั่วคราวเมื่อมาใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษ แน่นอนว่าเขาลองทุกอย่าง

     

     

     

    เขาเป็นนักปาร์ตี้ตัวยง

     

     

    เหล้า

     

     

     

     

     

    บุหรี่

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    หรือ เซ็กส์

     

     

     

                แต่ถึงกระนั้นไคก็ยังคว้าเกียรตินิยมกลับบ้านได้อยู่ดี ถึงจะแค่อันดับสองก็เถอะ เหตุผลที่ตัดสินใจจบความสัมพันธ์กับคริสตัล ก็เพราะเจ้าหล่อนทำตัวติดไคยิ่งกว่าอะไรดี แถมยังขี้วีนเป็นที่หนึ่ง ครั้งนึงเธอเคยไปโวยวายขณะที่ไคกำลังช่วยรุ่นพี่ทำโปรเจคโดยไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหน ร้ายร้อยเหตุผลจึงไหลรวมกลายเป็นคำว่าเลิก ถึงในตอนแรกคริสตัลจะไม่ยอมก็เถอะ แต่เมื่อไคยืนยันว่าจะจบเธอก็ไม่สามารถขัดอะไรได้

     

                “ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย ?! ทำไมนายไม่บอกฉัน ?!” หญิงสาวหน้าสวยแผดเสียงดังลั่นหอพัก

                “เธอพูดเบาๆได้มั้ย ห้องข้างๆเขาจะออกมาด่าเอานะ ถ้าพูดไม่ได้ก็ออกจากห้องฉันไปเลย” ขายาวก้าวไปยังกองกระเป๋าเดินทางมากมายที่ตัวเองยังจัดไม่เรียบร้อย

                “ก็ตัลตกใจนี่ ! นายจะกลับทำไมไม่บอก... นายไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ที่แล้วมาของเราเลยงั้นหรอไค” น้ำเสียงออดอ้อนถูกเปล่งออกมาอย่างรู้งาน มือเรียวสวยลูบไล้ไปตามสันกรามของผู้ชายผิวเข้มตรงหน้า

                “ขอโทษทีมันกระทันหันน่ะ” ไคตอบปัดไป มันไม่ได้กะทันหันอะไรเลยเพียงแต่เขาไม่คิดจะบอกคริสตัลก็เท่านั้น

                “เดี๋ยวนี้ฉันไม่มีสิทธิรู้เรื่องราวของนายคนแรกแล้วหรอ หืม ? ทั้งๆที่ฉันให้นาย ... ทุกอย่าง” ใบหน้าสวยยังคงไม่หยุดคลอเคลีย ริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกราคาแพงกระซิบแนบชิดใบหูหนา

                “พอเถอะ เรื่องของเราจบไปนานแล้ว” ไคเอ่ยปฏิเสธ พร้อมกับสะบัดตัวให้ออกห่าง

                “ไค ~ เรามาสร้างความทรงจำที่ดีกันก่อนที่นายจะกลับเกาหลีดีมั้ย ?” นิ้วเรียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของคนตรงหน้าออกทีละเม็ด จนเห็นกล้ามเนื้อแน่นที่อยู่ภายใน ก่อนจะเปลี่ยนมาปลดตะขอเดรสสีชมพูสดของตัวเอง

     

                ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลายดังเอื๊อก

     

     

     

                เขาห่างหายจากเรื่องพรรค์นี้ไปนาน ตั้งแต่เลิกกับหญิงสาวตรงหน้า เพราะเอาเวลามาใส่ใจการเรียนปั่นตัวเองให้ได้เกียรตินิยม

     

     

                คริสตัลรู้ดีว่าเธอมาถูกทางแล้ว แขนเรียวโอบรอบคออีกคนอย่างถือวิสาสะ ริมฝีปากสีสดประกบลงไปบนริมฝีปากหนา ไฟในกายชายหนุ่มลุกโชนอย่างห้ามไม่อยู่ สองร่างส่งลิ้นดุนดันกันอย่างเร่าร้อน เสื้อผ้าหลุดลุ่ยจนไม่เหลือซักชิ้นตั้งแต่ก่อนถึงประตูห้องนอน

     

     

     

     

                ก่อนจะตามด้วยเสียงครางแห่งความเสียวกระสันดังลั่นทั้งคืน

     

     

     

     

     

     

     

     

                ไคดึงตัวเองขึ้นจากที่นอนเมื่อนาฬิกาปลุกบอกเวลาตามที่เขาตั้งไว้ สายตาคมเหลือบไปมองหญิงสาวที่มีรูปร่างหน้าตาดึงดูดใจผู้ชายทุกคน พร้อมกับยกยิ้มมุมปาก

     

                หญิงสาวที่ครวญครางเรียกร้องร่างกายของเขาตลอดทั้งคืน

     

     

     

     

                และเขาก็ตอบสนองไปอย่างดีเยี่ยมด้วยเช่นกัน

     

     

     

     

     

                สองมือเตรียมลากกระเป๋าออกจากห้องเพื่อตรงไปที่สนามบิน พร้อมพาทั้งตัวและหัวใจกลับไปบ้านเกิด ก่อนจะนึกขึ้นได้ถึงสิ่งที่ควรทำ มือใหญ่หยิบปากกากับกระดาษโพสท์อิทขึ้นมาเขียนข้อความขยุกขยิกลงไป

     

     

                ฝากคืนกุญแจห้องด้วยนะ

                ขอบคุณสำหรับเมื่อคืน

                                        ไค

     

                ริมฝีปากปรากฏรอยยิ้มร้าย ก่อนจะก้าวเดินออกจากห้องไป เขาใช้ชีวิตมีสาระบ้าง ไร้สาระบ้างที่นี่มานานเกินไปแล้ว ถึงเวลาที่ต้องกลับไปทำอะไรจริงๆจังเสียที มือหนาหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาก่อนจะเปิดออก

     

                รูปเด็กแฝดทั้งสองคน

     

     

                คนหนึ่งยิ้มร่าเริง

     

     

                อีกคนร้องไห้งอแง

     

     

     

     

     

              “พี่ไคกำลังกลับไปหาแล้วนะครับ”

     

     

    ______________________________________________________

    ฮือคืออะไร มีคนเข้ามาอ่านแต่ไม่มีคนเม้นเลย 
    ไรท์เตอร์จะร้องไห้ T____T

    คอมเม้นท์ให้ไรท์เตอร์ได้รู้บ้างว่ารีดเดอร์คิดยังไง 
    มันเป็นกำลังใจสำคัญที่จะทำให้ไรท์เตอร์มาอัพตอนต่อไปนะคะ 

    ไหนๆก็อ่านกันแล้ว คอมเม้นท์ซักนิดค่ะ พลีส
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×